เรือนร่างสวรรค์สร้าง ความสวยหวานปานกุหลาบแรกแย้ม แต่ยังแฝงความเปรี้ยวให้เห็น ไม่แปลกที่จะมีหมู่ภมรที่มีพิษร้ายเหลือแสนมาดอมดม เธอจะผ่านโลกอันแสนโหดร้ายใบนี้ไปได้อย่างไร
ชาย-หญิง,หญิง-หญิง,ดาร์ค,ดราม่า,ผู้ใหญ่,เรื่องเสียว,เซ็กส์,18+,NC25++,NTR,ดราม่า,นักศึกษา,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
นักศึกษาหวานซ่อนเปรี้ยว ฉบับสมบูรณ์ (มี e-book)เรือนร่างสวรรค์สร้าง ความสวยหวานปานกุหลาบแรกแย้ม แต่ยังแฝงความเปรี้ยวให้เห็น ไม่แปลกที่จะมีหมู่ภมรที่มีพิษร้ายเหลือแสนมาดอมดม เธอจะผ่านโลกอันแสนโหดร้ายใบนี้ไปได้อย่างไร
ในความรู้สึกของสาวแบมขณะนี้ ความมึนงงเริ่มคลายไป กลับกลายเป็นความร้อนรุ่มเข้ามาแทนที่ แบมสะบัดศรีษะเพื่อไล่ความสับสนอยู่หลายครั้ง ก่อนจะลืมตาขึ้นมาก็พบว่า มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น
เมื่อเริ่มรู้ว่าอะไรเป็นอะไร แบมพยายามดิ้นขัดขืน พร้อมตะโกนร้องกรี๊ดออกมาสุดเสียง แต่ทว่า ด้วยฤทธ์ยาที่กำลังออกสำแดงเดชเต็มที่ สถานการณ์กลับกลายเป็นแค่หญิงสาวทำได้แค่ดิ้นขลุกขลักเบา ๆ ในอ้อมแขนของเจตต์ ส่วนเสียงร้องก็เป็นเพียงเสียงแหบเบาเท่านั้นเอง
“อือออ พี่เจตต์ ทำอะไรแบม...ไม่เอา...ออกไปนะ...อย่า”
เจตต์เหลือบตาขึ้นมองพลางหัวเราะ หึ หึ ในลำคอ เขาไม่ตอบโต้อะไรแต่เดินหน้าก้มหน้าก้มตาดูดดื่มความสดหวานจากเต้านมสวยล้นมือคู่นั้นอย่างสะใจในอารมณ์ อาการดิ้นรนของสาวน้อยเหมือนน้ำมันที่ราดลงไปในกองไฟ ประหนึ่งกวางน้อยที่ดิ้นรนเอาชีวิตรอดเฮือกสุดท้ายเมื่อถูกราชสีห์ขย้ำคอ ปลุกอารมณ์กระสันในด้านมืดให้ลุกโชนยิ่งขึ้นไปอีก
แบมดิ้นรนอย่างไร้ความหมายได้ไม่เท่าไหร่ ก็หมดแรง นอนหอบเหนื่อย หายใจกระชั้นถี่ ดวงตาหวานซึ้งกระพริบถี่ ๆ แล้วน้ำตาก็ไหลลงมาอาบสองแก้ม
หนุ่มเจตต์ไม่สะทกสะท้านกับหยาดน้ำตาของสาวน้อย แต่กลับคึกคะนองยิ่งขึ้น เขาเอะใจบางอย่าง คิดว่าสาวน้อยในอ้อมกอดตอนนี้ยังบริสุทธิ์ผุดผ่องอยู่หรือไม่ ชายหนุ่มตั้งหน้าฟอนเฟ้นเคล้นเต้านมต่อไป แล้วขยับมือลงมาที่ท่อนขาเรียวขาวนวลของสาวน้อย ซึ่งขณะนี้กระโปรงนักศึกษา ร่นขึ้นมาจนเห็นกางเกงชั้นในขาวที่ห่อหุ่มเนินอวบอูมไว้ เจตต์ลูบไล้ไปมาแล้วพุ่งเป้าไปคลึงที่เนินนูนของเธอทันที
“อุ้ย ...อือ อย่า อย่าค่ะ”
แบมสะดุ้ง ร้องอุทานพลางวิงวอนออกมาแผ่วเบา เมื่อส่วนที่เธอถนอมที่สุดในชีวิตถูกรุกล้ำจากชายที่เธอเพิ่งรู้จัก จึงพยายามดิ้นรน แบมพยายามแกะมือของเจตต์ที่กำลังลูบคลึงออก แต่ร่างกายของเธอกลับอ่อนปวกเปียกราวเนยเหลวกลางแดดจ้า ไม่มีแรงจะไปต่อกรกับชายหนุ่มได้เลย
“อืออ ไม่...อย่า..ปล่อยแบมนะ...พี่เจตต์ ได้โปรด”
นิ้วมืออันจัดเจนในการเล้าโลมของเจตต์ กรีดไปตามร่องผ่านกางเกงในสีขาวแนบเนื้อ ขึ้นไปสะกิดติ่งเสียวของแบมอย่างจงใจและชำนิชำนาญ แบมสะดุ้งเฮือก กำไปที่ข้อมือของเจตต์แน่น พยายามดิ้นรนแต่ไม่มีเรี่ยวแรงจะทำอะไรให้ดีขึ้นได้เลย
ร่างกายที่อ่อนระทวยกำลังสวนทางกับอารมณ์สาวของแบม ที่เริ่มตื่นตัวมากขึ้นทุกขณะ เพราะความเชี่ยวชาญในการปลุกปั่นอารมณ์หญิงสาวของเจตต์ บวกกับฤทธิ์ยาปลุกเซ็กส์อย่างแรงที่กำลังทำงานของมันอย่างเต็มที่
“อย่า..อย่าค่ะ...พี่เจตต์ หยุดเถอะ”
ความต้องการบางอย่างในหัวอกหญิงสาวปะทุเหมือนถ่านที่กำลังต้องลม แต่ด้วยการวางตัวที่ดีมาตลอดชีวิต และกรอบประเพณีที่แบมถืออยู่ ทำให้เธอยังคงดิ้นถอยหนี เพื่อให้หลุดพ้นจากนิ้วมือของชายหนุ่มที่กำลังเคล้าคลึงโหนกนูนของเธอ
ที่ซุ้มม้านั่งในมหาวิทยาลัย แบม หวาน และฝน สาวสวยดาวเด่นประจำคณะ หรือจะกล่าวว่าดาวเด่นประจำมหาลัยเลยก็ว่าได้ นั่งคุยกันอย่างออกรสใต้เงาไม้ร่มรื่นของต้นหูกวาง โดยไม่รู้ตัวว่า มีสายตาหลายสิบคู่ของนักศึกษาชาย คอยจับจ้องอยู่ที่เรือนร่างอิ่มเอิบสมส่วนไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
ทั้งสามคนนั่งไขว่ห้างพร้อมเพรียงกัน กระโปรงนักศึกษาร่นไปเห็นโคนขาขาวนวลเนียน นักศึกษาหนุ่ม ๆ หลายคนจ้องตาไม่กระพริบ ดูเหมือนทั้งสามจะไม่สนใจ หรืออาจจะคุ้นชินกับการตกเป็นเป้าสายตาแล้วก็ได้
“นี่หวาน ใกล้จะสอบแล้วนะ ตกลงจะให้รุ่นพี่ที่ชื่อสมเจตต์ของเธอมาติวให้เราวันไหน”
ฝน สาวสวยที่ดูเปรี้ยวจี๊ดเอ่ยถามเพื่อนสนิท
“อืม เค้าบอกว่า วันเสาร์นี้แหละ ติวที่คอนโดของพี่เจตต์นั่นแหละ เริ่มประมาณบ่ายสองนะ ฝนไปได้มั้ยล่ะ แล้วแบมด้วย ไปได้มั้ย”
“ได้สิ ขืนไม่ไปก็ทำข้อสอบไม่ได้สิจ๊ะ” ฝนตอบเสียงใส ก่อนจะหันไปถามแบม “แล้วแบมล่ะ”
“ไปได้สิ เอ้อ แล้วให้พี่ต้นไปด้วยได้เปล่า คือ ช่วงนี้อ่านหนังสือไม่ค่อยมีเวลาให้เค้าเลยน่ะ เดี๋ยวเค้าจะน้อยใจ พาลมางอนเสียก่อน”
หวานและฝน ทำตาหยอกเอินแบมพร้อมกัน พูดขึ้นด้วยความหมั่นไส้เล่น ๆ
“แหม ได้สิ ใครจะห้ามหล่อนกับแฟนไว้ล่ะ”
หวาน ที่ดูจะเป็นสาวมั่นที่สุดในกลุ่มถามแบม
“นี่ แล้วเธอกับพี่ต้นอะไรนั่นน่ะ ไปถึงไหนกันแล้ว” หวานถามพร้อมกับทำตาแพรวพราว ราวจะล้วงลึกข้อมูลในตัวแบม
“แบมกับพี่ต้นก็เป็นแฟนกันไง...หมายความว่าอะไร หรือหวาน”
“หวานหมายความว่า แบมกับพี่ต้นน่ะ ไปถึงไหนกันแล้ว มีซัมติงกันหรือยัง”
เจอคำถามตรงเป็นไม้บรรทัดแบบนี้ แบมถึงกับหน้าแดงระเรื่อ ถึงแม้เธอจะไม่ใช่คนหัวโบราณ แต่ก็ยังมีแนวคิดรักนวลสงวนตัว ไม่เคยตกลงไปอยู่ในบ่วงโลกีย์แม้แต่ครั้งเดียว ไม่เหมือนกับ หวาน และ ฝน ที่เป็นสาวเปรี้ยว มีแฟนแล้วหลายคน และไม่มีใครทราบได้นอกจากตัวเธอทั้งสองเองว่า จะเคยผ่านอะไรมาแล้วบ้าง
“บ้าเหรอ คุยเรื่องนี้ ไม่คุยด้วยแล้ว แบมไปดีกว่า”
พูดจบก็ลุกขึ้น รอบรวมหนังสือบนโต๊ะ แล้วเดินออกไป
“บ๊ายบาย แล้วเจอกัน เออ เสาร์นี้ บ่ายสองที่คอนโดพี่เจตต์นะ อยู่แถวสุขุมวิท นั่นแหละ หาง่าย”
“จ๊ะ บ๊ายบาย” แบมโบกมือลาเพื่อนสาวทั้งสอง ก่อนเดินออกไปขึ้นรถสปอร์ตของ ต้น แฟนหนุ่มที่จอดรออยู่หน้ามหาลัย
……………………………..
คล้อยบ่ายวันเสาร์ รถสปอร์ตคันงาม ภายในมีหนุ่มหล่อ และสาวสวยที่สมกันราวกิ่งทองใบหยก นั่งเคียงข้างกัน แล่นเข้ามาจอดในคอนโดหรูแห่งหนึ่ง ใจกลางเมือง
ต้น มองสำรวจไปรอบ ๆ เหมือนคาดคะเนความหรูหรา ตามนิสัยประชันความรวยของลูกเศรษฐีทั่วไป
“คอนโดหรูนี่นะ ท่าทางคนที่อยู่ที่นี่จะไม่เบา” ต้นพูดเปรย ๆ
“มั้งคะ เห็นหวานบอกว่า พี่เจตต์ เป็นลูกท่าน นักการเมืองอะไรสักคนหนึ่งนี่แหละ เรียนเก่ง ทำงานดี โชคดีนะเนี่ย ที่เค้าว่างมาติววิชานี้ให้แบมและเพื่อน ๆ”
สาวแบมพูดเสียงสดใสอย่างจริงใจ ไม่มีอะไรเคลือบแฝง หารู้ไม่ว่า ต้น ผู้ที่ไม่ค่อยยอมลงให้ใครรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาฉับพลัน เมื่อได้ยินแฟนสาวพูดชมถึงคนอื่นซึ่งหน้าแบบนี้ ถึงแม้ว่า จะไม่มีนัยยะสำคัญใดๆ ก็ตามที แต่ชายหนุ่มพยายามเก็บซ่อนอารมณ์ไว้ภายใน
จอดรถเสร็จ แบมและต้น เดินขึ้นไปยังห้องที่หวานบอกไว้ เคาะประตู รอไม่กี่อึดใจ หวานและฝนก็มาเปิดประตูรับ
“มาตรงเวลาเป๊ะเลย มานี่ ๆ จะแนะนำให้รู้จักพี่เจตต์ ติวเตอร์รูปหล่อของเราวันนี้”
“สวัสดีค่ะ พี่เจตต์”
แบมยกมือไหว้ เจตต์ประนมมือรับ สายตาคมกริบสไตล์หนุ่มเจ้าชู้ประตูดินกวาดขึ้นลงสำรวจเรือนร่างสาวแบมอย่างรวดเร็วโดยที่ทุกคนไม่ทันสังเกต ความสวยหวานของหน้าตาสะดุดใจชายหนุ่มติวเตอร์ ถึงแม้เธอจะสวมชุดมิดชิด กางเกงยีนส์และเสื้อเชิ้ตแขนกุด แต่ก็มิอาจปิดบังรูปร่างสุดระทวยของเธอได้