เมื่อมีโจรขโมยโชค มาขโมยโชคของน้องชายตัวเอง เบสต์ หนุ่มหล่อมาดเซอร์เลยต้องตัดสินใจแต่งงานกับทูตนรกกล้ามแน่น แต่ปัญหาคือ ทั้งคู่ดันเป็นรุกเหมือนกัน นอกจากต้องจับโจร ยังต้องมาลุ้นว่าเบสต์จะโดนจับทำเมียไหม!
ชาย-ชาย,ระทึกขวัญ,แอคชั่น,แฟนตาซี,เลือดสาด,nc,18+,ยมทูต,บู๊,เคะกล้าม,เมะเมะ,นรก,ผจญภัย,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Best of Luck นักลักโชคเลือดเมื่อมีโจรขโมยโชค มาขโมยโชคของน้องชายตัวเอง เบสต์ หนุ่มหล่อมาดเซอร์เลยต้องตัดสินใจแต่งงานกับทูตนรกกล้ามแน่น แต่ปัญหาคือ ทั้งคู่ดันเป็นรุกเหมือนกัน นอกจากต้องจับโจร ยังต้องมาลุ้นว่าเบสต์จะโดนจับทำเมียไหม!
เมื่อ เบสต์ อดีตอันธพาลสุดโหดที่เพิ่งพ้นโทษออกจากคุก พยายามจะกลับตัวกลับใจ แต่ชีวิตดันเล่นตลกให้เขาต้องหวนคืนสู่โลกแห่งความแค้นอีกครั้ง! น้องชายที่รักถูกพรากไปโดยโชคชะตาอันโหดร้าย ทำให้เบสต์ต้องทำสัญญาที่ไม่มีมนุษย์หน้าไหนกล้าทำ นั่นคือสัญญา
เบสต์อดีตอันธพาลหนุ่มที่เพิ่งพ้นโทษออกจากคุก ต้องตัดสินใจแต่งงานกับ ‘เดธ’ ฑูตมรณะ เพื่อไล่ล่า "โจรลักโชค" ผู้ขโมยโชคชะตาที่ทำให้น้องของเขาต้องเป็นเจ้าชายนิทราในห้อง ICU
แต่ปัญหาคือ เบสต์ดันเป็นผู้ชายที่โชคร้ายที่สุดในโลก และโชคร้ายยิ่งกว่านั้นคือเขาดันเป็น "รุก" เหมือนกันกับเดธ! การไล่ล่าครั้งนี้ไม่ใช่แค่ต้องเอาชนะศัตรูที่แข็งแกร่งและลึกลับ แต่ยังต้องเผชิญหน้ากับความเร้าใจและเกมรักสุดเผ็ดร้อนที่เบสต์ที่เต็มไปด้วยอันตราย และไต่ระดับความร้อนแรงในทุกๆ บท
เบสต์จะสามารถจับโจรลักโชคได้สำเร็จ หรือจะถูกเดธจับทำ "เมีย" ก่อน? พบกับพันธสัญญาและการไล่ล่าสุดขอบนรกใน “นักลักโชคเลือด”
Best of Luck – ขอให้โชคดี
ตัวหนังสือสีแดงสดถูกใครสักคนพ่นทิ้งไว้บนประตูเหล็กหนาสีฟ้าซีดขนาดใหญ่ ที่เป็นด่านสุดท้ายที่ขวางกั้นระหว่างอิสรภาพภายนอกกับโลกที่มืดหม่นภายในเรือนจำ
ประตูนั้นค่อยๆ เปิดออกเผยให้เห็นร่างสูงล่ำของ “เบสต์” ชายหนุ่มผมยาวประบ่าหยักศกเล็กน้อย เขาคนนั้นกำลังยืนรอคอยที่จะก้าวออกไปสู่โลกภายนอก เหมือนนกที่กำลังเตรียมตัวจะตีปีกบินออกจากกรงขังอีกครั้ง
ใบหน้าคมเข้มถูกประดับด้วยหนวดเคราสีน้ำตาลอ่อนที่ไม่ได้ดูแลมานานแรมปี ตอนนี้ได้มีรอยยิ้มจางๆ จากการที่ได้กลับมาใส่เสื้อกล้ามขาวซีด กับกางเกงยีนส์ขาดเข่าสีน้ำเงินเข้มตัวโปรด
จี้ห้อยคอสีเงินรูปตัว B แกว่งไกวกระทบกับแสงแดดของโลกภายนอกเป็นครั้งแรกพร้อมๆ กับขายาวภายใต้กางเกงยีนส์นั้นก้าวเดินออกมาจากคุกเรือนจำ
มือกร้านของเบสต์ล้วงเข้าไปหยิบกล่องลูกอมมิ้นท์สีดำออกจากกระเป๋ากางเกง ก่อนโยนลูกอมเย็นลูกเล็กเข้าไปในปาก
คนที่เพิ่งพ้นโทษออกจากคุกมาหมาดๆ คนนี้ เดินสาวเท้าก้าวออกไปบนถนนคอนกรีตที่ทอดยาวไปยังรถเปิดประทุนเก่าๆ สีแดงที่มี ‘ไอ้จอร์จ’ เด็กหนุ่มสกินเฮดหน้าออกแนวลูกครึ่งจมูกโด่งผมสีเงินนั่งรออยู่ที่เบาะคนขับ
“Welcome back พี่เบสต์” คนสกินเฮดผิวขาวร้องทักอย่างลิงโลด เมื่อคนที่เขานั่งรอที่รถมาค่อนวัน ในที่สุดก็เดินเอากระเป๋าเป้สีดำที่เก็บพวกข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว โยนเข้าไปไว้ที่เบาะหลัง
เบสต์เอื้อมมือไปตบแปะๆ ที่หน้าของเด็กหนุ่มเบาๆ สองทีเป็นการตอบรับเชิงขอบคุณ ก่อนจะเหวี่ยงตัวกระโดดข้ามประตูรถขึ้นไปนั่งฝั่งคนขับแล้วเอาขาทั้งสองพาดเกยขึ้นคอนโซลรถ
“อยากไปไหนก่อนพี่” คนขับร้องถามผู้โดยสารหนุ่ม
“ไปอะพาร์ตเมนต์กู” ชายหนุ่มแจ้งความประสงค์พร้อมรอยยิ้มที่มีความสุขเพราะแค่คำถามเล็กๆ แค่นี้ เบสต์ก็ได้สัมผัสถึงอิสรภาพของการเลือกสิ่งที่ตัวเองต้องการได้สักที ก่อนที่รถจะถูกสตาร์ทและล้อก็เริ่มหมุน
.
.
สายลมจากทิวไม้สองข้างทางพัดตีเข้ามาในขณะที่รถเคลื่อนตัวมุ่งหน้าไปยังตัวเมืองที่ไกลออกไป ท้องฟ้ายามบ่ายที่ดูสดใส ทำให้ชีวิตใหม่ที่เบสต์เพิ่งได้รับดูสว่างไสวสวยงามเหลือเกินถ้าเทียบกับชีวิตในรั้วกำแพงสูงหลายปีที่ผ่านมา
หนุ่มเซอร์ยกมือขึ้นมาจับตรงแผลเป็นตรงหางคิ้วตัวเองก่อนนึกย้อนไปยังเหตุการณ์ตั้งแต่ปีก่อน
ในตอนนั้นดีลซื้อขายยาเสพติดของแก๊งเบสต์ถูกซ้อนแผนหักหลังโดยแก๊งเฮียเล้งที่เป็นคู่ค้าประจำ
แต่แล้ว จู่ๆ ก็มีตำรวจนอกเครื่องแบบโผล่มาในขณะทำการซื้อขาย จนทั้งฝูงต้องแตกกระจายแยกย้ายกันหลบหนีไปคนละทิศคนละทาง
เบสต์หนีหัวซุกหัวซุนควบมอเตอร์ไซค์คันใหญ่สีดำคู่ใจเร่งไปตามถนนมืดภายใต้ดวงจันทร์ที่เพิ่งโผล่พ้นจากเมฆฝนสีดำที่ปกคลุม เผยให้เห็นท้องฟ้าสีบลูเบอร์รี่ที่สดใสและดวงดาวที่เต็มท้องฟ้า
ขัดกับภาพเบื้องล่างที่คนบาปกำลังเร่งเครื่องไปในถนนที่คดเคี้ยวและมืดมิด พื้นถนนที่เฉอะแฉะจากฝนที่เพิ่งหยุดไปทำให้การควบคุมรถที่พุ่งบิดมาด้วยความเร็วเป็นไปได้ยาก
รู้ตัวอีกที.. โค้งอันตรายที่เบสต์ลืมไปเลยว่าเคยอยู่ตรงนี้ก็ปรากฏขึ้น
เจ้าของรถที่พุ่งมาด้วยความเร็ว
กระทืบเหยียบเบรกจนสุดเท้า..
การเบรกกะทันหันทำให้ท้ายรถถูกเหวี่ยงสะบัดหมุนล้มไถลลงไปครูดกับพื้นถนนจนไฟลุกเป็นทางยาว ก่อนที่ร่างคนขับกระเด็นหมุนกลิ้งไปตามถนนหลายเมตรและจบที่การนอนหายใจรวยรินอยู่ที่พุ่มไม้ข้างทาง
ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้ายที่ในคืนนั้นดันมีพลเมืองดีสองคนเห็นเหตุการณ์แล้วรีบแจ้งเหตุ ทำให้สุดท้ายแล้วร่างของชายหนุ่มถูกหามเข้าโรงพยาบาล และเมื่อได้สติก็ถูกจับกุมส่งเข้าคุกในที่สุด
ชีวิตที่เหมือนฝันร้ายในเรือนจำทำให้เบสต์รู้จักการเอาตัวรอดมากขึ้น จิตใจของชายหนุ่มด้านชาจนทำให้เขาตอนนี้สามารถทำทุกอย่างได้เพื่อความอยู่รอด
ถ้าไปถามหลายคนที่รู้จักเบสต์ พวกเขาจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไอ้ผมยาวคนนี้มันไม่ต่างอะไรกับ ปีศาจไร้หัวใจ
แต่ไอ้เบสต์ขอเถียง เพราะต่อให้พยายามแก้ตัวเท่าไหร่ เราต่างเป็นคนร้ายในทุกเรื่องราวของคนอื่นอยู่แล้วปะวะ
ซึ่งคนอย่างเบสต์ มันไม่เคยมองตัวเองว่าเป็นคนเลวร้าย
เผลอๆ เป็นพระเอกด้วยซ้ำ
เพราะทุกอย่างที่คนอย่างเบสต์ทำมันมีเหตุจำเป็นเสมอ.. ซึ่งเหตุจำเป็นหลักๆ กำลังรอเขาอยู่ที่อะพาร์ตเมนต์
หนุ่มผมเซอร์ก้าวเท้าไปยังห้อง 208 ที่มุมสุดของชั้นสองที่อะพาร์ตเมนต์ก่อนยกมือหนาเคาะประตูไม้หน้าห้อง
ประตูค่อยๆ ถูกแง้มเปิดออกเผยให้เห็นใบหน้าใสของเด็กหนุ่มวัยมหาลัยที่รูปลักษณ์ ผิวพรรณ ดีไม่ต่างกับคนเซอร์ๆ ผมยาว ผู้เป็นพี่ชายที่คอยดูแลเด็กหนุ่มคนนี้มาโดยตลอด
“พี่เบสต์!” เด็กหนุ่มผมดำขลับที่ไว้หน้าม้าปรกคิ้วดำหนา ผู้มีแววตาสีน้ำตาลคล้ายกับคนพี่ แตกต่างตรงที่ตอนนี้ดวงตานั้นมีน้ำตารื้นขึ้นมา เด็กหนุ่มโผกอดชายร่างหนาที่ยืนอยู่เบื้องหน้าด้วยความโหยหาที่ไม่ได้เจอกันมาหลายปี
เบสต์กอดน้องชายนิ่งจูบลงบนหัวที่ตอนนี้สูงขึ้นกว่าครั้งก่อนที่เขาเคยเจออยู่เยอะเลย แต่เมื่อมองลงไปที่ร่างกายก็พบว่า เด็กหนุ่มนั้นซูบผอมลงมากกว่าที่เคย
“พี่บอกแล้วไงว่า ถ้าพี่ไม่อยู่ให้ บอล ดูแลตัวเอง”
“ผมพยายามอยู่..” บอลพยายามฝืนสะอื้นตอบเบสต์
“อย่างงี้พี่ถึงต้องคอยเป็นห่วงเอ็ง” เบสต์เดินนำเข้ามาในห้องที่โล่งเปล่า มีเพียงโซฟาสีดำวางอยู่คู่กับชั้นวางทีวีเก่าๆ บนพรมสีเขียวที่ถูกปูเอาไว้บนพื้นห้อง ไกลออกไปเป็นโต๊ะกินข้าวที่วางอยู่อย่างเหงาๆ ตรงหน้าห้องนอนของเบสต์ที่ถูกปิดไว้ราวกับกำลังรอคอยเจ้าของกลับมา ร่างใหญ่เดินไปรูดม่านบังแสงเปิดออกให้แสงแดดยามเย็นลอดผ่านเข้ามาในห้อง ช่วยให้ห้องพอมีชีวิตชีวาขึ้นมาบ้างเล็กน้อย
สายน้ำเย็น จากฝักบัวถูกปล่อยลงมากระทบผมยาวที่ขาดการบำรุงมาหลายปี หลังจากที่ต้องอาบน้ำในอ่างน้ำรวมกับหนุ่มกลัดมันในคุกแบบเร่งรีบตามระเบียบมานาน สายน้ำประปาตอนนี้จึงไม่ต่างจากออนเซ็นหรูสำหรับเบสต์ ที่รู้สึกผ่อนคลายยามหยดน้ำชโลมไหลละเลียดไปตามความโค้งเว้าของกล้ามแกร่ง
ใต้ฝักบัวนั่น ร่างหนาเปลือยเปล่าที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามสวยงามสีแทนของชายหนุ่ม ตรงต้นคอด้านซ้ายมีรอยสักคำว่า L U C K Y เป็นเหมือนเครื่องรางนำโชคของเขาที่ทำให้เขารอดปัญหาหวุดหวิดมาได้ในหลายๆ ครั้ง รวมถึงครั้งนี้..
เจ้าของมัดกล้ามหนาสวยงามนั่นกำลังก้มหน้าตั้งสติเพื่อตั้งรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ราวกับเป็นเรื่องไม่คาดฝัน
ทั้งๆ ที่โทษของไอ้เบสต์เป็นโทษหนัก อาจถึงขั้นประหารชีวิตเลยด้วยซ้ำ แต่ใครกันที่มันทำให้เขาหลุดโทษออกมาได้ในระยะเวลาไม่กี่ปี...
ใครกันที่มันทำ..
แล้วใครคนนั้นต้องการอะไรจากคนอย่างเขา?
เพราะเท่าที่รู้.. ชีวิตของเบสต์ไม่มีใครที่หวังดีพอ ที่จะมาประกันตัวสู้คดีให้มันหลุดพ้นโทษได้ขนาดนี้หรอกนะ
ร่างใต้ฝักบัวสะบัดผมยาวที่เปียกโชกเพื่อพยายามสลัดความคิดเครียดๆ ออกจากหัว นี่เป็นเวลาของชีวิตใหม่ที่เพิ่งได้รับมา เขาควรโอบรับความสุขนี้ไว้อย่างเต็มที่ แทนที่จะเสียเวลาหมกมุ่นไปกับความขุ่นมัวที่หาทางออกไม่เจอหรือเปล่า
มือแกร่งค่อยๆ ลูบไล่ลงไปยังแท่งแก่นกายกลางลำตัวที่เปียกโชก สายน้ำไหลละเลียดผ่านอวัยวะนั้นตั้งแต่โคนจนสุดปลายแท่ง แม้ในคุกจะมีช่วงเวลาที่เขาได้ลิ้มรสความสุขและผ่อนคลายบ้างตามมุมต่างๆ แต่ก็เทียบไม่ได้กับความสุขและสบายใจในตอนที่เขาทำมันนอกรั้วหนามนั่น
เหมือนท่อนลำนั้นรับรู้ถึงรสชาติของอิสรภาพที่เขากำลังจะปรนเปรอให้ตัวเอง มันค่อยๆ ขยายขนาดอวดศักดาในแบบที่อัดอั้นมานานจนตั้งตรงเส้นเอ็นปูดโปนอย่างน่าเกรงขาม
เบสต์เอื้อมมือไปบีบสบู่เหลวใส่อุ้งมือก่อนค่อยๆ บรรจงเอามาทานวดคลึงตรงแท่งใหญ่ยักษ์นั้นตั้งแต่โคนจนสุดปลาย ก่อนที่จะรูดเข้าออกเร็วขึ้นอย่างแผ่วเบา จนฟองขาวฟูฟ่องไปทั่วลำ
ความเสียวซ่านที่คุ้นเคยแผ่ซ่านไปทั่วร่างสีแทนที่ยืนตัวเกร็งใต้ฝักบัว ใบหน้าคมเข้มภายใต้ผมยาวที่เปียกโชก ยืนขมวดคิ้วหนาหลับตาจินตนาการถึงภาพเปลือยเปล่าของก้นแน่นๆ ที่รอคอยการสอดใส่จากท่อนลำของเขา
ความสุขที่เก็บอั้นมาในรอบหลายปี เหมือนตอนนี้ได้ถูกปลดปล่อยจากพันธนาการอีกครั้ง เสียงแฉะของน้ำจากฝักบัวที่ไหลลงมากระทบกับมือที่รูดเข้าออกดังถี่เร็วขึ้น
เบสต์กำลังก้าวสู่อิสรภาพที่ทำให้หัวสมองของเขาขาวโพลนแบบที่โหยหามาตลอด ใกล้เข้า.. ใกล้เข้า..
“อ๊า...”
เบสต์เผลอครางออกมา เมื่อส่วนปลายของท่อนลำไม่สามารถทนความเสียวซ่านได้อีกต่อไป น้ำรักสีขาวขุ่นพุ่งกระจายออกมาอย่างสุขสม
ร่างกำยำยืนหอบฉีกยิ้มอย่างลำพังภายใต้น้ำเย็นที่ถูกปล่อยไหลจากฝักบัว ราวกับว่ามันได้ชะล้างความทุกข์ทิ้งไปแล้วอย่างสิ้นเชิง
คืนนั้นภายในห้องอะพาร์ตเมนต์ งานเลี้ยงฉลองการกลับมาของเบสต์ได้ถูกจัดขึ้นโดยน้องชายของเขาที่ดูจะดีอกดีใจจนเก็บอาการไม่อยู่
หม้อสุกี้ได้ถูกตั้งพร้อมอาหารนานาชนิด มีแขกรับเชิญคือ ไอ้จอร์จและชาวแก๊งอีกสองสามคนนั่งล้อมวงกินกันอย่างมีความสุข
เหล่าบรรดาลูกน้องต่างผลัดกันเล่าวีรกรรมแสบๆ ของเหล่าแก๊งที่เกิดขึ้นในช่วงที่เขาไม่อยู่ ซึ่งเท่าที่ฟัง มีแต่ความวายป่วงที่นำโดยไอ้จอร์จมือขวาของเขา ที่เน้นหลักการในการบู๊ โดยไม่สนลูกผีลูกคน
“มันเกือบพาพวกผมตายหลายรอบแล้วพี่” ลูกน้องคนหนึ่งฟ้องขึ้นมา จนไอ้จอร์จเอามือขึ้นทุบหัวมันอย่างแรง
“ตายห่าอะไร แค่โดนกระสุนเฉียดหัวอย่ามาสำออย”
ทั้งหมดหัวเราะร่ากับการรอดตายอย่างหวุดหวิดของชาวแก๊ง แต่ในขณะเดียวกัน เบสต์ก็สังเกตเห็นรอยยิ้มที่เจื่อนหายไปจากใบหน้าของบอลผู้เป็นน้องชาย ก่อนที่เด็กหนุ่มจะขอตัวเดินออกไปสูดอากาศนอกระเบียง
“พี่จะไม่หายไปไหนแล้วใช่ไหม?” บอลถามขึ้น เมื่อได้ยินเสียงเบสต์เปิดประตูกระจกเดินตามออกมาจากห้อง
“กูไม่ไปไหนหรอก.. อยู่แถวนี้แหละ เอ็งไม่ต้องเป็นห่วง” เบสต์พูดอย่างรำคาญน้องชาย มือบางเอื้อมมาจับแขนที่กรำแดดของคนผมยาวก่อนเอ่ยคำขอร้องด้วยสายตาแดงก่ำ
“พี่พอได้ไหม..แค่นี้มันก็หนักเกินไปแล้วนะพี่” บอลถามมองตาพี่ชายเชิงขอร้อง
“ถ้ากูหยุดทำ เอ็งจะเอาอะไรแดก?” เบสต์หมดความอดทนที่ต้องพูดในประเด็นนี้... ประเด็นที่เคยถูกถกเถียงกันมาแล้วหลายร้อยรอบ
“ที่เอ็งได้เรียน ที่เอ็งมีที่ซุกหัวนอน.. ไม่ใช่เพราะกูทำอะไรแบบนี้เหรอ” เบสกวาดมือชี้ให้บอลดูห้องโกโรโกโสอันนี้
“แล้วยังไงอะพี่ พี่ได้มาพวกแม่งก็มายึดไปหมดตอนพี่โดนจับ” บอลพยายามดึงสติพี่ตัวเองด้วยความจริงที่เป็นอยู่ “ตอนนี้ดูดิ พี่เหลือเหี้ยไรบ้าง เราแทบไม่เป็นคนกันอยู่แล้วนะพี่”
เบสต์หยุดชะงัก มองหน้าน้องชายที่ตอนนี้ตัวสั่นเทา น้ำตาใสไหลรินออกมาจากใบหน้าอ่อนเยาว์ราวกับคำร้องขอสุดท้ายจากหัวใจที่เจ็บช้ำ
จากการที่เบสต์ได้ใช้เวลากับตัวเองมานานตอนอยู่ในคุก ความคิดหลายๆ อย่างในหัวของเขามันเริ่มตกตะกอนได้มากขึ้น เริ่มเห็นว่าอะไรที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขา และแน่นอนสิ่งนั้นมันทำให้ในตอนนี้ น้ำตาของคนคนเดียวที่ห่วงเขาที่สุดในชีวิต มันสร้างความเปลี่ยนแปลงในหัวของคนที่เคยไม่แคร์อะไรบนโลกใบนี้ ให้ได้ลองคิดในอีกมุมหนึ่ง
จริงด้วย.. ที่ผ่านมา
ไม่เคยถามด้วยซ้ำว่าน้องชายของเขาเป็นอย่างไร
ตลอดเวลาที่เขาไม่อยู่
เขาเอาแต่บอกให้น้องชายดูแลตัวเองให้ได้
ความจริง.. อาจไม่ใช่เพราะเขาเป็นห่วง
แต่ลึกๆ แล้วเบสต์เองที่อาจกำลังรำคาญน้องคนนี้
ที่เป็นเหมือนสิ่งกวนใจให้เขาต้องคอยกังวลอยู่เรื่อย
สุดท้ายแล้วเขาเองนี่แหละที่โคตรเป็นพี่ชาย..ที่เห็นแก่ตัว
ที่หลอกตัวเองว่ารักน้อง แต่ไม่เคยทำมันออกมาจริงๆ
“กูขอโทษ” เบสต์ก้มหน้า พูดออกมาเบาๆ
ทั้งสองยืนอยู่ท่ามกลางความเงียบของเมืองในยามราตรี มีเพียงเสียงร้องไห้สะอื้นของผู้เป็นน้อง ที่กุมความสนใจของเบสต์ที่สายตามองเหม่อออกไปนอกระเบียงเอาไว้อยู่
“กูไม่อยู่.. มึงเป็นยังไงบ้าง” คำถามที่ควรจะถูกถามมานานแล้ว ในที่สุดก็ออกจากปากที่มีหนวดเคราของผู้เป็นพี่
“ผมพยายาม..” น้องชายเอ่ยปากตอบ “ทุกวันผมพยายาม.. ผมพยายามจะไม่เป็นภาระพี่ ผมพยายามโตให้มากกว่านี้.. ผมพยายามไม่อยากเป็นต้นเหตุที่พี่จะต้องเข้าคุก”
เด็กหนุ่มที่เอาแต่โทษตัวเองพูดต่อด้วยความเจ็บปวด “แต่ต่อให้ผมพยายามแค่ไหน มันก็ยังไม่ดีพอ มันยังทำให้พี่หยุดไม่ได้..”
“กูผิดเอง” เบสต์สวนขึ้นจนบอลหยุดชะงัก ชายหนุ่มหันหน้ามองน้องชายด้วยสายตาที่รู้สึกผิด “กูผิดเอง ที่คอยย้ำว่ากูเป็นห่วงมึง.. จนทำให้มึงต้องมาคิดว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของมึง”
“จริงๆ แล้วเป็นที่กูเอง.. ที่เหี้ย เป็นที่สันดานกู ไม่เกี่ยวกับมึงเลย”เบสต์สารภาพสิ่งที่อยู่ในใจออกมาแบบหมดเปลือกเพื่อให้น้องของเขาตรงหน้าเลิกโทษตัวเอง “กูเข้าใจแล้ว.. กูขอโทษ”
ชายหนุ่มดึงน้องชายเข้ามากอดไว้ในอ้อมอก ก่อนที่ร่างเล็กจะกระซิกร่ำไห้อยู่ภายในอ้อมกอดของผู้เป็นพี่ ราวกับว่ากำลังรอคอยคำขอโทษที่จริงใจนี้มาตลอดหลายสิบปี
คืนนั้นหลังจากที่ทุกคนกลับไปหมดแล้ว เบสต์ที่นอนไม่หลับยังคงเดินออกมานั่งสูบบุหรี่ที่มุมโปรดริมระเบียง มองจ้องออกไปยังท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ภายหน้า
ถ้าพ่อแม่ของเขายังอยู่.. ป่านนี้ไอ้เบสต์คงโดนเฆี่ยนหนักเพราะทำตัวแบบนี้ โยนความรู้สึกผิดโง่ๆ ให้กับน้องชายของตัวเองแบกรับไว้ โดยที่ตัวเองหาเรื่องทำตัวนอกคอกแบบไม่น่าให้อภัย
พี่ชายที่ไม่เอาไหน ถอนใจเฮือกใหญ่ออกไปในความมืดก่อนจะตัดสินใจที่จะปรับปรุงตัวใหม่ เพื่อชดเชยในสิ่งที่เขาทำผิดกับน้องชาย
ตึก... ตึก...ฟื้ดดดดด...
เสียงประหลาดดังขึ้นมาจากภายในห้องของน้องชายที่น่าจะนอนหลับไปนานแล้ว..
เสียงที่ดูราวกับว่าแมวกำลังไล่กวดหนูอยู่ภายในห้อง
เบสต์เดินย่องกลับเข้าไปภายในห้องโถงที่มืดสนิทอย่างเงียบๆ ชายหนุ่มเดินไปควานหาปืนที่ถูกเก็บไว้ในลิ้นชักในครัว ก่อนค่อยๆ ย่องไปเอื้อมมือจับลูกบิดประตูห้องของบอลอย่างแผ่วเบา แล้วค่อยๆ บิดเปิดออกมา
ทันทีที่เบสต์มองเข้าไปในห้อง ดวงตาของเขาก็เบิกโพลงเมื่อได้พบกับภาพที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต
เงาตะคุ่มของร่างร่างหนึ่งที่มีดวงตากลมโตที่สุกสกาวคล้ายกับแมวกำลังนั่งคร่อมร่างที่นอนหลับไม่ได้สติเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ของน้องชายเขาอยู่
ที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่านั้น สิ่งที่ร่างนั่นพยายามทำอยู่คือการพยายามดึงเอากลุ่มควันสีเงินที่ส่องแสงสุกสกาวก้อนหนึ่งออกมาจากปากของบอล กลุ่มควันนั้นขดตัวเป็นรูปกระต่ายสีเงินแล้วเข้าไปอยู่ในเงื้อมมือของเงาปริศนานั่น
ด้วยความตกใจกับผู้มาเยือนที่ไม่พึงประสงค์ ทันทีที่ดวงตาแวววาวนั้นสบตากับเบสต์ที่เปิดประตูเข้ามา ร่างนั้นรีบกระชากหูกระต่ายสีเงินจนกลุ่มควันขาดออกจากกัน ก่อนที่จะยัดสิ่งนั้นใส่กระเป๋าหนังข้างกายของตัวเองแล้วพุ่งกระโจนหนีออกหน้าต่างไป ในขณะที่กลุ่มควันที่เหลือไหลกลับเข้าไปยังร่างของบอลที่ยังนอนไม่ได้สติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เบสต์รีบวิ่งพรวดเข้าไปยังหน้าต่างที่ร่างนั้นกระโจนหนีออกไป แต่กลับไร้เงาของสิ่งมีชีวิตใดใดนอกหน้าต่าง ชายหนุ่มรีบหันกลับมาเขย่าตัวปลุกน้องชายของตัวเองด้วยความตกใจ
“ไอ้บอล!!!! ไอ้บอล!! ตื่นสิวะไอ้บอล” เบสต์เขย่าตัวน้องชายอย่างแรงจนร่างนั้นสะดุ้งตื่น
“เป็นเหี้ยอะไรเนี่ย พี่เบสต์.. เข้ามาทำไมเนี่ย”
“มีโจรเข้ามา!!” เบสต์พูดด้วยหน้าตาตื่นตระหนก
ห๊ะ!!!... น้องชายร้องเสียงประหลาดใจ ในขณะที่หน้ายังคงไม่แน่ใจว่านี่คือความฝันหรือความจริง
“มึงเป็นอะไรรึเปล่า” เบสต์เปิดไฟ แล้วรีบดึงน้องชายมาสำรวจร่างกายแต่ก็ไร้วี่แววของบาดแผลใดใดอย่างน่าประหลาด
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่..
คนๆ นั้น.. ไม่สิ.. สิ่งนั้น.. มันคืออะไร
“ผมว่าพี่เมาหนักไปละ ไปนอนได้แล้ว” บอลหาวแล้วไล่พี่ชายอย่างรำคาญใจ ก่อนที่จะล้มตัวลงนอนเหมือนกับว่าสิ่งที่พี่ชายพูดเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ
แต่สำหรับเบสต์ มันคือเรื่องจริง..
ร่างนั่นมันขโมยอะไรสักอย่างไปจากน้องชายของเขา..
นี่มันเรื่องประหลาดที่สุดในชีวิตที่เบสต์เคยเจอมา
เบสต์ยังคงจ้องหน้าน้องชายที่นอนอยู่นาน สายตาสอดส่ายสำรวจความผิดปกติด้วยความไม่ไว้ใจ..
“งั้นวันนี้กูนอนกับมึง” เบสต์พูดก่อนปิดไฟล้มตัวลงนอนข้างๆ น้องชาย
“เป็นห่าอะไรวะ..” บอลบ่นพึมพำใส่พี่ชายที่ดึงแย่งผ้าห่มไปห่ม ก่อนที่จะเจ้าตัวจะหันหลังนอนคลุมโปงใส่คนพี่ด้วยความรำคาญ