“เซเลน่า” สาวน้อยผู้เกิดมาพร้อมกับพลังแห่งความมืด วันหนึ่งเธอได้ถูกสำนักแห่งหนึ่งลักพาตัวไป

Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด - Chapter 7 งานเฉลิมฉลองการขึ้นปกครองจักรวรรดิ โดย Dark Tales @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-หญิง,รัก,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,โรแมนติกแฟนตาซี,พลังแห่งความมืด,ทูตสวรรค์,พลังพิเศษ,พระจันทร์สีเลือด,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-หญิง,รัก,แฟนตาซี

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พล็อตสร้างกระแส,โรแมนติกแฟนตาซี,พลังแห่งความมืด,ทูตสวรรค์,พลังพิเศษ,พระจันทร์สีเลือด

รายละเอียด

Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด โดย Dark Tales  @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

“เซเลน่า” สาวน้อยผู้เกิดมาพร้อมกับพลังแห่งความมืด วันหนึ่งเธอได้ถูกสำนักแห่งหนึ่งลักพาตัวไป

ผู้แต่ง

Dark Tales

เรื่องย่อ

"เซเลน่า" เป็นเด็กสาวที่เกิดมาพร้อมกับพลังชั่วร้ายนั่นคือ "พลังแห่งความมืด" แต่พลังนั้นจะปรากฎต่อเมื่อพระจันทร์สีเลือดเต็มดวงหรือเมื่อถูกกระตุ้น เวลาต่อมาสำนักดาร์กฟิล่าได้ทราบข่าวขึ้นและบุกรุกจักรวรรดิเรนฟิล่าเพื่อเอาตัวเซเลน่าไปยังสำนัก กระตุ้นพลังแห่งความมืดของเธอโดยการใช้พลังแห่งความมืดครอบงำและการกลืนกินพลังของคนบริสุทธิ์ ทำให้เธอเข้าด้านมืดในที่สุด

สารบัญ

Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด-Chapter 1 การเกิดมาพร้อมกับความมืด,Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด-Chapter 2 พลังแห่งแสงสว่าง,Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด-Chapter 3 สำนักดาร์กฟิล่า,Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด-Chapter 4 การบุกรุกของสำนักดาร์กฟิล่า,Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด-Chapter 5 ความรักที่มีต่อเซเลน่า,Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด-Chapter 6 พลังจากทูตสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์,Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด-Chapter 7 งานเฉลิมฉลองการขึ้นปกครองจักรวรรดิ,Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด-Chapter 8 ความผิดหวังของดยุกแห่งดาร์กฟิล่า,Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด-Chapter 9 ศึกครั้งสุดท้ายในแท่นบูชาความมืด

เนื้อหา

Chapter 7 งานเฉลิมฉลองการขึ้นปกครองจักรวรรดิ

ณ คฤหาสน์จักรวรรดิเรนฟิล่า ชาเบลและดยุกแห่งเรนฟิล่าเดินทางกลับมาจากสำนักแสงสว่างบริสุทธิ์

“ชาวเมืองต้องมาถูกสังเวยด้วยพลังแห่งความมืดแบบนี้มันช่างไม่ยุติธรรมและโหดร้ายสำหรับชีวิตคน ๆ หนึ่ง” ชาเบลกล่าวด้วยความรู้สึกโศกเศร้า

“ถ้าไม่ได้ท่านคามาเอลช่วยเอาไว้ได้ทัน พ่อคงโดนลำแสงแห่งความมืดของอัชเชอร์สังหารจนสิ้นใจตามลูกไป จักรวรรดิเรนฟิล่าจะจบลงตอนนี้...” ดยุกแห่งเรนฟิล่ากล่าว

 

 

สีหน้าของชาเบลเริ่มเศร้าหมองพร้อมกับเอ่ยว่า “จริงขอรับ   ตอนที่เซเลน่าเดินมาหากระผมแววตาของเธอดูว่างเปล่าซึ่งค่อย ๆ จมดิ่งสู่ความมืดและความเจ็บปวด แล้วอีกอย่างยังมีพลังที่แข็งแกร่งมากอีกด้วย”

ชาเบลถอนหายใจก่อนที่น้ำตาจะค่อย ๆ ไหลลงอาบของเขา “เฮ้อ...ฮึก ท่านพ่อ ลูกคิดถึงและเป็นห่วงเธอมากเหลือเกิน ตอนที่...ลูกโอบกอดเธอก่อนจะถูกโจมตีด้วยพลังแห่งความมืด แววตาและความรู้สึกของเธอเหมือนเห็นลูกเป็นศัตรู” และกล่าวด้วยความรู้สึกคิดถึงและเจ็บปวด

ดยุกแห่งเรนฟิล่าหันมามองบุตรชายของตนที่กำลังโศกเศร้าอย่างหนักพร้อมกับเอื้อมมือไปจับไหล่และเอ่ยปลอบใจว่า “ชาเบล...ลูกร้องไห้ไปได้อะไรล่ะฮะ พ่อรู้ดีว่าลูกรักและคิดถึงเธอมาก ถ้าลูกไม่เข้มแข็งก็ไม่สามารถช่วยเหลือเธอได้ แล้วไม่ได้เซเลน่ากลับคืนมานะ”

“อีกไม่กี่เดือนลูกจะขึ้นเป็นดยุกปกครองจักรวรรดิเรนฟิล่าอยู่แล้วนะ จะมาเป็นผู้ชายขี้แย้อยู่แบบนี้อีกหรอฮะ” ดยุกแห่งเรนฟิล่ากล่าว

ชาเบลเช็ดน้ำตาที่อาบแก้มของตนพร้อมกับเอ่ยว่า “ใช่...ท่านพ่อ ถ้าลูกไม่เข้มแข็งก็ไม่สามารถช่วยเหลือเซเลน่าจากสำนักดาร์กฟิล่าได้   อีกไม่นานกระผมจะได้เป็นดยุกแห่งเรนฟิล่า คุณสมบัติของการเป็น  ดยุกคือ เข้มแข็ง กล้าหาญ ถ้ายังเป็นผู้ชายขี้แย้อยู่แบบนี้ ลูกจะเป็น  ดยุกที่ดีได้อย่างไรล่ะ”

ดยุกแห่งเรนฟิล่าปรบมือให้กับชาเบล “ใช่แล้วล่ะ พ่อเชื่อว่าลูกต้องทำหน้าที่การเป็นดยุกได้ดีแน่นนอน”

“ว่าแต่ท่านพ่อเชิญชวนท่านลุงหรือยังขอรับ” ชาเบลกล่าวถาม

“พ่อกำลังจะเขียนจดหมายเชิญชวนไปนะ” ดยุกแห่งเรนฟิล่ากล่าว

“ทำไมท่านพ่อไม่ไปที่จักรวรรดิเซฟิน่าเลยละขอรับ อาจจะได้พูดคุยกันด้วยขอรับ” ชาเบลกล่าวยื่นข้อเสนอ

ดยุกแห่งเรนฟิล่ารับฟังข้อเสนอจากชาเบลและครุ่นคิดอยู่สักพักก่อนเอ่ยขึ้นมาว่า “ความคิดดีมากชาเบล งั้นพรุ่งนี้เราไปที่จักรวรรดิ    เซฟิน่ากัน”

ชาเบลโค้งคำนับพร้อมกับเอ่ยว่า “ขอรับท่านพ่อ”

 

เช้าวันต่อมา ณ จักรวรรดิเซฟิน่า รถม้าจากจักรวรรดิเรนฟิล่าเดินทางถึงหน้าคฤหาสน์จักรวรรดิเซฟิน่า จากนั้นประตูของรถม้าเปิดออก ตอนนั้นเองชาเบลและดยุกแห่งเรนฟิล่าเดินลงจากรถม้า

ดยุกแห่งเซฟิน่ากำลังนั่งจิบน้ำชาพร้อมกับหนังสืออยู่ในห้องทำงานของเขา เวลานั้นเองทหารประจำจักรวรรดิเปิดประตูเดินเข้ามาพร้อมกับโค้งคำนับ

“ท่านดยุกขอรับ ดยุกแห่งเรนฟิล่าพร้อมกับองค์รัชทายาทมาขอเข้าพบขอรับ รออยู่ที่ห้องโถงรับรองแขกขอรับ” ทหารประจำจักรวรรดิกล่าว

“โชคดีจังเลยนะ ดยุกแห่งเรนฟิล่ากับชาเบลปลอดภัยดี” ดยุกแห่งเซฟิน่าครุ่นคิดในใจพร้อมกับพยักหน้าและออกคำสั่งว่า       “อืม...เดี๋ยวฉันตามไป”

ทหารประจำจักรวรรดิโค้งคำนับและรับคำสั่ง “ขอรับท่านดยุก” และเดินออกจากห้องทำงานของเขา

ดยุกแห่งเซฟิน่าวางหนังสือลงบนโต๊ะและลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วเดินอ้อมโต๊ะออกจากห้องทำงานไปยังห้องโถงรับรองแขก

 

ณ ห้องโถงรับรองแขก ทหารประจำจักรวรรดิเดินเข้ามาห้องโถงรับรองแขกซึ่งชาเบลและดยุกแห่งเรนฟิล่านั่งอยู่ตรงโซฟา

“รอท่านดยุกแห่งเซฟิน่าสักครู่นะขอรับ กำลังมาขอรับ” ทหารประจำจักรวรรดิกล่าวและถอยหลังเดินออกไป

ดยุกแห่งเรนฟิล่าพยักหน้าตอบรับ ระหว่างนั้นเองดยุกแห่งเซฟิน่าเดินเข้ามาห้องโถงรับรองแขก

“ดยุกแห่งเรนฟิล่าและชาเบลเป็นยังไงบ้าง ปลอดภัยดีใช่ไหม...” ดยุกแห่งเรนฟิล่ากล่าวด้วยความรู้สึกเป็นห่วง

ชาเบลกับดยุกแห่งเรนฟิล่าหันหน้ามามองกันที่ดยุกแห่งเซฟิน่าได้ทราบว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นกับบริเวณเมืองจักรวรรดิเรนฟิล่า

“ปลอดภัยขอรับท่านดยุกแห่งเรนฟิล่า แต่ไม่ทราบว่าท่านรู้ได้ไงขอรับ” ชาเบลกล่าวถาม

“ทราบมาจากทหารของฉันเองแหละ ทั้งสองปลอดภัยก็ดีแล้วล่ะ ได้ข่าวว่าเจ้าสำนักอัชเชอร์พร้อมกับเซเลน่าลูกสาวของฉันเข้ามาบุกรุกโจมตีบริเวณเมืองจักรวรรดิเรนฟิล่าและสังหารชาวเมืองเพื่อสังเวยเป็นพลังแห่งความมืด แล้วยังทราบอีกว่าชาเบลโดนโจมตีจากพลังแห่งความมืดของเซเลน่าเข้ากลางอก” ดยุกแห่งเซฟิน่ากล่าวด้วยความรู้สึกเสียใจ

“ส่วนฉันก็...เกือบโดนอัชเชอร์สังหารด้วยลำแสงแห่งความมืด” ดยุกแห่งเรนฟิล่าเล่าเหตุการณ์

“ใช่...เรื่องนั้นฉันเองก็ทราบเหมือนกัน ฉันคิดว่าทั้งสองสิ้นใจไปแล้วและจักรวรรดิเรนฟิล่าคงจบลงตอนนี้แล้วซะอีก แต่ตอนนี้เห็นพวกท่านปลอดภัยก็ดีใจแล้วล่ะ” ดยุกแห่งเซฟิน่ากล่าวด้วยความรู้สึกโล่งใจ

“ตอนนั้น...ฉันเองก็คิดเหมือนกัน แต่ได้รับการช่วยเหลือท่านคามาเอลจากสำนักแสงสว่างบริสุทธิ์” ดยุกแห่งเรนฟิล่ากล่าว

ดยุกแห่งเซฟิน่าเกิดความรู้สึกตะลึงที่ได้ยินชื่อของสำนักแสงสว่างบริสุทธิ์พร้อมกับเอ่ยว่า “สำนักที่มีทูตสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองอยู่นี่น่าและเป็นพลังที่สามารถต่อกรกับพลังแห่งความมืดได้ด้วย”

ชาเบลยืนขึ้นพร้อมร่ายพลังทูตสวรรค์และดาบทูตสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ให้ดยุกแห่งเรนฟิล่าได้ชม

แววตาของดยุกแห่งเซฟิน่าเปร่งประกายลุกแววที่ได้เห็นขนปีกสีทองรอบ ๆ ตัวของชาเบลและดาบทูตสวรรค์พร้อมกับเอ่ยถามว่า “ดาบทูตสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์นี่น่า อาวุธคู่กายของท่านทูตสวรรค์ไม่ใช่หรอ ชาเบลได้มายังไง”

ชาเบลโค้งคำนับต่อดยุกแห่งเซฟิน่าพร้อมกับเอ่ยว่า “ท่านทูตสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์มอบพลังและดาบให้แก่กระผมขอรับท่านลุง”

“ท่านทูตสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์บอกว่าชาเบลเหมาะสมกับการได้รับพลังและดาบทูตสวรรค์รวมทั้งเป็นดยุกที่ดีอีกด้วยแหละ” 
ดยุกแห่งเรนฟิล่ากล่าว

“ดยุกที่ดี? หมายความว่าชาเบลใกล้จะขึ้นเป็นดยุกปกครองจักรวรรดิเรนฟิล่าแล้วหรอ” ดยุกแห่งเซฟิน่ากล่าวด้วยความรู้สึกตกใจ

ชาเบลและดยุกแห่งเรนฟิล่าพยักหน้ายืนยันก่อนที่ดยุกแห่งเรนฟิล่าเอ่ยว่า “ใช่แล้วล่ะ ที่ฉันกับลูกมาวันนี้เพราะจะชวนเชิญท่านดยุกมาร่วมเฉลิมฉลองงานขึ้นปกครองจักรวรรดิของชาเบลนะขอรับ”

ดยุกแห่งเซฟิน่าพยักหน้าตอบรับ “ได้สิ ฉันไปร่วมงานอยู่แล้วล่ะ เพราะยังไงจักรวรรดิของเราทั้งสองเป็นมิตรสหารกันอยู่แล้วอีกอย่างลูกของท่านก็เป็นถึงว่าที่ลูกเขยของฉันอีกด้วยจะไม่ไปก็ไม่ได้”

ชาเบลเอามือลูบหัวตัวเองด้วยความรู้สึกเขิน ส่วนดยุกแห่งเรนฟิล่าแอบหัวเราะเบา ๆ ที่ลูกชายของตนถูกเรียกว่าว่าที่ลูกเขย

“งั้นเจอกันตอนวันงานเฉลิมฉลองนะขอรับ ฉันกับลูกขอตัว   กลับจักรวรรดิก่อนนะ” ดยุกแห่งเรนฟิล่ากล่าวและลุกจากเก้าอี้เดินออกไปพร้อมกับชาเบล

วันที่ชาเบลขึ้นเป็นดยุกปกครองจักรวรรดิเรนฟิล่า ณ สำนักดาร์กฟิล่า ประตูสำนักเปิดออกดยุกแห่งดาร์กฟิล่ารีบเดินเข้ามาตรงบัลลังก์ที่อัชเชอร์กำลังนั่งอยู่เหมือนกับมีเรื่องอะไรบางอย่าง

“อัชเชอร์!!! เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!!!” ดยุกแห่งดาร์กฟิล่าตะโกนด้วยความรู้สึกคับแค้น

“เกิดเรื่องอะไรขึ้นขอรับท่านพ่อ...” อัชเชอร์กล่าวถาม

“ตอนนี้จักรวรรดิเรนฟิล่ามีงานเฉลิมฉลองการขึ้นปกครองจักรวรรดิของเจ้าชาเบลไงล่ะ” ดยุกแห่งดาร์กฟิล่ากล่าว

“ว่าไงนะท่านพ่อ!!! เป็นไปได้ไง...เจ้าชาเบลถูกเซเลน่าสังหารไปแล้วไม่ใช่หรอ” อัชเชอร์กล่าวด้วยความรู้สึกไม่เชื่อ

“นั้นนะสิ...สุดท้ายจักรวรรดิเรนฟิล่าก็รุ่งโรจน์อยู่ดีเห็นไหมอัชเชอร์!!! ถ้าเจ้าไม่พ่ายแพ้ให้กับเจ้าสำนักคามาเอล พวกมันก็จะจบลงแล้วล่ะ” ดยุกแห่งดาร์กฟิล่ากล่าวด้วยความรู้สึกผิดหวัง

อัชเชอร์ตีหน้าเศร้า “เจ็บใจจริง ๆ ไม่เชื่อว่าพลังของเจ้าสำนักคามาเอลแข็งแกร่งขนาดนี้ แล้วพวกเราจะทำยังไงต่อดีล่ะขอรับท่านพ่อ” และกล่าวถาม

“จะให้ข้าทำไงได้ล่ะ...เจ้าจงไปถล่มงานเฉลิมฉลองของเจ้าชาเบลซะ แล้วอย่าให้ข้าผิดหวังอีกล่ะกัน” ดยุกแห่งดาร์กฟิล่าออกคำสั่งและเดินออกไป

อัชเชอร์โค้งคำนับรับคำสั่ง “ขอรับท่านพ่อ ข้าจะไม่ให้ท่านพ่อผิดหวังขอรับ”

 

ณ ห้องโถงงานเลี้ยง ดยุกแห่งเซฟิน่าและคามาเอลเดินทางมาถึงแล้ว

ชาเบลโค้งคำนับต่อดยุกแห่งเซฟิน่าและคามาเอล “ท่านลุงและท่านคามาเอล สวัสดีขอรับ”

“ขอแสดงยินดีด้วยนะ ลุงเชื่อว่าชาเบลต้องทำหน้าที่ของดยุกได้ดีแน่นอน” ดยุกแห่งเซฟิน่ากล่าว

“ข้าก็ขอให้ท่านทูตสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองจักรวรรดิเรนฟิล่านะ” คามาเอลกล่าวอวยพร

“ขอบคุณมากทั้งท่านลุงและท่านคามาเอลขอรับ งั้นเริ่มพิธีเลยดีไหมขอรับท่านพ่อ” ชาเบลกล่าวขอบคุณและถาม

ดยุกแห่งเรนฟิล่าพยักหน้าและเดินไปยังบัลลังก์พร้อมกับชาเบล

เอาล่ะทุกคน ต่อจากไปนี้ ฉันดยุกแห่งเรนฟิล่าขอสละบัลลังก์และแต่งตั้งองค์รัชทายาทชาเบลบุตรชายเพียงผู้หนึ่งของฉันขึ้นเป็น  ดยุกปกครองจักรวรรดิเรนฟิล่า ณ บัดนี้

“ดยุกชาเบลจงเจริญ ดยุกชาเบลจงเจริญ” ทุกคนภายในห้องโถงส่งเสียงอวยพรแก่ดยุกองค์ใหม่

แต่บริเวณชั้นสองของห้องโถงได้มีอัชเชอร์พร้อมกับเซเลน่ากำลังเฝ้ามองสถานการณ์อยู่

“เจ้าชาเบลยังไม่ตายจริง ๆ ด้วย แล้วยังกลับรับตำแหน่งดยุกแห่งเรนฟิล่าได้อีก” อัชเชอร์ครุ่นคิดในใจ

“หึ น่ารำคาญชะมัด” เซเลน่ากล่าวพึมพำและร่ายพลังแห่งความมืดถล่มงานเฉลิมฉลอง

ภายในงานเฉลิมฉลองเต็มไปด้วยพลังแห่งความมืดและผู้คนภายในห้องโถงแตกตื่น

“เกิดอะไรขึ้น!!!” ลอร์ดเรนฟิล่ากล่าวถามด้วยความรู้สึกตื่นตกใจ

ชาเบลมองตามพลังแห่งความมืดจนไปถึงชั้นสองของห้องโถงและได้เห็นเซเลน่ากำลังร่ายพลังถล่มงานอยู่จึงได้เดินขึ้นไปห้าม

ชาเบลได้ประชันหน้ากับอัชเชอร์ “ชาเบล...เจ้ายังไม่ตาย” อัชเชอร์กล่าวถาม

“ใช่...ฉันยังไม่ตาย แกผิดหวังใช่ไหมล่ะ” ชาเบลกล่าว

“หึ...ใช่...แต่วันนี้เจ้าต้องตายอีกครั้งด้วยเงื้อมมือของข้าเอง!!” อัชเชอร์กล่าวพร้อมกับโจมตีชาเบลด้วยลำแสงแห่งความมืด

“วันนี้ฉันจะต้องไม่ตายอีกครั้ง...” ชาเบลครุ่นคิดพร้อมกับร่ายพลังทูตสวรรค์และใช้ดาบทูตสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ป้องกันลำแสงแห่งความมืดจากอัชเชอร์

“หา...เป็นไปไง...ทำไมเจ้าชาเบลถึงได้มีพลังทูตสวรรค์ได้” อัชเชอร์ครุ่นคิดด้วยความรู้สึกตกใจ

ระหว่างชาเบลกับอัชเชอร์กำลังประชันพลังกันอยู่ ดยุกแห่งเซฟิน่าได้เดินขึ้นมาและเข้าไปห้ามเซเลน่าผู้เป็นบุตรสาวของตน แต่   กลับโดนเซเลน่าโจมตีด้วยพลังแห่งความมืด

ดยุกแห่งเซฟิน่ากระเด็นล้มลง “โอ๊ย....”

“พลังของข้าจะต่อกรกับพลังของเจ้าชาเบลไม่ไหวแล้วข้าต้องหนีก่อนแล้ว” อัชเชอร์ครุ่นคิดและเปิดประตูแห่งความมืดหนีไป

“หึ เจ้าอัชเชอร์หนีหายไปอีกแล้ว” ชาเบลกล่าว

“พอเห็นพลังและดาบทูตสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์เจ้านั้นเกิดอาการหวาดกลัวขึ้นมาเลยหรอ หึ สงสัยไม่กล้าต่อกรเลยหนีไป” 
คามาเอลกล่าว

ชาเบลมองดาบทูตสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ของตนก่อนที่ร่ายพลังเก็บดาบ ส่วนลอร์ดเรนฟิล่าเดินไปหาดยุกแห่งเซฟิน่าที่นอนได้บาดเจ็บอยู่

“ท่านดยุกแห่งเซฟิน่า อาการเป็นยังไง เจ็บมากไหม” ลอร์ดเรนฟิล่าเอ่ยถามด้วยความรู้สึกเป็นห่วง

“แต่ข้าว่าเหมือนท่านดยุกแห่งเซฟิน่าจะได้บาดเจ็บอย่างหนักนะขอรับ” คามาเอลกล่าว

“ใช่ขอรับ...ท่านคามาเอล” ดยุกแห่งเซฟิน่ากล่าวและสลบไป

ลอร์ดเรนฟิล่าโค้งคำนับต่อคามาเอลพร้อมกับขอร้องให้ช่วยสหารของตน “ท่านคามาเอลขอรับ โปรดช่วยสหารของกระผมด้วยนะขอรับ”

คามาเอลพยักหน้ารับคำขอร้องพร้อมกับตบมือเรียกองครักษ์ประจำสำนัก

“องครักษ์แห่งข้าโปรดพาดยุกแห่งเซฟิน่าไปที่สำนักเดี๋ยวนี้”