จากแฟนคลับตามกรี๊ดนักแสดงในดวงใจ แต่ฟ้ากลับเล่นตลกให้เธอได้ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการส่วนตัวของเขา ความใกล้ชิดยิ่งทำให้หัวใจหวั่นไหว กว่าเธอจะกระชากหัวใจเขามาได้ เขาก็กระชากอะไรๆ ออกไปจากตัวเธอจนจะหมด
รัก,ชาย-หญิง,ไทย,ยุคปัจจุบัน,ครอบครัว,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ซุปเปอร์สตาร์แสนรักจากแฟนคลับตามกรี๊ดนักแสดงในดวงใจ แต่ฟ้ากลับเล่นตลกให้เธอได้ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการส่วนตัวของเขา ความใกล้ชิดยิ่งทำให้หัวใจหวั่นไหว กว่าเธอจะกระชากหัวใจเขามาได้ เขาก็กระชากอะไรๆ ออกไปจากตัวเธอจนจะหมด
จารวีเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมายังเมืองใหญ่ เพราะอยากทำงานในบริษัทที่ใฝ่ฝัน อยากมีเงินเยอะๆ เพื่อจุนเจือคนทางบ้าน โชคชะตาพลิกผันให้เธอได้กลายมาเป็นผู้จัดการของดาราดัง เฉินลี่หยาง ชายผู้ซึ่งเธอชื่นชอบและเป็นแฟนคลับของเขามาตั้งแต่เด็ก ถึงแม้ตอนนี้เขาจะอายุมากขึ้น แต่เธอกลับพบว่า นานวันเขายิ่งหล่อเหลา มีเสน่ห์ และน่าหลงใหล
ความใกล้ชิดจนเกิดความสัมพันธ์ลับที่แม้กระทั่งเขายังไม่รู้ว่าผู้หญิงที่ตนนอนด้วยนั้นคือใคร เพราะกว่าจะรู้...เธอก็หนีเขาไปแล้ว...
บทที่ 4
จารวีหน้ายุ่งเดินกลับเข้าบ้านตระกูลเฉิน เคยคิดว่าคนคงไปสมัครงานที่อวี้หูกรุ๊ปกันเยอะ แต่ไม่คิดเลยว่ามันจะมากถึงขนาดนี้ แต่ละคนโปรไฟล์ดีๆ ทั้งนั้น ผู้หญิงไทยที่ไม่มีอะไรโดดเด่นอย่างเธอ อย่าหวังเลยว่าจะฝ่าฟันเข้าไปทำงานที่นั่นได้
เธอกลับมาช่วยงานป้าในห้องครัวด้วยอาการเหงาหงอย วันนี้คุณหนิงอันมีแขกมาดื่มชาที่บ้านเกือบสิบคน นอกจากชาชั้นดีแล้ว ป้ายังจะทำขนมปังและเค้กด้วย
เธอไม่มีฝีมือในการนวดแป้งนักจึงขอจัดการอย่างอื่นแทน ตอนแรกเธอคิดว่าป้าจะสบายที่มีเจ้านายอยู่แค่สองคน แถมนานๆ ทีลี่หยางถึงจะกลับบ้าน เพราะเขาแยกไปอยู่ที่คอนโดมิเนียมมาตั้งแต่ก่อนไปเรียนอเมริกา แต่มาเห็นอย่างนี้แล้วนับว่างานหนักพอดู
“เมื่อเช้าไปกับคุณลี่หยางเหรอ” มุกดาถามขึ้น มือก็นวดแป้งไปด้วย สูตรขนมปังของมุกดาจะใช้มือนวด ไม่ใช้เครื่อง
“ค่ะ เขามาเจอพอดีก็เลยรับขึ้นรถไปด้วย ตกใจอยู่เหมือนกัน ไม่คิดว่าเขาจะใจดี” เธอเงยหน้าจากผักที่กำลังหั่น หน้าแดงทั้งสองข้างอย่างห้ามไม่อยู่ แต่ก็อดถามไม่ได้
“มื้อเย็นเขาจะมาไหมคะ”
“ยังไม่รู้หรอก เอาแน่เอานอนอะไรกับคุณลี่หยางไม่ได้ อยากจะมาก็มา ไม่อยากมาเขาก็ไม่มา ไม่เคยบอกล่วงหน้า” มุกดาหันมามองหลานสาว
“แกอย่าเก็บเอาไปเพ้อล่ะ ป้าไม่อยากให้แกเสียใจ”
“ป้า” หญิงสาวหันมาตวัดค้อนให้
“เจินรู้หรอกน่า แหม....แค่อยากเห็น หน้าดาราในดวงใจ ไม่มีอะไรมากกว่านั้นหรอก”
“แต่ตาแก”
“หืม” จารวีลูบหน้าตัวเอง ตาของเธอมันชัดขนาดนั้นเลยเหรอ เธอก็ว่าตัวเองแค่ขอบเขาในฐานะแฟนคลับนะ ป้ามองผิดไปแล้ว
“มันหวานเชื่อมเสียขนาดนั้นเวลามองเขาน่ะ”
“ไม่ชัดขนาดนั้นมั้งป้า เจินใส่แว่นอยู่นะ” หญิงสาวหัวเราะขึ้น ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมป้าเธอถึงได้ห่วงกลัวเธอจะรักลี่หยางนัก เธอเองก็คงจะไม่ปล่อยตัวปล่อยใจทุ่มไปรักคนที่อยู่สูงเกินเอื้อมแบบนั้นหรอก อย่างดีก็แค่ชอบห่างๆ เหมือนแฟนคลับทั่วไป
“แปลกมากนะ ปกติแล้วคุณลี่หยางไม่เห็นจะสนใจใคร โดยเฉพาะคนอย่างเราๆ แต่อยู่ๆ ก็รับแกขึ้นรถไปด้วย” มุกดาหันมามองหลานสาวที่ได้ทีเลย แกล้งแหย่เล่น
“หรือเขาจะสนใจเจินน่ะป้า”
“ไร้สาระ ฝันเฟื่องในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้” คนเป็นป้าตวัดค้อนให้
“เลิกฝันกลางวันแล้วเอาแป้งนี่หมักไว้ด้วยนะ ป้าร้อนจังเลย ขอไปอาบน้ำก่อน” มุกดาบอกแล้วออกไป ปล่อยหน้าที่ในครัวให้เป็นของเธอ ระหว่างรอแป้งขึ้นฟู เธอหยิบโทรศัพท์มาหางานอื่นไปด้วย เพราะออกจะแน่ใจว่าทางอวี้หูกรุ๊ปไม่มีทางเรียกตัวเธอเข้าทำงานแน่
“ป้าดาด้า” สาวใช้คนหนึ่งเดินเข้ามาในครัว จารวีจึงรีบเก็บโทรศัพท์เข้าไปไว้ในกระเป๋ากางเกง คนที่นี่เรียกป้าเธอดาด้า คงเพราะชื่อมุกดาออกเสียงยากไป
“มีอะไรคะ ป้าไปอาบน้ำค่ะ”
“ตายจริง คุณลี่หยางน่ะสิ เขากลับมาแล้วท่าทางอารมณ์บูดและบอกว่ายังไม่ได้กินมื้อเที่ยงมาเลย ตอนนี้ก็บ่ายสองโมงแล้วด้วย ในนี้มีอะไรกินบ้างน่ะเจินเจิน”
“ขนมปังยังไม่เสร็จด้วยสิคะ” จารวีเปิดตู้เย็น ในนั้นไม่มีอะไรนอกจากผลไม้ โชคดีมีน้ำสลัดสำเร็จรูปอยู่
“บอกเขารอไม่เกินห้านาทีนะคะ”
“สลัดเนี่ยนะ”
“เอาไปก่อนเถอะ ดีกว่าไม่มีอะไร”
“อืม” อาเม่ยรีบออกไป จารวีจึงหันมาจัดการกับสลัดผลไม้แล้วยกออกไป ตอนนั้นเขากำลังโทรศัพท์เสียงดังเหมือนกำลังทะเลาะกับใครอยู่ เธอจึงวางสลัดเอาไว้ให้ กำลังจะหันหลังกลับแต่เสียงเขาดังขึ้นคล้ายเสียงตวาดทำให้ เธอชะงักเท้า
“หยุดนะ”
“เอ่อ...ค่ะ” เธอหันขวับกลับมาอย่างตกใจ แต่เขายังคุยโทรศัพท์อยู่
“ถ้าคุณยังไม่หยุดกล่าวหาผมละก็ ผมจะไม่ให้คุณแม้แต่ความเป็นเพื่อนนะแอลลี่จำเอาไว้ ผมไม่ได้ทิ้งคุณ แต่คุณทำผิด เมื่อไรคุณจะรู้ตัวแล้วเอ่ยคำว่า ขอโทษ”
“ไม่มีทางงั้นเหรอ โอเค...งั้นเราก็จบกัน บ้าเอ๊ย” ชายหนุ่มวางสายแล้วตวัดสายตามามองเธอ ยิ่งเห็นว่าอาหารมื้อนี้เป็นสลัดผลไม้ก็ยิ่งหงุดหงิด
“มื้อเที่ยง? สลัดเนี่ยนะ”
“ขอโทษค่ะ ตอนนี้ขนมปังยังไม่ได้อบ เราไม่คิดว่าคุณจะกลับมาเร็วจึงไม่ได้เตรียม รองท้องไปก่อนได้ไหมคะ ฉันจะรีบจัดการให้”
“ช่างเถอะ” ชายหนุ่มโบกมือ แต่พอเธอจะหันหลังกลับเพื่อจะรีบไปทำอาหารให้กับเขาลี่หยางกลับเรียกเธอเอาไว้
“เดี๋ยว”
“คะ?”
“คุณได้งานแล้วหรือยัง”
“ยังค่ะ แต่คนไปสมัครเยอะมากคงไม่ได้หรอก ฉันกำลังมองหางานใหม่” จารวีถอนหายใจ สายตาบอกความผิดหวังชัดเจนเพราะมันเป็นบริษัทในฝันของเธอเลยก็ว่าได้ เธอเรียนทางด้านการตลาดมา การได้ทำงานในบริษัทใหญ่อย่างนั้น มันจะทำให้เธอก้าวหน้าในอาชีพ
ป้าเธอก็อายุมากแล้ว และไหนจะแม่และพ่อเลี้ยงที่ฮ่องกง สำหรับพ่อเลี้ยงเธอถึงจะไม่ได้ถึงขั้นส่งเสียเธอเรียนหนังสือ แต่บางครั้งที่เงินขาดมือพวกเขาก็ให้ความช่วยเหลือ เธอจึงอยากมีงานดีๆ ทำและส่งให้พวกเขาใช้บ้าง พ่อเลี้ยงเธอที่ฮ่องกง มีลูกสาวหนึ่งคนและมีหลานวัยกำลังกินกำลังใช้ด้วย เธอเองก็อยากมีเงินมากพอจะให้หลานๆ ได้มีทุนการศึกษา
“พอจะดูพวกตารางงาน จัดคิวหรือคุยเรื่องงานแสดงได้ไหม”
“ทำไมเหรอคะ” หญิงสาวเลิกคิวขึ้น
“ตอนนี้ผู้จัดการส่วนตัวผมลาออก หาใครมาทำงานแทนยังไม่ได้ ผมไม่มีเวลาพอที่จะมาจัดตารางงานนั่นนี่ และไม่อยากจะคุยเรื่องค่าตัวอะไรด้วย สนใจจะทำระหว่างรองานไหม”
โอ...
จารวีรู้สึกเหมือนหายใจหายคอไม่ออก ที่อยู่ๆ ส้มก็หล่นลงมาทับตัวเธอเอาไว้ทั้งเข่ง การได้ทำงานเป็นผู้จัดการส่วนตัวของลี่หยางมันดีเสียยิ่งกว่าไปทำงานให้กับอวี้หูกรุ๊ปเสียอีก
“ว่าไง ยืนนิ่งอยู่นานแล้วนะ”
“ตะ...ตกลงค่ะ” เธอรีบตอบ โดยที่ยังไม่รู้เลยว่างานของเขามีอะไรบ้างและมันยุ่งยากแค่ไหน คนเก่าถึงได้ลาออกไป
“ดี นั่น...” ชายหนุ่มบุ้ยปากไปยังแฟ้มหนึ่งที่วางอยู่ไม่ไกล
“มีรายละเอียดการรับงานทั้งหมดของเดือนนี้ ลองเช็คดูย้อนหลังจะได้เข้าใจ รวมทั้งเรื่องบัญชีเงินด้วย อ้อ...คนเก่าตกปากรับคำกับทางนิตยสารจีคิว แต่ผมไม่ได้รับรู้ด้วย คุณช่วยไปเจรจากับพวกเขาด้วยว่าผมไม่ตกลง”
ลี่หยางโยนงานลงมาให้เธอโครมใหญ่จนจารวีต้องอ้าปากค้างเพราะเธอเองยังไม่ได้เรียนรู้งานเลยแม้แต่เปอร์เซ็นต์เดียว แต่เขากลับให้เธอไปคุยกับทางจีคิว นิตยสารที่ดังที่สุดในจีน
“เอ่อ...คือว่าฉัน”
“คุณเอาไปดูก็แล้วกัน หวังว่าคงจะทำได้ ส่วนเรื่องเงินของคุณ ทุกงานที่เกี่ยวกับงานแสดงผมให้คุณสามสิบเปอร์เซ็นต์และอาจจะมากกว่านั้นถ้าคุณทำงานดี”
“ฉันจะพยายามค่ะ”
“ไม่ใช่แค่พยายามในเมื่อคุณตกลงรับงานแล้ว คุณก็ต้องทำให้ได้” ชายหนุ่มบอกขึ้นแล้วหันไปสนใจกับสลัดตรงหน้า พอโยนภาระงานออกไปจากตัวเองได้แล้ว สลัดผลไม้ธรรมดาถ้วยนี้ก็รสชาติดีขึ้นเป็นกอง ในขณะที่คนหลงผิดตัดสินใจรับงานจากเขากลืนน้ำลายแทบไม่ลง
หญิงสาวเดินไปหยิบแฟ้มนั่นมาดู เปิดดูคร่าวๆ ก็เห็นว่ามันมีตารางอะไรวุ่นวายไปหมด และตัวเลขเรื่องเงินชวนให้ปวดหัวนั่นด้วย แค่มองผ่านๆ เธอก็รู้สึกได้แล้วว่าตัวเองคิดผิดจริงๆ ที่กระโดดรับงานชิ้นนี้แบบไม่ทันคิด เจ้านายเอาแต่ใจอย่างเขา เธอจะรับมือได้เหรอ
“ผมให้เวลาคุณสองชั่วโมงในการศึกษางานนี้นะ และคุณต้องสรุปให้ผมก่อนมื้อเย็นว่าผมต้องไปกองถ่ายอีกเมื่อไร เบอร์โทรศัพท์ติดต่อจือโม่เขียนไว้ด้านหลัง โชคดีที่หมอนั่นยังเก็บข้อมูลเก่าๆไว้ให้” ชายหนุ่มบิดปากขึ้น นี่หากเขาไม่ขู่เรื่องเงินชดเชย หมอนั่นคงไม่ส่งต่องานได้เรียบร้อยแบบนี้
“สะ....สองชั่วโมง!”
“ไม่น้อยไปหรอกใช่ไหม ก็แค่เช็คดูว่าต้องไปที่ไหนเมื่อไร แต่ห้ามให้ชนกับวันที่ต้องประชุมที่บริษัท อ้อ...บางทีอาจจะต้องดูด้วยว่าผมจะเดทกับใครได้วันไหน”
“วันนัดเดทด้วยเหรอคะ” หญิงสาวพรูลมหายใจออกมายาวๆ ไม่แปลกใจแล้วละว่าทำไมผู้จัดการส่วนตัวของเขาถึงได้ลาออกไป
“บางทีพรุ่งนี้ทางจีคิวอาจจะให้คนมาเจรจากับคุณเรื่องถ่ายแบบ คุณจะคุยยังไงก็ได้นะ ให้ผมไม่ต้องเสียเวลาไปยืนเก๊กหน้าให้ใครถ่ายรูป และไม่ต้องเสียเงินค่าปรับ ผมยังไม่ได้เห็นเอกสารอะไร แต่ก็ไม่รู้ว่าจือโม่มันทำอะไรนอกจากนี้บ้างหรือเปล่า หมอนี่มันไว้ใจไม่ได้”
“คุณไว้ใจให้ฉันเจรจาหรือคะ ฉันว่าคุณน่าจะ....”
“ผมจ้างคุณนะ คุณต้องทำให้ได้” ลี่หยางออกคำสั่งแล้วโบกมือ หญิงสาวสีหน้าหนักใจแต่ก็จำใจต้องล่าถอยออกไปก่อน