ไม่มีอะไรซวยไปมากกว่าการตื่นมาอยู่ในร่างของคนอื่นและต้องเอาตัวรอดจากความตายที่จะมาเยือน | แพท นักศึกษาจบใหม่ตกงาน เธอสมัครทุกงานที่ตรงเงื่อนไขโดยที่เธอไม่ได้อ่านรายละเอียดของงานก่อนจะกดส่งใบสมัคร

BORN OR DIE เกิดหรือตายก็เท่ากัน | GUNEO #อ่านฟรี - บทที่สาม กรรมที่ต่างของผู้มั่งมีกับคนวาสนาน้อย โดย GUNEO @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ลึกลับ,ระทึกขวัญ,สืบสวนสอบสวน,อาชญากรรม,เลือดสาด,เอาชีวิตรอด,สืบสวนสอบสวน,สยองขวัญ,ผี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

BORN OR DIE เกิดหรือตายก็เท่ากัน | GUNEO #อ่านฟรี

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ลึกลับ,ระทึกขวัญ,สืบสวนสอบสวน,อาชญากรรม,เลือดสาด

แท็คที่เกี่ยวข้อง

เอาชีวิตรอด,สืบสวนสอบสวน,สยองขวัญ,ผี

รายละเอียด

BORN OR DIE เกิดหรือตายก็เท่ากัน | GUNEO #อ่านฟรี โดย GUNEO @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ไม่มีอะไรซวยไปมากกว่าการตื่นมาอยู่ในร่างของคนอื่นและต้องเอาตัวรอดจากความตายที่จะมาเยือน | แพท นักศึกษาจบใหม่ตกงาน เธอสมัครทุกงานที่ตรงเงื่อนไขโดยที่เธอไม่ได้อ่านรายละเอียดของงานก่อนจะกดส่งใบสมัคร

ผู้แต่ง

GUNEO

เรื่องย่อ



ไม่มีอะไรซวยไปกว่าการตื่นมาอยู่ในร่างของคนอื่นและต้องเอาตัวรอดจากความตายที่จะมาเยือน

 แพท นักศึกษาจบใหม่ตกงาน เธอสมัครทุกงานที่ตรงเงื่อนไขโดยที่เธอไม่ได้อ่านรายละเอียดของงานก่อนจะกดส่งใบสมัคร แต่อย่างน้อย เธอก็ได้งานแล้วล่ะ 

แต่เงื่อนไขของมันนี่สิที่น่าเป็นกังวล

งานของเธอคือการเอาชีวิตรอดในร่างของลูกค้าที่กำลังจะตายด้วยบางอย่าง และหากเธอทำไม่ได้ เธอเองก็จะตายด้วยเช่นกัน 



"อ่อ งานนี้ ถ้าไม่ผ่านโปรไม่อนุญาตให้ลาออกนะ "



สวัสดีค่ะทุกคน ฝากผลงานนิยายแนวระทึกขวัญเรื่องแรกจากกูนีโอไว้ด้วยนะคะ เป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นมาก ๆ สำหรับการเปิดนิยายและเขียนไปพร้อมกันและนิยายเรื่องนี้จะถูกเขียนและปล่อยให้อ่านจนจบแน่นอนค่ะ

เนื้อหาภายในเรื่องไม่ได้มีส่วนอ้างอิงหรือเกี่ยวข้องกับบุคคลใดหรือเหตุการณ์ใดทั้งสิ้น ทุกเหตุการณ์และทุกการกระทำที่เกิดขึ้นเป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่งแต่เพียงเท่านั้น

มีการบรรยายสลับไปมาระหว่างมุมมองของตัวละครและมุมมองจากภายนอก

อาจมีคำที่พิมพ์ตัวอักษรสลับกันหรือพิมพ์ตกบ้างต้องขออภัยคุณนักอ่านด้วยนะคะ หากคุณนักอ่านกรุณาแจ้งให้กูนีโอทราบเพื่อแก้ไขเนื้อหาที่ตกหล่นกูนีโอขอขอบพระคุณมาก ๆ เลยค่ะ ในตอนที่นิยายจบแล้วกูนีโอจะมารีไรท์เพื่อปรับปรุงการใช้ภาษาให้ไหลลื่นขึ้นและแก้ไขในส่วนที่ผิดพลาดไปอีกครั้ง ขอบพระคุณที่กรุณาอ่านค่ะ

มีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมและมีถ้อยคำรุนแรง

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านและไม่นำไปเป็นเยี่ยงอย่าง


คำเตือน! มีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการฆาตกรรม การค้าประเวณี การทำร้ายร่างกาย ความรุนแรงในครอบครัว 

(ไม่ได้มีในทุกตอน) 



#bornordieเกิดหรือตายก็เท่ากัน

อ่านฟรีจนจบเรื่อง

สารบัญ

BORN OR DIE เกิดหรือตายก็เท่ากัน | GUNEO #อ่านฟรี-บทนำ บทที่หนึ่ง,BORN OR DIE เกิดหรือตายก็เท่ากัน | GUNEO #อ่านฟรี-บทนำ บทที่สอง,BORN OR DIE เกิดหรือตายก็เท่ากัน | GUNEO #อ่านฟรี-บทที่หนึ่ง ห้ามตาย,BORN OR DIE เกิดหรือตายก็เท่ากัน | GUNEO #อ่านฟรี-บทที่สอง ความสับสนเข้าปกคลุมทุกอณูรอบกาย,BORN OR DIE เกิดหรือตายก็เท่ากัน | GUNEO #อ่านฟรี-บทที่สาม กรรมที่ต่างของผู้มั่งมีกับคนวาสนาน้อย,BORN OR DIE เกิดหรือตายก็เท่ากัน | GUNEO #อ่านฟรี-แจ้ง งดลงนิยายวันที่ 23 - 25 พฤศจิกายน,BORN OR DIE เกิดหรือตายก็เท่ากัน | GUNEO #อ่านฟรี-บทที่สี่ บุญหรือบาปที่ได้กระทำไป

เนื้อหา

บทที่สาม กรรมที่ต่างของผู้มั่งมีกับคนวาสนาน้อย

ในบรรยากาศที่ดวงไฟกระพริบจนริบหรี่เต็มทีเสียงลมหวิวพัดเข้าแทรกซ้อนเพิ่มความรู้สึกอันน่าขนลุกให้หญิงสาวผู้นั่งอยู่ขอบเตียง ในที่สุดสายที่ถือรอมานานก็รับสักที หญิงสาวไม่รีรอให้คนทางนั้นเอ่ยสิ่งใดก่อน เธอรีบพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงโวยวายที่ช่างดูไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย


"ที่เกิดขึ้นกับแพทในวันนี้มันคืออะไรคะ?"


"อ่อ ฉันคงยังไม่ได้แจ้งให้คุณทราบโดยละเอียดเกี่ยวกับการทำงานใช่ไหมคะ" เสียงตอบรับจากอีกฝ่ายดังขึ้น และยังคงมีเสียงซ่า ๆเคล้าคลอไปกับเสียงพูดดั่งเช่นครั้งแรก


"ไม่ต้องอธิบายอะไรเพิ่มเติมทั้งนั้นแหละค่ะ แพทขอลาออกนะคะ ส่วนเงินที่โอนมารบกวนบอกเลขบัญชีมาทีค่ะ" หญิงสาวอยู่ในอารมณ์ขุ่นมัวและตื่นกลัวเกินกว่าจะรอฟังสิ่งใดจากปลายสาย สิ่งเดียวที่เธอต้องการในตอนนี้มีเพียงการได้ลาออกจากงานนี้ให้ไวที่สุด สำหรับเธอมันไม่อาจเรียกว่างานได้ด้วยซ้ำ มันเรียกว่าการส่งคนไปทรมานแทนต่างหาก


"อ่อ นี่ฉันคงลืมบอกคุณไปใช่ไหมคะ .... หากยังไม่ผ่านโปร ทางบริษัทของเราไม่อนุญาตให้ใครลาออกทั้งนั้น แต่หากฝ่าฝืนทางเราก็ยังไม่แน่ใจในบทลงโทษ เพราะยังไม่เคยมีใครฝ่าฝืน" ปลายสายพูดเสียงนิ่งเย็นเหมือนคนไร้ความรู้สึก ในใจแพทพลางคิดไปว่าที่ไม่เคยมีใครฝ่าฝืนกฏบ้า ๆนี้ เป็นเพราะพวกเขานั้นพอใจกับสิ่งที่ทำหรือถูกพรากลมหายใจไปก่อนกันแน่


"แล้วแพทต้องทำยังไงล่ะคะ?" หญิงสาวพูดกระแทกเสียงใส่ปลายสาย เวลานี้เธอไม่มีกระจิตกระใจมาคิดถึงเรื่องมารยาทขั้นพื้นฐานเสียด้วยซ้ำ งานนี้กำลังจะส่งให้เธอไปตาย


"คุณต้องทำงานให้ลูกค้าอีกห้าท่าน จึงจะสามารถเป็นอิสระจากงานนี้ได้ค่ะ" หลังจากสิ้นประโยคสุดท้ายทั้งฉันและเธอก็ต่างเงียบสายจึงถูกตัดไปในที่สุด


แพทรู้สึกขอบคุณตนเองที่ยังคงประคองสติโดยไม่กลายเป็นบ้าไปก่อนได้ การที่เธอไม่โวยวายไปมากกว่านี้ หรือแสดงออกสิ่งใดไปมากกว่านี้ไม่ได้แปลว่าเธอไม่เกรงกลัวต่อสิ่งที่เจอ เพียงแต่หากทำอะไรบุ่มบ่าม เธอเองก็ไม่แน่ใจว่าชีวิตของเธอยังจะเป็นของเธอเองอยู่ไหม


การที่เธอต้องมาเจอกับเรื่องราวที่ไม่ปกติเช่นนี้ หากทำหรือพูดอะไรผิดไปคงจะเป็นอันตรายต่อตัวของเธอแน่ ๆ เมื่อก่อนเธอมีบ้านที่เคยเป็นสถานที่ปลอดภัยแต่วันนี้มันไม่เหมือนเดิมแล้ว ในตอนที่เธอคิดว่าอยู่คนเดียวนั้นอาจจะมีใครสักคนหรืออะไรบางอย่างกำลังจับตามองอยู่ก็ได้ 


หญิงสาวยังคงต้องการที่จะมีขีวิตต่อไป ไม่ว่าจะเจอกับอะไรเธอก็จะไม่ยอมทิ้งลมหายใจไว้กับมันแน่ ๆ


ดวงไฟที่เคยกระพริบจนริบหรี่ก็กลับมาสว่างดังเดิม แพทลุกขึ้นจากเตียงนอนและเดินไปที่เก้าอี้หน้าคอมพิวเตอร์ เธอหย่อนตัวลงเบา ๆบนเก้าอี้ตัวเดิมที่คุ้นเคย พลางเอื้อมแขนไปกดตุ่มเปิดการทำงานของคอมพิวเตอร์ หน้าจอสะท้อนใบหน้าแสดงให้เห็นถึงความเครียดที่ซ่อนเอาไว้เท่าไหร่ก็ไม่มิตร เสียงการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ดังขึ้นคลอเคลียไปกับเสียงรถยนต์ที่ขับผ่านไปมาตามถนน


แพทเข้าไปในเว็บไซต์สำหรับการค้นหาสิ่งต่าง ๆและพิมพ์ชื่อของชายคนนั้นที่ยังคงติดอยู่ในห้วงความคิดของเธอเข้าไปที่ช่องค้นหา ธีรุตม์ จิรทีปต์


เสียงเลื่อนลูกกลิ้งเมาส์ยังคงดังคลอเคลียไปกับบรรยากาศยามค่ำคืนอย่างเสมอต้นเสมอปลาย 


สายตาของเธอสะดุดกับบทความหนึ่งที่เลื่อนผ่านไปเมื่อครู่ นิ้วเรียวยาวกดคลิกเข้าไปที่บทความ


'The green land Residence โครงการบ้านจัดสรรค์ สวรรค์แห่งใหม่ของกรุงเทพ


เนรมิตย่านชุมชนแออัดให้กลายเป็นวิมานแห่งความสุข ภายในโครงการประกอบไปด้วยสนามกีฬาส่วนกลาง ห้างขนาดย่อม สวนสาธารณะร่มไม้ใหญ่ร่มรื่นและมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน


โครงการจัดตั้งอยู่ที่เขตห้วยขวาง แยกมะลิวัลย์


เปิดให้จองแล้ววันนี้ 23 กรกฎาคม 2567 พร้อมเข้าอยู่ 2568


รายชื่อผู้ร่วมก่อตั้งโครงการ


นายวรากร ภิรมย์ฤกษ์ นายศรัณยู วินัยวงค์ 


นางมาลัย คงเศวต นายธีรุตม์ จิรทีปต์ 


นายธัณวา ลือวานิช นางพนิดา สีไพร'


เมื่อหญิงสาวร่ายอ่านบทความดวงตาก็สะดุดเข้ากับบางบรรทัดที่ได้เห็น มีความสงสัยมากมายผุดขึ้นมาในหัวดั่งดอกเห็ด เธอไม่สามารถที่จะหยุดยั้งความคิดในหัวได้ นิ้วเรียวยาวประสานสัมผัสกับคีย์บอร์ดและพิมพ์ค้นหาต่อไปอีก


ความอยากรู้อยากเห็นเข้าครอบงำจนความเจ็บปวดที่ท้ายทอยและนิ้วมือถูกลืมเลือนไปจากเจ้าตัว 


เมื่อค้นหาเกี่ยวกับชุมชนแออัดที่กำลังจะถูกสร้างเป็นโครงการบ้านจัดสรรค์แห่งใหม่แพทก็เจอข่าวนึงอยู่ลึกของลำดับบทความที่ถูกจัดเรียงไว้บนหน้าเว็บไซต์


' เกิดเหตุสลด เด็กชายอายุ 6 ขวบถูกรถเคนทับดับคาที่ 


เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2567 เกิดเหตุรถเคนทับเด็กชายวัย 6 ขวบ ณ เวลา 16:21 น. สถานที่เกิดเหตุ เขตห้วยขวาง ณ ชุมชนมะลิวัลย์ 


จากคำให้การของชาวบ้านในพื้นที่กล่าวว่าในขณะที่รถเคนกำลังเคลียร์พื้นที่สำหรับการสร้างหมู่บ้านจัดสรรค์แห่งใหม่อยู่นั้นก็มีเด็กน้อยผู้เสียชีวิตวิ่งเข้าไปเล่นที่จุดอับสายตาของรถเคน เมื่อขยับล้อรถเคนจึงทับจนเสียชีวิตคาที่ทันที


ผู้เสียชีวิตมีนามสมมติว่า น้องกันต์ เพศชายอายุ 6ขวบ เป็นบุตรของคนในพื้นที่ ทราบชื่อมารดาว่านางกันตา ด้านมารดามีความฌศร้สโศกเสียใจเป็นอย่างมาก 


อ่านข่าวสารอื่น ๆต่อที่.... '


สายตาของแพทจดจ่อกับหน้าจอจนรู้สึกปวดที่บริเวณดวงตา เธอเอนหลังไปกับพนักพิงเต็มแรงและยกแขนขึ้นมาก่ายหน้าผากพลางถอนหายใจเบา ๆ


เธอมีความรู้สึกกังวลและสงสัยมากมายอยู่ในหัว ทุกสิ่งในความคิดของเธอนั้นมันกำลังตีกันอย่างอลหม่าน เรื่องราวมากมายถูกทับถมจนไม่รู้จะหยิบสิ่งไหนขึ้นมาแก้ก่อนเป็นอันดับแรก


แต่อย่างไรก็ตามในวันนี้แพทหญิงสาวก็รู้สึกว่าตนเองควรจะพักผ่อนและวางทุกเรื่องเอาไว้เสียก่อน 


ดวงตากลมค่อย ๆหลับตาลง ไม่มีแม้แต่แรงจูงใจที่จะพยายามพาตนเองไปถึงเตียงนอนได้ ทุกอย่างรอบตัวค่อย ๆเลือนลาง เธอเดินทางเข้าสู่ห้วงนิทราในที่สุด














แสงแดดอ่อนยามเช้าเล็ดลอดผ่านม่านผืนเดิมเข้ามากระทบกับใบหน้าของหญิงสาวที่กำลังหลับไหลอยู่บนเก้าอี้ตัวเก่า เสียงลมหายใจสม่ำเสมอแสดงออกว่าเธอกำลังถูกปลุกให้ตื่น 


ดวงตากลมเปิดขึ้นกระทบกับแสงแดดจ้าจนต้องหรี่ตาเอาไว้ เธอพลางยกแขนขึ้นมากำบังไม่ให้แสงแดดสาดเข้ามายังดวงตาจนมากเกินไป เธอถอนหายใจเบา ๆเพื่อเป็นการทักทายเช้าวันใหม่


แม้จะยังไม่พร้อมที่จะเจอกับวันใหม่แต่อย่างน้อยในวันนี้เธอก็มีสิ่งที่อยากจะทำ หญิงสาวลุกขึ้นเหยียดยืดร่างกายก่อนจะไปเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการออกไปข้างนอก


แพทออกมาจากห้องน้ำด้วยท่าทางสดชื่น น้ำเย็นจากฝักบัวนั้นช่วยเธอไว้ได้มากจริง ๆ เธอสวมกางเกงยีนส์พอดีตัวกับเสื้อยืดสีขาวพร้อมด้วยเสื้อคลุมตัวยาวสีน้ำตาลที่เธอกำลังรีดไปพลางถอดสีหน้าไป เสื้อผ้าของเธออาจจะดูเก่าไปบ้างแต่ก็ยังคงความสะอาด


กระเป๋าหนังสะพายข้างใบสีน้ำตาลถูกดึงกระชับให้เข้ากับไหล่ รองเท้าคัทชูสีดำถูกหยิบขึ้นมาเคาะฝุ่นจากชั้นวางที่หน้าประตูบ้าน เจ้าของร่างสูงเพรียวนั่งลงกับพื้นเพื่อสวมใส่รองเท้าทีละข้าง หญิงชราที่กำลังยืนรดน้ำต้นไม้ที่อยู่ข้างบ้านสังเกตเห็นเธอจึงเอ่ยทักถาม


"จะไปไหนล่ะหนู" 


"ไปทำธุระค่ะอาม่า แพทฝากบ้านด้วยนะคะ"


เจ้าของเสียงพูดพลางยิ้มหวานอย่างเป็นกันเองให้อีกฝ่าย หญิงชราพยักหน้าเบา ๆเป็นการตอบรับ เนื่องจากบ้านทั้งสองหลังอยู่ข้างกันมานานจึงมีความสนิทสนมกันอยู่บ้าง การมีเพื่อนบ้านที่ดีก็ถือเป็นลาภอันประเสริฐที่หาไม่ได้ง่าย




สาวหน้าอ่อนมารอขึ้นรถสายที่จะพาเธอไปยังที่หมายในวันนี้ตรงป้ายรถเมล์ที่คุ้นเคย บรรยากาศรอบกายก็เป็นเช่นเดิมอย่างที่เคยเป็นมา แสงแดดแรงที่คอยแผดเผาผิวกาย เสียงนกร้องบรรเลง ผู้คนที่นั่งเล่นมือถือเพื่อฆ่าเวลา


เมื่อรถหมายเลขที่รอมาถึงเธอก็ไม่อิดออดที่จะรีบเดินขึ้นไปทางด้านบนและเดินหาที่นั่ง เมื่อเอนก่ยลงยังเบาะแล้วกระเป๋ารถเมล์ก็เดินมาเก็บตังและฉีกตั๋วยื่นให้หญิงสาว


อากาศวันนี้ร้อนอบอ้าวดั่งเช่นทุกวันที่ผ่านมา เธอพลางใช้ฝามือพัดเบา ๆหวังจะให้มีลมมาปัดเป่าเม็ดเหงื่อที่หลั่งไหลออกมา 


ณ ขณะนี้หญิงสาวที่ใกล้จะถึงยังที่หมายแล้ว เธอเลือกที่จะใช้บริการรถวินมอเตอร์ไซค์เพื่อพาเธอไปส่งยังที่หมาย อากาศร้อน ๆทำให้เธอคิดในใจว่าการที่เธอเลือกจะออกมาข้างนอกในวันนี้อาจจะเป็นความคิดที่ผิด  วินมอเตอร์ไซค์ยื่นหมวกกันน็อกให้และเมื่อขึ้นมานั่งบนเบาะแล้วเขาขับรถพาเธอเข้าตรอกซอกซอยที่เธอไม่รู้จัก


แต่นั่นไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เธอไม่ค่อยที่จะได้มาแถวนี้บ่อยนัก หรือเรียกอีกอย่างได้ว่าเธอไม่ค่อยที่จะได้ออกไปไหนนัก ด้วยเงินที่มีจำกัดของเธอแต่เดิมแล้วนั้นไม่ใช่ความคิดที่ดีนักอาจจะออกไปเที่ยวหรือไปไหนบ่อย ๆ ค่าใช้จ่ายส่วนมากของเธอจึงเป็นค่าใช้จ่ายที่มาจากการออกไปหางานหรือค่าอาหาร 


ชีวิตความเป็นอยู่ของเธอนั้นก็ไม่ได้เรียกว่าดีนัก อาหารที่กินอยู่ทุกวันก็มีเพียงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกับน้ำเปล่า หน้าตาที่เหนื่อยล้าและใต้ตาลึกของเธออาจจะมาจากการขาดสารอาหารก็เป็นได้ แต่ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะเธอพยายามควบคุมค่าใช้จ่ายของตนเอง เงินที่ใช้จ่ายอยู่ทุกวันนี้ก็เป็นเงินที่พ่อและแม่เคยให้ไว้และเธอก็เก็บสะสมมา ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะหมดเมื่อไหร่


เธอไม่ได้ลืมเงินหนึ่งแสนที่ได้มาจากบริษัทที่ทำงานอยู่ตอนนี้ แต่ถ้าจะให้ใช้เงินที่ไม่รู้ว่ามีราคาที่จะต้องจ่ายไปมากกว่าการไปเสี่ยงตายแทนคนอื่นหรือไม่เธอก็ไม่กล้า


ทุกความคิดที่กำลังคลุ้งอยู่ในหัวถูกปัดกระเจิงเมื่อเสียงของพี่วินดังขึ้น ฉันก้าวลงจากรถมอเตอร์ไซค์ช้า ๆและควักกระเป๋าเงินขึ้นมา 


" 35 ครับ " ฉันมองหน้าของเขาสลับกันไปมากับกระเป๋าเงินช้า ๆ ภายในกระเป๋าสตางค์ของฉันปรากฎให้เห็นแบงค์สีเขียวสองใบกับเหรียญสิบอีกหนึ่งเหรียญและเหรียญบาทอีกสามเหรียญ ฉันพลางคิดในใจว่าหากฉันขอแตกเหรียญสิบเป็นเหรียญห้ากับเขา และยื่นเหรียญบาทสามเหรียญ กับเหรียญห้าหนึ่งเหรียญ เขาจะคิดว่าฉันเป็นคนบ้าและยอมปล่อยฉันไปหรือพาฉันไปโรงพัก


"เร็ว ๆดิ๊น้อง พี่รีบ" จินตนาการประหลาดของฉันกระเจิงหาย ฉันถอดหมวกกันน็อกคืนและรีบควักเงินและยื่นให้กับเขาเมื่อเรียบร้อยแล้วฉันจึงรีบเดินไปตามทาง สังเกตเห็นร้านขายของชำจึงเดินเข้าไปหาซื้ออะไรรองท้อง ตั้งแต่เช้ายังไม่มีอะไรตกถึงท้องฉันสักนิด


ร้านขายของชำขนาดเล็กที่อยู่ติดกับฟุตบาท ฉันมีความฝันว่าอยากจะเปิดร้านชำเล็ก ๆแบบนี้ไว้ที่บ้านของฉัน ข้าวของที่ขายในร้านก็เป็นของทั่วไปและไม่ได้มีเยอะนัก มีแต่ของใช้และของกินที่ชาวบ้านอย่างเรา ๆต้องใช้เป็นปกติ ภายในร้านมีลูกค้าคนอื่นที่ดูเป็นสาวใหญ่รุ่นราวคราวเดียวกับเจ้าของร้านกำลังยืนคิดเงินอยู่


ฉันคว้าแซนด์วิชถุงละห้าบาทและเดินไปวางไว้ที่โต๊ะเบื้องหน้าเจ้าของร้านจึงบังเอิญได้ยินบทสนทนาที่พวกเธอกำลังคุยกัน


"สงสารนังตาเนอะ ลูกก็เพิ่งตาย ผัวก็ดันมาตายตาม"


"ไอ้ศักดิ์มันก็คงแค้นที่บ้านนั้นมาทำให้ลูกมันตาย"


"อย่างว่า ที่ตรงนั้นเด็กมันไปเล่นกันบ่อย ๆ เห็นว่าไอ้จันทร์ที่ทำงานก่อสร้างก็เตือนแล้วว่าให้เข้าไปดูก่อน เผื่อมันมีเด็กเล่นกันอยู่"


"กรรมใครก็กรรมมันแหละเนาะ คนจนอย่างเราจะไปสู้อะไรเขาได้" 


"โอ๊ย คุยเพลิน เอาอะไรจ๊ะหนู" แพทสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อถูกถาม


"เอ่อ.. เอาแค่นี้ค่ะป้า" สาวใหญ่พยักหน้าตอบและหยิบแซนวิชใส่ถุงยื่นให้แพท 


ใบหน้าของเธอแสดงออกถึงความเครียดจนดูเคร่งขรึม ภายในแววตาสะท้อนความความรู้สึกมากมายที่อยู่ภายใน แพทที่ควักตังกำลังยื่นให้ก็ชักเงินกลับมาก่อนที่จะเอ่ย  "ป้าช่วยเล่าเรื่องของเด็กที่ตายไปให้ฟังหน่อยได้ไหมคะ?"







______________________________

ดำเนินมาถึงบทที่ห้าแล้ว ขอขอบพระคุณนักอ่านทุกท่านที่หยิบนิยายของกูนีโอมาอ่าน หากมีสิ่งใดที่นำที่นำเสนอผิดไปหรือมีความคิดเห็นใดที่อยากบอกกล่าวกับกูนีโอท่านสามารถคอมเมนท์ไว้ได้เสมอเลยนะคะ นี่เป็นนิยายเรื่องแรกที่กูนีโอลองเขียนและเผยแพร่ออกมาให้ทุกท่านได้อ่าน หากมีสิ่งใดที่พลาดไปและสามารถแก้ไขได้กูนีโอก็ยินดีมาก ๆที่จะได้แก้ไขมัน 


ขอบพระคุณมาก ๆเลยค่ะ