ต้องขออภัยที่เน้นใช้ชีวิตแต่ลืมคิดวิธีเอาตัวรอด

หอสุราบุษบาเริงรมย์ - ตอนที่ 29 ระยะห่างที่คิดถึง ปลดเหรียญ 12/01/68 ติดเหรียญถาวร 19/01/68 โดย มู่จิ่น 木槿 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

จีน,รัก,ชาย-หญิง,เกิดใหม่,ครอบครัว,ซินเอ๋อร์ไม่เมา ,นิยายรักจีนโบราณ,ครอบครัว,ทะลุมิติ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

หอสุราบุษบาเริงรมย์

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

จีน,รัก,ชาย-หญิง,เกิดใหม่,ครอบครัว

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ซินเอ๋อร์ไม่เมา ,นิยายรักจีนโบราณ,ครอบครัว,ทะลุมิติ

รายละเอียด

หอสุราบุษบาเริงรมย์ โดย มู่จิ่น 木槿 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ต้องขออภัยที่เน้นใช้ชีวิตแต่ลืมคิดวิธีเอาตัวรอด

ผู้แต่ง

มู่จิ่น 木槿

เรื่องย่อ

ฟ้าดินคงมองเห็นว่าชีวิตของหญิงสาววัยสี่สิบพอดิบพอดีอย่างพิมพ์พลอยมันคงเรียบเรื่อยเกินไปจนไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นจึงฉวยโอกาสในวันที่เธอเมาแล้วเดินตกบันไดบ้านหัวฟาดฟื้นส่งวิญญาณของเธอมาอยู่ในร่างของหญิงสาวอายุสิบแปดปี สถานะโสดแต่มีลูกหนึ่งคนพ่วงตำแหน่งหญิงม่ายป้ายแดงที่เพิ่งจะขอหย่าขาดจากสามี

แม้มงจะลงแต่ก็งงหนักมากหลังจากที่ตั้งสติได้ก็ต้องตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากินเพื่อเลี้ยงบุตรสาวคนเดียวให้เติบโตโดยสิ่งเดียวที่รู้สึกว่าจะเข้าทางสาวขี้เมาในชีวิตเก่าก็คงจะเป็นกิจการร้านสุราที่เป็นมรดกตกทอดของครอบครัว ในเมื่อชาติก่อนดันต้องมาตายเพราะเหล้าแต่ชาตินี้เกาเย่วซินที่มีไส้ในเป็นคุณป้ายังสวยวัยสี่สิบจึงสัญญากับตัวเองเอาไว้ว่าจะนางแจ้งเกิดและร่ำรวยด้วยเหล้าให้ได้

 

หมายเหตุ นิยายเรื่องนี้ไม่อิงประวัติศาสตร์ไม่ว่าจะ สถานที่ เหตุการณ์ หรือตัวบุคคลในเรื่องล้วนเกิดจากจินตนาการของผู้เขียนทั้งสิ้นค่ะ

 

กติกาการลงนิยาย

ลงเนื้อหาให้อ่านฟรี 10 ตอนหลังจากนั้นจะติดเหรียญจนถึงตอนจบค่ะ

สารบัญ

หอสุราบุษบาเริงรมย์-ตอนที่ 1 หญิงม่ายหย่าผัว,หอสุราบุษบาเริงรมย์-ตอนที่ 2 พบเจอขุมสมบัติ,หอสุราบุษบาเริงรมย์-ตอนที่ 3 มรดกตกทอด,หอสุราบุษบาเริงรมย์-ตอนที่ 4 เตรียมการเพื่ออนาคต,หอสุราบุษบาเริงรมย์-ตอนที่ 5 เริ่มรับซื้อวัตถุดิบ,หอสุราบุษบาเริงรมย์-ตอนที่ 6 ช่างไม้,หอสุราบุษบาเริงรมย์-ตอนที่ 7 เป็นขุมทรัพย์ซ้อนขุมทรัพย์,หอสุราบุษบาเริงรมย์-ตอนที่ 8 แล้วบุรุษผู้นี้คือใครกันเล่า,หอสุราบุษบาเริงรมย์-ตอนที่ 9 สุราเลิศรส,หอสุราบุษบาเริงรมย์-ตอนที่ 10 ตัวอย่างเครื่องเรือน,หอสุราบุษบาเริงรมย์-ตอนที่ 11 สุราดอกไม้ ปลดเหรียญ 22/12/67 ติดเหรียญถาวร 29/12/67,หอสุราบุษบาเริงรมย์-ตอนที่ 12 การหวนคืน ปลดเหรียญ 23/12/67 ติดเหรียญถาวร 30/12/67,หอสุราบุษบาเริงรมย์-ตอนที่ 13 สตรีม่ายขี้เมาที่มิอาจดูเบานางได้ ปลดเหรียญ 24/12/67 ติดเหรียญถาวร 31/12/67,หอสุราบุษบาเริงรมย์-ตอนที่ 14 การเกี้ยวพาที่น่ารำคาญ ปลดเหรียญ 25/12/67 ติดเหรียญถาวร 01/01/68,หอสุราบุษบาเริงรมย์-ตอนที่ 15 บุตรของข้ามีบิดาเพียงคนเดียว ปลดเหรียญ 26/12/67 ติดเหรียญถาวร 02/01/68,หอสุราบุษบาเริงรมย์-ตอนที่ 16 ดอกบ๊วย ปลดเหรียญ 28/12/67 ติดเหรียญถาวร 04/01/68,หอสุราบุษบาเริงรมย์-ตอนที่ 17 รับจัดเลี้ยงนอกสถานที่ ปลดเหรียญ 29/12/67 ติดเหรียญถาวร 05/01/68,หอสุราบุษบาเริงรมย์-ตอนที่ 18 สตรีอย่างข้านี่แหละที่จะเกี้ยวพาบุรุษ ปลดเหรียญใช้กุญแจ 30/12/67 ติดเหรียญถาวร 06/01/68,หอสุราบุษบาเริงรมย์-ตอนที่ 19 งานจิบสุราชมบุปผา ปลดเหรียญ 31/12/67 ติดเหรียญถาวร 07/01/68,หอสุราบุษบาเริงรมย์-ตอนที่ 20 เหมาทั้งร้าน ปลดเหรียญ 01/01/68 ติดเหรียญถาวร 08/01/68,หอสุราบุษบาเริงรมย์-ตอนที่ 21 เวลาส่วนตัว ปลดเหรียญ 04/01/68 ติดเหรียญถาวร 11/01/68,หอสุราบุษบาเริงรมย์-ตอนที่ 22 อดีตสามี ปลดเหรียญ 05/01/68 ติดเหรียญถาวร 12/01/68,หอสุราบุษบาเริงรมย์-ตอนที่ 23 ไหน้ำส้มแตกดังโพล๊ะ ปลดเหรียญ 06/01/68 ติดเหรียญถาวร 13/01/68,หอสุราบุษบาเริงรมย์-ตอนที่ 24 ให้ความช่วยเหลือ ปลดเหรียญ 07/01/68 ติดเหรียญถาวร 14/01/68,หอสุราบุษบาเริงรมย์-ตอนที่ 25 เมื่อเหล้าองุ่นบ่มได้ที่ ปลดเหรียญ 08/01/68 ติดเหรียญถาวร 15/01/68,หอสุราบุษบาเริงรมย์-ตอนที่ 26 การกลั่นสุรา ปลดเหรียญ 09/01/68 ติดเหรียญถาวร 16/01/68,หอสุราบุษบาเริงรมย์-ตอนที่ 27 เทศกาลเฉลิมฉลอง ปลดเหรียญ 10/01/68 ติดเหรียญถาวร 17/01/68,หอสุราบุษบาเริงรมย์-ตอนที่ 28 เถ้าแก่เนี้ยผู้งดงาม ปลดเหรียญ 11/01/68 ติดเหรียญถาวร 18/01/68,หอสุราบุษบาเริงรมย์-ตอนที่ 29 ระยะห่างที่คิดถึง ปลดเหรียญ 12/01/68 ติดเหรียญถาวร 19/01/68,หอสุราบุษบาเริงรมย์-ตอนที่ 30 ตกลงปลงใจ (จบ) ปลดเหรียญ 13/01/68 ติดเหรียญถาวร 20/01/68

เนื้อหา

ตอนที่ 29 ระยะห่างที่คิดถึง ปลดเหรียญ 12/01/68 ติดเหรียญถาวร 19/01/68

ระยะนี้ทั้งหงฟาหยางและเกาเย่วซินมีงานรัดตัวเป็นอย่างมากฝั่งทางร้านเครื่องเรือนต้องจัดการยอดคำสั่งซื้อจำนวนมหาศาลให้ทันกำหนดส่งถึงแม้จะไม่ใช่งานที่ยากเกินความสามารถของนายช่างทั้งหลายแต่ก็นับว่าตึงมืออยู่ไม่น้อยด้วยจำนวนที่ต้องจัดส่งถึงหนึ่งพันชุดภายในเวลาเพียงสามเดือนเท่านั้น

งานที่มียอดสั่งมาคือชุดโต๊ะกินข้าวขนาดสี่ที่นั่งจำนวนห้าร้อยชุดและชุดโต๊ะรับรองแขกสี่ที่นั่งจำนวนห้าร้อยชุดเช่นเดียวกันโดยสินค้าทั้งหมดมีจุดหมายปลายทางคือร้านเครื่องเรือนใหญ่ในเขตเมืองหลวงที่เพิ่งมาเป็นคู่ค้าใหม่ได้เพียงสองสามปีแต่ยอดสั่งนั้นเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จากที่สั่งปีละสองร้อยชุดก็ขยับขึ้นมาเป็นหนึ่งพันชุดภายในเวลาไม่นานก็นับว่าเป็นความภาคภูมิใจของร้านเครื่องเรือนสกุลหงที่มีคู่ค้าไว้วางใจในฝีมือของพวกเขาเช่นนี้

และแน่นอนว่างานที่มีจำนวนยอดสั่งมากขนาดนี้หงฟาหยางย่อมจะออกแบบสินค้าให้มีเอกลักษณะเฉพาะตัวเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละร้านที่รับสินค้าไปวางขายเนื่องด้วยในเขตเมืองหลวงนั้นร้านเครื่องเรือนสกุลหงไม่ได้มีคู่ค้าแค่เพียงรายเดียวการผลิตสินค้าให้แตกต่างกันไปในแต่ละร้านทำให้เขายิ่งได้รับความไว้วางใจและความเชื่อถือจากคู่ค้าเพิ่มมากขึ้นด้วย

“ท่านพ่อ วันนี้ท่านว่างพาข้าไปหาน้องสาวหรือไม่ขอรับ” นี่ก็เป็นอีกวันที่หงไป๋เซ่อมาหาบิดาด้วยความหวังเนื่องจากเป็นเวลากว่าสิบวันแล้วที่ตนเองไม่ได้ไปเล่นกับน้องสาวเสี่ยวชื่อเลยเด็กน้อยคิดถึงเสียงเล็กๆ ที่คอยเรียกเขาว่าพี่ชายและขนมอร่อยๆ ของท่านน้าคนงามจนแทบจะร้องไห้ออกมาแล้ว

“ไป๋เอ๋อร์พ่อยังวางมือไม่ได้เลยลูกรัก แต่หากเจ้าอยากไปจริงๆ พ่อคงต้องฝากเจ้าไปกับเกวียนของท่านลุงเส้าก่อนถ้าต้องไปคนเดียวจะกลัวหรือไม่” หงไป๋เซ่อมีอายุได้หกหนาวแล้วจะว่ายังเด็กอยู่มากแต่กระนั้นก็ยังโตพอที่จะรับผิดชอบตนเองได้บ้างแล้วจึงพอจะวางใจให้เขาทำอะไรด้วยตนเองได้บ้างเป็นครั้งคราวแต่การเดินทางเพียงคนเดียวนั้นหงฟาหยางยังไม่เคยทำจึงต้องถามความรู้สึกของบุตรชายเสียก่อน

“ก็นิดหน่อยแต่ข้าอยากลองนะขอรับท่านพ่อ ข้าคิดถึงน้องสาวไม่ได้เจอไม่ได้เล่นกับนางมาตั้งสิบวันแล้ว” โดยปกติหงฟาหยางจะพาบุตรชายไปที่เรือนของเกาเย่วซินสัปดาห์ละหนึ่งถึงสองครั้งเด็กๆ จึงได้พบเจอและเล่นด้วยกันอยู่สม่ำเสมอแต่นี่เวลาก็ล่วงเลยมาถึงสิบวันแล้วเจ้าลูกชายตัวดีคงทนคิดถึงน้องไม่ไหวจึงได้เดินมาถามกันตรงๆ

หงฟาหยางเคยถามบุตรชายไปตรงๆ ว่าแท้ที่จริงแล้วหงไป๋เซ่อคิดอย่างไรกับเจ้าก่อนแป้งสกุลเกาคำตอบที่ได้รับมาก็คือเด็กชายมองน้องสาวเป็นน้องแท้ๆ และอยากปกป้องดูแลให้นางเติบโตได้อย่างปลอดภัยไม่มีใจเป็นอื่นถึงแม้มันจะดูแปลกที่ไปถามเรื่องนี้กับเด็กที่มีอายุเพียงห้าหกหนาวแต่เถ้าแก่หงก็อยากถามเพื่อความแน่ใจเพื่อเตรียมการให้ครอบครัวที่ตนเองกำลังจะสร้างขึ้นมาในอนาคตอันใกล้นี้

“ถ้าเช่นนั้นเจ้าไปเตรียมตัวให้พร้อมแล้วมาหาพ่อนะพ่อจะพาไปขึ้นเกวียนของท่านลุงเส้าเอง” เกวียนที่ผ่านไปยังร้านสุราสกุลเกานั้นมีหลายคันแต่ถ้าให้เลือกไว้ใครคนขับเกวียนคนใดมากที่สุดก็คงต้องบอกว่าเป็นท่านลุงเส้าต๋าสามีของเท่าป้าเส้าเวินแม่ครัวมือหนึ่งแห่งร้านสุราสกุลเกาอย่างแน่นอน

ใช้เวลาเพียงสองเค่อหงไป๋เซ่อก็เตรียมตัวเสร็จเรียบร้อยทั้งยังย่องไปขอขนมของท่านย่าไปฝากน้องน้อยได้อีกต่างหากหงฟาหยางจึงจูงมือลูกชายที่สะพายห่อของเล่นและขนมออกมายังจุดรับส่งเกวียนรับจ้างที่อยู่ไม่ไกลจากร้านเครื่องเรือนสกุลเกาเท่าไรนัก

“ท่านลุงเส้าขอรับวันนี้ไป๋เอ๋อร์จะเดินทางไปพบซินเอ๋อร์และเสี่ยวชื่อข้าขอฝากบุตรชายไปกับท่านด้วยนะขอรับ ช่วงนี้ที่ร้านมีงานล้นมือจึงปลีกตัวไปไม่ได้เลย” มาถึงบริเวณจุดจอดเกวียนรับจังก็พบท่านลุงเส้าต๋ากำลังช่วยคนขนของลงจากเกวียนอยู่พอดีหงฟาหยางจึงเข้าไปช่วยแล้วบอกความประสงค์ของตนเอง

“เรื่องแค่นี้เองเถ้าแก่หง ข้าจะดูแลไป๋เอ๋อร์ให้เจ้าเองไม่ต้องเป็นห่วงเขาจะปลอดภัยทั้งขาไปและขากลับอย่างแน่นอน” ท่านลุงเส้าต๋ารับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะอีกทั้งบุตรชายของเถ้าแก่หงเองก็ไม่ใช่เด็กที่มีนิสัยดื้อรั้นจึงมั่นใจได้ว่าเขาจะเชื่อฟังและต้องปลอดภัยไปตลอดการเดินทางระยะเวลาสั้นๆ นี้อย่างแน่นอน

“ขอบคุณท่านมากขอรับ ไป๋เอ๋อร์พ่อต้องกลับไปที่ร้านก่อนยังมีงานรออยู่มากเล่นวันนี้เจ้าให้สนุกพ่อฝากความคิดถึงให้ท่านน้าและเสี่ยวชื่อด้วยนะ อย่ากลับให้ค่ำนักเล่า” บิดาสั่งความกับบุตรชายอีกเล็กน้อยก่อนจะปล่อยให้เขานั่งรอเวลาเกวียนออกอยู่กับท่านลุงเส้าที่คงใช้เวลาไม่นานเพราะระหว่างที่คุยกันอยู่นั้นก็มีชาวบ้านมาขึ้นเกวียนกันบ้างแล้ว

เด็กชายได้ที่นั่งด้านในสุดที่ท่านลุงเส้าจัดให้ปฏิบัติตัวอย่างมีมารยาทเมื่อมีคนถามหรือพูดคุยด้วยเขาก็ตอบไปแบบสั้นๆ แต่คงความสุภาพและอ่อนน้อมเอาไว้อย่างครบถ้วนทำให้ผู้คนต่างก็ประทับใจนักที่เด็กชายผู้ถูกเลี้ยงมาโดยบิดาเพียงผู้เดียวจะมีกิริยามารยาที่งดงามน่าชมและมีความอ่อนโยนได้ถึงขนาดนี้

แน่นอนว่าที่ร้านสกุลเกาทุกคนต่างก็ดีใจที่ได้พบหน้าหงไป๋เซ่อโดยเฉพาะเสี่ยวชื่อตัวน้อยที่นั่งจ้องพูดคุยไม่หยุดปากพร่ำบอกแต่ว่าคิดถึงพี่ชายอย่างนั้นคิดถึงพี่ชายอย่างนี้ทำเอาคนที่หอบความคิดถึงมาไม่ต่างกันยอมเล่นกับน้องแบบพลีกายถวายชีวิตไม่ว่าเสี่ยวชื่ออยากจะเล่นขี่ม้า อยากจะเล่นแต่งตัวตุ๊กตาพี่ชายคนนี้ยอมทั้งเป็นม้าและเป็นตุ๊กตาให้โดยไม่ปริปากบ่นเลยแม้แต่ครึ่งคำ

“ดูท่าพี่หยางจะงานยุ่งมากจริงๆ สินะเสี่ยวฮวาดูท่าแล้วข้าคงต้องทำอาหารบำรุงไปส่งให้เขาบ้างแล้ว” ระหว่างที่เด็กๆ นอนกลางวันด้วยกันเกาเย่วซินกับฉินฮวาก็ทำงานบ้านกันไปเรื่อยๆ โดยช่วงนี้งานในร้านสุราและโรงงานกลั่นสุราอยู่ตัวและเข้าที่มากแล้วจึงไม่จำเป็นต้องไปยืนควบคุมคุณภาพด้วยตัวเองปล่อยให้พี่ใหญ่ฉินฮุยและพี่รองฉินฮุ่ยเป็นผู้ทำหน้าที่ควบคุมดูแลไป

“ดียิ่งนักเจ้าค่ะ เถ้าแก่หงจะได้มีกำลังใจในการทำงานข้าได้ยินคนเขาพูดกันว่าสินค้าของร้านเครื่องเรือนสกุลหงมีร้านเครื่องเรือนจากเมืองหลวงเดินทางมาสั่งซื้อไปขายถึงที่อีกทั้งยังสั่งผลิตครั้งหนึ่งเป็นพันชุดย่อมเหนื่อยล้าเป็นของธรรมดาอยู่แล้ว”

“ถ้าเช่นนั้นข้าจะทำอาหารบำรุงไปส่งพี่หยางและท่านลุงท่านป้าทุกๆ เจ็ดวันก็แล้วกันก่อนหน้านี้เป็นเขาที่เดินทางมาหาข้าแต่หลังจากนี้แหละข้าจะไปให้กำลังใจเขาด้วยตัวเองบ้าง” เมื่อตอนเปิดร้านใหม่ๆ เกาเย่วซินมีงานยุ่งมากก็เป็นฝ่ายของหงฟาหยางที่คอยเดินทางมาไถ่ถามด้วยความเป็นห่วงรวมถึงมาให้กำลังใจกันแทบจะวันเว้นวันแต่ในตอนนี้เป็นฝ่ายชายหนุ่มที่มีงานรัดตัวนางจึงไม่ลังเลเลยที่จะแสดงความห่วงใยในสุขภาพของเขาบ้าง

“พี่จะไปวันนี้เลยไหมเจ้าคะขากลับจะได้ไปส่งไป๋เอ๋อร์ด้วยกันเลย”

“ดูเวลาแล้วก็ยังพอจะตุ๋นน้ำแกงอร่อยๆ ได้สักหม้ออย่างไรแล้วพี่ฝากดูแลเด็กๆ ด้วยนะพี่จะไปตุ๋นน้ำแกงไก่ในครัว” เพราะในบ้านมีวัตถุดิบต่างๆ เตรียมเอาไว้พร้อมอยู่แล้วเพราะท่านป้าเวินจะจ่ายตลาดมาเผื่อทุกเช้าเกาเย่วซินจึงสามารถทำอาหารได้เลยโดยไม่ต้องไปซื้อหาอะไรมาเพิ่ม

แต่นอกจากจะตุ๋นน้ำแกงไก่แล้วนางยังมีปลาตัวใหญ่อีกหนึ่งตัวจึงตั้งใจแล่เนื้อเฉพาะออกมาเพื่อทำปลานึ่งบ๊วยอีกจานเพิ่มความสดชื่นให้กับคนที่ทำงานหนักและนางก็อยู่ในครัวยาวจนกระทั่งเด็กๆ ตื่นจึงได้เตรียมตัวเอาเกวียนที่บ้านออกเพื่อไปส่งอาหารบำรุงกำลังและส่งคุณชายน้อยหงกลับบ้านด้วยในเวลาเดียวกัน

หงฟาหยางแทบจะฉีกยิ้มกว้างไปจนถึงรูหูเมื่อเห็นว่าคนที่มาส่งบุตรชายมิใช่ท่านลุงเส้าคนขับเกวียนรับจ้างแต่เป็นเถ้าแก่เนี้ยคนงามของร้านสุราสกุลเกาที่ไม่ได้พบหน้ากันมานานถึงสิบวันทั้งๆ ที่ร้านเครื่องเรือนกับร้านสุรานั้นไม่ได้ห่างไกลกันเลยแต่มันเป็นเพราะหน้าที่และความรับผิดชอบต่างหากที่ทำให้เขาต้องข่มใจเอาไว้ไม่ให้เดินทางไปหานางมิเช่นนั้นงานคงเสร็จไม่ทันวันกำหนดส่งเป็นแน่

“ข้าทำอาหารมาให้พี่หยางเจ้าค่ะมีน้ำแกงไก่กับปลานึ่งบ๊วยท่านทำงานหนักข้าจึงคิดว่าคงต้องการอาหารที่บำรุงร่างกายสักหน่อย” ดูจากสภาพของหงฟาหยางแล้วเกาเย่วซินก็คิดแล้วว่าตัวเองตัดสินใจไม่ผิดนี่แค่สิบวันหนวดเคราของเขาก็เริ่มขึ้นรกอีกไม่นานคงกลายเป็นโจรป่าไม่ต่างจากเมื่อครั้งที่ทั้งคู่ได้พบเจอกันเป็นครั้งแรก

“ชื่อชื่อก็มีผลไม้มาฝากท่านลุงนะเจ้าคะ” เสียวชื่อตัวน้อยที่เห็นท่านลุงใจดีมัวแต่ยิ้มหวานให้ท่านแม่ก็เรียกร้องความสนใจด้วยการหยิบสาลี่ลูกโตจากตะกร้าที่ท่านน้าเสี่ยวฮวาถืออยู่มายื่นให้ท่านลุงบ้าง

“ขอบใจมากเสี่ยวชื่อเด็กดีได้กินทั้งผลไม้ของเจ้าและอาหารที่แม่เจ้าทำมาร่างกายของลุงต้องแข็งแรงขึ้นมาเป็นอย่างมากแน่ๆ” หงฟาหยางช้อนตัวเด็กหญิงขึ้นอุ้มก่อนจะจูงมือคนเป็นมารดาเพื่อพากันไปนังพักผ่อนที่ในเรือนก่อน

แต่มานั่งพูดคุยกันได้ไม่นานเถ้าแก่หงก็ต้องออกไปทำงานของตัวเองต่อเกาเย่วซินจึงนั่งสนทนากับผู้อาวุโสของเรือนไปพลางๆ ระหว่างที่รอเวลารับประทานอาหารเย็นด้วยกันซึ่งตัวของนางเองก็ไม่ได้มีความขัดเขินเพราะทั้งมารดาและบิดาของหงฟาหยางต่างก็ใจดีและออกจะเอ็นดูทั้งเกาเย่วซินและเกาเย่วชื่ออยู่มากพอสมควร

“ซินเอ๋อร์จะจัดงานจิบสุราชมดอกไม้อีกทีตอนไหนหรือครั้งนี้สหายจากต่างเมืองของข้านัดกันล่วงหน้าเอาไว้เลยว่าต้องมาชมงานของเจ้าให้ได้ครั้งก่อนทุกคนประทับใจกับเหล้าบ๊วยและขนมที่ทำมาจากดอกบ๊วยมากมายเหลือเกิน” ท่านย่าของไป๋เอ๋อร์เอ่ยถามถึงงานใหญ่ที่เกาเย่วซินตั้งใจว่าจะจัดขึ้นมาทุกปีแต่ปีนี้นางยังไม่รู้เลยว่าจะจัดกันตอนช่วงไหนหรือจะใช้ดอกไม้อะไรเป็นตัวชูโรง

“ปีนี้อาจจะจัดเป็นงานจิบสุราชมดอกท้อเจ้าค่ะความตั้งใจจริงของข้าคือการจัดงานเพื่อแนะนำสุราผลไม้ที่มีในร้านไปปีละชนิดให้ผู้คนได้ทำความรู้จักอย่างลึกซึ้งหลังจากนั้นข้ารับรองว่าการจิบสุราผลไม้จะเปลี่ยนความรู้สึกของทุกท่านไปจากที่ผ่านมาแน่นอนเจ้าค่ะ” สุราดอกท้อแม้ที่ร้านจะมีขายมานานมาแล้วแต่สุราจากผลท้อนั้นนางมั่นใจว่ามันยังไม่เคยมีคนทำงานนี้เกาเย่วซินต้องสร้างความนิยมขึ้นมาได้อีกไม่มากก็น้อย

“ดียิ่งนักแล้วข้าจะต้องหน้าตั้งตารอหากเจ้าได้กำหนดการเมื่อไหร่ก็บอกมาได้เลยนะข้าจะไปกระจายข่าวให้สหายพาบุตรหลานมาอุดหนุนเยอะๆ เลย”