"ในโลกที่เต็มไปด้วยความมืดมิด เรายังคงตามหาแสงสว่างเล็ก ๆ ที่พอจะหล่อเลี้ยงหัวใจ" ความสัมพันธ์ที่เคยงดงามถูกทำลายลงเป็นเสี่ยง ๆ เหลือไว้เพียงบาดแผลในใจ
รัก,ดราม่า,ชาย-หญิง,ชาย-ชาย,ครอบครัว,พระเอกคลั่งรัก,เพื่อนสนิท,เพื่อนรัก,มิตรภาพ,ปัญหารุมเร้า,ครอบครัว,ความรัก,รัก,รักดราม่า,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ความมืดสุดท้าย : Final Shadow"ในโลกที่เต็มไปด้วยความมืดมิด เรายังคงตามหาแสงสว่างเล็ก ๆ ที่พอจะหล่อเลี้ยงหัวใจ" ความสัมพันธ์ที่เคยงดงามถูกทำลายลงเป็นเสี่ยง ๆ เหลือไว้เพียงบาดแผลในใจ
สวัสดี…ซอลเอง เราเจอกันอีกแล้วนะ คุณเคยอ่านเรื่องราววัยเด็กของฉันมาแล้ว คุณคงสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างฉันกับพัด ฉันจะเล่าให้คุณฟังแบบคร่าว ๆ เท่าที่ฉันพอจะพูดถึงมันได้แล้วกัน อาจมีความรุนแรงที่ไม่เหมาะสม ฉันไม่คิดว่าจะลงรายละเอียดเรื่องนั้นได้ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะ และนี่คือเรื่องราวของฉันกับรักครั้งแรก
บทเรียนครั้งสำคัญฉันไม่คิดว่ามันจะมาพร้อมกับคนที่ขึ้นชื่อว่า
…รักแรก…
ช่วงมัธยมฯ เป็นวัยที่เริ่มต้นสิ่งใหม่หลาย ๆ อย่าง เสมือนผึ้งงานที่เพิ่งออกจากรังครั้งแรก เป็นการเปิดโลกกว้างที่ฉันเองไม่ได้เห็นมานานหลังจากปัญหาของพ่อแม่ ฉันกลายเป็นเด็กเก็บตัวไม่มีเพื่อนสนิทนอกจากปอนด์ที่พยายามเข้าหาฉันอย่างไม่ละความพยายาม
กระทั่งมาโรงเรียนใหม่เพื่อนรักอย่างปอนด์ก็ยังขอร้องแม่เพื่อให้ได้มาเรียนด้วยกัน ฉันเคยคิดนะว่ามันชอบฉันหรือเปล่า แต่ความคิดนี้เป็นเรื่องที่น่าขนลุกพอสมควร เราได้รู้จักเพื่อนใหม่มากขึ้น ถึงอย่างนั้นแล้วฉันก็ยังคงไม่สนิทกับใครเป็นพิเศษ จนวันหนึ่งเพื่อนชายต่างห้องก็เข้ามาทำความรู้จักและคอยแวะเวียนเทียวหาฉันไม่ต่างจากปอนด์เท่าไหร่
“ไง…เราพัดนะอยู่ห้องหนึ่ง”
“ไง…เรารู้จักกันเหรอ” ฉันตอบกลับไปอย่างไม่สนใจอะไร ถึงจะรู้จักชื่อเสียงเขามาบ้างถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้สนใจเขามากสักเท่าไหร่ในวันนั้น
พัด เพื่อนร่วมรุ่นเข้ามาในชีวิตของฉันในช่วงวัยที่ความรักดูเหมือนเป็นอะไรที่เรียบง่าย พัดเป็นคนที่ทุกคนชื่นชม ทั้งเป็นคนเก่ง อบอุ่น ขยันทำกิจกรรม และเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลาย ๆ คน เขาเป็นคนหน้าตาดีระดับที่เป็นเดือนโรงเรียนเลย หล่อ เก่ง คารมดี เพียบพร้อมไปเสียทุกเรื่อง ใครต่อใครก็หลงรักเขา ฉันก็เช่นกัน…
“เวลาพัดเล่นบาสนี่มีเสน่ห์สุด ๆ เลยนะ ว่าไหมครับเพื่อน” ปอนด์พูดแซวคนที่นั่งหน้าแดงมองพัดที่สนามบาสอย่างไม่วางตา
“แต่คนอย่างพัดกับกูเนี่ยนะ โคตรเพ้อเจ้อเลยมึง” เพราะเขาเป็นที่รู้จักในโรงเรียนส่วนฉันเป็นเพียงเด็กที่หลบอยู่ในเงามืด ไม่มีอะไรที่เหมาะสมกันสักอย่าง ได้แต่นั่งมองเขาอยู่ไกล ๆ แค่นี้ก็อุ่นใจแล้ว
ฉันชอบรอยยิ้มของพัด ชอบความเอาใจใส่ที่เขามีให้กับทุกคน และสำหรับคนที่ชอบเก็บตัวแบบฉันในตอนนั้น พัดเป็นอีกคนที่ช่วยเปิดโลกใบใหม่นี้ ฉันตกหลุมรักเขาอย่างง่ายดายและคิดว่าพัดเองก็คิดแบบเดียวกัน พัดคอยเข้าหาฉันอยู่เรื่อย ๆ ซื้อขนมมาให้ทุกวันจนหลายคนเริ่มจับตามองและเอาตัวฉันเข้าไปอยู่ในแสง แม้ฉันจะทำเป็นไม่สนใจคนเหล่านั้นแต่มันก็ทำให้ฉันรู้สึกอึดอัดไม่มากก็น้อย
“อย่าไปสนใจเลยซอล เราเป็นคนเข้าหาซอลนะสนใจแค่เราก็พอแล้ว” คำพูดหวานเลี่ยนออกจากปากคนหน้าตาดีอย่างเขา ก็แอบเป็นเรื่องน่าขับแต่ฉันกลับเขินอย่างบอกไม่ถูก
เวลานั้นก็ดูเหมือนจะดีไปทุกอย่าง ความรักช่วงแรกของเราราวกับเพลงรักในฤดูใบไม้ผลิ ฉันเหมือนคนที่โชคดีที่สุด เพราะเขาไม่เคยทำให้ผมรู้สึกโดดเดี่ยวหรือผิดหวังแม้แต่เรื่องเดียว เขาคอยใส่ใจ ไปรับไปส่งคอยดูแลอยู่เสมอ พัดมีเสน่ห์ในแบบที่เขาดึงดูดผู้คนเข้าแต่เขาก็ไม่เคยทำให้ฉันกังวลในเรื่องนี้ วันที่ฉันเฝ้ารอก็มาถึง
“คบกับเรานะซอล…” ใช่ เขาขอฉันเป็นแฟนและฉันเองก็ตอบตกลงอย่างที่ไม่มีคำตอบใดให้ลังเล
นานวันเข้า พัดได้รู้จักเพื่อนกลุ่มใหม่ ฉันไม่รู้รายละเอียดมากนักว่าเขาไปสนิทกันได้ยังไง เพราะเพื่อนใหม่ของพัดเป็นประเภทที่ฉันไม่คาดคิดว่าพัดจะไปสนิทได้เลย เพื่อนกลุ่มนี้เป็นเหมือนนักเลงประจำโรงเรียน อะไรที่ไม่ดีพวกเขามีครบทุกอย่าง พัดเริ่มเปลี่ยนไปทีละน้อยเหมือนว่าชีวิตเขากำลังไหลไปกับกระแสบางอย่างที่ฉันเองก็ไม่สามารถควบคุมได้
“พัด ช่วงนี้พัดเริ่มโดดเรียนบ่อยแล้วนะ” ฉันคอยเตือนพัดอยู่เสมอแต่ก็ไม่สามารถจะห้ามในสิ่งที่เขาทำได้
“ซอลจะโทษว่าเราไม่ดีเหรอ? เราก็ไม่เคยทำให้ซอลเดือดร้อนนี่” ทุกครั้งที่เริ่มคุยกันเรื่องนี้น้ำเสียงเขาดูไม่พอใจและมักจะขึ้นเสียงอยู่ตลอด ฉันจึงเลือกที่จะปล่อยเรื่องนี้ให้เขาจัดการเอง แม้สุดท้ายฉันจะเป็นคนที่คอยช่วยเหลือเขาเรื่องการเรียนอยู่ตลอดก็ตาม
พอขึ้นม.ปลาย พัดก็เริ่มเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ทั้งการเข้าหาผู้คนที่ดูไม่ปลอดภัย อารมณ์ของเขาก้าวร้าวขึ้นมาก จากชายหนุ่มที่มีชื่อเสียงในโรงเรียนกลับกลายเป็นชื่อเสียที่แพร่สะพัด สาว ๆ ที่เคยเป็นแฟนตัวยงของพัดก็มักจะกล่าวว่าฉันเป็นต้นเหตุที่ทำให้พัดเปลี่ยนไป
“ตั้งแต่พัดเริ่มคบกับซอลก็เปลี่ยนไปหมด”
“คนที่เคยดูดีตอนนี้โทรมอย่างกับคนติดยา”
“ถึงจะหล่อแต่ก็เหมือนคนโดนของอย่างนั้นแหละ”
“ซอลพาพัดเสียหมดมันรู้ตัวไหม”
เสียงเหล่านั้นทำให้ฉันพร่ำโทษตัวเองที่ไม่ห้ามปรามเขา ตอนแรกฉันพยายามเข้าใจว่าเขาแค่ต้องการมีเพื่อน ต้องการผ่อนคลายเหมือนวัยรุ่นทั่วไป แต่ความสนิทสนมที่เขามีให้กับเพื่อนบางคน และคำพูดเยาะเย้ยของพวกเขาทำให้ฉันเริ่มรู้สึกว่าเขากำลังทิ้งคนรักอย่างฉันไว้ข้างหลัง
ความรู้สึกไม่มั่นคงเริ่มก่อตัวขึ้น และแม้จะพยายามคุยกันหลายครั้ง แต่พัดก็เหมือนจะกลายเป็นคนอื่นไปแล้ว เขาเริ่มหงุดหงิดง่าย ขี้โมโห และบางครั้งก็เริ่มมีคำพูดที่ทำร้ายจิตใจ แม้จะเป็นเช่นนั้นฉันก็ไม่ทิ้งความหวังที่ว่า เขาจะกลับไปเป็นพัดคนเดิมได้
ช่วง ม.6 เขาเข้ามาหาฉันด้วยท่าทีสำนึกผิด ฉันยังคงให้โอกาสพัดอยู่เสมอ และเลือกที่จะไม่บอกใครว่าฉันผ่านอะไรมาบ้าง พยายามอดทนและหวังว่าเขาจะกลับมาเป็นคนเดิม วันหนึ่งพัดสารภาพกับฉันว่าเขากำลังหลงทางและพลาดพลั้งไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เป็นวันที่ฉันรับรู้ความจริงทุกอย่างครั้งแรกและเป็นวันที่ฉันแหลกสลายมากที่สุด
เขาสัญญาว่าเขาจะเลิกยุ่งกับยาและเพื่อนกลุ่มนั้น ฉันเชื่อเขาทั้งที่รู้ว่ามันยาก แต่ลึก ๆ ในใจก็หวังว่าความรักของฉันจะช่วยดึงเขากลับมาได้
คืนหนึ่งช่วงปิดเทอมฉันไปค้างที่บ้านเขา แต่เขากลับหายตัวไปทั้งคืนและกลับมาพร้อมกลิ่นเหล้าที่คลุ้งเต็มตัว ฉันจำได้ว่าเราทะเลาะกันอย่างรุนแรงที่สุดในวันนั้น ฉันพยายามถามเขาว่าเขาจะทำตัวแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่ คำตอบของพัดคือการข่มขู่และใช้กำลัง เขาผลักตัวฉันไปที่มุมห้อง ตอนนั้นฉันรู้สึกอ่อนแอจนพูดไม่ออก ในใจยังมีความรู้สึกรักอยู่มากเกินกว่าจะปล่อยเขาไปได้ง่าย ๆ พัดทำให้คิดว่าบางทีอาจเป็นเพราะตัวฉันเองที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้
ความรักของเราเป็นเหมือนวงล้อที่หมุนวนซ้ำไปมากระทั่งขึ้นมหาฯ ลัย เมื่อพัดรู้สึกผิดและกลับมาขอโอกาส ฉันก็ยอมให้อภัยเสมอ แต่หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็กลับไปใช้ชีวิตในแบบเดิม ฉันเริ่มไม่แน่ใจว่าควรจะอยู่ในความสัมพันธ์ที่ทำให้ตัวเองเจ็บปวดแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่ ความรักที่เคยมีเริ่มกลายเป็นความขมขื่น ความผิดหวังที่พัดทำให้ผมรู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีค่า ซ้ำร้ายที่สุดคือช่วงที่พัดเริ่มใช้ความรุนแรงมากขึ้น เมื่อเขาเริ่มลงมือทำร้ายร่างกายเพราะฉันจับได้ว่าเขา…นอกใจ
แม้ใครหลายคนรอบตัวคอยพร่ำเตือนฉันเรื่องของพัด รอยช้ำตามตัวที่เหมือนเปลี่ยนรูปร่างไปในทุกสัปดาห์ราวกับงานศิลปะที่เปลี่ยนรูปแบบไปในแต่ละครั้ง เหตุผลเดียวที่ฉันยังคงอยู่ตรงนี้ได้มีเพียงแค่คำว่า รัก คำเดียวเท่านั้น ใคร ๆ ก็รู้ดีว่า ความรักมันไม่มากพอ ผู้หญิงที่พัดมักไปติดพันด้วยคอยส่งข้อความมาระรานฉันเป็นระยะ แต่ตราบใดที่ฉันยังคงเชื่อว่าพัดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ ฉันก็จะอดทนกับเรื่องนี้ต่อไป แต่ความคิดนี้มันผิด
ความคิดที่ว่าจะทนกับมันได้ แต่ทุกครั้งที่รอยฟกช้ำปรากฏบนตัว ฉันรู้ดีว่าไม่มีวันอดทนได้นานพอที่จะเปลี่ยนเขาได้ ฉันนั่งเหม่อคิดเรื่องพัดอยู่ที่ร้านพี่เตในวันหยุด พี่เตเห็นภาพนี้ซ้ำ ๆ จนทนไม่ได้
“ซอล…พี่ว่าอย่าอดทนอีกเลย”
“กูว่ามันนานมากพอที่จะดึงพัดกลับมาไม่ได้แล้วนะมึง” ปอนด์ที่เคียงข้างอยู่เสมอพูดดึงสติฉัน มันนานมากพอแล้วที่ฉันอดทนอยู่
วันสุดท้ายที่ตัดสินใจจะเดินออกมาเป็นวันที่พัดทำร้ายฉันหนักที่สุด เขาลงมือทั้งที่ผมขอร้องให้หยุด พัดไม่ฟังอะไรทั้งนั้นราวกับเขาเป็นคนที่ขาดสติ เวลานั้นเหมือนโลกกำลังหมุนรอบตัวพัดเพียงเท่านั้น ฉันนอนขดตัวอยู่กับพื้น ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตา มุมปากเริ่มมีของเหลวสีแดงไหลออกมาขณะที่เขายังคงระบายอารมณ์มาที่ร่างกายของฉัน ณ ตอนนั้นมันทำให้ฟางเส้นสุดท้ายของความอดทนขาดวิ่นอย่างถึงที่สุด
ฉันยื่นคำขาดและยุติความสัมพันธ์ลงในที่สุด ไม่ใช่เพราะหมดรัก แต่เพราะฉันรักตัวเองไม่มากพอที่จะให้ใครทำร้ายได้อีก บาดแผลตามตัวที่พัดทิ้งไว้ให้เป็นบทเรียนที่ฉันคอยบอกตัวเองเสมอ อย่ารักใครมากกว่าตัวเอง
จากเรื่องราวที่ผ่านมาทำให้ฉันกลายเป็นคนหมดศรัทธาเรื่องความรัก ในวันนี้ที่พัดกลับเข้ามาฉันปักใจเชื่อไม่ลงว่าเขาจะเป็นคนที่ดีขึ้น ฉันมั่นใจว่าตัวเองในวันนี้ไม่มีทางจะโง่เชื่อรักลวง ๆ ของคนพันธุ์นี้ได้อีก เพราะฉันไม่ใช่ซอลที่อ่อนต่อโลกอีกอย่างในวันนั้นอีกต่อไป…