“เซเลน่า” สาวน้อยผู้เกิดมาพร้อมกับพลังแห่งความมืด วันหนึ่งเธอได้ถูกสำนักแห่งหนึ่งลักพาตัวไป
ชาย-หญิง,รัก,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,โรแมนติกแฟนตาซี,พลังแห่งความมืด,ทูตสวรรค์,พลังพิเศษ,พระจันทร์สีเลือด,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด“เซเลน่า” สาวน้อยผู้เกิดมาพร้อมกับพลังแห่งความมืด วันหนึ่งเธอได้ถูกสำนักแห่งหนึ่งลักพาตัวไป
"เซเลน่า" เป็นเด็กสาวที่เกิดมาพร้อมกับพลังชั่วร้ายนั่นคือ "พลังแห่งความมืด" แต่พลังนั้นจะปรากฎต่อเมื่อพระจันทร์สีเลือดเต็มดวงหรือเมื่อถูกกระตุ้น เวลาต่อมาสำนักดาร์กฟิล่าได้ทราบข่าวขึ้นและบุกรุกจักรวรรดิเรนฟิล่าเพื่อเอาตัวเซเลน่าไปยังสำนัก กระตุ้นพลังแห่งความมืดของเธอโดยการใช้พลังแห่งความมืดครอบงำและการกลืนกินพลังของคนบริสุทธิ์ ทำให้เธอเข้าด้านมืดในที่สุด
จักรวรรดิดาร์กฟิล่า เป็นจักรวรรดิลำดับที่สามจากสามจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฝั่งเหนือและอยากเป็นใหญ่ที่สุด ภายในจักรวรรดิดาร์กฟิล่ายังมีสำนักดาร์กฟิล่าซึ่งมีพลังแห่งความมืดอย่างแข็งแกร่งมากเลยทีเดียว
สำนักดาร์กฟิล่านั้นปกครองโดยเจ้าสำนักอัชเชอร์ ผู้ที่มีพลังความมืดและยังเป็นบุตรชายคนเดียวของดยุกแห่งดาร์กฟิล่าหรือเจ้าสำนักคนก่อน
ณ ห้องโถงของสำนัก ชายชุดคลุมสีดำปรากฎตัวกลางห้องโถงพร้อมกับโค้งคำนับต่อชายผู้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์
“ท่านอัชเชอร์ขอรับ ข้าได้เจอคนที่เกิดมาพร้อมกับพลังแห่งความมืดแล้วขอรับ” ชายชุดคลุมสีดำกล่าว
“ผู้นั้นเป็นใคร?” อัชเชอร์กล่าวถาม
“ผู้นั้นเป็นลูกสาวคนเดียวของดยุกของจักรวรรดิเซฟิน่าขอรับ มีนามว่า เซเลน่า” ชายชุดคลุมสีดำตอบ
“หึ จักรวรรดิอันดับที่สองรองลงมาจากสามจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฝั่งเหนือนี่น่า แล้วนางผู้นั้นมีพลังนี้ได้ยังไง” อัชเชอร์กล่าวถาม
“ข้าสัมผัสได้ถึงพลังแห่งความมืดของนางผู้นั้นและได้ตามไปเจอที่บริเวณจักรวรรดิเรนฟิล่า ได้ข่าวมาว่านางไปห้ามพวกอันธพาลซึ่งกำลังรังแกคนไม่มีทางสู้อยู่ แล้วโดนพวกนั้นปาก้อนหินใส่หน้าผากจนได้รับบาดเจ็บ ทำให้นางผู้นั้นโกรธจนระเบิดพลังความมืดออกมาขอรับ”
“แล้วข้ายังได้ทราบมาอีกว่าช่วงพระจันทร์สีเลือดเต็มดวง พลังของนางจะเพิ่มขึ้นเท่าทวีคูณเลยขอรับ” ชายชุดคลุมสีดำกล่าว
“หึ ช่วงพระจันทร์สีเลือดเต็มดวง พลังแห่งความมืดจะเพิ่มขึ้นเท่าทวีคูณงั้นหรือ” อัชเชอร์กล่าวพร้อมกับยิ้มมุมปาก
ชายชุดคลุมดำก้มเคารพต่ออัชเชอร์ก่อนเอ่ยว่า “ท่านอัชเชอร์ขอรับ แต่ว่า...ชาเบล องค์รัชทายาทแห่งเรนฟิล่าได้ทำการเปลี่ยนแปลงพลังความมืดเป็นแสงสว่างแล้วขอรับ”
“หึ จักรวรรดิเรนฟิล่าผู้ที่มีพลังแสงสว่างแข็งแกร่งมากเลยทีเดียว...” อัชเชอร์กล่าว
“ถึงนางจะได้พลังแสงสว่างมาแล้วก็ตาม แต่พลังแห่งความที่อยู่ใต้จิตใจของนางก็ยังสามารถถูกตระตุ้นออกมาได้นะขอรับ” ชายคลุมดำกล่าว
“ยังไง?” อัชเชอร์สงสัย
“พลังจะถูกกระตุ้นต่อเมื่อมีคนไปกระตุ้นมันหรือไม่ก็นางจะกระตุ้นออกมาเองขอรับ” ชายชุดดำกล่าว
อัชเชอร์ยิ้มอย่างเจ้าเลห์พร้อมกับกล่าวว่า “ถ้าข้าได้ตัวของเซเลน่ามายังสำนักของข้าและกระตุ้นให้นางใช้พลังแห่งความมืดออกมา หึ ทีนี้จักรวรรดิดาร์กฟิล่าก็ได้เป็นที่หนึ่งของสามจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฝั่งเหนือแล้ว...”
ระหว่างนั้นเองประตูของสำนักเปิดออก ดยุกแห่งดาร์กฟิล่าเดินเข้ามาพอดี
“คุยเรื่องอะไรอยู่หรอเจ้าลูกชาย” ดยุกแห่งดาร์กฟิล่าเอ่ยถาม
“เจ้าจะไปไหนก็ไปซะ...” อัชเชอร์ไล่ชายชุดคลุมดำออกไป
“ขอรับท่านอัชเชอร์...” ชายชุดคลุมดำโค้งคำนับและหันหลังเดินออกไป
“ท่านพ่อ...สมาชิกของข้ามาบอกข่าวว่าได้เจอคนที่เกิดมาพร้อมกับพลังแห่งความมืด นางผู้นั้นมีชื่อว่าเซเลน่าเป็นลูกสาวของดยุกแห่งเซฟิน่าขอรับ” อัชเชอร์กล่าว
“เป็นจักรวรรดิลำดับสองรองจากสามจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฝั่งเหนือและเป็นจักรวรรดิสหารกับจักรวรรดิเรนฟิล่าศัตรูของเรา” ดยุกแห่งดาร์กฟิล่ากล่าว
“แต่นางได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าชาเบล องค์รัชทายาทแห่งเรนฟิล่าแล้วนะขอรับท่านพ่อ” อัชเชอร์โค้งคำนับพร้อมกับกล่าว
“หึ ก็ใช่สิ จักรวรรดิเรนฟิล่ามีพลังแสงสว่างที่แข็งแกร่งมากเลยทีเดียวและยังสามารถเปลี่ยนแปลงพลังได้อีกต่างหาก” ดยุกแห่งดาร์กฟิล่ากล่าว
“ถึงนางจะถูกเปลี่ยนจากพลังแห่งความมืดเป็นแสงสว่างแล้ว แต่ยังไงพลังความมืดภายใต้จิตใจของนางก็ถูกกระตุ้นออกมาได้อยู่นะขอรับ” อัชเชอร์กล่าว
“หึ แบบนี้ก็ดีสิ ถ้าเจ้าเอาตัวนางมาอยู่สำนักของเจ้าได้นะ จักรวรรดิของเราจะเป็นที่หนึ่งในสามจักรวรรดิแล้ว” ดยุกแห่งดาร์กฟิล่ากล่าว
“ว่าแต่ท่านพ่อจะให้ข้าเอาตัวนางมายังไง?” อัชเชอร์สงสัยพร้อมกับเอ่ยถาม
“ตอนนี้นางอยู่ที่จักรวรรดิเรนฟิล่าใช่ไหม...” ดยุกแห่งดาร์กฟิล่ากล่าวถาม
“ขอรับ...ท่านพ่อจะให้ข้าบุกรุกเข้าไปบริเวณจักรวรรดิเรนฟิล่าอย่างงั้นหรือ” อัชเชอร์กล่าว
ดยุกแห่งดาร์กฟิล่าพยักหน้า “ใช่แล้วล่ะ...”
“ท่านพ่อ!!! ก็รู้ดีนี้ขอรับว่าจักรวรรดิเรนฟิล่าไม่ใช่ว่าจะบุกรุกเข้าไปได้อย่างง่าย ๆ เพราะพวกเจ้านั้นมีพลังแสงสว่างที่แข็งแกร่งมาก” อัชเชอร์กล่าวด้วยความวิตกกังวล
“ข้าเชื่อว่า...พลังแห่งความมืดของเจ้าแข็งแกร่งกว่าพลังแสงสว่างของเจ้าชาเบล หรือเจ้าไม่อยากให้จักรวรรดิของเราเป็นใหญ่ที่สุดจากสามจักรวรรดิฝั่งเหนืองั้นหรือ...” ดยุกแห่งดาร์กฟิล่ากล่าว
“ข้า...ก็อยากเหมือนกันขอรับท่านพ่อ” อัชเชอร์กล่าว
“งั้นก็เอาตัวเซเลน่ามาซะ...” ดยุกแห่งดาร์กฟิล่าเอ่ยออกคำสั่งและเดินออกไป
อัชเชอร์โค้งคำนับพร้อมกับรับคำสั่ง “ขอรับท่านพ่อ...”
วันต่อมา ณ ห้องนอนภายในคฤหาสน์จักรวรรดิเรนฟิล่า เซเลน่ากำลังหลับใหลอยู่บนเตียงนอน เวลานั้นเองพลังแห่งความมืดได้ลอยเข้ามาจากหน้าต่างพุ่งตรงเข้ามาหาเซเลน่าที่เตียง
เซเลน่าค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา “หืม.....”
ณ ห้องโถงของคฤหาสน์จักรวรรดิเรนฟิล่า ดยุกแห่งเรนฟิล่ากำลังนั่งอ่านหนังสือและจิบน้ำชาอยู่ที่โซฟา ขณะนั้นเองชาเบลเดินลงบันไดมา
“ชาเบลมาพอดีเลย อาการของเซเลน่าเป็นยังไงบ้าง” ดยุกแห่งเรนฟิล่ากล่าวถาม
“อาการดีขึ้นแล้วขอรับท่านพ่อ พลังแสงสว่างใกล้จะสมบูรณ์แล้วล่ะขอรับ” ชาเบลกล่าว
“แต่กระผมอดเป็นห่วงคุณเซเลน่าไม่ได้ขอรับท่านพ่อ…” ชาเบลกล่าวด้วยความเป็นห่วง
“ทำไมล่ะ...อ๋อ เรื่องสำนักดาร์กฟิล่าใช่ไหม” ดยุกแห่งเรนฟิล่ากล่าวถาม
ชาเบลพยักหน้าพร้อมกับเอ่ยว่า “ใช่แล้วขอรับท่านพ่อ ไม่แน่ว่าอีกไม่นานเจ้าสำนักอัชเชอร์ต้องบุกรุกเข้ามาชิงตัวคุณเซเลน่าเป็นแน่”
“พวกสำนักดาร์กฟิล่าจะกล้ามาบุกรุกจักรวรรดิเรนฟิล่างั้นหรือ ตลกสิ้นดี...” ดยุกแห่งเรนฟิล่ากล่าวพร้อมกับถ้วยน้ำชาขึ้นมาจิบ
“ท่านพ่อ...อย่าทำเป็นเล่นไปสิขอรับ” ชาเบลกล่าว
“ชาเบล...ลูกจะกังวลอะไรล่ะฮะ ยังไงตระกูลของเรามีพลังแสงสว่างที่แข็งแกร่ง” ดยุกแห่งเรนฟิล่ากล่าว
“ท่านพ่อแต่ว่า...”
“เอาล่ะ ๆ ลูกไปดูแลหนูเซเลน่าเถอะ อย่าจมอะไรกับเรื่องแบบนี้” ดยุกแห่งเรนฟิล่ากล่าว
“ขอรับ...” ชาเบลทำหน้าเจื่อน
ขณะนั้นเองได้เกิดเสียงระเบิดมาจากทางด้านนอกคฤหาสน์
“บึ้ม!!!!!!!!”
ชาเบลและดยุกแห่งเรนฟิล่าเกิดอาการตื่นตกใจที่ได้ยินเสียงระเบิดมาจากด้านนอก
“เกิดอะไรขึ้นกับจักรวรรดิเรนฟิล่า...” ดยุกแห่งเรนฟิล่ากล่าว
เวลาเดียวกันนั้นทหารประจำจักรวรรดิเปิดประตูพาทหารประจำจักรวรรดิที่ได้รับบาดเจ็บเข้ามา
“เกิดอะไรขึ้นกับจักรวรรดิ แล้วนี่เจ้าเป็นอะไรถึงได้บาดเจ็บแบบนี้ล่ะ” ชาเบลเอ่ยถาม
ทหารประจำจักรวรรดิคนที่ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรโค้งคำนับพร้อมกับรายงานเหตุการณ์ “จักรวรรดิเรนฟิล่า...มีคนบุกรุกเข้ามาขอรับ”
“มีคนบุกรุกเข้ามาอย่างนั้นหรือ...” ดยุกแห่งเรนฟิล่ากล่าวและหันหน้าไปมองชาเบล
“มีคนบุกรุกเข้ามางั้นหรือ...สำนักดาร์กฟิล่า” ชาเบลครุ่นคิดในใจ “เซเลน่า!!!!” ตะโกนออกมาและรีบวิ่งไปห้องนอนที่เซเลน่านอนอยู่
“ชาเบลไปไหนลูก!!!” ดยุกแห่งเรนฟิล่าตะโกนถาม
ชาเบลวิ่งมาถึงหน้าประตูห้องนอนพร้อมกับครุ่นคิดในใจด้วยความเป็นห่วง “เซเลน่า...อย่าเป็นอะไรเลยนะ” และเปิดประตูเข้าไปดู
แต่เซเลน่าไม่ได้อยู่ในห้องนอนนั้นแล้ว พบแต่ร่องรอยของพลังแห่งความมืดที่อยู่บนเตียง
ชาเบลเดินมาที่เตียงนอนและเอามือลูบบนเตียง “นี่มัน...ร่องรอยของพลังแห่งความมืดนี่น่า!!!” และรีบวิ่งออกจากห้องเพื่อไปบอกข่าวกับดยุกแห่งเรนฟิล่า
ย้อนกลับที่ห้องโถง ชาเบลวิ่งออกจากห้องนอนและตะโกนบอกดยุกแห่งเรนฟิล่า
“ท่านพ่อ!!! เกิดเรื่องใหญ่แล้วขอรับ!!!” ชาเบลตะโกนบอก
“เกิดอะไรขึ้นชาเบล...” ดยุกแห่งเรนฟิล่าเอ่ยถาม
“เซเลน่าหายไปจากห้องนอน พบแต่ร่องรอยของพลังแห่งความมืดอยู่บนเตียงนอน” ชาเบลกล่าว
“เจ้าสำนักอัชเชอร์!!!!” ชาเบลและดยุกแห่งเรนฟิล่าพูดพร้อมกัน
ทั้งสองพ่อลูกก็ได้รีบวิ่งออกจากดูสถานการณ์ด้านนอกคฤหาสน์
ณ บริเวณด้านนอกคฤหาสน์จักรวรรดิเรนฟิล่า ชาเบลและดยุกแห่งเรนฟิล่าวิ่งออกมาพร้อมกับประชันหน้ากับอัชเชอร์
อัชเชอร์หันหน้ามาพร้อมกับทักทายทั้งสอง “สวัสดีนะชาเบลและดยุกแห่งเรนฟิล่า”
ณ ห้องทำงานของดยุกแห่งเซฟิน่า ดยุกแห่งเซฟิน่ากำลังนั่งจิบน้ำชาและอ่านหนังสืออยู่ตรงโต๊ะทำงานของตน
ขณะนั้นเองทหารประจำจักรวรรดิได้เคาะประตู “ขออนุญาตเข้าขอรับท่านดยุก”
“เข้ามา...” ดยุกแห่งเซฟิน่ากล่าว
ทหารประจำจักรวรรดิเปิดประตูเดินเข้ามาพร้อมกับโค้งคำนับและบอกข่าวสำคัญ
“ท่านดยุกขอรับ...ตอนนี้จักรวรรดิเรนฟิล่าถูกเจ้าสำนักดาร์กฟิล่าบุกรุกขอรับ”