วิธีเดียวที่พลิกชีวิตจากนางร้ายตกอับฉาวโฉ่กลับไปเป็นนางร้ายตัวแม่ มีเพียงแค่เป็นคู่นอนของมาเฟียตระกูลคีนเท่านั้นเอง แต่ระวังหน่อยล่ะ เขาว่ากันว่า ไม่มีคู่นอนคนไหนทนความฮาร์ดคอร์ของพวกเขาได้สักเท่าไหร่

[7P]นางร้ายของมาเฟีย - บทที่ 6 คลังสมบัติ(คาร์ลปาริณ) โดย มักกอลลีกลิ่นมิ้นท์ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-หญิง,ไทย,sex group,sextoy,นางร้าย,มาเฟีย,7P,อีโรติก,NSFW,PWP,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

[7P]นางร้ายของมาเฟีย

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-หญิง,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

sex group,sextoy,นางร้าย,มาเฟีย,7P,อีโรติก,NSFW,PWP

รายละเอียด

[7P]นางร้ายของมาเฟีย โดย มักกอลลีกลิ่นมิ้นท์ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

วิธีเดียวที่พลิกชีวิตจากนางร้ายตกอับฉาวโฉ่กลับไปเป็นนางร้ายตัวแม่ มีเพียงแค่เป็นคู่นอนของมาเฟียตระกูลคีนเท่านั้นเอง แต่ระวังหน่อยล่ะ เขาว่ากันว่า ไม่มีคู่นอนคนไหนทนความฮาร์ดคอร์ของพวกเขาได้สักเท่าไหร่

ผู้แต่ง

มักกอลลีกลิ่นมิ้นท์

เรื่องย่อ

สารบัญ

[7P]นางร้ายของมาเฟีย-คำเตือน ,[7P]นางร้ายของมาเฟีย-บทนำ ตกอับ,[7P]นางร้ายของมาเฟีย-บทที่ 1 นัดพบ,[7P]นางร้ายของมาเฟีย-บทที่ 2 คืนวงการ(คิมหันต์ปาริณ),[7P]นางร้ายของมาเฟีย-บทที่ 3 ไฮป์(โจชัวปาริณ),[7P]นางร้ายของมาเฟีย-บทที่ 4 ผีพนัน(เจเดนปาริณ),[7P]นางร้ายของมาเฟีย-บทที่ 5 เข้าถ้ำเสือ(แอนดริวปาริณ),[7P]นางร้ายของมาเฟีย-บทที่ 6 คลังสมบัติ(คาร์ลปาริณ),[7P]นางร้ายของมาเฟีย-บทที่ 7 ปาร์ตี้ชุดวันเกิด(ฟีลิกซ์ปาริณ),[7P]นางร้ายของมาเฟีย-บทที่ 8 ข่าวลือแปลกๆ(คิมหันต์เจเดนปาริณ),[7P]นางร้ายของมาเฟีย-บทที่ 9 คลับvip(ฟีลิกซ์คาร์ลปาริณ),[7P]นางร้ายของมาเฟีย-บทที่ 10 สมรภูมิ(แอนดริวโจชัวปาริณ)

เนื้อหา

บทที่ 6 คลังสมบัติ(คาร์ลปาริณ)

จดหมายสีขาวแต่งแต้มด้วยตัวอักษรขลิบทองถูกส่งมาอย่างไม่น่าเชื่อสักเท่าไหร่ จริงอยู่ว่าปาริณเองก็อยู่ในวงสังคมชั้นสูง และเคยไปงานเช่นนี้มานับครั้งไม่ถ้วน หากแต่สองสามปีที่ผ่านมา ตั้งแต่มีเรื่องกับนางเอกดาวรุ่งอย่างวีวี่ หล่อนก็แทบจะถูกถีบให้กระเด็นออกมาจากงานที่ว่าโดยสิ้นเชิง 


"ฉันต้องไปงานนี้ แต่ถ้าไปคนเดียวคงแปลกๆพิลึก"หญิงสาวบ่นอุบอิบกับพี่สาวที่กำลังเฟ้นหาชุดและเครื่องประดับสำหรับงานสำคัญนี่อยู่ 


"แต่ถ้าแกชวนคนอื่น คีนคงได้เอาแกกับเขาตายทั้งคู่"ปาลอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถึงผลของการกระทำสิ้นคิดของน้องสาวที่บัดนี้กลายเป็นห่วงรัดคอจนแทบจะหายใจไม่ออกอยู่รอมร่อ  ทั้งหมดเพียงเพราะเป็นห่วงทั้งนั้น เพราะไม่อยากให้น้องต้องเจอคนเอาเปรียบ แต่ยัยตัวดีดันเลือกวิธีนี้ในขณะที่หล่อนเองก็พยายามหาทางช่วยอยู่แท้ๆ น่าน้อยใจเสียจริง 


"เลิกแขวะเรื่องนี้สักทีเถอะ ก็ตอนนั้นฉันคิดอะไรไม่ออกนี่นา"ใบหน้าสวยบูดบึ้งเบะปากพองลม นั่นทำให้คนเป็นพี่ถอนหายใจออกมา แบบนั้นจะดุลงได้อย่างไรกันล่ะ 


"ดูสภาพแกตอนกลับมาวันนั้นสิ ฉันแทบจะหัวใจวายตาย"หล่อนหลุบตามองหน้าจอแท็ปเล็ตเพื่อซุกซ่อนม่านน้ำตาให้พ้นจากน้องสาว เพราะภาพที่เห็นในวันนั้น ทำให้รู้สึกผิดที่ปกป้องดูแลน้องไม่ดีพอ ทั้งๆที่สัญญากับแม่ๆทั้งสองเอาไว้แท้ๆ 


"จริงๆมันก็ไม่ได้แย่สักหน่อยนี่นา"ปาริณโผกอดพี่สาวแน่น หล่อนรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นห่วง เข้าใจดีว่ามีกันแค่เพียงสองคนพี่น้อง และหล่อนไม่เคยกดปาลแม้จะคนละแม่กัน นั่นทำให้ปาลรักหล่อนราวกับเป็นพี่น้องคลานตามกันมา ปาลถึงได้จู้จี้ทำหน้าที่แทนแม่ๆแบบนั้นมาตลอด 


"ให้มันจริงเถอะ"ปาลบ่นอุบอิบ แต่กระนั้น ก็ไม่ได้จะเอ่ยอะไรแย้งขึ้นมาอีก ในเมื่อน้องสาวไม่ได้รู้สึกทุกข์ร้อนอะไรขนาดนั้น หล่อนจะไปทำอะไรได้ล่ะ? 


เสียงกริ่งหน้าบ้านดังขึ้นมา ทำให้ปาลต้องเดินออกไปดูว่ามีใครมา หากแต่เพียงครู่เดียว หล่อนก็ต้องเดินกลับเข้ามาพร้อมกับร่างสูงของใครสักคนที่เดินตามมา 


"เห็นว่าจะไปงานวันเกิดของคุณหญิงอมรา ฉันเองก็ว่างเหมือนกัน เธอจะไปด้วยกันไหม?"ฟังดูก็รู้ว่านั่นไม่ใช่ประโยคเชื้อเชิญ หากแต่กำลังออกคำสั่งต่างหาก 


"ออกคำสั่งขนาดนี้ ฉันคงฝืนได้มั้ง"ไม่วายจะออกปากจิกกัด แม้จะแอบกลัวเขาอยู่ไม่น้อยก็ตาม ก็หล่อนมันปากดีจนสร้างเรื่องให้ตัวเองมานับครั้งไม่ถ้วนอยู่แล้วนี่นา 


"ขอยืมตัวน้องสาวก่อนนะ คุณปารวี"รอยยิ้มยะเยือกนั่นทำเอาปาลไม่กล้ารั้งน้องสาวเอาไว้ แววตาดุดันคู่นั้นแช่แข็งหล่อนเสียจนร่างทั้งร่างแข็งทื่อไม่อาจขยับเขยื้อนร่างกายส่วนใดได้อีก 


"พี่ฉันกลัวไปหมดแล้วมั้ง"คนที่ถูกพาตัวมายังคฤหาสต์หลังงามท่ามกลางหุบเขาติดอุทยานแห่งชาติ  สาวใช้ในยูนิฟอร์มอย่างตะวันตกเดินขวักไขว่ แต่ก็ยังน้อยกว่าบอดิการ์ดในชุดสูทสีดำ ที่นี่ดูหรูหรา สะดวกสบาย แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้รู้สึกน่ากลัวอยู่ไม่น้อย 


ร่างสูงเบื้องหน้าก้าวเดินนำขึ้นบันไดโดยไม่เอ่ยอะไร บนชั้นสองของคฤหาสต์ กลับมีความส่วนตัวที่มากกว่า อย่างน้อยบอดิการ์ดที่ยืนคุมบนชั้นนี้ก็น้อยกว่าพวกที่อยู่ชั้นนอกหรือชั้นล่างแทบจะเกินครึ่ง 


"พอดี เพิ่งมีพวกผู้ดีเก่าฝั่งอังกฤษเอาเครื่องเพชรมาปล่อย ฉันแค่สงสารผีพนันพวกนั้น ก็เลยรับซื้อเอาไว้ เห็นว่าน่าจะเหมาะกับผิวขาวๆของเธอ จะลองใส่ดูไหม? ถ้าชอบ ฉันยกให้"ไม่พูดเปล่า แต่เขารั้งกายบางเข้าไปในห้องนอน อีกฝั่งของผนังดูลึกผิดสัดส่วน เพียงใช้มือสัมผัสหนังสือเล่มหนึ่งบนชั้นใกล้กัน ประตูลับเล็กๆก็ถูกเปิดออก ตามลายนิ้วมือของเจ้าตัวที่บันทึกเอาไว้ และมีเพียงคาร์ลคนเดียวเท่านั้นที่สามารถเข้าไปในห้องนี้ได้  แม้คีนคนอื่นๆจะต้องการทรัพย์สินในส่วนนี้ ยังต้องรอให้เขาเป็นคนพามาหรือเอาออกไปให้เท่านั้น


จากความสงสัยในคราวแรกแปรเปลี่ยนเป็นตกตะลึงในทันที ที่ถูกพาเข้าห้อง พันธบัตรกองเท่าภูเขาตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า ถัดไปอีกหน่อยเป็นทองคำแท่งที่มีจำนวนมหาศาลไม่แพ้กัน ไหนจะหีบอัญมณีและเครื่องเพชรต่างๆในตู้นั่นอีก ที่นี่มันขุมทรัพย์ขนาดย่อมๆชัดๆ  


ปาริณมัวแต่เหม่อมองภาพตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตาตนเอง หล่อนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าถูกจับมือวางทาบบนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เย็นเฉียบอีกฝั่งของประตูห้องลับเพื่อสแกนเก็บลายนิ้วมือเอาไว้สำหรับใช้เปิดมัน 


"ทำไมไม่เก็บไว้ในธนาคารล่ะ? ไม่กลัวหายหรือไง?"ครั้นหายตกตะลึงถึงได้เอ่ยถามออกมา ดวงตาคู่สวยเสมองร่างสูงที่กำลังง่วนอยู่กับการเปิดตู้เครื่องเพชรหยิบเอาชุดทับทิมสีแดงสดออกมา สีของมันตัดกับผิวขาวผุดผ่องของปาริณได้เป็นอย่างดี เขามั่นใจอย่างนั้น 


"พวกนี้ มันได้มาจากเงินกู้นอกระบบ บางส่วน มาจากการค้ายา ค้ามนุษย์ และอาวุธเถื่อน คิดว่ามันควรเอาเข้าธนาคารหรือเปล่าล่ะ?"คาร์ลหลุดหัวเราะเบาๆกับความไร้เดียงสาของหญิงสาว ในความจริงแล้ว ของพวกนี้ถูกพักเอาไว้เพื่อรอฟอกให้มันขาวสะอาดพร้อมใช้ 


สร้อยเพชรเส้นงามถูกวางทาบลงบนลำคอสวย เหลี่ยมคมของเพชรที่รายล้อมและทับทิมกึ่งกลางสะท้อนแสงไฟระยิบระยับเล่นแสงราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า เมื่อสวมเข้าคู่กับต่างหูและกำไลข้อมือ มันก็ยิ่งทำให้ผิวขาวของปาริณน่ามองเข้าไปอีก 


"เข้ากับเธอจริงๆด้วย"ปาริณกรอกตา นอกจากมันจะเข้ากับหล่อนแล้ว การสวมเครื่องเพชรชุดนี้ไปงาน เท่ากับดึงดูดความสนใจและความสอดรู้สอดเห็นของนักข่าวได้เป็นอย่างดี ยิ่งควงแขนไปกับคาร์ล หนึ่งในทายาทของคีน คนพวกนั้นคงเมาท์กันสนุกปาก พวกที่เคยทอดทิ้งหล่อนไปในช่วงมรสุมข่าวฉาวก็คงจะคลานกลับมาประจบสอพลออย่างไม่ยากเย็นสักเท่าไหร่นัก และทั้งหมดนี้ คาร์ลคงจะคิดมาเป็นอย่างดีแล้วแน่ๆ ใครจะคิดว่าคนที่ดูน่ากลัว จะทำอะไรแบบนี้ให้หล่อนกันล่ะ? 


"ฉันไม่อยากได้คำขอบคุณหรอกนะ ทำอย่างอื่นให้ฉันหลังงานเลี้ยงนั่นเถอะ"นั่นปะไร ชมได้นานที่ไหน ในเมื่อท้ายที่สุด เขาก็หวังผลลัพธ์ตามที่ต้องการอยู่ดี ถึงอย่างไรเขาก็คือคีนคนนึงนี่นา 


.


.


ทุกอย่างเป็นดังที่คาดเอาไว้ ทันทีที่ปาริณปรากฏตัวพร้อมกับคาร์ล คีน ทุกสายตาต่างจังจ้องมาอย่างไม่ขาดสาย แสงแฟลชสาดกระหน่ำอย่างสนุกสนาน ไหนจะเสียงซุบซิบนินทาเหล่านั้นอีก พอได้เห็นอะไรแบบนั้น มันอดที่จะเล่นสนุกแสร้งแสดงออกว่าเป็นคู่รักหวานชื่นไม่ได้ เพียงแค่เรียกเสียงฮือฮาให้ดังขึ้นกลบหญิงชู้จอมเสแสร้งกับคนรักแสนเจ้าชู้ที่หมายเป็นดาวเด่นไปเสียสนิท ทำเอาคนทั้งสองหมองลงไปถนัดตา 


"รู้ใช่ไหมว่าเล่นแบบนี้กลับบ้านไปจะเจออะไร?"ร่างสูงโน้มตัวลงพร่ำกระซิบข้างใบหูเล็ก การกระทำของเด็กเจ้าเล่ห์ข้างกาย เขาอ่านได้อย่างไม่ยากเย็นนัก และแน่นอนว่าถ้าซนมากไปก็ต้องรับผลของการกระทำด้วยเช่นกัน 


"คิก....."หล่อนหัวเราะคิกคักแทนคำตอบเท่านั้น เพราะกำลังนึกสนุกจนลืมฉุกคิดไปว่า หลังจากนี้อาจจะทุกข์ขนัดเอาได้  


"เล่นสนุกเข้าไป"ถึงจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมอย่างทุกครั้ง ทว่าริมฝีปากหนากลับยกยิ้มด้วยความเอ็นดู เรียกเสียงกรีดร้องจากบรรดาสื่อได้เป็นอย่างดี เพราะคาร์ล คีน มหาเศรษฐีตระกูลคีนผู้แสนใจบุญไม่ได้ให้ใจกับหญิงสาวคนใดง่ายๆ ปาริณที่พวกเขาต่างเคยละความสนใจ กลับเป็นผู้ที่ได้รับรอยยิ้มและแววตาแสนลึกล้ำนั่นอย่างง่ายดาย 


ภาพทุกอย่างอยู่ในสายตาของคนที่หวังจะเป็นดาวเด่นของงาน ภายใต้ใบหน้าไร้เดียงสา เสียงขบกรามคำรามก้องด้วยความขุ่นเคือง ใครจะคิดล่ะว่า ดาวจรัสแสงที่กำลังจะมอดดับจะหวนคืนกลับมาได้อย่างสมศักดิ์ศรี มันไม่มีทางเป็นไปได้เลยสักนิด ในเมื่อผู้ใหญ่ที่ให้ความอุปถัมภ์ตนเองรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะทำให้นังนั่นหมดอนาคตในวงการ และเอามันออกไปไกลๆพ้นพ้นตา สุดท้ายก็คงเป็นแค่คำตอแหลของพวกเฒ่าหัวงูที่แสร้งใช้ลิ้นสองแฉกพ่นออกมาเพื่อล่อหลอกฉกชิมสิ่งที่ต้องการเท่านั้นสินะ 


"เอาตัวเข้าแลกแน่ๆ"บ่นพึมพำในยามที่ร่างระหงย่างกรายผ่านไป พร้อมกับรอยยิ้มเหยียดหยันดูแคลน 


"ฮ่ะๆ เหมือนที่เธอชอบทำน่ะหรือ?"คนรักข้างกายหัวเราะเย้ยหยันสร้างความเจ็บช้ำน้ำใจไม่หยุดหย่อน แน่ล่ะ ในเมื่อเขาหวังแค่เสพสุขจากอาการซ่านระริกที่หล่อนปรนเปรอหยาบโลนแบบที่ปาริณไม่เคยมอบให้ แค่โลมรัก อย่างที่คุณหนูปาริณผู้สูงส่งไม่เคยทำ มีค่าเพียงแค่นั้นเอง 


สีหน้าหงุดหงิดและอารมณ์ขุ่นเคือง แม้จะถูกสะกดกลั้นเอาไว้เป็นอย่างดี หากแต่ปาริณกลับสังเกตเห็นได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ดวงตาคู่งามจับจ้องดูอาการร้อนรนอย่างใจเย็น จากประสบการณ์ที่ผ่านมา วีวี่เป็นเด็กเอาแต่ใจ ขี้อิจฉา ขี้โกหก จอมเสแสร้ง ดังนั้น หากปะทะตรงๆ ย่อมไม่เกิดผลดี เพราะภาพลักษณ์เด็กดีที่ใครๆต่างก็พึงพอใจนั่น ทำอย่างไร หล่อนก็เป็นฝ่ายเสียเปรียบ สู้วางเฉยยังดีเสียกว่า 


รอยยิ้มเอาใจออดอ้อนถูกจุดขึ้นมาเมื่อเจ้าของงานก้าวเดินลงมา ถึงจะมีของขวัญมากมายหยิบยื่นพินอบพิเทาประจบประแจง เสียงหวีดหวิว ทว่ากลับถูกเมินเฉยจากหญิงชราแทบจะทั้งหมด ร่างผอมแกร็นสะกิดคนสนิทพยุงก้าวเดินไปยังฝั่งที่ปาริณกับคาร์ลยืนอยู่  การมางานวันเกิดของคุณหญิงอมราสำหรับปาริณมันคืองานชี้ชะตาฉุดดึงหล่อนขึ้นจากจุดเดิมที่เคยอยู่ได้แน่ๆ เพราะเท่าที่รู้มา อีกฝ่ายคือน้องสาวแท้ๆของคุณย่าของคาร์ลและพี่น้อง การที่หล่อนควงหลานชายของอีกฝ่ายมางานได้ คงสามารถซื้อใจหญิงชราที่รักหลานยิ่งกว่าสิ่งใด  แน่นอนว่าถ้าคุณหญิงเอ็นดู พวกลิ่วล้อที่พลอยจะเอาอกเอาใจก็ต้องหันมาญาติดีกับหล่อนแน่ๆ 


"มีสาวทำไมไม่บอกย่ากันสักคำ หึ!"มือเล็กๆทุบอกแกร่งของหลานชายคนรองเบาๆ ปากเล็กๆเคลือบสีแดงฉ่ำวาวแสร้งเบ้ปากใส่เด็กผู้ชายที่เห็นมาตั้งแต่เด็กจนโต 


"โถ่....คุณย่า ก็น้องเขามีเรื่องไม่สบายใจ พวกผมก็เลยต้องจัดการตรงนั้นก่อน"รอยยิ้มบางๆผุดขึ้นบนใบหน้าหล่อ นั่นทำให้คนเป็นย่าหัวเราะน้อยๆออกมา ถึงจะเห็นว่าเป็นนางร้ายสุดฉาวโฉ่ที่บรรดาบริวารต่างจิกกัดว่าร้าย ทว่าคุณหญิงอมราไม่ได้ใส่ใจสักเท่าไหร่นัก ก็แค่นางร้ายที่มีเรื่องให้ขุดคุ้ยซุบซิบ ไม่ใช่สิ่งที่น่ากังวลเรื่องภาพลักษณ์สักนิด หลานๆของหล่อนก็ใช่ว่าจะเป็นคนดีกันเสียเมื่อไหร่  ถ้าเทียบกับการเป็นมาเฟีย นิสัยอารมณ์ร้ายของปาริณที่ข่าวพยายามประโคม เรียกได้ว่าไม่ถึงครึ่งของบรรดาหลานๆของหล่อนด้วยซ้ำ จะเพรียกหาคนดีไปทำไม ในเมื่อคนของตัวเองก็ใช่จะดีเด่อะไรกัน 


"แม่หนู ถ้าโดนเจ้าพวกนี้มันแกล้ง บอกย่าได้ตลอดนะลูก"ไม่เพียงแค่เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แต่หญิงชราดึงร่างระหงของปาริณเข้ากอดด้วยความเอ็นดู ไม่เห็นเลยสักนิดว่านั่นคือการถือหางคนอวดเก่งให้ปีกกล้าขาแข็งยิ่งขึ้น 


.


.


งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลาและการแยกจาก ร่างบางถูกพากลับมายังคฤหาสน์หลังงามอีกครา ปาริณที่เริ่มมึนจากแอลกอฮอล์เพราะฉอเลาะญาติผู้ใหญ่คนใหม่จนลืมตัวกระดกดื่มจนร่างกายร้อนผะผ่าว 


"เมาหรือยัง?"ร่างสูงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ขณะที่ร่างบางซุกตัวลงกับที่นั่งฝั่งข้ามคนขับ 


"คิกก ไม่สักหน่อย"ถึงจะปฏิเสธอย่างนั้น แต่มือซุกซนกลับลูบไล้ตามแผงอกแกร่งราวกับแสร้งยั่วเย้า 


"ถ้างั้น......"พร่ำกระซิบเสียงพร่า เขาไม่ใช่รูปปั้นที่ถูกยั่วแล้วจะทนไหว ตั้งแต่เข้างาน จนกลับถึงบ้าน เด็กซนยังไม่หยุดที่จะหยอกเย้าเพรียกอารมณ์กระหายอยาก 


"ฉันห้ามหรือไงล่ะ?"เหล้าเข้าปาก คนอย่างปาริณก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง หล่อนปล่อยให้เขาอุ้มเข้าบ้าน ผ่านสายตาของบรรดาบอดิการ์ดที่เดินกันขวักไขว่ ไม่มีใครที่คุณคนรองอุ้มเข้าบ้านแบบนี้ ดาราสาวแทบจะเป็นคนแรกก็ว่าได้ จากสายตาเยือกเย็นที่อ่อนละมุนแบบนั้น ก็บอกได้ชัดว่าในใจของมาเฟียร่างสูง คิดเช่นไรกับผู้หญิงตัวเล็กในอ้อมแขน 


แผ่นหลังบางแนบกับที่นอน ร่างสูงขยับขึ้นคร่อมพลางขบเม้มเหนืออกขึ้นรอยช้ำสีกุหลาบ 


"อือออ คาร์ล...."ส่งเสียงครางกระเส่า ปลายเท้าดันกับกลางกายพลางเขี่ยไล้วนซ้ำๆจนมันเริ่มแข็งขืน 


"ยั่วเก่งเกินไปแล้ว"เขาขบกรามแน่นจนสันกรามขึ้นชัดเจน 


"คิก...."หล่อนหัวเราะเสียงแหลมเล็ก ปลายเท้ายังคงสาละวนอยู่กับส่วนกลางกายของร่างสูง ในคราแรก หญิงสาวนึกกลัวคนตรงหน้าอยู่ไม่น้อยด้วยบุคลิคหน้าตา รวมไปถึงน้ำเสียง ทว่า เมื่อลองหาข้อมูลจากเลขาของเขา หล่อนก็พอรู้จุดอ่อนของคนตัวโตมาบ้าง อย่างน้อยมันก็น่าจะพอทำให้อีกฝ่ายเอ็นดูกันสักนิด แทนที่จะทำหน้าดุตาขวางใส่ ก็แค่ต้องแกล้งยั่วเย้าด้วยท่าทางไร้เดียงสา เพียงเท่านั้น คาร์ลก็จะพึงพอใจเสียจนแววตาและท่าทีอ่อนลงอย่างง่ายดาย 


"เด็กดี...."น้ำเสียงทุ้มเผลอครางออกมา มุมปากได้รูปกระตุกยิ้มอย่างพึงพอใจ ราวกับว่าเขากำลังล่อลวงหญิงสาวให้อยู่ใต้อาณัติของตนโดยง่าย 


"ถ้าเป็นเด็กไม่ดีล่ะ?"หล่อนยิ้มเผล่พลางกดนิ้วหัวแม่เท้าคลึงกับส่วนแท่งเนื้อซ้ำๆ แสร้งช้อนปลายเท้าเข้าไปใต้พวงเนื้ออัดแน่นภายในกางเกงเนื้อดี นัยน์ตาดุสั่นระริกเคลือบคลอด้วยม่านใสอันเป็นสัญลักษณ์ของแรงอารมณ์ที่พุ่งสูง 


"ก็แค่.....ต้องโดนลงโทษสักหน่อย"ไม่ทันได้จบคำพูด เท้าแสนซุกซนก็ถูกรวบเอาไว้  เข็มขัดกับไทด์พันธนาการเรียวขาสวยกับขอบเตียงที่ถูกสั่งทำขึ้นเป็นพิเศษ ทำให้ตอนนี้ปาริณอยู่ในกึ่งนั่งกึ่งนอนแหกขาอยู่บนเตียง ชายกระโปรงถูกรั้งขึ้นไปเหนือเอว มีเพียงชั้นในลายลูกไม้ปกปิดส่วนสงสงวนเอาไว้เท่านั้น 


"ใจร้ายจังเลยค่ะ"เสียงหวานครางเครือออกมา ดวงตาคู่งามช้อนมองชายร่างสูง มือหนาแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตอย่างไม่เร่งรีบนัก หลังจากที่เหวี่ยงสูททิ้งไปไกลแล้ว แผงอกกว้างปรากฏแก่สายตาของปาริณ กลิ่นจางๆของน้ำหอมแบรนด์ดังทำให้หัวใจเกิดเต้นไม่เป็นจังหวะขึ้นมาเสียอย่างนั้น 


"ไม่มีมาเฟียที่ไหนใจดีอยู่แล้วปาริณ"น้ำเสียงที่นุ่มนวลกว่าเก่าเอ่ยขึ้นมา ปากหนายกยิ้มมุมปากเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์  มือใหญ่ถอดเสื้อเชิ้ตออกหลังจากกระดุมถูกแกะออกจนหมดแล้ว 


"และก็คงไม่มีนางร้ายที่ไหนจะใสซื่อไร้เดียงสาหรอก จริงไหม?"ร่างสูงก้าวขึ้นเตียง เขาโน้มลงไปนั่งคร่อมหญิงสาวเอาไว้ มือหนาช่วยปลดเครื่องประดับบนร่างกายของหล่อนออกไป ไม่อย่างนั้นในระหว่างระเริงรักกันอยู่ มันจะบาดผิวสวยๆเอาได้ 


"ฮ่าๆ คงงั้นมั้ง"จงใจแอ่นขยับหน้าอกแนบกับมือของคนตัวโต สายตาและสีหน้าที่มักจะถูกหยิบมาใช้ยามแสดงอาการยั่วยวนพระเอกหน้ากล้อง ครานี้ปาริณนำมันมาใช้กับคนตรงหน้าทุกอย่าง เสียงครางฮึมฮัมกับเสียงกัดฟันทั้งสันกรามที่ขึ้นชัดกว่าเดิม ทุกอย่างล้วนบ่งบอกว่าโจชัวกำลังสะกดกลั้นอารมณ์ที่ถูกปลุกปั่นมากเพียงใด 


"โอ๊ะ!! ใจร้อนจัง"แสร้งเย้าเมื่อกายแกร่งขยับเข้ามาแนบกับส่วนกลางกาย สิ่งใหญ่โตภายใต้กางเกงกำลังบดถูร่องหลืบสวย แม้มีผ้าเนื้อดีปิดกั้นหลายชั้น แต่หญิงสาวก็ต้องยอมรับว่ามันชวนให้รู้สึกวูบไหวอยู่ไม่น้อย 


"เดี๋ยวก็รู้"ปลายนิ้วเรียวเกี่ยวขอบชั้นในลงมาจนถึงปลีน่องสวย เมือกยืดสีใสทำให้รอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้าหล่อปรากฏชัดขึ้น ในเมื่อหญิงสาวจงใจทำให้เขาอึดอัดจนแท่งเนื้อแทบระเบิด กว่าจะข่มอารมณ์ลงได้ก็ต้องใช้ความอดทนมากโข เห็นทีว่าคราวนี้จะต้องแกล้งคืนให้หลาบจำเสียบ้าง 


นิ้วกลางสอดผ่านช่องทางคับแน่น มันขยับเข้าออกอย่างช้าๆ เขาจงใจรูดปลายนิ้วเนิบนาบล่อหลอกโพรงเนื้อให้ขมิบตอดแรงมากขึ้น 


"อะ..อาาา ไม่สมกับเป็นคุณเลย"ปาริณเอ่ยเสียงเบาหวิว ปกติคาร์ลไม่ใช่คนแบบนี้ เขาชอบที่จะสาดแรงอารมณ์เข้ามา โถมกระหน่ำความลามกออกมาอย่างบ้าคลั่งเสียด้วยซ้ำ แต่ครานี้ ทุกอย่างต่างออกไป เขาดูใจเย็นและนิ่งมากๆ  


ร่างสูงเลือกที่จะไม่ตอบ เขาถอนเรียวนิ้วออกเมื่อของเหลวลื่นไหลซึมออกมา มือหนาเปิดลิ้นชักตู้ข้างหัวเตียง หยิบบางสิ่งที่อยู่ในนั้นออกมาสองชิ้น อันแรก ปาริณพอจะเดาออกว่ามันคือเจลหล่อลื่น แต่อีกอัน หญิงสาวมองไม่ออกว่ามันคืออะไรกันแน่ 


เขาบีบเจลลงบนแท่งสีพาสเทล ละเลงมันลงไปจนชุ่มเป็นมันปลาบ มือหนาที่เลอะเจลข้างหนึ่งวางทาบลงบนหน้าท้องแบนราบส่วนอีกข้างค่อยๆดันแท่งสีสวยผ่านกลีบเนื้อสีสดลึกเข้าไปในโพรงร้อนระอุ 


เสียงสั่นสะเทือนหลังกดปุ่มดังขึ้น ปาริณหวีดร้องเสียงหลงออกมา ขาสองข้างถูกพันธนาการเอาไว้ ทำให้ยากที่จะปัดป่ายให้หลุดพ้น ความเสียววิ่งพล่านไปทั่วร่าง ใบหน้าสวยบิดเบี้ยวเต็มไปด้วยความทรมาน มือน้อยขยับไปถูปากทางรักของตนเอง แต่กลับถูกรวบข้อมือตรึงกับเตียงเอาไว้เสีก่อน ใบหน้าหล่อโน้มลงมาจนเกือบจะแนบกับใบหน้าสวยของหญิงสาว


"อึกกก"ปาริณหน้ามุ่ย ไวเบรเตอร์ที่ถูกดุนดันอยู่ภายในกำลังทำหน้าที่สั่นสะเทือนอย่างรุนแรงเสียจนน่าชัง 


"เป็นไง? บทลงโทษนี้ถูกใจไหม?"รอยยิ้มบางๆนั่นบอกได้ไม่ยากว่าเขาแค่จงใจกลั่นแกล้งหล่อนเท่านั้น ถึงจะแฝงด้วยความเอ็นดู แต่มันไม่ได้ช่วยให้ความรู้สึกบางเบาเลยสักนิด ตรงกันข้าม หัวใจกลับเต้นแรงขึ้น อยากได้รับมากกว่านั้นเสียอีก 


"เป็นมาเฟียที่ใจร้ายจริงๆ"บ่นอึบอิบด้วยน้ำเสียงกระท่อนกระแท่น เสียงสะอึกดังลอดลำคอสวยออกมาอย่างยากลำบาก หากมองลึกในแววตาดุๆของคาร์ล แผนการร้ายบางอย่างซุกซ่อนอยู่ในนั้นอย่างปิดไม่มิด 


"มาเริ่มกันต่อดีกว่าทูนหัว"เขากระหยิ่มยิ้มพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงแหบพร่า มือหนาปล่อยข้อมือเล็กให้เป็นอิสระ เขาหันไปสนใจเรียวขาสวยแทน เขารูดซิปกางเกงลง เพียงใช้นิ้วรั้งขอบชั้นในสีเข้ม ส่วนแข็งขืนก็ดีดผึงออกมาชูชันเรียกความกระหายอยากจากคนตัวเล็กได้ไม่ยากนัก 


"เดี๋ยว!!!!"หล่อนหวีดร้องเสียงแหลมเล็กเมื่อถูกลำเอ็นชำแรกกลีบเนื้อฉ่ำวาว ถึงแม้จะมีของเหลวลื่นเป็นตัวช่วย แต่เมื่อครู่เขาเพิ่งจะแยงสิ่งแปลกเข้าไป มันยังคงสั่นสะเทือนภายในร่างกายของหล่อนเสียด้วยซ้ำ ถ้าเกิดเขาดึงดันจะแทรกแกนกายเข้ามา มันคงจะอึดอัดน่าดู และหล่อนเอง คงทนไม่ไหวแน่ๆ ไม่อยากแสดงความน่าอายออกมา แม้ร่างกายจะกำลังแสดงความตื่นเต้นจนถูกจับสังเกตได้ก็ตาม 


"ชูววว์ ฉันกำลังลงโทษเด็กดื้ออยู่นะ"รอยยิ้มซุกซนปรากฏบนใบหน้าหล่อ นัยน์ตาของคาร์ลสั่นระริกเต็มไปด้วยความตื่นเต้น สะโพกแกร่งขยับเข้าหาทางรักสีสวยอย่างช้าๆ เพียงส่วนหัวมุดผ่านปากทางเข้า ผนังแน่นก็ตอดกระตุกคนแทบจะทนไม่ไหว ไหนจะสิ่งแปลกปลอมที่ถูกดุนดันเข้ามาก่อนหน้านี้อีก มันสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงเสียจนชายหนุ่มลอบสูดปาก 


"อาาาา"เสียงทุ้มครางต่ำ ร่างสูงโถมขยับกายอย่างช้าๆ โยกสะโพกเข้าใส่คนตัวเล็กด้วยจังหวะเนิบนาบ หากแต่สิ่งแปลกปลอมทั้งสองที่ดุนดันกันอยู่ทำให้หญิงสาวหลุดสะอึกออกมา มือเล็กทั้งสองข้างจิกทึ้งที่นอนจนยับย่น เช่นเดียวกัน ปลายเท้าเองก็เหยียดเกร็ง ถ้าไม่ถูกพันธนาการเอาไว้ มันคงตวัดรัดเอวแกร่งในทันที 


"อ๊ะ!! ใจร้าย"เสียงหวานตัดพ้อเบาหวิว ขณะที่ร่างกายสั่นไหวไปตามแรงของคนด้านบน ดวงตาคู่งามมีหยาดน้ำตาพราวคลอเบ้า เสียวจนจะบ้าตายอยู่แล้ว มันมากเกินไป มากเกินกว่าจะรับมือได้  


"ฉันเตือนเธอแล้ว อาา แม่ง อย่าตอดแรงขนาดนั้นสิ ซี๊ด!!"จากที่ฉีกยิ้ม ใบหน้าหล่อกลับบิดเบี้ยวด้วยแรงอารมณ์เมื่อช่องทางรักบีบรัดลำเอ็นเสียแน่นขนัด คาร์ลเอื้อมมือไปปลดเข็มขัดและไทด์ที่พันธนาการข้อเท้าของหญิงสาวออก ก่อนจะช้อนวงแขนเข้าใต้ข้อพับขายกมันขึ้นไปเสมออกอวบ 


ในท่าที่คนตัวโตขยับขึ้นคร่อมสูงกว่าเดิม สิ่งแปลกปลอมมุดแทรกเข้าไปลึกยิ่งขึ้น  ความคับแน่นขยายตัวอย่างรวดเร็วจนคับโพรงเนื้อ เส้นเอ็นครูดผนังนิ่มเสียดสีไปมา รับกับลูกบอลแฝดที่ฟาดลงกับเนินเนื้อกลมกลึงจนเกิดเสียงเนื้อกระทบกัน 


จังหวะเร่งเร้าที่เปลี่ยนเข้ามาฉับพลันส่งผลให้ร่างบางตาเหม่อลอย ปากสวยครางไม่เป็นภาษามนุษย์ แขนเล็กโอบกอดแผ่นหลังกว้างของร่างสูงที่โน้มกายลงมาทาบทับไร้ซึ่งช่องว่าง เสียงครางแหบพร่าดังข้างใบหูอย่างจงใจ 


บั้นท้ายงามร่อนแอ่นยกสวนลำใหญ่ที่ตอกกระแทกลงมาอย่างไม่ลดละ ยิ่งในยามที่ไวเบรเตอร์สั่นไหวเร่งเร้ารุนแรง หล่อนก็ยิ่งโถมขยับใส่อีกฝ่ายแรงขึ้นด้วยความกระหายอยาก ความเสียวซ่านแล่นตีขึ้นอกจนยอดสีสวยตั้งเต้าซ้ำยังแกว่งไกวตามแรง คาร์ลอดไม่ได้ที่จะก้มลงดูดมัน แม้จะยังคงซอยถี่กระชั้นใส่นางร้ายคนสวย 


เสียงครางด้วยความพึงพอใจดังลอดออกมาจากลำคอแกร่ง เขาดันร่างบางขึ้นไปนั่งอิงหัวเตียง ออกแรงอัดสะโพกย้ำลงจุดเดิมไม่กี่ครั้งก่อนจะปล่อยให้น้ำรักฉีดพ่นเข้าไปในร่างกายของหญิงสาว 


ในทันทีที่คาร์ลถอนกายออกมา ของเหลวต่างๆพากันพรั่งพรูตามมาเช่นกัน มันพาเอาแท่งสิ่งแปลกปลอมขนาดไม่ใหญ่มากไหลตามออกมาด้วย นั่นทำให้ใบหน้าสวยขึ้นสีแดงเห่อด้วยความอาย 


"คราวหน้าจะเป็นเด็กดื้ออีกไหม? ฉันไม่ติดอะไรหรอกนะ ยังมีของเล่นเอาไว้ใช้รังแกเด็กดื้อเหลืออีกเยอะเชียว"เขาหัวเราะในลำคอ นั่นทำให้มือเล็กฟาดลงกับอกแกร่งอย่างแรง แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ทำให้เขาสะทกสะท้านเลยสักนิด หลังจากนี้ ปาริณคงไม่กล้าล้อเล่นกับผู้ชายคนนี้ไปอีกนานเชียว