ข้อดีของการเป็นนายหญิงแห่ง west sands คือมีเงินใช้ไม่ขาดมือ กินนอนอยู่สบายไม่ต้องทำงาน และที่สำคัญที่สุด เขาปกป้องเธอจากทุกสิ่ง... "ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าพี่ยังอยู่ตรงนี้ แพรจะปลอดภัย"
รัก,ดราม่า,ชาย-หญิง,มาเฟีย,โรมานซ์,แก้แค้น,พยาบาล,คลั่งรัก,พระเอกกินเด็ก,พระเอกสายเปย์,คลั่งรักขั้นสุด,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
นายใหญ่หวงเด็กข้อดีของการเป็นนายหญิงแห่ง west sands คือมีเงินใช้ไม่ขาดมือ กินนอนอยู่สบายไม่ต้องทำงาน และที่สำคัญที่สุด เขาปกป้องเธอจากทุกสิ่ง... "ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าพี่ยังอยู่ตรงนี้ แพรจะปลอดภัย"
ฟินิกซ์ อิลิแกนซ์ อายุ 28 ปี นายใหญ่แห่ง west sands เจ้าของธุรกิจร้านทอง และอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ปล่อยเช่าตึก บ้านโครงการ และตลาดสดขนาดใหญ่หลายสาขา
เขาเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างสุขุม ภายนอกดูใจดีมากๆ แต่ลึกๆ เขาเองเป็นคนเด็ดขาด และถ้าใครทำตัวขวางโลก เขาไม่เคยไว้หน้าทั้งนั้น
"ทำไมมีรอยช้ำ ไปทำอะไรมา ใครทำอะไรให้หรือเปล่า"
"มะ...ไม่มีค่ะ แพรเดินชนประตูค่ะ"
"งั้นเหรอ..."
ลูกแพร แพรวรินทร์ สังวาลย์วิทยา อายุ 24 ปี เธอเรียนจบพยาบาล และก็เข้าทำงานทันที เพราะว่าเป็นเด็กที่เรียนเก่ง และตอนนี้ต้องใช้ทุนให้กับมหาวิทยาลัย เธอจึงได้รับหน้าที่มาดูแลคุณท่านให้กับนายใหญ่แห่ง west sands เพราะว่าทางโรงพยาบาลเป็นคนส่งมา เนื่องจากเขาเป็นผู้สนับสนุนงบประมาณในทุกปี
ชีวิตแสนจะเพอร์เฟค แต่เบื้องลึกเบื้องหลังของครอบครัวเธอก็คือ...
"ฉันเลี้ยงแกกับแม่มาหลายสิบปี มีทุกวันนี้ได้ก็เพราะฉัน ไม่คิดจะตอบแทนกันหน่อยหรือไง"
...
"แม่จะทนทำไมคะ เขาทุบตีแม่ทุกวันเลยเราออกไปจากที่นี่เถอะค่ะ"
"ลูกออกไปเถอะแม่ไปไม่ได้ เราใช้เงินเขามาตลอดหลายปี ที่หนูเรียนจบได้ก็เพราะว่าเป็นเงินที่คุณลุงเขาส่งเสียเลี้ยงดู ถ้าแม่หนีหนูก็จะเป็นอันตราย เข้าใจใช่ไหมลูก"
"แต่ว่า..."
"แม่ทนได้ แต่แพรอย่ากลับมาเลยนะ แม่ไม่อยากให้หนูโดนเขาตี"
นิยาย Set นายใหญ่
มีทั้งหมด 5 เรื่องค่ะ เรียงลำดับไล่กันไป
1. นายใหญ่เลี้ยงเด็ก [Mafia west valor] ลูอีส & เวียงพิงค์ (จบแล้ว)
2. นายใหญ่หวงเด็ก [Mafia west sands] ฟินิกซ์ & แพรวรินทร์ (อัพอยู่)
3. นายใหญ่ล่ามเด็ก [Mafia allergan] คริสโตเฟอร์ & ทิวา (รออัพ)
4. นายใหญ่หลงเด็ก [Mafia Veronica] ลูคัส & ไอรดา (รออัพ)
5. นายใหญ่ซ่อนเด็ก [Mafia Pandorica] ไมลส์ & ใบพัด (รออัพ)
นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหารุนแรง ⚠️
มีการกระทำความรุนแรงต่อร่างกาย และจิตใจ
ถ้าไม่ถูกจริตเลื่อนผ่านเรื่องนี้ได้เลยค่ะ
เป็นจินตนาการของผู้แต่งไม่พาดพิงเป็นบุคคลภายนอก
อ่านนิยายเพื่อความสนุกสนาน ตัวละครทุกตัวมีบทลงโทษในการกระทำของตัวเอง
และห้ามนำไปคัดลอกหรือดัดแปลงเด็ดขาด
หากผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้
ขอบคุณสำหรับการติดตาม และเพื่อไม่ให้พลาดการแจ้งเตือนนิยายใหม่ กดติดตามนามปากกาในเพจได้เลยนะคะ
นามปากกามีอยู่ 3 นามปากกาค่ะ
fortune_28 / พสุมันตรา / ไรท์ ฟอร์จูน
"ฉันเจ็บจ้ะพี่ โอ๊ย...!"
เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นจากบ้านหลังใหญ่ แพรวรินทร์ที่กำลังอ่านหนังสือสอบ ได้ยินเสียงทะเลาะเบาะแว้งดังมาจากชั้นล่าง จึงรีบวางทุกอย่างลงบนโต๊ะหนังสือ จากนั้นก็รีบวิ่งลงมาเพราะสถานการณ์อันคุ้นเคย ที่เธอพบเจอมาตลอดหลายปีมานี้ ก็คือการที่ต้องทนเห็นคุณแม่ของตัวเอง ถูกทุบตีร่างกาย ตบตีสารพัดแต่เธอที่เป็นลูกไม่เคยช่วยอะไรได้เลยแม้สักครั้งเดียว
"เจ็บสิดี มึงจะได้รู้ว่าไม่ควรมาขึ้นเสียงใส่กู ทุกวันนี้มึงกับลูกใช้เงินกูรู้ใช่ไหม คิดที่จะหือกับกู ก็ต้องมีปัญญาดูแลตัวเอง"
พูดไปก็ใช้ฝ่ามือทุบตีภรรยาจนช้ำไปแทบทั้งตัว แพรวรินทร์ที่เดินลงมาชั้นล่าง เห็นสภาพของคุณแม่นั่งอยู่ที่พื้น ก็เบิกตากว้างอย่างตกใจ ก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปประคองท่านไว้
"แม่จ๋าเป็นอะไรไหม"
"สั่งสอนแม่มึงบ้างนะ ว่าไม่ควรมาชวนกูทะเลาะ ไม่อย่างนั้นกูจะไล่พวกมึงสองคนออกไปจากบ้าน แล้วมึงรู้ใช่ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้น"
ลุงพลพลเป็นสามีใหม่ของคุณแม่ หรือเรียกว่าเป็นพ่อเลี้ยงของเธอนั่นเอง เราสองคนมาอาศัยอยู่กับเขาได้หลายปีแล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมคุณแม่ถึงตัดสินใจแบบนั้น แต่ทว่าครั้งแรกที่เจอกัน ลุงพลพลเป็นคนสุภาพ อ่อนโยน พูดจาไพเราะ ไม่ได้เป็นคนเกรี้ยวกราด และใช้ความรุนแรงแบบนี้มาก่อน ซึ่งไม่รู้ว่าเขาเริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่ตอนไหน หรือว่าจริงๆ แล้วมันเป็นกมลสันดาน เพียงแค่ว่าไม่เผยธาตุแท้ออกมาในตอนที่เจอกันครั้งแรก
"ทำไมลุงต้องตบตีแม่ขนาดนี้ด้วยคะ ต้องทำขนาดนี้เลยเหรอ"
"อ๋อ... มึงอยากโดนด้วยสินะ"
ลุงพลพลขยับตัวเดินเข้ามาก่อนจะฟาดมือลงไปยังแผ่นหลังของลูกเลี้ยง ใบหน้าของเขาในตอนนี้แดงก่ำด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ ถ้าเกิดว่าไม่เมาก็จะมีสภาพเหมือนคนปกติ แต่พอเหล้าเข้าปากก็แปรเปลี่ยนเป็นใครก็ไม่รู้
"โอ๊ย...!"
"แพร...!"
พิมพ์เห็นลูกสาวถูกตีก็เบิกตากว้างอย่างตกใจ รีบขยับตัวเข้าไปสวมกอดลูกสาว ปกป้องอย่างไม่คิดชีวิต เธอเองพาลูกมาลำบากอยู่ที่นี่ ถึงแม้ว่าจะมีเงินใช้อย่างสุขสบาย แต่ลูกไม่เคยมีความสุขเลยสักวัน เธอพยายามให้ลูกไปอยู่หอพักข้างนอก ให้ใช้ชีวิตเหมือนเด็กปกติไม่ต้องมาทนเห็นภาพแบบนี้ แต่เธอเองก็ไม่ยอม เพราะอยากจะปกป้องคนเป็นแม่
ตั้งแต่เกิดมาเธอไม่เคยทำงานด้วยตัวเองเลยสักครั้ง ตอนอยู่กับสามีเก่าเขาก็เลี้ยงดูมาอย่างดี แต่พอมารู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นเมียคนที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ ถูกเมียหลวงเขาไล่ตบตีทั้งที่เธอไม่รู้เรื่องอะไรด้วยซ้ำ โชคดีที่มาเจอคุณพลพล เขาทำให้เธอหลุดพ้นจากการถูกรังแกของเมียหลวง
แต่ท้ายที่สุดก็เหมือนหนีเสือปะจระเข้ โดยปกติคุณพลพลเป็นคนที่ใจดีมาก เขาให้เงินใช้ไม่ขาดมือ ส่งเสียลูกสาวของเธอเรียนโรงเรียนที่ดี จนตอนนี้จะเรียนจบพยาบาลแล้ว แต่ดูเหมือนว่าแพรวรินทร์ไม่อยากที่จะรบกวนเขามาก ถึงไปขอทุนการศึกษา และด้วยความที่เรียนเก่งจึงได้มาไม่ยาก
"อย่าตีลูกเลยค่ะ ฮึก...!"
"แม่คะออกไปเดี๋ยวนี้ จะไม่ไหวแล้วนะ"
แพรวรินทร์ร้องไห้ออกมาน้ำตานองหน้า เธอเองเจ็บปวดทุกครั้งที่ต้องเห็นคนเป็นแม่ถูกทุบตี การใช้กำลังในครอบครัวเป็นเรื่องที่รุนแรงมาก เธอพยายามที่จะดึงคุณแม่ออกมาหลายครั้ง แต่ทว่าคุณพลพลเขาเป็นคนที่หวงคุณแม่มากๆ แต่ถ้าท่านดื้อดึงอยากจะออกไปจากชีวิตเขา ก็จะถูกตามตัวกลับมาและจับขัง สิ่งที่คุณแม่เจอเธอเองก็คงจะมีส่วน เพราะถ้าเกิดว่าท่านไม่มีเธอ ก็คงจะไม่ต้องอดทนถึงขนาดนี้
"ฮึก...!"
"อย่ามาทำเก่งกับกูนะพวกมึง ไม่งั้นจะโดนอีก"
พูดจบเขาก็เตะรองเท้าที่พื้นใส่กำแพง จากนั้นก็เดินโซเซขึ้นไปชั้นบน แพรวรินทร์สวมกอดคุณแม่เอาไว้แน่น เธอรู้สึกสงสารท่านมาก และไม่เข้าใจเหตุผลที่ต้องอดทนมากมายขนาดนี้
"แม่คะ... ออกไปเถอะนะคะอย่าทนเลย"
คุณแม่ของเธอยื่นมือไปเช็ดน้ำตาให้ลูกสาว มือไม้สั่นไปหมด เธออยากให้ลูกออกไปจากที่นี่ ไปอยู่ที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น แต่ไม่ใช่ที่บ้านแห่งนี้
"พรุ่งนี้หนูย้ายออกไปอยู่ข้างนอกนะ แม่จะเอาเงินให้ไปเช่าคอนโดอยู่ จะอยู่ที่ไหนก็ได้"
"พรุ่งนี้หนูสอบวันสุดท้ายก็จะเรียนจบแล้ว จะได้ทำงานที่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง หนูสามารถดูแลแม่ได้นะคะ เราหนีไปด้วยกันไหม"
"ไม่ได้หรอก คุณพลพลเขามีบุญคุณกับเรา แม่ต้องดูแลเขาเพราะว่าเขาไม่มีใคร พรุ่งนี้เขาก็เป็นคนเดิมเมื่อสร่างเมา หนูก็รู้ว่าถ้าเขาไม่ดื่ม เขาเป็นคนดีคนหนึ่งเลยนะ ให้เงินเราใช้ดูแลอย่างดี แม่อยากจะตอบแทนเขา"
แพรวรินทร์ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ เธอไม่เคยคิดเลยว่าคนเป็นแม่จะมีความคิดที่ซื่อสัตย์กับเขามากขนาดนี้ ทั้งที่ถูกกระทำมาโดยตลอด ถึงแม้ว่าตอนที่ไม่เมาจะเป็นคนดีคนหนึ่ง และก็ปฏิเสธไม่ได้อีก ว่าเขาให้เงินเธอใช้ไม่ขาดมือ ส่งเสียให้เรียนในสถานที่ดีๆ ถึงแม้ว่าช่วงหลังเธอจะใช้ทุนของโรงพยาบาล แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเงินที่ไปโรงเรียนทุกวันก็เป็นของเขา
"แม่รู้ไหมคะกำลังเอาตัวเองอยู่กับอันตราย"
"ท้ายที่สุดแม่ก็เป็นคนเลือกเอง แต่หนูมีทางเลือกมากกว่าแม่นะ ไปใช้ชีวิตให้มีความสุข ไม่ต้องห่วงแม่"
"แม่รู้ไหมคะว่าหนูเกลียดพ่อมากๆ เกลียดมากกว่าลุงพลพลอีก"
หญิงสาวเอ่ยออกมาน้ำตาคลอเบ้า เธอเคยเจอคุณพ่อตอนเด็ก ท่านไม่ได้อยู่ด้วยกันกับคุณแม่ ให้เหตุผลว่าทำงานไม่ค่อยมีเวลามาหา ให้เงินใช้จนวันหนึ่งความลับแตก เมียหลวงจับได้ว่าเขาซุกบ้านน้อย แทนที่จะสารภาพว่าตัวเองผิด อย่างน้อยก็ต้องแก้ตัวว่าแม่ไม่รู้เรื่อง เขากลับเงียบแล้วปล่อยให้ภรรยามาก่อความวุ่นวายกับคุณแม่ จนต้องหนีหัวซุกหัวซุน คงเพราะความประทับใจแรกที่ลุงพลพลปกป้องแม่จากเรื่องเลวร้าย จึงทำให้ท่านอดทนอยู่ทั้งที่เวลาเมาแล้วชอบทำร้ายร่างกาย แต่เธอเกลียดผู้ชายอีกคนมากกว่า หลังจากที่ภรรยาจับได้ก็ไม่เคยมารับผิดชอบกับสิ่งที่ตัวเองทำไว้เลย
"อย่าไปเกลียดเขาเลยหนูจะเป็นบาปเสียเปล่า เรื่องมันก็ผ่านมานานแล้ว เขาเองก็ได้รับบทเรียนแล้ว ลูกกับภรรยาหลวงก็เสียชีวิตตั้งแต่อายุยังเด็ก ตอนนี้ก็ไม่มีทายาทสืบสกุล เขาคงได้รับบทเรียนอย่างสาสมแล้วล่ะ"
"ทำไมเราสองคนถึงต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วยคะแม่ หนีเสือปะจระเข้ ชีวิตจะไม่เจอเรื่องดีๆ เลยเหรอ"
"ไม่ต้องคิดมากนะลูก หนูเป็นเด็กดีต้องได้เจอสิ่งดีๆ สักวัน"
บทที่ 1 รับงาน
แพรวรินทร์พาคุณแม่ไปพักผ่อนที่ห้องนอนอีกฝั่ง เธอประคองให้ท่านนั่งลงบนเตียง จากนั้นก็เดินออกไปหยิบกล่องปฐมพยาบาล และก็ทำแผลให้ท่านเป็นบางจุดในเบื้องต้น พิมประภายื่นมือไปลูบแก้มลูกสาวอย่างรู้สึกผิด ทำให้ลูกมีปมด้อยกับชีวิตในแต่ละวัน และพรุ่งนี้เธอจะทำทุกวิธี เพราะอยากให้ลูกออกไปจากจุดนี้
"พรุ่งนี้หนูเก็บของออกไปอยู่ข้างนอกเลยนะ"
"แต่หนูเป็นห่วงแม่ค่ะ ไม่อยากไปอยู่ที่อื่น"
แพรวรินทร์เอ่ยออกมาน้ำตาคลอเบ้า จะให้เธอทอดทิ้งท่านได้ยังไง คนเป็นลูกสาวมีเงินได้ร่ำเรียนตามที่คาดหวัง ใช้ชีวิตเป็นคนปกติในขณะที่คนเป็นแม่ ต้องมารองรับอารมณ์ของผู้ชายที่ไม่ปกติ เหมือนคนเป็นโรคสองบุคลิก แต่ถ้าให้คาดเดาก็คงเป็นฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ที่ทำให้คนนิสัยเปลี่ยนไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ
"แม่ขอร้อง อยากให้หนูใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเหมือนคนอื่น ไม่ต้องห่วงแม่"
"แต่ว่า..."
"ไปนอนพักผ่อนได้แล้ว ช่วงนี้มีสอบไม่ใช่หรือไง เดี๋ยวแม่ทำแผลเอง แต่เมื่อกี้แม่เห็นหนูโดนคุณลุงตีด้วย เจ็บตรงไหนไหมแม่ขอดูหน่อย"
หญิงสาวรีบส่ายหน้าทันที เธอไม่อยากให้ท่านรู้สึกแย่ไปมากกว่านี้อีก จึงทำเป็นเหมือนว่าเธอไม่ได้รู้สึกเจ็บหรือเป็นอะไรมาก ทั้งที่เธอโดนเมื่อกี้รุนแรงมากสำหรับผู้หญิงตัวเล็กๆ
"หนูไม่เป็นอะไรค่ะ คุณลุงเขาไม่ได้ตีแรง แม่นอนพักนะเดี๋ยวหนูไปอ่านหนังสือต่อ"
"จ้ะลูกไปเถอะ"
แพรวรินทร์ปาดน้ำตาก่อนจะส่งยิ้มให้ท่าน และรีบเดินออกไปจากตรงนั้นทันที เธอไม่รู้ว่าจะช่วยคุณแม่ยังไง เพราะทุกสิ่งท่านเป็นคนเลือกที่จะอยู่ตรงนี้ทั้งนั้น ไม่ว่าคุณเป็นลูกจะขอร้องอ้อนวอนให้ตาย ท่านก็ไม่ยอมที่จะออกไปจากจุดนี้ และเหตุผลที่ท่านเลือกคงเป็นเพราะเธอมีส่วนแน่นอน
เหมือนกับว่าเธอกำลังมีความสุขสบาย แต่คนเป็นแม่ต้องอดทนรองรับอารมณ์ ขอให้เธอที่เป็นลูกได้มีเงินใช้
"แพรจะช่วยแม่ยังไงดี... ฮึก!"
เช้าวันต่อมา...
แพรวรินทร์ในชุดพยาบาลเดินลงมาจากชั้นบน ใบหน้ามีรอยช้ำ เนื่องจากเมื่อคืนเธอแอบร้องไห้เพราะสงสารคุณแม่ และเมื่อเดินมาถึงชั้นล่าง ก็ได้ยินเสียงคุณลุงพลพลกับคุณแม่ คุยกันอยู่ในห้องครัว ตอนนี้พิมประภากำลังทำอาหารเช้าให้ลูกและสามี ส่วนลุงพลพล ที่ดูเหมือนว่าจะสร่างเมาก็กลับกลายเป็นผู้เป็นคน พูดจาดีอ่อนโยนกับคุณแม่เธอเสียอย่างนั้น
"เดี๋ยววันนี้พี่จะพาพิมไปช้อปปิ้งนะ อยากได้อะไรไหม จะซื้อรถให้ลูกไม่ใช่เหรอจะแวะไปดูหรือเปล่า"
"ไม่รู้ว่าแพรจะอยากได้หรือเปล่าค่ะ อาจจะต้องคุยดูอีกทีหนึ่ง ถ้าซื้อมาแล้วลูกไม่อยากได้จะแย่เอา"
"พิมก็พาลูกไปด้วยสิ"
แพรวรินทร์ปรับสีหน้าให้เป็นปกติ เดินเข้าไปทักทายทั้งสองคนก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย
"อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณลุง คุณแม่"
"หนูแพรจะไปทำงานแล้วเหรอ กินข้าวก่อนสิคุณแม่ตื่นมาทำให้ตั้งแต่เช้าเลย"
"ค่ะ แพรมีเรื่องจะคุยกับคุณลุงด้วยนะคะ"
"ได้สิ เดี๋ยวไปคุยกันที่โต๊ะอาหารก็ได้ หนูแพรไปนั่งรอที่โต๊ะเลย เดี๋ยวลุงกับแม่เอากับข้าวไปให้"
เธอมองหน้าคุณแม่ซึ่งท่านพยักหน้าให้เธอไปรอที่ห้องอาหาร ลูกสาวยอมทำตามอย่างว่าง่าย เดินออกไปจากตรงนั้นนั่งรอในห้องอาหาร แต่ไม่นานทั้งสองคนก็เดินเข้ามา พร้อมกับถาดกับข้าวในจานหลายอย่าง
ตลอดการนั่งรับประทานอาหาร คุณลุงพลพลก็ตักกับข้าวให้คุณแม่อย่างเอาอกเอาใจ คงเพราะสร่างเมา และเริ่มรู้ตัวว่าเมื่อคืนเผลอลงไม้ลงมือกับคุณแม่ เช้านี้เขาจึงดูทำตัวดีเป็นพิเศษ
"แล้วหนูแพรจะคุยอะไรกับลุงเหรอ"
"วันนี้แพรจะฝึกงานเสร็จแล้วค่ะ จะต้องได้ทำงานต่อเลยทางโรงพยาบาลรับเข้าทำงานแล้วค่ะ อาจจะต้องย้ายออกไปอยู่ข้างนอก ก็เลยบอกคุณลุงไว้ก่อน"
"อย่างนี้นี่เอง แล้วจะไปอยู่ที่ไหนล่ะ หรือว่าหนูแพรอยากจะอยู่คอนโด เดี๋ยวลุงกับแม่ไปดูให้"
"ไม่เป็นไรค่ะ ที่โรงพยาบาลเขามีหอพักให้ แพรไม่รบกวนดีกว่าค่ะ แต่ว่าอยากจะให้คุณลุงดูแลคุณแม่แทนแพร คุณลุงรับปากได้ไหมคะ ว่าจะดูแลคุณแม่อย่างดีที่สุด"
เธอเอ่ยขอร้องอ้อนวอนให้คุณลุงพลพลดูแลคุณแม่เธอให้ดีกว่านี้ ถ้าเขาไม่ไปดื่มแอลกอฮอล์ ไม่มีทางที่จะทำร้ายจิตใจคุณแม่ของเธอเด็ดขาด ท่านพยักหน้าตกลงเพื่อให้ลูกเลี้ยงสบายใจ คนนี้เขารักคุณแม่มาก และที่ไม่ยอมมีแฟนหรือออกไปอยู่ที่อื่น ก็คงเพราะว่าเป็นห่วงแม่มาก
"ลุงสัญญาว่าจะดูแลแม่ให้ดี แพรไปทำงานเถอะตั้งใจนะ ขาดเหลืออะไรก็บอก"
"ค่ะคุณลุง แม่ดูแลตัวเองด้วยนะคะ"
"จ้ะลูก แม่จะโทรหาทุกวันเลยนะ"
"ค่ะ"
หลังจากวันนั้น แพรวรินทร์ก็ได้เข้าไปทำงานตามที่ตัวเองหวังไว้ เธอเป็นนักเรียนทุนของทางโรงพยาบาล เรียนจบก็ต้องเข้ามาทำงานเพื่อใช้หนี้ทุน แต่ก็ยังคงได้เงินเดือนเท่าคนอื่น เพียงแต่ว่าไม่สามารถย้ายไปทำงานที่ไหนได้ และในสัญญาระบุไว้ว่าเธอต้องทำงานที่นี่ห้าปี แต่สามารถย้ายออกไปได้จนกว่าจะมีเงินมาคืนตามที่สัญญาระบุ แต่เธอคิดว่าที่นี่เงินดีที่สุดคงไม่ย้ายไปไหนหรอก
"แพรจ๊ะ อาจารย์หมอเรียกให้ไปพบน่ะ เห็นว่ามีเรื่องจะคุยด้วย"
แพรวรินทร์ในชุดพยาบาลกำลังถือชาร์ตของคุณหมออยู่ และเมื่อได้ยินรุ่นพี่บอกแบบนั้น ก็เอาของไปเก็บไว้ให้คุณหมอที่โต๊ะ จากนั้นก็รีบเดินไปหาอาจารย์หมอที่ห้องพักในทันที
หญิงสาวเคาะประตูเพื่อส่งสัญญาณให้คนข้างใน และเมื่อได้ยินเสียงการอนุญาตจากอาจารย์หมอ ก็ค่อยๆ บิดลูกบิดประตูเข้าไปข้างใน
"สวัสดีค่ะอาจารย์หมอ เห็นรุ่นพี่บอกว่ามีเรื่องจะคุยกับหนู"
"นั่งก่อนสิแพร"
แพรวรินทร์ขยับตัวเข้าไปนั่งที่เก้าอี้ ที่อยู่ตรงหน้าโต๊ะของอาจารย์หมอ จากนั้นก็ได้รับแฟ้มเอกสารที่เขายื่นส่งมาให้ เธอลองเปิดดูก่อนจะนิ่งเงียบเพราะในเอกสารใบนั้น คือข้อมูลคนไข้ซึ่งเป็นมาเฟียที่ทุกคนรู้จักดี เธอไม่ค่อยอยากจะไปยุ่งกับพวกเขาเลย เพราะเราไม่รู้ว่าใครมีนิสัยเป็นยังไง และถ้าให้เธอคาดเดามีโอกาสที่จะต้องได้ไปดูแลเขา
"คนนี้คือคุณไฮดรา ท่านเป็นคุณพ่อของนายใหญ่แห่ง west sands คุณฟินิกซ์เป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ของทางโรงพยาบาล ตอนนี้คุณท่านเพิ่งฟื้นจากการผ่าตัด ลูกชายเขาต้องการได้พยาบาลไปดูแลคุณพ่อ และที่เขาระบุมาอาจารย์ว่าแพรเหมาะสมที่สุด"
"แพรต้องไปอยู่ที่บ้านเขาเหรอคะ"
"ใช่... แต่ไม่ต้องห่วงหรอก ตระกูล west sands เขาเป็นคนจิตใจดี ยิ่งนายใหญ่เขาเป็นผู้ชายที่ดีคนหนึ่งเลย ไม่ได้ดิบเถื่อนเหมือนมาเฟียคนอื่นที่เคยได้ยินมา และแพรอยู่ได้สบายมาก ตกลงรับงานนี้นะ คุณฟินิกซ์เขามีเงินพิเศษให้ด้วย เดือนละหนึ่งแสนบาท"
เมื่อเห็นตัวเงินหญิงสาวก็ตาโตก่อนจะรีบตอบรับทันที เงินตั้งหนึ่งแสนบาทใครบ้างจะปฏิเสธ
"รับค่ะ เงินเยอะขนาดนี้ใครไม่เอาบ้าง"
"ไม่ต้องห่วงเงินที่โรงพยาบาลยังได้เหมือนเดิม เพราะว่าการที่แพรไปดูแลคุณท่าน ก็เท่ากับว่าทำงานเหมือนกัน แพรจะอยู่ที่นั่นนานเท่าไหร่ก็อยู่ที่ทางนั้น ถ้าคุณท่านหายเร็ว และไม่ต้องการพยาบาลคอยดูแล ถึงตอนนั้นก็กลับมาทำงานที่โรงพยาบาลเหมือนเดิม"
"ตกลงค่ะ แพรรับงานนี้ค่ะ"