"มารดาทูลหัวของชายดีเด่น นั้นชั่วช้าดุจมาร"-นฤมล

กลกลิ่นเเก้ว - บทที่2 ไม่มีวันตาย โดย ยามรุ่ง @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-หญิง,สงคราม,ย้อนยุค,อิงประวัติศาสตร์,สะท้อนปัญหาสังคม,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

กลกลิ่นเเก้ว

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-หญิง,สงคราม,ย้อนยุค,อิงประวัติศาสตร์,สะท้อนปัญหาสังคม

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พล็อตสร้างกระแส

รายละเอียด

กลกลิ่นเเก้ว โดย ยามรุ่ง @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

"มารดาทูลหัวของชายดีเด่น นั้นชั่วช้าดุจมาร"-นฤมล

ผู้แต่ง

ยามรุ่ง

เรื่องย่อ

หญิงสาวที่ออกมาตามหามารดาที่หายสาบสูญไปจนมาพบกับ หนุ่มทหารยศพันโท สืบไปสืบมาความลับนั้นอยู่ไกล้เเค่เอื้อม

สารบัญ

กลกลิ่นเเก้ว-บทที่1 อดีตที่ผ่านไปเเล้ว,กลกลิ่นเเก้ว-บทที่2 ไม่มีวันตาย,กลกลิ่นเเก้ว-บทที่3 คนชั่วย่อมได้รับผลจากการกระทำ,กลกลิ่นเเก้ว-บทที่4 ความขี้เกียจ,กลกลิ่นเเก้ว-บทที่5 ตนเท่านั้น,กลกลิ่นเเก้ว-บทที่6 คนพาล,กลกลิ่นเเก้ว-บทที่7 บัณฑิต

เนื้อหา

บทที่2 ไม่มีวันตาย

                              อปฺปมตฺตา น มียนฺติ.

                            ผู้ไม่ประมาท ย่อมไม่ตาย

                                           บทที่2

                                      ไม่(มีวันตาย)

                                               2

ทองคำซึ่งอายุน้อยกว่านฤมลอยู่ประมาณหนึ่ง จึงทำให้เขาถ่อมตนเป็นพิเศษ โดยปรกติเเล้วบ้านของชายหนุ่มจะไม่ค่อยชุลมุนวุ่นวายซักเท่าใด เเต่ในวันนี้พ่อค้าวาณิชทั้งหลายมารวมสุมที่นี่ เป้าหมายส่งปลีกคือเเหล่งชุมชนคนรวย โดยส่วนมากไม่ว่าบ้านไหนจะประกอบอาชีพชาวเกษตรกรจะถูกเก็บค่าส่งของเยอะกว่าที่อื่น เพราะพวกเจ้าเล่ห์ที่หิวในอำนาจของเงิน พ่อค้ายาจีนจึงเสียรายได้จากการปลูกไร่ปลูกขิงเป็นจำนวนมหาศาล ทองคำจึงเล่าถึงสาเหตุที่ต้องถอนไร่นาสาโทไปจนเกลี้ยงโล้น เพราะอีกชั่วครู่ครอบครัวกงสีจะต้องย้ายไปอยู่ในย่านชานเมืองใหญ่ พอจะไกล้ร้านขายของส่งที่เก็บค่าค้าขายเเทนเป็นราคาย่อมเยาว์ เเละอีกอย่างทองคำลูกชายคนเดียวของบ้านนี้ถึงวัยที่จะต้องเกณฑ์เข้ารับราชการทหารในอีกไม่กี่เดือน

"พี่ถามจริงมีฟงมีเเฟนเเม้ะ"ก็เเอบคิดจะมีนะ เเต่ตอนนี้ไม่อยากเเล้วอ่า"นฤมลฉกถามเรื่องหัวใจของชายหนุ่มคนเยาว์ เพราะหญิงสาวต้องพิสูจน์ดวงหทัยอันบริสุทธิ์ของชายหนุ่ม ทองคำเล่าว่าเคยหลงรักผู้หญิงคนหนึ่งที่สวยสง่าดุจนางอัปสรบนสรวงสววรค์ เธอเป็นคนที่เเสนดีเเละเก่งกาจไปเสียทุกเรื่อง เเต่พอหญิงสาวคนนั้นเอ่ยว่าตนไม่อยากมีเจ้าของหัวใจเป็นของตัวเอง เขาก็ต้องตัดใจเสียเพื่อรักษามารยาทซึ่งกันเเละกัน

ทุกสรรพสิ่งบนโลกไม่เว้นเเต่ความรู้สึกก็จะต้องตายเกิดๆไปไม่จบสิ้นในวังวน เพราะความรักย่อมมีวันตายเชกเช่นกับชีวิตคนเรา ทองคำพรํ่าคิดกับตัวเองในห้วงความคิด โดยไม่ปลิปากพูดออกมาเขากรอกตาไปมองนอกหน้าต่างด้วยไออุ่นของหน้าร้อน "พูดไปเเล้วก็คิดถึงนะ เขาก็เป็นคนดี เเต่เราไม่ได้เจอกันเเล้วละ"เสียงสั่นครอนของชายหนุ่มพูดสรรถยายความคิดถึงหญิงปริศนาอันเป็นที่รัก เพราะเธอยังอยู่ในใจของเขามาเนิ่นนาน นฤมลนำฝ่ามือเนียนเรียบของนางลูบไหล่ปลอบโยนสหายอันสนิทสนม

เทียนมารดาของทองคำผุดขึ้นจากขอบประตูริมห้อง พร้อมพูดประโยคเสียดใจของทั้งสองฝั่ง "ถึงเวลาเเล้วลูก บอกลาเเม่มลซะ"นฤมลโอบกอดเกลอหนุ่มทั้งนํ้าตาที่อาบเต็มเเก้ม "ถ้ามีโอกาสไว้เจอกันใหม่นะ"เธอกล่าวบอกลาก่อนที่จะลุกเเละเคลื่อนหน้าออกมา ชายหนุ่มลูกพ่อค้ายาจีนรวบรัดเก็บของอย่างฉับพลัน

ครอบครัวหมอจีนหยุดที่หน้าบ้านไม้ยกสูง ประตูบานไม้ที่ฝืดซืดถูกปิดอย่างช้าๆ จึงเกิดเสียงดังเอี๊ยด

พอถึงที่บ้านกระต๊อบไม้นฤมลที่เหน็ดเหนื่อยมาทั้งวันก็ถึงหลังลงไปบนฟูกที่นอนนุ่มๆ พร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่เพื่อที่จะคลายความเครียดออกจากหัว หญิงสาวที่ตาดีเหลือบไปเห็นกระดาษใบหนึ่งตรงหางตา เมื่อสาวความในเเผ่นนั้นเเล้วจึงรู้ได้ว่า จริงๆเเล้วเธอไม่ได้เป็นลูกเเท้ๆของคนบ้านนี้ เเต่เสียว่าเป็นลูกทิ้งในยามสงคราม เพราะกระดาษเเผ่นนั้นคือใบประกาศหามารดาทูลหัวของตน ภาพความทรงจำเลือนลางเเว๊บวูบเข้ามา เป็นตอนที่เเม่ของเธอลี้ภัยมาที่พระนครเเห่งนี้ เเต่ไม่เด่นชัดเสียขนาดเป็นเเค่เเสงฉายเข้ามาในดวงตาเเค่ชั่วครู่เท่านั้น

"อ้าวกลับมาเเล้วลูก"หญิงผู้เป็นเเม่กล่าวถามที่ว่าเธอนั้นกลับบ้านมาเเล้ว หยดนํ้าตาของนฤมลค่อยรวมกันจนอาบที่ข้างเเก้ม "ทำไมเเม่ไม่เคยบอกหนู"บอกเรื่องอะไรลูก"ก็ที่เเม่เก็บหนูมาเลี้ยงไง"สีหน้าของมารดาทูลหัวค่อยๆเปลี่ยนจากยิ้มเเย้มกลายเป็นตกตะลึงอึ้งเเอ้ วู๊บเดียวนางล้มลงกับพื้นราวกับสิ้นสติเเต่โชคยังช่วยที่สามีเข้ามาพยุงไว้ทัน เลยไม่ได้รับบาดเจ็บปวดอันใด

นฤมลที่เหน็บกินไปทั้งร่างจึงได้เเต่ยืนนิ่ง พอบิดาบังเกิดเกล้าเข้ามาอธิบายให้เเจ่มเเจ้งว่าเหตุอันใดทั้งสองต้องเก็บหญิงน้อยมาเลี้ยงตั้งเเต่ตัวเท่านิ้วก้อย "ตอนนั้นเป็นสงครามทหารฝ่ายกบฏยิ่งกราดไปทั่ว วันนั้นพ่อกับเเม่ออกจากกระต๊อบไม่ได้เลยนะ เเล้วเเม่เเท้ๆของหนูก็คงลี้ภัยจากต่างเเดนมาเเล้วก็คงเอาหนูไปด้วยไม่ได้ เลยมาไว้ที่พ่อกับเเม่ก่อน ขอโทษด้วยนะที่ไม่เคยเล่าให้หนูฟังพ่อไม่อยากให้ลูกยึดติดกับเเม่เเท้ๆ"ชายเเก่เสียงเเผ่วลมจับมืออันเรียบเนียนของลูกสาวที่ตนเก็บเลี้ยงมา "เเล้วพ่อคิดว่าเเม่ของหนูยังอยู่ไหมคะ"ถ้าไม่โดนทหารกราดยิง ก็คงยังอยู่"เขาคาดเดาเเทนลูกหัวเเก้วหัวเเหวน "ถ้างั้นหนูขอออกไปตามหาเเม่ได้ไหมคะ"ถ้าลูกสะดวกกายใจก็ทำได้"มารดาทูลหัวเข้ามานั่งข้างสามีอันเป็นที่รักพร้อมกับบอกลาลูกสาวครั้งสุดท้าย "ไปดีมาดีนะลูก"เเละโอบกอดกันด้วยไออุ่นของความรัก ก่อนที่เธอจะเก็บเสื้อผ้าอาพร เครื่องสังคโลกเเละเสบียงตรงออกจากกระต๊อบไม้หลังนี้ไป 

                                                              2 กลกลิ่นเเก้ว