นี่มันเวรกรรมอะไรกัน ทั้งเพิ่งตกงานมา แล้วก็ต้องจำใจมาอยู่ในอพาร์ทเม้นต์แปลกๆ ที่ดันมีจิ้งจกที่ฉลาดเหมือนคนอยู่ด้วย แถมคนที่เดินผ่านบ่อยๆก็เหมือนจะเป็นเสือสมิงอีกต่างหาก แล้วชีวิตฉันจะเป็นยังไงต่อไป ?
ตลก,แฟนตาซี,รัก,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
จิ้งจกน้อยสื่อรักนี่มันเวรกรรมอะไรกัน ทั้งเพิ่งตกงานมา แล้วก็ต้องจำใจมาอยู่ในอพาร์ทเม้นต์แปลกๆ ที่ดันมีจิ้งจกที่ฉลาดเหมือนคนอยู่ด้วย แถมคนที่เดินผ่านบ่อยๆก็เหมือนจะเป็นเสือสมิงอีกต่างหาก แล้วชีวิตฉันจะเป็นยังไงต่อไป ?
ชีวิตของ "ศรีฟ้า" ตัวเอกของเราช่างเหมือนกับรถไฟเหาะตีลังกา หลังจากตกงานไม่นาน เธอก็ต้องย้ายมาอยู่ในอพาร์ทเม้นต์แปลกๆ ที่ติดกับป่าช้า และที่ทำให้เรื่องราวยิ่งแปลกไปอีกคือมีจิ้งจกที่ฉลาดผิดปกติอาศัยอยู่ด้วย นอกจากนี้ยังมีคนที่ดูเหมือนจะมีหญิงสาวที่เหมือนจะเป็นเสือสมิงเดินผ่านไปมาในบริเวณนี้อีกด้วย แต่ไม่มีใครนอกจากตัวของเธอที่มองเห็นได
นางเอกของเรามุ่งมั่นที่จะเปิดเผยความจริง ของหญิงสาวผู้ที่เป็นเสือสมิงคนนี้ และหวังว่าจะได้โด่งดังในโลกโซเชี่ยล และอาจจะได้งานดีๆ จากการเปิดเผยเรื่องราวแปลกๆ เหล่านี้ก็เป็นไปได้....
แต่เรื่องราวก็ยิ่งซับซ้อนขึ้นเมื่อมีชายหนุ่มลึกลับและดูเหมือนจะหล่อมากๆ คอยตามตัวเอกอยู่เป็นพักๆ แต่ทุกครั้งที่หันไปดู เขาก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เขาเป็นผีหรือคนกันแน่? และทำไมสวรรค์ถึงมอบความสามารถในการพูดคุยกับสัตว์เลื้อยคลานให้กับเธอกันล่ะ...?
ด้วยความสามารถที่ไม่รู้จะใช้หาเงินอย่างไร ตัวเอกของเราจึงต้องเผชิญกับความสับสนและความหงุดหงิด ชีวิตของเธอนั้นจะเป็นอย่างไรต่อไป? มาร่วมติดตามการเดินทางที่เต็มไปด้วยการค้นพบ ความลึกลับ และความรักที่ไม่คาดคิดใน “จิ้งจกน้อยสื่อรัก”
“แล้วเธอทำไมรู้เรื่องอะไรต่างๆเยอะจัง ฉันก็อายุยี่สิบกว่าๆแล้ว เจอจิ้งจกพูดกันมาไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่แล้ว แต่ไม่เคยพบจิ้งจกตัวใหนที่ฉลาด ช่างเจรจาแบบเธอมาก่อนเลย เธอไปหัดเรียนรู้เรื่องราวต่างๆมาจากที่ไหนกันล่ะเนี่ย ?“
“จะว่าไปแล้ว จะเรียกว่าผมหัดเรียนรู้ ก็ไม่ถูกต้องเสียทีเดียวหรอกครับ ผมจำได้แค่ว่า พอผมเกิดมาเรื่องราวหลายๆอย่าง มันก็อยู่ในความทรงจำของผมอยู่แล้ว ผมไม่แน่ใจว่าพอผมพูดไปแบบนี้ คุณจะเข้าใจหรือเปล่านะครับ...”
หญิงสาวถึงกับรู้สึกงวยงงกันเลยทีเดียวว่า เจ้าจิ้งจกตัวน้อยนี้ กำลังพูดถึงเรื่องอะไรกัน แต่ก็ทำให้เธอรู้สึกสนใจใคร่รู้เช่นเดียวกันว่า เรื่องราวของเจ้าจิ้งจกน้อยตัวนี้จะเป็นมายังไง เธอเลยตั้งใจว่าจะขอลองให้เจ้าจิ้งจกน้อยนั้นเล่าเรื่องความเป็นมาต่างๆ ของตัวเองให้ฟังเสียหน่อย ใหนๆตัวเธอตอนนี้ก็ยังไม่มีอะไรจะทำอยู่แล้ว ดังนั้นจะนั่งคุยกับจิ้งจกเล่นๆเสียหน่อย บางทีอาจจะเป็นการช่วยผ่อนคลายให้เธอรู้สึกหายเครียดในเรื่องของตัวเธอเองบ้างก็เป็นได้
“คุณอาจจะนึกภาพไม่ออกก็ได้นะครับ สิ่งที่ผมจำได้ครั้งล่าสุด ก่อนที่จะลืมตาตื่นมาอีก ก็กลายเป็นจิ้งจกไปอย่างที่คุณเห็นนี่ ผมรู้สึกตัวเหมือนกับว่า ผมอยู่ในลานกว้างๆ ที่มีผู้คนมากมาย เพียงแต่ผู้คนนั้นบางคนก็รูปร่างเหมือนคน เพียงแต่ใส่ชุดปอนๆ เหมือนพวกนักโทษแต่บางพวกก็ดูคล้ายกับอสูรปีศาจ ที่มีหลากหลายชนิด บางตนก็รูปร่างเป็นคนหัวเป็นไก่ก็มี เป็นวัว เป็นควาย เป็นช้างก็ยังมีครับ ตัวผมถ้าจำไม่ผิดนั้นรูปร่างไม่ได้เป็นเหมือนกับพวกนั้น และพวกที่เหมือนจะเป็นผู้คุมนั้นก็บอกว่าผมกำลังจะพ้นโทษได้กลับไปเป็นมนุษย์อยู่แล้ว”
“จากนั้นผมก็ไปยืนรอคิวอยู่บริเวณพวกของคนที่กำลังจะได้ไปเกิดใหม่ แต่ไม่รู้ทำไมซักระยะ ก็มีภาพของจิ้งจกลอยมาอยู่ที่บนหัวของผม หลังจากนั้นก็เกิดลำแสงสว่างวาบไปทั่วคล้ายกับการระเบิดของอะไรซักอย่าง แล้วผมก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลยจนตื่นมาอีกที ก็มาอยู่ในร่างของจิ้งจกแบบนี้เสียแล้วล่ะครับ“
หญิงสาวรู้สึกประหลาดใจในสิ่งที่เจ้าจิ้งจกตัวน้อยนั้นได้พูดขึ้นมา หรืออีกนัยหนึ่งดูคล้ายกับการส่งคลื่นเสียงที่มีแต่สัตว์ประเภทเดียวกันเท่านั้นที่พอจะเข้าใจกันได้ แต่มันก็เป็นเรื่องที่น่าแปลกที่สมองของเธอกลับตีความในคลื่นเสียงที่สัตว์พวกนี้สามารถสื่อสารกันแบบง่ายๆออกมาได้ ในตอนเด็กๆก็ยังไม่ชัดเท่าไหร่ แต่ยิ่งเธอมีอายุมากขึ้นเรื่อยๆ จนมาเป็นผู้ใหญ่ตอนต้นแล้วนี่ เธอยิ่งรับฟังเสียงต่างๆที่สัตว์เลื้อยคลานพูดได้ชัดขึ้น จนกระทั่งเธอเองก็เริ่มแน่ใจแล้วว่า แม้แต่ งู หรือ สัตว์เลื้อยคลานที่ใหญ่กว่านั้น เธอเองก็น่าจะสื่อสารกับมันได้ แต่ก็ยังไม่เคยลอง เพราะว่ากันจริงๆแล้ว เธอเองก็ไม่ได้เคยเจองูตัวจริงๆ หรือ กิ้งก่าเป็นๆในธรรมชาติเท่าไหร่นั่นเอง บางทีพวกนี้พอเห็นมนุษย์อย่างเราๆมาก็เผ่นแน่บไปไกลเสียแล้ว แม้แต่ตัวของเธอเองที่สามารถที่จะพูดคุยกับเจ้าพวกนี้ได้ บางทีก็เอ่ยปากจะสื่อสารด้วยก็ไม่ทันเสียแล้วเป็นแบบนี้ตลอดมา
แต่สภาพที่เจ้าจิ้งจกตัวน้อยนั้นพูดขึ้นมานั้น เธอเองรู้สึกว่าบรรยากาศมันช่างคล้ายกับใน “นรก“ ที่หลายๆคนเคยได้ยินมาเลย โดยเฉพาะตัวเธอเองก็ด้วยเช่นกันก็เคยเห็นการบรรยายเกี่ยวกับบรรยากาศต่างๆภายใน “นรก“ เอาไว้ในหนังและละครในประเทศก็มากมาย หรือว่าโลกแห่งความตายนั้นมันจะมีอยู่จริงๆ อย่างที่คนเขาเคยพูดๆกัน ? หญิงสาวนึกพลางจินตนาการเรื่องราวในหัวไปต่างๆนานา แต่จะสำคัญอะไร...ในเมื่อมันเป็นเรื่องที่เธอก็ยังพิสูจน์ไมได้อยู่ดี เจ้าจิ้งจกนี่อาจจะสมองคิดไปเองเรื่อยเปื่อยก็ได้ใครจะไปรู้ สิ่งที่สำคัญกับตัวของเธอมากกว่าก็คือ ต่อไปจะหางานใหม่ยังไง ? แล้วงานที่ได้จะเป็นยังไง จะมีอนาคตที่ดีต่อไปไหม ? เรื่องพวกนี้มากกว่าที่เธอควรจะคิดถึงในตอนนี้...ไม่ใช่เรื่องอื่น
“แล้วเธอมีชื่อเรียกหรือยัง..อยากมีชื่อประจำตัวเหมือนคนเขาไหมล่ะ ?“
“จิ้งจกแถวนี้เขาชอบเรียกผมว่า “ ไอ้ลายเผือก “ ครับ ไม่แน่ใจว่า เป็นเพราะผมมีตัวเป็นลายสีคล้ายเผือก หรือว่าผมชอบไป “ เผือก“ กับเรื่องของจิ้งจกตัวอื่นเขาหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ ก็บางทีผมก็อยากรู้ว่าจิ้งจกเขาผสมพันธุ์กันยังไง ก็เกิดเป็นจิ้งจกมันไม่มีคลิปวีดีโอ หรือ เว็บไซต์สอนผสมพันธุ์นี่ครับ ก็ต้องไปยืนๆดูเขาทำกันก่อนเป็นวิทยาทาน “
“แล้วสรุปเป็นยังไงบ้างล่ะ...ผสมพันธุ์เป็นแล้วหรือยัง...ถ้าเป็นแล้วเธอได้ลูกบ้างหรือยัง ?“
“พอได้อยู่ครับ ตัวผมก็พอจะมีแฟนอยู่หลายตัวเหมือนกันนะอย่าให้โม้เลย ลูกๆก็เพิ่งออกอยู่ตรงมุมตึกด้านนู้นตั้งหลายตัว ถ้านับในมุมมองของจิ้งจกตัวผมก็หล่ออยู่เหมือนกันนะครับคุณ แถมจิ้งจกนี่ก็ไม่มีเรื่องหึงหวงกันเหมือนมนุษย์ด้วยไม่ต้องลำบากใจเรื่องพวกนี้เลย แต่ตัวเองก็ต้องมีความเข้มแข็งในการรักษาอาณาเขตของตัวเองเท่านั้นเองครับ ซึ่งผมก็มีอาณาเขตอยู่ในห้องนี้กับพื้นที่แถวๆนี้อีกนิดหน่อยเท่านั้นแหล่ะ พอสมกับตัว“
“แหม่...เห็นดูหน้าตาบ้องแบ๊วแบบนี้ ร้ายเหมือนกันนะเรา...มีแฟนตั้งหลายตัว ลูกก็หลายตัว “
“เกิดเป็นจิ้งจกก็แบบนี้แหล่ะครับ ไม่มีอะไรทำ มีแต่การหาอะไรกินกับการขยายเผ่าพันธุ์เท่านั้นแหล่ะครับ เป็นภารกิจของชีวิต ส่วนของผมยังดีหน่อย ยังพอไปดูทีวี ดูบอลรู้เรื่องเวลาห้องไหนเขาดูกัน ผมก็ไปแอบดู บางทีทีมที่เชียร์ชนะนี่เผลอยกเท้าขึ้นเฮ เกือบจะตกจากเพดานก็มี“
พอพูดมาถึงประโยคนี้ หญิงสาวถึงกับแอบหลุดขำมาเลยทีเดียว มันทำให้อารมณ์ของเธอนั้นสดชื่นขึ้นมาได้บ้างเหมือนกับว่าได้มีเพื่อนที่เป็นมนุษย์ให้ได้พูดคุยเพิ่มเติมขึ้นมาอีกคนเลยทีเดียว ก่อนที่เธอจะพูดขึ้นมาว่า
“ถ้าอย่างนั้น ฉันขอเรียกเธอว่า “ จกน้อย “ ก็แล้วกันนะ ชื่อง่ายๆ แต่ก็น่ารักดี หวังว่าเธอคงจะไม่รังเกียจนะ “
จิ้งจกตัวน้อยจึงพูดกลับมาว่า
“ผมไม่รังเกียจหรอกครับ ตั้งแต่รู้สึกว่าเกิดมาเป็นจิ้งจกนี่ ก็เพิ่งจะมีคนมาเรียกชื่อนี่แหล่ะครับ แถมยังมีคนที่สามารถคุยกับผมรู้เรื่องได้อีก แค่นี้ผมก็รู้สึกว่าไม่ใช่จิ้งจกที่คิดอะไรๆได้คล้ายคน ตัวเดียวในโลกแล้วล่ะครับ “
หญิงสาวจึงพูดขึ้นมาว่า
“ถ้างั้นถ้าเธอว่าง เธอก็หมั่นแวะมาหาฉันเรื่อยๆนะ ฉันจะได้มีเพื่อนคุยแก้เหงา จริงๆเพื่อนที่ทำงานเก่านั้นฉันก็พอมีแหล่ะ แต่ช่วงนี้ใครๆเขาก็ลำบาก ฉันก็ไม่อยากไปรบกวนอะไรพวกนั้นมากนัก มีเธอเป็นเพื่อนได้พูดคุยด้วยก็เป็นเรื่องที่ดีแหล่ะ แล้วเดี๋ยวยังไงฉันจะคอยหาอะไรให้เธอกินด้วย เธอจะได้ไม่ต้องลำบากต้องไปคอยยืนดักรอกินแมลงเหมือนกับจิ้งจกตัวอื่นเขา...“
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้หญิงสาวก็ได้มองเห็นเจ้าจิ้งจกน้อยตัวสีเผือกผงกหัวขึ้นมามองเธอด้วยสายตาที่เป็นมันวาวสีดำ และเธอก็รู้สึกได้เลยว่าเจ้าจิ้งจกน้อยนั้นดีใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
“เดี๋ยวยังไงถ้าฉันไม่ลืมพรุ่งนี้ฉันจะไปซื้อของมาทำบ้านเล็กๆให้เธอเข้ามาอยู่ เธอมาอยู่เป็นเพื่อนกับฉันนะ “ จกน้อย “ เราจะได้อยู่เป็นเพื่อนคุยกัน ฉันก็จะได้ไม่เหงาด้วย“
“ได้ซิครับ แล้วผมจะแวะมาเยี่ยมคุณบ่อยๆนะครับ บางทีก็อาจจะพาครอบครัวของผมมาเยี่ยมคุณบ้างก็ได้นะครับ“
“เยี่ยมเลย...มากันให้หมดเลยนะ ฉันก็ยินดีต้อนรับครอบครัวของเธอเหมือนกัน “
ว่าแล้วหญิงสาวก็ลูบหัวเจ้าจิ้งจกน้อยเบาๆ แล้วก็ปล่อยให้เจ้าจิ้งจกได้ไต่จากมือไปเกาะที่รรผนังของห้องแล้วทั้งสองต่างก็กล่าวคำราตรีสวัสดิ์ซึ่งกันและกัน จากนั้นหญิงสาวที่ก็ยังกังวลถึงอนาคตของตัวเอง ในตอนนี้ ก็ล้มตัวลงนอน และพยายามที่จะข่มตาหลับลงให้ได้ แม้ว่าในใจลึกๆของเธอจะเสียใจจนแทบจะร้องให้ แต่เธอก็พยายามที่จะทำตัวให้เข้มแข็งเข้าไว้ และแม้ว่าจะมีหยาดน้ำตาที่รื้นออกมาที่ขอบตาของเธอบ้างก็ตาม เธอเองก็แค่ยกมือขึ้นมาเช็ดมันออกไป แล้วก็ทำใจให้เข้มแข็งเข้าไว้ ก่อนที่จะหลับตาลงและหลับไปได้ในที่สุด
และในกลางดึกของคืนๆนั้น เมื่อสภาพอากาศนั้นมีความเย็นมากขึ้น ตัวของหญิงสาวที่ได้หลับใหลไปแล้ว ก็ได้เผลอทำผ้าห่มหลุดออกจากร่างไปมากเลยทีเดียว ก็ปรากฏเงาร่างๆหนึ่งเคลื่อนตัวมาที่เตียงของหญิงสาว ก่อนที่จะเอื้อมมืออันดูโปร่งใสมาแตะที่ผ้าห่มของหญิงสาวก่อนที่จะขยับผ้าห่มให้เคลื่อนที่ขึ้นไปคลุมที่หน้าอกของเธออย่างอ่อนโยน ก่อนที่ร่างๆนั้นจะลอยกลับไปนั่งชันเข่านิ่งๆอยู่ที่มุมห้องอีกด้านหนึ่งอยู่ตามปกติวิสัยของตัวเอง ก่อนที่เรือนร่างอันโปร่งใสนั้น จะเงยหน้าขึ้นไปมองเจ้าจิ้งจกที่ร้องทักอยู่บนเพดานเหมือนอย่างที่เคย ซึ่งเจ้าจิ้งจกน้อยตัวนั้นจะมองเห็นเธอคนนี้ได้หรือไม่ ?... ตัวเธอเองที่เป็นเพียงวิญญาณที่ล่องลอยอยู่ในอากาศก็คร้านที่จะสนใจ...