เด็กชายกล้าหาญต้องจบชีวิตลงเพราะคำนาย แต่จู่ ๆ เขาต้องฟื้นคืนชีพในฐานะคนใหม่ทั้งที่จำเรื่องราวทั้งหมดได้ ทุกคนจะยังคงโกหกเขาคนนี้ต่อไปอีกนานแค่ไหน

สิงหดาบ - ตอนที่ ๖ ป่ามนต์ทัช โดย ปิ่นไทวา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,สืบสวนสอบสวน,รัก,ตลก,ลึกลับ,หญิง-หญิง,ชาย-หญิง,ชาย-ชาย,สืบสวนสอบสวน,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

สิงหดาบ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,สืบสวนสอบสวน,รัก,ตลก,ลึกลับ

แท็คที่เกี่ยวข้อง

หญิง-หญิง,ชาย-หญิง,ชาย-ชาย,สืบสวนสอบสวน,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส

รายละเอียด

สิงหดาบ โดย ปิ่นไทวา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เด็กชายกล้าหาญต้องจบชีวิตลงเพราะคำนาย แต่จู่ ๆ เขาต้องฟื้นคืนชีพในฐานะคนใหม่ทั้งที่จำเรื่องราวทั้งหมดได้ ทุกคนจะยังคงโกหกเขาคนนี้ต่อไปอีกนานแค่ไหน

ผู้แต่ง

ปิ่นไทวา

เรื่องย่อ

สิงหดาบ ย่อมาจากสิง (โต) หักดาบ

สิงโตแทนบุคคลสำคัญ หักดาบแทนการสละเลือดเนื้อ

ใครกันนะคือสีหราช... เหตุอันใดสีหราชต้องสิ้นชีพลงเพื่อทุกคน 

ทุก ๆ อย่างมันเกิดขึ้นด้วยเพียงคำทำนายจากสรวงสวรรค์ส่งสารไปยังทุกคน

เขาคนนั้นมีความลับคือ อนาคตที่ลับแล อนาคตที่แม้แต่เครื่องฉายจิรกาลยังตามมิทัน

ต่อจากไปนี้ โปรดระมัดระวังสิ่งรอบข้างให้มากที่สุด เพราะการทรยศ

ล้วนแปรพักตร์กันเมื่อใดก็ได้ อย่าได้ลืมเสียว่าตนเป็นใคร

มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวที่สุด

เพราะสมองอันล้ำค่า

 

นิยายเรื่องนี้เป็นนวนิยายแนวสืบสวน โรแมนติก ดราม่า แฟนตาซี และพีเรียดที่เป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียนเท่านั้น                 

เรื่องราวต่อไปนี้อาจมีเนื้อหาในเรื่องของประวัติศาสตร์ ซึ่งไม่ได้อ้างอิงจากประวัติศาสตร์ใด ๆ ทั้งสิ้น ผู้เขียนได้ทำการสร้างตัวละคร สถานการณ์ต่าง ๆ เพื่อดำเนินเรื่อง อาจมีเนื้อหาบางอย่างเกี่ยวกับวัฒนธรรม อาหาร อ้างอิงจากความจริง 

 

TW : ความสัมพันธ์ที่มีการทำร้าย/การใช้ความรุนแรง ไม่ว่าจะทางร่างกาย จิตใจ คำพูด ความรุนแรงในครอบครัว (พ่อแม่ของตัวเอก)

การทำแท้งโดยไม่ได้ตั้งใจ (เมียรองของพ่อของตัวเอก) 

การดูถูกเหยียดหยาม การทำร้าย ใช้ความรุนแรงทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ (ฝั่งตัวร้าย)

ยากระตุ้นความต้องการทางเพศ จำพวกยาเสน่ห์ใช้ภายในเรื่อง 

ปีศาจ การตัดแขนและขา กินเนื้อกินเลือดทั้งเผ่าพันธุ์เดียวกันและต่างเผ่าพันธุ์เดียวกัน (ฝั่งตัวร้าย)

โลกเหนือธรรมชาติ ฆาตกรรม เลือด ลักพาตัว การทำร้ายทางเพศ การล่วงละเมิดทางเพศ ข่มขืน(เป็นเรื่องราวจากปากต่อปาก ไม่มีการบรรยายฉากนี้แน่นอนเจ้าค่ะ) ค้ามนุษย์ บังคับเสพยาเสพติด ทารุณกรรมเด็ก อาการซึมเศร้า มีอาการประสาทหลอน ฆ่าตัวตาย การตัดหัวประหารชีวิต

การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ชื่นชอบการเห็นผู้อื่นเจ็บปวด 

คำหยาบคาย พูดจาส่อเสียด แบ่งแยกเชื้อชาติและสีผิว การเป็นทาส

 

แนะนำตัวละคร นายเอก

 

Cr. Zair or Twitter ของนักวาด : @pinkyxpsycho

ชื่อ : เสือ

อันดับครอบครัว : บุตรชายคนกลางของพ่อสิงห์และแม่มะลิ

ตำแหน่ง : คุณหลวงหน่วยสืบสวนภามณีดา ภาคกลาง 

ฉายา : พ่อเสือร้อยเมีย

ข้าต้องตามหาความจริงและความยุติธรรมให้พี่กล้าให้ได้

Cr. Twitter ของนักวาด : @seerdarker

พระเอก 

ชื่อ : เชิง

ตำแหน่ง : คุณหลวงหน่วยสืบสวนนภาราม จากภาคเหนือ

ฉายา : พ่อเชิงปากหมา

พี่ชายนายคือกุญแจสำคัญของคดีระดับชาติ

 

 

Cr. Twitter ของนักวาด : @Mikumee_

ชื่อ : กล้า

อันดับครอบครัว : บุตรชายคนโตของพ่อสิงห์และแม่มะลิ

สถานะ : สิ้นชีพแล้วเมื่ออายุครบ 15 ปีบริบูรณ์

ถึงเวลาของข้าแล้ว...

 

ชื่อ : มณี

อันดับครอบครัว : บุตรสาวคนเล็กของพ่อสิงห์และแม่มะลิ

ตำแหน่ง : หมื่นมณี สิงหดาบ หนึ่งในหน่วยสืบสวนลับ

ฉายา : แม่หญิงคนแกร่งแห่งหน่วยสืบสวน

 

ชื่อ : พวงทอง

อันดับครอบครัว : บุตรสาวคนโตของพ่อสิงห์และแม่สร้อย

ตำแหน่ง : พี่สาวคนโตของบ้าน แม่อีกคนของน้อง ๆ ทำหน้าที่คอยดูแลเรือนเป็นอย่างดี

ฉายา : แม่นม

อย่าดื้อนัก ข้าไม่ได้ดีใจเหมือนพวกแม่ ๆ ของเจ้า

 

ชื่อ : สิน

อันดับครอบครัว : บุตรชายคนเล็กของพ่อสิงห์และแม่สร้อย

ตำแหน่ง : เป็นลูกชายเอาแต่ใจอยู่บ้านเฉย ๆ ไม่ทำอะไร ทำตัวเป็นคุณชาย

นิสัย : ลูกแง เอาแต่ใจ เป็นคนหัวอ่อนต่อโลกค่อนข้างมากต่างจากพี่สาวของเขา มักโดนหลอกอยู๋บ่อย ๆ 

อย่ามาแตะต้องตัวข้า ข้าเป็นบุตรชายของบ้านสิงหดาบเชียวนะ

 

ชื่อ : เดื่อ 

อันดับครอบครัว : บุตรชายคนเดียวของพ่อสิงห์และบ่าวแพง

นิสัย : กล้าหาญและก้าวร้าวมาก ๆ เป็นคนกล้าได้กล้าเสีย อยากรู้อยากเห็น ติดเพื่อนมากที่สุดในบรรดาพี่น้อง จนกระทั่งได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ทำให้นิสัยของเขาเริ่มเปลี่ยนไป

ตำแหน่ง : ความลับ

แม่ข้าตายไปแล้ว ข้าเหลืออะไรบ้างไหม แม่ข้าเป็นเพียงแค่บ่าวรับใช้คนนึง

 

ชื่อ : สุข

อันดับครอบครัว : บุตรชายคนโตของพ่อสิงห์และแม่พิมพา (แฝดพี่)

นิสัย : หวาดระแวงกับทุกอย่างในชีวิตเพราะตั้งแต่เด็กโดนลักพาตัวมากกว่า 3 ครั้ง จนครั้งล่าสุดจัดเป็นคดีค้ามนุษย์ที่สุขเป็นเหยื่อคนแรกที่มีชีวิตรอดออกมาได้ ทำให้ปมครั้งนี้เขามีนิสัยกลัวการออกสังคม กลัวการเจอคนแปลกหน้า จึงถูกเลี้ยงให้อยู่แต่ในบ้าน บางครั้งแม่พวงทองสงสารจึงชวนไปทำกิจกรรมร่วมกันด้วย

ข้ากลัว...

 

ชื่อ : จันทร์

อันดับครอบครัว : บุตรสาวของรองของพ่อสิงห์และแม่พิมพา (แฝดน้อง)

นิสัย : ร้อนใจ เข้มแข็งทุก ๆ สถานการณ์ อิจฉาพี่น้องต่างแม่มากที่สุด

 

ชื่อ : นิ่มนวล

อันดับครอบครัว : บุตรสาวคนเล็กของพ่อสิงห์และแม่พิมพา

นิสัย : ใจดีมาก ๆ นิสัยต่างขั้วกับพี่สาวของเธออย่างแม่จันทร์เลย เป็นผู้หญิงที่มีความคิดสวยงาม อ่อนโยนและอ่อนต่อโลกด้วย 

 

ชื่อ : แย้ม 

อันดับครอบครัว : บุตรสาวคนโตของพ่อสิงห์และแม่เรไร

นิสัย : เอาแต่ใจ ค่อนข้างกัดจิกกับทุกคนในแม่ รวมถึงแม่ของตนเองด้วย เป็นคนรอบรู้เรื่องของชาวบ้านที่สุด

 

ชื่อ : บังอร

อันดับครอบครัว : บุตรสาวของรองของพ่อสิงห์และแม่เรไร

นิสัย : เป็นบุคคลที่โดนเลี้ยงมาโดยการตามใจมาโดยตลอด และยังมีใบหน้าสวยที่สุดในบรรดาพี่น้อง จึงทำให้มีความคิดหลงตัวสูง และคิดว่าตัวเองทำอะไรมักจะถูกต้องเสมอ

 

ชื่อ : เดช 

อันดับครอบครัว : บุตรชายคนเล็กของพ่อสิงห์และแม่เรไร

นิสัย : สู้สุดใจ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าเก่งแม้จะเคยโดนลักพาตัวไปครั้งเดียว ก็พยายามพาตัวเองออกจากปมให้ได้ นักว่าเป็นบุคคลที่เก่งด้วยตัวเองอีกคน มีนิสัยใจเย็นกว่าพี่น้องของแม่เรไรหมดเลย

 

ชื่อ : จ้อย

อันดับครอบครัว : กำพร้า เป็นเด็กวัดภาคเหนือ

นิสัย : มีความเห็นอกเห็นใจแต่ก็ยังมีบางมุมที่เป็นคนใจร้าย

ตำแหน่ง : ความลับ

 

ชื่อ : ชาญ

อันดับครอบครัว : บุตรชายคนโตของพ่อแม่คู่นึงจากภาคกลาง

นิสัย : นิ่งเงียบ แต่การตัดสินใจค่อนข้างฉลาดกันเลยทีเดียว

 

ลำดับพี่น้อง 

พ่อกล้า > พ่อเสือ > พ่อเดื่อ > แม่พวงทอง > แม่มณี > แม่แย้ม > พ่อสุข > แม่จันทร์ > พ่อสิน > แม่บังอร > แม่นิ่มนวล > พ่อเดช

 

คู่เอก เชิง - เสือ - ชาญ

คู่รอง กล้า - จ้อย , วีรดา - มณี

สารบัญ

สิงหดาบ-ตอนที่ ๑ คดีฆาตกรรมหมู่บ้านรัตติกาล,สิงหดาบ-ตอนที่ ๒ พระยาธารา,สิงหดาบ-ตอนที่ ๓ พ่อเสือแปรพักตร์,สิงหดาบ-ตอนที่ ๔ (๑/๒) ครอบครัวตระกูลสิงหดาบ,สิงหดาบ-ตอนที่ ๔ (๒/๒) ครอบครัวตระกูลสิงหดาบ,สิงหดาบ-ตอนที่ ๕ เชษฐวิรุฬห์ คุณหลวงชาญ...,สิงหดาบ-ตอนที่ ๖ ป่ามนต์ทัช,สิงหดาบ-ตอนที่ ๗ (๑/๒) เผ่ากินคน,สิงหดาบ-ตอนที่ ๗ (๒/๒) เผ่ากินคน,สิงหดาบ-ตอนที่ ๘ (๑/๒) บู้มบู้มตัวน้อยไม่สบาย,สิงหดาบ-ตอนที่ ๘ (๒/๒) บู้มบู้มตัวน้อยไม่สบาย,สิงหดาบ-ตอนที่ ๙ (๑/๒) อดีตตรีทิพย์ทิศ,สิงหดาบ-ตอนที่ ๙ (๒/๒) อดีตตรีทิพย์ทิศ,สิงหดาบ-ตอนที่ ๑๐ (๑/๒) กรกาณฑ์ อดีตตรีทิพย์ทิศปรากฎตัว,สิงหดาบ-ตอนที่ ๑๐ (๒/๒) กรกาณฑ์ อดีตตรีทิพย์ทิศปรากฎตัว,สิงหดาบ-ตอนที่ ๑๑ (๑/๒) ปีศาจโชนผู้ว่องไวลำดับที่สาม,สิงหดาบ-ตอนที่ ๑๑ (๒/๒) ปีศาจโชนผู้ว่องไวลำดับที่สาม,สิงหดาบ-ตอนที่ ๑๒ (๑/๒) สุสานยาพิษใต้น้ำลึก,สิงหดาบ-ตอนที่ ๑๒ (๒/๒) สุสานยาพิษใต้น้ำลึก,สิงหดาบ-ตอนที่ ๑๓ (๑/๒) ปีศาจปรุงยาพิษและยารักษาอย่างแก้วตา,สิงหดาบ-ตอนที่ ๑๓ (๒/๒) ปีศาจปรุงยาพิษและยารักษาอย่างแก้วตา,สิงหดาบ-ตอนที่ ๑๔ (๑/๒) พ่อกล้าตัวจริงปรากฎตัวแล้ว,สิงหดาบ-ตอนที่ ๑๔ (๒/๒) พ่อกล้าตัวจริงปรากฎตัวแล้ว,สิงหดาบ-ตอนที่ ๑๕ (๑/๒) ลูกกล้ากลับบ้านเถิด,สิงหดาบ-ตอนที่ ๑๕ (๒/๒) ลูกกล้ากลับบ้านเถิด,สิงหดาบ-ตอนที่ ๑๖ (๑/๒) ย้อนรอยอดีตของพ่อกล้า,สิงหดาบ-ตอนที่ ๑๖ (๒/๒) ย้อนรอยอดีตของพ่อกล้า,สิงหดาบ-ตอนที่ ๑๗ (๑/๒) ความฝันของเด็กชายจ้อย ,สิงหดาบ-ตอนที่ ๑๗ (๒/๒) ความฝันของเด็กชายจ้อย,สิงหดาบ-ตอนที่ ๑๘ (๑/๒) สายสัมพันธ์พี่น้องของลูกศิษย์เอก,สิงหดาบ-ตอนที่ ๑๘ (๒/๒) สายสัมพันธ์พี่น้องของลูกศิษย์เอก,สิงหดาบ-ตอนที่ ๑๙ (๑/๒) สายสัมพันธ์พี่น้องของลูกศิษย์เอก ๒,สิงหดาบ-ตอนที่ ๑๙ (๒/๒) สายสัมพันธ์พี่น้องของลูกศิษย์เอก ๒ ,สิงหดาบ-ตอนที่ ๒๐ (๑/๒) สายสัมพันธ์พี่น้องของลูกศิษย์เอก ๓,สิงหดาบ-ตอนที่ ๒๐ (๒/๒) สายสัมพันธ์พี่น้องของลูกศิษย์เอก ๓,สิงหดาบ-ตอนที่ ๒๑ (๑/๒) สายสัมพันธ์พี่น้องของลูกศิษย์เอก ๔,สิงหดาบ-ตอนที่ ๒๑ (๒/๒) สายสัมพันธ์พี่น้องของลูกศิษย์เอก ๔ ,สิงหดาบ-ตอนที่ ๒๒ (๑/๒) ความลับใด ๆ ก็ไม่อาจเก็บไว้ได้ตลอดกาล ,สิงหดาบ-ตอนที่ ๒๒ (๒/๒) ความลับใด ๆ ก็ไม่อาจเก็บไว้ได้ตลอดกาล ,สิงหดาบ-แจ้งข่าวสารครั้งที่ ๑ ...

เนื้อหา

ตอนที่ ๖ ป่ามนต์ทัช

"พี่เสือเจ้าคะ พี่เสือเจ้าคะ พี่เสือ!" เสียงเรียกชื่อหนุ่มชายที่นั่งเหม่อลอยคิดกระไรไปเรื่อยเปื่อยดังขึ้นตามระดับเสียงที่เปล่งออกมา

"กระไรฤๅแม่มณี" เสือรู้ตัวเมื่อน้องสาวเขาเรียกหาตนเลยถามกลับไป แววตาของเขายังคงหวั่นวิตก

"พี่เสือเป็นกระไรฤๅไม่เจ้าคะ ข้าเห็นพี่นั่งเหม่อมาตั้งแต่เช้า" น้องสาวอย่างแม่มณีผู้สังเกตอาการความผิดปกติของพี่ชายตนเองมาตั้งแต่เช้าเห็นว่ามันผิดนิสัยของพี่เสือเกินไปเลยเอ่ยถาม

"พี่เจอคนชื่อเหมือนพี่กล้า... เห้ออ พี่ไม่รู้จักอธิบายเช่นไรให้เจ้าฟังดี พี่แค่รู้ว่าคนคนนี้ช่างเหมือนพี่กล้าของเราเหลือเกิน" เสือพยายามอธิบายความรู้สึกในวันแรกที่ได้เจอคนชื่อว่ากล้าหาญ นาทีนั้นเป็นกระไรที่ช่างรู้สึกคุ้นเคยเสียจริง แต่มันก็ยังมีความหวาดระแวงภายในใจอยู่บ้าง พี่กล้าของเขาตายไปแล้วตั้ง ๑๐ ปี จู่ ๆ พี่กล้าในเรือนร่างสมกับเวลาที่ล่วงมาแล้ว ๑๐ ปีก็ปรากฏตัวขึ้นในวันนั้น มันช่างน่าสงสัยเหลือเกิน

"พี่กำลังจักบอกข้าว่าพี่กล้าของเรายังมีชีวิตอยู่ฤๅเจ้าคะ" มณีตอบกลับตามที่ตนเองเข้าใจจากประโยคเมื่อครู่นี้

"แต่จักเป็นไปได้เยี่ยงไรกัน" เสือเอ่ยถามกับตัวเองด้วยน้ำเสียงระคนสงสัย ภายในใจของเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยคำถามมากมาย

"จริงสิ ที่หมู่บ้านรัตติกาลเองก็เจอเรื่องแปลกประหลาดด้วยหนาเจ้าค่ะ" มณีนึกถึงเรื่องแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านรัตติกาลได้ก็พูดขึ้นมาทันที

"พี่สามเห็นคุณหลวงเชิงที่เกิดเหตุของคดีไม่นานนี้ด้วยเจ้าค่ะ แต่พอถูกพบเข้าก็รีบหนีไปเสียก่อน แล้วในที่เกิดเหตุมีคนเสียชีวิตถูกแยกส่วนอยู่บนภูเขาลูกใกล้ ๆ นี้เอง น้องรู้สึกว่ารูปแบบและลักษณะการฆาตกรรมเปลี่ยนไปนะเจ้าค่ะ" มณีพูดถึงรายละเอียดของคดีที่ตนรับผิดชอบก่อนจักพูดออกไปตามความรู้สึกของตนเอง

"เรื่องการฆาตกรรมเปลี่ยนไป ข้าเห็นด้วย แต่ไยคุณหลวงเชิงถึงโผล่มาที่เกิดเหตุ" เสือถามหาคนที่หายตัวไปครบหนึ่งปี จู่ ๆ ก็โผล่มาที่เกิดเหตุอย่างผิดวิสัย

"ป่ามนต์ทัช เป็นแหล่งรวมพวกภูต ผี ปีศาจ อาจจักมีผู้ใดตั้งใจปลอมตัวเป็นคุณหลวงเชิงฤๅไม่เจ้าคะ" มณีพูดออกไปด้วยความลังเลและสับสน ริมฝีปากของเธอเม้ม ๆ คลาย ๆ สลับไปมาด้วยความชั่งใจ เพราะตนเองไม่เคยพบเจอภูติ ผี ปีศาจเลยสักตน แต่ในป่ามนต์ทัชกลับมีเรื่องที่แสนน่ากลัวออกมาไม่เว้นวัน เขาลือกันหนาว่าชายใดที่แข็งแกร่งจักสามารถรอดพ้นการอยู่รอดในป่านี้ไปได้จนสามารถครอบครองมรดกของปีศาจร้ายได้ แน่นอนว่ามรดกที่ว่าเป็นเช่นไร ก็ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ความลับนั้น

"แต่เชิงหายตัวไป ๑ ปี และที่ผ่านมาพวกเรายังไม่สามารถตามตัวนายเชิงได้แม้แต่น้อย เหตุผลใดกันที่นายเชิงจักต้องหลบหน้าหลบตาพวกเราด้วย" เสือพูดออกด้วยความรำคาญใจและไม่เข้าใจกับการกระทำของคุณหลวงเชิงไม่น้อย

"ไว้คราวหน้า หากน้องเจอคุณเชิง น้องจักลองพยายามถามมาให้หนาเจ้าค่ะ" มณีพูดออกไปเพื่อให้พี่ชายตนเองสบายใจขึ้นหลังจากที่สังเกตอาการของพี่ชายมาสักพัก น้ำเสียงและท่าทางของพี่เสือค่อนข้างรำคาญใจลึก ๆ

 

ณ บ้านเรือนของพระยาทิวากร

"เจ้าว่าเยี่ยงไรนะ ไอ้เชิงมันยังไม่ได้ตายงั้นฤๅ" พระยาทิวากรทั้งเอ่ยและลุกขึ้นด้วยความเกรี้ยวโกรธแล้วขบกรามแน่นจนเป็นสัน

"ลูกน้องของข้าบอกเช่นนั้นขอรับ" พระยาธาราเอ่ยถึงลูกน้องของตนที่แทรกซึมเข้าไปเป็นทีมเดียวกับหลวงสาม ซึ่งเป็นเด็กใหม่ที่สามรับเข้ามาอยู่ร่วมกันได้ไม่นานนี้เอง ทั้ง ๆ ที่ตนเองยังคงโค้งศีรษะมิยอมสบสายตากับพระทิวากร

"เป็นไปได้เยี่ยงไรวะ" พระยาทิวากรกระแทกเสียงพร้อมกับความโกรธ เขาพยายามข่มอารมณ์ที่พุ่งพล่านขึ้นมาไว้ แต่มือของเขากำหมัดแน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อหนังจนเกิดรอยแดง

"ทางเราจักจัดการมันให้เร็วที่สุดขอรับ" พระยาธารารีบพูดประโยคด้วยการโน้มน้าวใจให้อารมณ์ของเจ้านายตนดีขึ้น

"ยิ่งเร็วยิ่งดีนัก" พระยาทิวากรไว้ใจลูกน้องของตนเองเลยพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเปี่ยมด้วยความหยิ่งทะนงในศักดิ์ศรีพร้อมนั่งลงบนโซฟาตัวโปรดปรานแล้วยกแก้วใสรูปทรงสั้นที่ใส่น้ำเมาไว้ยกดื่มหมดแก้ว วางแก้วใสนั้นด้วยกระแทกเสียงดังทำให้ทุกคนในเรือนสะดุ้ง

 

ณ ทุ่งนาทอง เขตบ่อปลาสวาย

"พี่ข้าจักทำกระไรฤๅ" มณีเอ่ยถามหนุ่มชายร่างหนาอย่างเสือที่กำลังเตรียมพร้อมปล่อยว่าวบุหลันขึ้นสู่ท้องฟ้า เป็นกิจกรรมผ่อนคลายหนึ่งที่เสือชื่นชอบ

"ข้าจักทำกระไรก็เรื่องของข้าเถิดแม่มณี เจ้าเองก็ไปหากระไรทำเสีย" เสือพูดโดยไม่ได้หันไปสบตาคนตั้งคำถามเมื่อครู่นี้ เขาเอาแต่ก้มหน้าก้มตาหมุนเชือกสีขาวยาวปล่อยออกมาให้ว่าวลอยตัวขึ้นบนท้องฟ้า

"งานประนีประนอมเยี่ยงที่พี่พวงทองทำ ข้าขอไม่ทำหนาเจ้าค่ะ" มณีเอ่ยปฏิเสธอย่างรวดเร็ว มณีเป็นผู้หญิงคนเดียวในเรือนที่ไม่ชอบงานแกะสลัก งานถัก งานร้อยมาลัย แม้แต่งานในครัวก็ไม่แตะต้องเป็นอันเด็ด

"ผู้ใดบอกว่าข้าให้เจ้าทำงานเช่ยนั้น ข้าหมายถึงว่าให้เจ้าไปหากระไรที่เจ้าถนัดหรือสนอกสนใจยักจักทำต่างหากเล่า" เสือหัวเราะออกมาอย่างเอ็นดู รู้ดีว่างานกระไรที่ผู้หญิงทำ น้องสาวคนนี้แทบจักไม่ได้แตะต้องมันเลย มีแต่มวยไทย หรือกิจกรรมโผงผางอย่างที่ผู้ชายทำกันเท่านั้น แม่มณีถึงจักสนอกสนใจ

"ข้าก็คิดว่าพี่เสือจักไล่ข้าให้ทำกระไรเช่นนั้นนะสิเจ้าค่ะ พี่เสือชอบฟ้องคุณพ่อ" มณีเอ่ยอย่างน้อยใจและยังทำหน้าเหยเกใส่คนพี่ เพราะตนคิดว่าพี่ชายตนจักไล่ให้ไปหาแม่พวงทอง แล้วทำงานที่ไม่ถนัดเป็นอย่างมาก หากไม่ทำพี่ชายตนมักจักข่มขู่ที่จักฟ้องผู้เป็นบิดาข้าเหมือนอย่างตอนเด็ก ๆ

"หากเจ้าแวะไปหาอาจารย์พราน ข้าฝากไหว้ด้วย" เสือเอ่ยชื่อพ่อหมอคนหนึ่งออกมาก่อนจักฝากไหว้นั้น พ่อหมอพรานเป็นอาจารย์สอนวิชาอาคมของเสือมาตั้งแต่สมัยยังเด็กยังน้อยจนกระทั่งตอนนี้ พ่อหมอพรานไม่เพียงเป็นแค่อาจารย์สอนวิชาอาคม ยังสอนทำยาเสน่ห์ ยาสั่งเป็นสั่งตาย ยารักษาคนทั่วไปจากสมุนไพรต่าง ๆ ทั้งในประเทศไททิวารันต์และต่างประเทศ พ่อหมอพรานเป็นคนเปิดรับความรู้อย่างกว้างขวาง ลองผิดลองถูกทุก ๆ อย่าง เว้นแต่ว่าสิ่งใดเขาว่าไม่ดีกันจริง ๆ ตนจึงไม่ทำเป็นอันขาด

มณีก็เดินเข้าไปยังสถานที่ลับแลของเหล่าคนมีวิชาอาคมเท่านั้นที่จักสามารถเข้ามายังที่นี่ได้

"ข้าไหว้เจ้าค่ะ อาจารย์พราน" มณียกมือไหว้ครูบาอาจารย์ของตนที่กำลังวุ่นวายกับพวกเครื่องยาต่าง ๆ

"ข้าขอจัดการกับยาพวกนี้ก่อน" พ่อหมอพรานรับมือไหว้จากมณีก่อนจักก้มหน้าก้มตาผสมยาตรงหน้าต่อ มณีนั่งรอพ่อหมอพรานผสมยาอย่างเงียบ ๆ เมื่อจัดการยาสมุนไพรเสร็จก็เอ่ยถามคนตรงหน้าทันที

"เจ้ามีกระไรฤๅ แม่มณี"

"อาจารย์พอรู้จักป่ามนต์ทัชฤๅไม่เจ้าคะ" มณีโพล่งถามออกไป

"ป่าที่ลือหนักลือหนาว่ามีปีศาจงั้นฤๅ" คราวนี้พ่อหมอพรานถามมณีกลับ

"เจ้าค่ะ อาจารย์พรานพอจักรู้กระไรบ้างในป่ามนต์ทัชฤๅไม่เจ้าคะ" มณียกมือทั้งสองประนมแนบไว้กับอกแล้วเอ่ยถามอีกครั้ง

"อาจารย์ข้าเคยเล่าให้ฟังเมื่อนานมาแล้ว ในป่ามนต์ทัชถูกปกครองโดยพระราชาแห่งป่ามนต์ทัช แต่ว่าพระราชานั้นโลภมาก คิดที่จักเป็นอมตะ หาทางมีชีวิตอยู่ต่อให้ได้ แม้ตนเองจักแก่เฒ่าแล้ว สุดท้ายก็กินภูติผีปีศาจเล็ก ๆ เช่นแมวดำผู้คอยส่งสารให้เจ้านาย งูดำทาสรับใช้ของปีศาจขุนนาง เพราะเชื่อว่าจักทำให้ตนเป็นอมตะ สุดท้ายก็ไม่พ้นวิชาอาคมสายดำอยู่ดี คงจักแกร่งมากถึงยังสามารถดำรงชีวิตอยู่จนถึงทุกวันนี้ แต่วันหนึ่งมรดกของราชาก็ถูกขโมยไปซ่อน จนทำให้พระราชาโกรธเป็นอย่างยิ่ง สูบกินเลือดเนื้อมนุษย์อย่างกับผีบ้า ราวกับคนโดนของเข้าตัว" พ่อหมอพรานเล่าเรื่องราวของปีศาจในป่ามนต์ทัชที่ได้รับรู้มาจากอาจารย์อีกทีให้ลูกศิษย์ผู้หญิงคนตรงหน้าฟัง

"มรดกที่ว่าคือกระไรฤๅเจ้าคะ" มณีถามอย่างสงสัยแล้วเอียงคอเล็กน้อย

"หึ!! ไม่มีผู้ใดรู้ดอก ต้องถามเจ้าตัวที่ขโมยของมันมาจักดีกว่านะ เข้ามาสิ" พ่อหมอพรานหัวเราะในลำคอเบา ๆ ก่อนจักพูดอย่างราบเรียบแล้วเรียกชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างหลังเดินเข้ามาใกล้ ๆ ใช่แล้วเขาคนนี้คือคนที่เข้าไปหาเรื่องพระยาทิวากรเมื่อวันก่อน แต่มณีไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ด้วยก็คงจักไม่รู้กระไร

"พ่อกล้าบอกแม่มณีไปสิ" พ่อหมอพรานเอ่ยชื่อผู้คนที่เคยตายไปแล้วเมื่อ ๑๐ ปีก่อนพร้อมทั้งยกยิ้มมุมปาก

"พี่กล้า?!" มณีถามคนตรงหน้าด้วยแววตาที่สับสนและพร่ามัว เธอรู้สึกเกรงและแข็งทื่อไปทั้งตัว เพราะชื่อของชายคนนี้คือพี่ชายแท้ ๆ ของเธอ

"น้องข้าตกใจกระไรฤๅ" ชายหนุ่มร่างหนาอย่างกล้าหาญเอ่ยถามผู้เป็นน้องสาวพร้อมกับรอยยิ้มกว้างที่อบอุ่นอ่อนโยนัก

"ไยพี่กล้า... ข้า... ข้าไม่เข้าใจ" มณีพูดตะกุกตะกักเพราะความสับสน

"เจ้าคงมีเรื่องอยากจักถามข้าเยอะเลยสินะ แม่มณี" กล้าเอ็นดูน้องสาวสุดที่รักพูดจาตะกุกตะกักเมื่อครู่นี้จึงเดินเข้ามาแล้วยกฝ่ามือหนานั้นแตะลงบนหัวไหล่ของน้องสาว มณีสะดุ้งเล็กน้อยเพราะวางตัวไม่ถูก

"พี่กล้า... พี่กล้าเจ้าคะ... ข้า... ข้าคิดถึงพี่กล้ามากเลยเจ้าค่ะ" มณีรีบโพล่งเข้าไปโอบกอดพี่ชายที่หายไปตั้ง ๑๐ ปีก่อนอย่างร้อนใจ น้ำตาของเธอไหลออกมาอิงแก้ม มันสุขใจเหลือเกินที่พี่ชายยังมีชีวิตอยู่ มณีกอดร่างกายที่อบอุ่นของพี่ชายอย่างแน่นไม่ยอมปล่อยแขนปล่อยมือเลย

"ข้าเองก็คิดถึงเจ้าหนาน้องข้า" กล้าเอ่ยด้วยความคิดถึงและความเป็นห่วงเป็นใยที่ไม่สามารถดูแลน้องสาวได้ หวังมาตลอดว่าคนในครอบครัวต้องดูแลน้องสาวได้ดีเป็นแน่

"เจ้าจักบอกข้าได้ฤๅไม่ ว่าเจ้าขโมยกระไรมา" แม้แต่พ่อหมอพรานเองก็ยังไม่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับสิ่งที่พ่อกล้าขโมยมาเมื่อ ๑๐ ปีก่อน

"ตรีทิพย์ทิศขอรับ" กล้าพูดถึงชื่อเจ้ามรดกของปีศาจในป่ามนต์ทัชออกไปโดยไม่รู้ว่ากำลังเกิดหายนะแก่ตน

"ผู้ใดเอ่ยถึงมรดกของข้า" ราชาปีศาจในร่างมนุษย์หนุ่มชายวัย ๓๐ ปี มีใบหน้าที่งดงาม อ่อนหวาน ละมุนละไมราวกับผู้หญิง รอยยิ้มของเขาเป็นเสน่ห์ที่ทำให้ผู้คนหลงใหลในความน่ารักน่าชังของเขา เขาค่อย ๆ ลืมตาแสนดุคมขึ้นอย่างช้า ๆ ราชาปีศาจนั่งอยู่บนบัลลังก์สีเลือด โดยที่เลือดนั้นเป็นเลือดของเหยื่อที่ตนไล่ฆ่ามากับมือ สีเลือดในบัลลังก์ที่ราชาปีศาจนั่งนั้นเองก็เคลื่อนไหวเป็นสายน้ำราวกับว่าบัลลังก์นี้ถูกสร้างมาด้วยเลือดของเหยื่อทุกคนทั้งที่ยังสามารถเคลื่อนไหวอย่างไร้ที่ติ ราชาปีศาจหลบตัวซ่อนอยู่ภายใต้เงาดำมืดมน เขาจึงลุกขึ้นแล้วค่อย ๆ สาวเท้าลงกระได โดยที่กระไดบัลลังก์ของเขานั้นเป็นคนบาดเจ็บทรมานปางตายทีละขั้นทีละคน บางคนถูกบดบิดจนกระดูกหักแต่ยังไม่ถึงกับตาย บางคนถูกตีจนหลังหักจนไม่สามารถขยับตัวได้ บางคนยังท้องลูก ๒ - ๓ เดือนอยู่ บางคนโดนแทงที่ท้องแต่ราชาปีศาจเลี้ยงเลือดให้ไหลเวียนไม่ให้ตายอย่างง่ายดายถูกกดด้วยพลังของราชาปีศาจให้นิ่งราวกับพื้นกระไดแต่สามารถเอ่ยปากกรีดร้องความเจ็บปวดนั้นออกไปได้อย่างที่เจ้ามนุษย์ต้องการ เมื่อเขาเดินก้าวลงมาทีละขั้น เสียงเจ็บปวดของคนโดนเหยียบก็ดังก้องไปทั่วหล้า แต่ก็แทบจักไม่มีใครได้ยินเสียงนี้เพราะมันถูกล้อมอาณาเขตด้วยพลังของราชาปีศาจผู้นี้ไว้

"อ้ากกกกกกกกกกกก" กระไดขั้นแรกเป็นหนุ่มชายร่างหนากำยำถูกไม้แทงบริเวณหน้าท้องแต่ไม่ตายเพราะราชาปีศาจได้ให้เลือดไหลเวียนไปในตัวเขา นอนหงายท้องให้ราชาปีศาจเหยียบย่ำ เขาร้องออกมาด้วยความเจ็บแผลหน้าท้องและแรงเหยียบนั้นช่างหนักหนากว่ามนุษย์ทั่วไปเสียอีก

"ขะ... ข้า... ข้าขอ... กริ๊ดดดดดด ฮึก ขะ...ข้า... เจ็บ ฮือออ อ้ากกกก" หญิงสาวรูปงามคนหนึ่งถูกบดบิดกระดูกให้มีรูปลักษณะผิดปกติไปจากมนุษย์ทั่วไปถูกกดให้นอนคว่ำหน้า เธอพยายามขอร้องให้ไว้ชีวิตตนแต่ยังไม่ทันได้ขอร้องก็ถูกราชาปีศาจเหยียบลงบนร่างกายและตนก็กรีดร้องออกไป

"แน่จริงมึงก็ฆ่ากูเลยสิว่ะ อ้ากกกกกกกก จะ... เจ็บ... ข้าเจ็บ" ชายวัย ๓๒ ปีเป็นทาสรับใช้ของพระยาธาราที่ปลอมตัวมาสืบคดีถูกราชาปีศาจกัดกินไหล่ข้างขวาและเอวข้างซ้ายหายไป ไม้สั้น ๆ แทงเข้าตาข้างขวาทำให้เลือดไหลออกมาไม่มีหยุด เขาท้าทายราชาปีศาจให้ฆ่าเขา แต่ก็ไม่เป็นผลที่ตนเองต้องการ ถูกราชาปีศาจเหยียบลงไปบนร่างกายอย่างหนักแน่นอีกคน

"ข้าขอร้องอย่าเหยียบข้าเลย ลูกข้ากำลังจักลืมตาดูโลก อย่าาา อย่าาา อย่า กริ๊ดด กริ๊ดดดดด ฮึก... ฮืออ... ฮือ..." ผู้คนที่กำลังเป็นแม่คนโชคดีเพียงเล็กน้อยตรงที่ราชาปีศาจยังไม่เคยได้แตะต้องร่างกายเธอเลย แต่ว่าตอนนี้ก็ถูกเหยียบบริเวณหน้าท้องไปเสียแล้วอีกคน

"ฮือออ ฮึก อืออออ" ชายหนุ่มร่างผอมผิวพรรณขาวเหลืองอย่างขุนนางสั่นเกรงไปทั้งตัว ที่ตนนั้นเข้ามาพบความลับเข้าก็เลยถูกราชาปีศาจฉีกกลางอกแล้วดึงหัวใจให้ลอยเหนือร่างกาย หัวใจนั้นเองก็เป็นที่รองรับราวกับพื้นกระไดให้ราชาปีศาจเหยียบย่ำมันไป

"เสียงพวกเจ้าไพเราะดีนัก ข้าชอบ ฮ่า ๆ" เมื่อพูดเสร็จก็เสกไม้เท้ารูปดาบแทงเจ้าคนที่นอนเป็นขั้นกระไดที่ตนเหยียบอยู่ เสียงร้องของคนเจ็บปวดทรมานออกไปโดยไร้จุดมุ่งหมาย จนเลือดนั้นไหลรวมกันราวกับธารา ราชาปีศาจเห็นว่าได้เสียงออกมันเงียบไปแล้ว หมายความว่าคนนั้นสิ้นชีพเสียแล้ว เขาจึงสูบเลือดสูบเนื้อของมนุษย์ก่อนจักเสกให้คนต่อไปมาแทนที่ และราชาปีศาจก็ลงกระไดมาอย่างช้า ๆ อีกหลายขั้นกระไดก่อนจักถึงข้างล่างที่เต็มไปด้วยน้ำเลือดทั้งปวง เหล่าศพทหารที่ตนฆ่าให้สัตว์เลี้ยงคู่ใจแทะเล่น และยังมีลูกน้องคนอื่น ๆ ยืนรอคำสั่งนายท่านอยู่อย่างเงียบ ๆ

"มนุษย์แสนโง่เขลา ไยเจ้าถึงต้องดิ้นรนเพียงนี้" ราชาปีศาจเอ่ยขึ้นโดยไม่ได้ต้องการคำตอบ รู้อยู่แก่ใจว่าความเจ็บปวดกับการดิ้นรนเป็นของคู่กัน

"ทะ... ท่านขอรับ" ทาสรับใช้คนสนิทเอ่ยเรียกเจ้านายตนด้วยความเกรงกลัว เพราะเจ้านายของตนไม่เพียงสูบเลือดสูบเนื้อมนุษย์ยังไล่ฆ่าพวกปีศาจชั้นขุนนางมากมายมาแล้ว

"จอม... เสียงสั่นของเจ้ามันช่างรำคาญยิ่งนัก" เสียงสั่นของเจ้าทาสรับใช้สั่นจนรำคาญใจ ราชาปีศาจจึงขว้างมีดเรียวยาวเฉียดไปแก้มทาสรับใช้คนสนิท ราชาปีศาจจึงเดินเข้าไปหาทาสรับใช้ผู้นี้ ทำให้ทาสคนนั้นต้องหลับตาลงเพราะความกลัว

"เลือดของเจ้ายังอร่อยเหมือนเคยเลยหนาเจ้าจอม" ราชาปีศาจดื่มเลือดบนใบหน้าของทาสรับใช้คนสนิทเสร็จก็พูดชื่มชอบด้วยรอยยิ้มกว้างอย่างเป็นมิตรทันที

"ทะ... ท่าน... ท่านขะ...ขอ... ขอรับ" ทาสรับใช้คนสนิทค่อย ๆ ลืมตาแล้วเรียกเจ้านายตนเองโดยที่ราชาปีศาจนั้นกำลังเคลื่อนร่างกายไปดื่มเลือดที่นิ้วมือของตน

"เจ้ามีกระไรก็พูดมาเถิด" ราชาปีศาจพูดทั้งที่ยังคงดื่มเลือดเจ้าทาสคนนี้อยู่

"ตรีทิพย์ทิศคืออันใดฤๅขอรับ" ทาสรับใช้เอ่ยถามด้วยความไม่รู้เพราะตนนั้นเพิ่งเข้ามารับใช้นายท่านเมื่อ ๘ ปีก่อน

"มรดกที่แม้แต่เจ้าอาจตายได้ เมื่อแลตามองมัน มันมีพลังมหาศาลนัก" เมื่อราชาปีศาจดื่มเลือดจนพอใจก็ตอบคำถามของเจ้าทาสรับใช้คนสนิททันที แล้วเล่นหูเล่นตาด้วยความอยากหยอกเย้า

"ถ้าแม้แต่ข้ายังสามารถตายได้ แล้วเจ้ามนุษย์พวกนั้นมันเอาไปได้เยี่ยงไรฤๅขอรับ นายท่าน" เอ่ยถามด้วยความสงสัยและไม่เข้าใจยิ่งนัก

"อย่าว่าแต่เจ้าสงสัยเลย ข้าเองก็เริ่มสงสัยเสียแล้วว่ามนุษย์พวกนั้นมีเลือดปีศาจขุนนางอยู่ในตัวฤๅไม่ เจ้าปีศาจขุนนางทั้งสองตนมันหักหลังข้า ซ่อนหลบอย่างขี้ขลาดตาขาวเพียงนี้ แต่น่าเสียดายที่ข้าทำให้พวกมันรู้ว่าแม้แต่ข้ายังสามารถฆ่าผู้ครอบครองตรีทิพย์ทิศตายไปตนหนึ่ง"

"ตรีแปลว่าสาม หากเราหาเจอขุนนางอีก ๒ ตนเจอเราจักสามารถได้รับชัยชนะที่แท้จริงฤๅไม่ขอรับ" ทาสรับใช้คนสนิททวนเรื่องราวพร้อมกับเอ่ยคำถามขึ้นมาอีกหนึ่งข้อ

"ข้าไม่ได้มีมรดกเพียงตรีทิพย์ทิศอย่างเดียวหนาเจ้าจอม เอาเถอะ ไว้เจอขุนนาง ๒ ตน เมื่อไหร่ข้าจักเล่าให้เจ้าฟังเอง เว้นเสียแต่ว่าวันนั้นเจ้าจักยังคงอยู่เคียงข้างข้าอยู่ฤๅไม่" เมื่อจบประโยค ราชาปีศาจในเรือนร่างเล็กกว่าเจ้าจอมเดินหายเข้าไปในที่มืดหม่นแล้วเจ้าจอมนั้นเองก็เดินตามหายเข้าไปในที่มืดหม่นเช่นเดียวกัน เจ้าสัตว์ประหลาดคู่ใจของท่านราชาปีศาจที่มีดวงหน้าโหดเหี้ยมเพิ่งกัดกระชากศพมาก็มีเศษเนื้อและเลือดติดบนใบหน้าจึงรีบวิ่งสี่เท้านั้นเข้าตามเจ้านายของตนไปด้วย