ถึงจะบังเอิญได้รู้จักแต่กลับรักด้วยความตั้งใจ

สยบรักนักล่า - ตอนที่ 8 ในฐานะผู้หวังดี โดย อติญา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,ไทย,ยุคปัจจุบัน,สยบรักนักล่า ,โรแมนติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

สยบรักนักล่า

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,ไทย,ยุคปัจจุบัน

แท็คที่เกี่ยวข้อง

สยบรักนักล่า ,โรแมนติก

รายละเอียด

สยบรักนักล่า โดย อติญา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ถึงจะบังเอิญได้รู้จักแต่กลับรักด้วยความตั้งใจ

ผู้แต่ง

อติญา

เรื่องย่อ

เพราะผิดหวังกับความรักครั้งแรกอย่างแสนสาหัสแพรรัมภาจึงปิดหู ปิดตา และปิดใจตัวเองแถมยังแอบตั้งปณิธานไว้ในใจของตัวเองอีกว่าจะไม่สนใจผู้ชายหน้าไหนอีกชีวิตนี้ขออุทิศให้กับการทำมาหากินแต่เพียงอย่างเดียวแต่ใครมันจะไปรู้ว่าคนที่บังเอิญพบเจอกันโดยบังเอิญแถมเธอยังเข้าใจเขาผิดจะกลายเป็นคนเธอสามารถเปิดใจตัวเองได้อีกครั้งหนึ่ง

 

นิยายเรื่องนี้เป็นหนึ่งในนิยายชุดสยบรัก ประกอบด้วย

1.       สยบรักนักล่า โดย อติญา

2.       สยบรักนางร้าย โดย ปัทมาลา

สารบัญ

สยบรักนักล่า-ตอนที่ 1 ตัวท็อป,สยบรักนักล่า-ตอนที่ 2 บังเอิญจังเลยนะครับ,สยบรักนักล่า-ตอนที่ 3 เรื่องมันมีอยู่ว่า,สยบรักนักล่า-ตอนที่ 4 โจทก์เก่า,สยบรักนักล่า-ตอนที่ 5 แฟนเก่าคนเปรต,สยบรักนักล่า-ตอนที่ 6 สร้างเรื่องสร้างราว,สยบรักนักล่า-ตอนที่ 7 เรื่องเข้าใจผิด,สยบรักนักล่า-ตอนที่ 8 ในฐานะผู้หวังดี,สยบรักนักล่า-ตอนที่ 9 งานพิเศษ,สยบรักนักล่า-ตอนที่ 10 ทำงานสนุกทุกวัน

เนื้อหา

ตอนที่ 8 ในฐานะผู้หวังดี

เมื่อมีครั้งแรกก็ย่อมจะมีครั้งที่สองและสาม สี่ ห้าตามมาเรื่อยๆ จนในตอนนี้แพรรัมภานั้นเลิกคิดไปแล้วเรียบร้อยว่าสิรภพพาเธอไปกินข้าวกันกี่ครั้งกี่หนแต่ที่แน่ๆ คือเขาทำตามสัญญาเคยที่ให้ไว้อย่างไม่มีขาดตกบกพร่องเรื่องที่ว่าจะพาเธอไปลองชิมอาหารให้ครบทุกร้านในซอยอร่อยทั้งๆ ที่เขาจะไม่ใส่ใจก็ได้แต่ชายหนุ่มยังขยันมารับเธอออกไปสัปดาห์ละครั้งหรือสองครั้งตามแต่ว่าเขาจะว่างวันไหนและก็มีบ้างที่จะมารับเธอไปนั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋อสวยๆ อยู่ในริสโฮสต์คลับในฐานะแขกซูเปอร์วีไอพี

“วันนี้ก็ว่างมานั่งกินลมชมวิวอีกแล้วเหรอ หรือว่ามีผู้ชายเลี้ยงดูแล้วเลยไม่ต้องทำงานจนตัวเป็นเกลียวหัวเป็นนอตแบบเมื่อก่อนอีก” แน่นอนว่าการมาที่ริสโฮสต์คลับนั้นแพรรัมภาย่อมหลีกเลี่ยงการที่ต้องพบเจอหน้าอดีตคนรักไม่ได้แต่กระนั้นเธอก็พยายามอย่างที่สุดแล้วที่จะอยู่ให้ไกลเขาแต่วันนี้คงเป็นเพราะก้าวเท้าไม่ถูกข้างออกจากห้องเธอจึงถูกบริรักษ์เข้ามาทักแต่หัววันเช่นนี้

“ไม่ได้มีใครเลี้ยงดูหรอกแต่เพราะไม่ต้องแบ่งเงินไปเก็บเพื่ออนาคตที่มองไม่เห็นอีกต่อไปแล้วชีวิตเลยสบายขึ้นมานิดหน่อยไม่ต้องรอให้ผู้ชายที่ไหนมาเลี้ยงเลยคิดจะหาความสุขเล็กๆ น้อยๆ ให้ชีวิตบ้าง ว่าแต่รักษ์เถอะมาทำงานแบบนี้แฟนไม่ว่าอะไรเหรอน้ำตาลเขาออกจะขี้หึงอยู่นี่นา ต้องพบเจอผู้หญิงน่ารักทุกๆ วันแบบนี้ด้วย” แพรรัมภาลอยหน้าลอยตาตอบอย่างไม่กลัวอะไรเพราะตัวเธอเองสามารถก้าวข้ามผ่านความขื่นขมและความทุกข์โศกที่เกาะกุมในหัวใจมาได้แล้วถ้าหากย้อนมองกลับไปมองดูตนเองในครั้งอดีตเธอในตอนนี้ก็อาจจะสมน้ำหน้าแพรรัมภาคนเก่าด้วยซ้ำถ้ายังมัวแต่นั่งร้องไห้เสียน้ำตาเป็นเผาเต่าแต่ไม่ได้อะไรกลับคืนมา

แต่แพรรัมภาเป็นคนที่ไม่จมอยู่กับความเสียใจนานมากนักเนื่องจากในชีวิตนี้เธอเองก็ผ่านประสบการณ์ที่ทั้งผิดหวัง เสียใจและเสียความรู้สึกมาหลายครั้งหลายหนจนตัวเองเริ่มมีภูมิคุ้มกันก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆ จึงสามารถฟื้นตัวขึ้นมาได้ในเวลาที่ค่อนข้างรวดเร็ว

“...” เมื่อเจออดีตคนรักตอกกลับจนหน้าแทบหงายบริรักษ์ก็คล้ายจะมีอารมณ์กรุ่นโกรธเล็กๆ ผุดขึ้นมาแต่มันก็จางหายไปอย่างรวดเร็วเพราะคนที่เดินมาสมทบ

“อ้าวรักษ์อยู่ที่นี่เองเหรอได้ยินว่าลูกค้าที่โต๊ะตามหาอยู่นะ ผ้าแพรครับกลับไปที่โต๊ะกันดีกว่าวันนี้ธีร์บอกว่ามีค็อกเทลสูตรใหม่ๆ ให้คุณลองชิมต้องหลายสูตร” สิรภพเดินมาโอบเอวหญิงสาวเอาไว้ด้วยท่าทีที่ค่อนข้างสนิทสนมก่อนจะพาหญิงสาวเดินจากไปเพื่อชิมเครื่องดื่มใหม่ที่ลูกพี่ลูกน้องของตัวเองเป็นคนรังสรรค์ขึ้นมา

บริรักษ์มองตามอดีตคนรักด้วยสายตาที่ไม่อาจแปลเจตนาได้ว่าเขาจะรู้สึกเสียดาย เสียใจหรือว่าอิจฉาในยามที่เห็นแพรรัมภาอยู่ในอ้อมกอดของชายอื่นซึ่งครั้งหนึ่งที่ตรงนั้นเคยเป็นที่ของเขาโดยชอบธรรม

อันที่จริงตัวเขาเองก็ไม่ได้อยากเลิกกับแพรรัมภาตั้งแต่ต้นที่เผลอออกนอกลู่นอกทางไปบ้างก็เพราะแค่อยากเปลี่ยนกลิ่นเปลี่ยนรสโดยไม่เคยมีสักครั้งเดียวที่หญิงสาวจะจับได้แต่พอมาพัวพันกับชีวาพรหรือน้ำตาลที่เคยเป็นเพื่อนสนิทของแพรรัมภามาก่อนถูกทั้งลูกอ้อนที่คนรักไม่เคยทำอีกทั้งลีลารักที่ถึงอกถึงใจจึงเผลอไผลไปชั่วขณะหนึ่ง

ซึ่งก็แน่นอนว่าเมื่อปล่อยเวลาให้นานวันเข้าฝั่งหญิงสาวคนใหม่ก็เริ่มอยากจะผูกมัดเขาและอยากที่จะแสดงตัวว่าอยู่เหนือกว่าอดีตคนรักจนในที่สุดก็ทำให้เขาและแพรรัมภาไม่ได้ไปต่อแถมยังต้องคืนเงินที่ช่วยกันเก็บมาในหลายปีในส่วนของเธอไปหมดทุกบาททุกสตางค์เพราะเจ้าตัวมีหลักฐานในการโอนเงินให้เขาครบถ้วนทั้งๆ ที่ความจริงแล้วบริรักษ์ได้เอาเงินก้อนนั้นออกไปใช้บ้างแล้วบางส่วนเดือดร้อนต้องให้บิดามารมาเป็นธุระใช้เงินแทนให้แลกกับการโดนบ่นจนหูชามาจนถึงทุกวันนี้อีกทั้งพวกท่านก็ดูจะไม่ชอบใจในตัวของชีวาพรเท่าไหร่ด้วย

บริรักษ์สลัดความคิดที่ก่อกวนจิตใจออกจากหัวจากนั้นก็ปั้นหน้ายิ้มแย้มเพื่อออกไปรับรองลูกค้าที่เหมาดื่มเขาไปแล้วทั้งคืนแม้จะไม่ได้เป็นดื่มที่มากมายอะไรอย่างพวกตัวท็อปแต่อันดับของเขาก็ใช่ว่าจะขี้เหร่มาทำงานไม่กี่เดือนก็สามารถมีลูกค้าประจำที่ยินดีจ่ายดื่มให้เขาในราคาหลักหมื่นกลางๆ ได้ในแต่ละคืนเรียกว่าในหนึ่งสัปดาห์นั้นชายหนุ่มสามารถทำเงินได้มากกว่าการทำงานออฟฟิศหนึ่งเดือนด้วยซ้ำไป

“รักษ์มากวนใจอะไรคุณหรือเปล่าผ้าแพร” เมื่อพาหญิงสาวมานั่งที่หน้าบาร์เพื่อลองชิมเครื่องดื่มจากบาร์เทนเดอร์ฝีมือขั้นเทพของคลับแล้วสิรภพก็ไม่วายเอ่ยถามหญิงสาวด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วงจากใจจริงผสมกับความอยากรู้อยากเห็นส่วนตัวแม้เขาจะไม่รู้ว่าเธอยืนคุยกับคนรักเก่านานเท่าไหร่แต่มันก็ไม่น่าจะใช่เรื่องดีเพราะถ้าเป็นเขาก็ไม่อยากจะพูดคุยกับแฟนเก่าเหมือนกันถ้าเลี่ยงได้เขาคงเลี่ยงการที่จะพบเจอพวกเธอเพื่อความสบายใจของตัวเอง

“ก็ไม่นี่คะรักษ์แค่เข้ามาพูดคุยตามปกติตามประสาคนรู้จักก็เท่านั้นเองค่ะ ไม่ต้องไปใส่ใจหรอกแพรไม่เป็นอะไรแล้วหรือถ้าจะพูดให้ถูกก็คือรักษ์เขาไม่สามารถทำร้ายความรู้สึกของแพรได้อีกต่อไปแล้วค่ะ” แพรรัมภาไม่ได้ใส่ใจอะไรบริรักษ์อยู่แล้วการที่เขาเข้ามาพูดคุยก็น่าจะเป็นเพราะอยากรู้อยากเห็นเรื่องของตัวเธอมากกว่าเพราะว่าหลังจากที่เลิกกันไปแล้วชีวิตของหญิงสาวก็เหมือนจะมีแต่เรื่องดีๆ เกิดขึ้นเพราะเธอมีเวลาทำงานได้อย่างเต็มที่อีกทั้งยังมีเงินเก็บมากขึ้นเพราะว่าไม่ต้องแบ่งไปให้ใครใช่จ่ายเหมือนที่ผ่านมา

“ค็อกเทลแก้วนี้ชื่อว่าอะไรคะคุณธีร์ หอมผลไม้มากแต่แพรไม่รู้ว่าเป็นผลไม้อะไร” แม้ภายในริสโฮสต์คลับจะไม่ได้มีแสงสว่างมากนักแต่แพรรัมภาก็มองเห็นสีสันของเครื่องดื่มภายในแก้วที่ธีร์เสิร์ฟให้อย่างชัดเจนอีกทั้งเธอยังสัมผัสได้ถึงรสชาติและกลิ่นของเครื่องดื่มนั้นได้อย่างชัดเจนอีกด้วยแต่ก็ไม่ได้เก่งกาจถึงขนาดที่จะสามารถแยกได้ว่าเครื่องดื่มแก้วนี้นั้นบาร์เทนเดอร์คนเก่งผสมอะไรลงไปบ้าง

“เครื่องดื่มที่ผมชงให้ผ้าแพรดื่มยังไม่มีชื่อเลยครับเพราะมันเป็นค็อกเทลที่เพิ่งคิดสูตรขึ้นมาใหม่เหล้าที่ใช้ทั้งหมดเป็นสุราพื้นบ้านจากหลายๆ พื้นที่ผมกับเฮียภพสะสมเอาไว้เองแหละวันนี้เรามาช่วยกันตั้งชื่อเครื่องดื่มดีไหมครับ” สถานบันเทิงที่ไหนๆ ก็มักจะมีเครื่องดื่มเป็นจุดขายด้วยกันทั้งนั้นและก็แน่นอนว่าบาร์เทนเดอร์อย่างธีร์ก็ย่อมต้องคิดค้นหาสูตรเครื่องดื่มที่เป็นเอกลักษณ์ของร้านออกมาอย่างสม่ำเสมอเพราะบางครั้งเครื่องดื่มแต่ละแก้วต่างก็ใช้ส่วนผสมที่แตกต่างกันไปตามฤดูกาลจึงไม่ได้มีให้ดื่มตลอดทั้งปี

“แล้วแก้วนี้มีผสมอะไรบ้างคะแพรจะได้ตั้งชื่อได้ถูก” แม้ไม่แน่ใจว่าตัวเองจะสามารถตั้งชื่อค็อกเทลที่ไพเราะและชวนดื่มขึ้นมาได้แต่ก็อยากจะพยายามดูจนท้ายที่สุดแล้วทั้งคืนนั้นแพรรัมภาก็สนุกไปกับการฟังทั้งธีร์และสิรภพเล่าเรื่องความเป็นมาของสุราพื้นบ้านแต่ละชนิดและช่วยกันตั้งชื่อเครื่องดื่มได้สำเร็จไปหลายแก้ว

ซึ่งก็แน่นอนว่าการกระทำของแพรรัมภาย่อมอยู่ในครรลองสายตาของอดีตคนรักอย่างบริรักษ์ซึ่งเมื่อชายหนุ่มเห็นภาพที่แพรรัมภายิ้มกว้างให้คนอื่นนั้นใจของเขากลับรู้สึกกระวนกระวายใจคล้ายกับหวงแหนไม่อยากให้รอยยิ้มนั้นถูกแบ่งปันให้ใครนอกจากตัวเอง

เมื่อคิดได้เช่นนั้นบริรักษ์ก็มีความคิดว่าจะไปง้อขอแพรรัมภาให้กลับมาคืนดีโดยที่ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยมีความคิดเช่นนั้นเกิดขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย วันรุ่งขึ้นที่เป็นวันหยุดของเธอเขาจึงมาดักรอที่หน้าอพาร์ตเมนต์แต่เช้าเพราะมั่นใจว่าหญิงสาวยังใช้ชีวิตของเธออยู่แบบเดิมคือในวันหยุดเธอจะตื่นขึ้นมาในเวลาประมาณเจ็ดแปดโมงเช้าเพื่อออกมาหาข้าวกินจากนั้นจึงจะเริ่มออกไปซื้อข้าวของต่างๆ เพื่อมาเตรียมเปิดร้านเดลิเวอรี่ของตนเอง

แต่สิ่งที่บริรักษ์ไม่คิดว่าตนเองจะได้รับจากแพรรัมภาก็คือสายตาที่เย็นชาและท่าทีที่วางเฉยต่อให้เขาเดินตามเธอไปร้านข้าวหรือพยายามพูดคุยกับเธอมากแค่ไหนแต่ก็ไม่ได้รับการร่วมมืออะไรกลับมาเลยแม้แต่น้อยในตอนนี้ชายหนุ่มรูปหล่อที่ฝืนสังขารตื่นมาตอนเช้าหลังจากได้นอนหลับพักผ่อนไปตอนเกือบสว่างเพื่อมาตามตื๊อคนรักจึงไม่ต่างจากอากาศธาตุในสายตาของเธอไปแล้ว

“แพรคิดว่าเฮียภพเขาจะจริงจังกับผู้หญิงที่มีแต่ตัวอย่างนั้นเหรอ” เมื่อนั่งจ้องหน้ากันอยู่นานที่ร้านขายต้มเลือดหมูเจ้าเด็ดเจ้าดังประจำซอยที่หญิงสาวเลือกมาฝากท้องในตอนเช้าก็เป็นฝ่ายบริรักษ์ที่เปิดปากพูดเรื่องไม่เข้าท่าขึ้นมาก่อน

“แพรจะบอกให้นะรักษ์ถ้าไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรไอ้เรื่องโง่ๆ เก็บไว้กับตัวบ้างก็ได้ไม่ต้องแสดงออกมาเสียหมด แล้วอีกอย่างถ้าคิดเรื่องดีๆ ที่จะพูดออกมาไม่ได้ก็เงียบปากไปเถอะอย่ามาทำลายบรรยากาศดีๆ ของคนอื่นเลย” แพรรัมภาเสียสละเวลาอันมีค่าละจากมาจากต้มเลือดหมูจิงจูฉ่ายที่แสนอร่อยตรงหน้าเพื่อมาพูดกับผู้ชายรูปหล่อที่กำลังทำตัวไร้แก่นสารและโง่เขลาอยู่ในตอนนี้

“หรือว่าแพรเห็นเฮียภพรวยก็เลยอยากสบาย ตอนนี้รักษ์ก็หาเงินได้มากกว่าเดิมแล้วนะถึงจะไม่มากเท่าเฮียก็เถอะรักษ์ดูแลแพรได้ถ้าหากว่าเรากลับมาคบกันอีกครั้ง” คำพูดหน้าไม่อายที่หลุดออกมาจากปากของบริรักษ์ทำเอาแพรรัมภาอยากจะเอาต้มเลือดหมูสาดหน้าให้เขาได้สติถ้าไม่ติดว่าเสียดายเงินห้าสิบบาทของตัวเอง

“รักษ์ยังสติดีอยู่หรือเปล่าไม่มีใครกลับไปอ่านหนังสือเล่มที่ตัวเองรู้ว่าตอนจบมันมีแต่เรื่องน่าผิดหวังและเสียใจหรอกนะ เอาเวลาที่มาทำตัวไร้สาระอยู่แบบนี้ไปใส่ใจดูแลคุณพ่อกับคุณแม่บ้างดีกว่าเพราะครั้งก่อนที่เจอกันพวกท่านบอกว่ารักษ์ไม่ค่อยได้กลับไปค้างที่บ้านเลย อย่าหาว่าแพรสอนเลยนะพ่อแม่เรามีคนเดียวใส่ใจท่านให้มากหน่อยเถอะ” แพรรัมภารู้ดีว่าการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักนั้นมันแสนจะเจ็บปวดมากมายเพียงไหน

และในยามนี้เมื่อเหลือตัวคนเดียวแม้ยากที่จะทำใจแต่ก็ต้องอดทนให้มากที่สุดเท่าที่ตัวเองจะทำได้แล้วก็ใช้ชีวิตต่อไปให้ดีที่สุดโดยที่จะไม่ทำให้คนที่ล่วงลับไปแล้วต้องทุกข์ใจอยู่ในภพภูมิอื่นแม้จะไม่รู้เลยว่าโลกหน้า นรก สวรรค์หรือว่าอีกภพภูมินั้นมีจริงหรือไม่แต่ทุกวันนี้แพรรัมภาก็ยังยึดมั่นในสิ่งที่เธอคิดและทำในสิ่งที่ตนเองตั้งใจมาโดยตลอด

“ไม่ใช่เรื่องที่แพรจะต้องมายุ่งวุ่นวายอะไร”

“อือ ก็ไม่ได้อยากยุ่งหรอกเพราะฉะนั้นรักษ์เองก็ไม่ควรต้องมายุ่งวุ่นวายกับเรื่องส่วนตัวของแพรเหมือนกันเพราะฉะนั้นต่างคนต่างอยู่อย่างที่เคยทำก็น่าจะดีที่สุดแล้วไม่จำเป็นต้องมาทำตัวเป็นผู้หวังดีทั้งที่ใจจริงไม่ได้คิดแบบนั้นมันน่ารังเกียจ ป้าคะค่าข้าวหกสิบบาทแพรวางไว้ให้ที่โต๊ะนะคะพอดีรีบค่ะจะต้องไปจ่ายตลาดซื้อของมาขาย” แพรรัมภาตะโกนบอกป้าคนขายต้มเลือดหมูจากนั้นก็ลุกเดินไปรอรถโดยมีจุดหมายเป็นห้างค้าส่งที่ไปอยู่เป็นประจำ