"มนไม่มีทาง...รักคนที่ฆ่าพ่อแม่มนได้หรอกนะครับ

ลวงรัก เล่ห์แค้น (มี E-book) - ตอนที่ ๘ ลวงรักเล่ห์แค้น โดย สรัลทม @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ดราม่า,ชาย-ชาย,ไทย,เรื่องสั้น,รัก,รักสมัยเด็ก,ชาย-ชาย,รักเก่า,แก้แค้น,หลอกให้รัก,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ลวงรัก เล่ห์แค้น (มี E-book)

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ดราม่า,ชาย-ชาย,ไทย,เรื่องสั้น,รัก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รักสมัยเด็ก,ชาย-ชาย,รักเก่า,แก้แค้น,หลอกให้รัก,ดราม่า

รายละเอียด

ลวงรัก เล่ห์แค้น (มี E-book) โดย สรัลทม @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

"มนไม่มีทาง...รักคนที่ฆ่าพ่อแม่มนได้หรอกนะครับ

ผู้แต่ง

สรัลทม

เรื่องย่อ

เรื่องราวของชายหนุ่มที่ชื่อว่า “มนตรา” เขาทำงานหนักมาโดยตลอดจนลืมสละเวลาให้ครอบครัวที่รออยู่ที่บ้าน

มนตราที่ได้สติกลับมาและรู้ว่าตัวเองทำงานมากเกินไปจนลืมดูแลครอบครัวที่เฝ้ารอคอยให้มนตรากลับบ้านอยู่ตลอดทุกวัน
ในวันเกิดของผู้เป็นแม่ เขาตัดสินใจหยุดงานเพื่อพาครอบครัวไปเที่ยวพักผ่อนครั้งใหญ่
ทว่าเขากลับไม่รู้เลยว่าการไปเที่ยวพักผ่อนในครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายของพ่อและแม่เขา
แต่แล้วคนที่ทำให้มนตราต้องสูญเสียความสุขไม่ตลอดกาล กลับยังคงลอยหน้าลอยตาอยู่ในสังคมได้อย่างไม่ละอายใจ
มนตราจึงคิดทำอะไรบางอย่างเพื่อให้คนคนนั้นได้รับรู้ถึงความรู้สึกของการสูญเสียคนรักไป...ว่ามันเป็นอย่างไร
ทว่าเขาคนคนนั้นกลับเป็นคนที่มนตราเองก็คาดไม่ถึง....

สารบัญ

ลวงรัก เล่ห์แค้น (มี E-book)-อารัมภบท ลวงรักเล่ห์แค้น,ลวงรัก เล่ห์แค้น (มี E-book)-ตอนที่ ๑ ลวงรักเล่ห์แค้น,ลวงรัก เล่ห์แค้น (มี E-book)-ตอนที่ ๒ ลวงรักเล่ห์แค้น,ลวงรัก เล่ห์แค้น (มี E-book)-ตอนที่ ๓ ลวงรักเล่ห์แค้น,ลวงรัก เล่ห์แค้น (มี E-book)-ตอนที่ ๔ ลวงรักเล่ห์แค้น,ลวงรัก เล่ห์แค้น (มี E-book)-ตอนที่ ๕ ลวงรักเล่ห์แค้น,ลวงรัก เล่ห์แค้น (มี E-book)-ตอนที่ ๖ ลวงรักเล่ห์แค้น,ลวงรัก เล่ห์แค้น (มี E-book)-ตอนที่ ๗ ลวงรักเล่ห์แค้น,ลวงรัก เล่ห์แค้น (มี E-book)-ตอนที่ ๘ ลวงรักเล่ห์แค้น,ลวงรัก เล่ห์แค้น (มี E-book)-ตอนที่ ๙ ลวงรักเล่ห์แค้น,ลวงรัก เล่ห์แค้น (มี E-book)-ตอนที่ ๑๐ ลวงรักเล่ห์แค้น,ลวงรัก เล่ห์แค้น (มี E-book)-ตอนที่ ๑๑ ลวงรักเล่ห์แค้น

เนื้อหา

ตอนที่ ๘ ลวงรักเล่ห์แค้น

ตอนที่ ๘
หลังจากวันที่ทั้งสองคนตกลงเป็นแฟนกันเวลาก็ได้ล่วงเลยผ่านไปถึงห้าเดือน
และหลังจากวันที่มนได้ขอให้คิรันช่วยอันยาเรื่องธุรกิจ มนกับอันยาก็มีโอกาสได้คุยมากขึ้น จนได้รู้เรื่องราวบางอย่างเข้า ซึ่งก็คือเรื่องรถคันเกิดอุบัติเหตุนั่นเอง
เมื่อสามวันก่อนมนกับน้ำน่านได้ไปหาคิรันที่บริษัทและก็ได้เจอกับอันยาเข้าพอดี
อันยารู้ว่ามนกำลังตามหารถคันหนึ่งอยู่ จึงได้บอกกับมนไปว่าเธอเจอรถคันที่มนตามหาแล้ว
เธอเล่าต่อว่าวันนั้นหลังจากที่คุยกันจบแล้ว อันยาก็กำลังขับรถกลับโรงแรมซึ่งอยู่ไกลพอสมควร แต่ถ้าใช้ทางลัดออกทางหลังบ้านของคุณธาดาหรือพ่อของภาคนั่นเอง
อันยาเลยตัดสินใจเลือกที่จะใช้ทางลัดนั้นในการเดินทางกลับโรงแรม ซึ่งแถวนั้นจะมีแต่สถานที่รกร้าง เนื่องจากเป็นพื้นที่ส่วนบุคคลเลยไม่ค่อยมีคนผ่านเข้าไป จะเข้าได้ก็เฉพาะคนที่สนิทและรู้จักกับคุณธาดาเท่านั้น
และในวันนั้นยามที่คอยเฝ้าเอาไว้ก็ดันไม่อยู่ อันยาเลยถือวิสาสะขับผ่านเข้าไป เลยทำให้อันยาได้เจอเข้ากับรถบีเอ็มดับเบิลยูสีม่วงที่สภาพรถนั้นพังยับจอดอยู่ที่ใต้ตึกร้าง ไม่มีผ้าหรืออะไรคลุมไว้เลย
ด้วยความที่ไหวพริบดี อันยาได้ยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายภาพเก็บเอาไว้ หลังจากที่อันยาเล่าจบเธอก็ได้ทำการส่งรูปภาพนั้นให้กับมน น้ำน่านและคิรัน
หลังจากนั้นก็นั่งคุยกันต่อพักใหญ่ จนอันยาเผลอหลุดปากพูดออกมาว่าโดนคนของคุณธาดาตามทำร้าย แถมก่อนหน้านี้เมื่อสองเดือนก่อนลูกน้องของคุณธาดาก็บุกเข้าไปทำร้ายพ่อของอันยาถึงในบ้านจนต้องเข้าโรงพยาบาลกันเลยทีเดียว
มนที่รู้แบบนั้นแล้วก็กลัวว่าวันใดวันหนึ่งคุณธาดาอาจจะกลับมาทำร้ายอันและครอบครัวอีกก็เป็นได้ เลยขอให้คิรันหาคนมาคอยตามดูแลอันยาและครอบครัวเอาไว้
พอคุยกันจบมนก็กลับไปทำงานตามปก และได้เข้าร่วมการประชุมใหญ่ของบริษัทอีกด้วย ทำให้มนได้รู้ว่าอีกไม่กี่วันข้างหน้าจะมีงานเลี้ยงต้อนรับบริษัทจากต่างประเทศ
มนคิดเอาไว้แล้วว่าจะหาหลักฐานที่สามารถมัดตัวภาคได้และหลักฐานนั้นต้องภาคไม่สามารถปฏิเสธการกระทำของตัวเองได้
มนจะทำให้ภาคสูญเสียทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นบริษัท ชื่อเสียง เงินทอง หน้าตาในสังคม และรวมไปถึงคนรักอย่างตัวมนเองด้วย
มนจะทำให้ได้รู้ซึ้งถึงการสูญเสียครั้งใหญ่ในชีวิตว่ามันเป็นอย่างไร
มนคิดเอาไว้ว่าจะเปิดหลักฐานทั้งหมดในวันงานเลี้ยงต้อนรับ
หลังเลิกงานคิรันก็ส่งข้อความมาบอกว่าตำรวจที่ทำคดีมีคลิปจากกล้องหน้ารถและหลักฐานทุกอย่าง
ทว่าอย่างที่รู้กันคุณธาดาก็ได้ใช้เงินในการแก้ปัญหาครั้งนี้คือใช้เงินซื้อตำรวจมาอยู่ฝั่งตัวเองและให้ตำรวจพวกนั้นหาแพะมารับโทษแทน
หลังจากที่รู้แบบนั้นแล้วมนก็ขอให้คิรันนัดไม้ออกมาเจอกันที่สนามหญ้าของหมู่บ้านมน
หลังจากที่ภาคขับรถมาส่งที่หน้าบ้าน มนก็รีบไล่ให้ภาคกลับบ้านไปก่อน โดยใช้ข้ออ้างว่าไม่ค่อยสบายอยากพักผ่อน
ภาคเองที่รักและเชื่อใจมนเป็นอย่างมากก็ทำตามที่มนบอกอย่างว่าง่ายถึงแม้ว่าจะอยากอยู่ดูแลมนมากแค่ไหนก็ตาม
หลังจากที่ภาคกลับไปได้หนึ่งชั่วโมงคิรันก็ส่งข้อความมาบอกว่าอยู่ที่นัดหมายแล้ว
มนคว้าจักรยานและปั่นอย่างรวดเร็วไปยังสถานที่นัดหมาย พอมาถึงก็เจอคิรันกับไม้นั่งรออยู่ที่โต๊ะม้าหิน
“สวัสดีครับพี่ไม้”
“สวัสดีครับน้องมนตรา ไม่เจอกันนาน...ยังน่ารักเหมือนเดิมเลยนะเนี่ย” ไม้ตอบกลับพร้อมกับส่งสายตาหวานเชื่อมให้มน
ภาคที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ก็ได้แต่ส่ายหัวอย่างเหนื่อยใจก่อนจะพูดออกไป
“นี่ กูรบกวนนะ มึงหยุดส่งสายตาแบบนั้นให้มนทีเถอะ กูเห็นแล้วจะอ้วกว่ะ”
มนที่ยืนมองอยู่ก็ได้หลุดขำออกมาที่เห็นสองคนทะเลาะกันเองอีกแล้วจึงได้ส่งเสียงปรามทั้งคู่
“เลิกทะเลาะกันก่อนครับ...เข้าเรื่องกันดีกว่า”
“ว่าแต่น้องมนตรามีอะไรหรือเปล่าครับ...ถึงได้นัดพี่มาถึงนี่เลย”
“คือ...มนอยากรู้ว่าหลักฐานที่ตำรวจได้ไป...มีอะไรบ้างครับ มีคลิปจากกล้องหน้ารถด้วยใช่มั้ยครับ”
“มีสิก็พี่เป็นคนไปหาเจอ ก็เพราะคลิปจากกล้องหน้ารถเนี่ยแหละพี่ถึงได้โดนถอดออกจากคดี”
“อืม...พี่ไม้พอจะสนิทกับใครที่สามารถเอาคลิปนั้นออกมาให้มนหน่อยได้มั้ยครับ”
“จริง ๆ ก็มีนะ...แต่ว่าน้องมนตราจะเอาไปทำอะไรเหรอ?”
มนมองหน้าไม้นิ่ง ๆ ก่อนจะตอบ
“ไว้มนจะเล่าให้ฟังนะครับ แต่ถ้าพี่ไม้ได้คลิปมาเมื่อไรพี่ไม้ช่วยส่งให้มนเลยนะครับ” หลังจากพูดกับไม้จบมนก็หันหน้าไปพูดกับคิรันว่า
“มนกลับก่อนนะพี่รัน...เดี๋ยวเผื่อเขาวนกลับมาดูมนที่บ้าน ฝากส่งพี่ไม้ด้วยนะ” พูดจบมนก็หันไปขอบคุณไม้อีกครั้ง ก่อนที่จะลุกขึ้นเดินไปที่จักรยานคู่ใจ
ไม้ได้แต่งุนงงกับสถานการณ์ตรงหน้าว่าคืออะไรกันแน่ แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ยอมช่วยมนกับคิรันอยู่
หลังจากที่มนปั่นจักรยานออกไปได้ไม่นานนัก ไม้ก็ลุกขึ้นเดินออกไปไม่ไกลจากโต๊ะม้าหินเท่าไรนัก
ไม่นานนักไม้ก็เดินกลับมานั่งที่โต๊ะเช่นเดิม คิรันที่นั่งรออยู่ก็เอ่ยถามทันทีว่า
“เป็นไงบ้าง ได้มั้ยมึง”
“ได้ดิ คลิปนี้กูแอบเก็บไว้เหมือนกัน เพราะก่อนหน้านี้ที่กูจะได้คลิปนี้มาพวกตำรวจยศใหญ่แม่งเรียกกูเข้าไปคุยและบอกให้กูจับใครก็ไปแทนก็ได้สักคน แล้วกูจะได้เลื่อนยศ”
“แล้วตอนนั้นมึงทำไงต่อวะ”
“กูก็เลยส่งคลิปกล้องหน้ารถให้หัวหน้า แล้วพวกแม่งก็ถอดกูจากคดีเลย แต่ก็ดีแล้วแหละ กูทนทำแบบนั้นไม่ได้หรอก”
“คนดี เปิดคลิปได้แล้วครับ กูอยากเห็นหน้ามันเต็ม ๆ”
ไม้กดเปิดคลิปกล้องหน้ารถที่รุ่นน้องส่งมาให้เมื่อสักครู่ เลยได้เห็นว่าเหตุการณ์ทั้งหมดก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุ
เหตุการณ์ก่อนหน้าประมาณครึ่งชั่วโมงภาคเดินเมาออกมาจากผับแห่งหนึ่ง และได้ขับรถปาดไปปาดมาอยู่บนท้องถนนจนเสียหลักคุมรถไม่อยู่ทำให้รถพุ่งไปฝั่งตรงข้ามประสานงาชนเข้ากับรถเก๋งสีขาวคนหนึ่ง
ภาพที่ได้เห็นต่อมาคือรถเก๋งสีขาวคันนั้นพลิกคว่ำหลายตลบมากจนคนในรถกระเด็นออกมานอนอยู่กลางถนน ซึ่งตรงนี้ทำให้เห็นว่าเป็นมนนั่นเองที่กระเด็นออกมา จากนั้นไม่นานนักภาคก็สบถคำหยาบออกมาว่า ‘เหี้ยเอ๊ยชนจนได้ แต่สนุกดีว่ะ’
“ไม่คิดว่าแม่งจะเหี้ยขนาดนี้” คิรันเอ่ยอย่างหัวเสีย
ภาพต่อมาคือภาคลงจากรถตัวเองและเดินตรงไปยังรถของมนที่พลิกคว่ำอยู่ จังหวะแรกที่ภาคเห็นว่าคนติดอยู่ในรถเขาก็แสดงอาการตกใจออกมาเล็กน้อย ก่อนจะหันมองซ้ายมองขวาเหมือนกำลังหาบางอย่าง
แต่แล้วก็เหมือนว่าภาคจะเจอของสิ่งนั้นแล้ว เขาเดินตรงไปยังเหล็กท่อนหนึ่งคาดว่าจะเอามาช่วยชีวิตคนที่ติดอยู่ในรถ
แต่เปล่าเลยเขาเดินตรงไปหยิบขวดไวน์ที่ตกอยู่หลังท่อนเหล็กนั่น แถมยังเดินกลับไปที่รถอย่างไม่สนใจอะไรพร้อมกับยกไวน์กระดกเข้าปากเพื่อความมึนเมาเข้าไปอีก
ทว่าพอภาคเดินกลับมาขึ้นรถปิดประตู คลิปก็ได้ตัดจบไปแต่เพียงเท่านั้น เลยไม่รู้ภาคขับไปไหนต่อหรือไม่เจอใครอีกบ้าง
“มึงส่งให้คลิปให้กู ให้มน ให้น้ำน่าน แล้วตัวมึงก็เก็บเอาไว้ให้ดี ระวังตัวด้วย”
พอไม้ส่งคลิปให้อีกสองคนก็คือมนกับน้ำน่านนั่นเอง จากนั้นคิรันก็ขับรถไปส่งไม้ที่สถานีเช่นเดิม
ส่วนทางด้านของมนที่เมื่อได้คลิปมาเขาก็เปิดดูทันที เลยได้เห็นภาพที่เจ็บปวดอีกครั้งจนทนไม่ไหวน้ำตาไหลพรากออกมา
มนไม่คิดจะขยับเขยื้อนกายไปไหน ได้แต่นั่งมองคลิปนั้นและปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับคราบน้ำตาที่เหือดแห้งซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเวลาผ่านไปนานเท่าไรแล้วก็ไม่รู้
มนได้แต่นั่งคิดทบทวนเรื่องราวทั้งหมด เพื่อตอกย้ำความผิดพลาดของตัวเอง เพราะถ้าวันนั้นเขาเลือกที่จะยืนกรานขับรถเอง พ่อกับแม่ก็คงไม่เป็นอะไรและคงไม่จากไปแบบนี้
มนนั่งมองคลิปนั้นเล่นวนไปวนมาจนมีสายเรียกเข้าจากคิรัน มนที่ได้สติกลับมาก็ยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่แก้มและกดรับสายตาคิรัน
“ฮา ฮาโหลครับ...พี่รัน อึก”
[ร้องไห้ใช่มั้ย]
“...” มนได้ตอบอะไรแต่น้ำตาที่ได้เหือดแห้งไปแล้วกลับหลั่งไหลออกมาอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงคิรัน
“พี่รู้นะว่าตอนนี้มนไม่ไหว แต่พี่อยากให้มนเข้มแข็งและสู้ไปด้วยกันอีกนิดนึงนะ”
“...” มนยังร้องไห้ออกมาอย่างหนักหน่วง จนคิรันที่ได้ยินเสียงผ่านโทรศัพท์ก็อดสงสารและน้ำตาไหลตามมนไม่ได้
“มนฟังพี่นะ พี่อยู่ข้าง ๆ มนและช่วยมนทุกอย่าง พี่รู้ว่าตอนนี้มนอาจจะคิดว่ามนไม่เหลือใคร แต่พี่อยากให้มนมองมาที่พี่และน้ำน่านนะ มนยังมีเราสองคนอยู่เสมอ พักผ่อนนะครับ พรุ่งนี้เช้าพี่จะไปรับ”
“ขอบคุณนะครับพี่รัน”
หลังจากกดวางสายมนก็ปล่อยโฮออกมาอีกครั้งอย่างน่าสงสารจนผล็อยหลับไป
รุ่งเช้ามนได้ยินเสียงเรียกของคิรันและน้ำน่านอยู่ที่หน้าบ้าน จึงได้สติกลับมาลุกขึ้นเดินลงไปเปิดประตูให้ทั้งสองคน
มนโผลเข้าสวมกอดน้ำน่านทันทีและกำลังจะร้องไห้ออกมาอีกครั้ง แต่ก็โดนคิรันห้ามเอาไว้เสียก่อน
“หยุดเลยเลิกร้องได้แล้ว ตาบวมหมดแล้วน่ะเห็นมั้ย”
“ครับ” มนตอบรับด้วยเสียงอ่อย ๆ ก่อนจะเดินนำทั้งสองคนเข้าบ้านไป
มนไม่สามารถเสแสร้งแกล้งเป็นคนรักของภาคต่อได้แล้ว และมนก็ไม่สามารถฝืนเอาตัวเองไปทำงานกับภาคได้อีกแล้ว
มนได้โทรศัพท์ไปลางานกับเลขาส่วนตัวของภาคพร้อมกับบอกเหตุผลว่าจะไปเยี่ยมญาติต่างจังหวัดหนึ่งอาทิตย์และจะกลับไปทำงานในวันงานเลี้ยงต้อนรับทีเดียว
หลังจากที่ลางานแล้วเรียบร้อย โทรศัพท์ของมนก็ดังไม่หยุดเพราะภาคทั้งโทร. และส่งข้อความมาหา จนมนต้องปิดเครื่องหนี
“มนจะเอาไงต่อเหรอ” น้ำน่านเอ่ยถาม
“เราจะไปหาหลักฐานจากรถคันนั้นที่คุณอันยาบอกเรา”
“มนจะไปยังไง มันเป็นพื้นที่ส่วนบุคคลไม่ใช่เหรอ” คิรันที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เอ่ยด้วยความสงสัยและเป็นห่วง
“คุณอันยาไงครับพี่รัน เราช่วยบริษัทพ่อเธอจนรอดแล้ว เธอคงไม่กล้าปฏิเสธที่จะช่วยเราหรอกมั้งครับ”
“มันอันตรายเกินไปหรือเปล่ามน ถ้าเกิดโดนจับได้ขึ้นมาจะทำยังไง”
“แต่ถ้าเราไม่เริ่มตอนนี้มันจะไม่ทันแล้วนะครับพี่รัน แล้วพวกเขาก็จะลอยหน้าลอยตาอยู่ในสังคมต่อได้เพียงแค่มีเงิน”
“โอเค แต่มนต้องสัญญากับพี่ว่ามนจะระวังตัวและต้องไม่เจ็บตัวกลับมาเด็ดขาด”
“ครับมนสัญญา”
หลังจากที่ตกลงกันเรียบร้อยมนก็ทำการนัดอันยาให้มาเจอกันที่บ้านของเขาในช่วงค่ำของวันนี้