เด็กชายกล้าหาญต้องจบชีวิตลงเพราะคำนาย แต่จู่ ๆ เขาต้องฟื้นคืนชีพในฐานะคนใหม่ทั้งที่จำเรื่องราวทั้งหมดได้ ทุกคนจะยังคงโกหกเขาคนนี้ต่อไปอีกนานแค่ไหน
แฟนตาซี,สืบสวนสอบสวน,รัก,ตลก,ลึกลับ,หญิง-หญิง,ชาย-หญิง,ชาย-ชาย,สืบสวนสอบสวน,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
สิงหดาบเด็กชายกล้าหาญต้องจบชีวิตลงเพราะคำนาย แต่จู่ ๆ เขาต้องฟื้นคืนชีพในฐานะคนใหม่ทั้งที่จำเรื่องราวทั้งหมดได้ ทุกคนจะยังคงโกหกเขาคนนี้ต่อไปอีกนานแค่ไหน
สิงหดาบ ย่อมาจากสิง (โต) หักดาบ
สิงโตแทนบุคคลสำคัญ หักดาบแทนการสละเลือดเนื้อ
ใครกันนะคือสีหราช... เหตุอันใดสีหราชต้องสิ้นชีพลงเพื่อทุกคน
ทุก ๆ อย่างมันเกิดขึ้นด้วยเพียงคำทำนายจากสรวงสวรรค์ส่งสารไปยังทุกคน
เขาคนนั้นมีความลับคือ อนาคตที่ลับแล อนาคตที่แม้แต่เครื่องฉายจิรกาลยังตามมิทัน
ต่อจากไปนี้ โปรดระมัดระวังสิ่งรอบข้างให้มากที่สุด เพราะการทรยศ
ล้วนแปรพักตร์กันเมื่อใดก็ได้ อย่าได้ลืมเสียว่าตนเป็นใคร
มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวที่สุด
เพราะสมองอันล้ำค่า
นิยายเรื่องนี้เป็นนวนิยายแนวสืบสวน โรแมนติก ดราม่า แฟนตาซี และพีเรียดที่เป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียนเท่านั้น
เรื่องราวต่อไปนี้อาจมีเนื้อหาในเรื่องของประวัติศาสตร์ ซึ่งไม่ได้อ้างอิงจากประวัติศาสตร์ใด ๆ ทั้งสิ้น ผู้เขียนได้ทำการสร้างตัวละคร สถานการณ์ต่าง ๆ เพื่อดำเนินเรื่อง อาจมีเนื้อหาบางอย่างเกี่ยวกับวัฒนธรรม อาหาร อ้างอิงจากความจริง
TW : ความสัมพันธ์ที่มีการทำร้าย/การใช้ความรุนแรง ไม่ว่าจะทางร่างกาย จิตใจ คำพูด ความรุนแรงในครอบครัว (พ่อแม่ของตัวเอก)
การทำแท้งโดยไม่ได้ตั้งใจ (เมียรองของพ่อของตัวเอก)
การดูถูกเหยียดหยาม การทำร้าย ใช้ความรุนแรงทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ (ฝั่งตัวร้าย)
ยากระตุ้นความต้องการทางเพศ จำพวกยาเสน่ห์ใช้ภายในเรื่อง
ปีศาจ การตัดแขนและขา กินเนื้อกินเลือดทั้งเผ่าพันธุ์เดียวกันและต่างเผ่าพันธุ์เดียวกัน (ฝั่งตัวร้าย)
โลกเหนือธรรมชาติ ฆาตกรรม เลือด ลักพาตัว การทำร้ายทางเพศ การล่วงละเมิดทางเพศ ข่มขืน(เป็นเรื่องราวจากปากต่อปาก ไม่มีการบรรยายฉากนี้แน่นอนเจ้าค่ะ) ค้ามนุษย์ บังคับเสพยาเสพติด ทารุณกรรมเด็ก อาการซึมเศร้า มีอาการประสาทหลอน ฆ่าตัวตาย การตัดหัวประหารชีวิต
การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ชื่นชอบการเห็นผู้อื่นเจ็บปวด
คำหยาบคาย พูดจาส่อเสียด แบ่งแยกเชื้อชาติและสีผิว การเป็นทาส
แนะนำตัวละคร นายเอก
Cr. Zair or Twitter ของนักวาด : @pinkyxpsycho
ชื่อ : เสือ
อันดับครอบครัว : บุตรชายคนกลางของพ่อสิงห์และแม่มะลิ
ตำแหน่ง : คุณหลวงหน่วยสืบสวนภามณีดา ภาคกลาง
ฉายา : พ่อเสือร้อยเมีย
ข้าต้องตามหาความจริงและความยุติธรรมให้พี่กล้าให้ได้
Cr. Twitter ของนักวาด : @seerdarker
พระเอก
ชื่อ : เชิง
ตำแหน่ง : คุณหลวงหน่วยสืบสวนนภาราม จากภาคเหนือ
ฉายา : พ่อเชิงปากหมา
พี่ชายนายคือกุญแจสำคัญของคดีระดับชาติ
Cr. Twitter ของนักวาด : @Mikumee_
ชื่อ : กล้า
อันดับครอบครัว : บุตรชายคนโตของพ่อสิงห์และแม่มะลิ
สถานะ : สิ้นชีพแล้วเมื่ออายุครบ 15 ปีบริบูรณ์
ถึงเวลาของข้าแล้ว...
ชื่อ : มณี
อันดับครอบครัว : บุตรสาวคนเล็กของพ่อสิงห์และแม่มะลิ
ตำแหน่ง : หมื่นมณี สิงหดาบ หนึ่งในหน่วยสืบสวนลับ
ฉายา : แม่หญิงคนแกร่งแห่งหน่วยสืบสวน
ชื่อ : พวงทอง
อันดับครอบครัว : บุตรสาวคนโตของพ่อสิงห์และแม่สร้อย
ตำแหน่ง : พี่สาวคนโตของบ้าน แม่อีกคนของน้อง ๆ ทำหน้าที่คอยดูแลเรือนเป็นอย่างดี
ฉายา : แม่นม
อย่าดื้อนัก ข้าไม่ได้ดีใจเหมือนพวกแม่ ๆ ของเจ้า
ชื่อ : สิน
อันดับครอบครัว : บุตรชายคนเล็กของพ่อสิงห์และแม่สร้อย
ตำแหน่ง : เป็นลูกชายเอาแต่ใจอยู่บ้านเฉย ๆ ไม่ทำอะไร ทำตัวเป็นคุณชาย
นิสัย : ลูกแง เอาแต่ใจ เป็นคนหัวอ่อนต่อโลกค่อนข้างมากต่างจากพี่สาวของเขา มักโดนหลอกอยู๋บ่อย ๆ
อย่ามาแตะต้องตัวข้า ข้าเป็นบุตรชายของบ้านสิงหดาบเชียวนะ
ชื่อ : เดื่อ
อันดับครอบครัว : บุตรชายคนเดียวของพ่อสิงห์และบ่าวแพง
นิสัย : กล้าหาญและก้าวร้าวมาก ๆ เป็นคนกล้าได้กล้าเสีย อยากรู้อยากเห็น ติดเพื่อนมากที่สุดในบรรดาพี่น้อง จนกระทั่งได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ทำให้นิสัยของเขาเริ่มเปลี่ยนไป
ตำแหน่ง : ความลับ
แม่ข้าตายไปแล้ว ข้าเหลืออะไรบ้างไหม แม่ข้าเป็นเพียงแค่บ่าวรับใช้คนนึง
ชื่อ : สุข
อันดับครอบครัว : บุตรชายคนโตของพ่อสิงห์และแม่พิมพา (แฝดพี่)
นิสัย : หวาดระแวงกับทุกอย่างในชีวิตเพราะตั้งแต่เด็กโดนลักพาตัวมากกว่า 3 ครั้ง จนครั้งล่าสุดจัดเป็นคดีค้ามนุษย์ที่สุขเป็นเหยื่อคนแรกที่มีชีวิตรอดออกมาได้ ทำให้ปมครั้งนี้เขามีนิสัยกลัวการออกสังคม กลัวการเจอคนแปลกหน้า จึงถูกเลี้ยงให้อยู่แต่ในบ้าน บางครั้งแม่พวงทองสงสารจึงชวนไปทำกิจกรรมร่วมกันด้วย
ข้ากลัว...
ชื่อ : จันทร์
อันดับครอบครัว : บุตรสาวของรองของพ่อสิงห์และแม่พิมพา (แฝดน้อง)
นิสัย : ร้อนใจ เข้มแข็งทุก ๆ สถานการณ์ อิจฉาพี่น้องต่างแม่มากที่สุด
ชื่อ : นิ่มนวล
อันดับครอบครัว : บุตรสาวคนเล็กของพ่อสิงห์และแม่พิมพา
นิสัย : ใจดีมาก ๆ นิสัยต่างขั้วกับพี่สาวของเธออย่างแม่จันทร์เลย เป็นผู้หญิงที่มีความคิดสวยงาม อ่อนโยนและอ่อนต่อโลกด้วย
ชื่อ : แย้ม
อันดับครอบครัว : บุตรสาวคนโตของพ่อสิงห์และแม่เรไร
นิสัย : เอาแต่ใจ ค่อนข้างกัดจิกกับทุกคนในแม่ รวมถึงแม่ของตนเองด้วย เป็นคนรอบรู้เรื่องของชาวบ้านที่สุด
ชื่อ : บังอร
อันดับครอบครัว : บุตรสาวของรองของพ่อสิงห์และแม่เรไร
นิสัย : เป็นบุคคลที่โดนเลี้ยงมาโดยการตามใจมาโดยตลอด และยังมีใบหน้าสวยที่สุดในบรรดาพี่น้อง จึงทำให้มีความคิดหลงตัวสูง และคิดว่าตัวเองทำอะไรมักจะถูกต้องเสมอ
ชื่อ : เดช
อันดับครอบครัว : บุตรชายคนเล็กของพ่อสิงห์และแม่เรไร
นิสัย : สู้สุดใจ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าเก่งแม้จะเคยโดนลักพาตัวไปครั้งเดียว ก็พยายามพาตัวเองออกจากปมให้ได้ นักว่าเป็นบุคคลที่เก่งด้วยตัวเองอีกคน มีนิสัยใจเย็นกว่าพี่น้องของแม่เรไรหมดเลย
ชื่อ : จ้อย
อันดับครอบครัว : กำพร้า เป็นเด็กวัดภาคเหนือ
นิสัย : มีความเห็นอกเห็นใจแต่ก็ยังมีบางมุมที่เป็นคนใจร้าย
ตำแหน่ง : ความลับ
ชื่อ : ชาญ
อันดับครอบครัว : บุตรชายคนโตของพ่อแม่คู่นึงจากภาคกลาง
นิสัย : นิ่งเงียบ แต่การตัดสินใจค่อนข้างฉลาดกันเลยทีเดียว
ลำดับพี่น้อง
พ่อกล้า > พ่อเสือ > พ่อเดื่อ > แม่พวงทอง > แม่มณี > แม่แย้ม > พ่อสุข > แม่จันทร์ > พ่อสิน > แม่บังอร > แม่นิ่มนวล > พ่อเดช
คู่เอก เชิง - เสือ - ชาญ
คู่รอง กล้า - จ้อย , วีรดา - มณี
เมื่อเพลาผ่านไปหลายวัน ณ เรือนสิงหดาบ
"นี่ ๆ คุณมณีอยู่เรือนฤๅไม่" ขวานเอ่ยถามบ่าวไพร่ของเรือนสิงหดาบที่กำลังยกฝืนไม้จำนวนมากเข้าไปยังในครัวเรือนโดยมีศักดิ์เดินตามมาด้วยกัน
"คุณหญิงมณีอยู่บนเรือนจ้ะพี่ชาย" บ่าวชายผู้อ่อนโยนของเรือนนี้ตอบคำถามอย่างสุภาพก่อนจักนำทางให้จ่าทั้งสองคนที่เป็นที่รู้จักกันดีขึ้นเรือน
"คุณมณีขอรับ มีแขกมาหาขอรับ" บ่าวผู้ชายผู้อ่อนโยนคนนั้นเดินเข้าไปตามหาคุณหญิงมณีจนเจอเลยพูดขึ้น โดยที่มณีกำลังเปิดหารายละเอียดต่าง ๆ ในตำราของเจ้าภูติน้อยอย่างมิบิที่เก็บสะสมไว้ พร้อมกับเสือ กล้า และเจ้าภูติน้อยกำลังช่วยกันดู เจ้าภูติได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนกำลังเดินเข้ามาก็รีบหาที่ซ่อนตัวทันที
"ใครฤๅจ๊ะ" เมื่อมีเสียงเรียกชื่อเธอ เธอจึงตั้งใจฟังก่อนจักเอ่ยคำถามนั้นออกไป แล้วขวานและศักดิ์ก็เดินเข้ามาให้มณีได้พบเห็นใบหน้าของเขาเสียก่อน
"ข้าเองจ้ะ" ขวานพูดให้มณีรู้ตัวว่าผู้ใดมาหา
"อ้าว ขวาน ศักดิ์" หลังจากที่เสือได้เห็นใบหน้าของเจ้าของเสียงเมื่อครู่แล้วก็เอ่ยเรียกชื่อพวกเขาด้วยความดีใจที่ได้เจอกันอีกครั้ง เสือเดินเข้าไปโอบกอดแสดงความเป็นมิตรภาพแก่กันก่อน
"เออใช่สิ ข้าจักมาแจ้งข่าวนะ ตรงชายแดนหมู่บ้านรัตติกาลกับเขตบ่อปลาสวายมีศพตายเกลื่อนเต็มไปหมดเลย" ขวานแจ้งข่าวออกไปด้วยการจับใจความในฉบับตัวเอง
"เขตของพระยาทิวากร?" เสือที่ยืนฟังอยู่ข้าง ๆ เอียงศีรษะลงเล็กน้อยบริเวณชายแดนตรงนั้นเป็นของพระยาทิวากร ตามเดิมแล้วบ่อปลาสวายนั้นเป็นเขตแบ่งของพระยาทิวากรและพระยาธาราแต่ถูกมติให้บ่อปลาสวายแห่งนี้ตกเป็นของพระยาทิวากร
"ใช่ แต่ทางนั้นโวยวายใหญ่เลย ผู้ใดก็ไม่รู้เอาศพมาวางเกลื่อนเต็มไปหมด ไหนจักในบ้านของชาวบ้านอีก เราเองก็พบศพในอาคารสืบสวนด้วย" ขวานแจ้งข่าวเพิ่มเติมให้ทุกคนในนั้นฟัง ทั้งเสือ มณีและกล้า มองหน้ากันเอง ทั้งห้าคนจึงรีบเร่งฝีเท้าตรงไปยังที่เกิดเหตุ
"ไง เจอกระไรบ้างฤๅยัง" เสือเอ่ยทักทายสหายคนสนิทของตัวเองที่กำลังยืนตรวจสอบกระไรบางอย่างเงียบ ๆ อยู่
"อือ ฆาตกรไม่ได้มีคนเดียวแน่" สามหันไปหาต้นเสียงจนรับรู้ว่าเป็นเสือเองที่กำลังพูดกับตน สามจึงพูดออกไปด้วยความสงสัยของตน
"อะแฮ่ม! ขออนุญาตขัดจังหวะเพียงเล็กน้อยหนาขอรับ พระยาทิวากรไม่อยู่ตั้งแต่เมื่อ ๒ วันก่อน เพราะถูกเรียกเข้าพบวังในและมีคำสั่งให้ขึ้นเหนือเพื่อจัดการเรื่องการปกครองในอาณาเขตของพระยายาณพิชญ์ ส่วนพยานที่พบศพมีหลายคนขอรับ มีนางเยาว์ บ่าวในเรือนของพระยาทิวากร เธอตื่นมาตั้งแต่เช้ามืดเห็นศพกองเกลื่อนเต็มไปทั่วเรือนกับชาวบ้านทุกคนที่ตื่นมาพบศพเกลื่อนเต็มไปหมด" เชิงขัดจังหวะด้วยการรายงานคำสอบปากคำจากพยานมาให้หลวงสามและเสือรับรู้
"ฆาตกรลงมือตอนที่ทุกคนนอนหลับกันหมดแล้วสินะ ฤๅอาจจักลงมือเมื่อถึงเพลาตื่นของชาวบ้าน พวกมันคงจักรู้เป็นเยี่ยงดีว่าควรลงมือกระทำเมื่อใด" เสือออกความคิดเห็นของตนเองออกไป
"แล้วจักเอาเช่นใดดี ถ้าพระยาทิวากรรู้เรื่องนี้เข้า คงไม่ดีแน่ ๆ" สามถามออกไปโดยที่ทุกคนรู้คำตอบเป็นอย่างดี คนระดับพระยาทิวากร หากมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นระหว่างเจ้าของเรือนไม่อยู่ก็คงต้องมีเรื่องอื่นที่ตามมาให้หนักหูหนักใจพอสมควร พวกเราคงจักกลายเป็นที่รองรับอารมณ์ชั้นดีทันที
"ข้าว่าข้าขอไปตรวจสภาพร่างกายของผู้ตายเพิ่มเติมก่อนหนาขอรับ" เชิงกล่าวออกไปพร้อมกับโค้งศีรษะอย่างมีมารยาทให้กับสาม แต่เสือกลับพูดขึ้นก่อน
"ข้าไปด้วย" คำนี้ทำเอาเชิงผู้ที่แทบไม่เคยคิดว่าเสือจักกล่าวคำพูดนี้ขึ้นมา เชิงจึงพยักหน้าตอบพร้อมกับผายมือให้เกียรติคนตรงหน้าได้เดินนำไปก่อน แล้วจึงยกยิ้มอย่างเป็นมิตรจนตาหยี
"กวนตีนให้มันน้อย ๆ หน่อย ไอ้เชิง" สามผู้คนที่ได้ทำความรู้จักจนมีความสนิทสนมกับเชิงในฐานะสหายเสียแล้ว จึงรู้ว่าสหายคนนี้ไม่ได้ยกยิ้มเพื่อความเป็นมิตรใด ๆ แต่มันยิ้มเพราะกำลังคิดแผนชั่วกวนตีนคนอื่นอยู่
"หูยยย ทักซะหมดภาพลักษณ์คนเท่ ๆ" เชิงพูดด้วยความน้ำเสียงเซ็ง ๆ ก่อนจักตบแขนสหายใหม่ของตนและพยักหน้าทำเป็นเข้าใจในสิ่งที่สหายพูด
"ไปล่ะ"
"เออ" สามตอบกลับโดยมือข้างขวายกโบกลาสหายคนสนิทตนเองก่อนจักกลับไปตั้งหน้าตั้งตาจดจ่อกับสภาพแวดล้อมของคดีนี้
เสือกำลังตรวจสอบสภาพร่างกายของผู้ตาย และประเมินไปด้วยในหัวของเขา
"ตัวซีดราวกับโดนเหมือนเสียเลือดมาก ผิวกายแห้งเกินจักจัดว่าเป็นศพใหม่ คงตายไปเป็นเดือน ๆ แล้ว ไม่มีร่องรอยการต่อสู้เลย หากมองด้วยตาเปล่า" เสือค่อย ๆ มองดูสภาพร่างกายของผู้ตายแล้วพูดออกไปตามที่ภาพเขาเห็นโดยไม่ได้สนใจว่ามีใครบางคนกำลังเฝ้ามองตนเองอยู่ เชิงมองเสือด้วยความตั้งใจ
"เจ้าฉลาดดีนัก" เชิงเอ่ยปากชมคนตรงหน้าเขา
"ขอบใจ แต่มันเป็นเรื่องปกติที่คนอย่างพวกเราควรจักประเมินได้อยู่แล้วมิใช่ฤๅ" เสือไม่ได้หันกลับไปมองเชิง แต่ก็พูดรับคำชมตามมารยาทไปเสียก่อนจักพูดต่อด้วยเหตุผลว่าไยตนถึงพูดออกไปเช่นนั้น เชิงไม่ได้พูดกระไรก็ได้แต่ยกยิ้มภูมิใจเจ้าคนนี้ จนเสือเปลี่ยนไปตรวจสอบศพเรือนร่างอื่น ๆ ต่อ ปล่อยให้เชิงนั่งอยู่ที่เดิมตามลำพัง แต่สายตาคู่นั้นของเชิงเอาแต่จ้องมองเสืออยู่ห่าง ๆ
"สายตาเจ้า ช่างเจ้าชู้เสียจริง ระวังไว้เถิด วันหนึ่งเจ้าอาจจักมีดวงตาคู่นี้ไว้มองใครสักคนเพียงแต่ผู้เดียวดอก" กล้าเดินเข้ามาเห็นว่าเชิงกำลังจ้องตาเฝ้ามองเสือที่กำลังตั้งใจทำงานอยู่ กล้ารีบเข้าไปขัดขวางด้วยการยกมือปิดข้างหน้าระดับสายตาของเชิงก่อนจักพูดตักเตือนเขา
"น้อยใจฤๅ ไม่เอาหน่า ข้าแบ่งให้เจ้าได้หนา สายตาเช่นนี้นะ" เชิงเอ่ยถามอย่างขำ ๆ ก่อนจักแซวกล้าต่อพร้อมกับจ้องมองเข้าไปในสายตาของกล้าแล้วยิ้มอย่างร้ายกาจออกมา
"เก็บไว้ให้สาวของเจ้าเถอะ" กล้าหลบตาสายตาที่ถูกจ้องมองตาเมื่อครู่นี้ก่อนจักพูดถึงสาว ๆ ที่เชิงชอบไปกินเหล้าด้วย
"น่าเสียดายจัง" เชิงพูดออกไปด้วยความน้อยใจเล็กน้อยเพราะตนรู้ดีว่ากล้าคือคนที่เขาไม่สามารถแตะต้องได้เลยแม้แต่ปลายผม เพราะเจ้าของที่แท้จริงเต็มไปด้วยแรงกล้าที่ทำให้เชิงต้องยอมถอยห่างจากเขา
"แต่น้องเขาน่ารักน่าชังดีนัก" เชิงกระซิบหูกล้าพร้อมยกยิ้มอีกครั้ง
"ฝันไปเถอะ" กล้าผู้คนที่รู้ใจและความคิดของเชิงดี ไม่ยอมปล่อยให้น้องชายเข้าใกล้คนเช่นนี้เด็ดขาด ช่างร้ายกาจเสียจริง ปากหวานกับผู้หญิงและผู้ชาย ช่างเป็นคนเอาใครไม่เลือกหน้าเลยเสียจริง
"สินสอดเท่าไหร่ฤๅ" เชิงถามถึงค่าสินสอดทองหมั้นจากพี่ชายคนโตสุดอย่างไม่รอช้า
"ไว้เกี้ยวพานน้องข้าได้แล้ว ค่อยมาขอจักดีกว่าฤๅไม่ ข้าพนันได้เลยว่าไม่มีทาง" กล้าแซวเจ้าคนเจ้าชู้ที่มั่นหน้ามั่นใจเช่นนั้นก่อนจักยกพนันเรื่องนี้ด้วยตัวเอง
"พนันเลยฤๅ งั้นหากข้าเกี้ยวได้ ข้าเองก็อยากจักขอเจ้าสักวันได้ฤๅไม่" เชิงยกยิ้มด้วยความตื่นเต้นพร้อมส่งสายตาเจ้าชู้นั้นมองเข้าไปข้างในดวงตาของกล้าก่อนจักเอ่ยประโยคต่อมา ฝ่ามือที่สั่นไหวอยากที่จักเลื่อนเข้าไปโอบเอวของคนตรงหน้าแต่ก็ได้แต่ห้ามมือไว้
"เอาสิ ข้าจักเป็นมารผจญคอยขัดขวางเจ้าเอง" กล้ายืนกรานเอาหน้าสู้คนเจ้าเล่ห์คนนี้จนเชิงหัวเราะออกไปอย่างเสียงดังด้วยความเอ็นดูก่อนที่กล้าหาญจักเดินเข้าหาเสือเพื่อขัดขวางมิให้เชิงเข้าใกล้เสือ กล้าหาญมองเชิงด้วยสายตาดูแคลน เชิงยกแขนทั้งสองข้างขึ้นมากอดอกแล้วยกยิ้มกว้างกลั้วหัวเราะไปด้วย
"คุณหลวงเชิงเจ้าคะ ศพทั้งหมดนี้เป็นไปได้ฤๅไม่ว่าไม่ใช่ฝีมือมนุษย์เจ้าคะ" มณีที่แวะดูสภาพร่างกายของศพตั้งแต่มาถึงจนตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้วมีเพียงไม่กี่คนที่ตนจักพูดเกี่ยวกับปีศาจออกไปได้ แต่เห็นว่าพี่กล้าและพี่เสือกำลังพูดคุยกระไรบางอย่างอยู่เลย เห็นว่าเชิงยังว่างพอที่จักปรึกษาได้
"อืม เป็นได้ไปอย่างที่เจ้าว่า และที่สำคัญพวกปีศาจเหล่านี้อาจจักแอบแฝงหรือจับตามองพวกเราอยู่ด้วยก็ได้ ระวังตัวไว้ด้วยละ" เชิงพูดเห็นด้วยกับที่มณีพูดพร้อมกับยกฝ่ามือขึ้นแล้วเอามาวางลงบนศีรษะแม่มณี ลูบหัวมณีน้องสาวของเหล่าพี่ชายคนตรงหน้าเบา ๆ โดยที่มีพี่ชายทั้งสองคนหันมาเฝ้ามองดูห่าง ๆ ด้วยสายตาขุ่นเคืองภายในใจ
"ตั้งใจทำเช่นนี้ให้พี่ชายข้าหึงฤๅเจ้าคะ ฮิฮิ" มณีหยอกล้อเชิงอย่างเข้าใจในการกระทำของเชิงก่อนจักหัวเราะออกไปเบา ๆ
"แม่หญิงคนฉลาด ข้าล่ะนับถือเจ้าจริง ๆ เจ้าแทบรู้ใจข้าไปทุก ๆ อย่าง" หลวงเชิงเอ่ยคำนับถือพร้อมกับยกมือทั้งสองข้างมือประสานกันโดยที่มือข้างขวากำหมัดไว้ส่วนข้างซ้ายเข้าไปห่อประกบกันจนรวมเป็นหนึ่งในเดียวกัน
"ก็แหงละ ข้าร่วมงานกับคุณเชิงมาตั้งนานจนรู้ไส้รู้พุงเพียงนี้ ข้าก็ต้องรู้ใจเป็นธรรมดา คนแพรวพราวอย่างคุณเชิง ข้ามิชอบดอกเจ้าค่ะ ข้าเชื่อว่าพี่ชายข้าน่าจักรู้จักข้าดี" มณีพูดจาโอ้อวดอย่างขำ ๆ
“งั้นฤๅ”
"นี่ ๆ พวกเจ้าสนิทกันจังเลยนะ" เสือหงุดหงิดแม้ว่าเชิงจักไม่ใช่ใครที่ไหนแต่การเข้ามาเกี้ยวพานน้องสาวต่อหน้าพี่ชายเช่นนี้ มันอดไม่ได้ที่จักหวงน้องสาวของตนเองขึ้นมาทันที
"ก็ต้องสนิทไว้สิ พวกเราอยู่ทีมเดียวกันเชียวหนา ขอบอกเลยเรื่องงาน น้องเจ้าเก่งกาจมากนัก ยอมเข้าไปเป็นตัวประกันแทนแล้วแย่งปืนจากโจรในระยะประชิดได้ เก่งสุด ๆ" เชิงเล่าถึงการทำงานร่วมกับน้องสาวของเสือแล้วภูมิใจยิ่งนัก ลูกทีมที่เลือกมากับมือมีประสิทธิภาพในการทำงานสูงเพียงนี้ แม้เชิงจักเปลี่ยนมาชื่นชมมณีก็เถอะ เสือก็อดขุ่นเคืองไม่ได้ เพราะผู้หญิงกับผู้ชาย เมื่อสนิทสนมกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ย่อมเปลี่ยนความสัมพันธ์ตามประสาหนุ่มสาว
"อ้ากกกกกกกก" เสียงกรีดร้องของจ่าขวานร้องดังออกไปจนทั่วบริเวณนั้น
"เกิดกระไรขึ้น" หลังจากที่สามได้ยินเสียงร้องออกไปจึงรีบหาขวานลูกทีมของสามทันที
"แก้ว แก้วมันโผล่ออกมาจากร่างกายของพวกเขา ขะ... ข้าจักยื่นมือไปเข้าหยิบดูว่ามันโผล่มาได้ไง จู่ ๆ ก็มีกระไรไม่รู้ทิ่มแทงนิ้วข้า ดูสิ มันอยู่บนศพกงนั้น ดูเลือดกงนี้สิ เลือด เลือด อ้ากก" ขวานค่อย ๆ อธิบายและเล่าออกมาเป็นฉาก ๆ เพื่อให้ทุกคนบริเวณนั้นฟังแล้วเข้าใจเขาแต่ก็ค่อย ๆ เริ่มสติแตกเมื่อเห็นเลือดของตนเอง
"ฮะ" เสียงร้องตกใจและความไม่เข้าใจของสามดังออกไปก่อนจักรีบหันไปตามนิ้วของจ่าขวานชี้ไปยังศพร่างนั้น เขาเดินเข้าไปตรวจสอบแต่ไม่พบกระไรเลยจริง ๆ
"จ่า จ่า ฟังข้านะ ตอนนี้ไม่มีแก้วที่เจ้าว่าแล้ว" สามเรียกชื่อของขวานเพื่อเรียกสติกลับมา และบอกให้เขารู้ว่าตอนนี้ไม่มีแก้วบนศพร่างนั้นอย่างที่เขาว่าแล้ว
"จ่า จ่าโดนกระไรแทงจนเสียสติไปแล้วฤๅ จู่ ๆ ก็หลอนกลางวันเช่นนี้ จ่าเสพยาฤๅไม่" สหายยศจ่าด้วยกันพูดออกไปด้วยความสงสัยอาการของจ่าขวานพร้อมกับพูดจารุนแรงว่าร้ายจ่าก่อนจักเข้ามาค้นตัวจ่า
"เฮ้ย! ข้ามีศักดิ์ศรีมากพอนะเว้ย ข้าเห็นแก้วบนศพนั้นจริง ๆ" จ่าขวานปัดมือของคนนั้นออกพร้อมทั้งยืนยันคำเดิมว่าตนเห็นแก้วบนศพร่างนั้นจริง ๆ
"จ่า จ่าเสียสติไปแล้ว ปะ จ่า ไปหาหมอกับข้า" สหายยศจ่าด้วยกันคนนั้นพูดขึ้นพร้อมเอาแขนของจ่าขวานมาพาดบนไหล่ของตนแล้วเดินออกไปจากตรงนั้นทันที จ่าศักดิ์เองก็เป็นห่วงเป็นใยสหายของตนจึงได้เดินตามไปดูแลอีกคน
"จ่าขวานเป็นกระไรฤๅไม่เจ้าคะ" มณีที่อยู่ห่างไกลจากสามจึงวิ่งมายังที่เกิดเหตุช้ากว่าเอ่ยถามสามที่กำลังงุนงงกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นอยู่
"จ่า... จ่าโดนกระไรบางอย่างแทงนิ้วนะ และยังบอกด้วยว่ามีแก้วอยู่บนศพคนนั้น แต่ข้าลองตรวจสอบดูแล้วไม่เห็นมีแก้วอย่างที่จ่าว่าเลย" สามรายงานอาการของจ่าอย่างขวานออกไปตรง ๆ โดยมีเสือ กล้า และเชิงฟังอยู่ด้วยจนมณีสงสัยก็เดินเข้าไปดูด้วยตาตัวเอง
"แก้ว?!" มณีเดินเข้าไปตรวจสอบศพร่างนั้นพบเห็นว่ามีแก้วบนศพร่างนั้นจริง ๆ เธอเผลอพูดออกไปแต่เสียงไม่ดังมากก็รีบเอามือป้องปากทันที
"กระไรฤๅมณี" เสือรีบเดินเข้าไปหามณีทันทีหลังที่เธอเผลอพูดคำว่าแก้วออกไปอย่างเสียงดังในระดับที่เสือได้ยิน เสือหันไปมองดูที่ศพนั้นพบว่าตนเองก็เห็นแก้วบนศพนั้นอย่างที่จ่าขวานพูดถึง ทั้งสองคนมองหน้าแล้วพยักหน้าอย่างเข้าใจกันก่อนจักเดินไปเรียกทั้งเชิงและพี่กล้า แยกออกไปคุยส่วนตัวโดยออกคำสั่งห้ามให้ใครเข้ามารบกวนการคุยส่วนตัวตรงนี้
"ข้าเห็นแก้วอย่างที่จ่าขวานพูดจริง ๆ" เสือพูดออกไปอย่างตรง ๆ ตามที่ตาเห็น มณีพยักหน้าตาม
"มันเป็นเช่นใดฤๅ" เชิงเอ่ยถามลักษณะรูปร่างของแก้วนั้น
"เป็นแก้วทำโดยชาวตะวันตกอย่างแน่นอนเป็นสีน้ำเงินประกายแสงสว่างสีม่วง แต่ว่าในนั้นมีเหมือนกระไรไม่รู้เป็นขน ๆ เป็นข้อ ๆ ยาวประมาณนี้" เสืออธิบายลักษณะของแก้วออกไปก่อนจักกะประมาณความยาวเจ้าขนข้อที่เห็นให้เชิงรับรู้
"รีบไปเก็บกันเถอะ ก่อนจักมีผู้ใดเอาไป" กล้าเสนอความคิดให้รีบไปเก็บแก้วบนศพร่างนั้นทันที ไม่ได้เก็บในเชิงขโมย แต่เก็บเพื่อเรียนรู้มันต่างหากเพราะไหน ๆ ก็ไม่มีใครเห็นแก้วนั้นอยู่ดี