เด็กชายกล้าหาญต้องจบชีวิตลงเพราะคำนาย แต่จู่ ๆ เขาต้องฟื้นคืนชีพในฐานะคนใหม่ทั้งที่จำเรื่องราวทั้งหมดได้ ทุกคนจะยังคงโกหกเขาคนนี้ต่อไปอีกนานแค่ไหน

สิงหดาบ - ตอนที่ ๒๒ (๑/๒) ความลับใด ๆ ก็ไม่อาจเก็บไว้ได้ตลอดกาล โดย ปิ่นไทวา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,สืบสวนสอบสวน,รัก,ตลก,ลึกลับ,หญิง-หญิง,ชาย-หญิง,ชาย-ชาย,สืบสวนสอบสวน,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

สิงหดาบ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,สืบสวนสอบสวน,รัก,ตลก,ลึกลับ

แท็คที่เกี่ยวข้อง

หญิง-หญิง,ชาย-หญิง,ชาย-ชาย,สืบสวนสอบสวน,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส

รายละเอียด

สิงหดาบ โดย ปิ่นไทวา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เด็กชายกล้าหาญต้องจบชีวิตลงเพราะคำนาย แต่จู่ ๆ เขาต้องฟื้นคืนชีพในฐานะคนใหม่ทั้งที่จำเรื่องราวทั้งหมดได้ ทุกคนจะยังคงโกหกเขาคนนี้ต่อไปอีกนานแค่ไหน

ผู้แต่ง

ปิ่นไทวา

เรื่องย่อ

สิงหดาบ ย่อมาจากสิง (โต) หักดาบ

สิงโตแทนบุคคลสำคัญ หักดาบแทนการสละเลือดเนื้อ

ใครกันนะคือสีหราช... เหตุอันใดสีหราชต้องสิ้นชีพลงเพื่อทุกคน 

ทุก ๆ อย่างมันเกิดขึ้นด้วยเพียงคำทำนายจากสรวงสวรรค์ส่งสารไปยังทุกคน

เขาคนนั้นมีความลับคือ อนาคตที่ลับแล อนาคตที่แม้แต่เครื่องฉายจิรกาลยังตามมิทัน

ต่อจากไปนี้ โปรดระมัดระวังสิ่งรอบข้างให้มากที่สุด เพราะการทรยศ

ล้วนแปรพักตร์กันเมื่อใดก็ได้ อย่าได้ลืมเสียว่าตนเป็นใคร

มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวที่สุด

เพราะสมองอันล้ำค่า

 

นิยายเรื่องนี้เป็นนวนิยายแนวสืบสวน โรแมนติก ดราม่า แฟนตาซี และพีเรียดที่เป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียนเท่านั้น                 

เรื่องราวต่อไปนี้อาจมีเนื้อหาในเรื่องของประวัติศาสตร์ ซึ่งไม่ได้อ้างอิงจากประวัติศาสตร์ใด ๆ ทั้งสิ้น ผู้เขียนได้ทำการสร้างตัวละคร สถานการณ์ต่าง ๆ เพื่อดำเนินเรื่อง อาจมีเนื้อหาบางอย่างเกี่ยวกับวัฒนธรรม อาหาร อ้างอิงจากความจริง 

 

TW : ความสัมพันธ์ที่มีการทำร้าย/การใช้ความรุนแรง ไม่ว่าจะทางร่างกาย จิตใจ คำพูด ความรุนแรงในครอบครัว (พ่อแม่ของตัวเอก)

การทำแท้งโดยไม่ได้ตั้งใจ (เมียรองของพ่อของตัวเอก) 

การดูถูกเหยียดหยาม การทำร้าย ใช้ความรุนแรงทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ (ฝั่งตัวร้าย)

ยากระตุ้นความต้องการทางเพศ จำพวกยาเสน่ห์ใช้ภายในเรื่อง 

ปีศาจ การตัดแขนและขา กินเนื้อกินเลือดทั้งเผ่าพันธุ์เดียวกันและต่างเผ่าพันธุ์เดียวกัน (ฝั่งตัวร้าย)

โลกเหนือธรรมชาติ ฆาตกรรม เลือด ลักพาตัว การทำร้ายทางเพศ การล่วงละเมิดทางเพศ ข่มขืน(เป็นเรื่องราวจากปากต่อปาก ไม่มีการบรรยายฉากนี้แน่นอนเจ้าค่ะ) ค้ามนุษย์ บังคับเสพยาเสพติด ทารุณกรรมเด็ก อาการซึมเศร้า มีอาการประสาทหลอน ฆ่าตัวตาย การตัดหัวประหารชีวิต

การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ชื่นชอบการเห็นผู้อื่นเจ็บปวด 

คำหยาบคาย พูดจาส่อเสียด แบ่งแยกเชื้อชาติและสีผิว การเป็นทาส

 

แนะนำตัวละคร นายเอก

 

Cr. Zair or Twitter ของนักวาด : @pinkyxpsycho

ชื่อ : เสือ

อันดับครอบครัว : บุตรชายคนกลางของพ่อสิงห์และแม่มะลิ

ตำแหน่ง : คุณหลวงหน่วยสืบสวนภามณีดา ภาคกลาง 

ฉายา : พ่อเสือร้อยเมีย

ข้าต้องตามหาความจริงและความยุติธรรมให้พี่กล้าให้ได้

Cr. Twitter ของนักวาด : @seerdarker

พระเอก 

ชื่อ : เชิง

ตำแหน่ง : คุณหลวงหน่วยสืบสวนนภาราม จากภาคเหนือ

ฉายา : พ่อเชิงปากหมา

พี่ชายนายคือกุญแจสำคัญของคดีระดับชาติ

 

 

Cr. Twitter ของนักวาด : @Mikumee_

ชื่อ : กล้า

อันดับครอบครัว : บุตรชายคนโตของพ่อสิงห์และแม่มะลิ

สถานะ : สิ้นชีพแล้วเมื่ออายุครบ 15 ปีบริบูรณ์

ถึงเวลาของข้าแล้ว...

 

ชื่อ : มณี

อันดับครอบครัว : บุตรสาวคนเล็กของพ่อสิงห์และแม่มะลิ

ตำแหน่ง : หมื่นมณี สิงหดาบ หนึ่งในหน่วยสืบสวนลับ

ฉายา : แม่หญิงคนแกร่งแห่งหน่วยสืบสวน

 

ชื่อ : พวงทอง

อันดับครอบครัว : บุตรสาวคนโตของพ่อสิงห์และแม่สร้อย

ตำแหน่ง : พี่สาวคนโตของบ้าน แม่อีกคนของน้อง ๆ ทำหน้าที่คอยดูแลเรือนเป็นอย่างดี

ฉายา : แม่นม

อย่าดื้อนัก ข้าไม่ได้ดีใจเหมือนพวกแม่ ๆ ของเจ้า

 

ชื่อ : สิน

อันดับครอบครัว : บุตรชายคนเล็กของพ่อสิงห์และแม่สร้อย

ตำแหน่ง : เป็นลูกชายเอาแต่ใจอยู่บ้านเฉย ๆ ไม่ทำอะไร ทำตัวเป็นคุณชาย

นิสัย : ลูกแง เอาแต่ใจ เป็นคนหัวอ่อนต่อโลกค่อนข้างมากต่างจากพี่สาวของเขา มักโดนหลอกอยู๋บ่อย ๆ 

อย่ามาแตะต้องตัวข้า ข้าเป็นบุตรชายของบ้านสิงหดาบเชียวนะ

 

ชื่อ : เดื่อ 

อันดับครอบครัว : บุตรชายคนเดียวของพ่อสิงห์และบ่าวแพง

นิสัย : กล้าหาญและก้าวร้าวมาก ๆ เป็นคนกล้าได้กล้าเสีย อยากรู้อยากเห็น ติดเพื่อนมากที่สุดในบรรดาพี่น้อง จนกระทั่งได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ทำให้นิสัยของเขาเริ่มเปลี่ยนไป

ตำแหน่ง : ความลับ

แม่ข้าตายไปแล้ว ข้าเหลืออะไรบ้างไหม แม่ข้าเป็นเพียงแค่บ่าวรับใช้คนนึง

 

ชื่อ : สุข

อันดับครอบครัว : บุตรชายคนโตของพ่อสิงห์และแม่พิมพา (แฝดพี่)

นิสัย : หวาดระแวงกับทุกอย่างในชีวิตเพราะตั้งแต่เด็กโดนลักพาตัวมากกว่า 3 ครั้ง จนครั้งล่าสุดจัดเป็นคดีค้ามนุษย์ที่สุขเป็นเหยื่อคนแรกที่มีชีวิตรอดออกมาได้ ทำให้ปมครั้งนี้เขามีนิสัยกลัวการออกสังคม กลัวการเจอคนแปลกหน้า จึงถูกเลี้ยงให้อยู่แต่ในบ้าน บางครั้งแม่พวงทองสงสารจึงชวนไปทำกิจกรรมร่วมกันด้วย

ข้ากลัว...

 

ชื่อ : จันทร์

อันดับครอบครัว : บุตรสาวของรองของพ่อสิงห์และแม่พิมพา (แฝดน้อง)

นิสัย : ร้อนใจ เข้มแข็งทุก ๆ สถานการณ์ อิจฉาพี่น้องต่างแม่มากที่สุด

 

ชื่อ : นิ่มนวล

อันดับครอบครัว : บุตรสาวคนเล็กของพ่อสิงห์และแม่พิมพา

นิสัย : ใจดีมาก ๆ นิสัยต่างขั้วกับพี่สาวของเธออย่างแม่จันทร์เลย เป็นผู้หญิงที่มีความคิดสวยงาม อ่อนโยนและอ่อนต่อโลกด้วย 

 

ชื่อ : แย้ม 

อันดับครอบครัว : บุตรสาวคนโตของพ่อสิงห์และแม่เรไร

นิสัย : เอาแต่ใจ ค่อนข้างกัดจิกกับทุกคนในแม่ รวมถึงแม่ของตนเองด้วย เป็นคนรอบรู้เรื่องของชาวบ้านที่สุด

 

ชื่อ : บังอร

อันดับครอบครัว : บุตรสาวของรองของพ่อสิงห์และแม่เรไร

นิสัย : เป็นบุคคลที่โดนเลี้ยงมาโดยการตามใจมาโดยตลอด และยังมีใบหน้าสวยที่สุดในบรรดาพี่น้อง จึงทำให้มีความคิดหลงตัวสูง และคิดว่าตัวเองทำอะไรมักจะถูกต้องเสมอ

 

ชื่อ : เดช 

อันดับครอบครัว : บุตรชายคนเล็กของพ่อสิงห์และแม่เรไร

นิสัย : สู้สุดใจ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าเก่งแม้จะเคยโดนลักพาตัวไปครั้งเดียว ก็พยายามพาตัวเองออกจากปมให้ได้ นักว่าเป็นบุคคลที่เก่งด้วยตัวเองอีกคน มีนิสัยใจเย็นกว่าพี่น้องของแม่เรไรหมดเลย

 

ชื่อ : จ้อย

อันดับครอบครัว : กำพร้า เป็นเด็กวัดภาคเหนือ

นิสัย : มีความเห็นอกเห็นใจแต่ก็ยังมีบางมุมที่เป็นคนใจร้าย

ตำแหน่ง : ความลับ

 

ชื่อ : ชาญ

อันดับครอบครัว : บุตรชายคนโตของพ่อแม่คู่นึงจากภาคกลาง

นิสัย : นิ่งเงียบ แต่การตัดสินใจค่อนข้างฉลาดกันเลยทีเดียว

 

ลำดับพี่น้อง 

พ่อกล้า > พ่อเสือ > พ่อเดื่อ > แม่พวงทอง > แม่มณี > แม่แย้ม > พ่อสุข > แม่จันทร์ > พ่อสิน > แม่บังอร > แม่นิ่มนวล > พ่อเดช

 

คู่เอก เชิง - เสือ - ชาญ

คู่รอง กล้า - จ้อย , วีรดา - มณี

สารบัญ

สิงหดาบ-ตอนที่ ๑ คดีฆาตกรรมหมู่บ้านรัตติกาล,สิงหดาบ-ตอนที่ ๒ พระยาธารา,สิงหดาบ-ตอนที่ ๓ พ่อเสือแปรพักตร์,สิงหดาบ-ตอนที่ ๔ (๑/๒) ครอบครัวตระกูลสิงหดาบ,สิงหดาบ-ตอนที่ ๔ (๒/๒) ครอบครัวตระกูลสิงหดาบ,สิงหดาบ-ตอนที่ ๕ เชษฐวิรุฬห์ คุณหลวงชาญ...,สิงหดาบ-ตอนที่ ๖ ป่ามนต์ทัช,สิงหดาบ-ตอนที่ ๗ (๑/๒) เผ่ากินคน,สิงหดาบ-ตอนที่ ๗ (๒/๒) เผ่ากินคน,สิงหดาบ-ตอนที่ ๘ (๑/๒) บู้มบู้มตัวน้อยไม่สบาย,สิงหดาบ-ตอนที่ ๘ (๒/๒) บู้มบู้มตัวน้อยไม่สบาย,สิงหดาบ-ตอนที่ ๙ (๑/๒) อดีตตรีทิพย์ทิศ,สิงหดาบ-ตอนที่ ๙ (๒/๒) อดีตตรีทิพย์ทิศ,สิงหดาบ-ตอนที่ ๑๐ (๑/๒) กรกาณฑ์ อดีตตรีทิพย์ทิศปรากฎตัว,สิงหดาบ-ตอนที่ ๑๐ (๒/๒) กรกาณฑ์ อดีตตรีทิพย์ทิศปรากฎตัว,สิงหดาบ-ตอนที่ ๑๑ (๑/๒) ปีศาจโชนผู้ว่องไวลำดับที่สาม,สิงหดาบ-ตอนที่ ๑๑ (๒/๒) ปีศาจโชนผู้ว่องไวลำดับที่สาม,สิงหดาบ-ตอนที่ ๑๒ (๑/๒) สุสานยาพิษใต้น้ำลึก,สิงหดาบ-ตอนที่ ๑๒ (๒/๒) สุสานยาพิษใต้น้ำลึก,สิงหดาบ-ตอนที่ ๑๓ (๑/๒) ปีศาจปรุงยาพิษและยารักษาอย่างแก้วตา,สิงหดาบ-ตอนที่ ๑๓ (๒/๒) ปีศาจปรุงยาพิษและยารักษาอย่างแก้วตา,สิงหดาบ-ตอนที่ ๑๔ (๑/๒) พ่อกล้าตัวจริงปรากฎตัวแล้ว,สิงหดาบ-ตอนที่ ๑๔ (๒/๒) พ่อกล้าตัวจริงปรากฎตัวแล้ว,สิงหดาบ-ตอนที่ ๑๕ (๑/๒) ลูกกล้ากลับบ้านเถิด,สิงหดาบ-ตอนที่ ๑๕ (๒/๒) ลูกกล้ากลับบ้านเถิด,สิงหดาบ-ตอนที่ ๑๖ (๑/๒) ย้อนรอยอดีตของพ่อกล้า,สิงหดาบ-ตอนที่ ๑๖ (๒/๒) ย้อนรอยอดีตของพ่อกล้า,สิงหดาบ-ตอนที่ ๑๗ (๑/๒) ความฝันของเด็กชายจ้อย ,สิงหดาบ-ตอนที่ ๑๗ (๒/๒) ความฝันของเด็กชายจ้อย,สิงหดาบ-ตอนที่ ๑๘ (๑/๒) สายสัมพันธ์พี่น้องของลูกศิษย์เอก,สิงหดาบ-ตอนที่ ๑๘ (๒/๒) สายสัมพันธ์พี่น้องของลูกศิษย์เอก,สิงหดาบ-ตอนที่ ๑๙ (๑/๒) สายสัมพันธ์พี่น้องของลูกศิษย์เอก ๒,สิงหดาบ-ตอนที่ ๑๙ (๒/๒) สายสัมพันธ์พี่น้องของลูกศิษย์เอก ๒ ,สิงหดาบ-ตอนที่ ๒๐ (๑/๒) สายสัมพันธ์พี่น้องของลูกศิษย์เอก ๓,สิงหดาบ-ตอนที่ ๒๐ (๒/๒) สายสัมพันธ์พี่น้องของลูกศิษย์เอก ๓,สิงหดาบ-ตอนที่ ๒๑ (๑/๒) สายสัมพันธ์พี่น้องของลูกศิษย์เอก ๔,สิงหดาบ-ตอนที่ ๒๑ (๒/๒) สายสัมพันธ์พี่น้องของลูกศิษย์เอก ๔ ,สิงหดาบ-ตอนที่ ๒๒ (๑/๒) ความลับใด ๆ ก็ไม่อาจเก็บไว้ได้ตลอดกาล ,สิงหดาบ-ตอนที่ ๒๒ (๒/๒) ความลับใด ๆ ก็ไม่อาจเก็บไว้ได้ตลอดกาล ,สิงหดาบ-แจ้งข่าวสารครั้งที่ ๑ ...

เนื้อหา

ตอนที่ ๒๒ (๑/๒) ความลับใด ๆ ก็ไม่อาจเก็บไว้ได้ตลอดกาล

ณ เรือนของกล้าหาญ เกียรติไชย

เด็กชายเชิงนั่งเหม่อลอยอยู่คนเดียวที่ริมน้ำข้างเรือน เท้าทั้งสองข้างของเชิงกำลังเล่นน้ำอย่างเงียบ ๆ เด็กชายจ้อยเดินเข้ามาใกล้เชิงก่อนจักนั่งลงเคียงข้างเชิงแล้วเอาเท้าทั้งสองข้างนั้นเล่นน้ำเหมือนกับเชิง

"ไม่เหมือนคุณเชิงเลยหนา" จ้อยเอ่ยทั้ง ๆ ที่สายตาของตนกำลังก้มมองลงไปยังเท้าทั้งสองข้างของตน

"ไม่เหมือนข้าเยี่ยงไรฤๅ จ้อย" เชิงถามอย่างไม่เข้าใจพร้อมทั้งแกว่งเท้าสลับไปมาอย่างอยู่ไม่สุขราวกับคนคิดมากที่เอาแต่เก็บกระไรไว้ในใจอย่างเดียว

"คุณเชิงออกจักเป็นคนร่าเริง สนุกสนาน เป็นที่รักของทุกคน แม้กวนตีนมากไปหน่อยก็เถอะ แต่พอคุณเชิงทำตัวอึดอัดเช่นนี้ ไม่เหมือนคุณเชิงเลย" จ้อยเอ่ยปากออกไปด้วยความใจจริง

"ข้า... ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ไยข้าถึงเป็นเช่นนี้" เชิงพูดออกไปด้วยความไม่เข้าใจตนเองเช่นเดียวกัน

"ไยคุณเชิงและคุณชาญถึงได้สนิทกันอย่างกับพี่น้องได้ฤๅขอรับ"

"ขอรับ?! จ้อยยยยย เอ็งพูดสุภาพกับข้างั้นฤๅ ฮ่า ๆ" เชิงถึงกับหูผึ่งจึงหยอกล้อจ้อยทันทีหลังได้ยินจ้อยพูดคำว่าขอรับ เพราะตั้งแต่รู้จักกันมาจ้อยแทบไม่เคยพูดจาไพเราะกับผู้ใดเลยนอกจากกล้าหาญ... มันก็น่าน้อยใจอยู่นัก

"ได้โปรดอย่าหยอกล้อข้าสิ ไม่งั้นข้าจักไม่พูดดีด้วยแล้วหนา" จ้อยพูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจที่คนข้าง ๆ เอาแต่แซวตน เผลอทำปากแบะ ๆ ใส่เชิง

"ฮ่า ๆ" เสียงหัวเราะของเชิงก็ดังออกไป

"คุณเชิงรังเกียจคุณชาญฤๅไม่" จ้อยพูดออกอย่างตรงไปตรงมาทันทีอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยเพราะตนไม่อยากอ้อมค้อมในการถามครานี้

"ชาญจักเป็นเช่นใด เขาก็ยังเป็นพี่น้องของข้าเหมือนเดิมนั้นแหละ แต่ว่า... ไม่รู้สิ ข้าคงน้อยใจกระมังที่ชาญไม่เคยได้เอ่ยปากเล่ากระไรให้ข้าฟังเลย... ว่าแต่เจ้าละ จ้อย จ้อยเองน้อยใจกล้าหาญฤๅไม่" เชิงพูดอย่างเปิดเผยความรู้สึกข้างในแต่มันมีเพียงความรู้สึกเดียวที่อยู่ลึก ๆ เหมือนจักรู้แต่ก็ไม่ยอมรับมัน เพราะความน้อยใจฤๅไม่ก็ไม่รู้ เชิงลังเลกับความรู้สึกนี้ก่อนจักเอ่ยถามจ้อย

"จ้อยน้อยใจพี่กล้าอยู่แล้ว แต่ว่าพอข้าลองคิดว่าถ้าข้าเป็นคุณชาญ ข้าคงหมุดแผ่นดินหนีไปแล้วแหละ คงไม่มีความหน้าด้านมากพอที่จักอยู่บนโลกใบนี้ดอก แต่ว่า... ความรู้สึกเดียวที่ข้ารู้สึก มันคือครอบครัว ตั้งแต่พวกเรารู้จักกันมา ต่างช่วยเหลือกันดั่งพี่น้องในสายเลือดเดียวกัน โกรธกันเท่าใดก็ไม่ยอมปล่อยมือออกจากกัน ข้าชอบหนาความสัมพันธ์แบบนี้ มันทำให้ข้ารู้สึกว่าข้ามิได้ขาดความรักไปเลย พี่กล้าและพวกเจ้าเป็นดั่งครอบครัวเดียวที่ข้ามีในตอนนี้" จ้อยพูดทั้งเผยรอยยิ้มนั้นออกมาไม่รู้ตัว

"เพราะเจ้ารักกล้างั้นฤๅ" เชิงอมยิ้มก่อนจักแกล้งแซวจ้อยอีกครั้ง

"ความรักมันหลากหลายนักคุณเชิง ข้ารู้แค่ว่าตอนนี้ความรักของข้าที่ได้จากพี่กล้า ชาญ เชิง วีมันเต็มอิ่มไปข้างในใจของข้ามากเลยหนา ถึงแม้ว่าข้าจักรู้สึกกับพี่กล้ามากกว่า"

"รักงั้นฤๅ ช่วยบอกข้าได้ฤๅไม่ ว่ามันเป็นเช่นใด" เชิงถาม

"เวลาอยู่กับใครแล้วสบายใจ ข้าก็อยากอยู่กับคนนั้นให้มากที่สุด คนที่ข้าสามารถไว้ใจได้ คนที่ข้าอยากจักบอกความลับ คนที่ยอมรับนิสัยแย่ ๆ ของข้าได้เช่นนี้ มันมิได้เรียกกันว่าความรักฤๅ" จ้อยถามส่งท้ายก่อนจักเผยรอยยิ้มอีกครั้งให้กับเชิงที่นั่งฟังอยู่ข้าง ๆ ปล่อยให้เชิงนั่งคิดทบทวนตัวเองอยู่อีกสักพัก

"แล้วที่ข้า... ที่ข้าทำตัวเช่นนั้นใส่ชาญไป เขาจักรู้สึกแย่มากเลยฤๅไม่ จ้อย" เชิงลังเลก่อนจักถามด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้นจากเดิม

"มิมีผู้ใดรู้ดีกว่าเจ้าตัวดอกหนา หากอยากรู้ก็ไปถามเจ้าตัวเอาเองดีกว่า" จ้อยพูดจบก็รีบลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากนั้นทันที ปล่อยให้เชิงนั่งทำใจให้กล้าหาญขึ้นก่อนที่จักเลือกเดินเข้าไปหาชาญด้วยตัวเอง

"ได้เรื่องว่าเยี่ยงไรบ้างเจ้าคะ จ้อย" หญิงวีรดาที่หลบอยู่หลังพุ่มหญ้า เธอยอมลงทุนด้วยการหมอบต่ำนอนราบไปกับพื้นดินจนเสื้อผ้าเลอะเทอะไปหมดแล้วเอ่ยถามจ้อยที่เพิ่งเดินเข้ามาหาตน

"ข้าก็หวังว่าแผนนี้จักสำเร็จหนา" จ้อยพูดทั้งที่สายตาของตนกำลังเฝ้ามองสถานการณ์ของเชิงอยู่

"พวกเจ้าสองคนมีแผนอันฤๅ มิเห็นบอกให้ข้ารู้ด้วยเลย" เด็กชายกล้าหาญเดินเข้ามาจากข้างหลัง ส่งเสียงเบา ๆ ทำให้ทั้งสองคนนั้นสะดุ้งตกใจก่อนจักยกฝ่ามือตีไปที่ลำตัวของกล้าหาญพร้อมสายตาจิกกัดเล็กน้อย

"พวกข้ากำลังช่วยให้พี่เชิงกับพี่ชาญกลับมาคืนดีกันหนาเจ้าค่ะ แต่ดูท่าจักปึกแท้" หญิงวีรดาเอ่ยแซวพี่เชิง

"ฮะ ฮะ ฮัดชิ้ว"

"อุ๊ย สมพรปากของแท้" หญิงวีรดาได้ยินเสียงฮัดชิ้วของเชิงก่อนจักยกมือปิดปากหัวเราะออกมาเบา ๆ

"ให้พวกเราช่วยด้วยคนฤๅไม่เจ้าคะ" ภูติสมุนไพรอย่างมิรินส่งเสียงออกมาก่อนจักปรากฎตัวทันที

"พวกเจ้าจักทำอันใดฤๅ" กล้าหาญถามเพราะตนมิอาจรู้เลยว่าภูติทั้งสามตนจักกระทำอันใด ภูติทั้งสามคนได้แต่เผยรอยยิ้มอย่างมีนัย

เด็กชายชาญกำลังนั่งเหม่อลอยคิดกระไรไปเรื่อย ๆ โดยไม่รู้ว่ามีใครบางคนกำลังเอาผ้าสีดำมาคลุมหัวแล้วลักพาตัวเขาออกไปจากเรือน

"กริ๊ดดดดดดดดดดดดดด คุณชาญโดนลักพาตัวเจ้าค่ะ ใครก็ได้ พวกเอ็งรีบตามไปช่วยคุณชาญเร็ว" ภูติสมุนไพรอย่างมิรินปลอมตัวเป็นบ่าวเรียมกรีดร้องออกมาก่อนจักตะโกนให้บ่าวทุกคนตามไปช่วยคุณชาญ พยายามสร้างสถานการณ์ให้เนียนที่สุด

"ชาญ!" เด็กชายเชิงได้ยินเสียงที่บ่าวเรียมตะโกนก็รีบลุกขึ้นไม่ทันไรก็ถูกใครบางคนเอาผ้าสีดำมาคลุมหัวแล้วลักพาตัวไปอีกคน

"จ้างร้อยเล่นล้านกันเสียจริง" กล้าหาญบ่นพึมพำ

 

ณ น้ำตกขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในป่าดิบชื้น

ในบ่อน้ำนั้นมีเรือลำเล็กลอยไปตามกระแสน้ำ บนเรือลำเล็กมีเด็กชายทั้งสองคนถูกผ้าคลุมหัวไว้อยู่พร้อมกับถูกมัดแขนขาไว้กำลังนอนสลบอยู่บนเรือ ภูติทั้งสามคนเห็นว่าทั้งสองคนนั้นนอนหลับสนิทเกินไปจึงควบคุมด้วยเวทมนตร์อุ้มน้ำลอยมาเทลงบนตัวของทั้งสองคน

"อือออ" เชิงร้องออกเสียงโดยที่ตนนั้นไม่รู้ว่าคนข้าง ๆ คือใคร

"พวกเอ็งเป็นใคร ต้องการอันใดถึงลักพาตัวข้ามา บอกข้ามาสิ!" เชิงพยายามแหกปากร้องแต่ก็ไร้เสียงตอบกลับ

"หยุดแหกปากร้องได้แล้วเชิง โอ๊ย" ชาญเอ่ยด้วยความหนวกหูเสียงของแหลมของเชิงก่อนจักพยายามขยับตัวแต่เพิ่งจักรู้สึกว่าหน้าท้องข้างซ้ายของชาญถูกกระไรแทงจนชาญรู้สึกเจ็บปวด

"เป็นกระไรฤๅไม่ ชาญ" เชิงเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใยทันทีหลังได้ยินเสียงโอ๊ยของชาญ

"ข้ามิเป็นไร เจ้าละ" ชาญตอบและถามกลับในทันที

"ข้าไม่เป็นไรดอก แต่ว่าพวกเราอยู่ที่ใดนะ ไยข้าถึงได้ยินเสียงน้ำเลย" เชิงพูดออกไปตามที่ได้ยินเสียงจากหูของตนเอง

"อ้ากกกก อือ อ้ากกกก" ชาญเริ่มค่อย ๆ เจ็บปวดทรมานมากขึ้นเรื่อย ๆ ชาญกำลังจักกลายร่างเป็นอสูร ผิวของเขาเริ่มค่อย ๆ หยาบแข็งขึ้นเรื่อย ๆ ร่องรอยของเกล็ดบนตัวชาญก็ปรากฎทีละเกล็ดจนเต็มตัว

"ชาญ!! ชาญ!! เจ้าอย่าเป็นกระไรไปนะ" เชิงตะโกนออกไปด้วยความเป็นห่วงและพยายามหันตัวไปหาต้นเสียงนั้น

"ข้ากำลังควบคุมตัวเองไม่ได้ อ้ากกกกกกกกกกก" ชาญพูดทั้งที่ยังคงเจ็บปวดอยู่ก่อนจักรู้สึกเจ็บปวดสุดขีดแล้วกรีดร้องออกไปอย่างเสียงดัง

"จริงสิชาญ ข้าจำได้ว่าเจ้ามีเล็บที่แหลมคม ตัดเชือกให้ข้าได้ฤๅไม่" จู่ ๆ เชิงก็นึกภาพตอนที่ชาญปรากฎตัวเป็นร่างอสูรได้ก็นึกได้ในทันทีว่าชาญมีเล็บที่แหลมคมพอสมควรก่อนที่เชิงจักรีบหันหลังให้ชาญ

"ตัดเชือกข้าเลยชาญ" เชิงเอ่ยอย่างมั่นใจในตัวชาญ

"ขะ...ข้า ข้ามองไม่เห็น ข้ากลัวทำเจ้าเจ็บ" ชาญพูดทั้งที่ยังลังเลในความมั่นใจของเชิงและกลัวที่จักทำเชิงเจ็บ

"เจ้ายื่นปลายเล็บของเจ้ามาก่อน ประเดี๋ยวข้าจักค่อย ๆ สอดเชือกไปหาปลายเล็บของเจ้าเอง" ชาญได้ยินที่เชิงพูดเช่นนั้นก็ค่อย ๆ ส่งปลายเล็บเข้าใกล้เชิงอย่างระมัดระวัง ส่วนเชิงพยายามขยับเชือกที่ถูกมัดไว้ข้างหน้าเข้าใกล้เชิง แต่ไม่ทันใดก็เผลอไปโดนเล็บอย่างไม่ระมัดระวังตัว

"โอ๊ยยยย!" เสียงร้องของเชิงดังขึ้น

"เชิง!!"

"อย่าขยับ ตอนนี้ข้าหาเล็บของเจ้าเจอแล้ว อยู่นิ่ง ๆ ไปนะ" เชิงพูดเสร็จจึงค่อย ๆ ดันเชือกเข้าไปในปลายเล็บของชาญอย่างระมัดระวังและระแวงในเวลาเดียวกัน ค่อย ๆ เอาเชือกนั้นถูกับเล็บของชาญอย่างช้า ๆ จนขาดหมดจึงรีบเอามือยกผ้าคลุมหัวของตนเองออก แล้วรีบเอาผ้าคลุมหัวของชาญออก ก่อนจักสังเกตเห็นรอยบาดแผลบนตนของชาญ

"เจ้าบาดเจ็บนิ" เชิงพูดขึ้นพร้อมทั้งรีบหยิบผ้าเช็คหน้าของตนมาประกบกับรอยแผลนั้นหน้าท้องของชาญ

"เป็นอสูรแล้วโดนลักพาตัวได้ไงเนี่ย" เชิงโวยวายอย่างไม่เข้าใจ

"..." ชาญที่กำลังอึ้งกับความคิดของคนตรงหน้า ได้แต่ขมวดคิ้วเล็กน้อย

"อสูรเช่นเจ้าอ่อนแอเช่นนี้เชียวฤๅ ชาญ!!" เชิงยังคงโวยวายเช่นเดิมไปอีกครั้ง

"ข้ายังเด็กไง เชิง" ชาญพูดจบก็ได้แต่หัวเราะมันออกมาอย่างเสียงดังลั่น ทั้งสองคนต่างพากันหัวเราะกันอย่างชอบใจ จู่ ๆ เชือกที่มัดมือของชาญไว้ก็ค่อย ๆ สลายหายไป

"อ้ากกกกกกกกกกกกกกก" เชิงตกใจสุดขีดที่เห็นเชือกของชาญหายไปจักรีบกระโดดเข้าไปกอดชาญทันที

ซ่า ซ่า ซ่า ซ่า ซ่า ข้างหน้าของทั้งสองคนนั้นคือหน้าผาที่สูงใหญ่ที่สุดในป่าดิบชื้นแห่งนี้ ทั้งสองคนกระพริบตาถี่ใส่กันเอง

"กริ๊ดดดดดดดดด ชาญ!!! ทำกระไรสักอย่างสิ ชาญ!!! ชาญ!!! ชาญ!!!" เชิงโวยวายด้วยความเกรงกลัวสุดขีด เอาแต่ตะโกนเรียกชื่อชาญทั้ง ๆ ที่ตนนั้นกำลังกอดตัวชาญไว้อยู่

"ชาญกางปีกเร็ว ชาญ!!!! ชาญญญญญญญญญญญญญญญ"

"ชาญ!! จักตกแล้ววว บินเร็วววว ชาญญญญญ!"

"ข้าบินไม่ได้โว้ยยยยยยยยยยย" ชาญตะโกนความในใจออกไปทันที

ทั้งชาญทั้งเชิงได้แต่นั่งกลัว ๆ อยู่บนเรือนนั้นพร้อมกับตกหน้าผาไปด้วยกันทั้งคู่

ร่างกายของเด็กชายทั้งสองคนล่องลอยเหนือน้ำไปติดบนก้อนหินที่มีธารน้ำตื้น ๆ เสียงฝีเท้าเร่งรีบเข้ามาหาทั้งสองคน

"ชาญ เชิง พวกเจ้าเป็นกระไรกันฤๅไม่" เด็กชายกล้าหาญรีบเข้ามาสะกิดตัวของทั้งสองคนทันที ทั้งกล้าหาญและจ้อยพยายามตีใบหน้าของพวกสองคนอย่างเบา ๆ แต่ทั้งสองคนยังคงหายใจอยู่

"ขอโทษหนาเจ้าค่ะ ประเดี๋ยวข้าจักเอาน้ำออกจากร่างของพวกเขาให้หนาเจ้าค่ะ" ภูติทั้งสามตนเอ่ยคำขอโทษก่อนที่จักช่วยกันแยกน้ำด้วยเวทมนตร์ของตนนออกจากร่างกายทั้งสองคนทันที

"แอ่ก แฮ่ก แฮ่ก" เสียงสำลักน้ำของเชิงและชาญดังออกมาทำให้ทุกคนโล่งใจขึ้นมา

"เล่นแรงมาก จำไว้หนากล้าหาญ!" เชิงพูดด้วยน้ำเสียงแรงแค้นเพราะตนได้ยินที่เจ้าภูติกับกล้าหาญพูดคุยกันก็จับใจตามสติที่ยังหลงเหลืออยู่ แต่หมดแรงเสียก่อนจึงทรุดตัวล้มลงไปเช่นเดิม กล้าหาญเข้าประคับประคองร่างกายของเชิงไว้จึงพยายามจัดร่างกายของเชิงให้ขึ้นหลังของเขา ส่วนชาญมีทั้งจ้อยและวีรดาช่วยกันแบกร่างกายของชาญกลับเรือน