เด็กชายกล้าหาญต้องจบชีวิตลงเพราะคำนาย แต่จู่ ๆ เขาต้องฟื้นคืนชีพในฐานะคนใหม่ทั้งที่จำเรื่องราวทั้งหมดได้ ทุกคนจะยังคงโกหกเขาคนนี้ต่อไปอีกนานแค่ไหน
แฟนตาซี,สืบสวนสอบสวน,รัก,ตลก,ลึกลับ,หญิง-หญิง,ชาย-หญิง,ชาย-ชาย,สืบสวนสอบสวน,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
สิงหดาบเด็กชายกล้าหาญต้องจบชีวิตลงเพราะคำนาย แต่จู่ ๆ เขาต้องฟื้นคืนชีพในฐานะคนใหม่ทั้งที่จำเรื่องราวทั้งหมดได้ ทุกคนจะยังคงโกหกเขาคนนี้ต่อไปอีกนานแค่ไหน
สิงหดาบ ย่อมาจากสิง (โต) หักดาบ
สิงโตแทนบุคคลสำคัญ หักดาบแทนการสละเลือดเนื้อ
ใครกันนะคือสีหราช... เหตุอันใดสีหราชต้องสิ้นชีพลงเพื่อทุกคน
ทุก ๆ อย่างมันเกิดขึ้นด้วยเพียงคำทำนายจากสรวงสวรรค์ส่งสารไปยังทุกคน
เขาคนนั้นมีความลับคือ อนาคตที่ลับแล อนาคตที่แม้แต่เครื่องฉายจิรกาลยังตามมิทัน
ต่อจากไปนี้ โปรดระมัดระวังสิ่งรอบข้างให้มากที่สุด เพราะการทรยศ
ล้วนแปรพักตร์กันเมื่อใดก็ได้ อย่าได้ลืมเสียว่าตนเป็นใคร
มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวที่สุด
เพราะสมองอันล้ำค่า
นิยายเรื่องนี้เป็นนวนิยายแนวสืบสวน โรแมนติก ดราม่า แฟนตาซี และพีเรียดที่เป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียนเท่านั้น
เรื่องราวต่อไปนี้อาจมีเนื้อหาในเรื่องของประวัติศาสตร์ ซึ่งไม่ได้อ้างอิงจากประวัติศาสตร์ใด ๆ ทั้งสิ้น ผู้เขียนได้ทำการสร้างตัวละคร สถานการณ์ต่าง ๆ เพื่อดำเนินเรื่อง อาจมีเนื้อหาบางอย่างเกี่ยวกับวัฒนธรรม อาหาร อ้างอิงจากความจริง
TW : ความสัมพันธ์ที่มีการทำร้าย/การใช้ความรุนแรง ไม่ว่าจะทางร่างกาย จิตใจ คำพูด ความรุนแรงในครอบครัว (พ่อแม่ของตัวเอก)
การทำแท้งโดยไม่ได้ตั้งใจ (เมียรองของพ่อของตัวเอก)
การดูถูกเหยียดหยาม การทำร้าย ใช้ความรุนแรงทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ (ฝั่งตัวร้าย)
ยากระตุ้นความต้องการทางเพศ จำพวกยาเสน่ห์ใช้ภายในเรื่อง
ปีศาจ การตัดแขนและขา กินเนื้อกินเลือดทั้งเผ่าพันธุ์เดียวกันและต่างเผ่าพันธุ์เดียวกัน (ฝั่งตัวร้าย)
โลกเหนือธรรมชาติ ฆาตกรรม เลือด ลักพาตัว การทำร้ายทางเพศ การล่วงละเมิดทางเพศ ข่มขืน(เป็นเรื่องราวจากปากต่อปาก ไม่มีการบรรยายฉากนี้แน่นอนเจ้าค่ะ) ค้ามนุษย์ บังคับเสพยาเสพติด ทารุณกรรมเด็ก อาการซึมเศร้า มีอาการประสาทหลอน ฆ่าตัวตาย การตัดหัวประหารชีวิต
การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ชื่นชอบการเห็นผู้อื่นเจ็บปวด
คำหยาบคาย พูดจาส่อเสียด แบ่งแยกเชื้อชาติและสีผิว การเป็นทาส
แนะนำตัวละคร นายเอก
Cr. Zair or Twitter ของนักวาด : @pinkyxpsycho
ชื่อ : เสือ
อันดับครอบครัว : บุตรชายคนกลางของพ่อสิงห์และแม่มะลิ
ตำแหน่ง : คุณหลวงหน่วยสืบสวนภามณีดา ภาคกลาง
ฉายา : พ่อเสือร้อยเมีย
ข้าต้องตามหาความจริงและความยุติธรรมให้พี่กล้าให้ได้
Cr. Twitter ของนักวาด : @seerdarker
พระเอก
ชื่อ : เชิง
ตำแหน่ง : คุณหลวงหน่วยสืบสวนนภาราม จากภาคเหนือ
ฉายา : พ่อเชิงปากหมา
พี่ชายนายคือกุญแจสำคัญของคดีระดับชาติ
Cr. Twitter ของนักวาด : @Mikumee_
ชื่อ : กล้า
อันดับครอบครัว : บุตรชายคนโตของพ่อสิงห์และแม่มะลิ
สถานะ : สิ้นชีพแล้วเมื่ออายุครบ 15 ปีบริบูรณ์
ถึงเวลาของข้าแล้ว...
ชื่อ : มณี
อันดับครอบครัว : บุตรสาวคนเล็กของพ่อสิงห์และแม่มะลิ
ตำแหน่ง : หมื่นมณี สิงหดาบ หนึ่งในหน่วยสืบสวนลับ
ฉายา : แม่หญิงคนแกร่งแห่งหน่วยสืบสวน
ชื่อ : พวงทอง
อันดับครอบครัว : บุตรสาวคนโตของพ่อสิงห์และแม่สร้อย
ตำแหน่ง : พี่สาวคนโตของบ้าน แม่อีกคนของน้อง ๆ ทำหน้าที่คอยดูแลเรือนเป็นอย่างดี
ฉายา : แม่นม
อย่าดื้อนัก ข้าไม่ได้ดีใจเหมือนพวกแม่ ๆ ของเจ้า
ชื่อ : สิน
อันดับครอบครัว : บุตรชายคนเล็กของพ่อสิงห์และแม่สร้อย
ตำแหน่ง : เป็นลูกชายเอาแต่ใจอยู่บ้านเฉย ๆ ไม่ทำอะไร ทำตัวเป็นคุณชาย
นิสัย : ลูกแง เอาแต่ใจ เป็นคนหัวอ่อนต่อโลกค่อนข้างมากต่างจากพี่สาวของเขา มักโดนหลอกอยู๋บ่อย ๆ
อย่ามาแตะต้องตัวข้า ข้าเป็นบุตรชายของบ้านสิงหดาบเชียวนะ
ชื่อ : เดื่อ
อันดับครอบครัว : บุตรชายคนเดียวของพ่อสิงห์และบ่าวแพง
นิสัย : กล้าหาญและก้าวร้าวมาก ๆ เป็นคนกล้าได้กล้าเสีย อยากรู้อยากเห็น ติดเพื่อนมากที่สุดในบรรดาพี่น้อง จนกระทั่งได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ทำให้นิสัยของเขาเริ่มเปลี่ยนไป
ตำแหน่ง : ความลับ
แม่ข้าตายไปแล้ว ข้าเหลืออะไรบ้างไหม แม่ข้าเป็นเพียงแค่บ่าวรับใช้คนนึง
ชื่อ : สุข
อันดับครอบครัว : บุตรชายคนโตของพ่อสิงห์และแม่พิมพา (แฝดพี่)
นิสัย : หวาดระแวงกับทุกอย่างในชีวิตเพราะตั้งแต่เด็กโดนลักพาตัวมากกว่า 3 ครั้ง จนครั้งล่าสุดจัดเป็นคดีค้ามนุษย์ที่สุขเป็นเหยื่อคนแรกที่มีชีวิตรอดออกมาได้ ทำให้ปมครั้งนี้เขามีนิสัยกลัวการออกสังคม กลัวการเจอคนแปลกหน้า จึงถูกเลี้ยงให้อยู่แต่ในบ้าน บางครั้งแม่พวงทองสงสารจึงชวนไปทำกิจกรรมร่วมกันด้วย
ข้ากลัว...
ชื่อ : จันทร์
อันดับครอบครัว : บุตรสาวของรองของพ่อสิงห์และแม่พิมพา (แฝดน้อง)
นิสัย : ร้อนใจ เข้มแข็งทุก ๆ สถานการณ์ อิจฉาพี่น้องต่างแม่มากที่สุด
ชื่อ : นิ่มนวล
อันดับครอบครัว : บุตรสาวคนเล็กของพ่อสิงห์และแม่พิมพา
นิสัย : ใจดีมาก ๆ นิสัยต่างขั้วกับพี่สาวของเธออย่างแม่จันทร์เลย เป็นผู้หญิงที่มีความคิดสวยงาม อ่อนโยนและอ่อนต่อโลกด้วย
ชื่อ : แย้ม
อันดับครอบครัว : บุตรสาวคนโตของพ่อสิงห์และแม่เรไร
นิสัย : เอาแต่ใจ ค่อนข้างกัดจิกกับทุกคนในแม่ รวมถึงแม่ของตนเองด้วย เป็นคนรอบรู้เรื่องของชาวบ้านที่สุด
ชื่อ : บังอร
อันดับครอบครัว : บุตรสาวของรองของพ่อสิงห์และแม่เรไร
นิสัย : เป็นบุคคลที่โดนเลี้ยงมาโดยการตามใจมาโดยตลอด และยังมีใบหน้าสวยที่สุดในบรรดาพี่น้อง จึงทำให้มีความคิดหลงตัวสูง และคิดว่าตัวเองทำอะไรมักจะถูกต้องเสมอ
ชื่อ : เดช
อันดับครอบครัว : บุตรชายคนเล็กของพ่อสิงห์และแม่เรไร
นิสัย : สู้สุดใจ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าเก่งแม้จะเคยโดนลักพาตัวไปครั้งเดียว ก็พยายามพาตัวเองออกจากปมให้ได้ นักว่าเป็นบุคคลที่เก่งด้วยตัวเองอีกคน มีนิสัยใจเย็นกว่าพี่น้องของแม่เรไรหมดเลย
ชื่อ : จ้อย
อันดับครอบครัว : กำพร้า เป็นเด็กวัดภาคเหนือ
นิสัย : มีความเห็นอกเห็นใจแต่ก็ยังมีบางมุมที่เป็นคนใจร้าย
ตำแหน่ง : ความลับ
ชื่อ : ชาญ
อันดับครอบครัว : บุตรชายคนโตของพ่อแม่คู่นึงจากภาคกลาง
นิสัย : นิ่งเงียบ แต่การตัดสินใจค่อนข้างฉลาดกันเลยทีเดียว
ลำดับพี่น้อง
พ่อกล้า > พ่อเสือ > พ่อเดื่อ > แม่พวงทอง > แม่มณี > แม่แย้ม > พ่อสุข > แม่จันทร์ > พ่อสิน > แม่บังอร > แม่นิ่มนวล > พ่อเดช
คู่เอก เชิง - เสือ - ชาญ
คู่รอง กล้า - จ้อย , วีรดา - มณี
เด็กชายทั้งสามคนวิ่งหนีไม่คิดชีวิตหลุดพ้นป่านั้นเสียแล้วก็รีบวิ่งหาสถานที่คุ้นเคย ทั้งสามคนทำตัวเป็นกระต่ายตื่นตูมทั้งที่ผมของพวกเขานั้นกำลังฟูตั้งผิดธรรมชาติ ทำให้ชาวบ้านสงสัยในตัวพวกเขาอย่างยิ่ง ก็มีผู้ชายผู้กล้าคนหนึ่งเดินเข้ามาทักทายเด็กทั้งสามคน
"ไอ้หนู พวกเอ็งเป็นกระไรฤๅไม่"
"ผี"
"ผี"
"ผี"
เด็กทั้งสามคนทั้งกล้าหญ เชิง และชาญพูดออกมาเป็นเสียงเดียวกัน
"ผีเผลอกระไรกัน" ผู้ชายผู้กล้าคนนั้นถามด้วยความประหลาดใจ
"ผีมีจริง ๆ" เชิงพูด ทำให้ชาวบ้านที่ได้ยินนั้นเริ่มมีปากมีเสียงพูดคุยกันรอบข้าง
"ธรรมนิตย์! วัดธรรมนิตย์! พวกเจ้ารู้จักวัดธรรมนิตย์ฤๅไม่" เชิงตะโกนอย่างสุดเสียง
"ก็แค่ตำนานที่เขาเล่ากันต่อ ๆ หนา" ชายผู้กล้าคนนั้นไม่เชื่อในสิ่งที่เด็กพูด
"เจ้าเด็กพวกนี้พูดความจริง" ชายชราคนหนึ่งเดินผ่านมาได้ยินที่เด็กชายทั้งสามคนและชายผู้กล้าคนนั้นพูดกันจึงเอ่ยเข้าข้างเด็กทั้งสามคนทันที
"โถ่ตา! มันจักไปมีจริงได้ไงกัน เพ้อเจ้อหนาตา" ชายผู้กล้าคนนั้นไม่เชื่อในสิ่งที่เด็กพูดสุดขีดเลยพูดจาลบลู่ออกมา ไม่ทันใดชายผู้กล้าคนนี้ก็ค่อย ๆ ชัก ดิ้นรนความเจ็บป่วยภายในจนน้ำลายฟูออกมาจากปาก ดวงตาเริ่มเปลี่ยนสีขาวล้วน
"ผู้ใดลบลู่ก็จักจบชีวิตเช่นเจ้านี้แหละ" ชายชราพูดทั้งที่ยกไม้เท้าชี้ไปยังชายผู้กล้าคนนั้นที่หมดสติไป
"ตำนานวัดธรรมนิตย์มีจริงฤๅเนี่ย" ชาวบ้านคนหนึ่งเอ่ยดังให้ชายชราได้ยิน
"เออ! มีจริงเว้ย ไม่งั้นไอ้หนุ่มคนนี้จักหมดสติไปเยี่ยงนี้ฤๅวะ" ชายชรารีบพูดตอบ
"พวกเอ็งหันหลังกลับไปมองมันใช่ฤๅไม่" ชายชราเอ่ยถามทั้ง ๆ ที่ตนนั้นรู้คำตอบนั้นดี
"ข้า..." กล้าหาญลังเลที่จักพูดมันออกไป
"ฮืออออออ ฮือออออ แม่จ๋าาาา พ่อจ๋า ฮือออออ ฮือออ" จู่ ๆ เด็กชายเชิงปล่อยเสียงโฮโดยไม่อายใครเพราะตนนั้นอดกลั้นกับสิ่งที่เจอไม่ไหว น้ำตาของเด็กชายไหลทะลักออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ความรู้สึกของเขาที่สั่นกลัวไปทั่วเรือนร่างจนทรุดตัวลง
เด็กชายเชิงร้องไห้ออกมาอย่างเสียงดังจนทำให้ผู้คนทั้งตลาดบ้านใหญ่หันมามองเป็นจุดสนใจเดียวกัน ก็มีชายสูงวัยคนหนึ่งได้ยินนั้นจึงรีบเข้ามาดู
"ลูกเชิง!!" เสียงเรียกชื่อลูกชายของท่านพระยาอติวิชญ์ตะโกนจากกลุ่มผู้คนที่ยืนดู
"คุณพ่อ ฮึก!" ขาทั้งสองข้างของเขาไม่สามารถขยับได้ ทำให้เด็กชายเชิงเลือกเงื้อแขนทั้งสองข้างอ้าออกมาเพื่อให้คุณพ่อของเขามารับกอดนี้ ท่านพระยาอติวิชญ์รีบวิ่งเข้าไปโอบกอดลูกชายทั้งสองคนทันที
"พ่อตามหาลูกตั้งนาน ลูกหายไปไหนมาฤๅ" ท่านพระยาอติวิชญ์คลายกอดลูกทั้งสองก่อนจักเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใย ฝ่ามือของเขาลูบหัวลูกเชิงและลูกชาญอย่างอ่อนโยนก่อนจักหันไปมองเด็กชายกล้าหาญที่ยืนข้าง ๆ
"เอ็งใช่ฤๅไม่ เอ็งทำกระไรลูกข้า!! พ่อแม่เอ็งไม่สั่งไม่สอนฤๅไงถึงทำร้ายลูกข้าเช่นนี้!!" ท่านพระยาอติวิชญ์เดาสถานการณ์เอาเองทั้งตะคอกกระแทกเสียงด้วยน้ำเสียงกริ้วโกรธใส่เด็กชายกล้าหาญ
"มิใช่หนาขอรับ" กล้าหาญปฏิเสธสุดเสียงที่มี
"กระผมมิได้กระทำอันใดเลยหนาขอรับ" จู่ ๆ ฝ่ามือหนาของพระยาอติวิชญ์เข้าไปดึงแขนของเด็กชายกล้าหาญจนเจ็บ
"ปล่อยหนาขอรับ"
"ใครก็ได้ช่วยกระผมด้วย"
"ช่วยด้วย"
"ท่านพระยาคุณาสินช่วยข้าด้วย"
กล้าหาญตะโกนสุดเสียงแต่ก็ยังคงเบากว่าเสียงปกติอยู่ดีเพราะกล้าหาญนั้นก็หมดแรงไม่แพ้เชิงและชาญ
"หยุดเดี๋ยวนี้!!" เสียงดังออกมาจากข้างหลังชาวบ้านที่ยืนมุงดูสถานการณ์ ปรากฎว่าปลายเสียงนั้นคือท่านพระยาคุณาสินพร้อมกับจูงมือของหญิงบุษบามาด้วย และบ่าวคนสนิทของพระยาคุณาสินก็ตามมารับใช้ห่าง ๆ ด้วย
"เอ็งทำกระไรลูกข้า ข้าไม่ยอมแน่!" ท่านพระยาคุณาสินเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่นทั้งที่ข่มอารมณ์ของตนเองไว้หลังเห็นพระยาอติวิชญ์ทำร้ายลูกกล้าของตน
"ลูกชายท่านฤๅ รู้ฤๅไม่ว่าลูกชายท่านทำลูกเชิงของข้าร้องไห้เช่นนี้ จักให้ข้าคิดเช่นใดฤๅ" พระยาอติวิชญ์เอ่ยอย่างมีเหตุผลแต่เป็นมุมมองของตนเองเท่านั้น ทั้งนี้กล้าหาญรู้สึกโล่งใจขึ้นและหมดแรงจนยืนแทบไม่ไหวเลยล้มลงไปนั่งกับพื้น
"ลูกกล้า ลูกกล้า" พระยาคุณาสินปล่อยมือของหญิงบุษบาแล้วรีบเข้าหากล้าหาญทันทีที่เห็นเช่นนั้น หญิงบุษบาได้ยินเช่นนั้นได้แต่อึ้งจนพูดไม่ออก
"..."
"เอ็งทำร้ายลูกข้าฤๅ" พระยาคุณาสินเอ่ยเถียงทันทีหลังเห็นรอยบาดแผลบนตัวของกล้าหาญ
"อย่ามาใส่ร้ายข้านะเว้ย" พระยาอติวิชญ์เถียงกลับด้วยความไม่ยอมกัน
"คุณพ่อขอรับ..." เสียงอ่อนแรงของเชิงเรียกหาท่านพระยาอติวิชญ์
"มีกระไรฤๅลูกเชิง" พระยาอติวิชญ์รีบเอ่ยถามลูกชายสุดรักสุดหวงทันที
"มิใช่กล้าขอรับ กล้าคือสหายของเรา ตรัยต่างหากที่ทำร้ายพวกเราแล้วก็ผะ...ผี ฮืออออ ผี ผี ผี" เด็กชายเชิงพยายามพูดแก้ไขให้กล้าเพราะกล้าหาญนั้นเป็นเพียงสหายของตน เชิงพยายามไล่เรียบเรียงสถานการณ์เมื่อคืนวานให้คุณพ่อท่านฟังแต่จู่ ๆ ก็เสียสติไปแล้ว
"ลูกเชิง ลูกเชิง! โห ลูกพ่อ อย่าเป็นกระไรไปหนา พ่อใจจักขาด" พระยาอติวิชญ์เห็นอาการของลูกชายไม่ดีจึงรีบสวมกอดแน่วแน่นเพื่อปลอบใจลูกชาย ตนไม่รอช้าจึงคลายกอดนั้นแล้วอุ้มเรือนร่างของลูกชายตนมุ่งตรงไปหาหมอทันทีโดยที่ชาญนั้นวิ่งตามคุณพ่อท่านไปติด ๆ โชคดีนักที่ในตลาดบ้านใหญ่มีหมอประจำตำแหน่งอยู่บ้าง พระยาคุณาสินเห็นเช่นนั้นจึงรีบจูงมือหญิงบุษบาแล้วมารับลูกกล้าไปหาหมอตามพระยาอติวิชญ์ทันที
ณ แพทย์สนามประจำตลาดบ้านใหญ่
"ให้พวกเด็ก ๆ พักผ่อนเสียก่อนหนาขอรับ เด็ก ๆ มิเป็นกระไรมากหนาขอรับ" หมอพูดถึงอาการเบื้องต้นของเด็กชายทั้งสามคน เห็นว่าไม่เป็นกระไรมากเลยขอให้เด็ก ๆ ได้พักผ่อนเสียก่อน
"ขอบคุณขอรับ" พระยาคุณาสินและพระยาอติวิชญ์เอ่ยคำขอบคุณคุณหมอพร้อมกัน ทั้งสองคนได้ยินเช่นนั้นจึงหันมาเบะปากใส่กันเพราะความไม่ถูกกัน
"ลูกเอ็งทำร้ายลูกข้า"
"ลูกเอ็งต่างหาก ที่ทำร้ายลูกข้า"
ทั้งพระยาคุณาสินและพระอติวิชญ์เอาแต่หาเรื่องกันไม่จบสิ้น
"พอเถอะขอรับ กล้ามิใช่คนทำร้ายพวกเราดอกขอรับ ไอ้ตรัยลูกชายของท่านพระยาชรัญต่างหาก" ด้วยความรำคาญหูของชาญจึงรีบเฉลยว่าผู้ใดเป็นคนทำร้ายเด็ก ๆ ทั้งสามคน
"ฮะ! ตะ...ตรัยเนี่ยนะ!?" พระยาอติวิชญ์อึ้งไปชั่วคู่ก่อนจักเอ่ยปากถามลูกชายอีกครั้งเพราะพระยาชรัญเป็นเพื่อนร่วมรุ่นเดียวกับตน
"ขอรับ" ชาญพยักพเยิดตอบ
"มันไม่ตายดีแน่ กูบอกไว้ก่อน!" พระคุณาสินพูดตะคอกขึ้นมาแล้วทำตาขึงใส่พระยาอติวิชญ์อย่างไม่ชอบใจ
"แล้วมาพูดขึ้นเสียงดังใส่กูทำไม" พระยาอติวิชญ์ตะคอกถามใส่พระคุณาสินกลับ
"กูไม่ชอบมึง"
"แล้วมึงคิดว่ากูชอบมึงนักฤๅวะ"
"เห้อออ"
เสียงถอนหายใจของหญิงบุษบาดังขึ้นแล้วเดินหนีออกจากตรงนั้นไปทันที เธอพยายามแสดงออกให้พ่อท่านเห็นว่าเธอกำลังงอนแล้วเดินหนีกลับเรือนทันที พระยาคุณาสินเห็นเยี่ยงนั้นก็รีบตามลูกสาวไปทันที ก่อนไปได้เอ่ยคำสั่งให้บ่าวคนสนิทรอเฝ้าลูกกล้าไว้ไม่ให้ห่างตนจึงรีบเดินออกไปทันที พระยาคุณาสินพยายามพูดคุยกับลูกสาวตลอดทางแต่เธอก็ไม่ยอมพูดกระไรเลย
ณ เรือนของพระยาคุณาสิน
"บุษบา ลูกพ่อ! หันมาคุยกับพ่อก่อน" พระยาคุณาสินพยายามเรียกชื่อของลูกสาวของตนแล้วแต่เธอไม่ยอมหันเสียทีเลยจำใจต้องแตะต้องเนื้อต้องตัวของเธอเพื่อให้เธอหันมาหาตน
"ลูกกล้า!? เขาเป็นลูกอีกคนของพ่อฤๅเจ้าคะ" หญิงบุษบากระแทกเสียงถามพระยาคุณาสินทันที ทำให้พระยาคุณาสินเบิกดวงกว้างอย่างตกตะลึงเพราะไม่คิดมาเสียก่อนว่าลูกสาวของตนจักอารมณ์ไม่ดีจนขึ้นเสียงใส่ผู้เป็นพ่อช่นนี้
"กระไรฤๅ เขาเป็นพี่ชายของลูกหนา อย่าทำกิริยามารยาทเช่นนี้เลยหนา มันไม่งาม" พระยาคุณาสินพยายามพูดดี ๆ ด้วยก่อนจักเดินเข้ามาจับตัวลูกสาว แต่หญิงบุษบาไม่ยอมให้พระยาคุณาสินแตะต้องร่างกายของเธอเลย
"ลูกไม่พอใจที่ลูกกล้าเป็นลูกอีกคนของพ่อฤๅ" พระยาคุณาสินเอ่ยถามหญิงบุษบาด้วยน้ำเสียงใจเย็น เขาขบกรามแน่นด้วยความอึดอัดใจ
"เจ้าค่ะ ไยคุณท่านถึงมิเคยบอกข้าเลยว่าพี่กล้าเป็นพี่ชายของลูก ไยวันนั้นพ่อถึงทำเป็นไม่รู้จักพี่กล้าเจ้าคะ" หญิงบุษบาพูดความในใจออกมาจนหมดเปลือกพร้อมทั้งเขวี้ยงตุ๊กตาที่ท่านพระยาคุณาสินซื้อให้ตอนที่ไปเดินเล่นตลาดบ้านใหญ่ก่อนจักเจอกล้าหาญ
"ว้ายตายแล้ว คุณบุษบาเจ้าคะ อย่าทำเยี่ยงนี้เลยหนาเจ้าค่ะ" บ่าวคนสนิทของคุณหญิงบุษบารีบเข้ามาห้ามทันทีพร้อมทั้งโอบกอดไว้ เพราะกลัวคุรท่านจักลงโทษลูกสาว
"อย่าทำกระไรแม่นายของบ่าวเลยหนาเจ้าค่ะ หากจักลงโทษโปรดลงโทษบ่าวเถิดเจ้าค่ะ" บ่าวคนสนิทรู้ชะตากรรมนั้นดีจึงรีบคลานเข้าไปกอดขาพระยาคุณาสินก่อนจักเอ่ยออกมาพร้อมน้ำตาไหลออกมา เธอเอ่ยด้วยความสงสารผู้เป็นนาย
"ไยลูกถึงทำเช่นนี้ ฮะ!!!!" พระยาคุณาสินพูดด้วยเสียงเรียบก่อนจักขึ้นเสียงสุดขีดใส่หญิงบุษบาจนทำให้หญิงบุษบาสะดุ้งกลัวจนตัวสั่น
"แล้วไยคุณพ่อถึงไม่ยอมบอกลูกล่ะเจ้าค่ะ ลูก... ลูกรักเขาเจ้าค่ะ ลูกรักเขาเจ้าค่ะ" หญิงบุษบาเอ่ยถามทั้งที่น้ำเสียงตะคอกใส่พระยาคุณาสินแล้วค่อยเปลี่ยนน้ำเสียงเป็นอ่อนนุ่มหลังพูดถึงกล้าหาญ หญิงบุษบากระพริบตาทั้งที่ยังคงสั่นกลัวคุณพ่อท่าน น้ำตาของเธอนั้นไหลออกมาจนอาบแก้มของเธอเพราะความรักเจือความเสียใจ
"ไม่ได้ มันผิดศีล ลูกกับพ่อกล้าเป็นพี่น้องกัน!" พระยาคุณาสินห้ามสุดความสามารถ เพราะตนไม่ยอมให้หญิงบุษบาลูกสาวของตนรักกับกล้าหาญเป็นอันขาด
"แต่ลูกมิได้เป็นลูกในสายเลือดของคุณพ่อ ไยลูกจักรักพี่กล้าไม่ได้เจ้าคะ" หญิงบุษบายังคงหาเหตุผลที่จักรักพี่กล้าต่อไปให้ได้
"ถึงเจ้าจักมิใช่ลูกในสายเลือดแท้ ๆ ของพ่อ แต่ลูกก็รักพ่อกล้าไม่ได้ เพราะโชคชะตาของพวกลูกไม่คู่ควรกัน" พระยาคุณาสินเองก็ลำบากใจจนอยากร้องไห้แต่ทำได้แค่อดกลั้นน้ำตาไว้ พร้อมทั้งพูดถึงโชคชะตากรรมของเด็กทั้งสองคน
"คุณพ่อเอาดวงของลูกไปเปิดฤๅเจ้าคะ ลูกมิเคยอนุญาตเลยหนาเจ้าค่ะ" หญิงบุษบาไม่พอใจที่พ่อท่านเอาดวงของตนไปเปิดโดยที่เธอไม่เคยอนุญาตมาก่อน
"งั้นก็พิสูจน์ให้เห็นต่อหน้าไปเลย หากโชคชะตาของลูกไม่ถูกกับพ่อกล้า ลูกต้องแต่งงานกับคนที่พ่อจัดให้!" พระยาคุณาสินไม่สบอารมณ์จึงท้าออกไปทั้ง ๆ ที่เขาพูดไปก่อนหน้านี้เป็นเรื่องโกหก ตนไม่อยากให้ลูกสาวได้รักกับพ่อกล้าหาญ ตนอยากให้ลูกสาวของสหายอย่างโชคได้รู้ว่าลูกสาวของตนอยู่ดีกับสามีที่สามารถดูแลและรักเธอเป็นอย่างดี ผิดกับพ่อกล้าที่ต้องหลบซ่อนเรื่องราวต่าง ๆ และมันก็อันตรายทั้งสิ้น ตนจึงไม่ยอมให้หญิงบุษบามาเสี่ยงชีวิตกับพ่อกล้าเป็นอันขาด
"ก็เอาเลยเจ้าค่ะ" แม้แต่เธอเองก็อยากรู้ว่าเรื่องที่พูดมาโกหกหรือจริงเลยเอ่ยท้าด้วยคน
"ไว้วันหลัง" พระยาคุณาสินได้ยินเช่นนั้นก็ปัดเรื่องนี้ทันที
"กระไรเจ้าคะ เพราะที่พูดไปเป็นเรื่องโกหกใช่ฤๅไม่เจ้าคะ" หญิงบุษบาเอ่ยถามอย่างสงสัยและพยายามหรี่ตามองจับผิดพระยาคุณาสินผู้เป็นบิดาตน
"มิใช่ ข้าต้องไปดูลูกกล้า ป่านนี้จักเป็นเยี่ยงไรก็ไม่รู้" พระยาคุณาสินโมโหกลบเกลื่อนก่อนจักรีบเดินหนีลงจากเรือน
ไม่กี่วันต่อมาท่านพระยาคุณาสินใช้ให้บ่าวในเรือนพาตัวกล้าหาญมายังที่เรือนของตน ไม่เพียงแค่นั้นยังหาหมอดูมาทำนายโชคชะตาของลูก ๆ ของตนด้วย หมอดูทำพิธีก่อนจักเริ่มดูลายมือของทั้งสองคน
"อือ ความรักของพวกเอ็งช่างเป็นความรักที่ไม่ควรนัก" หมอดูพูดขึ้นทำให้พระยาคุณาสินโล่งใจขึ้นทันที เพราะตนนั้นให้บ่าวไปตามหมอดูที่สามารถโกหกโชคชะตากรรมของเด็กทั้งสองคนได้ แต่กลับไม่มีหมอดูคนใดรับ เพราะมันเป็นเรื่องผิด ตนจึงต้องยอมรับคำตอบจากความจริง
"หากพวกเอ็งฝืนรักกันต่อไป จักมีคนใดคนหนึ่งที่จักพาความฉิบหายมาสู่เรือนคุณาสิน" เพียงคำนายของหมอดูทำเอาแววตาของพระยาคุณาสินลุกเป็นเปลวไฟเพราะกว่าจักเป็นพระยาคุณาสิน ตนพยายามมาอย่างมาก กว่าจักมีวันนี้ ตนจึงไม่ยอมเป็นอันขาดที่จักให้ผู้ใดเข้ามาพังทลายมัน เขากำมือแน่นจนเล็บของเขาจิกเข้าเนื้อของเขา เขาหลุบตาลงแล้วเบือนหน้าหนี พยายามข่มอารมณ์ของตัวเองไว้
"ได้คำตอบที่พอใจเจ้าแล้วนะ จากนี้ไปลูกต้องแต่งงานกับคนที่พ่อเลือก" พระยาคุณาสินหันไปพูดกับลูกสาวอย่างหญิงบุษบาก่อนจักเปลี่ยนน้ำเสียงหนักแน่น
"มิได้หนาขอรับ ข้ารักแม่บุษบา ได้โปรดอย่าห้ามพวกเราทั้งสองเลยหนาขอรับ" กล้าหาญได้ยินเช่นนั้นจึงไม่ยอมทันที ทั้ง ๆ ที่ตนเองนั้นก็ได้ยินคำทำนายจากหมอดูไปแล้ว กล้าหาญจึงพยายามเข้าใกล้หญิงบุษบา ทั้งสองคนพยายามเข้าหา แต่พระยาคุณาสินสั่งให้บ่าวจับแยกไว้ทัน ทั้งสองคนร้องรำพันด้วยความโศกเศร้าเสียใจที่ต้องจากกัน
"พาพ่อกล้ากลับเรือนประเดี๋ยวนี้!! และข้าขอสั่งห้ามเจ้ามาเหยียบที่เรือนของข้าอีก" พระยาคุณาสินยื่นคำขาดแก่กล้าหาญ
“ไม่นะ คุณกล้า”
“บุษบา”
“คุณกล้าอย่าจากข้าไปหนาเจ้าค่ะ ปล่อย ปล่อยข้า ข้าบอกให้พวกเจ้าปล่อยข้าไง”
“บุษบา บุษบา”
“คุณกล้า ได้โปรดอย่าจากข้าไป”
“มั่นปล่อยข้า ข้าบอกให้เอ็งปล่อยข้าไงมั่น”
ทั้งหญิงบุษบาและกล้าหาญถูกบ่าวทั้งสองฝ่ายห้ามเอาไว้แล้วถูกลากกลับเข้าเรือนไป
"ข้าขอโทษหนาพ่อกล้า ข้าจำเป็นต้องทำเช่นนี้" พระยาคุณาสินพูดทั้งที่ตนนั้นส่งสายตามองออกไปยังแผ่นหลังของพ่อกล้าที่กำลังถูกบ่าวมั่นพากลับเรือนไป พระยาคุณาสินทำไปเพราะรู้ดีว่าจักเกิดอันใดขึ้นจึงทำใจยอมรับมันในตอนนี้เสียก่อน