"เรียนจบแล้วค่อยกลับมาขอเฮียเป็นแฟน" และในวันที่โตพอ เด็กน้อยร้านขายผักจึงกลับมาทวงพื้นที่หัวใจของเฮียอี้เจ้าของตลาด ดูสิว่านายใหญ่ของตระกูลเฉิน จะยังใจแข็งปฏิเสธเสียงหัวใจตัวเองได้อีกไหม

เฮียอี้(ไม่)กินผัก - 1 . โดย summer_T @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,รัก,ยุคปัจจุบัน,ไทย,มาเฟีย,แอบรัก,feel good,น่ารัก,วาย,นิยายเกย์,นิยายวาย,เฮียอี้ไม่กินผัก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เฮียอี้(ไม่)กินผัก

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,รัก,ยุคปัจจุบัน,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

มาเฟีย,แอบรัก,feel good,น่ารัก,วาย,นิยายเกย์,นิยายวาย,เฮียอี้ไม่กินผัก

รายละเอียด

เฮียอี้(ไม่)กินผัก โดย summer_T @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

"เรียนจบแล้วค่อยกลับมาขอเฮียเป็นแฟน" และในวันที่โตพอ เด็กน้อยร้านขายผักจึงกลับมาทวงพื้นที่หัวใจของเฮียอี้เจ้าของตลาด ดูสิว่านายใหญ่ของตระกูลเฉิน จะยังใจแข็งปฏิเสธเสียงหัวใจตัวเองได้อีกไหม

ผู้แต่ง

summer_T

เรื่องย่อ

#เฮียอี้ไม่กินผัก

สวัสดีค่ะ เรื่องนี้เป็นการเขียนเรื่องสั้นเรื่องแรกของเรา

จำนวนตอนและจำนวนคำจึงไม่เยอะมาก

ส่วนตัวแล้วคิดว่าเรียกเรื่องนี้ว่า feel good ได้ค่ะ เพราะปมน้อยมาก 

เน้นอ่านชิวๆ และมี NC นิดหน่อย(หรือเปล่านะ)

 

 

แนะนำตัวละคร

เฉินอี้ (พระเอก)

อายุ : 31 ปี

สูง : 189 cm.

สโลแกน : มุ่งมั่น ตั้งใจ พูดอะไรออกไปต้องทำให้ได้ทั้งหมด (โดยเฉพาะเรื่อง xxx)

 

 

ตั้งโอ๋ (นายเอก)

อายุ :  25 ปี

สูง : 176 cm.

สโลแกน : จองไว้ตั้งแต่มอปลาย จุดมุ่งหมายคือเมียเฮียอี้

 

Mood board

 

 

 

สารบัญ

เฮียอี้(ไม่)กินผัก-1 .,เฮียอี้(ไม่)กินผัก-2 .

เนื้อหา

1 .

“เฮียเป็นแฟนกับโอ๋นะครับ”

“เรียนให้จบก่อน แล้วค่อยมาขอใหม่”

คำพูดของรุ่นพี่วัยมหาวิทยาลัยยังคงติดตรึงอยู่ในใจของเด็กชายวัยมัธยมต้น ในวันนั้นหัวบลอกโคลีผูกโบสีชมพูของเด็กน้อยถูกปฏิเสธ แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นคนเอ่ยปากปัดคำสารภาพรักก็ยังคงอบอุ่นใจดีเหมือนเคย ฝ่ามืออุ่นยกขึ้นลูบหัวกลม ๆ ของเด็กชายที่เขาเห็นมาตั้งแต่อยู่อนุบาล

“ถ้าอย่างนั้น เฮียก็ต้องรอโอ๋เรียนจบก่อน ห้ามมีแฟนนะ สัญญาไหม” นิ้วก้อยน้อยถูกยื่นไปข้างหน้า

“อือ เฮียสัญญา”

ทันทีที่นิ้วก้อยของอีกคนยกขึ้นเกี่ยวสัญญา รอยยิ้มที่เจื่อนลงไปเมื่อครั้งที่ได้ยินคำปฏิเสธก็กลับมาสดใส

 

เหมือนจะไม่นานแต่ก็นาน นั่นคือประโยคที่ ตั้งโอ๋ เด็กชายมัธยมต้นในวันนั้นนิยามช่วงเวลาสามปีที่ต้องทนรักษาสถานะน้องชายไปก่อน

แน่นอนว่าเขาทำได้ดีมากทีเดียว เพราะใคร ๆ ต่างก็รู้ดีว่า เฮียอี้ ลูกชายคนโตตระกูลเฉินเจ้าของตลาดขนาดใหญ่เอ็นดูลูกชายคนสุดท้องของเจ้าของแผงผักสดมากแค่ไหน

แม้ว่าในทีแรกสถานะนี่จะทำให้รู้สึกไม่พอใจนัก แต่ไม่นานเขาก็รู้ดีว่าสถานะที่ได้ครองในตอนนี้ไม่ได้แย่ไปเสียหมด

นั่นเพราะ…การเป็นน้องน้อยของเฮียอี้ มันง่ายต่อการกำจัดคู่แข่งที่เดินเข้ามาเสนอตัวกันไม่คาดสาย

นิ้วเรียวจับตวัดปลายริบบิ้นสีแดงมัดไขว้ผูกเป็นโบกับก้านดอกบลอกโคลี่ พุ่มสีเขียวสดถูกปักประดับด้วยลูกปัดมุกที่เสียบก้านลวดเล็ก ๆ แทงลงไปให้ดูน่ารักมากขึ้น

“ทำอะไร เสียของหมด แม่ไม่สอนหรือไงว่าอย่าเล่นของกิน” ตั้งโอ๋ตวัดสายตาขึ้นมองพี่ชายตัวเองที่เดินมาขัดบรรยากาศอิ่มสุข

“ไม่ได้เล่น ก็เห็นอยู่ว่าจริงจัง”

“อย่าบอกนะ ว่าจะเอาไอ้นี่ไปขอเฮียอี้เป็นแฟนอีก”

“เออ” คำตอบห้วนสั้นถูกเอ่ยด้วยน้ำเสียงและสีหน้าไม่พอใจ

กล้าดียังไงมาเรียกบลอกโคลีสื่อรักของเขาว่า ไอ้นี่

“ยังไม่เลิกชอบอีกหรือไง พี่ว่าเฮียเขามองเราเป็นน้องมากกว่าจะอยากเป็นแฟนนะ ไม่อย่างนั้นเขาคงตกลงไปตั้งแต่ตอนนู้นแล้ว”

“พี่ฉ่ายจะไปรู้อะไรเล่า เฮียอี้บอกโอ๋เองว่าถ้าโอ๋เรียนจบจะยอมเป็นแฟน”

“แล้วถ้ารอบนี้เขาตกลง จะทำยังไง เดี๋ยวบ้านเราก็ย้ายไปไทยแล้ว แกน่ะขี้เหงาจะตาย คบทางไกลไม่รอดหรอก”

“ถ้าเฮียอี้ตกลง โอ๋จะอยู่ที่นี่ต่อ ไม่ไปไทยกลับแม่”

“เฮ้ย อย่าพูดเป็นเล่น จะอยู่ยังไงคนเดียว”

“ใครจะอยู่คนเดียว โอ๋ก็ย้ายไปอยู่บ้านเฮียอี้ไง ง่ายจะตาย”

“เบา ๆ หน่อย เพิ่งจะจบมัธยม จะย้ายไปนอนบ้านผู้ชายแล้ว แรดนะ”

“แม่ พี่ฉ่ายว่าโอ๋แรด”

ตั้งโอ๋หันไปตะโกนฟ้องผู้เป็นแม่ หญิงวัยกลางคนหันมาส่งยิ้มให้ก่อนจะลุกจากเก้าอี้ไม้หน้าทีวีมาดีดหูของลูกชายคนโตจนเสียงดังเปี๊ยะ

“โอ๊ยแม่ เจ็บนะเนี่ย หูหลุดทำไง”

“อย่าไปว่าน้อง” ตั้งโอ๋โผกอดแม่ ยกยิ้มอย่างผู้ชนะซ้ำยังแลบลิ้นเหยาะเย้ย

“ลูกแหง่” คนแพ้เอ่ยคำพาลได้เพียงสั้น ๆ แล้วลุกขึ้นเดินหายไปหลังบ้าน

“สู้ ๆ นะลูก”

“ไม่ต้องห่วงครับ ผมจะให้เฮียอี้มาเป็นลูกเขยแม่ให้ได้”

“ไหน ๆ ก็จะไปบ้านคุณเฉินแล้ว แม่ฝากเอาผักไปส่งให้ด้วยสิลูก”

“ได้เลยครับ เรื่องอาหารการกินมันเป็นหน้าที่สะใภ้อยู่แล้ว”

 

จักรยานสามล้อที่ตะกร้าด้านหลังเต็มไปด้วยผักหลากหลายชนิดจอดสนิทที่หน้าบ้านหลังใหญ่ของตระกูลเฉิน ตระกูลที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดในย่านนี้

“คุณตั้งโอ๋ มาส่งผักเหรอครับ เดี๋ยวผมช่วยยกไปให้ในครัวเองครับ” ชายหนุ่มในสุดสูทดำรีบเดินตรงเข้ามาเอ่ยทักพร้อมอาสาช่วยเหลือ

“ขอบคุณครับ เฮียอี้อยู่ไหมครับ” ตั้งโอ๋คว้าช่อบลอกโคลีออกมาจากผักอื่น ๆ ที่อยู่ในตะกร้าก่อนที่จะโดนยกไปส่งแม่ครัวรวมกับผักอื่น ๆ

“คุณอี้ออกไปกับคุณท่านครับ” ชายชุดสูทก้มมองนาฬิกาข้อมือก่อนเอ่ยต่อ “อีกไม่นานคงกลับครับ”

“อ้าว…ตั้งโอ๋ มาหาเฮียอี้เหรอ เข้ามาก่อนสิ”

เสียงทักทายจากด้านหลังเรียกให้ตั้งโอ๋ทิ้งการสนทนากับบอดี้การ์ดตระกูลเฉินไว้เพียงเท่านั้น ก่อนที่จะยกยิ้มทักทายเดินเข้าไปหาชายหนุ่มร่างสูงใบหน้าหล่อเหลาที่โบกมือให้เขาอย่างวางมาด

“เฮียไป๋”

ทันทีที่เข้าไปใกล้ มือที่ยกโบกก็วางลงโอบไหล่เล็กอย่างสนิทสนมพาเด็กหนุ่มเข้าไปภายในบ้าน

“ทำไมวันนี้มีคนคุมเยอะจังล่ะครับ”

เมื่อนั่งลงที่ชุดเก้าอี้ไม้ฝังมุกรับรองแขกตั้งโอ๋จึงเอ่ยถามถึงสิ่งที่ผิดปกติไปจากทุกที

การเป็นตระกูลทรงอิทธิพลในย่านธุรกิจของมาเก๊านั่น ย่อมหมายถึงเป็นตระกูลที่มีบริวารมากมายและได้รับการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา ไม่ใช่แค่บ้านตระกูลเฉินที่แค่จะเฉียดเข้ามาใกล้ยังทำได้ยาก สมาชิกตระกูลก็ยิ่งเข้าถึงยากขึ้นไปอีก

แต่สำหรับตั้งโอ๋คงยกเว้นเป็นกรณีพิเศษ เพราะได้รับความเอ็นดูจากคุณเฉินผู้นำตระกูลและสมาชิกในบ้านตั้งแต่เล็ก ๆ โดยเฉพาะจากลูกชายคนโต เฉินอี้ จึงไม่แปลกที่เด็กหนุ่มจะผ่านด่านประตูเข้าออกบ้านมาได้อย่างง่ายดายโดนไม่โดนจับทุ่มจากบอดี้การ์ดชุดดำหลายคนที่ยืนทำหน้าน่ากลัวเรียงแถวอยู่หน้าประตูรั้ว

“แหม ก็เฮียเขาเรียนจบแล้วนี่ ใกล้เปลี่ยนผู้นำก็แบบนี้แหละ”

เฮียไป๋ คุณชายรองของบ้าน น้องชายของเฮียอี้เอนหลังพิงกับพนักตบฝ่ามือลงบนตักสองครั้ง จากนั้นก็มีสาวสวยเซ็กซี่ในชุดจีนผ่าข้างสูงขึ้นมาแทบไม่ปกปิดอะไรยามเจ้าหล่อนขยับเรียวขาขาว เธอเดินมาหย่อนก้นงอนเด้งนั่งลงบนตักชายหนุ่ม

ตั้งโอ๋เหลือบตาขึ้นมองบน เอือมระอากับความเจ้าสำราญของเฮียไป๋ ตั้งแต่โตพอที่จะรู้เรื่องใคร่ ๆ ของผู้ใหญ่ ตั้งโอ๋ก็เห็นเฮียไป๋ควงหญิงสวยชายงามมาชมเชยแทบไม่ซ้ำหน้าตั้งแต่ยังเรียนมัธยม

สมแล้วที่ได้ชื่อว่า…ชายไป๋ไม่ซ้ำเมีย

ผิดกับเฮียอี้ของเขา ทั้งอบอุ่น ใจดี และไม่มีเรื่องชู้สาวฉาบฉวยให้ต้องกังวล เพราะตั้งโอ๋คนนี้เตะตัดขาทุกคนไปตั้งแต่ได้กลิ่น หากใครคิดไม่ซื่อ อยากแข่งตำแหน่งว่าที่แฟนหนุ่มของตั้งโอ๋

มันต้องถูกกำจัด

“คุณลุงจะให้เฮียอี้ขึ้นแทนเหรอ” ตั้งโอ๋ตาโต

“เอ้า ก็ต้องใช่น่ะสิ ก็เฮียอี้เป็นลูกคนโต” เฮียไป๋ตอบทั้งที่ใบหน้ายังคลอเคลียกับเนินอกเต่งตึง

“นี่เฮียไป๋ ถ้าจะขนาดนั้นก็ขึ้นห้องเถอะ มันอุจาดตา ไม่อายคนอื่นบ้างหรือไง”

ตั้งโอ๋รู้ดีว่าคำบ่นของตนนั้นไม่ได้สร้างความกระดากอายให้ชายหนุ่มเจ้าสำราญแม้แต่น้อย และพฤติกรรมล่อแหลมเช่นนี้ของคุณชายรองตระกูลเฉินก็เป็นที่ชินตาของเหล่าบอดี้การ์ดและคนรับใช้ในบ้านจนไม่รู้สึกอะไร

“นั่นสินะ เฮียก็ทนไม่ไหวแล้วล่ะ อยาก เต็มทีแล้ว โอ๋นั่งรอเฮียอี้ไปคนเดียวแล้วกันนะ เฮียขอไปทำเรื่องที่ผู้ใหญ่เขาชอบทำก่อน”

ว่าจบชายหนุ่มก็ลุกขึ้นยืนโดยรวบเอาร่างสะโอดสะองของหญิงสาวขึ้นอุ้มแนบอก เดินตรงไปขึ้นบันไดหน้าตาเฉย

“จะมาศึกษาก่อนก็ได้นะ โตขึ้นจะได้ทำเป็น”

“น่าเกลียด โอ๋โตแล้วโอ๋ทำเป็น ไม่ต้องให้เฮียไป๋สอนหรอก”

ตั้งโอ๋หันขวับกลับไปต่อว่าชายหนุ่มที่เข้าใจว่าขึ้นชั้นสองลับตาไปแล้ว แต่ความจริงยังหยุดยืนทำหน้าตากวนประสาทเอ่ยปากชวนเรื่องน่าขนลุกอยู่ที่ชั้นพักบันได

พอได้ยินคำต่อว่า เสียงหัวเราะร่าก็ดังขึ้น แล้วจึงก้าวเดินต่อก่อนจะหายไปยังชั้นสองของบ้านหลังใหญ่พร้อมแม่สาวคนใหม่ที่เฉินไป๋ทักไปชวนมาชมห้องเมื่อชั่วโมงก่อน

ให้ตายเถอะ เฮียไป๋นี่ถ้าไม่ได้กวนประสาทให้เขาอารมณ์เสียสักวันคงนอนไม่หลับ ไม่ก็จุ๊ดจู๋ไม่แข็งเป็นแน่

“ทำอะไรเป็นนะ ตั้งโอ๋ บอกเฮียได้ไหม หือ”