ดอกไม้งาม น้ำชาดี ดนตรีไพเราะ อาหาร ขนมหวานทุกจานอร่อย
ปลูกผัก,เกิดใหม่,ครอบครัว,จีน,รัก,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
โรงน้ำชาบุปผาพราวพร่างดอกไม้งาม น้ำชาดี ดนตรีไพเราะ อาหาร ขนมหวานทุกจานอร่อย
ชีวิตเก่าแม้จะไม่อาจเรียกได้ว่าสบายแต่ก็ไม่เคยลำบากเข้าถึงขั้นยากจนข้นแค้น ฟางข้าวเป็นเพียงหญิงสาวที่ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยมีงานหลักคือเรียนหนังสือและมีงานอดิเรกเป็นการแบมือขอเงินพ่อแม่ใช้จ่ายไปวันๆ แต่ก็ยังดีที่เจ้าตัวยังช่วยเหลืองานของที่บ้านเพียงแค่ติดจะขี้เกียจเล็กน้อยถึงปานกลางเท่านั้นต้องใช้ระบบคำสั่งถึงจะยอมขยับตัวออกห่างจากเว็บอ่านนิยายออนไลน์และเกมปลูกผักที่เจ้าตัวติดหนึบติดหนับ
แต่เมื่อบังเอิญถูกรถชนตายและได้มาเกิดใหม่โดยไม่ทันได้ตั้งตัวชีวิตนี้กลับต้องมาลำบากคล้ายกับถูกสวรรค์ลงทัณฑ์ให้ผ่านด่านเคราะห์ทั้งต้องผจญกับหมู่มารที่มาในรูปแบบของญาติพี่น้อง อีกทั้งยั้งต้องดิ้นรนเพื่อช่วยบิดา มารดากอบกู้กิจการเดียวที่มีของครอบครัวคือโรงน้ำชาเล็กๆ ให้สามารถยืนหยัดต่อไปได้
หมายเหตุ นิยายเรื่องนี้ไม่อิงประวัติศาสตร์ไม่ว่าจะ สถานที่ เหตุการณ์ หรือตัวบุคคลในเรื่องล้วนเกิดจากจินตนาการของผู้เขียนทั้งสิ้นค่ะ
เนื่องจากวันนี้มีข้าวของที่ซื้อมาเยอะมากและไหนจะคนงานอีกกว่ายี่สิบคนที่เพิ่งซื้อมาใหม่ทำให้เกวียนวัวของบ้านหยวนไม่สามารถพาทุกคนกลับบ้านได้ในคราวเดียวหยวนจ้านจึงให้น้องเขยและบุตรชายขับเกวียนของครอบครัวนำของและพาคนกลับบ้านไปก่อนเพราะระยะทางค่อนข้างไกลพอสมควรจะชักช้าไม่ได้เพราะไม่อยากให้บุตรหลานกลับถึงบ้านดึกไปนัก หลังจากนั้นตนเองและน้องชายหยวนคุนจึงไปว่าจ้างเกวียนเทียมวัวอีกสองคันให้ขับไปส่งพวกเขาและคนงานที่บ้าน
กว่าจะกลับมาถึงเรือนสกุลหยวนเวลาก็ปาไปเกือบปลายยามไฮ่ทุกคนต่างเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้ากันเป็นอย่างมากเมื่อขนของเข้ามาเก็บในห้องโถงของเรือนหลักแล้วหยวนตงหยางจึงขอให้พี่สะใภ้ น้องภรรยาและภรรยาของตนเองให้พาบุตรและหลานๆ ไปพักผ่อนก่อนส่วนตัวเองจะเป็นฝ่ายรอหยวนจ้านด้วยตนเอง
เกวียนรับจ้างมาถึงในสองชั่วยามให้หลังเนื่องจากต้องบรรทุกคนและข้าวของที่พี่ชายภรรยาหาซื้อเพิ่มมาอีกมากจึงไม่สามารถใช้ความเร็วมากได้
“วันนี้ยังคงไม่ได้มีเวลาแนะนำอะไรกันข้าจะพาพวกเจ้าเข้าไปที่พักก่อนและพรุ่งนี้ปลายยามเหม่าค่อยมารวมตัวกันอีกที” หยวนจ้านกล่าวกับคนงานของตนเองด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาดน่าเกรงขามแต่ก็ไม่ได้วางอำนาจอะไรนักเพียงแต่เขาเป็นคนที่ตัวใหญ่และเสียงดังเช่นนี้อยู่แล้ว
“คนที่มากันเป็นครอบครัวให้ตามน้องเขยข้าหยวนตงหยางไปยังเรือนพัก สตรีตามไปกับน้องชายข้าหยวนคุนส่วนบุรุษให้ตามมากับข้า คนที่มีครอบครัวจะได้เข้าอยู่เรือนเดี่ยวหนึ่งหลังส่วนคนที่ไม่มีครอบครัวพวกเจ้าจะได้พักเรือนแถวที่มีสองชั้นโดยในหนึ่งห้องให้อยู่กันสองคนจับคู่กันเอาเองในวันนี้อาจจะยังไม่สะดวกสบายนักเพราะข้าเองก็ลืมอะไรหลายๆ อย่างไปแต่ขาดเหลืออะไรพรุ่งนี้ข้าจะจัดการให้ทั้งหมด”
คนงานที่ได้มาทั้งหมดมีอยู่สองครอบครัว ชายสิบคนและหญิงอีกหกคนโดยทุกคนนั้นอ่านออกเขียนได้อีกทั้งแรงงานชายหนุ่มทั้งสิบคนนั้นต่างก็มีวรยุทธ์เพราะเคยเป็นคนงานในจวนขุนนางหรือเศรษฐีมาก่อนเมื่อเจ้านายต้องคดีอาญาจึงถูกยึดตัวมาขายเป็นทาสของทางการถ้าเทียบแล้วก็นับว่าเป็นทาสชั้นดีหยวนจ้านจึงเต็มใจที่จะจ่ายเงินซื้อมา
“ขอรับนายท่าน”
“เจ้าค่ะนายท่าน”
คนงานประสานเสียงกันตอบรับคำสั่งก่อนจะเดินตามแสงตะเกียงไปยังบ้านพักที่อยู่บนที่ดินข้างๆ กับเรือนของเจ้านายซึ่งคนงานทุกคนต่างก็กำลังวาดฝันถึงชีวิตใหม่ว่าเจ้านายสกุลหยวนจะเป็นคนใจซื่อมือสะอาดเนื่องจากพวกเขาก็ไม่อยากถูกขายทอดตลาดอีกต่อไปแล้วแต่เพราะชีวิตมีตัวเลือกไม่มากนักเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของครอบครัวจึงต้องยอมขายตัวเองมาใช้แรงงานในจวนของเศรษฐีและขุนนางกังฉินจนต้องมีชะตาชีวิตที่น่าอดสู
รุ่งอรุณของวันใหม่มาถึงอย่างรวดเร็วในช่วงกลางยามเหม่าคนงานทั้งหญิงชายไม่เว้นแม่แต่เด็กและคนชราต่างก็มายืนรอที่หน้าเรือนพักของตนอย่างเป็นระเบียบสร้างความพึงพอใจให้กับหยวนจ้านเป็นอย่างมาก
“ข้าจะพาพวกเจ้าไปพบกับครอบครัวของข้า สกุลหยวนของเราเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาดังนั้นจะไม่มีการถือยศถืออย่างและมากพิธีรีตองดังเช่นจวนขุนนางที่พวกเจ้าเคยได้อยู่อาศัย อยู่ที่นี่ข้าเพียงแต่อยากให้ทุกคนขยันทำงานและมีความซื่อสัตย์เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว” เมื่อพูดจบหยวนจ้านก็พาคนงานทั้งหมดเดินผ่านประตูเชื่อมระหว่างตัวเรือนกับโรงน้ำชาเพื่อไปรับประทานอาหารเช้ากันก่อนโดยในวันนี้ภรรยาและน้องๆ ของเขาช่วยกันหุงข้าวขาวหม้อใหญ่ต้มน้ำแกงปลาผักกาดดองหนึ่งหม้อพร้อมด้วยผัดผักที่ปลูกเองและมีไข่ต้มให้ทุกๆ คนได้กินกันโดยไม่มีหวงที่สำคัญครอบครัวของตนก็จะได้กินอาหารไม่ต่างจากคนงานเลยด้วย
ภาพที่เห็นครอบครัวของนายจ้างทั้งฮูหยินและคุณหนูคุณชายช่วยกันเตรียมอาหารให้พวกตนที่มีสถานะเป็นเพียงทาสที่ถูกซื้อตัวมาใช้แรงงานทำเอาคนงานทั้งหมดถึงกับคุกเข่าลงกับพื้นเพื่อแสดงความเคารพโดยพร้อมเพรียงกัน แม้ว่าการเป็นทาสของทางการชีวิตไม่อดอยากแต่ก็ไม่อาจเรียกว่าได้กินอิ่มจะมีนายท่านบ้านไหนกันที่เลี้ยงคนงานด้วยข้าวขาวเต็มเมล็ดเช่นเรือนหลังนี้
“ตกใจหมดเลยเจ้าค่ะ ท่านตาท่านยาย ทานลุงท่านป้าทุกๆ ท่านอย่าคุกเข่าให้เด็กอย่างพวกข้าเลยจะอายุสั้นกันเสียเปล่าๆ อาหารเช้าของพวกท่านเตรียมเสร็จเรียบร้อยแล้วเชิญรับประทานกันได้เลยนะเจ้าคะ” เป็นหยวนเยี่ยนฟางที่กำลังช่วยเตรียมจานชามตกใจกับการทำความเคารพของคนงานหลายสิบคนของครอบครัวจึงรีบพูดออกมาก่อน
“ขอบคุณคุณหนูขอรับ”
“ขอบคุณคุณหนูเจ้าค่ะ”
จากนั้นก็เป็นคนงานหญิงที่มีอายุราวๆ ท่านป้าสะใภ้ที่ออกมาของแรงคนงานสตรีด้วยกันให้ช่วยตักกับข้าวใส่ชามเตรียมเป็นชุดๆ เอาไว้ให้คนงานด้วยกันโดยใครมีครอบครัวก็จะมารับกับข้าวแยกไปกินกับครอบครัวโดยบ้านหยวนเตรียมเก้าอี้และโต๊ะไม้เอาไว้ให้มากมายในโรงครัวนี้ส่วนใครที่ไม่มีครอบครัวก็นำกับข้าวไปจับกลุ่มกินร่วมกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
เมื่อเห็นคนงานจัดการตัวเองได้ครอบครัวสกุลหยวนเองก็นั่งลงกินข้าวเช้าใกล้ๆ กันกับคนงานนั่นแหละเพราะโรงครัวนี้หยวนเยี่ยนฟางขอให้ท่านพ่อและท่านลุงช่วยสร้างขึ้นใหม่ด้วยเห็นว่าหลังจากนี้ที่บ้านจะต้องมีงานอีกมากมายการสร้างโรงครัวใหญ่ทำอาหารกินด้วยกันทั้งนายจ้างทั้งคนงานก็จะช่วยประหยัดเวลาไปได้มาก
นอกจากโรงครัวใหม่แล้วโรงคั่วชา โรงตากชารวมถึงคลังเก็บผลผลิตก็ต้องสร้างใหม่ให้เป็นสัดส่วนโดยขั้นตอนของการผลิตใบชาและชาดอกไม้สูตรต่างๆ นั้นยังจะคงทำขึ้นภายในรั้วบ้านสกุลหยวนด้วยขั้นตอนบางอย่างยังคงเป็นความลับที่ไม่อาจแพร่งพรายออกไปให้คนภายนอกทราบได้ แต่ทางฝั่งของโรงน้ำชานั้นด้านหลังก่อนจะถึงเรือนพักของคนงานจะมีสระบัวใหญ่กั้นอยู่อีกทั้งยังมีสวนสมุนไพรและต้นชาช่วยเป็นกำแพงธรรมชาติกั้นขวางไม่ให้ลูกค้ารุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวได้
หลังจากกินข้าวเช้าอิ่มเรียบร้อยรวมถึงทำความสะอาดจานชามและสถานที่เสร็จแล้วหยวนจ้านก็ให้คนงานแต่ละครอบครัวแนะนำตัวก่อนโดยครอบครัวแรกเป็นคนสกุลเถียนเดิมเคยเป็นบ่าวของขุนนางมีกันอยู่ห้าชีวิตพ่อ แม่ ลูกๆ และท่านปู่ชราผู้หนึ่ง ครอบครัวที่สองเป็นครอบครัวสกุลเจียมีกันอยู่หกคนโดยบ้านนี้มีหลานตัวน้อยมาด้วยหนึ่งคนอายุยังไม่ครบขวบปีดีกำลังอยู่ในวัยน่ารักน่าชังเป็นอย่างมาก
“พี่สาวข้าขออุ้มน้องตัวเล็กได้หรือไม่เจ้าคะ” เป็นหยวนเยี่ยนฟางที่ถูกชะตากับเด็กน้อยคนนี้มากนางจึงไม่ลังเลเลยที่จะเข้าไปขอมารดาของเด็กเพื่ออุ้มเจ้าตัวเล็กที่กำลังจ้องมองนางด้วยดวงตาใสแจ๋วมาอุ้มเล่นสักครั้ง
“ได้เจ้าค่ะคุณหนู นางชื่อเพ่ยเจ้าค่ะเจียเพ่ย” ลูกสะใภ้บ้านเจียส่งลูกสาวให้คุณหนูสกุลหยวนอย่างไม่ลังเลเพราะครอบครัวสามีนางถูกซื้อตัวออกมาจากโรงค้าทาสบุตรสาวที่มีอายุไม่ถึงขวบปีจึงมีโอกาสมาเติบโตอยู่ด้านนอกกรงขังแค่คุณหนูขออุ้มบุตรสาวเหตุใดจึงจะเป็นไปไม่ได้เล่า
“เสียวเพ่ยเด็กดี เจ้าผอมไปหน่อยมาอยู่ด้วยกันแล้วหลังจากนี้ต้องกินให้เยอะๆ นะจะได้อวบอ้วนเหมือนน้องชายฝาแฝดของพี่สาว” เมื่อเจียเพ่ยอยู่ในอ้อมแขนของหยวนเยี่ยนฟางนางก็ยิ้มและส่งเสียงคล้ายจะหัวเราะออกมาทำให้ทุกคนยิ่งรู้สึกเอ็นดูเจ้าก้อนแป้งเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า
หลังจากหลานสาวคืนเด็กน้อยกลับไปให้มารดาแล้วท่านลุงก็หันมาซักถามคนงานชายถึงชื่อแซ่แล้วก็ต้องแปลกใจว่าพวกเขาทั้งหมดนั้นใช้สกุลอี้แม้ไม่ได้เป็นพี่น้องหรือเครือญาติแต่เพราะถูกสั่งสอนมาจากสำนักยุทธ์เดียวกันจึงทำให้นับถือกันไม่ต่างจากพี่น้องร่วมบิดามารดา โดยพวกเขาทั้งหมดนั้นเคยเป็นผู้คุ้มกันในเรือนคหบดีแต่หลังจากนายจ้างถูกจับกุมด้วยข้อหาติดสินบนเจ้าหน้าที่บ้านเมืองจึงถูกขายมาให้เป็นทาสของทางการ
เรื่องราวชีวิตของผู้คนล้วนมีจุดพลิกผันที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนักเรื่องของคนงานชายว่าน่าแปลกใจแล้วแต่เรื่องของคนงานหญิงยิ่งน่าตกใจและน่าสงสารยิ่งกว่าเพราะพวกนางล้วนเป็นสตรีที่ถูกจับตัวมาจากเขตชายแดนโดยจะถูกขายต่อมาเป็นทอดๆ ชีวิตมาจบที่การเป็นบ่าวอุ่นเตียงในจวนขุนนาง จวนเศรษฐีไม่ก็สาวใช้ก้นครัวชีวิตที่ผ่านมาไม่เคยมีช่วงเวลาที่เรียกว่าดีได้เลยโดยในตอนนี้บางคนยังคงมีร่องรอยบาดแผลการถูกทำร้ายทารุณอยู่บนร่างกายอยู่อาจจะต้องให้พักรักษาตัวกันก่อน
“เอาล่ะเรื่องผ่านมาแล้วและข้าไม่อาจบอกให้พวกเจ้าลืมได้หลังจากนี้ต่อไปก็ใช้ชีวิตใหม่กันอย่างมีความสุขเถิดนะ เจ้าใหญ่แม่ขอตัวคนงานหญิงทั้งหกคนนี้ให้ย้ายเข้ามาอยู่ในเขตเรือนของเราก็แล้วกันนะพวกนางยังต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูร่างกายและจิตใจหลังจากจัดแจงเรื่องหน้าที่การงานเสร็จให้ใครไปตามท่านหมอมาตรวจสุขภาพให้คนงานทุกคนด้วย” เป็นท่านยายที่เอ่ยปากออกหน้าแทนคนงานสตรีทั้งหมดซึ่งแน่นอนว่าไม่มีใครคัดค้านอีกทั้งงานที่พวกนางต้องทำส่วนมากก็เป็นงานที่ทำกันภายในเรือนย้ายมาพักกันที่นี่ก็สะดวกดีแล้ว
หลังจากพูดคุยแนะนำตัวกันเรียบร้อยหยวนจ้านและหยวนตงหยางก็จัดการแจกแจงแบ่งงานให้คนงานคร่าวๆ ก่อนโดยงานหลักช่วงนี้จะเป็นการทำสวนเพราะโรงน้ำชายังสร้างไม่เสร็จตอนนี้ยังต้องทำการตกแต่งอีกหลายขั้นตอนทั้งยังต้องรอฤกษ์ยามจึงต้องช่วยกันทำงานอื่นๆ ไปก่อน
ส่วนคนงานหญิงที่มารดารับไปดูแลนั้นผู้อาวุโสแบ่งให้พวกนางช่วยกันทำงานบ้าน งานครัวอีกทั้งจะสอนเก็บใบชา ตาก ชา คั่วชารวมถึงจัดการวัตถุดิบอื่นๆ อย่างดอกไม้และสมุนไพรด้วย
“วันนี้ท่านพี่ก็ให้คนงานทำความรู้จักกับพื้นที่สวนหลังโรงน้ำชาไปก่อนนะเจ้าคะเรื่องงานค่อยเริ่มทำกันพรุ่งนี้ก็ได้ในวันนี้ข้ากับน้องรองและน้องสามอยากให้พวกเขาจัดการเรื่องที่หลับที่นอนกันให้เรียบร้อยเสียก่อน ข้าช่วยกันเตรียมเครื่องนอนและเสื้อผ้าเอาไว้ให้ทุกคนแล้วเว้นแต่ของเสี่ยวเพ่ยเพราะไม่รู้ว่ามีทารกมาด้วยแต่ข้าจะให้ผ้าฝ้ายเนื้อดีให้เจ้าไปทำผ้าอ้อมให้นางนะหรือเจ้าจะเอาไปตัดชุดก็ได้ข้าเตรียมเอาไว้เยอะเลย”
เมื่อจบเรื่องสำคัญไปแล้วป้าสะใภ้ก็ชวนมารดาของหยวนเยี่ยนฟางและท่านน้ามาช่วยกันจัดการเรื่องเครื่องนอนและเสื้อผ้าของคนงานโดยทุกๆ คนจะได้รับเครื่องนอนคนละหนึ่งชุดประกอบไปด้วยฟูก หมอนและผ้าห่มอีกทั้งยังมีชุดทำงานประจำวันให้คนละสามชุดอีกด้วยซึ่งทั้งหมดเป็นชุดผ้าฝ้ายเนื้อดีที่เพิ่งไปซื้อกันมาเมื่อวานนี้เอง
“ต่อไปนี้ขาดเหลืออะไรก็มาแจ้งได้ที่ข้าหรือน้องๆ ก็ได้ทั้งนั้นถ้าชุดขาดหรือพังก็มาบอกได้ข้ามีให้ตลอดไม่ต้องกลัวว่าจะถูกตำหนิของมันใส่ทุกวันก็ย่อมเก่าต้องพังได้เป็นของธรรมดาพวกของใช้จำพวกเครื่องนอนก็เช่นกัน” แม้จะไม่เคยมีคนงานในบ้านมาก่อนแต่ท่านป้าสะใภ้ของหยวนเยี่ยนฟางก็จัดการบริหารทั้งคนรวมไปถึงข้าวของได้เป็นอย่างดีอีกทั้งยังไม่ตระหนี่ถี่เหนียวเลือกของคุณภาพชั้นเลวมาใช้เพราะของพวกนั้นมันไม่ทนทานใช้ไปไม่นานก็ต้องพังอย่างแน่นอน