นี่มันเวรกรรมอะไรกัน ทั้งเพิ่งตกงานมา แล้วก็ต้องจำใจมาอยู่ในอพาร์ทเม้นต์แปลกๆ ที่ดันมีจิ้งจกที่ฉลาดเหมือนคนอยู่ด้วย แถมคนที่เดินผ่านบ่อยๆก็เหมือนจะเป็นเสือสมิงอีกต่างหาก แล้วชีวิตฉันจะเป็นยังไงต่อไป ?

จิ้งจกน้อยสื่อรัก - 5 จุดประสงค์ของเจ้าแห่งยมโลก โดย เหมียวกุ่ย @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ตลก,แฟนตาซี,รัก,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

จิ้งจกน้อยสื่อรัก

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ตลก,แฟนตาซี,รัก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส

รายละเอียด

จิ้งจกน้อยสื่อรัก โดย เหมียวกุ่ย @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

นี่มันเวรกรรมอะไรกัน ทั้งเพิ่งตกงานมา แล้วก็ต้องจำใจมาอยู่ในอพาร์ทเม้นต์แปลกๆ ที่ดันมีจิ้งจกที่ฉลาดเหมือนคนอยู่ด้วย แถมคนที่เดินผ่านบ่อยๆก็เหมือนจะเป็นเสือสมิงอีกต่างหาก แล้วชีวิตฉันจะเป็นยังไงต่อไป ?

ผู้แต่ง

เหมียวกุ่ย

เรื่องย่อ

ชีวิตของ "ศรีฟ้า" ตัวเอกของเราช่างเหมือนกับรถไฟเหาะตีลังกา หลังจากตกงานไม่นาน เธอก็ต้องย้ายมาอยู่ในอพาร์ทเม้นต์แปลกๆ ที่ติดกับป่าช้า และที่ทำให้เรื่องราวยิ่งแปลกไปอีกคือมีจิ้งจกที่ฉลาดผิดปกติอาศัยอยู่ด้วย นอกจากนี้ยังมีคนที่ดูเหมือนจะมีหญิงสาวที่เหมือนจะเป็นเสือสมิงเดินผ่านไปมาในบริเวณนี้อีกด้วย แต่ไม่มีใครนอกจากตัวของเธอที่มองเห็นได

นางเอกของเรามุ่งมั่นที่จะเปิดเผยความจริง ของหญิงสาวผู้ที่เป็นเสือสมิงคนนี้ และหวังว่าจะได้โด่งดังในโลกโซเชี่ยล และอาจจะได้งานดีๆ จากการเปิดเผยเรื่องราวแปลกๆ เหล่านี้ก็เป็นไปได้....

 แต่เรื่องราวก็ยิ่งซับซ้อนขึ้นเมื่อมีชายหนุ่มลึกลับและดูเหมือนจะหล่อมากๆ คอยตามตัวเอกอยู่เป็นพักๆ แต่ทุกครั้งที่หันไปดู เขาก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เขาเป็นผีหรือคนกันแน่? และทำไมสวรรค์ถึงมอบความสามารถในการพูดคุยกับสัตว์เลื้อยคลานให้กับเธอกันล่ะ...?

 ด้วยความสามารถที่ไม่รู้จะใช้หาเงินอย่างไร ตัวเอกของเราจึงต้องเผชิญกับความสับสนและความหงุดหงิด ชีวิตของเธอนั้นจะเป็นอย่างไรต่อไป? มาร่วมติดตามการเดินทางที่เต็มไปด้วยการค้นพบ ความลึกลับ และความรักที่ไม่คาดคิดใน “จิ้งจกน้อยสื่อรัก”

 

สารบัญ

จิ้งจกน้อยสื่อรัก-1 อพาร์ทเม้นทต์ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางสุมทุมพุ่มไม้อันรกครึ้ม,จิ้งจกน้อยสื่อรัก-2 ความห่วงใยจากบนฝ้าเพดาน,จิ้งจกน้อยสื่อรัก-3 ขอเรียกเธอว่า “จกน้อย“,จิ้งจกน้อยสื่อรัก-4 ต้นตอของความแปลกประหลาดในทุกๆสิ่ง,จิ้งจกน้อยสื่อรัก-5 จุดประสงค์ของเจ้าแห่งยมโลก,จิ้งจกน้อยสื่อรัก-6 กองทัพเจ้าสมุทรเริ่มเคลื่อนไหว !!!,จิ้งจกน้อยสื่อรัก-7 การปรากฏตัวของเทพีแห่งปัญญาและการศึก

เนื้อหา

5 จุดประสงค์ของเจ้าแห่งยมโลก

          “แล้วท่าน “ฮาเดส“ ยังคงมุ่งเป้าหมายไปที่แม่คนที่มีพลังพิเศษเหมือนเดิมใช่ไหมครับ ? แล้วท่านมีแผนที่จะลงไปติดต่อนางในอนาคตต่อไปอย่างไรหรือครับท่าน ?“

           ทางยมทูต“ สุวรรณ “ได้ทำการพูดสอบถามกับทางเทพ “ ฮาเดส “ อย่างสงสัยในเรื่องของวิธีการติดต่อกับทางด้านของ “ศรีฟ้า“ 

             “สำหรับเธอคนนี้น่ะนะ...จริงๆแล้วเธอมีพลังจิตวิญญาณที่สูงมากยังซุกซ่อนอยู่ในตัวของเธอเองแบบที่แม้แต่ตัวเธอก็ยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำไป และพลังที่เธอใช้อยู่ทุกวันนี้ เกิดจากระดับพลังจิตแฝงเพียงไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ด้วยซ้ำไป ทำให้เธอทำได้แค่สามารถคุยกับสัตว์เล็กๆ ที่มีพลังวิญญาณต่ำๆ ได้เท่านั้นเอง แต่ถ้าตัวข้าได้เข้าไปสัมผัสกับตัวของนางแล้วปลุก “พลังแฝง“ ในตัวของนางที่นางมีได้เรียบร้อยแล้วไซร้ พลังของนางนั้นจะเพิ่มขึ้นมากกว่านี้อีกทวีคูณเลย เมื่อถึงตอนนั้นอย่าว่าแต่สัตว์ตัวเล็กๆ เลย ต่อให้เป็นไดโนเสาร์ตัวใหญ่ๆ ที่โลกเคยมีมาก่อนที่จะสูญพันธุ์ไป จะเป็นไทแรนโนซอรัส หรือ สไปโนซอรัสอะไรก็ตาม นางก็สามารถสื่อสารด้วยได้ทั้งหมดแหล่ะ...ก็นะ...จัดได้ว่าตัวของเธอคนนี้นั้นน่ะเป็นบั๊กตัวใหญ่ของระบบคอมพิวเตอร์เมนเฟรมของนรกภูมิเราเลยนี่  ในโลกนี้มีไม่กี่คนหรอกที่เป็นแบบนี้...พวกท่านคงเคยเห็นมนุษย์หลายๆคนที่มีพลังประหลาดๆแบบที่ไม่คิดว่าจะมีใครทำได้ซักกี่คนอยู่มากพอสมควรตั้งแต่ในอดีตถึงปัจจุบันใช่ไหมล่ะ พวกนี้คือเกิดมาจากระบบคอมพิวเตอร์เมนเฟรมของเรามี “บั๊ก“ ทั้งนั้นแหล่ะ...”

             “ในเมื่อพวกเราก็รู้ว่าเธอเป็นหนึ่งใน “ บั๊ก “ ที่เกิดขึ้นในระบบเมนเฟรมของนรกภูมิของเราแล้ว แบบนี้เราเอาเคสนี้ไปให้พวกยมฑูตโปรแกรมเมอร์ที่เรามีในนรกภูมิตอนนี้แก้ไขเสียไม่ได้หรือครับ ?“

             “โปรแกรมเมอร์ คนที่เขาดูแลในส่วนที่เป็นสคิปต์ของเธอคนนี้น่ะ...เขาลงไปบวชเรียบร้อยแล้วน่ะซิ“

“แล้วที่สำคัญคือเขาสำเร็จมรรคผล นิพพานไปเรียบร้อยแล้วล่ะ...หมดสิทธิ์ตามตัวกลับมาช่วยแก้โปรแกรมแล้ว ต่อให้ไปหาท่าน “ศากยมุนี“ ข้าก็ว่าท่านก็คงไม่ยินยอมช่วยเหลือติดต่อให้หรอก ถึงแม้ว่าจะเอา “ขนมหวาน“ ที่ท่านชื่นชอบไปถวายท่านก็เถอะ...คนที่ไปถึงการ “นิพพาน“  แล้วพวกเราก็ไม่ควรไปยุ่งวุ่นวายกับเขาอีกหรอกนะ... “ 

  “และที่สำคัญ ผู้หญิงคนนี้ก็เป็นคนดี ต่อให้เธอได้พลังของตัวเธอเองมาเต็มที่แล้ว ก็คงไม่ไปทำเรื่องชั่ว เรื่องไม่ดีหรอกนะ ท่าน “สุวรรณ“ บางทีการต้องไปตามแก้ไขอะไร ก็คงไม่จำเป็นหรอกสำหรับเคสนี้“

             “นั่นซินะขอรับ...ถ้างานนี้เราไม่จำเป็นต้องขอความร่วมมือในการตามหา “จิ้งจกแสนฉลาด“ ตัวหนึ่งที่เป็นความผิดพลาดของพวกเราเอง ในการที่ทำให้เขาลงมาเกิดในสภาพที่ “ไม่สมควร“ แบบนี้  เราคงไม่จำเป็นต้องมายุ่งกับเธอก็ได้“

             “ใช่...มันเป็นความผิดพลาดของข้าเอง ที่เผลอตัวทำลายระบบการเกิดใหม่ของ “นรกภูมิ “ ไปด้วยโทสะชั่วครู่ของข้าเอง จนต้องมาตามแก้ปัญหากันเป็นสิบๆปีแบบนี้ จนถึงวันนี้ก็ยังไม่หมดไม่สิ้นไปง่ายๆ แล้วสำหรับเคสนี้ พลังจิตวิญญาณที่น้อยนิดของเจ้าจิ้งจก มันทำให้กว่าพวกเราจะค้นพบการเตือนจากเครื่องมือค้นหาลิสต์ของวิญญาณที่ไปเกิดใหม่แบบผิดพลาดจากเหตุการณ์ครั้งนั้น  แล้วสามารถที่จะค้นเจอ “จิ้งจกแสนฉลาด“ ตัวนี้  ที่จริงๆแล้วเขาควรต้องได้ไปเกิดเป็นมนุษย์ตั้งนานแล้ว ก็ใช้เวลาตั้งนานเป็นสิบๆปี ตั้งแต่วันที่เกิดเหตุขึ้น และที่หาเจอได้นั่นก็เป็นเพราะ “เธอผู้นี้“ ได้ไปพบเจอกับ “ จิ้งจกตัวนี้ “ และมีการติดต่อสื่อสารสัมพันธ์กัน ทำให้พลังงานของจิตวิญญาณของเจ้าจิ้งจกเพิ่มขึ้นจากการได้ใช้ความสามารถพิเศษด้านมันสมองของตัว “มัน“ ( หรือจะเรียกว่า “เขา “ ก็ได้ ) ทำให้เครื่องมือและระบบตรวจหาวิญญาณที่สูญหายไปในครั้งนั้น ที่เราพัฒนาขึ้นจับสัญญาณของพลังวิญญาณของเจ้าจิ้งจก “แสนฉลาด“ ตัวนี้ได้สำเร็จนั่นเอง...”

              “ใช่ครับท่าน “ ฮาเดส “ บอกตรงๆ สมัยก่อนเราพอมีบันทึกเอาไว้ ว่ารับสัญญาณพลังงานวิญญาณของเจ้านี่ได้แค่ช่วงแรกๆ ที่เขารู้ตัวว่าเป็น “ จิ้งจกที่ไม่ธรรมดา “ แค่นั้นเอง แต่หลังจากนั้นเขาก็เหมือนรับสภาพไม่ได้ใช้พลังในการที่จะสื่อสารกับใคร เพราะหาคนที่มีพลังที่จะสื่อสารกับเขาไม่ได้ ก็หยุดใช้ความสามารถ ทีนี้ต่อให้เราส่งยมทูตมาค้นหาขนาดไหน ถึงจะรู้ว่าอยู่ในละแวกนี้ แต่ก็เจอแต่จิ้งจกที่เหมือนๆกันหมด ไม่มีตัวใหนดูท่าทางจะแปลกๆเป็นพิเศษเลย เพิ่งจะสัมผัสพลังวิญญาณที่เพิ่มมากขึ้นมาได้ เมื่อวันก่อนนี้เอง ตอนที่ทั้งสองคนนั้นได้สื่อสารถึงกัน ตอนนั้นแหล่ะเราถึงจับพลังวิญญาณพิเศษของเจ้าจิ้งจกตัวนั้นได้อีกครั้งหนึ่ง แล้วตอนนี้พอทั้งสองคนนั้นไม่ได้คุยกันปุ๊บ เราก็จับพลังงานวิญญาณของเจ้าจิ้งจกไม่ได้อีกแล้ว“

             “นั่นแหล่ะ...เป็นเรื่องที่ข้าจะต้องหาทางติดต่อนางต่อไป...เพราะถึงยังไงข้าก็ต้องหาทางสัมผัสตัวนางก่อนเพื่อที่จะเพิ่มพลังวิญญาณของนางด้วยพลังของข้าเอง ในตอนนี้นางยังไม่สามารถที่จะสื่อสารกับตัวข้าได้ในระยะไกล ไม่เหมือนกับแม่หญิงสาวใส่แว่นตัวเล็กนั่น สำหรับรายนั้นถ้าข้าเข้าไปใกล้ๆกับตัวของนางมากกว่านี้อีกซักหน่อย ข้ารับรองได้เลยว่า นางสามารถรู้สึกถึงการมีอยู่ของตัวข้า และตั้งสมาธิเพื่อมองมายังร่างที่เต็มไปด้วยพลังวิญญาณของพวกเราได้แน่ๆ“ 

             “ดังนั้น สิ่งที่ข้าต้องทำก็คือหาทางเข้าไปติดต่อกับนางให้ได้ และเมื่อข้าได้เพิ่มพลังวิญญาณให้นางผ่านการสัมผัสร่างกายของนางเมื่อไหร่แล้ว พลังของนางก็จะตื่นขึ้น อย่างไรก็ตามพวกเราก็ต้องหาจังหวะเวลาที่นางอยู่คนเดียวและปลอดคน เพราะว่าการที่พวกเราไปปรากฏตัวแล้วทำอะไรแปลกๆ ไม่เหมือนพวกมนุษย์เขาทำกัน  แล้วถ้ามีคนถ่ายภาพสิ่งที่ข้าทำลงไปกับนางได้แล้วล่ะก็ ถึงแม้ว่ากล้องถ่ายภาพ และเทคโนโลยีของพวกมนุษย์อาจจะถ่ายภาพของข้าไม่ได้ก็จริงอยู่ แต่มันสามารถถ่ายภาพของนางได้แน่ๆ แล้วรับรองได้เลยว่า เจ้า “ ซูส “ มันต้องใช้ข้อตกลงของสรวงสวรรค์กับเหล่าเทพฯทั้งหลาย มาปรับค่าเสียหายเป็นสินไหมในข้อหา “ เปิดเผยร่างและการกระทำสร้างความปั่นป่วนให้โลกมนุษย์ “ แน่ๆ งานนี้ต้องโดนเจ้า “ซูส“ โขกค่าเสียหายกันยับๆ แถมข้ายังต้องยอมรับผิดโดยไม่อาจจะปฏิเสธได้อีกต่างหาก...ซึ่งนับเป็นเรื่องที่เลวร้ายที่สุดต่อสภาพการเงินของกองทัพยมโลกเราในเวลานี้เลยทีเดียว...“

             ว่าแล้วทางด้านของเทพ “ฮาเดส“ ก็ได้เปิดหน้าจอมือถือ “สตอร์เบอร์รี่ รุ่น 5.0“  ให้ทางด้านของทาง ยมทูต “สุวรรณ“ ได้ดู ซึ่งก็ทำให้ทางด้านของ ยมทูต “สุวรรณ“ นั้น ถึงกับต้องทำ “ตาโต“ เลยทีเดียว

             “โอ้โห...เดือนนี้งบประมาณของทางยมโลกเรา นี่งบมันบานปลายจนงบประมาณส่วนกลางนั้นติดลบ แดงเถือกถึงขนาดนี้เลยหรือครับ ท่าน “ฮาเดส“ กระผมไม่เคยเห็นทางยมโลกเรางบการเงินส่วนกลางนั้นต้องมาติดลบแดงเถือกขนาดนี้มาก่อนเลยครับ...”

             “ใช่แล้วล่ะ...ที่งบการเงินของนรกภูมิเรานั้นติดลบหนักขนาดนี้เป็นเพราะว่า ทางส่วนกลางของเรานั้นจำเป็นต้องเปลี่ยน “ต้นงิ้วเหล็กกล้า“ ที่หมดสภาพ หนามเหล็กกล้าหรืออะไรก็เหี้ยนเตียนหมดแล้ว จนเหล่า “คนบาป“ แทบจะปีนกับไม่ได้อยู่แล้ว จะแทบจะกลายเป็น “กีฬาเอ็กซ์ตรีม“ ในนรกมากกว่าการลงโทษแล้ว จริงๆ แล้วมันก็จวนเจียนจะหมดสภาพมาตั้งแต่สิบกว่าปีที่แล้ว เกือบจะยี่สิบปีแล้วล่ะนะ แต่การจะเปลี่ยนไอ้ของพวกนี้กันซักทีน่ะ...เปลี่ยนครั้งล่ะมากๆมันจะถูกกว่า เลยเพิ่งจะกลั้นใจมาเปลี่ยนกันนี่แหล่ะ เนี่ย...ข้าเพิ่งเปิดใบ P/O ให้กับทางท่าน เทพวิษณุฯ เทพผู้สรรสร้างแห่งสรวงสวรรค์ย่านเอเชียใต้ไปเตรียมจัดหาอุปกรณ์ต่างๆมาดำเนินการแล้ว เพราะทางนรกภูมิเราไม่ได้มีผู้ชำนาญในการสร้างของแบบนี้เท่าไหร่ เพียงแต่มีแรงงานพวกยมทูตต่างๆให้มาร่วมทำงานกับทางเจ้าหน้าที่จากสวรรค์เขามากหน่อยเท่านั้นเอง ส่วนระหว่างนี้เรื่องโทษทัณฑ์ต่างๆในนรกภูมิขุมที่ 3 ที่พวกเหล่า “คนบาป“ ต้องปีนต้นงิ้วนั้น ข้าได้คุยกับทางท่าน “พญายมบาล“ แล้ว ท่านก็จะโยกให้ไปทำงานก่อสร้างเสาต้นงิ้วเหล็กกล้าไป แทนการลงโทษโดยการปีนต้นงิ้วไปแทน ไม่งั้นเหล่า “คนบาป“ ก็จะต้องมารอชดใช้กรรมกันนานเกินไป ซึ่งก็ไม่ควรเป็นแบบนั้นล่ะนะ ส่วนข้าฯ ก็จะเป็นผู้ดูแลในส่วนของ “งบกลาง“ ของยมโลกเราเหมือนเดิม เพราะถึงแม้ว่าการลงฑัณฑ์ในส่วนของ “นรกภูมิ“ ทั้งของยุโรปและอเมริกานั้น ในส่วนของการลงฑัณฑ์นั้นจะแตกต่างกันไปนิดหน่อย ตามหลักความเชื่อทางศาสนาหลักๆในท้องถิ่นนั้น แต่ “งบกลาง“ ที่เราใช้ มันก็ใช้งบก้อนเดียวกันนั่นแหล่ะนะ“

              “แล้วนี่ท่าน “สุวรรณ“ ท่านดูรายละเอียดตรงนี้อีกนะ ยังมีของต่างๆ ที่ใช้ในการลงฑัณฑ์เหล่าคนบาป ชำรุดเสียหายมากมายเหลือเกิน ขนาดหม้อทองแดงที่ว่าอึดๆ ทนๆ ก็แตกหัก พัง รั่วไปไม่รู้กี่อันแล้ว เพราะใช้งานหนักเหลือเกิน เหล่า “คนบาป และ สัตว์นรก“ มากขึ้นทุกวันๆ  สมัยก่อน  ลอยคอกันเต็มกะทะไปหมด จนกระทะบางทีพังลงมาดื้อๆเลยก็มี ท่าน “พระยายมราช“ ของท่านก็บ่นให้ข้าฟังอยู่บ่อยครั้ง  ซึ่ง จะว่าไปแล้วสมัยก่อนนี้ ผู้คนยังอยู่ใน “ศีลและธรรม“ กันมาก ทำอะไรก็มีความเกรงกลัวต่อบาปกันค่อนข้างมาก แต่สมัยนี้เรื่องเหล่านั้นลดน้อยถอยลงมาก นักการเมืองดังๆ หรือ ผู้นำบางประเทศบางประเทศตายที ลิสต์ความชั่วนี้ยาวเป็นหางว่าวเลย เรียกได้ว่า “สมุดจดความชั่ว“ เขียนหมดไปห้าเล่มยังไม่พอด้วยซ้ำไป “ 

             “จนบางทีข้าฯ นี้ยังคิดๆอยู่เลยว่า “ ไฟในนรกอเวจี “ ของทางตะวันตกของข้า ที่ใช้ลงโทษพวกนั้นยังเป็นการลงโทษที่ดูจะเบาไปด้วยซ้ำ ช่างผิดกับ  “สวรรค์“ เหลือเกิน ที่คนไปเยือนน้อยลงๆ ไปก็อยู่ได้ไม่นาน จนเจ้า “ซูส“ มันงานว่างจัดๆ วันๆ ก็คอยแต่จะหา “เมีย“ ใหม่ ติดที่ “เฮร่า“ เมียเขาก็จมูกไว หูตาก็ดี คอยตามตรวจเช็คและคุมประพฤติความประพฤติตลอด รวมทั้งสารพัดเมียของ “ซูส” ก็คอยเป็นหูเป็นตาให้กระดิกตัวลำบาก ไม่งั้นบอกเลย “ลูกครึ่งเทพฯ“ คงมีกันให้เกลื่อนเหมือนในสมัยโบราณไปแล้ว คิดแล้วก็ชวนให้หัวหมุน เกิดเจ้าตัวน้อย  “เซอเบอรัส“ ของข้า โดนลูกครึ่งเทพฯ มารังแกอีก แบบคราวของเจ้า “เฮอร์คิวลิส “ แบบในสมัยครั้นเทพรุ่งเรืองจะทำอย่างไร “เซอเบอรัส“ ของข้ายิ่งมีจิตใจบอบบางอ่อนไหวและอ่อนโยนอยู่...นี่ท่านดูซิ...แววตาและท่าทางที่แสนออดอ้อนขนาดนี้ ยังอุตส่าห์มีคนเข้ามารังแกข่มเหงกันอยู่เรื่อยๆ เอาเป็นตัวผ่านด่านทดสอบซะอย่างนั้น ไม่เห็นใจสัตว์โลกที่น่ารักแบบนี้กันบ้างหรือไร...?“

             ว่าแล้ว “เจ้าแห่งยมโลก“ ก็เปิดคลิปตอนเจ้าหมานรกสามหัว “เซอเบอรัส“ ที่กำลังนั่งแทะกะโหลก และวิญญาณของเหล่าคนบาปที่กำลังพยายามหาทางหนีออกจากยมโลกดังกร้วมๆ อย่างเอร็ดอร่อย น้ำลายไหลย้อยเป็นทาง หัวหนึ่งกำลังงับวิญญาณบาปอยู่ครึ่งตัวฟัดไปฟัดมา หัวหนึ่งกำลังเคี้ยวกะโหลกดังกร้วมๆ ส่วนอีกหัวก็กำลังกระเดือกเอาเหล่าวิญญาณบาปหลายตนเข้าไปในท้องทั้งตัวอยู่อย่างสบายอารมณ์  ซึ่งเมื่อยมทูต “สุวรรณ“ ได้เห็นภาพแบบนี้แบบเต็มๆชนิด “ Full HD“ ชัดเจนแจ่มแจ๋วสุดๆ มันก็ทำให้ทางด้านของยมทูต “สุวรรณ“  ได้แต่ยิ้มและหัวเราะแฮ่ะๆ...พูดอะไรไม่ออก นอกจากจะพยายามทำสีหน้าให้ดูเหมือนเอ็นดูเจ้าหมาสามหัว “เซอเบอรัส“ ให้ทางด้านของ “ฮาเดส“ เห็นอย่างเต็มที่เท่านั้นเอง...

“ดูซิ ท่าน “สุวรร “ เจ้า “เซอเบอรัส“ ของข้า ฯ ดูจะน่ารัก น่าเอ็นดู จะตายไปเนอะ...กินเก่ง เจริญอาหาร“

    “จ๊ะ...เอ๊ย...ใช่แล้วขอรับ...น้องน่ารักมากมายเลยจริงๆ ดูซิ ตาแป๊วๆ ดูทรงแล้ว น่าจะกินเลือด กินเนื้อเก่ง เอ๊ย !!!...ไม่ใช่กินเก่ง โตไว อ้วนท้วนสมบูรณ์นะครับ ท่าน “ฮาเดส“ ตัวงี้จ้ำม่ำเชียว...“

              “แน่นอนอยู่แล้ว...เราเลี้ยงเขาอย่างดี แล้วต่อไป ถ้าเราได้ผู้หญิงคนนี้ตอนที่เธอหมดอายุขัยแล้วไปช่วยเทรนเจ้า “เซอเบอรัส“ ให้มันอึเป็นที่เป็นทางหน่อย ก็คงจะดีกว่านี้มาก ตอนนี้น้อนยังติดเรื่องขับถ่ายยังไม่เป็นที่เป็นทางเท่าไหร่อยู่ เจอวิญญาณบาปอยู่แถวไหน กินเสร็จแล้ว ชอบขับถ่ายแถวๆนั้นทุกทีเลย ข้าฯก็ไม่รู้จะสอนยังไงแล้ว สอนมาหลายพันปี ยังไม่สำเร็จเลย คงต้องให้เธอผู้นี้เป็นคนทำให้แล้วล่ะ...“

              “ดังนั้นทางเราจะต้องทาบทามเธอคนนี้ มาอยู่ในกองทัพยมโลกของเราให้ได้ตอนเธอสิ้นอายุขัยไปแล้ว นอกจากข้าฯ จะได้ให้หน้าที่นางให้ช่วยฝึกเจ้า “เซอเบอรัส“ แล้ว ข้าเองก็มีแผนจะให้นางเข้าร่วมการแข่งกีฬาโอลิมปิคของเหล่าเทพประเภท “ขี่สัตว์พาหนะ“ ด้วย รับรองได้เป็นตัวเต็งเหรียญทองหลายรายการแน่ๆ  ซึ่งถ้ากองทัพนักกีฬาของเราชนะเลิศเป็นอันดับ1 ในกีฬาโอลิมปิคของเหล่าเทพได้แล้วล่ะก็จะได้รางวัลเดิมพันมหาศาลเลย  นี่แหล่ะการทำ “สงครามเทพ“ สมัยใหม่ เขาไม่ยกพลมารบราฆ่าฟันกันแล้ว เขาใช้การแข่งกีฬากันแทน พวกเราไม่เหมือนพวกมนุษย์หรอก ที่หลายๆคนก็ยังทำเรื่องโง่เขลา เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองไม่เปลี่ยนแปลง“

              “และสำหรับไอ้พวกคนประเภทนั้น ถ้ามันตายลงเมื่อไหร่ ข้าฯ นี่แหล่ะจะเป็นผู้สั่งลงโทษมันเองเอาให้สาสมกับความชั่วร้ายที่พวกมนุษย์พวกนั้นมันเคยทำตอนยังมีชีวิตอยู่เลยทีเดียว !!!“

“เอ่อ ... ตัวข้าเองมีคำถามซักคำถามหนึ่ง อยากจะขออนุญาตถามท่าน “ฮาเดส“ หน่อยได้ไหมครับ เพียงแต่ข้าฯรู้สึกว่ามันอาจจะเสียมารยาทไปซักนิดหนึ่งสำหรับคำถามนี้ ถ้ามันอาจจะทำให้ท่าน “ฮาเดส“ รู้สึกไม่พอใจ กระผมต้องขออภัยอย่างสูงด้วยครับ แต่กระผมสงสัยจริงๆ สำหรับในเรื่องนี้...คือสำหรับแม่สาวร่างสูงโปร่งที่สามารถคุยกับสัตว์ต่างๆได้นี่ กระผมก็เข้าใจแล้วว่าท่าน “ฮาเดส“ อยากได้ตัวเพราะอะไรกันแน่...“

              “แต่สำหรับแม่สาวน้อยใส่แว่นที่ดูตุ้มต๊ะตุ้มตุ้ย ตัวก็บางนิดเดียว ขาก็สั้น ตัวตันๆ ดูนุ่มนิ่มคนนี้ ข้าไม่เห็นแววว่านางจะเป็นนักกีฬาในการแข่งขัน “กีฬาเทพเจ้าโอลิมปิค“ ได้เลย แล้วท่านจะต้องการตัวนางไปทำไมครับ หรือเป็นเพราะว่านางเต้นเชียร์ลีดเดอร์เก่ง เพราะดูแล้วก็น่ารักน่าเอ็นดูดีอยู่ แค่ไม่เหมือนกับจะเป็นนักกีฬาได้แค่นั้นเอง“ 

เมื่อได้ยินดังนั้นทาง “เจ้าแห่งยมโลก“ ก็ได้แต่ยิ้มออกมาแบบคนที่มีเป้าหมายที่แน่ชัดอยู่ในสมอง แล้วก็หันมาพูดกับทางยมทูต “สุวรรณ“ ว่า

“ฮึ...นี่ท่านไม่รู้อะไรเสียแล้ว...ท่าน “สุวรรณ“ นางนี่แหล่ะ จะช่วยทำให้เศรษฐกิจของ “นรกภูมิ“ ของพวกเรานั้นล่ำซำขึ้นมาได้อีกครั้งเลยทีเดียวล่ะ...ท่านลองดูนี่ซิ...“

              ว่าแล้ว “เจ้าแห่งยมโลก“ ก็ได้ทำการสไลด์หน้าจอมือถือของตัวเอง ให้ทางด้านยมทูต “สุวรรณ“ ได้ดูอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งภาพในมือถือนั้นก็เป็นการแสดง Port ของการลงทุนในหุ้นของ สวรรค์ – นรก นั่นเอง ซึ่งเมื่อทางยมทูต “สุวรรณ” ได้มองเห็นกราฟ Port หุ้นแล้วถึงกับอุทานออกมาเป็นเพลงอย่างลืมตัวว่า 

             “โห...กราฟหุ้นนี่ทรงอย่าง Bad...Sad ติดดอย ดูน้อยๆเพราะว่า Port ติดแดง...โอ๊ย...สภาพ Port หุ้นนี้อย่างกาก...เล่นแบบนี้เมื่อไหร่ถึงจะคืนทุนเนี่ย...ดอยขนาด  ถ้าจะดอยขนาดนี้นี่อีกนิดนี่ทำสวนผลไม้อัดกระป๋องได้แล้วเนี่ย...”

              แต่แล้วทางด้านยมทูต “สุวรรณ“ ก็เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ซักอย่างหนึ่งว่า Port หุ้น สวรรค์ – นรก ที่ได้เห็นอยู่เมื่อซักครู่เป็นของท่าน “เจ้าแห่งยมโลก“ นี่หว่า...ทางด้านของยมทูต “สุวรรณ“ ถึงกับสะดุ้งเอามือปิดปากของตัวเอง แล้วมองหน้า “เจ้าแห่งยมโลก“ ตาปริบๆ เหมือนอยากจะขอโทษแต่ก็พูดอะไรไม่ออก

             “ไม่ทันแล้วท่าน...แหม่...ใส่มาซะเต็มคาราเบลเลยนะ...เอาเถอะ...เรื่องแค่นี้ข้าไม่ถือสาหรอก...เพราะข้าก็ยอมรับในเรื่องนี้อยู่แล้วว่า ข้าทำในเรื่องเหล่านี้ได้ไม่ดีจริงๆ ไม่อย่างนั้น ข้าคงไม่อยากได้สาวน้อยคนนั้นเข้ามาอยู่ในกองทัพยมโลกของเราหรอก...ข้าเคยรวบรวมไอ้พวกที่ดูเก่งๆด้านนี้ เป็น Life Coach ที่ตายแล้วมาลงนรก ไอ้เราก็เห็นตอนพวกนั้นมีชีวิตอยู่นี่สอนคนอื่นกันเก่งจัง ดูแล้วน่าจะดีแน่ๆเลยให้ลองทำงานดูซิว่าจะดีไหม  สุดท้ายแล้วส่วนใหญ่แทบจะเป็นพวกต้มตุ๋นคนทั้งนั้น”

            “พวกนี้นะไอ้ตอนหาลูกค้าก็เอา Port ตัวเทสต์ หรือไม่ก็ดัดแปลงภาพกราฟฟิคไปหลอกลูกค้ากินค่าคอร์สสัมมนาทั้งนั้น พอให้มาเล่นจริงนี่ ไม่ได้เรื่องเลย ข้าก็เลยส่งไอ้พวกนั้นไปนรกขุมเยือกแข็งที่ลึกล้ำที่สุดไปละ...คิดแล้วเจ็บใจจริงๆ...ตอนอยู่ต่อหน้าล่ะทำเก่งทุกราย พอให้เล่นจริง ไม่เห็นได้เรื่องเลย...หลอกกันเก่งทำคนเดือดร้อนมามากมาย แบบนี้ต้องโดนลงฑํณฑ์จากข้าแล้วล่ะ !!!“

 “แต่สำหรับหญิงสาวคนนี้นั้นแตกต่างกัน เธอมีความสามารถในด้านนี้จริงๆ ข้าได้ส่งคนมาติดตามอยู่ห่างๆนานแล้ว นางมีความสามารถในการทำรายได้ในด้านนี้จนครอบครัวของเธอนั้นมีฐานะที่ดีขึ้นมามากๆนับว่าเป็นของจริงคนหนึ่งเลยทีเดียว นอกจากในเรื่องของพวกหุ้นหรืออะไรแล้วการทำธุรกิจด้านอื่นๆให้ครอบครัวก็ทำได้ดีอีก เรียกได้ว่าตั้งแต่เธอมีโอกาสได้ศึกษาการศึกษาดีๆนั้น ก็ทำให้ตัวของเธอนั้นเก่งขึ้นมาได้มากๆเลยทีเดียว ในอดีตชาตินั้น ข้าเคยเห็นนางมาตั้งแต่ตอนที่ยังเป็น “วิญญาณบาป“ อยู่ ก็สังเกตเห็นว่านางจะดูเป็นคนที่ฉลาดมาก แต่อาจจะขาดโอกาสในการศึกษาเรื่องเกี่ยวกับธุรกิจในชาติก่อนมา ตอนนั้นก็รู้สึกเอ็นดูอยู่ในใจ แต่พอมาในชาตินี้ นางได้รับผลบุญจากความดีที่เคยทำสะสมในอดีต ทำให้มีทุนรอนในการศึกษาศาสตร์จำพวกนี้เพิ่มขึ้น และนางก็ทำให้ข้าถึงกับตกใจในพัฒนาการๆเรียนรู้ของนางเลยทีเดียวและนางก็ทำได้เยี่ยมกว่าที่ข้าคิดเอาไว้เสียอีก และข้าก็คิดว่าด้วยฝีมือของนาง ก็จะเป็นหนึ่งในทีมงานที่ปรึกษาที่ดีของข้า และ ”ท่านยมบาล“ในการเทรดหุ้น “สวรรค์ – นรก “ ได้แน่ๆ คราวนี้แหล่ะข้าจะทำกำไร ให้กับนรกภูมิของเราเพื่อที่จะได้มีกำไรมาแจกโบนัสเจ้าหน้าที่ทุกแผนกของเราได้ดีๆหน่อยยังไงล่ะ อุปกรณ์อะไรที่ใช้งานอยู่ ก็จะได้ไม่เอน็จอนาถอนาถาแบบหลายสิบปีที่ผ่านมานี้“

              เจ้าแห่งยมโลกได้ทำการร่ายยาวถึงแผนการที่ตนคาดฝันเอาไว้ในอนาคตอันยาวไกลข้างหน้า ซึ่งเมื่อยมทูต “สุวรรณ“ ได้ฟังแล้ว ก็ถึงกับยิ้มแป้นแล้น แล้วทางยมทูต “สุวรรณ” ก็ได้ชูมือขึ้นมาแล้วทำนิ้วมือเป็นสัญลักษณ์ “Love Heart“ แบบ “หวานฉ่ำ “ให้กับทางเจ้าแห่งยมโลกเลยทีเดียว เพราะตัวเองก็ได้รายได้กระปริดกระปรอยมาหลายสิบขวบปีแล้วเช่นกัน ซึงมันก็เป็นเรื่องที่ทำให้ทดท้อหัวใจเป็นอย่างมาก สำหรับคนทำงานกันเลยทีเดียวเชียว

            “แต่ตอนนี้สิ่งที่เราต้องทำเป็นอันดับแรกก่อนก็คือการแก้ไขเรื่องที่เราทำผิดพลาดไป อย่างเช่นต้องติดต่อเจ้าจิ้งจกที่ฉลาดเท่าคนที่จริงๆแล้วเขาเป็น “วิญญาณ“ ที่ควรจะต้องไปเกิดเป็นมนุษย์มากกว่า ถึงแม้ว่าในชาตินี้เราจะแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว แต่อย่างน้อยเราได้ทำการติดตามตัวเพื่อที่จะชดใช้ความผิดด้วย พอเขาหมดอายุขัยจากการเป็นจิ้งจกแล้ว วิญญาณของเขาจะได้กลับเข้าสู่ระบบของเรา และเตรียมกลับไปเกิดเป็นมนุษย์อีกที ซึ่งในตอนนั้นข้าจะได้หาหนทางชดเชยในสิ่งที่ข้าทำผิดพลาดในอดีตให้กับเขาต่อไป โดยเสนอผลประโยชน์ในด้านดีอื่นๆมาชดเชยให้ ซึ่งเรื่องพวกนี้ข้าได้แจ้งกับทางสวรรค์ทำเรื่องรอเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้วดังนั้นไม่ต้องเป็นห่วง เราเหลือปัญหาอยู่เรื่องเดียวคือต้องหาตัวเจ้าจิ้งจกตัวนั้นให้เจอแค่นั้นเอง“ 

            “ว่าแต่ว่าทางท่าน “สุวรรณ“ เอง ก็เหมือนจะมีงานที่ต้องมาทำทางด้านนี้เหมือนกันใช่หรือไม่ ? ทางท่านจึงขอติดตามข้าฯ มาถึงที่นี่ ?“

             “อืมส์...ใช่แล้วล่ะครับ ท่าน “ฮาเดส“ ทางกระผมวันนี้ก็ได้ตั้งใจว่าจะมาตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องบัญชี รับ – ส่ง วิญญาณในพื้นที่นี้ทั้งโซนเลยครับ รู้สึกว่าเหล่ายมทูตท้องถิ่น จะตามเก็บเหล่าวิญญาณเร่ร่อนทั้งหลายได้ไม่ครบหมด แต่ปริมาณของวิญญาณเร่ร่อนที่ขาดหายไป ก็ไม่ได้ถือว่าขาดไปน่าเกลียดอะไรมากครับ เป็นเพียงแค่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์แต่ยังไงก็ต้องลงมาช่วยกันตามหาพวกที่หายไปกันเป็นพักๆอยู่ดี“

              “มันก็เป็นเรื่องธรรมดาล่ะนะ...ถ้าตอนที่มนุษย์ผู้นั้นกำลังจะสิ้นชีวีต แต่จิตใจยังคงมีความสับสน หรือยังยึดติดกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือที่เราเรียกกันว่า “จิตไม่สงบ“ บางทีก็จะเป็นการยากที่จะรวบรวมความหนาแน่นของมวลพลังวิญญาณในตัวเอง จนเครื่องตรวจจับวิญญาณของทางเราสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถค้นหาผู้ที่กำลังจะสิ้นชีวิตตามกรรมของคนผู้นั้นได้ นี่ขนาดเครื่องตรวจจับวิญญาณของเราก็มีการพัฒนาอยู่เรื่อยๆแล้วนะ แต่ก็ยังคงมีความไม่สมบูรณ์ หรือ Error ต่างๆอยู่บ้าง ยิ่งเป็นวิญญาณที่ไม่ติดที่ เร่ร่อนไปทั่วแล้วนี่ ยิ่งเป็นเรื่องยากในการตามหาตัวเข้าไปใหญ่เลย “ 

             “เพราะแบบนี้แหล่ะ...ท่านศากยะมุนีเอง ถึงได้แนะนำสั่งสอนให้มนุษย์ที่นับถือ “ศาสนาพุทธ“ ให้ทำสติก่อนถึงเวลาที่แห่งความตายกำลังจะมาถึงตนเองยังไงล่ะ...เพื่อที่จะทำให้จิตใจของมนุษย์คนนั้นละทิ้งซึ่งความโลภ  โกรธ หลง และ อารมณ์ต่างๆ เพื่อทำจิตใจให้แน่วแน่ ทำให้สามารถที่จะมาเข้าสู่ระบบของการเวียนว่ายตายเกิดได้ และในที่สุดเมื่อชดใช้กรรมที่เคยทำเอาไว้หมดแล้ว ก็จะมีโอกาศกลับมากำเนิดในภพภูมิที่ดี และอาจจะถึงขั้นไปถึงการเข้าสู่ดินแดนแห่ง “ พระนิพพาน “ หรือขึ้นไปอยู่บนสรวงสวรรค์กับพระผู้เป็นเจ้าที่มนุษย์แต่ละคนนับถือได้อย่างไรล่ะ...”

            “จะว่าไปแล้ว ถึงเจ้า “ ซูส “ มันจะชอบกวนโอ๊ย และสร้างเรื่องสร้างราวให้เกิดขึ้นมากมายอยู่ไม่ใช่น้อย แต่โดยรวมๆแล้วเจ้านั่นก็ดูแลสรวงสวรรค์ได้เป็นปกติดีในภาพรวมนั่นแหล่ะนะ...“ 

              “พูดถึงท่านศากยะมุนี อันพำนักอยู่ในดินแดนอันเป็นสุขนิรันดร์ ไม่ต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดขึ้นมาแล้วนี่ ข้าเองก็อยากจะแว่บไปคุยเรื่องปรัชญากับท่านศากยมุนีอยู่นะ เดี๋ยวว่างๆแล้วค่อยไปหาท่านอีกทีดีกว่า แต่ก็คงต้องเป็นช่วงที่ภารกิจในการค้นหาตัวเจ้า “ จิ้งจกที่ฉลาดเหมือนมนุษย์ “ ตัวนี้เรียบร้อยก่อนก็แล้วกันนะ เพราะว่าการชดเชยและแก้ไขในส่วนที่ข้าเคยทำผิดมาในอดีตเป็นอันดับแรกก่อน เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในตอนนี้“ 

             “แล้วหลังจากนี้เราจะทำยังไงกันต่อดีละครับ ท่าน “ฮาเดส“ ? จะคอยตระเวนหาเจ้าจิ้งจกตัวนั้นเลย หรือว่าจะหาจังหวะติดต่อกับหญิงสาวผู้นั้นให้ได้ก่อนครับท่าน ?“

             “ก็คงต้องหาทางติดต่อเธอคนนั้นให้ได้ก่อนละนะ...แต่อย่างว่า ในช่วงนั้นก็ต้องระวังไม่ให้ใครได้เห็นการติดต่อของเรากับนาง จึงนับว่าเป็นเรื่องที่ยากพอดูเหมือนกัน เพราะเราจะให้มนุษย์คนอื่นเห็นเราก็ไม่ได้มันผิดกฏของเหล่าทวยเทพตามที่ได้กำหนดกันเอาไว้อย่างที่บอก ได้เสียค่าปรับเบี้ยหัวกะโหลกกันอานแน่ๆ...” 

       “ถ้าอย่างนั้นเราคงต้องมาจับตาดูผู้หญิงคนนั้นกันต่อไปแล้วล่ะครับ ว่าเธอคนนั้นจะใช้ชีวิตประจำวันอย่างไร...แล้วเราก็คงจะหาทางติดต่อเธอคนนั้นได้แน่ๆครับ“

             “ใช่แล้ว และงานนี้ข้าฯ นั้นคงจะต้องลงมือด้วยตัวเองล่ะนะ...อาจจะใช้เวลาหน่อย แต่ข้าคิดว่าคงไม่นานมากเกินไปข้าคงจะติดต่อและทำให้เธอยอมรับในตัวของข้าได้ในที่สุด  เดี๋ยวจากนี้ไปพวกเราก็ต้องมาคอยดักดูความเคลื่อนไหวของเธอคนนั้นอีกทีว่านางจะกลับมาทำงานเมื่อไหร่ และหลังจากนั้น ข้าจะสะกดรอยติดตามนางด้วยตัวข้าเองอีกที“ 

             “ว่าแต่ว่าตอนนี้ก็ยังเป็นช่วงสายๆอยู่ นางคงยังไม่กลับมาที่อพาร์ทเม้นท์แห่งนี้แน่ๆ  แบบนี้เราไปหาที่เที่ยวกันก่อนดีไหม? ใหนๆเราก็มาเมืองไทยแล้ว ก็แวะหาที่เที่ยวแถบรายทางนี่ซะหน่อย...ข้าเปิดคู่มือนักท่องเที่ยวแล้วจำได้เลาๆ ว่าแถวนี้มี  “ตลาดน้ำ “ ชื่อดังไม่ใช่หรือ ? มีพวกมนุษย์ทางยุโรปมาเที่ยวกันเยอะเลย น่าจะมีของกินอร่อยๆอยู่ ว่าแต่วันนี้เขาเปิดทำการค้าขายหรือเปล่าล่ะ ท่าน “ สุวรรณฯ “?...“

              “วันนี้เป็นวันธรรมดา รู้สึกว่าตลาดน้ำมีชื่อแถวนี้อย่างตลาดน้ำ “คลองลัดมะยม“ เหมือนจะไม่เปิดนะครับท่าน “ฮาเดส“ เราคงต้องไปหาอะไรกิน หรือเที่ยวที่อื่นแล้วล่ะครับ พื้นที่ใกล้ๆ ไม่ได้ไกลมากจากนี้ ก็ยังมีตลาดน้ำที่มีชื่อเสียงระดับสากล อย่าง ตลาดน้ำ “ดำเนินสะดวก “ ที่เคยได้ใช้เป็นสถานที่ถ่ายหนังระดับโลกของฮอลลีวู๊ดหรือเป็นฉากวาดการ์ตูนของนักเขียนการ์ตูนฮ่องกงชื่อดังมาแล้ว หรือว่าจะเป็นตลาดน้ำที่โด่งดังอีกเช่นกันอย่าง “ตลาดน้ำอัมพวา“ นี่ก็มีของกินและที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และวัดวาอารามต่างๆ ที่น่าสนใจที่อยู่ใกล้เคียงเพียบเลยครับ พวกเราตั้งจิตรวมพลังเดินทางไปแป๊บเดียวก็ถึง เผื่อทางกระผมจะได้ไปเยี่ยมเหล่าบรรดายมฑูตและตรวจเช็ค report ของการจัดเก็บวิญญาณแถวๆนั้นด้วยครับ แถวนี้จริงอยู่ว่ามีการจัดเก็บวิญญาณได้ไม่ครบแต่ก็ขาดไปนิดเดียว...ท่าน “พระยายมบาล“ ท่านคงไม่ตำหนิพวกข้าหรอกครับ”

             และในระหว่างที่ เจ้าแห่งยมโลกสาขายุโรปและอเมริกา ได้สนทนากับทาง ยมทูต “สุวรรณ“ อยู่อย่างออกรสออกชาตินั้น ก็ได้มีเสียงเหมือนกับปลาตัวใหญ่ ๆ ดำผุดดำว่ายลงใปในน้ำใกล้ๆตัวจนทางด้านของเจ้าแห่งยมโลกฯ และ ยมทูต “สุวรรณ“ แอบสะดุ้งอยู่นิดๆ 

             “หือ...ปลาแถวนี้รู้สึกจะตัวใหญ่จังแฮะ...ทำเอาตะกี้ ข้าคนนี้ ถึงกับสะดุ้งเลยแฮะ...นี่ถ้าหากว่ามีใครมาเห็น “เจ้าแห่งยมโลก “ อย่างข้า สะดุ้งตกใจเพราะว่าปลาผุดน้ำนี่คงขำข้าพิลึกเลยนะ...ท่าน “สุวรรณ“

            “ไม่หรอกครับ...ท่าน “ฮาเดส“ แม้ว่าท่านจะเป็นเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ผู้สามารถควบคุมความเป็น-ตายได้ แต่ท่านก็ยังเป็นผู้มีความรู้สึกเฉกเช่นผู้ที่ยังมีความเป็นมนุษย์อยู่นะครับ“ 

          “จริงของท่าน...ถ้าอย่างนั้นเราก็ไปยังจุดหมายของเรากันเถอะ...แล้วเราค่อยหาจังหวะที่จะติดต่อกับแม่สาวที่สามารถติดต่อกับสัตว์ได้คนนั้น ซึ่งถ้าพวกเราสามารถติดต่อนางได้เมื่อไหร่แล้วล่ะก็ พวกเราก็คงจะตามหาเจ้า “จิ้งจกที่ฉลาดเหมือนมนุษย์“ เพื่อแก้ไขความผิดพลาดของข้าได้เสียที“ 

 เจ้าแห่งยมโลกพูดเสร็จก็หันลงไปมองยังอพาร์ทเม้นทต์สีเขียวสดใสที่อยู่ด้านล่างที่ตัวเองลอยอยู่บนฟ้า ก่อนที่จะพูดพึมพำขึ้นมาว่า

               “รอข้าก่อนเถอะนะแม่สาวแว่นตัวน้อย อีกไม่นานปี รอให้พลังจิตของเจ้าแข็งกล้าและเข้มแข็งกว่านี้อีกซักหน่อย...ข้าสัญญาว่าจะกลับมาพบเจ้าอีกครั้ง และข้าก็จะมอบพลังอันยิ่งใหญ่ส่วนหนึ่งของข้าให้กับเจ้าได้รับผิดชอบในฐานะคนๆหนึ่งที่จะเป็นกำลังสำคัญต่อไปของกองทัพยมโลกของข้าทั้งในยามที่เจ้ายังมีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้และในเวลาที่เจ้าลาจากไปแล้วในอนาคตข้างหน้า เจ้าจะเป็นหนึ่งในบุคคลที่สำคัญของข้า” 

              “และด้วยคำมั่นสัญญาที่เจ้ามีต่อข้าและพวกของข้าในอดีตชาติ  ตอนนี้ข้าจะยังไม่ขอติดต่อกับเจ้า เพราะข้าเกรงว่าถ้าข้าทำการย้อนความทรงจำของเจ้าไปในช่วงอดีตอันเป็นชาติก่อนของเจ้าแล้ว และให้พลังใหม่แก่เจ้าไปพร้อมๆกันในตอนนี้ ร่างกายและจิตใจของเจ้าที่ยังคงเยาว์วัยนัก อาจจะรับพลังอันยิ่งใหญ่เหล่านั้นพร้อมๆกันยังไม่ได้อาจจะเกิดอุบัติเหตุที่ข้าไม่คาดคิดก็เป็นได้...ดังนั้นเจ้าจงรออีกซักพักเถอะแล้วเราจะได้เจอกันอีกอย่างแน่นอน...สาวน้อย...เอาล่ะเราไปกันเถอะ...ท่านยมทูต “สุวรรณ“ ได้เวลาเที่ยงละ ข้าชักอยากกินก๊วยเตี๋ยวเรือของพวกมนุษย์แล้วล่ะ...ที่ยุโรป ไปยันอเมริกา ข้าไม่มีทางหากินของอร่อยๆแบบนี้ได้เลย นานๆข้าจะมาเมืองไทยซักที วันนี้จะขอซัดให้เต็มคราบ ถ้ากินได้ต่ำกว่า 6 ชาม ท่านก็ไม่ต้องมาเรียกข้าผู้นี้ว่า “ เจ้าแห่งยมโลก “ ฮ่า ฮ่า ฮ่า... “ 

ว่าแล้วร่างทั้งสองที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า ก็หายวับไปในพริบตา...