ในโลกที่ดนตรีขับกล่อมและความหวานเติมเต็ม พวกเขาได้ร่วมกันเขียนบทเพลงที่เปลี่ยนชีวิตทั้งสอง

Sugar Chords บทเพลงเคลือบน้ำตาล - Chapter 1 : Lemon cake โดย Lady.Iris @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-ชาย,วัยว้าวุ่น,ตะวันตก,รั้วโรงเรียน,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Sugar Chords บทเพลงเคลือบน้ำตาล

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-ชาย,วัยว้าวุ่น,ตะวันตก,รั้วโรงเรียน

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พล็อตสร้างกระแส

รายละเอียด

Sugar Chords บทเพลงเคลือบน้ำตาล โดย Lady.Iris @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ในโลกที่ดนตรีขับกล่อมและความหวานเติมเต็ม พวกเขาได้ร่วมกันเขียนบทเพลงที่เปลี่ยนชีวิตทั้งสอง

ผู้แต่ง

Lady.Iris

เรื่องย่อ

สารบัญ

Sugar Chords บทเพลงเคลือบน้ำตาล-บทนำ :,Sugar Chords บทเพลงเคลือบน้ำตาล-Chapter 1 : Lemon cake,Sugar Chords บทเพลงเคลือบน้ำตาล-Chapter 2 : His name,Sugar Chords บทเพลงเคลือบน้ำตาล-Chapter 3 : Just a talent

เนื้อหา

Chapter 1 : Lemon cake

Chapter 1 : Lemon cake

แสงอาทิตย์สีทองเริ่มอ่อนตัวลงขณะลอดผ่านกระจกรถบัสมากระทบเส้นผมสีดำสนิทของเด็กหนุ่มที่ยืนรอให้ประตูรถเปิดออก รองเท้าผ้าใบข้อสูงเหยียบลงบนฟุตบาทอย่างมั่นคง แล้วจึงก้าวยาวๆ ไปตามทาง กระเป๋าเป้ที่เต็มไปด้วยหนังสือและอุปกรณ์การเรียนส่งเสียงดังกุกกักทุกครั้งที่เด็กหนุ่มเร่งจังหวะฝีเท้า

“ฟู่ว…” ร่างสูงโปร่งหยุดลงที่หน้าร้านขายเครื่องดนตรีเพียงร้านเดียวในย่านนี้ แม้มันจะไม่ได้ใหญ่เว่อร์วังอะไรแต่รับรองได้เลยว่าเรามีทุกอย่างที่คุณลูกค้าต้องการแน่

“สวัสดีค้าบบบบ” เด็กหนุ่มลากเสียงยาวอย่างเป็นกันเอง

“วันนี้ลิกเรียนช้าเหรอเซน”

“แค่คุยอะไรกับคนในชมรมนานนิดหน่อย” เจ้าของชื่อว่าพลางเก็บกระเป๋าเป้ไว้ในล็อกเกอร์ด้านหลังเคาน์เตอร์อันเป็นที่ประจำของตน

“มีลูกค้าเอากีตาร์มาเปลี่ยนสายอีกแล้ว ฝากจัดการหน่อยนะ วันนี้น้าต้องนับของ” พูดพร้อมชี้ไปยังกีตาร์โปร่งตัวหนึ่งที่พิงอยู่บนโต๊ะ มันมีสายที่ขาดไปหนึ่งเส้น และสายที่เหลือดูเหมือนจะเริ่มเปื่อยแล้วด้วย

เซนเดินไปหยิบกีตาร์ขึ้นมา พลิกดูอย่างตั้งใจ ก่อนจะส่งเสียงพึมพำคนเดียว เด็กหนุ่มหยิบกล่องสายกีตาร์ใหม่จากชั้นวาง เปิดมันออก และเริ่มทำงาน

นิ้วของเขาเคลื่อนไหวคล่องแคล่ว เขาใช้คีมเล็ก ๆ ตัดสายเก่าออกทีละเส้น ก่อนจะดึงสายใหม่ออกจากกล่อง เสียงเหล็กบาง ๆ กระทบกันเบา ๆ ระหว่างที่เขาสอดสายใหม่เข้าไปในหมุดกีตาร์ 

และเมื่อเปลี่ยนครบทุกเส้น เด็กหนุ่มจึงเริ่มตั้งสายทีละตัว ใช้เครื่องตั้งสายเล็ก ๆ ที่หนีบตรงหัวกีตาร์ เสียง ปิง…ปิง… ดังขึ้นในจังหวะที่เขาหมุนลูกบิด 

“เพอร์เฟกต์” เด็กหนุ่มระบายยิ้มอย่างมีความสุขก่อนจะเก็บกีตาร์ของลูกค้าลงกระเป๋าอย่างถนุถนอม

“เซน มิดเดลตัน!!”

“อะไร!? จะตะโกนทำไมเนี่ย!” คนถูกเรียกหันไปมองตาขวางใส่เด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันที่เพิ่งเดินลงมาจากชั้นสอง เส้นผมสีน้ำตาลเข้มและยักศกเล็กน้อยทำให้เจ้าตัวดูเป็นมิตรและเข้าถึงง่าย  แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้ดูเหมือนเป็นเด็กน้อยไปด้วย

“พูดมาสักทีสิลุค ฉันไม่ได้มีเวลาว่างทั้งวันนะ”

“พรุ่งนี้วันเกิดป้าไง นายสั่งเค้กเอาไว้หรือยัง”

“นายว่างทั้งวันทำไมไม่ไปสั่งล่ะ ร้านอยู่แค่นี้เอง” เด็กหนุ่มชี้นิ้วไปทางประตูซึ่งเป็นกระจกใสทั้งหมดเผยให้เห็นร้านขนมหวานสีชมพูสุดน่ารักที่อยู่ตรงข้ามโดยมีเพียงถนนลากยาวเป็นเส้นแบ่ง

“ฉันจะไปรู้ได้ไงว่าแม่นายชอบกินอะไร”

“ก็จริง” เด็กหนุ่มไหวไหล่เล็กน้อยก่อนจะหยิบเสื้อคลุมมาสวมเพื่อเตรียมตัวออกไปด้านนอก เซนเปิดประตูไม้บานเล็กของร้านขนมหวาน เสียงกระดิ่งเล็ก ๆ ดังขึ้นเบา ๆ ประหนึ่งเป็นเสียงต้อนรับ เขายืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ปล่อยให้กลิ่นหอมของเนย และน้ำตาลลอยเข้ามาเตะจมูก 

ใบหน้าของเขาแสดงความลังเลก่อนจะหันไปมองรอบ ๆ โต๊ะไม้เล็ก ๆ ที่ตั้งเรียงกัน มีเพียงลูกค้าประปรายที่นั่งจิบกาแฟหรือพูดคุยกันเบา ๆ เซนกระชับเสื้อคลุมให้แน่นขึ้นและก้าวเท้าไปยังเคาน์เตอร์ที่เต็มไปด้วยเค้ก คุ้กกี้ และขนมอบอีกหลากหลายชนิดที่ดูเหมือนจะละลายในปากได้ทันทีที่กัดลงไป

“ยินดีต้อนรับครับ ทานที่นี่หรือว่ารับกลับดีครับ” เสียงทุ้มแต่สดใสของพนังงานหนุ่มเอ่ยขึ้นพร้อมกับความเป็นมิตรที่ชัดเจนในน้ำเสียง ผมสีทองของเขาถูกเซ็ตให้ดูเป็นธรรมชาติ ลอนอ่อน ๆ ทิ้งตัวลงมาเล็กน้อยรับกับใบหน้าคมแต่แฝงความอ่อนโยน ดวงตาสีทองอำพันเปล่งประกายสดใส เหมือนมีแสงแดดอ่อน ๆ สะท้อนอยู่ข้างในแม้ว่าเราจะยืนอยู่กันในที่ร่ม

“อยากได้เค้กวันเกิดน่ะครับ คือว่าน่าจะมาเอาพรุ่งนี้”

“คุณลูกค้าสนใจเป็นรสชาติไหนแล้วขนาดเท่าไหร่ดีครับ”

“เอ่อคือว่า…” เซนมองสลับไปมาระหว่างชั้นวางเค้กและพนังงานขาย จะว่าไปแล้วนี่ก็เป็นครั้งแรกด้วยที่เขาได้มาซื้ออะไรแบบนี้ ไม่แน่ใจว่าที่สมองประมวลผลช้าเป็นเพราะไม่ได้เตรียมบทพูดมาหรือเพราะพ่อหนุ่มยิ้มหวานตรงนี้กันแน่

“ทานประมาณสี่คนน่ะครับ”

“งั้นผมจะแนะนำเป็น 1 ปอนด์นะครับ ไม่ทราบว่าคุณลูกค้าได้เลือกรสชาติเอาไว้มั้ยครับ” 

“เอาเป็นเลม่อนครับ”

“ได้ครับ งั้นเดี๋ยวรบกวนคุณลูกค้ากรอกชื่อ เบอร์โทร และข้อความที่อยากให้เขียนลงไปได้เลยนะครับ” เซนพยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะหยิบปากกาขึ้นมาจากเคาน์เตอร์ แต่สีหน้าของเขากลับดูเหมือนกำลังครุ่นคิดบางอย่าง 

‘เลม่อนเหรอ ปกติก็ไม่ได้กินนี่ ทำไมถึงพูดออกไปแบบนั้นกัน’

เซนหันมามองพนักงานหนุ่ม สบตากับดวงตาสีทองคู่นั้นที่ดูเหมือนจะพูดว่า ‘ไม่ผิดหวังแน่ครับ‘ เขาเผลอถอนหายใจออกมาเบา ๆ แล้วก้มหน้ากรอกข้อมูลในกระดาษต่อ

แต่แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นป้ายโปรโมชั่นคัพเค้กตัวใหม่ที่ตั้งอยู่ข้างเคาน์เตอร์ รูปคัพเค้กสีพาสเทลประดับด้วยครีมและผลไม้สดทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะสนใจ

“คัพเค้กนี่มาใหม่เหรอ?” เซนเอ่ยถามพลางชี้ไปที่ป้าย พนักงานหนุ่มยิ้มรับก่อนตอบด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น

“ใช่ครับ เพิ่งออกใหม่เมื่อวาน เป็นรสเบอร์รี่มิกซ์สนใจรับไปด้วยมั้ยครับ อร่อยมากเลยนะ”

“งั้นเอาชิ้นหนึ่งละกัน” พนักงานหนุ่มหยิบถุงกระดาษขึ้นมาแล้วใส่คัพเค้กลงไปอย่างรวดเร็ว ก่อนยื่นให้เซนพร้อมรอยยิ้ม

“เดี๋ยวนะ ผมบอกว่าชิ้นเดียวนี่ครับ ทำไมในนี้มีสอง คือผมไม่ชอบทานหวานน่ะ” พนักงานหนุ่มหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงร่าเริง 

“อีกชิ้นแถมครับ ไม่ต้องห่วง รสนี้ไม่หวานอย่างที่คิดแน่นอน ถือเป็นของขวัญจากทางร้าน” เด็กหนุ่มมองคัพเค้กในถุงอย่างลังเล ความรู้สึกที่เขาไม่คุ้นเคยทำให้หัวใจเหมือนโดนกดดันแปลก ๆ เซนเม้มปากเล็กน้อย ก่อนจะรับถุงมา

“ขอบคุณ…” เขาพึมพำ พลางถอนหายใจ วันนี้ไม่เป็นตัวของตัวเองเลยจริง ๆ ความรำคาญเล็ก ๆ ผุดขึ้นในใจ แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรต่อและเลือกที่จะเดินออกจากร้านไปพร้อมถุงขนมในมือ

“อะไรอะ?” ลุคตั้งคำถามทันทีที่เห็นถุงกระดาษติดมือลูกพี่ลูกน้องของตัวเองมาด้วย

“คัพเค้กน่ะ ที่ร้านเขาแถมมา” ได้ยินแบบนั้นก็ยื่นมือมาสุดความยาวแขนเพื่อขอส่วนแบ่ง

“เอาไปเลยฉันจะกลับบ้านแล้ว”

“โอเค ไปดีมาดีล่ะ” 

แสงสุดท้ายของวันทอดยาวปกคลุมไปทั่วเมือง ลมเย็นอ่อน ๆ พัดผ่าน ทำให้ใบไม้ริมถนนไหวเอนอย่างเงียบงัน เซนก้าวเดินไปบนฟุตบาทด้วยจังหวะที่เชื่องช้า ต่างจากตอนขามาที่เขาเร่งรีบเสียจนแทบไม่สนใจสิ่งรอบข้าง มือสองข้างซุกอยู่ในกระเป๋าเสื้อคลุม เขาเงยหน้ามองท้องฟ้าที่ค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นสีม่วงเข้มปะปนกับแสงดาวที่เริ่มปรากฏ

“กลับมาแล้วครับ” น้ำเสียงและฝีเท้าของเด็กหนุ่มช่างแผ่วเบาเหมือนกลัวว่าการมาถึงของตัวเองจะไปทำให้เจ้าของบ้านที่กำลังนอนหลับอยู่ตื่นขึ้น เซนรีบตรงขึ้นชั้นสองเพื่อไปยังห้องนอนแล้วจัดการทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย

ร่างสมส่วนของเด็กหนุ่มวัยมัธยมปลายนอนแผ่หลาบนเตียงที่ดูราวกับเป็นสนามรบของความคิดสร้างสรรค์ รอบตัวเขาเต็มไปด้วยข้าวของเครื่องใช้ที่กระจัดกระจายอย่างไร้ระเบียบ หูฟังที่สายพันกันยุ่ง สมุดโน้ตที่เปิดค้างอยู่ บิ๊กกีตาร์ขนาดพอดีมือ และแน่นอน กีตาร์โปร่งตัวเก่งที่วางพิงอยู่กับหัวเตียง

เสียงพูดคุยที่เริ่มดังขึ้นจากอีกห้องทำให้เขาขมวดคิ้ว เด็กหนุ่มลุกขึ้นนั่งอย่างเชื่องช้า ดวงตาจับจ้องกีตาร์ตรงหน้าเหมือนกำลังตัดสินใจบางอย่าง

ในที่สุด เขาก็เอื้อมมือไปหยิบมันขึ้นมา วางไว้บนตักอย่างคุ้นเคย ปลายนิ้วไล้ไปตามสายอย่างแผ่วเบา ก่อนจะเริ่มดีดคอร์ดเรียบง่ายออกมา เสียงกีตาร์กังวานนุ่มลึกค่อย ๆ แทรกซึมเข้าไปในอากาศ กลบเสียงที่เขาไม่อยากได้ยิน

เขาไม่ได้พยายามเล่นเพลงอะไรเป็นพิเศษ แค่ปล่อยให้เสียงกีตาร์พาเขาหลุดพ้นจากความวุ่นวายรอบตัว แม้จะเป็นเพียงชั่วคราว แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้โลกของเขาสงบลง

และในห้องเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยข้าวของและความฝัน เสียงกีตาร์ยังคงก้องอยู่ ท่ามกลางเสียงอื่นที่ค่อย ๆ เลือนหายไป ราวกับมันเป็นเกราะบาง ๆ ที่เขาใช้ปกป้องตัวเองจากความจริง

.

.

To be continued

ห่างหายจากงานเขียนไปนานมมาก ขอแนะนะตัวเองหน่อยนะคะ

นามปากกา Lady.Iris ค่ะ ฝากติดตามผลงานด้วยนะคะ

ช่องทางติดต่อ X : itsLadyIris