“เซเลน่า” สาวน้อยผู้เกิดมาพร้อมกับพลังแห่งความมืด วันหนึ่งเธอได้ถูกสำนักแห่งหนึ่งลักพาตัวไป

Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด - Chapter 8 ความผิดหวังของดยุกแห่งดาร์กฟิล่า โดย Dark Tales @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-หญิง,รัก,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,โรแมนติกแฟนตาซี,พลังแห่งความมืด,ทูตสวรรค์,พลังพิเศษ,พระจันทร์สีเลือด,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-หญิง,รัก,แฟนตาซี

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พล็อตสร้างกระแส,โรแมนติกแฟนตาซี,พลังแห่งความมืด,ทูตสวรรค์,พลังพิเศษ,พระจันทร์สีเลือด

รายละเอียด

Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด โดย Dark Tales  @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

“เซเลน่า” สาวน้อยผู้เกิดมาพร้อมกับพลังแห่งความมืด วันหนึ่งเธอได้ถูกสำนักแห่งหนึ่งลักพาตัวไป

ผู้แต่ง

Dark Tales

เรื่องย่อ

"เซเลน่า" เป็นเด็กสาวที่เกิดมาพร้อมกับพลังชั่วร้ายนั่นคือ "พลังแห่งความมืด" แต่พลังนั้นจะปรากฎต่อเมื่อพระจันทร์สีเลือดเต็มดวงหรือเมื่อถูกกระตุ้น เวลาต่อมาสำนักดาร์กฟิล่าได้ทราบข่าวขึ้นและบุกรุกจักรวรรดิเรนฟิล่าเพื่อเอาตัวเซเลน่าไปยังสำนัก กระตุ้นพลังแห่งความมืดของเธอโดยการใช้พลังแห่งความมืดครอบงำและการกลืนกินพลังของคนบริสุทธิ์ ทำให้เธอเข้าด้านมืดในที่สุด

สารบัญ

Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด-Chapter 1 การเกิดมาพร้อมกับความมืด,Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด-Chapter 2 พลังแห่งแสงสว่าง,Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด-Chapter 3 สำนักดาร์กฟิล่า,Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด-Chapter 4 การบุกรุกของสำนักดาร์กฟิล่า,Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด-Chapter 5 ความรักที่มีต่อเซเลน่า,Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด-Chapter 6 พลังจากทูตสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์,Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด-Chapter 7 งานเฉลิมฉลองการขึ้นปกครองจักรวรรดิ,Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด-Chapter 8 ความผิดหวังของดยุกแห่งดาร์กฟิล่า,Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด-Chapter 9 ศึกครั้งสุดท้ายในแท่นบูชาความมืด

เนื้อหา

Chapter 8 ความผิดหวังของดยุกแห่งดาร์กฟิล่า

องครักษ์ประจำสำนักปรากฎตัวและโค้งคำนับต่อคามาเอล “ทำความเคารพต่อท่านคามาเอลขอรับ...รับทราบขอรับ” และได้อุ้มดยุกแห่งเซฟิน่ากลับไปยังสำนัก

 

ณ สำนักดาร์กฟิล่า ดยุกแห่งดาร์กฟิล่านั่งรอฟังข่าวที่อัชเชอร์ไปถล่มงานเฉลิมฉลองการขึ้นปกครองจักรวรรดิของชาเบล จากนั้นประตูแห่งความมืดปรากฏขึ้นมากลางสำนักอัชเชอร์และเซเลน่าเดินออกมา

“เป็นยังไงบ้างล่ะ...” ดยุกแห่งดาร์กฟิล่ากล่าวถาม

อัชเชอร์โค้งคำนับพร้อมกับเอ่ยว่า “เซเลน่า...ถล่มงานเฉลิมฉลองของเจ้าชาเบลสำเร็จขอรับท่านพ่อ”

“หึ...ดีมากนะ แล้วเจ้าชาเบลล่ะ...ลักลอบสังหารสำเร็จหรือไหม” ดยุกแห่งดาร์กฟิล่ากล่าวถาม

“เอ่อ...คือว่า...” อัชเชอร์อำอึ้ง

“ว่ายังไง!!!” ดยุกแห่งดาร์กฟิล่ากล่าว

“ข้า...สังหารเจ้าชาเบลไม่สำเร็จขอรับ” อัชเชอร์กล่าวพร้อมกับหลบหน้าหลบตา

ดยุกแห่งดาร์กฟิล่าเกิดอาการโกรธอย่างหนักและระเบิดพลัง  แห่งความมืดขึ้นมาบีบคอบุตรชายของตน

“เจ้าถล่มงานเฉลิมฉลองของเจ้าชาเบลสำเร็จ แต่กลับลักลอบสังหารเจ้านั้นไม่สำเร็จ ข้าผิดหวังในตัวของเจ้าจริง ๆ เลยที่ไม่เคยทำอะไรสำเร็จสักที!!!” ดยุกแห่งดาร์กฟิล่ากล่าวพร้อมกับปล่อยอัชเชอร์ลัมลงกระแทกอย่างแรง

อัชเชอร์ล้มลงและจับคอตัวเองก่อนที่จะเอ่ยบอกพ่อของตนว่า “ท่านพ่อ...ข้าเกือบสังหารเจ้านั้นด้วยลำแสงแห่งความมืด แต่...ท่านพ่อรู้อะไรไหม”

ดยุกแห่งดาร์กฟิล่านั่งย่อลงพร้อมกับเอ่ยเหตุผล “ว่าอะไร...เจ้ามีข้อแก้ตัวอะไรอีกหรือ”

“เจ้าชาเบลมันมีพลังและดาบทูตสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ขอรับท่านพ่อ...” อัชเชอร์กล่าว

ดยุกแห่งดาร์กฟิล่าได้ยินแบบนั้นเกิดอาการหวาดกลัวขึ้นมาทันที

“พลังทูตสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์อย่างนั้นหรือ...เจ้านั้นมีพลังนั้นได้ยังไง” ดยุกแห่งดาร์กฟิล่ากล่าวพึมพำ

อัชเชอร์ลุกขึ้นมาตั้งหลัก “ข้าเองก็ไม่ทราบขอรับท่านพ่อ แต่รู้มาว่าพลังของทูตสวรรค์แข็งแกร่งกว่าพลังแสงสว่างธรรมดา ๆ และสามารถต่อกรกับพลังแห่งความมืดได้ แล้วพวกเราจะทำยังไงกันดีขอรับ” และกล่าวถาม

“แต่ข้าผิดหวังในตัวเจ้าจริง ๆ เลยคราวนี้ ข้ามีเรื่องจะบอกว่าอีกไม่กี่วันพระจันทร์สีเลือดจะปรากฎขึ้น แล้วข้าจะพาเซเลน่าไปทำพิธีที่แท่นบูชาความมืด” ดยุกแห่งดาร์กฟิล่ากล่าว

“แท่นบูชาความมืด? คืออะไรหรอขอรับท่านพ่อ” อัชเชอร์เอ่ยถามพ่อของตนด้วยความรู้สึกสงสัย

“แท่นบูชาความมืด...คืออะไรนั้นนะหรอ แท่นบูชาความมืดแห่งจักรวรรดิดาร์กฟิล่าเป็นแท่นบูชาและพิธีกรรมเก่าแก่ของจักรวรรดิเลยก็ว่าได้” ดยุกแห่งดาร์กฟิล่ากล่าว

 

“แล้วทำไมต้องให้เซเลน่าทำพิธีที่แท่นบูชาความมืดด้วยหรือขอรับ” อัชเชอร์กล่าวถาม

“การทำพิธีแท่นบูชาความมืดต้องช่วงพระจันทร์สีเลือดปรากฏเท่านั้น แล้วเซเลน่าก็เกิดช่วงนั้นอีกด้วยและจะมีพลังแห่งความมืดเพิ่มขึ้นเท่าทวีคูณ ข้าเลยต้องทำพิธีให้เซเลน่าเพื่อเข้าด้านมืดและเป็นคนของเราอย่างสมบูรณ์” ดยุกแห่งดาร์กฟิล่ากล่าว

“พิธีแท่นบูชาความมืดทำให้เซเลน่าเข้าด้านมืดอย่างสมบูรณ์งั้นหรือ...เป็นความคิดที่ดีมากขอรับท่านพ่อ” อัชเชอร์กล่าวเห็นด้วย   กับพ่อของตน

ดยุกแห่งดาร์กฟิล่ามองอัชเชอร์พร้อมกับยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเลห์

“ท่านพ่อ...มองข้าอย่างนี้คืออย่างไงขอรับ” อัชเชอร์กล่าวถาม

“ข้าว่า...เจ้าควรทำพิธีแท่นบูชาความมืดด้วยนะ” ดยุกแห่งดาร์กฟิล่า

“ทำไมหรือขอรับ” อัชเชอร์กล่าวถามด้วยความรู้สึกสงสัย

“แท่นบูชาความมืดมีพลังอันหนึ่งที่แข็งแกร่งมากสามารถต่อกรกับพลังทูตสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ได้เลยล่ะ ซึ่งนั้นก็คือพลังความมืดทมิฬ”   ดยุกแห่งดาร์กฟิล่ากล่าว

“พลังความมืดทมิฬงั้นหรือ?” อัชเชอร์สงสัย

“เป็นพลังแห่งความมืดที่ขึ้นชื่อว่าร้ายกาจมากเลยล่ะ แต่ไม่มี  ใครกล้าครอบครองมันได้เพราะผู้ใดที่ครอบครองมันต้องถูกพลังนั้นครอบงำไปตลอดกาล” ดยุกแห่งดาร์กฟิล่ากล่าว

“แต่...ท่านพ่อจะให้ข้าเสี่ยงกับพลังนี้งั้นหรือ” อัชเชอร์ถามด้วยความวิตกกังวล

“ไม่ลองก็ไม่รู้...ครั้งนี้จักรวรรดิดาร์กฟิล่าต้องขึ้นเป็นจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฝั่งเหนือให้ได้” ดยุกแห่งดาร์กฟิล่ากล่าวและเดินออกไป

 

ณ ห้องบูชาทูตสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ องครักษ์ประจำสำนักวางดยุกแห่งเซฟิน่านอนลงแท่นบูชา ส่วนคามาเอลหยิบน้ำยาแสงสว่าง    แห่งทูตสวรรค์ที่ชั้นวางขึ้นมา

“นี่คือ...น้ำยาแสงสว่างแห่งทูตสวรรค์ สามารถช่วยรักษาคนที่โดนโจมตีพลังแห่งความมืดได้” คามาเอลกล่าวและหยดน้ำยาแสงสว่างให้กับดยุกแห่งเซฟิน่า

ดยุกแห่งเซฟิน่าลืมตาฟื้นสติขึ้นมาจากอาการบาดเจ็บ

“ท่านเป็นยังไงบ้าง” ลอร์ดเรนฟิล่าเอ่ยถามอาการ

“ฉันรู้สึกขึ้นแล้วล่ะ กระผมขอขอบคุณท่านคามาเอลมากขอรับ” ดยุกแห่งเซฟิน่าตอบกลับและกล่าวขอบคุณ

คามาเอลโค้งคำนับต่อดยุกแห่งเซฟิน่า “ขอรับท่านดยุก ข้ายินดีที่จะช่วยอยู่แล้วขอรับ ส่วนน้ำยาแสงสว่างแห่งทูตสวรรค์นี้ ข้าจะเก็บไว้ให้เซเลน่าด้วยเพราะสามารถฟื้นฟูพลังแห่งความมืดกลายเป็นแสงสว่างได้”

“แล้วอย่างต่อดีล่ะที่นี้ เราจะช่วยเหลือเซเลน่ายังไง” ชาเบลกล่าวถาม

“อีกไม่กี่วันพระจันทร์สีเลือดจะปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าแล้ว ดังนั้นดยุกแห่งดาร์กฟิล่าจะพาตัวเซเลน่าไปพิธีที่แท่นบูชาความมืด”    คามาเอลกล่าว

“แท่นบูชาความมืดคืออะไรหรือขอรับ” ชาเบลเอ่ยถามด้วยความรู้สึกสงสัย

“พิธีแท่นบูชาความมืดเป็นพิธีกรรมเก่าแก่มากของจักรวรรดิ  ดาร์กฟิล่า ถ้าเซเลน่าโดนทำพิธีสำเร็จล่ะก็...ต้องจมดิ่งสู่ความมืดไปตลอดกาล” คามาเอลกล่าว

“ถ้าพวกนั้นทำพิธีสำเร็จ แสดงว่าเซเลน่าเข้าสู่ด้านมืดไป      ตลอดกาล เราจะไม่สามารถทำให้เซเลน่ากลับมาได้ใช่ไหมขอรับ”    ชาเบลเอ่ยด้วยความรู้สึกวิตกกังวล

คามาเอลพยักหน้ายืนยัน

“แล้วพวกเราทำยังไงกันดีล่ะ ถ้าขืนเป็นแบบนี้อยู่จักรวรรดิเรนฟิล่ากับจักรวรรดิเซฟิน่าล่มสลายเป็นแน่” ชาเบลเอ่ยถามด้วยความรู้สึกตึงเครียด

“มีวิธีหนึ่งที่ช่วยทำให้พวกนั้นทำไม่สำเสร็จ” คามาเอลกล่าว

“ยังไงขอรับ...” ลอร์ดเรนฟิล่าเอ่ยถาม

“ขัดขวางพิธีแท่นบูชาความมืดของพวกนั้นไงล่ะ” คามาเอลเสนอความคิด

ชาเบลครุ่นคิดในใจอยู่ครู่หนึ่ง “ขัดดขวางการทำพิธีแท่นบูชาความมืดงั้นหรือ”

“พ่อว่าอย่างนั้นก็ดีนะ วันที่พระจันทร์สีเลือดปรากฏพวกเราจะขัดขวางพิธีและช่วยเหลือเซเลน่ามาให้ได้” ลอร์ดเรนฟิล่ากล่าว

“ถ้าท่านพ่อว่าอย่างนั้น...ลูกก็เห็นด้วยขอรับ งั้นพวกเราขอตัวกลับจักรวรรดิก่อนนะขอรับ” ชาเบลกล่าวเห็นด้วยและเดินออกไปพร้อมกับลอร์ดเรนฟิล่าและดยุกแห่งเซฟิน่า

 

ณ แท่นบูชาความมืด พระจันทร์สีเลือดปรากฎขึ้นสู่ท้องฟ้า อัชเชอร์ เซเลน่าและดยุกแห่งดาร์กฟิล่าได้เดินเข้ามายังแท่นบูชาความมืด

“พระจันทร์สีเลือดปรากฏและส่องสว่างไปยังแท่นบูชาความมืด ได้เวลาทำพิธีบูชาความมืดให้เซเลน่าเพื่อสังเวยเข้าสู่ด้านมืดไปตลอดกาลแล้ว” ดยุกแห่งดาร์กฟิล่ากล่าว

“นี่หรอ...แท่นบูชาความมืดที่เก่าแก่ของจักรวรรดิดาร์กฟิล่า”    อัชเชอร์กล่าวถาม

“ใช่แล้วล่ะ เจ้าลองดูไหมล่ะ?” ดยุกแห่งดาร์กฟิล่ากล่าว

อัชเชอร์ก้าวเดินไปยังแท่นบูชาความมืด

ดยุกแห่งดาร์กฟิล่าหยิบกรีชประจำจักรวรรดิขึ้นมาแล้วกรีดไปที่ฝ่ามือพร้อมกับประทับลงบนพื้นแท่นบูชา

“ด้วยพลังและอำนาจจากแสงพระจันทร์สีเลือดและแท่นบูชาความมืดจงมอบพลังความมืดทมิฬแก่อัชเชอร์บุตรแห่งข้าด้วยเถิด”    ดยุกแห่งดาร์กฟิล่ากล่าว

แสงจากพระจันทร์สีเลือดสาดส่องลงมาและควันแห่งความืดปกคลุมไปทั่วแท่นบูชา ร่างของอัชเชอร์ค่อย ๆ ลอยขึ้นพร้อมกับได้รับพลังและอาวุธใหม่ที่ร้ายกาจมากกว่าพลังแห่งความมืดธรรมดาทั่ว ๆ ไป ซึ่งนั้นก็คือพลังความมืดทมิฬนั่นเอง

หลังจากแสงนั้นดับลงอัชเชอร์ลอยลงมาสู่พื้นอีกครั้ง ควันแห่งความมืดจางหายไปปรากฎตัวของอัชเชอร์ในร่างความมืดทมิฬ

“ร่างความมืดทมิฬอย่างนั้นหรือ...” ดยุกแห่งดาร์กฟิล่าครุ่นคิดในใจ

“ในที่สุดข้าก็ได้ครองครอบพลังความมืดทมิฬแล้วล่ะ หึ แสดงว่าข้าสามารถสังหารเจ้าชาเบลได้แล้วสิ...ถึงเจ้านั้นมีพลังทูตสวรรค์ก็ตาม” อัชเชอร์กล่าว

ระหว่างนั้นเองสมาชิกของสำนักดาร์กฟิล่าได้เดินเข้ามาบอกข่าวว่า “ท่านอัชเชอร์ ท่านดยุกขอรับ พวกจากจักรวรรดิเรนฟิล่าและจักรวรรดิเซฟิน่าบุกรุกเข้ามาขอรับ”