“เซเลน่า” สาวน้อยผู้เกิดมาพร้อมกับพลังแห่งความมืด วันหนึ่งเธอได้ถูกสำนักแห่งหนึ่งลักพาตัวไป
ชาย-หญิง,รัก,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,โรแมนติกแฟนตาซี,พลังแห่งความมืด,ทูตสวรรค์,พลังพิเศษ,พระจันทร์สีเลือด,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด“เซเลน่า” สาวน้อยผู้เกิดมาพร้อมกับพลังแห่งความมืด วันหนึ่งเธอได้ถูกสำนักแห่งหนึ่งลักพาตัวไป
"เซเลน่า" เป็นเด็กสาวที่เกิดมาพร้อมกับพลังชั่วร้ายนั่นคือ "พลังแห่งความมืด" แต่พลังนั้นจะปรากฎต่อเมื่อพระจันทร์สีเลือดเต็มดวงหรือเมื่อถูกกระตุ้น เวลาต่อมาสำนักดาร์กฟิล่าได้ทราบข่าวขึ้นและบุกรุกจักรวรรดิเรนฟิล่าเพื่อเอาตัวเซเลน่าไปยังสำนัก กระตุ้นพลังแห่งความมืดของเธอโดยการใช้พลังแห่งความมืดครอบงำและการกลืนกินพลังของคนบริสุทธิ์ ทำให้เธอเข้าด้านมืดในที่สุด
“ฮ่า ๆ ในที่สุดก็มีคนที่เกิดมาพร้อมกับพลังแห่งความมืดแล้ว” เสียงจากบุคคลปริศนาที่แอบอยู่หลังต้นไม้
“หึ เรื่องนี้ท่านเจ้าสำนักต้องทราบแล้วล่ะ” บุคคลปริศนากล่าวและหายตัวไปกับพลังแห่งความมืด
“เซเลน่า...” ชาเบลวิ่งไปหาเซเลน่าที่กำลังนอนสลบอยู่และอุ้มเซเลน่ากลับไปยังคฤหาสน์ของตน
ย้อนกลับมาที่คฤหาสน์จักรวรรดิเรนฟิล่า ขณะที่ดยุกทั้งสองกำลังคุยเรื่องธุระส่วนตัวกันอยู่นั้น เวลานั้นเองชาเบลเดินกลับมาถึงคฤหาสน์และพาเซเลน่าที่กำลังสลบอยู่ไปที่ห้องนอนของเข้า
ดยุกแห่งเซฟิน่าหันมามองชาเบลซึ่งกำลังอุ้มร่างของบุตรสาวของตนที่กำลังสลบอยู่เดินไปที่ห้องนอนของชาเบล พร้อมกับเอ่ยถามว่า “ชาเบล...เกิดอะไรขึ้นกับลูกสาวของลุง ถึงได้สลบไปแบบนี้”
“เดี๋ยวกระผมเล่าให้ฟังนะครับท่านลุง” ชาเบลรีบอุ้มเซเลน่าไปที่ห้องนอนและวางเธอนอนลงบนเตียง
ดยุกแห่งเซฟิน่าเดินมาหาบุตรสาวของตนและจับมืออันนุ่มนวลด้วยความเป็นห่วง
ดยุกแห่งเรนฟิล่าเดินเข้ามาพร้อมกับจ้องมองไปที่ร่างของเซเลน่าและเอ่ยด้วยความสงสัย “ทำไมร่างของเซเลน่าถึงเป็นแบบนี้”
ชาเบลถอนใจพร้อมกับทำสีหน้าเศร้าและเล่าเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเซเลน่าให้พ่อและลุกฟัง
“ระหว่างที่กระผมกับเซเลน่ากำลังเดินเล่นกันอยู่ เซเลน่าเหลือบไปเห็นพวกอันธพาลกำลังรังแกเด็กที่อ่อนแออยู่ ได้เดินเข้าไปห้ามแต่กระผมก็ห้ามเธอแล้วนะครับ เธอไม่ยอมฟังเลยโดนพวกนั้นปาก้อนหินใส่หน้าผากจนได้บาดเจ็บ เซเลน่าเกิดอาการทนไม่ไหวเลยโกรธออกจนปลดปล่อยพลังแห่งความมืดออกมาครับ”
“พลังแห่งความมืดอย่างนั้นหรือ...เซเลน่ามีพลังนี้ได้ยังไง” ดยุกแห่งเรนฟิล่าสงสัย
“ก่อนที่จะสลบไป เซเลน่าตะโกนออกมาว่าทำไมต้องเกิดมาพร้อมกับพลังแห่งความมืด” ชาเบลกล่าว
ดยุกแห่งเซฟิน่าถอนหายใจพร้อมกับเอ่ยว่า “ใช่แล้วล่ะ เซเลน่าเป็นคนที่เกิดมาพร้อมกับพลังแห่งความมืด แต่พลังจะปรากฎต่อเมื่อพระจันทร์สีเลือดเต็มดวงเท่านั้นเพราะเซเลน่าเกิดในค่ำคืนพระจันทร์สีเลือดปรากฏและมันจะเพิ่มขึ้นเท่าทวีคูณอีกด้วย”
ชาเบลครุ่นคิดขึ้นมาว่า “พลังแห่งความมืดของเซเลน่าเกิดขึ้นในช่วงพระจันทร์สีเลือดเท่านั้นงั้นหรอ แต่นี่อาจจะถูกกระตุ้นด้วยความโกรธ”
ดยุกแห่งเรนฟิล่าเดินมาหาดยุกแห่งเซฟิน่าพร้อมกับเอ่ยปลอบใจว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ตระกูลของฉันมีพลังแสงสว่างสามารถเปลี่ยนแปลงพลังแห่งความมืดเป็นแสงสว่างได้ แต่พลังแห่งความมืดภายในใจสามารถถูกกระตุ้นออกมาได้ ต่อเมื่อมีคนไปกระตุ้นมันหรือไม่ก็ตัวของเซเลน่าเอง”
ชาเบลเอ่ยเตือนกับดยุกแห่งเซฟิน่าว่า “ระวังสำนักดาร์กฟิล่าของจักรวรรดิดาร์กฟิล่าไว้ด้วยก็ดีนะครับ เป็นสำนักและจักรวรรดิที่มีพลังแห่งความมืดซึ่งแข็งแกร่งเพราะพวกมันกำลังตามหาคนที่เกิดมาพร้อมกับพลังแห่งความมืดอีกด้วย”
“แล้วพวกมันทำไปเพื่ออะไร?” ดยุกแห่งเซฟิน่าเอ่ยถาม
“ก็ที่รู้ ๆ กันอยู่ ฝั่งเหนือมีสามจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่ที่สุดได้แก่ จักรวรรดิเรนฟิล่า จักรวรรดิเซฟิน่าและจักรวรรดิดาร์กฟิล่าที่ลำดับสาม ดังนั้นจักรวรรดิดาร์กฟิล่าเลยอยากเป็นใหญ่” ดยุกแห่งเรนฟิล่ากล่าว
ดยุกแห่งเซฟิน่าพยักหน้าก่อนเอ่ยขึ้นมาว่า “ฉันจะไม่ปล่อยเซเลน่าไปอยู่กับพวกนั้นหรอกนะ”
“ถ้าเซเลน่าอยู่ที่นี่ปลอดภัย ยังไงเซเลน่าต้องเปลี่ยนแปลงพลังอยู่ดี” ดยุกแห่งเรนฟิล่ากล่าว
ดยุกแห่งเซฟิน่าพยักหน้าและเดินออกไปจากห้องนอน
“ฝากด้วยนะ เจ้าลูกชาย” ดยุกแห่งเรนฟิล่ากล่าวและเดินตามออกไป
ชาเบลโค้งคำนับต่อดยุกแห่งเรนฟิล่า “ขอรับท่านพ่อ” และได้ร่ายพลังแสงสว่างเพื่อเปลี่ยนแปลงพลังแห่งความืดและเพิ่มพลังแสงสว่างให้กับเซเลน่า
เวลาต่อมาเซเลน่าฟื้นสติจากการปลดปล่อยพลังแห่งความมืดพร้อมกับมองไปรอบ ๆ และครุ่นคิดในใจ “เกิดอะไรขึ้นกับฉันเนี่ย...ทำไมฉันถึงได้มานอนอยู่ที่ห้องนอนของคุณชาเบล”
เวลาเดียวกันนั้นเองชาเบลเปิดประตูเดินเข้ามาพร้อมกับถ้วยยาบำรุงและเห็นเซเลน่าฟื้นสติ
“คุณเซเลน่าฟื้นแล้วหรอครับ” ชาเบลกล่าวถาม
เซเลน่าพยักหน้าพร้อมกับเอ่ยถามชาเบลว่า “เอ่อ...คุณชาเบลคะ นี่ฉันเป็นอะไรไปหรือคะ จู่ ๆ ฉันรู้สึกว่าสลบไป”
“คุณเซเลน่าสลบไปเพราะคุณได้ใช้พลังแห่งความมืดครั้งแรก แต่ไม่ต้องเป็นกังวลไปนะครับ ผมได้เปลี่ยนแปลงพลังแห่งความมืดให้เป็นแสงสว่างแล้วล่ะครับ” ชาเบลกล่าว
“ขอบคุณ...คุณชาเบลมาก ๆ นะคะที่ช่วยฉัน จริง ๆ แล้วฉันก็ไม่อยากมีพลังแห่งความมืด อยากเป็นเด็กธรรมดา ๆ คนหนึ่งเท่านั้น” เซเลน่ากล่าวด้วยความเศร้า
“ทำไม...คุณเซเลน่าดูเศร้า ๆ ล่ะครับ” ชาเบลเอ่ยถาม
“ฉัน...รังเกียจตัวเองค่ะ ที่ต้องเกิดมาพร้อมกับพลังแห่งความมืดและเป็นสาเหตุที่ทำให้ท่านแม่ต้องสิ้นใจไป” เซเลน่ากล่าวด้วยความโศกเศร้า
“คุณชาเบล...รังเกียจพลังแห่งความมืดของฉันไหมคะ” เซเลน่าเอ่ยถาม
ชาเบลส่ายหน้าและเอามือของตนไปจับมือของเซเลน่าพร้อมกับเอ่ยว่า “ผมไม่รังเกียจเลยครับ เพราะผมเองก็เกิดมาพร้อมกับพลังแห่งความมืดเช่นกันครับ”
เซเลน่าเกิดอาการตะลึงที่ได้รับรู้ว่าชาเบลเป็นเช่นเดียวกับตนเอง “คุณชาเบลมีพลังแห่งความมืดเหมือนกันหรอคะ”
“ใช่ครับ...คุณเซเลน่า แต่พ่อของผมได้เปลี่ยนแปลงพลังแห่งความมืดเป็นพลังแสงสว่างเช่นกันครับ” ชาเบลกล่าว
ชาเบลยิ้มอย่างอ่อนโยนให้กับเซเลน่า ก่อนที่จะเอื้อมมือไปหยิบถ้วยยาบำรุง
“คุณเซเลน่าครับ ทานยาบำรุงก่อนนะครับ” ยื่นยาบำรุงให้กับเซเลน่า
เซเลน่ารับถ้วยยาบำรุงจากชาเบลพร้อมกับกล่าวขอบคุณและคำชม “ขอบคุณนะคะ คุณชาเบลเนี่ยดูแลฉันดีจริง ๆ เลยนะคะ” แล้วยกถ้วยยาบำรุงขึ้นมาดื่มทันที
ระหว่างนั้นเองดยุกทั้งสองก็ได้เดินเข้ามาในห้องนอน
“ท่านพ่อ...” เซเลน่าเอ่ยเรียก
ดยุกแห่งเซฟิน่าเดินมาที่เตียงพร้อมกับลูบหัวของเซเลน่าอย่างอ่อนโยนและเอ่ยถามอาการ “เซเลน่าเป็นยังไงบ้างลูก”
“ลูก...ดีขึ้นแล้วล่ะเพคะท่านพ่อ ดีที่คุณชาเบลเปลี่ยนแปลงพลังแห่งความมืดและดื่มยาบำรุง ทำให้ลูกกลับมาเป็นคนธรรมดา ๆ คนหนึ่ง” เซเลน่ากล่าว
“ตระกูลของอามีพลังแสงสว่างที่สามารถเปลี่ยนแปลงพลังความมืดได้ อ๋อ แล้วอีกอย่างชาเบลก็เคยเปลี่ยนแปลงเช่นกันเพราะเกินมาพร้อมกับพลังแห่งความมืด” ดยุกแห่งเรนฟิล่า
ชาเบลเอ่ยขึ้นมาว่า “ท่านพ่อ กระผมเล่าให้คุณเซเลน่าหมดแล้วล่ะขอรับ”
ดยุกแห่งเรนฟิล่าหัวเราะ “ฮ่า ๆ ขอโทษที่เล่าซ้ำกับเจ้าลูกชาย”
“เซเลน่า...ลูกต้องอยู่ที่นี่ไปก่อนนะ เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงพลังของหนูสมบูรณ์และความปลอดภัยของลูกนะ” ดยุกแห่งเซฟิน่า
เซเลน่าพยักหน้า ส่วนดยุกแห่งเซฟิน่าเอ่ยกับชาเบลว่า “ลุงขอฝากดูแลเซเลน่าด้วยนะ งั้นฉันกลับจักรวรรดิแหละ” ก่อนที่จะเดินออกไป
ชาเบลโค้งคำนับและเอ่ยรับปาก “ขอรับท่านลุง เดินทางปลอดภัยนะขอรับ”
“ท่านพ่อขอรับ กระผมมีเรื่องจะคุยด้วยขอรับ” ชาเบลกล่าว
“อืม เจอกันที่ห้องทำงานของพ่อนะ” ดยุกแห่งเรนฟิล่าตอบรับและเดินออกไป
ชาเบลโค้งคำนับและหันไปเอ่ยกับเซเลน่าว่า “คุณเซเลน่าพักผ่อนต่อนะครับ”
เซเลน่าพยักหน้าตอบรับ ส่วนชาเบลเปิดประตูเดินออกไปทันที
ณ ห้องทำงานของดยุกแห่งเรนฟิล่า ชาเบลเปิดประตูเดินเข้ามานั่งเก้าอี้ตรงข้ามโต๊ะทำงาน
“มีเรื่องอะไรหรือเปล่าชาเบล?” ดยุกแห่งเรนฟิล่ากล่าวถาม
ชาเบลถอนหายใจและบอกเรื่องที่ตนกังวล “ตอนที่พลังแห่งความมืดของเซเลน่าประทุออกมาและเซเลน่าได้สลบไป ลูกเห็นสมาชิกของสำนักดาร์กฟิล่าของอัชเชอร์แอบอยู่หลังต้นไม้”
“สมาชิกจากสำนักดาร์กฟิล่าแอบดูงั้นหรือ...” ดยุกแห่งเรนฟิล่ากล่าว
“ใช่แล้วขอรับท่านพ่อ เหมือนพวกสำนักดาร์กฟิล่านั้นจะรู้ว่าเซเลน่าเกิดมาพร้อมกับพลังแห่งความมืด แต่ลูกกังวลว่าพวกมันจะไปแจ้งเจ้าสำนักและหาทางเอาตัวเซเลน่าไป” ชาเบลกล่าว
“พ่อเองกังวลเหมือนกัน อีกอย่างจักรวรรดิการ์กฟิล่าอยากเป็นใหญ่ที่สุดในสามจักรวรรดิฝั่งเหนือและเป็นศัตรูกับจักรวรรดิของเราอีกด้วย” ดยุกแห่งเรนฟิล่ากล่าวด้วยความตึงเครียด
“งั้นลูกขอตัวก่อนนะขอรับท่านพ่อ” ชาเบลกล่าวพร้อมกับลุกออกจากเก้าอี้และเดินออกไป