ในปี 2136 โลกใกล้พังทลาย อเล็กซ์ คาเดนซ์ นักวิทยาศาสตร์ผู้ศูนย์เสียทุกสิ่งได้ต่อสู้เพื่อหาหนทางรอดของมนุษยชาติ จนได้พบสิ่งสำคัญ ซึ่งนี่อาจจะเป็นความหวังสุดท้าย หรือ จุดเริ่มต้นของฝันร้ายของโลกในบี้
แฟนตาซี,ไซไฟ,ผจญภัย,สะท้อนปัญหาสังคม,สงคราม,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Nexus รอยเชื่อมจักรวาลในปี 2136 โลกใกล้พังทลาย อเล็กซ์ คาเดนซ์ นักวิทยาศาสตร์ผู้ศูนย์เสียทุกสิ่งได้ต่อสู้เพื่อหาหนทางรอดของมนุษยชาติ จนได้พบสิ่งสำคัญ ซึ่งนี่อาจจะเป็นความหวังสุดท้าย หรือ จุดเริ่มต้นของฝันร้ายของโลกในบี้
เสียงเครื่องมือวิทยาศาสตร์ดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอในห้องแล็บขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ทันสมัย โต๊ะทำงานทุกตัวแน่นขนัดด้วยเอกสารและชิ้นส่วนโปรโตไทป์ที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แสงไฟนีออนขาวนวลสาดส่องทั่วห้อง แต่บรรยากาศกลับไม่ได้สดใสอย่างแสงที่ตกกระทบ
อเล็กซ์ คาเดนซ์ ก้มตัวตรวจสอบเครื่องต้นแบบพลังงานแสงแดดที่ตั้งอยู่บนโต๊ะอย่างเคร่งเครียด เขาจับสมุดบันทึกในมือแน่น ขีดเขียนอะไรบางอย่างขณะเปรียบเทียบค่าตัวเลขบนจอแสดงผล
“นายคิดว่ามันจะผ่านการทดสอบรอบนี้มั้ย?” เสียงของ แซม ฮาร์เปอร์ เพื่อนร่วมงานและผู้ช่วยมือขวาเอ่ยขึ้นข้างๆ เขา แซมยืนพิงโต๊ะด้วยท่าทางผ่อนคลาย มือข้างหนึ่งถือแก้วกาแฟเย็นที่ใกล้หมด
“ฉันก็หวังว่าอย่างนั้น” อเล็กซ์ตอบโดยไม่ละสายตาจากเครื่อง “แต่ถึงมันจะผ่าน พวกเราก็ยังต้องเจอคำถามเดิมๆ จากสภาอีก”
“ก็จริง” แซมหัวเราะเบาๆ “แต่ยังไงก็ต้องพยายามต่อใช่มั้ยล่ะ?”
ขณะที่ทั้งสองสนทนากัน เสียงรองเท้าส้นเตี้ยดังขึ้นจากอีกมุมของห้อง ทุกสายตาในแล็บหันไปมองทางเข้า
“หวังว่าฉันจะไม่ได้ขัดจังหวะพวกคุณนะ” เสียงของ มิรา เอเวอเร็ตต์ ดังขึ้นพร้อมรอยยิ้มประจำตัว เธอเดินเข้ามาพร้อมถือแฟ้มเอกสารในมือ ผมสีดำประกายเข้ากับใบหน้าลูกครึ่งเอเชียยุโรปที่ดูโดดเด่น
“ไม่เลย มิรา ยินดีต้อนรับ” แซมกล่าวพลางยิ้มกว้าง
มิราเป็นตัวแทนจากสภาโลกที่ทำหน้าที่ประสานงานและสนับสนุนข้อมูลให้ทีมวิจัยของอเล็กซ์ เธอไม่ได้เป็นนักวิทยาศาสตร์ แต่มีความเข้าใจในโครงการนี้อย่างลึกซึ้งเพราะคอยติดตามความคืบหน้าและช่วยแก้ปัญหาทางการเมืองให้ทีมอยู่เสมอ
“ฉันแวะเอาข้อมูลล่าสุดมาฝาก” เธอพูดพลางวางแฟ้มลงบนโต๊ะใกล้ๆ “สภาอนุมัติทรัพยากรเพิ่มเติมสำหรับการทดสอบรอบหน้าแล้วนะ ถือว่าเป็นข่าวดี”
“ดีจริงๆ” อเล็กซ์เงยหน้าขึ้นพร้อมพยักหน้าเบาๆ “ขอบคุณที่ช่วยจัดการให้ พวกเราอาจไม่ผ่านขั้นตอนนี้ได้ถ้าไม่มีเธอ”
“งานของฉันคือช่วยให้พวกคุณทำสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับโลกใบนี้ไงล่ะ” มิรายิ้ม ก่อนจะมองไปรอบห้อง “ดูเหมือนพวกคุณทำงานกันหนักมากเลยนะ”
“หนักเป็นปกติ” แซมตอบ “ท่านหัวหน้าทีมเราเป็นพวกหมกมุ่นงาน แทบไม่ปล่อยให้ใครพัก”
“ถ้าคุณยังพูดแบบนี้อีก ฉันจะให้คุณทำโอทีเพิ่ม” อเล็กซ์ตอบกลับเสียงเรียบ แต่ทำเอาแซมหัวเราะลั่นห้อง
หลังจากปิดแล็บ อเล็กซ์เดินกลับมายังบ้านพักเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในย่านเงียบสงบของเมือง โซลีน คาเดนซ์ วิ่งเข้ามาหาเขาทันทีที่ประตูเปิด
“พ่อกลับมาแล้ว!”
เสียงใสๆ ของเธอทำให้อเล็กซ์รู้สึกผ่อนคลายเหมือนทุกครั้ง เขาก้มตัวลงรับอ้อมกอดอุ่นๆ ของลูกสาว
“วันนี้ลูกทำอะไรบ้างล่ะ?”
“หนูวาดรูปใหม่เสร็จแล้ว!” โซลีนพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นก่อนจะวิ่งไปหยิบสมุดวาดรูปมายื่นให้พ่อ
อเล็กซ์เปิดดูรูปภาพ โลกในจินตนาการของโซลีนเต็มไปด้วยสีสันสดใส ต้นไม้ ดอกไม้ และท้องฟ้าสดชื่นที่เต็มไปด้วยนก “สวยมากเลย โซลีน”
“พ่อบอกหนูหน่อยได้มั้ยว่าโลกก่อนหน้านี้มันสวยขนาดไหน?”
อเล็กซ์นิ่งไปครู่หนึ่ง เขาจำได้ถึงทิวทัศน์ที่เคยมีอยู่จริงในอดีต แต่อย่างเดียวที่ลูกสาวรู้จักคือคำบอกเล่าของเขาเท่านั้น
“มันสวยงามมาก มีแสงแดดอบอุ่น ลมที่พัดเย็นสบาย และดอกไม้ที่ผลิบานทั่วทุกมุมโลก”
“หนูหวังว่าวันหนึ่งเราจะได้เห็นแบบนั้นอีก” โซลีนพูดพร้อมรอยยิ้มเล็กๆ
“เราจะได้เห็นแน่ พ่อสัญญา”
หลังมื้อค่ำที่เรียบง่าย อเล็กซ์พาโซลีนเข้านอน เขานั่งอยู่ข้างเตียง ฟังลูกสาวเล่าเรื่องดอกไม้ที่เธอจินตนาการ
“พ่อ หนูอยากให้ดอกไม้พวกนั้นเปลี่ยนสีเหมือนสายรุ้งได้”
“มันเป็นไปได้แน่นอน” อเล็กซ์ตอบ “ในโลกที่ดีกว่านี้”
โซลีนหลับไปในไม่ช้า อเล็กซ์นั่งมองเธออยู่นานก่อนจะลุกขึ้นและกลับไปที่ห้องทำงาน
อเล็กซ์เปิดไฟห้องทำงานเล็กๆ บนโต๊ะเต็มไปด้วยสมการและข้อมูลที่ยังไม่สมบูรณ์ เสียงเคาะประตูทำให้เขาหยุดคิด
“ยังไม่นอนเหรอ?” มิรายืนอยู่หน้าประตูพร้อมถุงขนมในมือ
“ยัง” อเล็กซ์ตอบพลางเชิญเธอเข้ามา
“ฉันแวะเอาขนมมาให้โซลีน แต่ดูเหมือนเธอจะหลับแล้ว” มิราวางถุงขนมไว้บนโต๊ะ ก่อนจะนั่งลงตรงข้าม “นายเองก็ควรพักบ้างนะ”
“ฉันยังมีงานต้องทำ”
“แต่นายต้องดูแลตัวเองด้วย โลกจะไม่รอดถ้านายล้มลงไปก่อน”
คำพูดของมิราทำให้อเล็กซ์เงียบไปชั่วครู่ เขารู้ว่ามันคือความจริง แต่ความกดดันที่ต้องแบกรับก็หนักหนาเกินจะหลีกเลี่ยง
“ขอบคุณนะ มิรา” เขาพูดเบาๆ
เธอยิ้มให้ “ฉันเชื่อว่านายทำได้ อย่าลืมว่าพวกเราไม่ได้ต่อสู้คนเดียว”
มิรากลับไปแล้ว แต่คำพูดของเธอยังคงก้องอยู่ในหัวอเล็กซ์ เขามองดูสมุดบันทึกตรงหน้า ก่อนจะพึมพำกับตัวเอง “ใช่… เราไม่ได้ต่อสู้คนเดียว”
เขาเอนตัวพิงเก้าอี้ หลับตาลงด้วยความเหนื่อยล้าในขณะที่แสงไฟยังคงส่องริบหรี่ในบ้านกลางความมืดมนนี้…