“เซเลน่า” สาวน้อยผู้เกิดมาพร้อมกับพลังแห่งความมืด วันหนึ่งเธอได้ถูกสำนักแห่งหนึ่งลักพาตัวไป

Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด - Chapter 9 ศึกครั้งสุดท้ายในแท่นบูชาความมืด โดย Dark Tales @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-หญิง,รัก,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,โรแมนติกแฟนตาซี,พลังแห่งความมืด,ทูตสวรรค์,พลังพิเศษ,พระจันทร์สีเลือด,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-หญิง,รัก,แฟนตาซี

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พล็อตสร้างกระแส,โรแมนติกแฟนตาซี,พลังแห่งความมืด,ทูตสวรรค์,พลังพิเศษ,พระจันทร์สีเลือด

รายละเอียด

Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด โดย Dark Tales  @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

“เซเลน่า” สาวน้อยผู้เกิดมาพร้อมกับพลังแห่งความมืด วันหนึ่งเธอได้ถูกสำนักแห่งหนึ่งลักพาตัวไป

ผู้แต่ง

Dark Tales

เรื่องย่อ

"เซเลน่า" เป็นเด็กสาวที่เกิดมาพร้อมกับพลังชั่วร้ายนั่นคือ "พลังแห่งความมืด" แต่พลังนั้นจะปรากฎต่อเมื่อพระจันทร์สีเลือดเต็มดวงหรือเมื่อถูกกระตุ้น เวลาต่อมาสำนักดาร์กฟิล่าได้ทราบข่าวขึ้นและบุกรุกจักรวรรดิเรนฟิล่าเพื่อเอาตัวเซเลน่าไปยังสำนัก กระตุ้นพลังแห่งความมืดของเธอโดยการใช้พลังแห่งความมืดครอบงำและการกลืนกินพลังของคนบริสุทธิ์ ทำให้เธอเข้าด้านมืดในที่สุด

สารบัญ

Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด-Chapter 1 การเกิดมาพร้อมกับความมืด,Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด-Chapter 2 พลังแห่งแสงสว่าง,Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด-Chapter 3 สำนักดาร์กฟิล่า,Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด-Chapter 4 การบุกรุกของสำนักดาร์กฟิล่า,Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด-Chapter 5 ความรักที่มีต่อเซเลน่า,Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด-Chapter 6 พลังจากทูตสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์,Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด-Chapter 7 งานเฉลิมฉลองการขึ้นปกครองจักรวรรดิ,Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด-Chapter 8 ความผิดหวังของดยุกแห่งดาร์กฟิล่า,Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด-Chapter 9 ศึกครั้งสุดท้ายในแท่นบูชาความมืด

เนื้อหา

Chapter 9 ศึกครั้งสุดท้ายในแท่นบูชาความมืด

“ท่านอัชเชอร์ ท่านดยุกขอรับ พวกจากจักรวรรดิเรนฟิล่าและจักรวรรดิเซฟิน่าบุกรุกเข้ามาขอรับ” สมาชิกจากสำนักดาร์กฟิล่ากล่าว

“พวกมันกล้าดียังไง ถึงได้มาบุกรุกที่นี่” ดยุกแห่งดาร์กฟิล่ากล่าวและระเบิดพลังแห่งความมืดออกมาด้วยความรู้สึกโกรธ

อัชเชอร์ลูบดาบความมืดทมิฬของตนพร้อมกับเอ่ยขึ้นมาว่า “ท่านพ่อ...ให้ข้าสังหารพวกมันเลยดีไหมขอรับ”

“นี่เจ้าบ้าไปแล้วหรือไง ข้ายังไม่ได้ทำพิธีสังเวยเซเลน่าเพื่อเข้าสู่ด้านมืดไปตลอดกาลเลยนะ” ดยุกแห่งดาร์กฟิล่ากล่าว

“หึ เซเลน่าไม่ต้องสังเวยเพื่อเข้าสู่ด้านมืดแล้วก็ได้ท่านพ่อยังไงข้ามีพลังความมืดทมิฬก็สามารถสังหารพวกนั้นได้อยู่แล้ว” อัชเชอร์กล่าว

“อัชเชอร์!!! นี่เจ้าโดนพลังความมืดทมิฬครอบงำไปแล้วหรือไง!!!” ดยุกแห่งดาร์กฟิล่ากล่าวเตือนสติอัชเชอร์

แต่อัชเชอร์โดนพลังความมืดทมิฬครอบงำจิตใจไปแล้ว ทำให้เขาใช้ดาบความมืดทมิฬโจมตีแทงกลางอกดยุกแห่งดาร์กฟิล่า       ผู้เป็นบิดาของตนปางตาย

ดยุกแห่งดาร์กฟิล่ากระอักเลือดพร้อมกับต่อว่าบุตรชายของตน “อึก...อัชเชอร์...เจ้ากล้าดียังไงถึงกับสังหารข้าที่เป็นพ่อของเจ้า”       และสิ้นใจตรงไหล่ของอัชเชอร์

เวลานั้นเองลอร์ดเรนฟิล่า ดยุกแห่งเซฟิน่า ชาเบลและคามาเอลพร้อมกับองครักษ์ประจำสำนักแสงสว่างบริสุทธิ์ได้เดินเข้ามาเห็นร่างที่ไม่มีลมหายใจของดยุกแห่งดาร์กฟิล่า

อัชเชอร์ดึงดาบที่ปักอกของดยุกแห่งดาร์กฟิล่าออกและผลักร่างล้มลงกองกับพื้น ก่อนที่จะหันมามองพวกของชาเบลพร้อมกับเอ่ยทักทาย “สวัสดีชาเบล ดยุกแห่งเรนฟิล่า ยินดีต้อนรับเข้าสู่แท่นบูชาความมืด”

“แกจะทำอะไรเซเลน่า!!!” ชาเบลเอ่ยถาม

อัชเชอร์หัวเราะอย่างบ้าคลั่งพร้อมกับเอ่ยว่า “ทำพิธีบูชาความมืดเพื่อเข้าสู่ด้านมืดไปตลอดกาลไงล่ะ แต่...คนทำพิธีนี้สิได้ตายไปแล้ว ฮ่า ๆ”

คามาเอลเหลือบไปเห็นดาบของอัชเชอร์พร้อมกับเอ่ยด้วยความรู้สึกตกใจว่า “ดาบความมืดทมิฬนี่น่า...เจ้ามีดาบนั้นได้อย่างไร”

อัชเชอร์หัวเราะอย่างบ้าคลั่งขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับเอ่ยที่มาของดาบ “ฮ่า ๆ คามาเอล เจ้าอยากรู้จริง ๆ หรือ ได้...ข้าจะบอกให้ข้าได้มาจากการทำพิธีแท่นบูชาความมืดแห่งนี้นี่แหละ ฮ่า ๆ”

“มันคือดาบอะไรหรือขอรับ” ชาเบลเอ่ยถาม

“พลังความมืดทมิฬเป็นพลังโหดกว่าพลังแห่งความมืด พลังแห่งแสงสว่างธรรมดาทั่ว ๆ ไปหลายเท่าเลยขอรับ แล้วยังสามารถต่อกรกับพลังทูตสวรรค์ได้อีกด้วย” คามาเอลกล่าว

“ฮ่า ๆ พูดได้ดีมากคามาเอล ถึงเจ้าจะมีดาบกับพลังนั้นแต่ยังไงข้าก็สามารถสังหารเจ้าได้อยู่ดี” อัชเชอร์กล่าว

ชาเบลเดินมาข้างหน้าเพื่อประชันหน้ากับอัชเชอร์และกล่าวขอตัวเซเลน่าคืน “ถึงแกจะมีพลังนั้น ยังไงฉันก็จะต่อสู้กับแกเพราะฉันไม่มีทางให้แกทำอะไรเซเลน่าอีกแล้ว”

 

อัชเชอร์เกิดอาการโกรธขึ้นมาและร่ายพลังแห่งความมืดเพื่อกระตุ้นร่างมืดที่แท้จริงของเซเลน่าออกมา

เซเลน่าได้รับพลังแห่งความมืดจากอัชเชอร์ทำให้ควบคุมตัวไม่อยู่และได้เปิดเผยร่างมืดที่แท้จริงของตนมาพร้อมกับบุกเข้าโจมตีพวกของชาเบลทันที

ลอร์ดเรนฟิล่ากระเด็นออกไปและได้บาดเจ็บจากการโดนโจมตีจากพลังแห่งความมืดของเซเลน่า “โอ๊ย...”

ดยุกแห่งเซฟิน่ารีบวิ่งไปประคองลอร์ดเรนฟิล่าพร้อมกับกล่าวขอร้อง “สหารข้า เซเลน่า!!! นี่มันจะมากเกินไปแล้วนะ”

“มันไม่มากเกินไปหรอกนะดยุกแห่งเซฟิน่า นี่คือร่างมืดที่แท้จริงของเซเลน่าต่างหากล่ะ ฮ่า ๆ” อัชเชอร์กล่าว

เซเลน่าปลดปล่อยพลังของโจมตีพวกของชาเบลต่อและแววตาของเธอที่โดนความมืดครอบงำจนเห็นคนที่เธอรักเป็นศัตรู

“องครักษ์แห่งข้า โจมตีเดี๋ยวนี้!!!” คามาเอลออกคำสั่ง

เหล่าองครักษ์ของสำนักแสงสว่างบริสุทธิ์โจมตีด้วยลำแสงแห่งแสงสว่างใส่เซเลน่า แต่กลับโดนเซเลน่าโจมตีกลับทำให้เหล่าองครักษ์ล้มลงไปบางส่วน

 

“องครักษ์ของเจ้าอ่อนแอ่ซะเหลือเกิน ฮ่า ๆ” อัชเชอร์หัวเราะด้วยความรู้สึกสะใจ

“ทำไมพลังของเซเลน่าถึงแข็งแกร่งขนาดนี้?” ชาเบลครุ่นคิด  และมองขึ้นบนท้องฟ้าได้พบเห็นพระจันทร์สีเลือดปรากฎอยู่

“จริงสิ...พระจันทร์สีเลือดปรากฎทำให้พลังของเซเลน่าเพิ่มขึ้นเท่าทวีคูณ” ชาเบลกล่าว

“ใช่แล้ว...เจ้าฉลาดเหมือนเดิมเลยนะ วันนี้เป็นค่ำคืนพระจันทร์สีเลือดปรากฎทำให้เซเลน่ามีพลังที่แข็งแกร่งมาก ๆ เลยล่ะ ฮ่า ๆ” อัชเชอร์กล่าวพร้อมกับหัวเราะ

จากนั้นอัชเชอร์โจมตีชาเบลด้วยดาบความมืดทมิฬทันที แต่ชาเบลใช้ดาบทูตสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์รองรับดาบของอัชเชอร์เอาไว้

“ฮ่า ๆ รับดาบของข้าได้นี้” อัชเชอร์กล่าวและปลดปล่อยพลังความมืดโจมตีชาเบล

ชาเบลกระเด็นออกไปและกระอักเลือดออกมาจากการโจมตีของอัชเชอร์

“พลังของอัชเชอร์แข็งแกร่งจริง ๆ” ชาเบลครุ่นคิดในใจ

ทางด้านเซเลน่าจะโจมตีลอร์ดเรนฟิล่าและดยุกแห่งเซฟิน่า แต่คามาเอลร่ายพลังแสงสว่างสร้างเกราะป้องกัน

ชาเบลลุกขึ้นมาตั้งหลักพร้อมใช้พลังจากดาบทูตสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์วิ่งเข้าโจมตีอัชเชอร์ แต่อัชเชอร์ได้ใช้จังหวะนี้เอาดาบความมืดทมิฬ   แทงเข้ากลางอกของชาเบล

“ชาเบล!!!” ลอร์ดเรนฟิล่าเห็นบุตรชายของตนโดนสังหารต่อหน้าต่อตาอีกครั้ง

เซเลน่าที่ได้ยินชื่อของชาเบลและหันไปมองใบหน้าของเขาทำให้เธอค่อย ๆ ฟื้นสติหลุดจากครอบงำของอัชเชอร์

“ฮ่า ๆ สุดท้ายเจ้าก็ต้องตายด้วยมือของข้าอยู่ดี” อัชเชอร์กล่าวและหัวเราะด้วยความรู้สึกเหมือนได้รับชัยชนะ

อัชเชอร์หันไปมองเซเลน่าที่หยุดซะงัก “เซเลน่า...เจ้าเป็นอะไรไป”

“โอ๊ย...ปวดหัวจังเลย” เซเลน่าร้องด้วยความรู้สึกเจ็บปวดเนื่องจากสติของเธอค่อย ๆ หลุดจากการครอบงำ

อัชเชอร์ได้รับรู้ว่าเซเลน่ากำลังหลุดจากการครอบงำของตนทำให้เขาเกิดอาการโกรธอย่างมากพร้อมกับระเบิดพลังแห่งความมืดครอบงำเธออีกครั้ง

แต่สติของเซเลน่าหลุดจากการครอบงำไปแล้วพร้อมกับระเบิดพลังแห่งความมืดของเธอโจมตีอัชเชอร์กระเด็นออกไปก่อนที่จะล้มลงบนพื้น

อัชเชอร์กระเด็นและกระอักเลือดออกมาจากการโจมตีของ   เซเลน่า “โธ่เว๊ย!!!”

เวลานั้นเองแสงสว่างและขนปีกสีทองปรากฏขึ้นมาพร้อมกับ  สาดส่องลงมาที่ร่างของชาเบล 

ดาบความมืดทมิฬที่ปักอกของชาเบลค่อย ๆ จางหายพร้อมกับพลังความมืดทมิฬของอัชเชอร์ด้วย

“เกิดอะไรขึ้น....” อัชเชอร์กล่าวด้วยความรู้สึกตกใจ

ร่างของชาเบลลอยขึ้นตามแสงสว่างพร้อมกับโจมตีอัชเชอร์    ด้วยลำแสงแห่งทูตสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์

ร่างของอัชเชอร์แผดเผาจากการโจมตีด้วยลำแสงแห่งทูตสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ของชาเบล “ข้า...จะพ่ายแพ้แบบนี้ไม่ได้!!!!”

ขนปีกสีทองและแสงสว่างหายไปและร่างของชาเบลลอยลงมาสู่พื้น

ลอร์ดเรนฟิล่ารีบวิ่งมารับร่างบุตรชายของตน “ชาเบล...ลูกเป็นยังไงบ้าง”

ชาเบลลืมตาขึ้นมาพร้อมมองลอร์ดเรนฟิล่าผู้เป็นบิดาของตนพร้อมกับเอ่ยถามว่า “ท่านพ่อ...อัชเชอร์ตายแล้วหรือขอรับ”

ลอร์ดเรนฟิล่าพยักหน้า “ใช่แล้วล่ะ...เมื่อกี้ลูกใช้ลำแสงแห่งทูตสวรรค์โจมตีใส่อัชเชอร์จนสลายหายไป แต่เอ๋...ลูกไม่รู้สึกตัวหรือ”

ชาเบลส่ายหน้าปฏิเสธพร้อมกับเอ่ยว่า “ลูกไม่รู้สึกตัวเลยขอรับท่านพ่อ...ตอนที่อัชเชอร์ปักดาบความมืดทมิฬเข้ากลางอกของลูกแล้วดวงตาของกระผมก็ดับลงขอรับ”

“ท่านดยุกชาเบลช่างโชคดีจริง ๆ เลยที่ยังมีพลังของทูตสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ปกป้องอยู่และสมกับเป็นคนที่ท่านทูตสวรรค์เลือกจริง ๆ”     คามาเอลกล่าว

ชาเบลโค้งคำนับต่อคามาเอลพร้อมกับเอ่ยถามหาเซเลน่า “ขอบคุณขอรับ...แต่ว่าเซเลน่าล่ะ อยู่ไหน?”

ชาเบลกวาดตามองหาเซเลน่า ก่อนจะพบเซเลน่านั่งสลบอยู่บนพื้นและรีบวิ่งเข้าไปหาด้วยความรู้สึกเป็นห่วง

ชาเบลจับไหล่ของเซเลน่าพร้อมกับเขย่าตัวและเอ่ยเรียก “เซเลน่า...คุณเป็นยังไงบ้าง”

เซเลน่าหงายหน้าขึ้นมามองชาเบลอยู่ครู่หนึ่งก่อนเอ่ยว่า “คุณ...ชาเบล!!!” และโอบกอดชาเบลอย่างแน่น

ชาเบลโอบกอดเซเลน่าเช่นกันพร้อมเอ่ยถามขึ้นมาว่า “เซเลน่า...คุณกลับมาแล้วใช่ไหม”

เซเลน่าพยักหน้าตอบรับ “ใช่ค่ะ...ฉันกลับมาแล้ว ตอนที่โดนสำนักดาร์กฟิล่าครอบงำมันช่างทรมานเหลือเกินต้องมาทำร้ายผู้คนบริสุทธิ์และคนที่ตัวเองรัก ฉันขอโทษด้วยนะคะคุณชาเบล แต่ฉันสัญญาว่าจะปกป้องคุณด้วยพลังแห่งความมืดของฉันเอง”

“คุณเซเลน่าไม่จำเป็นต้องขอโทษหรอกนะครับ แค่คุณหลุดจากการครอบงำผมก็ดีใจมากแล้วล่ะครับ แล้วเซเลน่าทราบไหมครับว่าผม...คิดถึงคุณมากนะรู้ไหม” ชาเบลกล่าวคิดถึง

“คิดถึงเซเลน่างั้นหรือคะ...” เซเลน่ากล่าวถามด้วยความรู้สึกเขิน

ระหว่างนั้นเองลอร์ดเรนฟิล่า ดยุกแห่งเซฟิน่าและคามาเอล   เดินเข้ามาหา

“เซเลน่า...” ดยุกแห่งเซฟิน่าเอ่ยเรียก

เซเลน่าหันมามองดยุกแห่งเซฟิน่าผู้เป็นบิดาของตนพร้อมกับ    วิ่งเข้าไปโอบกอด

“ท่านพ่อ...” เซเลน่ากล่าว

ดยุกแห่งเซฟิน่าลูบหัวบุตรสาวของตนอย่างอ่อนโยน

“ท่านพ่อ...เป็นยังไงบ้างเพคะ ได้รับบาดเจ็บอะไรบ้างไหมเพคะ ลูกขอโทษนะเพคะ” เซเลน่ากล่าวถามด้วยความรู้สึกผิด

“พ่อไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลยล่ะ ลูกไม่ต้องรู้สึกผิดไปหรอกนะ” ดยุกแห่งเซฟิน่ากล่าว

“แต่ลูกรู้สึกผิดต่อทุกคนเพคะ แล้วอีกอย่างตอนที่เซเลน่าโดนครอบงำ...ลูกรู้สึกทรมานมากเพคะ ต้องมาสังหารผู้คนบริสุทธิ์และคนที่ตนเองรัก แต่ตอนนี้ร่างของเซเลน่ายังเป็นพลังแห่งความมืดอยู่...อยากให้เป็นพลังแสงสว่างเหมือนเดิมแล้ว ไม่ก็ทำให้พลังกลับบริสุทธิ์อีกครั้ง” เซเลน่ากล่าว

“ไม่ต้องเป็นห่วงไปนะเซเลน่า เดี๋ยวท่านคามาเอลจากสำนักแสงสว่างบริสุทธิ์จะช่วยเอง”