"รอยสักตรงอกเท่ดีเนอะ รูปไรอะ?" — ม่อน "อยากรู้ก็เดินมาดูใกล้ ๆ ดิ" — ราม

รักราม (เป็นพิเศษ) #รามโชว์ม่อน - Episode 1 ผิดคน (2/2) โดย คุณฉม @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,นิยายรัก ,นิยายชายหญิง,รามโชว์ม่อน,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

รักราม (เป็นพิเศษ) #รามโชว์ม่อน

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง

แท็คที่เกี่ยวข้อง

นิยายรัก ,นิยายชายหญิง,รามโชว์ม่อน

รายละเอียด

รักราม (เป็นพิเศษ) #รามโชว์ม่อน โดย คุณฉม @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

"รอยสักตรงอกเท่ดีเนอะ รูปไรอะ?" — ม่อน "อยากรู้ก็เดินมาดูใกล้ ๆ ดิ" — ราม

ผู้แต่ง

คุณฉม

เรื่องย่อ

รามินทร์ถูกแฟนที่คบมา 7 ปีบอกเลิกฟ้าผ่า เพื่อนของรามินทร์เห็นว่าเขาเอาแต่อมทุกข์เพราะยังตัดใจไม่ได้ จึงหวังดีด้วยการมอมเหล้าแล้วส่งเด็กเอ็นฯไปให้แก้เหงา แต่ดันเกิดเหตุผิดพลาดกับคนที่ส่งไป

สารบัญ

รักราม (เป็นพิเศษ) #รามโชว์ม่อน-Prologue .,รักราม (เป็นพิเศษ) #รามโชว์ม่อน-Episode 1 ผิดคน (1/2),รักราม (เป็นพิเศษ) #รามโชว์ม่อน-Episode 1 ผิดคน (2/2)

เนื้อหา

Episode 1 ผิดคน (2/2)

03:30 น.

เสียงนาฬิกาปลุกจากสมาร์ตโฟนในกระเป๋าดังขึ้นแหวกอากาศ แม้ไม่ดังมากนักหากก็เพียงพอให้เจ้าของซึ่งตื่นง่ายเป็นทุนเดิมอยู่แล้วรู้สึกตัวจากการหลับไหลได้ไม่ยาก

เปลือกตาสีอ่อนกระพริบขึ้นลงเพื่อปรับให้เข้ากับความมืดที่ยังคงรายล้อมรอบตัว เรียวแขนเสลายื่นออกไปคลำหาสวิตช์ไฟตรงหัวเตียงหมายจะเปิดให้แสงสว่าง

แต่แล้วสิ่งแรกที่เข้ามาในครรลองสายตากลับไม่ใช่ที่ว่างบนเตียง หากเป็นใบหน้าของใครบางคนที่จะว่าไม่รู้จักก็ไม่ใช่คุ้นเคยก็ไม่เชิง

เสี้ยววินาทีต่อมาความตื่นตะหนกก็แล่นเข้ามาจับขั้วหัวใจ ส่งผลให้อัตราการเต้นของอวัยวะดังกล่าวถี่ขึ้นจนเหมือนจะทะลุออกมานอกอก ดวงตาเรียวรียิ่งเบิกกว้างเมื่อได้เห็นสภาพคนข้างกาย

โดยเฉพาะรอยสักที่พาดผ่านไปทั้งแผ่นอกด้านซ้ายจรดข้อมือข้างเดียวกัน ทั้งเนื้อทั้งตัวของเขามีเพียงผ้าห่มยับย่นปิดคลุมไว้เพียงส่วนล่างตั้งแต่ใต้สะดือลงไปเท่านั้น

เก็บสายตากลับมาย้อนมองตัวเอง กลับพบว่าไม่มีสิ่งใดไว้ปิดบังร่างกายแม้แต่อย่างเดียว นอกจากเส้นผมดำยาวที่ทิ้งตัวลงคลอเคลียกับหน้าอกอย่างหมิ่นเหม่

หญิงสาวยกฝ่ามือขึ้นปิดกั้นเสียงสะอื้นที่ตีตื้นมาพร้อมกับหยาดน้ำปริ่มขอบตา กระพริบเพียงครั้งเดียวน้ำทุกหยดก็เหมือนจะไหลบ่าลงมาจนเปียกชุ่มไปทั้งใบหน้า

แสงจากหลอดไฟที่รบกวนโสตประสาทรวมทั้งแรงกระตุกจากอะไรบางอย่างตรงแผ่นหลัง ยังผลให้คนหลับสนิทไม่รู้เรื่องรู้ราวเริ่มรู้สึกตัว

ฉับพลันนั้นหน่วยตาของคนเพิ่งตื่นกลับลืมขึ้นราวเปิดสวิตช์ เมื่อสำนึกสุดท้ายก่อนผล็อยหลับไปด้วยความเพลียจัดคือเขาไม่ได้นอนอยู่ในห้องตามลำพัง แต่หมดแรงหลับไปพร้อมกับหญิงสาวคนหนึ่งที่ประกอบกามกิจกับเขาตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา

ร่างสูงเด้งตัวลุกจากที่นอนเหมือนติดสปริง ทำให้คนที่กำลังปล้ำดึงผ้าห่มออกจากใต้ตัวเขาเสียหลักหงายหลังลงไปกองอยู่ด้านล่าง ตามมาด้วยเสียงร้องโอดโอยเนื่องจากการกระแทกพื้น บวกกับอาการเจ็บร้าวจากการรับศึกหนักบนเตียงนานนับชั่วโมง

รามินทร์ถลาตามเสียงนั้นไปและพบว่าเป็นหญิงสาวคนเดียวกันนั่นเอง ในสภาพที่เธอนอนแผ่อยู่กับพื้นข้างเตียง โผล่มาให้เห็นแค่สองลูกตาส่วนที่เหลือซุกใต้ผ้าห่มผืนหนาที่เธอคงดึงออกไปจากตัวเขาเมื่อครู่นั่นแหละ

“เจ็บมากมั้ย พี่ขอโทษ” ชายหนุ่มทำท่าจะก้าวลงมาช่วยพยุงหญิงสาวที่ต้องเจ็บตัวเพราะตนเอง

“อย่าเข้ามา!” ทว่าขายาวยังไม่ทันแตะพื้น หญิงสาวก็ตะโกนห้ามเขาเสียงดังลั่น คนอยากช่วยชะงักกึกและถอยตัวกลับไปนั่งลงตามเดิม ไม่ใช่เพราะเธอสั่งห้าม แต่ความสั่นเครือในน้ำเสียงนั่นต่างหากที่ทำให้เขาต้องหยุด

สุดท้ายความเป็นห่วงที่มีมากกว่า ทำให้เขาตัดสินใจชะโงกตัวไปดูอาการของเธอแทน โดยไม่สนแล้วว่าอีกฝ่ายจะทัดทานอะไรเขาอีก

“น้ำมนต์…” คิ้วของรามินทร์ขมวดยุ่งยิ่งกว่าเดิมเมื่อเห็นปฏิกิริยาของหญิงสาวนามว่าน้ำมนต์ เธอดูตื่นตระหนกกว่าที่ควรจะเป็นราวกับเรื่องเมื่อคืนคือความผิดพลาดมหันต์อย่างไรอย่างนั้น

ชายหนุ่มสอดส่ายสายตาไปรอบห้องเมื่อสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างไม่ปกติ จนสะดุดเข้ากับคราบสีแดงเล็ก ๆ ตัดกับผ้าปูที่นอนสีขาวในสภาพหาความเรียบเหมือนก่อนเข้าพักแทบไม่เจอ

ทำเอาเขาต้องลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ไม่แน่ใจว่าเมื่อคืนเขาเผลอรุนแรงใส่หรือหนักกว่านั้นคือเธอไม่เคย แต่ไม่ว่าทางไหนก็ไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเธอทั้งนั้น

“พี่…ขอโทษ” รามินทร์พยายามจะเข้าถึงตัวหญิงสาวที่นิ่งเงียบไปนาน จนเขาหวั่นใจว่าเธอจะเป็นอะไรมากกว่าที่เห็นภายนอก “เจ็บตรงไหน ขอพี่ดูหน่อย”

“มะ…ไม่ต้องเข้ามา” เธอลนลานร้องห้ามทั้งยังหันหน้าหนีเขาไปอีกทาง ใจหนึ่งก็ห่วงหากอีกใจกลับไม่กล้าขัดทำให้เขาต้องยักแย่ยักยันอยู่อย่างนั้น กลัวว่าถ้าเข้าไปใกล้กว่านี้เธอจะถอยหนีจนเจ็บตัวกว่าเดิม แต่หากให้เขาดูดายอยู่เฉยเขาก็ทำไม่ได้อีก

“หันไป” เธอเอ่ยเสียงแหบพร่า “บอกให้หันไปไง!” ย้ำอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเข้มขึ้นจนรามินทร์ต้องยอมล่าถอยในที่สุด

และนาทีนั้นเองเขาเพิ่งมีโอกาสได้สำรวจตัวเองแล้วถึงกับต้องกุมขมับ ขยับตัวหนีสายตาหญิงสาวไปอีกทางแทบไม่ทัน เข้าใจทุกการกระทำเมื่อครู่ของเธอขึ้นมาทันที

เพราะอารามตกอกตกใจแท้ๆ ทีเดียว ทำเขาลืมสนิทว่าตัวเองเปลือยกายอล่างฉ่างต่อหน้าเธออยู่ ไม่แปลกใจเลยที่เธอต่อต้านเขาทุกคำขนาดนั้น

“เข้าห้องน้ำไปก่อนได้มั้ย เราจะแต่งตัว” เธอขอร้องเขาเสียงอ่อนลง

“โอเคครับ” รามินทร์ตอบรับเสียงอ่อย และขยับไปก้าวลงจากเตียงอีกฝั่งแทน จากนั้นก็ตรงดิ่งเข้าห้องน้ำอย่างที่อีกฝ่ายขอ เพื่อให้เจ้าตัวได้มีเวลาจัดการตัวเองอย่างเต็มที่

โชคยังดีที่เมื่อคืนเขาถอดเสื้อผ้าทิ้งไว้ในห้องน้ำ เลยไม่ลำบากกับการหยิบหามาใส่ ผิดกับคนที่อยู่ด้านนอกนั่น ในความทรงจำอันเลือนราง เขาพอจะจำได้ว่าตนถอดเสื้อผ้าเธอโยนสะเปะสะปะไปทั่วห้องเลยทีเดียว

คิดแล้วก็ให้หงุดหงิดจนอยากทึ้งหัวตัวเองนัก ไม่รู้เลยว่าเรื่องเมื่อคืนมันผิดพลาดตรงไหน จากข้อความที่เพื่อนเขาพิมพ์ส่งมาในห้องแชต คนที่ทำงานแนว ๆ นี้ก็น่าจะเป็นงานอยู่แล้วมิใช่หรือ เพราะฉะนั้นตัดเรื่อง ‘ไม่เคย’ ออกไปได้เลย

ส่วนเรื่องการใช้ ‘ความรุนแรง’ รามินทร์มั่นใจว่าตนไม่เคยมีพฤติกรรมเยี่ยงนั้น แต่เพราะเขา ‘เมา’ นี่สิ อาจจะเผลอทำลงไปโดยไม่รู้ตัวก็เป็นได้

ยิ่งนึกถึงก็ยิ่งห่วงอีกคนขึ้นมาติดหมัด มือไวเท่าความคิดเขาผลักประตูห้องน้ำเปิดเข้าไปในห้อง หมายจะเช็กให้แน่ใจว่าเธอไม่ได้บาดเจ็บรุนแรงจนต้องถึงมือหมอ

เสียงเปิดประตูส่งผลให้คนที่อยู่ในห้องสะดุ้งเฮือก ทว่าคนที่พรวดพราดออกมากลับต้องตกใจยิ่งกว่า เมื่อหญิงสาวที่เคยเข้าใจว่าเป็นน้องน้ำมนต์ แท้จริงแล้วคือเพื่อนร่วมคณะที่เพิ่งนั่งก๊งเหล้าอยู่ด้วยกันที่ผับเมื่อคืนนี่เอง มันเรื่องบ้าอะไรกันวะเนี่ย

“ม่อน…” ต้องใช้เวลาพักหนึ่งเลยทีเดียวกว่าทั้งคู่จะหาเสียงตัวเองเจอ รามินทร์เป็นฝ่ายสาวเท้าไปหามนสิชาก่อน ด้วยต้องการคำตอบว่าทำไมเธอถึงมาอยู่ในห้องเขาได้

ทว่าเพียงก้าวแรกที่ขยับหญิงสาวกลับถอยกรูดไปตั้งหลักเสียไกลจนเขาต้องยอมหยุดเท้าไว้แค่นั้น

“โอเค…แต่เราต้องคุยกันนะม่อน” ภายในห้องมีเพียงหลอดไฟวอร์มไวท์ดวงเดียวที่ส่องสว่าง หากก็มากพอจะสะท้อนความแวววาวที่ตกต้องบนใบหน้าของคนที่กำลังจ้องหน้าเขากลับมาตาแทบไม่กระพริบ

มนสิชาส่ายหน้าปฏิเสธท่าเดียว เธอแสดงออกซึ่งความบอบช้ำทั้งกายและจิตใจด้วยการปลดปล่อยทำนบน้ำตาออกมาเงียบ ๆ แต่กลับไม่ได้ยินแม้แต่เสียงสะอึกสะอื้น ทว่าหยดน้ำที่กลบเต็มหน่วยตากับอาการตัวสั่นอย่างที่เธอกำลังเป็น บ่งบอกความรู้สึกภายในได้มากกว่าคำพูดใด ๆ

“แต่ว่า…” หากรามินทร์ยังรั้นจนเธอจำต้องเปิดปาก

“ช่างมันได้มั้ย เรา…ไม่ได้…” อยากให้มันเป็นแบบนี้ เธอละล่ำละลักออกมาด้วยเสียงขาดห้วง เธอเองก็ยังสับสนไม่หายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอต้องเมาหนักขนาดไหนถึงจำเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เลย


- tbc -