“เซเลน่า” สาวน้อยผู้เกิดมาพร้อมกับพลังแห่งความมืด วันหนึ่งเธอได้ถูกสำนักแห่งหนึ่งลักพาตัวไป
ชาย-หญิง,รัก,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,โรแมนติกแฟนตาซี,พลังแห่งความมืด,ทูตสวรรค์,พลังพิเศษ,พระจันทร์สีเลือด,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด“เซเลน่า” สาวน้อยผู้เกิดมาพร้อมกับพลังแห่งความมืด วันหนึ่งเธอได้ถูกสำนักแห่งหนึ่งลักพาตัวไป
"เซเลน่า" เป็นเด็กสาวที่เกิดมาพร้อมกับพลังชั่วร้ายนั่นคือ "พลังแห่งความมืด" แต่พลังนั้นจะปรากฎต่อเมื่อพระจันทร์สีเลือดเต็มดวงหรือเมื่อถูกกระตุ้น เวลาต่อมาสำนักดาร์กฟิล่าได้ทราบข่าวขึ้นและบุกรุกจักรวรรดิเรนฟิล่าเพื่อเอาตัวเซเลน่าไปยังสำนัก กระตุ้นพลังแห่งความมืดของเธอโดยการใช้พลังแห่งความมืดครอบงำและการกลืนกินพลังของคนบริสุทธิ์ ทำให้เธอเข้าด้านมืดในที่สุด
“ทำไมฉันต้องเกิดมาพร้อมกับพลังแห่งความมืดด้วย!!!”
ดินแดนมิดไนท์เมอร์ เป็นดินแดนอันไกลโพ้นสุดลึกลับซึ่งมีทั้งพลังแสงสว่างและพลังชั่วร้ายอาศัยอยู่ด้วย ภายในดินแดนมีจักรวรรดิอยู่ 5 จักรวรรดิแยกออกเป็นฝั่งเหนือและฝั่งใต้ ได้แก่ จักรวรรดิเรนฟิล่า จักรวรรดิเซฟิน่า จักรวรรดิดาร์กฟิล่า จักรวรรดิสกายเทรียและจักรวรรดิซารันเตียร์
แต่ฝั่งเหนือของดินแดนมิดไนท์เมอร์มี 3 จักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่ที่สุดได้แก่ จักรวรรดิเรนฟิล่า จักรวรรดิเซฟิน่าและจักรวรรดิดาร์กฟิล่า
จักรวรรดิเซฟิน่า เป็นจักรวรรดิลำดับที่สองรองลงมาจากสามจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฝั่งเหนือ จักรวรรดิเซฟิน่าปกครองโดยดยุกแห่งเซฟิน่า ดยุกแห่งเซฟิน่านั้นมีบุตรสาวอยู่หนึ่งคน เธอมีอุปนิสัย น่ารัก ร่าเริงสดใส แต่ถ้าว่าเธอนั้นกำเนิดมาพร้อมกับพลังที่ชั่วร้ายนั่นคือ พลังแห่งความมืด นั่นเอง
แต่พลังนั้นถูกกักเก็บไว้ภายในจิตใจของเธอและพลังแสงสว่างของจักรวรรดิเรนฟิล่า มันจะปรากฏต่อเมื่อพระจันทร์สีเลือดเต็มดวงเท่านั้นและพลังความมืดของเธอจะเพิ่มขึ้นเท่าทวีคูณเลยทีเดียว สาวน้อยคนนนั้นมีนามว่า เซเลน่า
ณ ห้องนอนภายในคฤหาสน์จักรวรรดิเซฟิน่า สาวน้อยเรือนผมสีแดงเลือดหมูกำลังนอนหลับอยุ่บนเตียงของตนอย่างสบาย ในเวลานั้นเองได้มีเสียงเคาะประตูพร้อมกับเสียงเรียกของหญิงสาวใช้ประจำคฤหาสน์ “ก๊อก ๆ คุณหนูเจ้าคะ ดิฉันขออนุญาตเข้าไปนะเจ้าค่ะ”
สาวใช้เปิดประตูเดินเข้ามาหาที่เตียงของสาวน้อยเรือนผมสีแดงเลือดหมูพร้อมกับเอ่ยว่า “คุณหนูเซเลน่าเจ้าค่ะ ตื่นได้แล้วนะเจ้าค่ะ คุณท่านเรียกให้ไปพบที่ห้องโถงเจ้าค่ะ”
เซเลน่าได้ลืมตาตื่นขึ้นมาและค่อย ๆ ลุกขึ้นมานั่ง “ท่านพ่อเรียกให้ไปพบงั้นหรอคะ มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ” เซเลน่าเอ่ยถามสาวใช้
“เอ่อ...ดิฉันไม่ทราบเหมือนกันเจ้าค่ะคุณหนู คุณท่านบอกดิฉันมาแค่ว่าให้ขึ้นมาปลุกคุณหนูเจ้าค่ะ” สาวใช้กล่าว
“งั้นไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันอาบน้ำเสร็จจะลงไปพบเดี๋ยวนี้แหละ บอกท่านพ่อให้ด้วยนะคะ” เซเลน่ากล่าว
“เจ้าค่ะคุณหนู ดิฉันจะไปบอกให้นะเจ้าค่ะ” สาวใช้กล่าวพร้อมกับหันหลังเปิดประตูเดินออกไปจากห้องนอน
เซเลน่าลุกออกจากเตียงนอนและจัดเตียงนอนของตนให้เรียบร้อยก่อนที่จะเดินไปห้องน้ำ
ณ ห้องโถงสไตล์ยุโรป ผู้ชายสูงใหญ่เรือนผมสีน้ำตาลกำลังนั่งจิบชาบนโซฟาที่แสนนุ่ม ขณะนั้นเองหญิงสาวใช้ก็เดินลงมาจากด้านบน
“เป็นยังไงบ้างล่ะ หืม?” ผู้ชายสูงใหญ่เรือนผมสีน้ำตาลเอ่ยถาม
“คุณหนูเซเลน่าทราบแล้วเจ้าค่ะคุณท่าน ได้ฝากดิฉันมาบอกว่าเดี๋ยวอาบน้ำจะลงมาเจ้าค่ะ” สาวใช้กล่าว
“อืม เธอจะไปไหนก็ไปเถอะ” ผู้ชายสูงใหญ่เรือนผมสีน้ำตาลกล่าว
“เจ้าค่ะ...” สาวใช้กล่าวพร้อมกับโค้งคำนับและเดินออกไป
เวลาไม่นานมากนัก เซเลน่าที่สวมชุดเดรสและผ้าคลุมผมสีเขียวเดินลงมาและไปนั่งที่โซฟา
“เซเลน่า...ลงมาแล้วหรอลูก” ดยุกแห่งเซฟิน่าเอ่ยถาม
“ใช่แล้วเพคะ ต้องขอโทษที่ทำให้ท่านพ่อรอนานด้วยเพคะ” เซเลน่ากล่าว
“ไม่เป็นไรเลยหรอกลูก พ่อรอได้นะ” ดยุกแห่งเซฟิน่ากล่าวพร้อมกับเอามือไปลูบหัวบุตรสาว
“ว่าแต่...ท่านพ่อมีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ” เซเลน่ากล่าวถาม
“อ๋อ วันนี้พวกเราจะไปที่จักรวรรดิเรนฟิล่ากันนะ พ่อจะไปทำธุระส่วนตัวหน่อยนะ” ดยุกแห่งเซฟิน่ากล่าว
“จักรวรรดิเรนฟิล่า?” เซเลน่าสงสัย
“นี่...ลูกจำไม่ได้เลยหรอ” ดยุกแห่งเซฟิน่าเอ่ยถาม
เซเลน่าส่ายหน้าปฏิเสธ
“อ่ะ...จักรวรรดิเรนฟิล่าที่พ่อเคยพาไปกับองค์รัชทายาทบ่อย ๆ ไงล่ะ” ดยุกแห่งเซฟิน่ากล่าว
“องค์รัชทายาท? ใครหรอคะท่านพ่อ” เซเลน่าเอ่ยถาม
“ก็...ชาเบลไงล่ะ ที่ชอบเล่นกันตอนเด็ก ๆ บ่อย ๆ ไงลูก” ดยุกแห่งเซฟิน่า
“อ๋อ...คุณชาเบล ตอนนี้เป็นองค์รัชทายาทแห่งจักรวรรดิเรนฟิล่าแล้วหรอล่ะคะท่านพ่อ” เซเลน่ากล่าว
“ใช่แล้วล่ะ...” ดยุกแห่งเซฟิน่ากล่าว
ระหว่างนั้นเองทหารประจำจักรวรรดิเข้ามาแจ้งข่าว “ท่านดยุกขอรับ รถม้าจากจักรวรรดิเรนฟิล่ามาขอรับ”
“รถม้าจักรวรรดิเรนฟิล่ามารับหรือ?” ดยุกแห่งเซฟิน่ากล่าวถามทหารคนนั้น
“ขอรับท่านดยุก” ทหารประจำจักรวรรดิเอ่ยตอบ
ดยุกแห่งเซฟิน่าลุกขึ้นจากโซฟา “ไปกันเถอะลูก เดี๋ยวท่านดยุกแห่งเรนฟิล่ารอนาน” เดินออกจากโซฟาไปยังที่รถม้าของจักรวรรดิเรนฟิล่าจอดรออยู่หน้าคฤหาสน์พร้อมกับเซเลน่า
จักรวรรดิเรนฟิล่า เป็นจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสามจักรวรรดิของฝั่งเหนือและเป็นจักรวรรดิมิตรสหารของจักรวรรดิเซฟิน่าอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีพลังแสงสว่างที่แข็งแกร่งสามารถกักเก็บพลังความมืดได้ จักรวรรดิแห่งนี้ปกครองด้วยท่านดยุกเช่นกันและมีองค์รัชทายาทนามว่า ชาเบล
ณ คฤหาสน์จักรวรรดิเรนฟิล่า รถม้าของจักรวรรดิเรนฟิล่าได้มาถึงหน้าคฤหาสน์จักรวรรดิเรนฟิล่าแล้ว
ดยุกแห่งเซฟิน่าและเซเลน่าเดินลงมาจากรถม้าโดยมีทหารประจำคฤหาสน์ยืนรอต้อนรับอยู่
“คราวะขอรับท่านดยุกแห่งเซฟิน่า ท่านดยุกแห่งเรนฟิล่ารอพวกท่านอยู่ด้านในห้องโถงรับรองแขกแล้วขอรับ” เสียงต้อนรับของทหารประจำจักรวรรดิ
ณ ห้องโถงรับรองแขกของคฤหาสน์จักรวรรดิเรนฟิล่า ดยุกแห่งเรนฟิล่านั่งโซฟารออยู่ เวลาเดียวกันนั้นดยุกแห่งเซฟิน่าและเซเลน่าเดินเข้ามา
ดยุกแห่งเรนฟิล่ายืนขึ้นและจับมือทักทายพร้อมกับเอ่ยทักทายเป็นการต้อนรับ “สวัสดีครับท่านดยุกเซฟิน่า ยินดีต้อนรับนะครับ”
ดยุกแห่งเรนฟิล่าหันไปมองเซเลน่าพร้อมกับกล่าวว่า “นี่ใช่หนูเซเลน่าไหม ที่เคยมาเล่นกับชาเบลบ่อย ๆ ตอนเด็ก ๆ”
“ใช่แล้วล่ะ เซเลน่าทักทายคุณอาหน่อย” ดยุกแห่งเซฟิน่ากล่าว
เซเลน่าก้มหัวทำเคารพต่อดยุกแห่งเรนฟิล่า “สวัสดีค่ะ ท่านอา”
ระหว่างนั้นเองผู้ชายผิวขาวตัวสูงเรือนผมสีครีมน้ำตาลได้เดินมาที่โซฟารับรองแขก
“ท่านพ่อมีแขกมาจากจักรวรรดิเซฟิน่าหรอขอรับ” ผู้ชายเรือนสีครีมน้ำตาลกล่าวถาม
“ชาเบลมาพอดีเลย...ใช่แล้วล่ะ ท่านดยุกแห่งเซฟิน่าและคุณหนูเซเลน่ามานะ” ดยุกแห่งเรนฟิล่ากล่าว
“ด้วยความเคารพขอรับ ท่านอาและคุณหนูเซเลน่า” ชาเบลก้มหัวทำความเคารพ
“สวัสดีชาเบล ไม่ได้เจอกันตั้งนานเลยนะ โตเป็นหนุ่มแล้ว” ดยุกแห่งเซฟิน่ากล่าว
“ขอรับท่านลุง คุณหนูเซเลน่าก็เช่นกัน” ชาเบลกล่าว
“ชาเบลพาเซเลน่าออกไปเดินเล่นข้างนอกคฤหาสน์ก่อนนะ พ่อกับท่านลุงจะคุยเรื่องธุระส่วนตัวกันน่ะ” ดยุกแห่งเรนฟิล่ากล่าว
“เพคะ/ขอรับ” ชาเบลและเซเลน่าก้มหัวรับคำสั่งและกล่าว
“เชิญครับคุณหนูเซเลน่า”
“ขอบคุณนะคะ”
เซเลน่าเดินออกไปก่อนที่ชาเบลจะเดินตามออกไป
ณ บริเวณจักรวรรดิเรนฟิล่า เซเลน่าและชาเบลเดินเล่นชมบรรยากาศของจักรวรรดิเรนฟิล่า
ระหว่างนั้นเองเซเลน่าเอ่ยขึ้นมาว่า “ที่นี่สวยจริง ๆ เลยนะคะคุณชาเบล” ชาเบลหันมายิ้มให้เซเลน่าพร้อมกับเอ่ยว่า “ใช่ครับ จักรวรรดิของผมสวยมาก ๆ ผมชอบออกมาเดินเล่นบ่อย ๆ นะครับ”
“คุณเซเลน่าจำไม่ได้หรอครับว่าพวกเราตอนวัยเด็กชอบมาวิ่งเล่นแถวนี้” ชาเบลกล่าว
“ใช่แล้วค่ะ ฉันจำแล้วเกือบลืมไปเลย” เซเลน่ากล่าว
“เอิ่ม...คุณชาเบลคะ เห็นท่านพ่อบอกว่าคุณนี่ได้รับตำแหน่งองค์รัชทายาทหรอคะ” เซเลน่ากล่าว
“ใช่แล้วล่ะครับ ผมจะได้ขึ้นเป็นดยุกแห่งเรนฟิล่าคนต่อไปไงครับ” ชาเบลกล่าว
“จะว่าไปนะคะ จักรวรรดิของฉันเนี่ยยังสวยไม่เท่าจักรวรรดิของคุณเลยนะคะ” เซเลน่ากล่าวชม
“แต่ละจักรวรรดิก็มีความสวยในแบบของตัวเองกันทั้งนั้นแหละครับ” ชาเบลกล่าว
เซเลน่ายิ้มและหัวเราะอ่อน ๆ พร้อมกับเอ่ยชมชาเบล “คุณชาเบลนี่ พูดหวานเก่งจริง ๆ เลยนะคะ”
ชาเบลเกิดอาการเขินขึ้นมาและเอามือลูบหัวตนเองพร้อมกับตอบกลับไปว่า “ก็...ไม่เท่าไรหรอกนะครับ”
ระหว่างที่เซเลน่ากับชาเบลกำลังสนทนากันอยู่นั้น เซเลน่าเหลือบไปเห็นพวกอันธพาลกำลังรังแกเด็กที่อ่อนแออยู่
“เอ๋...ทำไมตรงนั้นถึงได้มีพวกอันธพาลมารังแกเด็กคนั้นอยู่น่ะ” เซเลน่าครุ่นคิดและเดินไปห้าม
“คุณเซเลน่า ไปไหนหรอครับ” ชาเบลเอ่ยถาม
“ตรงนู่นมีพวกอันธพาลกำลังรังแกเด็กคนนั้นอยู่นะคะ” เซเลน่ากล่าวพร้อมกับชี้ให้ชาเบลดู
“เดี๋ยวก่อนครับ!!! มันอันตรายนะครับ” ชาเบลดึงแขนเซเลน่าเอาไว้
“คุณชาเบลคะ เราจะปล่อยไว้แบบนี้หรอคะ” เซเลน่าถามกลับ
“เปล่าครับ แต่ผมเป็นห่วงคุณเซเลน่าครับเพราะพวกอันธพาลมันทั้งกลัวและอันตราย” ชาเบลกล่าว
เซเลน่าเขินจนหน้าแดงพร้อมกับเอ่ยว่า “ขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะ แต่ปล่อยให้เซเลน่าไปห้ามเถอะนะคะ”
ชาเบลถอนหายใจและยอมปล่อยแขนของเซเลน่า ส่วนเซเลน่าเดินไปพร้อมกับเอ่ยห้ามพวกอันธพาลว่า “พอได้แล้วนะ ทำไมต้องรังแกคนที่อ่อนแอไม่มีทางสู้ด้วย”
ขณะที่เซเลน่ากำลังห้ามอยู่นั้น พวกอันธพาลหันหน้ามามองเซเลน่าและหยิบก้อนหินที่อยู่บริเวณนั้นขึ้นมาโยนใส่หน้าผากของเซเลน่าพร้อมกับเอ่ยว่า “แล้วเธอมายุ่งอะไรด้วยล่ะ ไม่ใช่เรื่องของเธอซะหน่อยนี่น่า”
เซเลน่าได้รับบาดเจ็บจากการที่พวกอันธพาลโยนก้อนหินใส่หน้าผากของเธอ ทำให้เธอโกรธมากพร้อมกับตะโกนออกไปว่า “ฉันบอกให้พอไง!!!!”
เวลาเดียวกันนั้นเองพลังแห่งความมืดที่เกิดมาพร้อมกับเซเลน่าได้ประทุออกมาโจมตีใส่พวกอันธพาลจนได้บาดเจ็บกันไปบางส่วนและวิ่งหนีกันกระเจิง
ชาเบลที่ได้เห็นเซเลน่าปลดปล่อยพลังที่ชั่วร้ายอย่างพลังแห่งความมืด เกิดอาการตะลึงพร้อมกับครุ่นคิดอยู่ในใจว่า “พลังแห่งความมมืดงั้นหรอ...”
เซเลน่ายืนนิ่งและตะลึงไปอยู่ครู่หนึ่งพร้อมกับครุ่นคิดในใจว่า “นี่มัน...อะไรกันเนี่ย...”
เซเลน่าได้หันไปถามชาเบลด้วยความตื่นตระหนกว่า “พลังสีดำคืออะไรหรอคะ...”
ชาเบลตอบอย่างน่าตกใจว่า “มันคือ...พลังแห่งความมืด”
เซเลน่าได้ยินอย่างนั้นเกิดอาการแพนนิคอย่างหนักพร้อมกับตะโกนออกมาว่า “ทำไม...ฉันต้องเกิดมาพร้อมกับพลังแห่งความมืดด้วย!!!” ก่อนที่จะสลบล้มลงไปที่พื้น
“ฮ่า ๆ ในที่สุดก็มีคนที่เกิดมาพร้อมกับพลังแห่งความมืดแล้ว”