จากแฟนคลับตามกรี๊ดนักแสดงในดวงใจ แต่ฟ้ากลับเล่นตลกให้เธอได้ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการส่วนตัวของเขา ความใกล้ชิดยิ่งทำให้หัวใจหวั่นไหว กว่าเธอจะกระชากหัวใจเขามาได้ เขาก็กระชากอะไรๆ ออกไปจากตัวเธอจนจะหมด

ซุปเปอร์สตาร์แสนรัก - บทนำ บทนำ โดย สายเหมย @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,ไทย,ยุคปัจจุบัน,ครอบครัว,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ซุปเปอร์สตาร์แสนรัก

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,ไทย,ยุคปัจจุบัน,ครอบครัว

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ดราม่า

รายละเอียด

ซุปเปอร์สตาร์แสนรัก โดย สายเหมย @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

จากแฟนคลับตามกรี๊ดนักแสดงในดวงใจ แต่ฟ้ากลับเล่นตลกให้เธอได้ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการส่วนตัวของเขา ความใกล้ชิดยิ่งทำให้หัวใจหวั่นไหว กว่าเธอจะกระชากหัวใจเขามาได้ เขาก็กระชากอะไรๆ ออกไปจากตัวเธอจนจะหมด

ผู้แต่ง

สายเหมย

เรื่องย่อ

จารวีเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมายังเมืองใหญ่ เพราะอยากทำงานในบริษัทที่ใฝ่ฝัน อยากมีเงินเยอะๆ เพื่อจุนเจือคนทางบ้าน  โชคชะตาพลิกผันให้เธอได้กลายมาเป็นผู้จัดการของดาราดัง เฉินลี่หยาง ชายผู้ซึ่งเธอชื่นชอบและเป็นแฟนคลับของเขามาตั้งแต่เด็ก ถึงแม้ตอนนี้เขาจะอายุมากขึ้น แต่เธอกลับพบว่า นานวันเขายิ่งหล่อเหลา มีเสน่ห์ และน่าหลงใหล

ความใกล้ชิดจนเกิดความสัมพันธ์ลับที่แม้กระทั่งเขายังไม่รู้ว่าผู้หญิงที่ตนนอนด้วยนั้นคือใคร เพราะกว่าจะรู้...เธอก็หนีเขาไปแล้ว...

สารบัญ

ซุปเปอร์สตาร์แสนรัก-บทนำ บทนำ,ซุปเปอร์สตาร์แสนรัก-บทที่ 1 บทที่ 1,ซุปเปอร์สตาร์แสนรัก-บทที่ 2 บทที่ 2,ซุปเปอร์สตาร์แสนรัก-บทที่ 3 บทที่ 3,ซุปเปอร์สตาร์แสนรัก-บทที่ 4 บทที่ 4,ซุปเปอร์สตาร์แสนรัก-บทที่ 5 บทที่ 5,ซุปเปอร์สตาร์แสนรัก-บทที่ 6 บทที่ 6,ซุปเปอร์สตาร์แสนรัก-บทที่ 7 บทที่ 7,ซุปเปอร์สตาร์แสนรัก-บทที่ 8 บทที่ 8,ซุปเปอร์สตาร์แสนรัก-บทที่ 9 บทที่ 9,ซุปเปอร์สตาร์แสนรัก-บทที่ 10 บทที่ 10,ซุปเปอร์สตาร์แสนรัก-บทที่ 11 บทที่ 11,ซุปเปอร์สตาร์แสนรัก-บทที่ 12 บทที่ 12,ซุปเปอร์สตาร์แสนรัก-บทที่ 13 บทที่ 13,ซุปเปอร์สตาร์แสนรัก-บทที่ 14 บทที่ 14,ซุปเปอร์สตาร์แสนรัก-บทที่ 15 บทที่ 15

เนื้อหา

บทนำ บทนำ

บทนำ

 

จารวีมองสำรวจข้าวของในกระเป๋าเดินทางใบเล็กของตัวเองว่าเก็บของได้ครบหมดแล้วหรือยัง เพราะวันนี้เธอจะเดินทางจากเมืองไทยไปที่ปักกิ่งเมืองหลวงของจีน เพื่อเตรียมตัวไปสมัครงานที่บริษัทผลิตของเล่นอันดับต้นๆของจีน เธอฝันอยากจะไปทำงานที่นั่นมานานแล้ว และตั้งใจจะไปสมัครเมื่อเธอเรียนจบ ที่นั่นเหมือนเป็นที่รวมความฝันของใครหลายๆ คน ทั้งเงินเดือนที่ดีและโอกาสก้าวหน้าที่ค่อนข้างสูง

หลังจากที่เรียนจบมหาวิทยาลัยในเมืองไทยได้เพียงไม่กี่สัปดาห์ เธอก็เตรียมเอกสารและความพร้อมต่างๆ หวังนิดๆ ว่าตัวเองจะได้รับเลือก ในระหว่างที่รอเรียกตัว เธอจะไปพักอยู่ที่บ้านเจ้านายของป้า เพราะเธอได้คืนห้องพักที่พักมาตั้งแต่สมัยเรียนปีหนึ่งไปแล้ว

นั่นแหละที่ทำให้เธอนอนไม่หลับมาหลายคืน เพราะอะไรน่ะเหรอ 

หญิงสาวมองไปยังผนังห้องที่มีรูปของเฉินลี่หยางดาราหนุ่มสุดฮอตทั้งในอดีตและปัจจุบันติดเต็มไปหมด เขาเป็นนักแสดงที่เธอชื่นชอบมาตั้งแต่เด็กๆ ตอนนั้นเขาเล่นหนังวัยรุ่นหลายเรื่องดังมากจนเธอกับเพื่อนคลั่งไคล้ มีรูปเขาพกในกระเป๋าสตางค์และติดเต็มทั่วห้อง

แต่หลังจากนั้นเขาก็ออกจากวงการไปเรียนต่อที่อเมริกา เธอกับเพื่อนถึงกับหลั่งน้ำตา ร้องไห้เป็นเผาเต่าตอนนักข่าวลงรูปเขาก่อนขึ้นเครื่อง

เธอเองยังเฝ้าตามข่าวเขาเงียบๆ นานๆ ทีหรอกถึงจะมีข่าวคราวของเขาโผล่มาให้เห็น หลายปีต่อมาเธอก็เปลี่ยนมาชอบนักแสดงคนอื่นๆ เพิ่มจึงไม่ได้ติดตามข่าวเขาอีก จนกระทั่งเมื่อสี่ปีก่อนเฉินลี่หยางกลับมาอีกครั้งหลังเขาเรียนจบปริญญาโท

เขาเข้าทำงานที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัว และไม่สนใจจะรับงานในวงการบันเทิงอีก ทั้งที่มีแฟนคลับเฝ้ารอจะได้เห็นผลงานการแสดงของเขาอีกครั้งทั้งในและต่างประเทศ แต่เฉินลี่หยางซึ่งในตอนนั้นเขาอายุ 30 ปี ก็ได้ปฏิเสธ แม้ว่าค่ายหนังต่างก็อ้าแขนรับและเสนอค่าตัวสูงลิ่วให้กับเขา

เขาบอกกับนักข่าวทุกคนว่าเขาอายุมากเกินไปที่จะเล่นหนัง แต่สุดท้ายก็ทนเสียงเรียกร้องของแฟนๆ ไม่ไหวจึงยอมใจอ่อนเล่นหนังแนวรักโรแมนติกให้กับกงอี้เฉินเพื่อนสนิทของเขาที่อยู่ในวงการเป็นนักแสดงมาตั้งแต่วัยรุ่นและผันตัวเองมาเป็นผู้กำกับ

เมื่อหนังเรื่องนั้นเปิดตัวชื่อเสียงของเฉินลี่หยางก็กลับมาดังเปรี้ยงอีกครั้ง ไม่ว่าไปที่ไหนกับใครก็เป็นที่สนใจของผู้คน และมันก็ส่งผลให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของเขาที่มีข่าวว่าตัวเลขติดลบมาสองปีซ้อนกระโดดขึ้นมาหลายเท่าตัว จนคุณเฉินหนิงอัน แม่ของเขาต้องขอให้เขารับงานแสดงอีกหลายครั้ง เพื่อให้ธุรกิจที่เกือบจะล้มรุ่งเรืองขึ้นมาอีกและมันก็เป็นจริงเสียด้วย

สี่ปีหลังเขารับเล่นหนังอีกครั้ง ฐานะทางการเงินของตระกูลเฉินก็เฟื่องฟู นอกจากจะมีรายได้จากการเล่นหนังและรับโฆษณาแล้วธุรกิจของเขาก็ยังไปได้ดี เรียกว่าดีที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งมาเลยก็ว่าได้

จารวีแกะรูปออกมาจากผนังแล้วใส่กล่องเก็บเอาไว้อย่างดี เธอตั้งใจจะเอาไปฝากไว้ที่ห้องของเพื่อนก่อน เพราะทำเรื่องย้ายออกจากห้องนี้เอาไว้แล้ว เธอมองรูปเขาอีกครั้งแล้วอดยิ้มออกมาไม่ได้ จะไม่ให้เธอยิ้มได้อย่างไร ในเมื่อเธอกำลังจะได้ไปอยู่ในบ้านของเขา

ป้าของเธอทำงานเป็นแม่บ้านอยู่ที่นั่น เธอเองก็เพิ่งรู้เมื่อไม่นานมานี้เอง ถ้ารู้เร็วกว่านี้ก็คงหาโอกาสไปเยี่ยมป้าบ่อยๆ เธอเคยไปที่นั่นทั้งสองครั้ง แต่ก็ไม่เคยเจอเขาและไม่รู้เลยว่านั่นคือบ้านของเขา

หญิงสาวสำรวจของในกระเป๋าอีกรอบแล้วลุกออกไปอาบน้ำ อีกหลายชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาที่เครื่องจะออกจากสนามบินไปยังเมืองปักกิ่ง ยังมีเวลาเหลือเฟือที่จะเอาของไปฝาก ซินซินเพื่อนสนิทและร่ำลา โชคดีที่เพื่อนของเธอได้งานทำแล้วหลายคนรวมทั้งซินซินด้วย แต่ก็มีบางส่วนที่ยังไม่ได้งาน และยังไม่ได้เริ่มต้นหา

จารวีแต่งตัวด้วยชุดพร้อมจะออกเดินทาง คือชุดเสื้อยืดและกางเกงยีนสีซีด ตรงเข่ามันขาดรุ่งริ่งไปจนถึงข้อเท้าทั้งสองข้าง มันเป็นตัวโปรดของเธอที่ยิ่งเก่าก็ยิ่งอยากเอามาใส่

หญิงสาวหิ้วกระเป๋าเดินทางไปด้วยเลยเพราะอพาร์ทเม้นท์ของเพื่อนติดถนนใหญ่พอดี เธอแวะซื้อไก่ทอดและพิซซ่ามาด้วย คราวนี้แทบจะหิ้วไม่ไหวจนต้องโทรศัพท์บอกเพื่อนให้ลงมารับและบอกว่าเธอรออยู่ข้างล่างเมื่อมาถึงที่หมาย

“หอบอะไรมาเยอะแยะยะ” ซินซินเพื่อนสาวของเธอลงจากห้องแล้วเดินลิ่วมาช่วยถือของ ที่มีทั้งกระเป๋าเดินทางสองใบ กล่องพลาสติก แล้วไหนจะถุงอาหารตั้งหลายถุงพร้อมน้ำอัดลมของโปรดอีกต่างหาก

“หาอะไรกินก่อนเดินทาง จะได้มีแรงกรี๊ด”

“เวอร์แล้วย่ะ แค่จะได้ไปอยู่บ้านเฉินลี่หยางแค่นี้ ทำเหมือนเขาคุกเข่าขอแกแต่งงาน” ซินซินย่นจมูก แต่แววตาปิดความอิจฉาเอาไว้ไม่มิดเลย

“ก็ทุกทีฉันกับแกต้องวิ่งรอกตามถ่ายรูปเขา ตามล่าลายเซ็นที่ไม่เคยได้ นอกจากซื้อหนังสือที่เขาขึ้นปกแล้วเซ็นสแกนไว้ แต่วันนี้ฉันจะได้ไปอยู่บ้านเขานะ ฉันก็ต้องกินเยอะๆ ฉันจะได้ไม่เป็นลมตอนเห็นหน้าเขาไงล่ะ” หญิงสาวบอกด้วยสีหน้าเปื้อนสุข แม้ว่าเคยไปที่นั่นสองครั้งจะไม่เจอเขาเลย แต่ครั้งนี้เธอฝันดี จึงคิดว่าวันนี้เธอต้องโชคดีได้เจอเฉินลี่หยางตัวเป็นๆ แน่ 

“กินเยอะ เดี๋ยวได้ท้องเสียบนเครื่อง” ซินซินส่ายหน้า 

“แต่ก็ดี ของชอบฉันด้วย”

“ก็ฉันหิวนี่ไม่ได้กินพิซซ่ามาเป็นอาทิตย์แล้ว” จารวีเดินตามเพื่อนไปที่ห้อง แล้วสองสาวก็จัดการกับอาหารหลายถุงนั้นพลางเมาท์มอยกันไปด้วย 

“แกก็รู้ว่าฉันชอบมันแค่ไหน แฟนพันธุ์แท้พิซซ่าก็ฉันนี่แหละ” 

“กินจนหน้าบานออกจนจะเป็นถาดพิซซ่าแล้ว” ซินซินที่ผอมและหุ่นดีกว่าเธอมากย่นจมูก จารวีจึงต้องก้มลงมองตัวเอง ยังเห็นว่าตัวเองแค่อวบอิ่ม นิดๆ เพราะฉะนั้นยังกินได้อีกนาน

“ถึงจะเท่าถาดพิซซ่าแต่ก็แค่ขนาดกลาง ยังไม่ใหญ่ย่ะ”

“เอาที่แกสบายใจเลย ว่าแต่แกอย่าลืมขอลายเซ็นเขามาให้ฉันด้วยนะ ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้ยิ่งอายุเยอะก็ยิ่งหล่อ ตามล่าหาลายเซ็นเขามาตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่นจนเขาอายุขนาดนี้แล้วยังไม่ได้เลย” ซินซินกรี๊ดกร๊าดเมื่อดึงโทรศัพท์มาดูรูปของ นักแสดงในดวงใจที่ดูกี่ทีก็ยังทำให้หน้าแดงอยู่

“หยาบคาย เขาแก่ที่ไหนล่ะแค่สามสิบต้นๆ”

“แหม... แตะไม่ได้เลยนะ อย่าลืมอ่อยเขาเยอะๆ ล่ะ ถ้าเขาชอบแกขึ้นมาละก็นะ แกจะกลายเป็นผู้หญิงที่โชคดียิ่งกว่าซินเดอเรลล่าอีก”

“บ้า” จารวีหัวเราะร่วนแล้วหยิกแก้มเพื่อนแรงๆ

“แกอย่ามาชวนฉันฝันเฟื่องได้ไหมซินซิน สารรูปอย่างฉันเนี่ย ผู้ชายระดับเขาซูเปอร์สตาร์สุดฮอต จะหันมามองฉันได้ยังไง อย่างเราๆ เนี่ยก็เป็นแฟนของเขาได้แค่ตอนหลับเท่านั้นแหละ”

“ทำไมล่ะ แกสวยออก ลูกครึ่งเกาหลีแบบแกสวยจะตาย ดูเด็กเหมือนแกเพิ่งอยู่มอปลาย ฉันยังอิจฉาเลย ถ้าแกผอมกว่านี้อีกสักนิดหนึ่ง ถอดไอ้แว่นนี่ออกไป แล้วก็เปลี่ยนทรงผมจากผมสั้นตรงทื่อๆ ของแกมาเป็นทรงอื่นบ้าง ฉันว่าแกเองก็สวยไม่แพ้ใครหรอกนะจารวี”

“สวยในสายตาแกคนเดียวน่ะสิ คนอื่นมองว่าฉันสวยที่ไหนกันเล่า ไม่งั้นฉันคงมีแฟนไปตั้งนานแล้ว ไม่เหี่ยวแห้งอยู่แบบนี้หรอก ผู้ชายสักคนมาจีบยังยาก หลงมาปีละคนสองคน แถมแต่ละคนยังไม่ค่อยจะเต็มเต็ง” จารวีดึงพิซซ่ามากินไปก็หัวเราะขำโชคชะตาของตัวเองไป

ช่วงสอบเธอโทรมไปเยอะเพราะพักผ่อนน้อย อ่านหนังสือเกือบสว่างแทบทุกคืนเลย นอกจากนี้เธอยังรู้สึกว่าตัวเองอ้วนขึ้นจากเดิมมากด้วย อาจเป็นเพราะโหมเรียนหนักจนไม่มีเวลาหาอะไรดีๆ กินนอกจากอาหารขยะพวกนี้ถึงได้ทำให้น้ำหนักขึ้นเอาๆ

จารวีกินพิซซ่าคนเดียวไปหลายชิ้น ตามด้วยน้ำอัดลมไปหมดแก้ว เมื่อเห็นว่ายังเหลือเวลาอีกเกือบครึ่งชั่วโมงจึงค้นหาอะไรมานั่งกินต่อ เดิมทีป้าของเธอทำงานเป็นแม่บ้านให้กับเศรษฐีคนหนึ่งในเมืองไทย แต่ตัดสินใจแต่งงานกับผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นลูกน้องของเจ้านายคนปัจจุบัน ทั้งคู่พบกันเมื่อตอนลุงเขยของเธอตามเจ้านายไปที่เมืองไทย เจอกันแค่สามวันป้าก็ตัดสินใจไปอยู่กับลุงเขยเลย

ส่วนเธอที่บ้านไม่ได้มีฐานะดีอะไรนัก พ่อเธอเสียตั้งแต่เธออยู่ประถม เธอจึงอยู่กับแม่จนอยู่ชั้น ม. 1 หลังจากนั้นป้าเธอก็ติดต่อผู้ขายคนหนึ่งให้แม่ ฐานะดีพอใช้ แม่คุยกับเขาทางอินเทอร์เน็ตไม่นานเขาก็บินมาหาแม่ถึงเมืองไทย หลังจากนั้นแม่ของเธอก็แต่งงานใหม่

พ่อเลี้ยงเธอเป็นคนใจดี เขากับแม่อยู่ร่วมกันด้วยดี แต่หลังจากนั้นไม่กี่ปี เมื่อเธอเรียนมหาวิทยาลัยปีที่สาม พ่อเลี้ยงเธอก็ประสบอุบัติเหตุจนเดินไม่ได้ ทำให้งานที่บริษัทหยุดชะงัก เขาขายบริษัทและพาแม่ย้ายไปอยู่กับลูกสาวของพ่อเลี้ยงที่ฮ่องกง ส่วนเธอยังเรียนที่นี่ต่อ แม่กับพ่อเลี้ยงไม่ได้มีเงินมากเหมือนเมื่อก่อน เธอจึงขอให้แม่เลิกส่งเงินมาให้เธอ

เธอพักอยู่กับรูมเมทคนหนึ่งเป็นคนต่างจังหวัดแต่เขาเรียนจบก่อนเธอครึ่งปีและกลับบ้านเกิดไปแล้ว ระหว่างนั้นเธอก็ทำงานทุกอย่างเพื่อเป็นค่าเล่าเรียน หากเดือนไหนเหลือก็ส่งไปให้แม่ใช้บ้าง ต่อมาอีกสามปีลุงเขยของเธอก็เสียชีวิตลง ป้าจึงย้ายไปอยู่บ้านเจ้านาย แต่เธอเพิ่งมารู้ไม่นานนี่เองว่าลูกชายของเจ้านายป้าเป็นนักแสดงในดวงใจของเธอคนนี้เอง

“ได้เวลาแล้ว ไปนะซินซิน”

“โอเค โชคดีนะเพื่อนรัก ขอให้เฉินลี่หยางหันมามองซินเดอเรลล่าแสนสวยคนนี้นะ ฉันอยากไปงานแต่งแกจะแย่” ซินซินหัวเราะสีหน้ายังล้อเลียนจนเธอต้องย่นจมูกเข้าใส่

 “ดี...ฉันจะควงเขาให้ดูเป็นคนแรกเลย”

“วิเศษ นั่นแหละที่ฉันอยากได้ยินน่ะ” ซินซินคว้ากระเป๋าของจารวีมาช่วยถือ

“ไปเถอะ เดี๋ยวตกเครื่อง ไม่ได้ไปเจอเขาขึ้นมาจะมานั่งร้องไห้ขี้มูกโป่ง”

“แกนี่จริงๆ เลย” จารวีส่ายหน้า แต่ก็เดินตามเพื่อนออกไปพร้อมกระเป๋าอีกใบหนึ่งหวังว่าเธอจะได้งานตามที่ใฝ่ฝัน ครอบครัวจะได้สบายเสียที ป้าก็อยากให้ไปอยู่ด้วยกันที่ปักกิ่ง เธอเองก็คิดถึงท่านมาก แม้ว่าเมืองไทยกับปักกิ่งจะไม่ได้ไกลกันมากแต่ปีสองปีเธอกับป้าถึงจะเจอกันครั้งหนึ่ง