อดีตดาราสาวผู้โด่งดังได้ตัดสินใจลาออกจากวงการบันเทิงและมุ่งหน้าตามหาความฝันยังบ้านเกิดของตน แต่แล้วทุกอย่างกลับเปลี่ยนไป สิ่งเก่าใกล้เลือนหายแต่สิ่งใหม่กำลังเข้ามา
รัก,ชาย-หญิง,ยุคปัจจุบัน,ไทย,ตลก,โรแมนซ์,โรแมนติก,รัก,รักโรแมนซ์,ตลก,ความฝัน,ความรัก,ความสัมพันธ์,ครอบครัว,นิยายชายหญิง,นิยายรัก,นิยายรักชายหญิง,นิยายโรแมนติก,ชาย-หญิง,ชายหญิง,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เมื่อรักซัดเข้าฝั่งอดีตดาราสาวผู้โด่งดังได้ตัดสินใจลาออกจากวงการบันเทิงและมุ่งหน้าตามหาความฝันยังบ้านเกิดของตน แต่แล้วทุกอย่างกลับเปลี่ยนไป สิ่งเก่าใกล้เลือนหายแต่สิ่งใหม่กำลังเข้ามา
เมื่อรักซัดเข้าฝั่ง | Waves To Luv
เขียน : ดาวพลอย
ภาพ : Aumaim
---------------------------------------------
เรื่องย่อ
อดีตดาราสาวผู้โด่งดังได้ตัดสินใจลาออกจากวงการบันเทิงและมุ่งหน้าตามหาความฝันยังบ้านเกิดของตน แต่แล้วทุกอย่างกลับเปลี่ยนไป สิ่งเก่าใกล้เลือนหายแต่สิ่งใหม่กำลังเข้ามา
อัปเดตตอนทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 18.00น.
---------------------------------------------
Trigger warning
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เนื้อหาบางส่วนอาจใช้ถ้อยคำพูดหรือพฤติกรรมที่มีความรุนแรงไม่เหมาะสมกับผู้อ่านอายุต่ำกว่า 18ปี ควรมีผู้ใหญ่ให้คำแนะนำ
อ่านเพื่อความบันเทิงเท่านั้น...
กอหญ้าทิ้งตัวลงบนโซฟาสีชมพูอ่อน ที่จัดวางอย่างงดงามภายในห้องนั่งเล่นของเพนต์เฮาส์ส่วนตัว ซึ่งทุกอณูของห้องนี้ถูกออกแบบด้วยสีชมพูหวานจับตา ความละเอียดลออในการเลือกสรรวัสดุและเฟอร์นิเจอร์ทำให้บรรยากาศดูหรูหราที่แฝงไว้ด้วยความหวานตามบุคลิกของเจ้าบ้าน หน้าต่างบานใหญ่ที่ทอดยาวตลอดผนังห้องสะท้อนภาพทิวทัศน์ของกรุงเทพมหานครยามค่ำคืนได้อย่างงดงาม แสงไฟระยิบระยับจากตึกสูงและท้องฟ้าที่ทอดยาวจนสุดสายตา เป็นดังของขวัญอันคุ้มค่าสำหรับชีวิตที่เธอทุ่มเทไปกับอาชีพนักแสดง
“คิตตี้ แม่คิดถึงที่สุดเลยลูกสาว”
“แกเรียกแมวว่าลูกสาวอีกแล้วนะ เคยเป็นข่าวดังเชียว จำไม่ได้หรือ”
“โอ๊ย คนเรารักอะไรมากก็หวงแหนมาก อีกอย่างคิตตี้ก็อยู่กับฉันมานาน ฉันก็รักเหมือนลูกนั่นล่ะ”
หญิงสาวอุ้มแมวเปอร์เซียขนยาวสีขาวนวล ราวกับปุยเมฆมาแนบไว้ในอ้อมอกอย่างทะนุถนอม ความอ่อนโยนในแววตาของเธอเผยให้เห็นถึงความผูกพันอันลึกซึ้งระหว่างเธอกับสัตว์เลี้ยงที่รักราวกับเป็นลูกสาวคนหนึ่ง นิ้วเรียวยาวลูบไล้ขนมันเบาๆ อย่างสุขสันต์ ก่อนที่เธอจะค่อยๆ ปล่อยให้เจ้าแมวน้อยได้เดินไปตามทางของมัน เพื่อรับประทานอาหารในช่วงเวลาที่กำหนดไว้อย่างแม่นยำเสมอในทุก ๆ วัน
“หลังจากนี้ฉันต้องทำอะไรต่อบ้างหรือคะ”
“มีอีกเป็นกองเชียว สิ่งแรกคือเธอต้องไปชำระค่าผิดสัญญากับโฆษณาหลายแบรนด์ แบรนด์หนึ่งก็หลายบาท เรื่องเงินทองมันไม่เข้าใครออกใครเลยจริง ๆ”
“จ่ายเขาไปเถอะค่ะ มันก็เป็นความผิดหนูเองไม่ใช่หรือ”
“แต่พี่เกรงว่าตัวเธอเองจะไม่มีเงินเหลือติดกระเป๋าแม้แต่สตางค์แดงเดียวน่ะสิ”
“หนูมีเงินเก็บอีกมาก เอาไว้ไปถอนออกมาก็คงพอได้”
“ภาวนาให้เป็นแบบนั้น”
กอหญ้าค่อยๆ หยิบสมุดบัญชีจากหลากหลายธนาคารขึ้นมาจากกระเป๋าแบรนด์เนมสุดหรูที่เธอครอบครอง หัวใจเธอเต้นเบาๆ ไปกับความกังวล ขณะที่ดวงตาทั้งสองกำลังจับจ้องยอดเงินที่ยังเหลือให้เธอใช้ในการทำธุรกรรม ก็ทำให้เห็นถึงความจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เธอใกล้ถังแตกเต็มที ความผิดพลาดครั้งนี้นับเป็นเรื่องร้ายแรงที่สุดในชีวิตของเธอ ทั้งจำนวนเงินที่สูญเสียไปและผลกระทบที่ตามมาก็เกินกว่าจะรับไหว
“กอหญ้า แกตัดสินใจด้วยตัวแกเอง ฉันเตือนแกไว้หลายรอบแล้วว่าปัญหาไม่ได้จบเพียงเท่านี้ ฉันเองก็จะพยายามช่วยแกให้สุดความสามารถก็แล้วกัน”
“ฉันมีเงินเหลือแค่ 50กว่าล้านเองนะจ๊ะพี่ โฆษณาตัวหนึ่งก็คิดค่าปรับเกือบสิบล้านเข้าให้แล้ว ฉันคงได้กลายเป็นยาจกตลอดชีวิตสินะ”
“แกว่าอะไรนะ เงินเก็บแกมีเกือบ 300 ล้านเลยไม่ใช่หรือ ทำไมถึงเหลือแค่นี้เล่า ไหนจะมรดกของครอบครัวแกอีก”
“โถมรดก ไม่อยากจะว่านะจ๊ะ พ่อแม่ยกให้พี่ไผ่ไปเกือบหมด แต่สุดท้ายเขาก็เอาไปถลุงกับการพนัน บ้านที่ประจวบฯ ก็ยังยกให้เขาทั้ง ๆ ที่เขาแทบจะไม่อยากกลับไปด้วยซ้ำ”
กอหญ้าและริชชี่มีสีหน้าเคร่งเครียดเพราะกำลังหาทางออกให้กับปัญหาใหญ่ในครั้งนี้ เธอครุ่นคิดอยู่สักพักก่อนจะกวาดสายตามองไปยังข้างของภายในห้องของตน
“หรือฉันควรจะขายบ้านหลังนี้”
“นี่แกจะบ้าหรือ! นี่มันบ้านที่แกตั้งใจเก็บเงินเพื่อซื้อมันเลยนะ”
“ยอมขายบ้านแล้วย้ายไปอยู่ที่อื่นมันก็ยังดีกว่าถูกเขาฟ้องจนล้มละลายนะจ๊ะพี่”
“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ มันก็จริงของแกอยู่ แต่ฉันว่าปล่อยให้เช่าจะดีกว่าขายไปเลยไม่ดีกว่าหรือ อย่างน้อยก็ยังใช้มันช่วยหาเงินให้แกได้บ้างทุกเดือน”
“ไม่เอา! ถ้าอย่างนั้นฉันขายพวกเฟอร์นิเจอร์ในบ้านกับพวกของแบรนด์เนมพวกนี้ พี่ว่าดีไหมจ๊ะ”
“นั่นมันเรื่องของเธอ เธอต้องตัดสินใจด้วยตัวของเอง เพราะของพวกนี้ก็เป็นเงินของเธอทั้งหมดทั้งสิ้น”
กอหญ้านั่งทำใจอยู่สักพัก เธอมองดูข้าวของแบรนด์เนมภายในห้องทั้งโซฟาสีชมพูที่ทำจากกำมะหยี่นำเข้าจากต่างประเทศราคาหลักสิบล้าน ภาพวาดจากศิลปินชื่อดังระดับโลกที่ประมูลมาในราคาแสนแพง หากแต่เมื่อเดินเข้าไปถึงในห้องแต่งตัวก็จะพบกับตู้เก็บกระเป๋าแบรนด์หรูที่ตั้งโชว์อยู่หลายสิบใบ อีกทั้งเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับที่ประเมินมูลค่าออกมาคงเพียงพอที่จะเลี้ยงชีพคนหนึ่งคนได้ตลอดชีวิต
กริ๊ง....กริ๊ง....กริ๊ง....
“กอหญ้าจ๋า สายเข้า”
“ค่ะพี่ เดี๋ยวฉันรับเอง”
หญิงสาวรีบเดินแจ้นมาเพื่อรับสายเบอร์นั้น แต่ในทันทีที่ได้อ่านรายชื่อผู้ที่โทรมา ก็ทำให้เธอชะงักไปสักพักก่อนที่จะถอนหายใจอย่าแรง
กอไผ่...
“ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“กอหญ้า คือ...แกพอจะมีเงินให้พี่ยืมบ้างไหม”
“โถ่ ฉันต้องถามพี่มากกว่าว่าพี่ยืมไปแล้วคืนฉันบ้างหรือเปล่า ฉันไม่ได้รวยล้นฟ้าขนาดนั้นนี่คะ”
“แต่แกเป็นดารานี่หว่า ถ่ายละครถ่ายโฆษณาแป๊บเดียวก็ได้เงินเป็นล้าน ฉันขอยืมนิดเดียว จะบ่นอะไรให้มากความฉันเป็นพี่ชายแกนะ”
“ค่ะ พี่คงเป็นพี่ชายที่แย่ที่สุดในโลกเลยล่ะ ถึงขนาดไม่รู้เลยหรือว่าน้องตัวเองออกจากวงการบันเทิงแล้ว”
“แกว่าอะไรนะ แกทำอะไรของแก นี่กอหญ้า......”
กอหญ้าวางสายจากเบอร์โทรศัพท์ของพี่ชายแท้ ๆ ของเธอ กอไผ่ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขามาขอยืมเงินเธอเพื่อไปลงทุนกับสิ่งผิดกฎหมาย ถึงแม้เขาจะมีรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลาเพราะได้เชื้อความงามมาจากพ่อและแม่คนเดียวกันกับกอหญ้า แต่การตัดสินใจเลือกทางเดินชีวิตนั้นต่างกันสุดขั้ว
"เธอไม่น่ารีบวางเลย น่าจะให้ฉันด่ามันให้สักหน่อย"
“ช่างเขาเถอะพี่ จะยืมเงินก็ไม่เคยมาเจอหน้ากันแม้แต่ครั้งเดียว จะนับเป็นพี่ชายได้ไหมก็ไม่รู้”
“ปล่อยมันไปเถอะ มาดูสิ่งนี้ดีกว่า อาจให้เธอช็อกหนักกว่าเดิมเป็นกอง”
ริชชี่หันหน้าจอแล็ปท็อปของตนเองให้กอหญ้าดูรายการค่าผิดสัญญากับทุกแบรนด์ที่เธอร่วมงานที่มีอยู่เต็มหน้าจอ
“บิวตี้มี 2 ล้าน สกินกลาส 5 ล้าน โมจิปัง 7 ล้าน เอ๊ะ.... วิคตอริค โคลเซท 30 ล้าน นี่มันอะไรกันคะ”
“ใช่แล้ว พวกแบรนด์เนมที่เธอเป็นพรีเซนเตอร์ให้เขาน่ะ เขาก็ย่อมคิดค่าเสียหายที่สูงตามสัญญา เธอเองก็อ่านจนถี่ถ้วนทุกหน้าไม่ใช่หรือ”
“ก็จริง แต่ตอนนั้นฉันคิดแต่ว่าตัวเองคงไม่ได้ทำผิดสัญญาจริงนี่”
“นี่ยังไม่รวมแบรนด์เล็กแบรนด์น้อยอีกมากมาย รวม ๆ แล้วก็เกือบร้อยล้านที่แกต้องจ่ายให้เขาน่ะ กอหญ้า”
หญิงสาวทั้งสองนั่งทุกข์ใจกันอยู่ภายในห้องส่งผลให้บรรยากาศสีชมพูสดใสเริ่มกลายเป็นสีดำแสนมืดมน หัวใจของกอหญ้าว้าวุ่นไปด้วยคำถามมากมายว่าสิ่งที่เธอตัดสินใจลงไปมันถูกต้องแล้วใช่หรือไม่
“เอาล่ะ อย่าพึ่งหงอย วันนี้ลืมไปหรือเปล่าว่าเป็นวันสำคัญของเธอเชียวนะ”
“วันสำคัญ.... คะ?”
ยังไม่ทันหายสงสัย ไฟทั้งบ้านก็ปิดลง เหลือเพียงแต่โคมไฟตั้งโต๊ะที่ยังเปิดอยู่ สายตาของเธอมองไปยังประตูห้องก่อนที่จะเผยให้เห็นเพื่อน ๆ ของกอหญ้าเรียงแถวกันเข้ามาพร้อมเค้กวันเกิดสีชมพูก้อนใหญ่ ที่ตกแต่งด้วยตุ๊กตาน้ำตาลรูปของกอหญ้า ภาพนี้ทำให้หัวใจของเธอเต้นแรง เธอรู้สึกซาบซึ้งและประทับใจในความรักที่ทุกคนมีต่อเธอจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
“อธิษฐานก่อนนะ แล้วค่อยเป่า”
เสียงเพื่อน ๆ กล่าวพร้อมกันก่อนที่กอหญ้าจะพนมมือขึ้นมาพร้อมพึมพำขอพรแบบเบา ๆ ความรู้สึกของเธอเต็มไปด้วยความสุขอีกครั้ง และได้เป่าเทียนด้วยลมจากปากอย่างเบา ๆ จนดับไป ทุกคนส่งเสียงเฮฮาและแสดงความยินดีกับเธอในวันนี้
เสียงหัวเราะแห่งความสุขเต็มล้นทั่วห้อง ทำให้ค่ำคืนวันเกิดของกอหญ้าส่องสว่างไปด้วยความรักและมิตรภาพอันอบอุ่น นี่คือวันที่เธอจะไม่มีวันลืมไปอีกตลอดชีวิตเพราะถึงแม้จะมีวิกฤตแต่ก็ยังคงมีหลายเรื่องที่ทำให้เธอยังอยากดำเนินชีวิตต่อไปได้
“พวกแก ฉันขอบคุณมากจริง ๆ วันเกิดของตัวเองแท้ ๆ แต่กลับลืมไปจนหมด”
“ไม่เป็นอะไรหรอก วันนี้ชีวิตแกวุ่นวายมามากพอแล้ว มาปาร์ตี้แบบสาว สาว สาวให้แซ่บสุดไปเลยดีกว่าจ้า”
มัมไหม เรนโบว์ โซดา เพื่อนรักสามคนของเธอที่สนิทสนมกันมาตั้งแต่สมัยเรียนโรงเรียนประถมศึกษาที่บ้านเกิดปัจจุบันพวกเขาต่างโยกย้ายมาทำงานกันที่เมืองหลวงโดยมัมไหม ทำอาชีพเป็นแอร์โฮสเตสประจำสายการบินอันโด่งดังทำให้เป็นเรื่องยากที่จะได้มีเวลามานัดพบกันสักครั้งหนึ่ง ในด้านของเรนโบว์เธอทำอาชีพเป็น ทนายความ เธอมีความจำเป็นเลิศมาตั้งแต่เด็ก เพราะทุกครั้งที่สอบวัดผลประจำภาคเรียน เธอก็ได้เป็นที่ 1 ของสายชั้นอยู่เสมอและคนสุดท้ายคือโซดา ที่ได้ทำอาชีพเป็นนางแบบมืออาชีพ เธอเคยเป็นนางแบบให้กับแบรนด์เสื้อผ้าระดับโลกและได้รับการถ่ายทอดสดออกทีวี นับเป็นความภาคภูมิใจที่สุดในชีวิตของเธอเลยทีเดียว
“นี่ค่ะแก พิซซ่ายั่ว ๆ ไก่เกาหลีกำลังมาส่ง เอาให้เต็มที่ไปเลยนะจ๊ะ”
“ฉันไม่เอานะ อ้วนเว่อร์”
“ก็ดี ฉันจะได้กินเพิ่มเป็นคูณสอง”
เรนโบว์ถูกขนานนามว่าเป็นคนที่ถึงแม้จะกินเยอะมากแค่ไหนน้ำหนักก็ยังคงที่เท่าเดิมไม่ลดหรือเพิ่มขึ้นเลย หลายครั้งที่เธอไปพบแพทย์แต่ก็ถูกวินิจฉัยว่าไม่มีอาการใด ๆ ผิดปกติ เธอจึงนับถือว่านี่คือพรจากพระเจ้า
เปรี้ยง!!!!
“กรี๊ด!! คุณพระ คุณเจ้าหม้อข้าวหม้อแกง”
เสียงฟ้าผ่าดังขึ้นอย่างดัง ทำให้โซดาตกใจจนอุทานไม่เป็นจังหวะ ก่อนที่กอหญ้าจะรีบลุกขึ้นไปหยิบรีโมทมาปิดม่านที่กระจกบานใหญ่ของห้อง
“วันนี้พายุฤดูร้อนเข้า กรมอุตุฯ พึ่งออกข่าวไปเมื่อวานเอง แต่ก็แรงน่าดูนะนี่”
“ฉันปิดม่านแล้ว เสียงคงไม่เข้ามาแล้วล่ะ”
“เมื่อกี้ฉันถ่ายไว้ทันนะยัยโซดา ขอลงสตอรี่นะคะ”
“เรนโบว์ แกนี่มันมือไวจริง ๆ ไหนเช็กหน้าฉันก่อนสวยไหม”
“โอ๊ย ตอนตกใจก็ยังจะให้สวยอยู่อีกหรือ”
กอหญ้าและเพื่อน ๆ ได้มีความสุขกันในค่ำคืนนั้นอย่างเต็มที่ มันไม่เพียงแต่ช่วยให้เธอลืมทุกข์ แต่ยังเติมเต็มความหวังและแรงบันดาลใจให้กับอนาคตที่รอคอยอยู่ข้างหน้า กอหญ้ารู้สึกได้ถึงพลังแห่งความรักและมิตรภาพที่เป็นเกราะกำบังซึ่งคอยสนับสนุนเธอให้ก้าวต่อไปได้อย่างเข้มแข็ง โดยมีเพื่อน ๆ คอยอยู่เคียงข้าง ทำให้เธอมั่นใจว่าทุกการเดินทางในชีวิตจะเต็มไปด้วยความหมายและความสุขที่แท้จริง