ถึงจะบังเอิญได้รู้จักแต่กลับรักด้วยความตั้งใจ
รัก,ชาย-หญิง,ไทย,ยุคปัจจุบัน,สยบรักนักล่า ,โรแมนติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
สยบรักนักล่าถึงจะบังเอิญได้รู้จักแต่กลับรักด้วยความตั้งใจ
เพราะผิดหวังกับความรักครั้งแรกอย่างแสนสาหัสแพรรัมภาจึงปิดหู ปิดตา และปิดใจตัวเองแถมยังแอบตั้งปณิธานไว้ในใจของตัวเองอีกว่าจะไม่สนใจผู้ชายหน้าไหนอีกชีวิตนี้ขออุทิศให้กับการทำมาหากินแต่เพียงอย่างเดียวแต่ใครมันจะไปรู้ว่าคนที่บังเอิญพบเจอกันโดยบังเอิญแถมเธอยังเข้าใจเขาผิดจะกลายเป็นคนเธอสามารถเปิดใจตัวเองได้อีกครั้งหนึ่ง
นิยายเรื่องนี้เป็นหนึ่งในนิยายชุดสยบรัก ประกอบด้วย
1. สยบรักนักล่า โดย อติญา
2. สยบรักนางร้าย โดย ปัทมาลา
ไม่กี่เดือนต่อมาแพรรัมภาได้ข่าวมาจากพี่สาวว่าทางร้านเครื่องสำอางที่นำเข้าพวกเธอทำงานมาอย่างยาวนานจะทำการปิดปรับปรุงร้านใหม่ชั่วคราว ในตอนนี้ทุกคนทั้งพนักงานกะเช้ากะดึกจึงต้องมารวมพลังกันจัดเก็บข้าวของเพื่อนำออกมาลดราคาเป็นการระบายสต๊อกสินค้าออกไปส่วนหนึ่งเพราะเมื่อเปิดร้านใหม่อีกครั้งจะมีการเพิ่มประเภทสินค้าที่ขายให้หลากหลายมากขึ้นห้องสต๊อกจึงต้องการพื้นที่ในการจัดเก็บ
จากเดิมที่ขายเครื่องสำอางก็จะขยับมาขายพวกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต่างๆ รวมถึงมีน้ำหอมเพิ่มขึ้นมาด้วยตัวร้านที่จึงต้องจัดสรรพื้นที่ครั้งใหญ่และการที่นำสินค้าออกมาขายแบบลดราคาก็จะทำให้ช่วยลดภาระของจำนวนยอดสินค้าในสต๊อกไปด้วยในตัว
“ผมแวะไปที่คอมมูนิตี้มอลล์มาเห็นที่ทำงานของคุณแพรติดป้ายว่าปิดปรับปรุงร้านชั่วคราวอยู่เหรอครับ” ช่วงหัวค่ำที่สิรภพมารับข้าวกล่องไปที่ร้านด้วยตนเองเขาจึงมีโอกาสไถ่ถามเรื่องที่ทำงานหลักของเธอแม้จะรู้เรื่องอยู่บ้างในฐานะเจ้าของพื้นที่แต่ก็ยังอยากจะมาสอบถามเธอด้วยตนเอง
“ใช่ค่ะน่าจะปิดไม่เกินหนึ่งเดือนหรือสองเดือนระหว่างนี้เจ้าของร้านกำลังไปหาสินค้ามาลงที่ร้านเพิ่มค่ะอันที่จริงร้านก็ใช้เวลาปรับปรุงไม่น่าจะเกินสามสิบวันแต่ที่ปิดนานเพราะพวกเรายังต้องมาจัดการระบบสินค้าหลังบ้านก่อนวางขายค่ะ ช่วงนี้แพรเลยเปิดขายข้าวเต็มวันเลยแต่บางวันอาจจะปิดร้านออนไลน์เป็นพักๆ บางทีวัตถุดิบมันก็หมด” เรื่องของร้านค้ายังต้องมีเรื่องจุกจิกต่างๆ อยู่อีกมากมายโดยเฉพาะระบบสต๊อกสินค้าไม่ใช่ว่าได้ของมาแล้วจะเอามาวางขายเลยได้อย่างน้อยๆ ก็ต้องมีการคีย์ข้อมูลเข้าระบบของทางร้านก่อนจะได้ยิงบาร์โคดออกใบเสร็จหรือว่าใบกำกับภาษีได้ถูกต้องตามกฎหมาย
“อ้อ อย่างนั้นเองเหรอครับพอดีเลยครับคุณผ้าแพรผมมีเพื่อนเขาเปิดคาเฟ่อยู่ตอนนี้แม่ครัวมันขาดถ้าหากคุณอยากทำงานพิเศษตอนกลางวันตั้งแต่เก้าโมงเช้าถึงสี่โมงเย็นก็บอกได้นะครับ ที่ร้านเป็นครัวฝรั่งน่ะต้องทำอาหารพวกแซนด์วิชแล้วก็สปาเกตตีทำตามสูตรของร้านอะไรทำนองนั้นแล้วก็บางครั้งก็ต้องจัดช่วยเค้กจัดขนมออกเสิร์ฟลูกค้าด้วย” นอกจากจะตั้งใจมารับอาหารด้วยตนเองแล้วอีกหนึ่งสิ่งที่สิรภพลืมไม่ได้เลยก็คือมาปรึกษาแพรรัมภาเรื่องของงานพิเศษที่เพื่อนของเขากำลังหาแม่ครัวพาร์ทไทม์พอดีว่ามันเคยแวะมาที่ร้านแล้วได้กินข้าวกล่องฝีมือของเธอจึงสนใจอยากให้มาร่วมงานกัน
“น่าสนใจอยู่นะคะว่าแต่ร้านของเพื่อนคุณภพอยู่แถวไหนเหรอคะพอดีแพรเองก็ต้องคำนวณระยะทางด้วยว่ามันคุ้มกับค่าจ้างหรือเปล่า” เธอไม่ได้จะตั้งใจฟันราคาค่าตัวจนนายจ้างชั่วคราวหัวแบะแต่ทั้งนี้ก็ยังต้องขอคำนวณค่าใช้จ่ายในการเดินทางในแต่ละวันว่ามันคุมกับค่าจ้างหรือไม่หากว่ามันได้ไม่คุ้มเหนื่อยเธอเปิดร้านออนไลน์ของตัวเองอยู่ที่ห้องก็น่าจะคุ้มกว่า
“จากตรงนี้นั่งรถไฟฟ้าไปไม่กี่สถานีเองครับถ้าจำไม่ผิดจะห้าหรือหกสถานีนี่แหละผมก็ไม่ค่อยแน่ใจส่วนค่าจ้างคิดเหมาเป็นวันครับฝีมือทำอาหารของคุณแพรดีถึงขนาดนี้ผมไม่มีทางให้มันกดค่าตัวคุณแน่” เรื่องราคาค่าจ้างนั้นตัวชายหนุ่มเจรจาต่อรองมาให้เสร็จเรียบร้อยแล้วที่สำคัญไอ้เพื่อนตัวดีมันก็ยินดีที่จะจ่ายเพราะมั่นใจว่าตัวเองก็จะได้แรงงานที่มีคุณภาพไปร่วมงานด้วยเหมือนกัน
“ถ้าอย่างนั้นแพรขอไปดูที่ทำงานก่อนได้ไหมคะเพื่อประกอบการตัดสินใจค่ะ” แม้ใจของเธอจะเอนเอียงไปทางรับงานนี้กว่าครึ่งแล้วแต่กระนั้นเธอก็ยังต้องการที่จะไปดูสถานที่ทำงานจริงให้เห็นกับตาตัวเองเสียก่อนเพราะนอกจากระยะทาง เนื้องานแล้วสถานที่ทำงานและเพื่อนร่วมงานก็สำคัญแม้จะเป็นแค่งานพิเศษก็ตาม
“คุณแพรสะดวกวันไหนบอกผมได้เลยนะครับเดี๋ยวผมพาไปเองเราลองเดินทางกันด้วยรถไฟฟ้าก็ได้จะได้เหมือนเวลาที่เดินทางไปทำงานจริงๆ วันพรุ่งนี้เลยดีไหมครับผมว่างนะช่วงเช้าไม่ได้มีงานอะไรด้วย” แม้ใจอยากจะเสนอตัวไปรับไปส่งแพรรัมภาทำงานพิเศษทุกๆ วันแต่มันก็คงเป็นไปไม่ได้เพราะตัวสิรภพเองก็มีงานการอีกมากมายหลายอย่างที่ต้องรับผิดชอบแต่ถ้ามีเวลาเขาก็จะรับอาสาไปสั่งเธอด้วยตัวเองอย่างแน่นอน
“อ้อ ได้เลยค่ะแพรจะได้ไม่ต้องออกไปจ่ายตลาดตอนเช้าเอาเป็นว่าช่วงเก้าโมงคุณภพเอารถมาจอดไว้ที่หน้าอพาร์ตเมนต์นะคะแล้วเราค่อยนั่งรถไฟฟ้าไปกันแพรจะได้ศึกษาเส้นทางไปด้วย” เมื่อได้ข้อสรุปแล้วทั้งแพรรัมภาและสิรภพก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเองโดยฝั่งชายหนุ่มก็ไปคุมโฮสต์คลับส่วนหญิงสาวก็ไปทำนู่นทำนี่รอออเดอร์จากแอปเดลิเวอรี่
คาเฟ่ที่สิรภพพาเธอมานั้นเป็นคาเฟ่ขนาดกลางๆ ที่ตกแต่งสไตล์มินิมอลมินิใจดูสะอาดตาเห็นแล้วแพรรัมภาก็เริ่มอยากจะมีร้านเล็กๆ เป็นของตัวเองบ้างแล้วแต่ตอนนี้เงินเก็บในกระเป๋ายังมีไม่มากพอหากยังต้องการจะเปิดร้านจริงๆ อาจจะต้องเก็บเงินอีกสักสามสี่ปีก็น่าจะพอมีค่าเช่าที่ในทำเลเหมาะๆ ได้
“ชอบใช่ไหมครับร้านนี้เพื่อนผมมันเปิดให้น้องสาวมันทำแต่ไปๆ มาๆ น้องสาวก็เบื่อมันเลยเอามาดูแลเองแล้วก็ให้แฟนมาช่วยด้วยตอนนี้น้องสาวหนีไปเที่ยวรอบโลกแล้วภาระเลยมาตกที่พี่ชายแบบเต็มๆ” ประวัติคร่าวๆ ของคาเฟ่แห่งนี้ก็เกิดมาจากความคลั่งรักน้องสาวของเจนรบแต่เพราะน้องสาวอย่างเจนจิราเป็นคนขี้เบื่อเลยดูแลร้านได้ไม่ถึงปีก็หนีพี่ชายไปท่องเที่ยวโดยให้เหตุผลว่าขอออกไปตามหาความฝันบาปกรรมจึงมาตกอยู่ที่เจนรบและแฟนสาวแต่ดูไปแล้วมันคงเป็นบาปกรรมสีชมพูเพราะทั้งคู่ก็ออกจะชอบร้านนี้อยู่ไม่ใช่น้อย
“ไอ้ภพมาถึงแล้วทำไมไม่ยอมเข้ามาปล่อยให้น้องเขาไปยืนตากแดดอยู่ได้ สวัสดีครับพี่เจนรบเป็นเจ้าของคาเฟ่นี้ส่วนคนนี้แป้งปั้นแฟนพี่เองตอนนี้แป้งเป็นมือทำขนมอันดับหนึ่งของเราเลย” เดินส่องรอบนอกร้านได้ไม่เท่าไหร่เจ้าของคาเฟ่ที่เป็นชายหนุ่มร่างกายสูงใหญ่แบบที่เขาเรียกกันว่าหุ่นหมีก็ออกมาต้อนรับพร้อมกับแนะนำตัวเองและด้วยความเป็นกันเองของเจ้าของคาเฟ่กับแฟนสาวรวมไปถึงพนักงานก็น่ารักกันทุกคนแพรรัมภาจึงมั่นใจว่าตัวเองน่าจะสบายใจในตอนที่ทำงานพิเศษอยู่ที่นี่
“อย่างที่บอกแหละค่ะแม่ครัวของเรามีอุบัติเหตุนิดหน่อยช่วงนี้พี่เลยให้พักงานไปก่อนแต่เราก็ต้องหาคนมาทำงานแทนด้วยเหมือนกัน งานจะยุ่งช่วงเปิดร้านกับตอนเที่ยงๆ ค่ะเพราะลูกค้าเข้ามากินข้าวกันค่อนข้างเยอะ เมนูของเราไม่มีอะไรซับซ้อนมีสูตรให้ทำตามได้เลยส่วนวัตถุดิบก็จะช่วยกันเตรียมเอาไว้แล้ว ถ้าน้องแพรมาทำงานหลักๆ ก็จะอยู่ในครัวนี้แหละค่ะทำอาหารแล้วก็จะมีบ้างที่ต้องช่วยจัดจานขนม พี่รบเล่าให้ฟังว่าเคยชิมอาหารน้องแพรแล้วอร่อยมากเลยอยากให้มาร่วมงานกัน” ในตอนนี้แพรรัมภาแยกเข้ามาสำรวจในครัวที่จะเป็นพื้นที่ทำงานกับพี่แป้งปั้นส่วนคุณภพกับคุณเจ้าของร้านนั้นคุยกันอยู่ด้านนอก
“แพรแค่ทำในแบบที่คิดว่าตัวเองกินอร่อยให้ลูกค้าค่ะบางอย่างก็ฝึกทำเอาเห็นคนเขานิยมกันก็แค่ลองทำตามก็ลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ แล้วตอนนี้มีใครทำอาหารให้ลูกค้าเหรอคะพี่แป้ง”
“พี่กับพี่รบสลับกันเข้ามาทำจ้ะเพราะทำขนมมันจะยุ่งแค่ช่วงเช้าถ้าจัดเข้าตู้เสร็จแล้วมันก็ไม่มีอะไรนอกจากคอยเติมของเข้าตู้ไม่ให้ขาดขนมเค้กพี่จะอบแป้งเตรียมเอาไว้สองวันครั้งร้านเรามีตู้แช่ขนมโดยเฉพาะที่ห้ามเอาของคาวเข้าไปแช่อย่างเด็ดขาดเลยเป็นตู้ใบนี้นะคะ ส่วนขนมชนิดอื่นพี่ก็จะทำวันต่อวันสลับๆ กันไปแต่ที่ขาดไม่ได้เลยก็จะเป็นพวกชีสพายผลไม้ต่างๆ อันนั้นขายดีตลอดกาลทำออกมาเท่าไหร่ก็ขายหมด”
ไม่ว่าจะคนทำขนมหรือว่าคนทำอาหารต่างก็มีวิธีการบริหารจัดการที่จะให้งานของตนเองดำเนินไปอย่างง่ายที่สุดพอได้มาเห็นการทำงานที่มีระบบแบบนี้แล้วแพรรัมภาก็สบายใจอยู่มาก
“ขอแพรลองทำอาหารดูได้ไหมคะพี่แป้งจะได้รู้ว่าอาหารที่แพรทำตามสูตรของทางร้านมันพอจะกินได้หรือเปล่า ขอเป็นเมนูที่ขายดีก็ได้ค่ะจานนั้นลูกค้าจะสั่งกันบ่อยๆ ถ้ารสชาติเปลี่ยนหรือเพี้ยนไปก็คงจะไม่ดีแน่” แพรรัมภาเสนอตัวเองทำอาหารตามสูตรของร้านให้เจ้าของร้านทั้งสองคนได้ลองชิมและเพื่อเป็นการทดสอบตัวเองไปด้วยในตัว
ทางร้านขายอาหารแบบฝรั่งเป็นหลักแต่ก็ยังมีเมนูข้าวแบบไทยๆ อย่างข้าวผัดหลากหลายแบบให้สั่งชิมกันได้แป้งปั้นจึงเลือกเมนูขายดีประจำร้านคือสปาเกตตีแฮมเห็ด กับข้าวผัดเนยกระเทียมหน้ากุ้งให้แพรรัมภาได้ทดลองฝีมือแต่ก็ยังมีคนมางอแงร้องอยากจะกินเมนูอื่นเพิ่มเนื่องจากกลัวว่าจะไม่พอกินช่างเป็นผู้ชายที่ตะกละสิ้นดี
“ถ้าอย่างนั้นแพรขอทำสปาเกตตีผัดพริกแห้งหอยลายกับข้าวผัดแฮมข้าวโพดเพิ่มให้ดีกว่าค่ะ ขออนุญาตใช้ครัวนะคะพี่รบ พี่แป้ง ขอรบกวนทุกคนด้วยนะคะ” แพรรัมภายิ้มหวานให้คนทั้งร้านก่อนจะไปยืนประจำที่หน้าเตาจากนั้นก็กวาดตาดูส่วนผสมต่างๆ ที่ต้องใช้ในการทำอาหารทั้งสี่จานแม้จะไม่คุ้นชินกับพื้นที่ครัวแต่เพราะทางร้านจัดวางทุกอย่างไว้อย่างเป็นระเบียบจึงไม่มีอะไรยากเกินไปสำหรับเธอ
อาหารสี่จานใช้เวลาไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็เสร็จสิ้นอีกทั้งหน้าตาของอาหารแต่ละจานก็คล้ายคลึงกับหน้าตาของอาหารที่ขายอยู่ในร้านราวกับฝาแฝดส่วนเรื่องรสชาตินั้นแทบไม่ต้องพูดถึงเพราะทุกคนที่ได้ชิมต่างก็ลงความเห็นว่ามันอร่อยโดยบางจานรสชาติก็คล้ายกับต้นฉบับแต่บางจานก็อร่อยมากกว่าต้นฉบับไปมาก
“ต่อให้มีสูตรให้ทำตามแต่บางครั้งคนทำอาหารก็เผลอใส่เครื่องปรุงไปตามความเคยชินของตัวเองอยู่บ้างค่ะมันชินมือแค่รสชาติไม่โดดไปก็คงไม่แย่ ถ้าทุกคนบอกว่าอร่อยแพรก็ดีใจแล้วค่ะ” แพรรัมภายิ้มหวานเต็มแก้มเมื่อเห็นว่าทุกคนดูจะชอบอาหารที่เธอเป็นคนปรุงอีกทั้งคำชมที่จริงใจก็ยังทำให้เธอรู้สึกภูมิใจมากกับอาหารที่ตนเองได้ทำขึ้นมาในวันนี้โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าระหว่างที่เธอกำลังมีความสุขอยู่นั้นมีสายตาที่อิจฉาริษยากำลังจ้องมองเธออยู่
“นั่นมันผ้าแพรไม่ใช่เหรอ ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้นะมาทำงานเหรอเห็นเดินออกมาจากครัวของร้านด้วย”
“คนอย่างมันก็ได้แค่นั้นแหละ ไม่ว่าจะกี่ปีก็ต้องทำงานเป็นลูกน้องคนอื่นอยู่วันยังค่ำเราเปลี่ยนร้านกันเถอะเห็นหน้ามันแล้วกินข้าวไม่ลงแล้ว คลื่นไส้” แม้อยากจะขัดเพื่อนสนิทแต่ทุกคนก็ต้องยอมเดินตามชีวาพรออกไปข้างนอกร้านเพราะถ้าหากมีใครทำให้คุณหนูน้ำตาลขัดใจก็จะเป็นเรื่องได้อีก