เมื่อชายหนุ่มหน้าตาฐานะบ้าน ๆ สลับร่างกับนักศึกษาสาวสวยสุดเอ็กซ์ ความระทึกใจผสมกับความโกลาหลจึงเกิดขึ้น
ดราม่า,ชาย-หญิง,ไทย,เล่าประสบการณ์,แฟนตาซี,สลับร่าง,18+,nc,เรื่องเสียว,เซ็กส์,เซ็กส์จัด,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เมื่อผมกลายเป็นสาวนักศึกษาเมื่อชายหนุ่มหน้าตาฐานะบ้าน ๆ สลับร่างกับนักศึกษาสาวสวยสุดเอ็กซ์ ความระทึกใจผสมกับความโกลาหลจึงเกิดขึ้น
ผมรีบเดินไปปิดม่านให้มิดชิด แล้วค่อย ๆ ปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาออก ผิวของน้องแพมขาวเนียนจนสว่างจ้า ผมจ้องมองเรือนร่างของตัวเองไม่กระพริบ โอ้โห พระเจ้าช่วย หุ่นดีอะไรแบบนี้ ผมถอดเสื้อเครื่องแบบตัวจิ๋วนั้นออก ตามด้วยรูดกระโปรงสั้นลงไปกองอยู่ที่พื้น
ตอนนี้ผมมีบราและชั้นในปกปิดไว้เท่านั้น หน้าอกอวบใหญ่เบียดกันเป็นร่องสวย ผมบีบนมตัวเองเบา ๆ มันรู้สึกแปลก ๆ ชอบกล หน้าร้อนขึ้นมาเฉย ๆ ผมส่องกระจกใกล้ ๆ เห็นแก้มขาวเนียนของน้องแพมแดงระเรื่อขึ้นมา
ผมค่อย ๆ ปลดตะขอบราออก ตอนนี้เต้านมอวบที่ผมเคยฝันถึงปรากฏออกมาแล้ว ปลายปทุมถันสีชมพูอ่อนดึงดูดสายตา เต้านมของแพมอวบใหญ่กว่าที่คิดและได้ทรงสวยงามอย่างยิ่ง ผมอดไมได้ที่จะบีบคลำแบบเบา ๆ นิ้วเขี่ยหัวนมตัวเองจนแข็งเป็นไต ผมใจสั่นไปกับการกระทำของตัวเอง กลืนน้ำลายลงคอดังเอื้อก หุ่นดีจริง ๆ น้องแพมเอ๋ยย ชาติที่แล้วทำบุญมาด้วยอะไรเนี่ย
ผมหันหลังมองกระจก เอวของเธอยิ่งคอดลงไปอีกจากมุมด้านหลัง สะโพกผายเต็มตึงและแน่นเปรี๊ยะ แก้นก้มหนั่นเด้งสู้มือ ผมค่อยๆ ถอดกางเกงในลง จนตอนนี้ยืนเปลือยเปล่าหน้ากระจก หน้าท้องแบนราบ เส้นขนปกคลุมบางเบา หมุนไปหมุนมาหน้ากระจก เรือนร่างของแพมไร้ไขมันส่วนเกิน ผมลองรวบเส้นผมยกขึ้น รักแร้ของเธอขาวผ่องเป็นยองใย หน้าอกใหญ่อวบชูเด่นตั้งเต้า
ลองกางขาออกเล็กน้อยแล้วค่อย ๆ ใช้นิ้วลูบไล้ลงไปจนสัมผัสกับปากร่องเบา ๆ ผมสะดุ้งโหยงขึ้นมาเพราะเป็นความรู้สึกแปลกใหม่แบบที่ไม่เคยเจอมาก่อน
"อึ๋ยย โอ้โห แฮะ...คนอะไรสวยเซ็กส์จริง ๆ”
ผมพึมพำชมรูปร่างน้องแพมซึ่งกลายเป็นร่างกายของผมในตอนนี้ เผลอใช้นิ้วบดเบา ๆ ที่ปากร่อง มันให้ความรู้สึกวูบวาบจนใจเต้นแรง ผมกลืนน้ำลายแล้วหยุดการกระทำไว้แค่นั้น
“พอ ๆ ...บ้าเปล่าวะกู”
ผมบ่นกับตัวเองแล้วตัดใจอาบน้ำ
การอาบน้ำกลายเป็นเรื่องยากลำบากสำหรับผม เพราะผมที่ยาวสลวยของเธอแห้งยากมาก แถมยังมีครีมบำรุงอีกสารพัดที่ผมไม่เคยพบเห็นมาก่อน สุดท้ายผมก็อาบน้ำไปตามปกติ แต่ที่ไม่เหมือนเดิมก็คือ สายน้ำจากฝักบัวทำให้ผมสะดุ้งได้เหมือนกันเมื่อมากระทบกับเนินสาว
เวลาผ่านไปหลายวัน การฝึกงานเสร็จสิ้นไปแล้ว ไอ้เจมาหาที่ห้องหลังเลิกงานเกือบทุกวัน สงสัยจะเบื่อ แฟนก็ไม่มี มันบ่นว่างานเยอะ ทำแต่งานไม่มีเวลาหาสาวเลย มันบ่นกระปอดกระแปดไปเรื่อย เดี๋ยวเรื่องงาน นินทาหัวหน้ากวนตีน แต่เดี๋ยววกกลับมาเรื่องเปล่าเปลี่ยวเอกา ไม่มีคนกอดเลย มันถอนหายใจวันละเป็นร้อยรอบ
“หาแฟนสักคนสิ...แก้เบื่อ” ผมบอกมัน ไอ้เจส่ายหัวแล้วบอก
“พักก่อนช่วงนี้...อยู่แบบนี้ก็สบายใจดี” มันพูดพลางนอนกระดิกเท้าบนโซฟา ในมือถือเบียร์กระป๋อง
“แล้วจะบ่นทำไมน้า” ผมเปรย
“เสาร์นี้ไปดูหนังกันมั้ย...” ไอ้เจชวน
“อะไรกัน...ระดับพี่เจหาสาวไม่ได้ ถึงกับต้องมาชวนน้องแพมเลยเหรอคะ” ผมแกล้งถาม มันอึกอักแล้วบอก
“ไปกับคนอื่นเรื่องเยอะ...ไปกับน้องแพมสบายใจดี รู้เช่นเห็นชาติ” มันพูดกวนตีน
“ไปแล้วจะมีคนเลี้ยงหรือเปล่าน้า” ผมเปรยอีก มันถอนหายใจ
“เออ เลี้ยงก็เลี้ยง” ไอ้เจพูด
เช้าวันเสาร์ ผมอาบน้ำแต่งตัว ใส่ชุดเสื้อกล้ามสีดำ คลุมด้วยเสื้อคลุมคาร์ดิแกน กางเกงยีนส์ขาสั้น รองเท้าคัทชูแบบง่าย ๆ ไอ้เจมองหัวจรดเท้าแล้วบอกน่ารักจริงเชียว วันนี้พี่เจขอชวนน้องแพมออกเดตกันสักครั้งนะครับ
จะว่าไป ตั้งแต่ผมสลับร่างมาอยู่ในร่างแพมมานานเกือบปีแล้ว เพิ่งมีครั้งนี้ครั้งแรกที่มีโอกาสได้ออกไปกับไอ้เจแบบตั้งใจไปจริง ๆ แต่จะว่าออกเดทมันก็น่ากระดากใจเกินไปหน่อย ผมคิดไปถึงคำพูดของแพมที่ว่าขอเชียร์ให้ลองคุยกับเจดู
ไอ้เจเป็นเจ้ามือเลี้ยงทั้งข้าวกลางวันและหนัง มันซื้อตั๋วหนังแบบฮันนีมูทซีท เบาะโซฟากันเลยทีเดียว ผมถามมันว่าแพงไปมั้ยเนี่ย สองคนเกือบสองพัน ไอ้เจบอกเพื่อน้องแพมแค่นี้สบายมาก มันขยับมือมาโอบไหล่แพมไว้ตั้งแต่หนังยังไม่ฉาย ดึงตัวแพมให้เอนไปพิงตัวมัน พอจะผละออกมันก็บ่นอุบ
“เอาน่า นิดหน่อยเอง ตามใจพี่เจหน่อยสิ อุตส่าห์เลี้ยงทั้งข้าวทั้งหนัง” มันพูดด้วยน้ำเสียงน่าสงสารจนต้องตามใจมัน ปล่อยให้มันโอบตัวแพมราวกับเป็นแฟนกันจริง ๆ
“ตัวหอมเชียวนะ”
มันเปรยออกมา ผมบอกชื่อยี่ห้อครีมกับหนึ่งในน้ำหอมที่แพมมีในคอลเลกชั่นนับสิบขวด ไอ้เจครางอือแบบไม่ค่อยอยากจะสนใจแฟชั่นของผู้หญิงสักเท่าไหร่ มันเกยคางบนหัวแพม แขนยังโอบไม่ปล่อย
“ท่าทางจะเหงามากนะ...ตั้งแต่เลิกกับน้องแพรวเนี่ย” ผมแซวมัน ไอ้เจถอนหายใจ ภาพในจอยังเป็นหนังตัวอย่าง
“น้องแพมมาคบกับพี่เจดีกว่า...” มันพูดขึ้นมาหน้าตาเฉย ผมหัวเราะคิก
“เพี้ยนแล้วหรือเปล่า” ผมถาม
ไอ้เจถอนหายใจออกมาอีก เหมือนมันจะหอมบนเส้นผมของแพม ผมปล่อยให้มันทำตามใจชอบ ท่าทางมันจะอึดอัดคับข้องหลายเรื่องในใจ
“พี่เจจีบน้องแพมได้มั้ย” ไอ้เจถาม
“พูดงี้หลายรอบแล้วนะ...เอาจริงใช่มั้ยเนี่ย” ผมแกล้งถาม มันเงียบไปนิดนึงแล้วบอก
“เออ...คราวนี้ เอาจริงนะ” น้ำเสียงของมันจริงจังจนต้องเงยขึ้นมองหน้า ไอ้เจยิ้ม ตาเป็นประกายแล้วบอก “ไม่มีใครรู้ใจน้องแพมเท่าพี่เจแล้วล่ะ”
เพิ่งสังเกตว่าหลัง ๆ มันไม่เรียกไอ้เป้งแล้ว เรียกแพมหรือน้องแพมตลอด แถมยังแทนตัวเองว่าเจหรือพี่เจอีกต่างหาก
“เพี้ยนแล้วแน่ ๆ” ผมเปรย
ไอ้เจเงียบ หนังเริ่มฉายแล้ว มันโอบไหล่แพมไว้แบบนั้น อากาศเย็นจนขนลุก ดีที่โรงหนังมีผ้าห่มแจกด้วย หยิบมาห่มคลุมตัวกับท่อนขาไว้
“นี่...พี่เจพูดจริงนะ” อยู่ดี ๆ ไอ้เจก็กระซิบ เสียงของมันจริงจัง แต่ก็อดหัวเราะไม่ได้
“อยากจะเอาจริง ๆ ก็จีบสิคะ” ผมพูดแหย่มัน แกล้งทำเสียงออเซาะเล็กน้อย
“แล้วจะจีบยังไงล่ะ...รู้จักกันหมดไส้หมดพุงแบบนี้อยู่แล้วนี่” ไอ้เจถามด้วยเสียงอ่อนอกอ่อนใจ ผมเงียบไปนิดนึง ก่อนจะเอ่ยเบา ๆ
“ก็ต้องตามใจ...ไม่ฝืนใจ ไม่ขัดใจ ก็แค่นั้นเอง” ผมบอก
“อืม งั้นก็ได้” ไอ้เจพูดสั้น ๆ ก่อนจะไม่ได้คุยกันอีกเลยกระทั่งหนังจบ
ระหว่างทางขับรถกลับ ไอ้เจเงียบอย่างผิดปกติ ช่วงเย็นวันเสาร์แบบนี้ รถติดหนึบหนับเลย ทุกคนแห่กันไปเที่ยว ผมหันไปมองหน้ามัน สีหน้าของมันเรียบเฉย
“นี่อย่าเงียบดิ” ผมถามมัน “คิดอะไรอยู่นักหนา...บอกกันบ้าง”
มันเงียบ เม้มปากเหมือนครุ่นคิดหาคำพูดที่เหมาะสม
“พี่เจคิดมาหลายวันแล้ว” เจพูดอ้ำอึ้ง “คิดว่า...ไม่รู้ทำไม เวลาอยู่กับแพม มันไม่นึกถึงการสลับร่างหรืออะไรเลย เพราะกิริยา การพูดการจา รวมถึงเรื่องอื่น ๆ แพมก็คือแพมที่เป็นผู้หญิงเต็มตัวในตอนนี้...ส่วนไอ้เป้งก็ไปอยู่กับเจนนู่นแล้ว”
ผมมองหน้า ตั้งใจฟังที่มันพูด จะว่าไม่เห็นด้วยก็คงไม่ใช่ แต่งงนิดนึงกับสีหน้าท่าทางเอาจริงเอาจังของมัน ไอ้เจยังว่าต่อ
“แล้วก็คิดมานานเหมือนกันว่า...เวลาอยู่กับคนอื่นก็ไม่รู้สึกสบายใจเท่าอยู่กับน้องแพมน่ะ อีกอย่างพี่เจก็ก็ไม่ได้เป็นเกย์หรือชอบเพศเดียวกันสักหน่อย ก็เห็น ๆ กันอยู่ว่าน้องแพมเป็นผู้หญิง แถมยังสวยน่ารักขนาดนี้ แล้วทำไมจะมาคบกับพี่เจไม่ได้”
มันพูดเป็นชุดเหมือนอัดอั้นมานาน จริง ๆ แล้วมันพูดก็มีส่วนถูกอยู่เหมือนกัน มันเป็นผู้ชาย ส่วนตอนนี้ผมในร่างแพมแทบจะกลายเป็นผู้หญิงเต็มตัว จิตนึกคิดแบบเดิมถูกร่างสตรีเพศกลืนหายหมดแล้ว อีกทั้งเวลาอยู่ด้วยกันกับเจก็สบายใจดีเพราะแทบจะไม่มีปากเสียงหรือทะเลาะกันเลยเพราะรู้นิสัยใจคอกันหมด และที่แน่ ๆ ก็คือมันคงไม่ทำร้ายความรู้สึกกันหรอก
“อยากจะได้ตัวแพมอย่างเดียวน่ะสิ...” ผมแกล้งถามมัน ไอ้เจส่ายหัว แล้วบอก
“ไม่ใช่แบบนั้น...” มันพูด
“งั้นไม่ต้องมีอะไรกันได้มั้ยล่ะ...ถ้าเป็นแฟนกัน” ผมถามมันอีกทันที “ไปไหนมาไหนด้วยกันเฉย ๆ ไง แบบวันนี้น่ะ”
เจหน้าเจื่อนไปนิดนึง เสียงของมันอ่อยลง
“น้องแพมจะเอางั้นก็ได้...ถ้าไม่คิดว่าใจร้ายเกินไป” เจพูด
งั้นทดลองงานสักเดือนสองเดือน ถ้าผ่านค่อยว่ากันอีกที...” ผมแกล้งบอกมัน “แต่ระหว่างนี้ต้องตามใจทุกอย่าง ห้ามขัดใจหรือฝืนใจอย่างที่บอก”
ผมตั้งเงื่อนไขให้มันไปแบบนั้น ไม่รู้เหมือนกันว่ามันมาไม้ไหน อยากจะคบกันจริง ๆ อย่างนั้นน่ะเหรอ อยู่ดี ๆ ก็มาจริงจังอะไรแบบนี้ หรือมันคิดจริงทำจริง โอย ยิ่งคิดยิ่งงง แต่จะให้ปฏิเสธมันซะทีเดียวก็ทำไม่ลง
อีกหลายวันต่อมา เจทำตัวเหมือนแพมเป็นแฟนมันจริง ๆ มันส่งข้อความมาหาบ่อย ๆ และโทรมาตอนกลางวัน ช่วงที่ว่างจากการทำงานด้วย ส่วนผมก็ไปเรียนหนังสือตามปกติ เห็นข้อความที่มันส่งมาแล้วก็ต้องอมยิ้ม ไม่มีคำหยาบกูมึง มีแต่ถามว่าน้องแพมกินข้าวหรือยัง ทำอะไรอยู่ พี่เจจะเข้าประชุมนะ อะไรทำนองนั้น
ช่วงดึกวันอาทิตย์ กำลังจะอาบน้ำเข้านอน ไอ้เจก็แวะมาหาที่ห้องในชุดนอน มันบอกเพิ่งเคลียร์งานเสร็จ เพิ่งกลับมาถึงห้องแล้วอาบน้ำเสร็จเนี่ย สีหน้าของมันเหนื่อยอ่อนบ่งบอกความเครียดจากที่ทำงาน มันเปิดเบียร์กระป๋องยกขึ้นดื่มแล้วมานั่งหลับตาบนโซฟา ถามมันว่างานหนักอย่างนั้นเลยเหรอ มันครางอือตอบรับในลำคอแล้วบอกช่างเถอะ ขี้เกียจนึกถึง
หลังอาบน้ำเสร็จ ไอ้เจก็มานอนแผ่บนเตียงซะแล้ว แถมยังกรนเบา ๆ ออกมาด้วย ผมเปลี่ยนไปใส่เสื้อกล้ามตัวเล็ก กางเกงขาสั้น ไม่มีชุดชั้นในทั้งบนและล่างแบบที่ใส่นอนปกติเวลาอยู่คนเดียว ก่อนจะมาเอนหลังนอนบนเตียง ไอ้เจสะดุ้งตื่น ตาปรือสะลึมสะลือ มันบอกว่าเดี๋ยวกลับไปนอนที่ห้อง มันเหลือบมองร่องอกของแพมที่เกือบจะล้นออกมาจากเสื้อกล้าม
“นอนนี่ก็ได้นะ...แต่ห้ามยุ่มย่าม” ผมบอก
ไอ้เจกลืนน้ำลายเอื้อก ผมพลิกตัวนอนตะแคงหันไปทางมัน หัวแพมซุกที่ไหล่ หน้าอกอวบหยุ่นเบียดบนต้นแขนหนาของมัน อยากจะทดสอบว่ามันพูดแล้วทำได้อย่างที่พูดหรือไม่ ได้ยินเสียงมันถอนหายใจออกมาหลายครั้ง
“ไม่ได้มีอะไรกับผู้หญิงมานานแล้วสิ” ผมถามมันเบา ๆ เจถอนหายใจออกมาอีก
“หลายอาทิตย์แล้ว” มันตอบ
“น่าสงสารเนอะ” ผมแหย่มัน เจถามบ้าง
“แล้วน้องแพมไม่ได้มีอะไรกับใครนานยัง”
“หลายอาทิตย์เหมือนกัน” ผมตอบ คิดในใจว่าครั้งล่าสุดก็ตอนถูกพี่พอลทำในออฟฟิศนั่นแหละ
“แล้วทนได้เหรอ” มันถามต่อ
“ไม่ได้ก็ต้องได้นี่” ผมกระซิบตอบ หลับตา มันเงียบไปครู่นึง แล้วบอก
“งั้นนอนเหอะ...พรุ่งนี้ก็เช้าแล้ว”
ผมหัวเราะออกมาเบา ๆ ขยับมือไปวางพาดบนอกมัน ขยับตัวเบียดเข้าใกล้อีก หน้าอกอวบเบียดบนแขน
“ฝันดีนะคะพี่เจ” ผมกระซิบบอกเบา ๆ รู้สึกง่วงอยู่เหมือนกัน ได้ยินเสียงไอ้เจถอนหายใจอีกหลายครั้งกระทั่งหลับไป
ตื่นมาตอนเช้า เจไม่อยู่ คงจะตื่นไปทำงานแล้ว มันทำได้จริงอย่างที่พูดแฮะ แต่ก็ต้องดูกันยาว ๆ ไป คราวหน้าจะลองแกล้งมันยิ่งกว่านี้อีก
ทุกอย่างดำเนินไปได้ด้วยดี กระทั่ง พี่พอลก็โทรมาหา...เพื่อง้อขอแพมคืนดี