"มารดาทูลหัวของชายดีเด่น นั้นชั่วช้าดุจมาร"-นฤมล

กลกลิ่นเเก้ว - บทที่3 คนชั่วย่อมได้รับผลจากการกระทำ โดย ยามรุ่ง @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-หญิง,สงคราม,ย้อนยุค,อิงประวัติศาสตร์,สะท้อนปัญหาสังคม,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

กลกลิ่นเเก้ว

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-หญิง,สงคราม,ย้อนยุค,อิงประวัติศาสตร์,สะท้อนปัญหาสังคม

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พล็อตสร้างกระแส

รายละเอียด

กลกลิ่นเเก้ว โดย ยามรุ่ง @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

"มารดาทูลหัวของชายดีเด่น นั้นชั่วช้าดุจมาร"-นฤมล

ผู้แต่ง

ยามรุ่ง

เรื่องย่อ

หญิงสาวที่ออกมาตามหามารดาที่หายสาบสูญไปจนมาพบกับ หนุ่มทหารยศพันโท สืบไปสืบมาความลับนั้นอยู่ไกล้เเค่เอื้อม

สารบัญ

กลกลิ่นเเก้ว-บทที่1 อดีตที่ผ่านไปเเล้ว,กลกลิ่นเเก้ว-บทที่2 ไม่มีวันตาย,กลกลิ่นเเก้ว-บทที่3 คนชั่วย่อมได้รับผลจากการกระทำ,กลกลิ่นเเก้ว-บทที่4 ความขี้เกียจ,กลกลิ่นเเก้ว-บทที่5 ตนเท่านั้น,กลกลิ่นเเก้ว-บทที่6 คนพาล,กลกลิ่นเเก้ว-บทที่7 บัณฑิต

เนื้อหา

บทที่3 คนชั่วย่อมได้รับผลจากการกระทำ

                           . อสาธุ สาธุนา ชิเน.

                       พึงชนะคนไม่ดี ด้วยความดี

                                         บทที่3

                      คนชั่วย่อมได้รับผลการกระทำ

                                            3

หญิงสาวเดินดุ่มๆมาหยุดที่กองบรรชาการตำรวจเเห่งหนึ่งในตัวเมืองพระนคร ที่นั่นใหญ่โตราว-วิหารเเวซาย เธอมาเพราะจุดประสงค์ที่จะตามหาผู้เป็นเเม่เเท้ๆไปเพื่อไปถามสารทุกข์สุขดิบ เเละต้องการจะไปตอบเเทนบุญคุณที่นางคลอดเธอออกมา นฤมลเชื่อในฝีมือของตำรวจเพราะไม่นานมานี้เพิ่งจะได้ยินมาว่าเรื่องราวของนายตำรวจจอมขมังเวทย์เเห่งเเดนใต้นามว่าขุนพันธรักษ์ราชเดชได้ปราบอาเเวสะดอตาเเละได้สำเร็จ ซึ่งมันขึ้นชื่อว่าเป็นจอมโจรห่าก้อมของเเถบนั้น เเถมตำรวจหนุ่มยังปราบเหล่าบรรดาเสือต่างๆลงได้ จึงทำให้หญิงสาวคาดหวังในฝีมือตำรวจว่าจะต้องเก่งกาจสามารถไปเสียทุกเรื่อง ไม่ว่าจะด้านวิชาการหรือด้านไสยเวทย์

รองเท้าบู๊ทหนังสีนํ้าตาลเข้มยํ่าก้าวเข้าวิหารดังว่า เพราะไม่กี่ก้าวที่ดังนั้นคือจุดหมายที่จะทำได้ เมื่อได้เข้าไปจริงๆก็เจอกับตำรวจหนุ่มร่างท้วมอวบเเน่นสวมเเว่นเลนด์หนากำลังหอบเอกสารกองปึกไปไว้ที่ไหนสักที่ "ขอโทษนะคะคุณตำรวจไม่ทราบว่ากองตำรวจอาสาอยู่ที่ไหนคะ"เดินตรงไปลึกๆเเล้วเลี้ยวซ้ายครับ"ขอบคุณค่ะ"ที่นี่เองถึงเเม้จะใหญ่โตเเค่ไหนก็ยังมีมุมอับไว้วางของระเนระนาดล้มตามกันไป พอถึงหน้าประตูกระจกดำทึบหญิงสาวจึงเคาะเป็นมารยาทก่อนที่จะเข้าไป ประชาชนที่มาร้องทุกข์กับกองอาสาต่างไม่ว่าเช่น กองตรวจสอบความปลอดภัย กองรักษาการ หรือจะเป็นกองช่วยเหลือผู้ยากไร้ เเต่กองที่มีคนมาขอให้ช่วยเหลือเยอะที่สุดก็คงจะเป็นกองช่วยเหลือตามหาคนหาย ซึ่งโดยกองอื่นๆจะเป็นตำรวจที่รับเรื่อง เเต่นี่เป็นทหารที่เฝ้าอยู่เเทน นฤมลจึงเข้าใจผิดว่าเป็นผู้รับเรื่องของกองร้องทุกข์นี้ ด้วยสอดรับไม่ขัดเเย้งกับจุดประสงค์หญิงสาวจึงเข้าไปต่อเเถวซึ่งเธอก็โชคดีที่เข้าคิวไม่นานนัก

"คนต่อไปเชิญ"เสียงอันทุ้มกังวานของทหารหนุ่มดังขึ้นพรางเพื่อเรียกสติหญิงสาวตรงหน้าให้ตื่นจากอาการเหม่อลอย "คะ...ค่า"มีเรื่องอะไรมาครับ"พอดีว่าตอนเด็กๆเเม่เเท้ของฉันเอาฉันมาทิ้งไว้เเล้วมีคนรับไปเลี้ยง พอฉันโตมาก็เพิ่งมารู้คุณช่วยหาเเม่ให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ"คุณมีข้อมูลหรือประวัติคนหายหรือปล่าวครับ"ไม่มีค่ะ เเต่ช่วยฉันหน่อยเถอะนะค่า"ไม่ได้นะครับถ้าคุณไม่มีประวัติ ทางเราก็ช่วยไม่ได้ มีเล็กน้อยก็ยังดี"ด้วยนํ้าเสียงเเละสีหน้าขอร้องอ้อนวอนจากฝ่ายเจ้าทุกข์ไม่ได้ช่วยให้ผู้พันทหารกล้าเสียงอ่อนนุ่มขึ้นมา มีเเต่จะเค้นเสียงให้ดังขึ้นเพราะหงุดหงิด "ฉันวาดหน้าเขาได้ค่ะ"นฤมลเสนอหน้าออกรับสถานการณ์บีบเค้น ชายหนุ่มหยิบกระดาษเเผ่นหน้าเตอะมาให้เธอลองร่าง หญิงสาวค่อยวาดอย่างบรรจงร่วมกับขุดความทรงจำพรางไปด้วย ผ่านไปประมาณห้านาทีก็เริ่มีเสียงจึ๊ปากดังมาจากด้านหลัง

"เมื่อไรจะถึงทีเราวะ เเม่งนานเเละมัวเเต่ระเริงอยู่ได้"เสียงหญิงวัยกลางคนพูดบ่นขึ้น "เสร็จเเล้วค่ะ"นฤมลรีบร่างให้เสร็จหลังจากได้ยินเสียงเธอคนนั้น "เดี๋ยวทางเราจะนำรูปนี้ไปปลิ้นติดใบประกาศนะครับ"ทหารหนุ่มยื่นมือให้ความช่วยเหลือ เมื่อเธอเดินออกมาจากห้องร้องทุกข์เเล้วหนุ่มผู้พันทหารก็ลุกเพื่อเปลี่ยนเวรกับตำรวจหนุ่มที่ไปทำธุระส่วนตัวมา จึงทำให้เขาจะต้องสวมบทบาทเเทนตำรวจร้อยตรี ชายหนุ่มเห็นว่าเเสงเเดดเเปรดกายราวกับจะเเผดเผามนุษย์เเละอมนุษย์ทั้งหลาย เขาเป็นห่วงหญิงที่ออกไปก่อนหน้านี้จึงหันไปหยิบร่มใบกางใหญ่เดินหาเธอ พอได้พบจึงมอบร่มกางนั้นให้กับหญิงสาว "คุณครับ พอดีผมเห็นว่าเเดดมันเเรง ก็เลยเอาร่มมาให้คุณเดินทางปลอดภัยนะครับ"ขอบคุณค่ะ"นฤมลเพียงเเค่ตอบส่งๆไปเท่านั้น

"นี่นามบัตรผมครับ ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมก็โทรมาเบอร์นี้เลยครับ"ชายหนุ่มร่างกำยำยื่นบัตรการ์ดกระดาษหนาสีนํ้าตาล เธอจึงรู้ได้ว่าทหารหนุ่มผู้ห้าวหาญคนนี้ชื่อว่า"นัธกิต" "ค่ะคุณนัธ"หญิงสาวเบะยิ้มออกมา รอยยิ้มนั้นสามารถทำให้ฝ่ายชายสลบล้มฟุบลงไปกับพื้นเสียยังได้ เธอจึงค่อยเดินออกไป ต้องยอมรับว่าร่มกางลายดอกที่ทหารหนุ่มมอบให้มาป้องกันเภทภัยจากเเสงสุริยันต์ได้ดี เพราะฉนั้นก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธโดยชอบ

เงินที่นฤมลติดตัวมานั้นก็มีจำกัดซึ่งพอประมาณกับการเเวะตู้โทรสายไปหาอาด้วง ที่เป็นเพื่อนร่วมชีวิตของผู้เป็นบิดาบังเกิดเกล้าเสียงกริ่งออดของโทรศัพท์บ้านดังขึ้น ชายหนุ่มวัยเกษียรถือหูรับสาย "บ้านเสมือนเเววรับสายครับ"อาด้วงคะ พอดีมลขอไปอยู่ด้วยได้ไหมคะ มลออกมาทำธุระ"มลใช่ไหม ได้สิมาเลยไม่ต้องเกรงใจ"ปลายสายรับคำขอของเธอเเต่โดยดี จึงทำให้คืนนี้หญืงสาวก็มีที่ซุกหัวนอน

                                                                  3กลกลิ่นเเก้ว