ผมชื่อลีโอ และนี่คือศึกแรกของผมครับ
เรื่องสั้น,น้องหมา,เรื่องสั้น,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ศึกแรกของลีโอผมชื่อลีโอ และนี่คือศึกแรกของผมครับ
ศึกแรกของลีโอ
เรื่องสั้นเข้าร่วมกิจกรรม รถแห่ชวนเขียน Vol.5
สงคราม | break the fourth wall | ตัวเอกเป็นหมา
ผมเพิ่งเปิดฉากแรกของสงครามชิงดินแดนมาหมาด ๆ แน่นอนว่าผลของมันคือชัยชนะอย่างไม่ต้องสงสัย ด้วยพละกำลัง คมเขี้ยว และเสียงตะโกนส่งแรงใจของหญิงสาวผู้หลงรักผมหัวปักหัวปำ แม้จะฟาดไม้ในมือลงมาเพื่อเป็นรางวัลหลังจากนั้นก็เถอะ
“ลีโอ! เข้าบ้าน!!!”
ครับ! ผมชื่อ ลีโอ แม้บางครั้งจะถูกเรียกด้วยชื่ออื่นอย่าง ‘โลอี’ หรือ ‘ลีโอตูดบอย’ แต่ยังไงซะผมก็คือผม ผู้ผ่านพ้นวันเกิดครบรอบสองปีได้สองเดือนก็อยากประกาศตัวว่าข้านี้แน่ที่สุดในย่าน
ยกเว้นคนในบ้านนะ
ผมก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้ในวันที่ความสูญเสียเพิ่งจางหายได้ไม่นานนัก ทุกคนจึงพร้อมเปิดใจรักและดูแลผมเป็นอย่างดี
มีความสุข
‘แม่’ คือผู้เป็นใหญ่ หญิงสูงวัยหกสิบกว่าซึ่งอุ้มผมเข้ามาสู่สถานที่แสนอบอุ่นแห่งนี้ มีหน้าที่คอยตวาดและดูแลเวลา ‘พวกผม’ บาดเจ็บ แม่ใส่ใจมักจะสำรวจความเป็นอยู่หาหยูกยามาทาถูแม้จะเจอแค่รอยข่วนเล็กน้อยก็เหอะ
“ลีโอมากินข้าว…‘ตัวเอง’...ลีโอหิวแล้ว”
‘พ่อ’ หรือที่แม่ชอบเรียกว่า ‘ตัวเอง’ บุรุษคนที่สองผู้มีอำนาจรองลงมา แต่บางครั้งก็ไต่อันดับขึ้นไปได้เหมือนกัน แค่บางครั้งนะเพราะก็เห็นยอมให้แม่ตลอด พ่อมีหน้าที่สรรหาของอร่อยมาให้ แค่ผมทำหน้าอ้อนหรือกระโดดขึ้นไปนั่งรอบนแท่นแดง แม่ก็ตะโกนเรียกแล้ว
‘ตัวเอง…ลีโอหิวข้าว’
ประมาณนี้
‘พี่สาว’ คือคนที่หลงรักผมหัวปักหัวปำตามคำกล่าวข้างต้น ตื่นนอนมาก็มักจะวิ่งเข้าหา คอยลูบไล้เอาใจตั้งแต่หัวจนถึงหางแต่ไม่ยอมให้กระโดดกอดเพราะบ่นตลอดว่าผมหนักเกินไป
‘มันหนักนะลีโอ!’
ประมาณนี้
‘พี่ชาย’ คือคนที่ผมชอบมากแต่ไม่ค่อยได้ออกมาเล่นด้วยเพราะพี่ป่วย ไอหนัก จนผมต้องชะเง้อหาทุกวันด้วยความคึดถึงขอแค่ได้เห็นหน้าก็พอใจ สมัยยังเด็กผมตัวกระเปี๊ยกเดียว พี่ชายมักจะตื่นมาทุกชั่วโมงคอยอุ้มผมไปเข้าห้องน้ำตั้งแต่ตีหนึ่งถึงตีสามโดยไม่บ่นเลยสักคำ
พี่ชายใจดี
‘ว่าไงครับ…พี่ลีโอ…’
ประมาณนี้
‘แม่ของพี่ชาย’ คืออีกคนที่ไม่ค่อยได้ออกมาข้างนอกมากนักแต่ผมก็ชอบกระโดดเข้าไปทักทายอยู่เสมอถ้าหาโอกาสได้น่ะนะ
‘ลีโอ! เข้ามาทำไมเนี่ย’
ประมาณนี้
ผมโตแล้ว ผมเป็นพี่แล้ว
นั่นคือคำที่ทุกคนมักจะบอกกรอกใส่หูอยู่เสมอ เพราะผมมีน้องน้อยอีกสามชีวิตต้องดูแลซึ่งก็คือลูกของสาวที่ผมหลงรักมาตั้งแต่ยังเด็ก เธอชื่อ ‘น้ำหวาน’ แต่ทุกคนชอบเรียกว่า ‘หวานหวาน’ นั่นผมก็ชอบนะ จะชื่ออะไรผมก็ชอบหมด
ผมเกิดไม่ทันแต่ก็เคยได้ยินทุกคนคุยกันถึงความเป็นมาว่าหวานมีแม่ชื่อ ‘น้ำตาล’ ที่มักจะถูกเจ้าของทุบตีไม่เว้นวัน ทุกคนในบ้านต่างสงสารจับใจแต่ก็ทำอะไรมากไม่ได้นอกจากแอบหย่อนข้าวให้กินถ้าฝ่ายนั้นเผลอ กระทั่งวันที่น้ำตาลตั้งท้องจึงได้รับอนุญาตให้ออกจากกรงขังมาหาเลี้ยงปากท้องเอาเองตามแต่ชะตากรรม
พ่อกับแม่มักจะให้ข้าวให้น้ำเสมอไม่เคยขาด จนถึงวันที่เจ้าของเดิมมาพาตัวน้ำตาลหายออกจากชีวิตของทุกคน โดยทิ้งแค่น้ำหวานที่ยังเหลือรอดไว้ต่างหน้า
น้ำหวานไม่ได้เข้ามาอยู่ในบ้านแม้ว่าแม่จะพยายามเปิดประตูรั้วต้อนรับหลายครั้ง เธอหลงใหลในอิสระมากไปแต่นั่นก็ยังเป็นเธอที่ผมรักอยู่ดี
เราจึงโตมาด้วยกันแบบที่ผมอยู่ด้านในเฝ้ามองเธออยู่นอกรั้ว ผมจะไม่ยอมกินข้าวเลยถ้ายังไม่เห็นกับตาว่าเธอได้กินแล้ว พ่อต้องให้เธอก่อนเท่านั้นถ้าไม่อยากถูกแม่บ่น
ช่วงที่ผมยังเด็กกว่านี้ ตัวเล็กกว่านี้ พ่อมักจะชวนออกไปเดินทุกเช้าหรือตอนเย็นหลังเลิกงาน ผมจะได้วิ่งเล่นสนุกสนานกับเธอเสมอ
มีความสุขมาก
จนวันที่เธอเจอกับ ‘ยูโร’ เจ้าถิ่นบนถนนสายนี้ที่มีลำตัวสีขาวสะอาด ชอบเดินนวยนาดผ่านหน้าบ้านเสมอ มันพิชิตศึกใหญ่และได้รับชัยชนะทุกครั้ง ไม่ว่าจะตัวต่อตัวหรือกระทั่งสามต่อหนึ่งมันก็ไม่หวั่น จนกลายเป็นที่โจษจันไปทั่วทั้งซอย
แน่ล่ะว่าเธอไม่ได้เต็มใจ
ผมเจ็บใจแต่ทำอะไรไม่ได้เลย แม่เองก็เริ่มกังวลเพราะยังไม่ถึงกำหนดพาผมกับน้ำหวานไป ‘หาหมอ’ จึงกลัวว่าเธอจะตั้งท้องซึ่งมันก็เกิดขึ้นจริงในอีกไม่นาน
น้ำหวานกลายเป็นคุณแม่ลูกเก้าแม้จะเหลือรอดมาได้แค่สาม แม่เต็มใจรับน้องน้อยเข้าบ้านทันทีโดยไม่ลังเล ผมเลยกลายเป็นพี่ชายนับตั้งแต่นั้น น้อง ๆ มีผิวสีเดียวกับน้ำหวานคือสีส้ม
มีความสุขมาก
พอเวลาผ่านแม่ก็พาผมกับน้ำหวานไป ‘หาหมอ’ เพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่าย
น้องหนึ่งมีชื่อว่า ‘ไลอ้อน’ เธอได้เชื้อปู่มาเยอะกว่าใคร ‘อเมริกันบูลลี่’ ตัวเล็กกว่าน้องทั้งสอง ขาสั้นแต่ล่ำจนแม่ตั้งชื่อเล่นให้ว่า “ล่ำบึก” นิสัยของไลอ้อนคือชอบแหย่ให้พวกเราโมโหแล้วหันไปรุมงับก่อนจะวิ่งกลับเข้าบ้านไปฟ้องพ่อ แน่นอนว่าพวกเราที่เหลือก็โดนดุไปตามระเบียบ กระทั่งผมหาหนทางจัดการกับเธอได้นั่นคือต้องทำทุกอย่างให้ไวและเงียบเชียบ ไลอ้อนจะมีความสุขมากถ้าได้นอนขาชี้ฟ้าซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน
น้องสองมีชื่อว่า ‘สโนว์ไวท์’ ชื่อนี้พี่ชายเป็นคนตั้งให้เพราะตอนเกิดมีสีขาวแต้มช่วงอกกว่าใครเพื่อน แถมยังสวยกว่าด้วย แม้จะมีโลกส่วนตัวสูงจนเรียกขานกันว่า ‘คุณนาย’ ก็ตาม เธอมีนิสัยกล้าหาญ มักจะปรี่เข้าไปตามล่าสัตว์ร้ายที่ย่างกรายเข้าบ้านคนเดียวบ่อย ๆ ผมคิดว่าเธอกล้ากว่าผมมากในเรื่องนี้
‘ชีร์ต้า’ น้องสาวสุดท้ายผู้ชอบเลียนแบบทุกการกระทำของผมราวฝาแฝด เธอสูงใหญ่ คิดว่าอีกหน่อยก็สูงกว่าผมแล้วล่ะ ความสามารถพิเศษคือชอบเก็บจานข้าวเอาไปแลกอาหารอีกรอบ บางครั้งก็เข้าสวนเก็บสมุนไพรไปฝากพ่อกับแม่ด้วย
“แม่…ชีร์ต้าคาบชามมาแลกข้าวแล้ว”
ประมาณนี้
ทุกวันของผมช่างสุขสันต์
“ลีโอเป็นพี่แล้วนะ ช่วยแม่ดูแลน้องด้วยนะลูก”
ครับแม่!
แต่วันนี้บ้านแสนสุขของผมกำลังจะเปลี่ยนไปเพราะเจ้าพวกนั้นด้านนอกเพิ่งล่วงล้ำมากางอาณาเขตถึงประตูรั้ว วินาทีที่พวกมันยกขา สายตาจับจ้องใบหน้าด้วยความเย้ยหยัน ผมก็รู้ได้เดี๋ยวนั้นเลยว่าพวกมันสมควรโดน
ผมไม่ปล่อยไว้แน่
นับตั้งแต่วันนั้นผมก็กดเก็บความต้องการแรงกล้าเอาไว้ คอยจับจ้องมองเวลาพวกมันวิ่งผ่าน ผมทั้งตะโกนด่าและท้าทายแต่มันก็ยังลอยหน้าลอยตาอยู่ได้ไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด
แต่แล้ววันที่รอคอยก็มาถึงเมื่อพี่ชายกำลังจะออกนอกบ้านและพี่สาวชะล่าใจปิดประตูไม่ทันฝีเท้าว่องไวของผม ทันทีที่ลอดผ่านรั้วสู่อิสรภาพ แม้เสียงตะโกนเรียกดังตามหลังมาแต่แน่ล่ะว่าผมไม่สนใจ คุณคงรู้นะว่าจุดหมายปลายทางของการจ้ำไม่คิดนี้จะไปจบที่ใด
ใช่ครับ! หน้าบ้านหลังสุดท้าย...ท้ายซอยนั่นเอง
อ้อ! ลืมบอกว่าบ้านผมอยู่หลังที่สองนะ คุณก็นับเพิ่มอีกสามหลังแล้วกันถ้าอยากรู้ว่าศัตรูผมอยู่หลังที่เท่าไหร่ ซอยของเรามีบ้านไม่เยอะแต่อาณาบริเวณบ้านก็กว้างตั้งห่างกันเหลือเกินกว่าจะวิ่งถึงก็แอบเหนื่อยแล้ว
น้ำหวานวิ่งตามส่งกำลังใจ เธอฉีกยิ้มให้ราวอยากเห็นผมได้ชัยมากกว่าพ่ายแพ้ แน่ล่ะว่าผมจะไม่ยอมให้เธอผิดหวังแน่
ยูโรอยู่ตรงนั้น มันกำลังยืนรอด้วยความจองหองคงเพราะรู้ว่าเจ้าของจะต้องคว้าไม้มาช่วยสู้ถ้าเห็นว่าฝ่ายตัวเองเพลี่ยงพล้ำ แต่นั่นไม่ได้ทำให้ผมหวาดกลัว ผมยังคงวิ่งเข้าใส่จนสามารกระโจนถึงตัวได้ในที่สุด
มันยกมือปัดป้องและหมายจะทำร้ายแต่ผมว่องไวกว่ารีบเบี่ยงตัวหลบไปด้านข้าง ก่อนจะอ้าปากอยากส่งผ่านทุกความเคืองแค้นลงบนเรือนร่างสีขาวสะท้อนแดดที่แม้ไม่เคยอาบน้ำแต่ก็ยังเงาวับจนน่าอิจฉา
ผมทำสำเร็จถ้าไม่นับอีกสองครั้งที่ล้มเหลวจนได้แผล แน่นอนว่าเจ้าของยูโรรีบวิ่งโร่เข้าใส่พร้อมไม้ท่อนเบ้อเร่อในมือ คงนึกหวั่นใจว่าลูกชายของตนจะปราชัย ต้องนอนเน่าใต้ฝ่าเท้าผมเป็นแน่
เขาพยายามช่วยสู้ แล้วผมจะเอาเรี่ยวแรงที่ไหนไปต่อต้าน ลำพังแค่แรงโถมมหาศาลของศัตรูก็เต็มกลืน แต่เสียงสวรรค์จากทิศทางที่ผมเพิ่งวิ่งผ่านก็ดังลั่นซอย ปลุกไฟในหัวใจขึ้นมาอีกครั้ง
“ลีโอ!!!”
ผมเหลือบมองเห็นพี่สาวถือไม้วิ่งเข้าสู่สนามรบด้วยความห่วงใย ผมต้องฮึดสู้เพราะรู้ว่าถ้าพ่ายผู้เป็นที่รักจะได้รับอันตรายไปด้วย ยูโรคงฝังคมแค้นลงบนต้นแขนหรือท่อนขาของพี่สาวเป็นแน่
ยอมไม่ได้เด็ดขาด
เราสู้กันอีกครั้งอย่างสูสีแม้อายุของยูโรจะแก่กว่าจนเรี่ยวแรงเริ่มหดหาย มันไม่ได้แคล่วคล่องว่องไวเหมือนก่อนแล้ว แต่คงต้องยอมรับเลยว่าประสบการณ์ช่วยได้เยอะเพราะมันยังเก่งเอาเรื่อง ในขณะที่…นี่คือศึกแรกของผม ชั้นเชิงก็ยังไม่มาก ฟันก็ไม่ค่อยคมเพราะผมชอบกัดแทะสิ่งที่ไม่ควรอยู่เรื่อย
“แม่! ลีโอเคี้ยวก้อนหิน”
“แม่! ลีโอกัดเหล็กอีกแล้ว”
ประมาณนั้น
ผมอาศัยแค่เพียงแรงใจเข้าว่า นั่นเพราะผมเป็นพี่ใหญ่จึงจำต้องปกป้องคนในบ้านและเหล่าน้อง ๆ เอาไว้จากคมเขี้ยวที่หมายขย้ำหรือสายตาแทะโลมเหล่านั้น แม้พ่อกับแม่จะพาน้อง ๆ ไป ‘หาหมอ’ ครบกันแล้วก็ตาม
ผมจำต้องสู้ครับ และแน่นอนว่า
ผมชนะ!!!
จบ.
คุณรู้มั้ยว่าผมมียี่สิบนิ้วด้วยนะ
แถมที่ก้นของผมมันยังขดกันเป็นวงทั้งสองข้างเลยด้วย
ขอได้รับคำขอบคุณจากผม...ลีโอตูดบอยนะครับ