เด็กชายกล้าหาญต้องจบชีวิตลงเพราะคำนาย แต่จู่ ๆ เขาต้องฟื้นคืนชีพในฐานะคนใหม่ทั้งที่จำเรื่องราวทั้งหมดได้ ทุกคนจะยังคงโกหกเขาคนนี้ต่อไปอีกนานแค่ไหน
แฟนตาซี,สืบสวนสอบสวน,รัก,ตลก,ลึกลับ,หญิง-หญิง,ชาย-หญิง,ชาย-ชาย,สืบสวนสอบสวน,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
สิงหดาบเด็กชายกล้าหาญต้องจบชีวิตลงเพราะคำนาย แต่จู่ ๆ เขาต้องฟื้นคืนชีพในฐานะคนใหม่ทั้งที่จำเรื่องราวทั้งหมดได้ ทุกคนจะยังคงโกหกเขาคนนี้ต่อไปอีกนานแค่ไหน
สิงหดาบ ย่อมาจากสิง (โต) หักดาบ
สิงโตแทนบุคคลสำคัญ หักดาบแทนการสละเลือดเนื้อ
ใครกันนะคือสีหราช... เหตุอันใดสีหราชต้องสิ้นชีพลงเพื่อทุกคน
ทุก ๆ อย่างมันเกิดขึ้นด้วยเพียงคำทำนายจากสรวงสวรรค์ส่งสารไปยังทุกคน
เขาคนนั้นมีความลับคือ อนาคตที่ลับแล อนาคตที่แม้แต่เครื่องฉายจิรกาลยังตามมิทัน
ต่อจากไปนี้ โปรดระมัดระวังสิ่งรอบข้างให้มากที่สุด เพราะการทรยศ
ล้วนแปรพักตร์กันเมื่อใดก็ได้ อย่าได้ลืมเสียว่าตนเป็นใคร
มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวที่สุด
เพราะสมองอันล้ำค่า
นิยายเรื่องนี้เป็นนวนิยายแนวสืบสวน โรแมนติก ดราม่า แฟนตาซี และพีเรียดที่เป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียนเท่านั้น
เรื่องราวต่อไปนี้อาจมีเนื้อหาในเรื่องของประวัติศาสตร์ ซึ่งไม่ได้อ้างอิงจากประวัติศาสตร์ใด ๆ ทั้งสิ้น ผู้เขียนได้ทำการสร้างตัวละคร สถานการณ์ต่าง ๆ เพื่อดำเนินเรื่อง อาจมีเนื้อหาบางอย่างเกี่ยวกับวัฒนธรรม อาหาร อ้างอิงจากความจริง
TW : ความสัมพันธ์ที่มีการทำร้าย/การใช้ความรุนแรง ไม่ว่าจะทางร่างกาย จิตใจ คำพูด ความรุนแรงในครอบครัว (พ่อแม่ของตัวเอก)
การทำแท้งโดยไม่ได้ตั้งใจ (เมียรองของพ่อของตัวเอก)
การดูถูกเหยียดหยาม การทำร้าย ใช้ความรุนแรงทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ (ฝั่งตัวร้าย)
ยากระตุ้นความต้องการทางเพศ จำพวกยาเสน่ห์ใช้ภายในเรื่อง
ปีศาจ การตัดแขนและขา กินเนื้อกินเลือดทั้งเผ่าพันธุ์เดียวกันและต่างเผ่าพันธุ์เดียวกัน (ฝั่งตัวร้าย)
โลกเหนือธรรมชาติ ฆาตกรรม เลือด ลักพาตัว การทำร้ายทางเพศ การล่วงละเมิดทางเพศ ข่มขืน(เป็นเรื่องราวจากปากต่อปาก ไม่มีการบรรยายฉากนี้แน่นอนเจ้าค่ะ) ค้ามนุษย์ บังคับเสพยาเสพติด ทารุณกรรมเด็ก อาการซึมเศร้า มีอาการประสาทหลอน ฆ่าตัวตาย การตัดหัวประหารชีวิต
การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ชื่นชอบการเห็นผู้อื่นเจ็บปวด
คำหยาบคาย พูดจาส่อเสียด แบ่งแยกเชื้อชาติและสีผิว การเป็นทาส
แนะนำตัวละคร นายเอก
Cr. Zair or Twitter ของนักวาด : @pinkyxpsycho
ชื่อ : เสือ
อันดับครอบครัว : บุตรชายคนกลางของพ่อสิงห์และแม่มะลิ
ตำแหน่ง : คุณหลวงหน่วยสืบสวนภามณีดา ภาคกลาง
ฉายา : พ่อเสือร้อยเมีย
ข้าต้องตามหาความจริงและความยุติธรรมให้พี่กล้าให้ได้
Cr. Twitter ของนักวาด : @seerdarker
พระเอก
ชื่อ : เชิง
ตำแหน่ง : คุณหลวงหน่วยสืบสวนนภาราม จากภาคเหนือ
ฉายา : พ่อเชิงปากหมา
พี่ชายนายคือกุญแจสำคัญของคดีระดับชาติ
Cr. Twitter ของนักวาด : @Mikumee_
ชื่อ : กล้า
อันดับครอบครัว : บุตรชายคนโตของพ่อสิงห์และแม่มะลิ
สถานะ : สิ้นชีพแล้วเมื่ออายุครบ 15 ปีบริบูรณ์
ถึงเวลาของข้าแล้ว...
ชื่อ : มณี
อันดับครอบครัว : บุตรสาวคนเล็กของพ่อสิงห์และแม่มะลิ
ตำแหน่ง : หมื่นมณี สิงหดาบ หนึ่งในหน่วยสืบสวนลับ
ฉายา : แม่หญิงคนแกร่งแห่งหน่วยสืบสวน
ชื่อ : พวงทอง
อันดับครอบครัว : บุตรสาวคนโตของพ่อสิงห์และแม่สร้อย
ตำแหน่ง : พี่สาวคนโตของบ้าน แม่อีกคนของน้อง ๆ ทำหน้าที่คอยดูแลเรือนเป็นอย่างดี
ฉายา : แม่นม
อย่าดื้อนัก ข้าไม่ได้ดีใจเหมือนพวกแม่ ๆ ของเจ้า
ชื่อ : สิน
อันดับครอบครัว : บุตรชายคนเล็กของพ่อสิงห์และแม่สร้อย
ตำแหน่ง : เป็นลูกชายเอาแต่ใจอยู่บ้านเฉย ๆ ไม่ทำอะไร ทำตัวเป็นคุณชาย
นิสัย : ลูกแง เอาแต่ใจ เป็นคนหัวอ่อนต่อโลกค่อนข้างมากต่างจากพี่สาวของเขา มักโดนหลอกอยู๋บ่อย ๆ
อย่ามาแตะต้องตัวข้า ข้าเป็นบุตรชายของบ้านสิงหดาบเชียวนะ
ชื่อ : เดื่อ
อันดับครอบครัว : บุตรชายคนเดียวของพ่อสิงห์และบ่าวแพง
นิสัย : กล้าหาญและก้าวร้าวมาก ๆ เป็นคนกล้าได้กล้าเสีย อยากรู้อยากเห็น ติดเพื่อนมากที่สุดในบรรดาพี่น้อง จนกระทั่งได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ทำให้นิสัยของเขาเริ่มเปลี่ยนไป
ตำแหน่ง : ความลับ
แม่ข้าตายไปแล้ว ข้าเหลืออะไรบ้างไหม แม่ข้าเป็นเพียงแค่บ่าวรับใช้คนนึง
ชื่อ : สุข
อันดับครอบครัว : บุตรชายคนโตของพ่อสิงห์และแม่พิมพา (แฝดพี่)
นิสัย : หวาดระแวงกับทุกอย่างในชีวิตเพราะตั้งแต่เด็กโดนลักพาตัวมากกว่า 3 ครั้ง จนครั้งล่าสุดจัดเป็นคดีค้ามนุษย์ที่สุขเป็นเหยื่อคนแรกที่มีชีวิตรอดออกมาได้ ทำให้ปมครั้งนี้เขามีนิสัยกลัวการออกสังคม กลัวการเจอคนแปลกหน้า จึงถูกเลี้ยงให้อยู่แต่ในบ้าน บางครั้งแม่พวงทองสงสารจึงชวนไปทำกิจกรรมร่วมกันด้วย
ข้ากลัว...
ชื่อ : จันทร์
อันดับครอบครัว : บุตรสาวของรองของพ่อสิงห์และแม่พิมพา (แฝดน้อง)
นิสัย : ร้อนใจ เข้มแข็งทุก ๆ สถานการณ์ อิจฉาพี่น้องต่างแม่มากที่สุด
ชื่อ : นิ่มนวล
อันดับครอบครัว : บุตรสาวคนเล็กของพ่อสิงห์และแม่พิมพา
นิสัย : ใจดีมาก ๆ นิสัยต่างขั้วกับพี่สาวของเธออย่างแม่จันทร์เลย เป็นผู้หญิงที่มีความคิดสวยงาม อ่อนโยนและอ่อนต่อโลกด้วย
ชื่อ : แย้ม
อันดับครอบครัว : บุตรสาวคนโตของพ่อสิงห์และแม่เรไร
นิสัย : เอาแต่ใจ ค่อนข้างกัดจิกกับทุกคนในแม่ รวมถึงแม่ของตนเองด้วย เป็นคนรอบรู้เรื่องของชาวบ้านที่สุด
ชื่อ : บังอร
อันดับครอบครัว : บุตรสาวของรองของพ่อสิงห์และแม่เรไร
นิสัย : เป็นบุคคลที่โดนเลี้ยงมาโดยการตามใจมาโดยตลอด และยังมีใบหน้าสวยที่สุดในบรรดาพี่น้อง จึงทำให้มีความคิดหลงตัวสูง และคิดว่าตัวเองทำอะไรมักจะถูกต้องเสมอ
ชื่อ : เดช
อันดับครอบครัว : บุตรชายคนเล็กของพ่อสิงห์และแม่เรไร
นิสัย : สู้สุดใจ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าเก่งแม้จะเคยโดนลักพาตัวไปครั้งเดียว ก็พยายามพาตัวเองออกจากปมให้ได้ นักว่าเป็นบุคคลที่เก่งด้วยตัวเองอีกคน มีนิสัยใจเย็นกว่าพี่น้องของแม่เรไรหมดเลย
ชื่อ : จ้อย
อันดับครอบครัว : กำพร้า เป็นเด็กวัดภาคเหนือ
นิสัย : มีความเห็นอกเห็นใจแต่ก็ยังมีบางมุมที่เป็นคนใจร้าย
ตำแหน่ง : ความลับ
ชื่อ : ชาญ
อันดับครอบครัว : บุตรชายคนโตของพ่อแม่คู่นึงจากภาคกลาง
นิสัย : นิ่งเงียบ แต่การตัดสินใจค่อนข้างฉลาดกันเลยทีเดียว
ลำดับพี่น้อง
พ่อกล้า > พ่อเสือ > พ่อเดื่อ > แม่พวงทอง > แม่มณี > แม่แย้ม > พ่อสุข > แม่จันทร์ > พ่อสิน > แม่บังอร > แม่นิ่มนวล > พ่อเดช
คู่เอก เชิง - เสือ - ชาญ
คู่รอง กล้า - จ้อย , วีรดา - มณี
"อ้ากกกกกก" เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดทรมานดังออกจากมาสวนหลังเรือนของกล้าหาญ เกียรติไชย แต่บริเวณนั้นแทบมิมีผู้ใดอาศัยอยู่เป็นสวนที่ไว้ปลูกพืชพรรณ
ครืน ครืนน เสียงฟ้าร้องดังกังวานไปทั่วนภา
"คุณกล้าเจ้าคะ คุณกล้าเจ้าคะ ตื่นเถิดเจ้าค่ะ" เสียงอ่อนหวานของภูติยาสมุนไพรอย่างมิรินดังขึ้นพร้อมทั้งใช้สองมือน้อย ๆ ของตนเขย่าตัวของกล้าหาญอย่างรุนแรง
"อืออออ" หลังจากที่กล้าหาญส่งเสียงยกมือขึ้นแล้วใช้นิ้วมือของตนมาขยี้ตาของตนเอง ภูติอาหารอย่างมินิเสกเปลวไฟชวาลาเพิ่มแสงสว่างภายในห้องนอนของกล้าหาญทันที กล้าหาญค่อย ๆ ลืมตาแล้วชันตัวลุกนั่งลงบนเตียงแล้วหันใบหน้าไปหาภูติตัวน้อยทั้งสามคนก่อนที่จักพูดขึ้น
"มีอันใดฤๅจ๊ะ"
"สหายของคุณกล้าหาญแย่แล้วเจ้าค่ะ" จบสิ้นประโยคของมิริน กล้าหาญรีบลุกขึ้นวิ่งออกจากห้องของตนเองทันที โดยมีภูติทั้งสามตนคอยนำทางให้กล้าหาญ
ณ สวนหลังเรือนของกล้าหาญ เกียรติไชย
"พวกเจ้าแน่ใจฤๅว่าสหายของข้าเข้ามาในนี้" กล้าหาญเอ่ยถามอย่างสงสัย ทั้ง ๆ ที่ตนนั้นยังคงวิ่งตามภูติทั้งสามตนมา
"แน่ใจเจ้าค่ะ รีบตามมาเร็วเจ้าค่ะ" ภูติยาสมุนไพรอย่างมิรินตอบคำถามของกล้าหาญก่อนจักรีบบินมุ่งตรงไปอย่างรวดเร็ว
"อ้ากกกกกก เจ็บ ขะ... ข้าเจ็บ...อ้ากกก" เสียงร้องอันเจ็บปวดทรมานเช่นนี้ค่อย ๆ เข้าขยายตัวทีละนิดทีละน้อยจนเกิดไฟปะทุเอ่อล้นออกมาจนทรุดตัวลงนั่งคุกเข่าไปกับพื้นหญ้าในสวนนี้
"ชาญ!!!" กล้าหาญเรียกชื่อของคนตรงหน้า ชาญที่กำลังนั่งคุกเข่าลงแล้วร่างกายของชาญครึ่งซีกข้างขวามีผิวหยาบแข็ง เกิดร่องรอยของเกล็ดค่อย ๆ รวมตัวกัน ดวงตาของชาญข้างขวากลายเป็นสีเหลืองนวล
"อย่าเข้ามา" ชาญเอ่ยปากห้ามกล้าหาญไว้ก่อนที่เขาจักเดินเข้ามาใกล้
"เจ้าเป็นกระไรฤๅไม่" กล้าหาญเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงและกวาดสายตามองไปทั่วร่างกายของชาญ
"..." เด็กชายชาญนิ่งไปชั่วครา กล้าหาญเห็นว่าชาญนิ่งเงียบไป กำลังจักเดินเข้าไปหา เล็บของชาญข่วนเฉียดเรือนร่างของกล้าหาญ ทำให้กล้าหาญเบิกตาโตสะดุ้งตกใจและหลบไว้ทัน
"ชาญ เจ้าต้องตั้งสติก่อนหนา ชาญ" กล้าหาญยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาระดับกลางอกแล้วเผยฝ่ามือให้ชาญเห็น ชาญเห็นเช่นนั้นก็ลังเลก่อนจักร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดอีกครั้ง
"อ้ากกกกกกกกก"
"ไยชาญถึงเป็นเช่นนี้" กล้าหาญหันไปถามกับเหล่าภูติทั้งสามตน
"คุณชาญน่าเป็นลูกครึ่งอสูรเจ้าค่ะ หากยังควบคุมร่างกายไม่สมบูรณ์ก็จักทรมานเช่นนี้หนาเจ้าค่ะ" ภูติยาสมุนไพรอย่างมิรินตอบความเป็นไปได้กับกล้าหาญ
"ชาญ ทำใจดี ๆ ไว้หนา" กล้าหาญพยายามเข้ามาปลอบใจด้วยการลูบเรือนร่างของชาญก่อนจักยกแขนของชาญพาดไหล่ของตนแล้วประคับประคองลำตัวของชาญให้ทรงตัวมากที่สุด ภูติทั้งสามตนเห็นเช่นนั้นจึงช่วยกันเข้ามาประคองชาญด้วยคน ด้วยความฉลาดของมิรินได้เสกภาพลวงตาให้ทุกคนมองเห็นชาญเป็นคนปกติ มิให้เห็นเรือนร่างที่กำลังกลายร่าง
ครืน ครืนนน เปรี้ยง!! ครืนนนนน เปรี้ยงง!!! สายฟ้าผ่าลงยังเด็กชายทั้งสองคนอย่างชาญและกล้าหาญ ทำให้ทั้งคู่ล้มลงไปยังพื้นดิน
"กริ๊ดดดดดดด" ภูติขนมหวานที่อายุน้อยที่สุดในบรรดาสามคนกริ๊ดออกมาอย่างสุดเสียง
กรร กรร กรร โฮก เสียงเสือคำรามดังออกมาจากข้างหลังทุกคน
"ไม่นะ..." มิรินเริ่มรู้สึกไม่ดีหลังจากที่เสือตัวใหญ่เพียงนี้ปรากฎตัว
"กรร กรร โฮกกก" เสือตัวนั้นพยายามโจมตีใส่ภูติทั้งสามคน
"กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด" ภูติทั้งสามตนกรีดร้องออกมาอย่างเสียงดังจนภาพทุกอย่างค่อย ๆ มืดดับลงไป
วิ้งงงงง วิ้งงงง วิ้งงง เสียงเวทมนต์ที่ออกมาจากมือทั้งสองข้างของหญิงวัย ๔๐ ปี เธอกำลังตั้งใจทำกระไรบางอย่าง
ตึก ตึก ตึก ตึก เสียงอุปกรณ์เช่นสากกำลังตำลงบนครกด้วยตัวมันเอง
ซ่า ซ่า ซ่า ซ่า เสียงน้ำออกมาจากใบบัว
เสียงขู่ฟ่อ ๆ ดังออกจากงูสีดำมีเกล็ดประกายม่วงเขียวกำลังเลื้อยเข้าหาผู้เป็นเจ้าของ เมื่อเลื้อยเข้าใกล้แล้วจักหาที่หลบนอนด้วยการม้วนตัวเป็นวงกลมแล้วใช้ศีรษะอิงลงบนตัวที่ม้วนไว้
เสียงเหล่านี้ดังขึ้นจนทำให้เด็กชายกล้าหาญค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาเพียงคนเดียว ก่อนที่จักค่อย ๆ ลุกขึ้นพยายามทรงตัวทั้งที่ตนนั้นกำลังเจ็บปวดจากการถูกฟ้าผ่าอยู่
"โอ๊ยย" เสียงร้องของกล้าหาญดังจนทำให้เธอคนนั้นหันกลับมามอง
"ดื่มเสียเถิดลูก" เธอยื่นถ้วยใบเล็กใส่สมุนไพรปรุงเองส่งให้กล้าหาญ
"ขอบคุณขอรับ ว่าแต่ท่านเป็นใครฤๅขอรับ" กล้าหาญรับถ้วยสมุนไพรจากมือของเธอเสร็จก็ไม่ลืมมารยาทเช่นเคยจึงเอ่ยคำขอบคุณก่อนจักเอ่ยถามถึงชื่อของเธอ
"ข้าชื่อนรินทรา เรียกข้าว่ารินก็ได้หนา" หญิงสาววัย ๔๐ ปีเอ่ยทั้งที่แววตาของเธอมองเข้าไปดวงตาของกล้าอย่างเป็นห่วง กล้าหาญคุ้นเคยกับแววตาของเธอแต่เขากลับจำไม่ได้ว่าเคยเห็นที่ไหน
"รีบกินเสียเถิด ยานี้จักช่วยบรรเทาให้เจ้าหนา" นรินทราเห็นว่าเด็กชายกล้าหาญเอาแต่จ้องเข้ามาในสายตาของตนจนไม่ยอมดื่มยาที่ให้ไปเสียทีเลยยกมือทั้งสองข้างแล้วสั่นเป็นจังหวะบ่งบอกภาษากายให้กล้าหาญดื่มยานั้นเข้าไป กล้าหาญดื่มยาในถ้วยนั้นจนหมดโดยดี
"อือออ ขมจังเลยหนาขอรับ" กล้าหาญยิ้มเจื่อน ๆ ก่อนจักพูดถึงรสชาติของยานี้
"มันก็เป็นเช่นนี้แหละ" เธอหัวเราะออกมาอย่างเปิดเผยด้วยความเอ็นดูเด็กชายคนนี้ เพราะรสชาติของยาสมุนไพรเหล่านั้นล้วนจักเป็นรสชาติขมเสียหมด
กล้าหาญหันไปเห็นเรือนร่างของชาญ ร่างกายของชาญเริ่มกลายร่างมาด้านซ้ายแล้ว
"ชาญ!!" กล้าหาญเรียกชื่อของสหายตนก่อนจักเขย่าตัวแรง ๆ ให้รู้สึกตัว
"ทำกระไรมิได้ดอกหนา เขาเป็นลูกครึ่งอสูร" รินพูดออกไปด้วยความนิ่งเฉยเพราะตนนั้นมิไม่สามารถช่วยเหลือกระไรเขาได้เพราะเขานั้นเป็นลูกครึ่งอสูร ไม่ว่าจักลูกครึ่งหรืออสูรเนื้อแท้ ล้วนสูญเสียการควบคุมตัวเองเป็นอย่างมาก เพราะนิสัยของเจ้าอสูรมักตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ใจร้อน ไม่สนใจคนรอบข้าง จึงเป็นสาเหตุว่าไยเราถึงไม่ควรเข้าใกล้อสูรแม้เขาจักเป็นคนรักก็เถอะ
"แล้วเขาจักเป็นเช่นนี้ไปตลอดฤๅขอรับ" กล้าหาญเอ่ยทั้งที่ตนนั้นกวาดสายไปทั่วร่างกายของชาญ
"ไยเจ้าถึงไม่กลัว เขาเป็นอสูรเชียว" รินเธอไม่ยอมตอบคำถาม แต่กลับเลือกที่จักถามกล้าหาญอย่างสงสัยและไม่เข้าใจการกระทำของเด็กชายคนนี้เลย อสูรมีลักษณะที่น่าเกลียดน่ากลัวเกินกว่าที่มนุษย์จักรับได้ ไยเด็กชายคนนี้กลับไม่กลัวอสูรตนนี้
"จักเป็นกระไรก็ช่างเถิดขอรับ เขาคือสหายของข้า โปรดช่วยสหายของข้าด้วยขอรับ" เพียงคำตอบที่ตะโกนดังออกมาจากปากของเด็กชายคนนี้ทำเอาเธอตกตะลึงจนนิ่งไปชั่วครู่
"ข้าขอโทษหนา" รินใช้เวทมนต์ที่ออกจากมือทั้งสองข้างเธอช็อตร่างกายของชาญจนทำให้กระแสไฟฟ้าจากเวทมนต์ของเธอปลุกความเป็นอสูรในร่างกายของชาญตื่นขึ้นมา ชาญกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวดทรมานสุดชีวิต
"อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก"
"นี่เจ้าทำกระไร" กล้าไม่พอใจกับการกระทำของรินเผลอตะคอกออกมาจากปากตนโดยมิทันได้ระวังคำพูดคำจากับผู้ใหญ่ด้วยน้ำเสียงเดือดดาล
"ข้าบอกเจ้าแล้วไงว่าเราทำกระไรเขามิได้ดอก เขาเป็นอสูร" รินยังคงยืนยันคำตอบเดิมเพราะอสูรเช่นใดก็ยังคงเป็นอสูรเช่นนั้นไปตลอดกาล มิอาจมีผู้ใดสามารถมาเปลี่ยนตัวเขาได้ มีแต่เขาเพียงคนเดียวที่จักสามารถควบคุมอสูรในร่างของตัวของเขาเองได้
"แก!!!" ร่างอสูรของชาญเปิดเผยออกมาอย่างเต็มตัวพร้อมทั้งดวงตาเปลี่ยนเป็นสีส้มเปลวไฟแห่งโทสะแผดเผา มือทั้งสองข้างพุ่งบีบคอของนรินทรา ทำให้นรินทรามิได้ตั้งตัวก่อนจึงอยู่ภายใต้แรงบีบคอของชาญในร่างอสูร
"ชาญ!! ตั้งสติก่อนสิชาญ ชาญ!!" กล้าพยายามเรียกชื่อสหายของตนให้ตั้งสติพร้อมทั้งยังช่วยดึงแขนของชาญให้ลดแรงบีบคุณนรินทรา แต่ชาญกลับไม่สนใจเสียงเรียกสติของคนข้าง ๆ ปัดร่างกายของกล้าหาญด้วยพละกำลังที่มีอยู่ในมือข้างขวาที่ถนัดไปชนกำแพงอย่างรุนแรง ทำให้ดวงตาของนรินทราเบิกกว้างอย่างตกตะลึงเป็นอย่างมาก
“กล้า!”
"แก!! อย่าทำมาร้ายหลานข้า!!" นรินทราโกรธสุดขีด พ่นลมหายใจอย่างหมดความอดทน จึงใช้เวทมือข้างซ้ายต่อยเข้าไปที่ดวงตาข้างขวาของชาญ
"อ้ากกกกกก" ร่างอสูรของชาญถูกเวทมนตร์นั้นต่อยเข้าในดวงตาจนกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ชาญดิ้นรนจนส่ายตัวไปมา นรินทรารีบวิ่งเข้าไปหาเด็กชายกล้าหาญที่นอนสลบทันที เธอรนจนพยายามแตะต้องเนื้อต้องตัวแล้วเขย่าตัวกล้าหาญเบา ๆ ทั้ง ๆ ที่เรือนร่างของเธอกำลังสั่นกลัว
"หลานกล้า ลูกเป็นเยี่ยงไรบ้าง" นรินทราพยายามตะโกนเรียกเด็กชายกล้าหาญให้ตื่นขึ้นมา แต่กล้าหาญกลับนอนหลับสนิทไม่รู้สึกตัวจากแรงเขย่าของเธอ
"หลาน?!" เสียงของชาญดังออกมาจากปากก่อนจักนึกถึงภาพอดีต เขานึกถึงผู้เป็นมารดาของเขา
"ลูกรู้ฤๅไม่ การถูกพรากออกจากกันไม่ว่าจักเป็นแม่ลูก พี่น้อง คนรัก และเพื่อน เป็นกระไรที่เจ็บปวดมากนัก เพราะไม่มีผู้ใดยอมรับตัวตนของเราได้เท่าพวกเขาอีกแล้ว เพราะงั้น... เราถึงไม่ควรพรากใครออกจากเป็นอันขาด" เสียงของแม่ชาญดังขึ้นในหัวของชาญ
"ลูกขอโทษขอรับคุณแม่..." ชาญเอ่ยคำขอโทษแก่คุณแม่ก่อนพละกำลังของชาญจักค่อย ๆ ลดลงไปจนกลายเป็นร่างมนุษย์ทั่วไป
"กล้า... ข้าขอโทษ" เมื่อชาญเริ่มได้สติว่าตนนั้นปัดร่างกายของกล้าหาญชนเข้ากำแพงอย่างจริงจังจึงรีบหันกลับมาดูแลสหายทันทีทั้งยังเอ่ยคำขอโทษ
"ทีแบบนี้หูพับเลยเชียว" นรินทราเอ่ยแซวคนตรงหน้ากำลังรู้สึกผิดที่เผลอทำรุนแรงไป
"ข้ามิใช่หมา" ชาญแย้งกลับเสียงดังอย่างเขินอาย
"เจ้าควบคุมตัวเองได้เยี่ยงไรฤๅ" นรินทราถามทั้งที่สองมือของเธอร่ายเวทมนตร์รักษาให้เด็กชายกล้าหาญอยู่
"ข้าแค่...คิดถึงแม่" ชาญพูดทั้งนึกถึงภาพถึงใบหน้าของแม่ตนเองไปด้วย
"งั้นฤๅ"
"ท่านเรียกกล้าว่าหลานงั้นฤๅขอรับ" ชาญไม่ยอมปล่อยให้คำถามนี้สงสัยเพียงในหัวของเขาเท่านั้นจึงเอ่ยถามออกไป
"ข้าและเจ้าต่างมีกระไรเหมือนกันและคงมิอยากให้คนที่เรารักล่วงรู้ความลับนั้นใช่ฤๅไม่" นรินทราพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลก่อนจักหันใบหน้าไปสบตากับชาญด้วยความเข้าอกเข้าใจกันและกันในเหตุผลเดียวกันเป็นอย่างดี
"ขอรับ ข้าเองก็ไม่อยากให้คุณพ่อรู้เลยว่าข้าเป็นเช่นนี้"
"ข้าก็เช่นกัน ไม่อยากให้กล้ารู้ว่าข้าเป็นย่าของเขา"
"ไยถึงไม่อยากให้กล้ารู้ฤๅขอรับ" ชาญเอ่ยถามอย่างสงสัย ดวงตาของชาญแฝงความเคลือบแคลง เขาพยายามคาดเดาในเจตนารมณ์ของเธอ ว่าเหตุผลอันใดถึงไม่อยากให้กล้ารู้ว่าเขาเป็นหลานของเธอ
"มันมีเรื่องที่เขาไม่ควรรู้อีกเยอะเลยและข้าเชื่อว่าการไม่รู้ ย่อมดีกว่ารู้" นรินทราพูดทั้งที่ใบหน้าของเธอกำลังก้มหน้าลงแล้วถอนหายใจออกมา
"ถึงเยี่ยงไร ข้าขอฝากเจ้าดูแลหลานของข้าได้ฤๅไม่ กล้าหลานข้าดูรักเจ้ามากเลยหนา แม้แต่จักรู้ว่าเจ้าเป็นเยี่ยงนี้ เขายังคงขอร้องให้ข้าช่วยเหลือเจ้า" นรินทราพูดพร้อมกับจับมือประสานกับเด็กชายชาญอย่างอ่อนโยน แววตาของเธอกำลังสั่นไหวจนชาญสังเกตได้
"'งั้น... โปรดช่วยตามหาแม่ข้าให้ได้ฤๅไม่ขอรับ ข้ายอม ข้ายอมดูแลกล้าแลกกับที่ท่านช่วยตามหาแม่ของข้า" ชาญลังเลก่อนที่จักพูด ครานี้ชาญยื่นข้อเสนอแลกเปลี่ยนกับนรินทรา
"แม่เจ้าชื่อกระไรฤๅ"
"ช้องมาศขอรับ" แม้ชื่อที่ออกมาจากปากของเด็กชาญจักฟังดูคุ้นเคย นรินทราก็ได้แต่พยักหน้าตอบกลับ
"อือ ข้าจักช่วยตามหาแม่ของเจ้าให้ก็ได้" สิ้นประโยคนี้แล้วนรินทราค่อย ๆ หันหลังแล้วเดินไป ค่อย ๆ หายไปตัว หายไปทั้งห้องของเธอด้วย นรินทราเสกให้ทั้งชาญ กล้า และภูติทั้งสามตนนั้นกลับสู่เรือนของกล้าเกียรติไชย เขาส่งให้ทุกคนเข้านอนหลับฝันดีทุกคนก่อนที่ตะวันจักขึ้น