รวมเรื่องสั้น สยองขวัญ หลอน หักมุม เหนือธรรมชาติ แปลก แหก แหวกแนว ที่จะทำให้คุณต้องร้องว่า "อิหยังวะ!?"

Shot Story : สั้น หัก สยอง - 3 ผู้มาเยือน โดย Chocolate Mlz @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

พารานอมอล,ผู้ใหญ่,ดาร์ค,เลือดสาด,เรื่องสั้น,อ่านเพลิน,แปลก,หลอน,หักมุม,พล็อตสร้างกระแส,ผี,สยองขวัญ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Shot Story : สั้น หัก สยอง

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

พารานอมอล,ผู้ใหญ่,ดาร์ค,เลือดสาด,เรื่องสั้น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

อ่านเพลิน,แปลก,หลอน,หักมุม,พล็อตสร้างกระแส,ผี,สยองขวัญ

รายละเอียด

Shot Story : สั้น หัก สยอง โดย Chocolate Mlz @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รวมเรื่องสั้น สยองขวัญ หลอน หักมุม เหนือธรรมชาติ แปลก แหก แหวกแนว ที่จะทำให้คุณต้องร้องว่า "อิหยังวะ!?"

ผู้แต่ง

Chocolate Mlz

เรื่องย่อ

สารบัญ

Shot Story : สั้น หัก สยอง-1 นอนไม่หลับ,Shot Story : สั้น หัก สยอง-2 ตัวแทน,Shot Story : สั้น หัก สยอง-3 ผู้มาเยือน,Shot Story : สั้น หัก สยอง-4 หนังรอบดึก,Shot Story : สั้น หัก สยอง-5 ตู้เย็น,Shot Story : สั้น หัก สยอง-6 เลขที่ออก,Shot Story : สั้น หัก สยอง-7 เสียงกระซิบ,Shot Story : สั้น หัก สยอง-8 เพื่อนบ้าน,Shot Story : สั้น หัก สยอง-9 วิ่งไล่จับ,Shot Story : สั้น หัก สยอง-10 "ผมอยากกลับบ้าน"

เนื้อหา

3 ผู้มาเยือน

~สวัสดีค่ะ เราชื่อ เนวา เป็นผีจ้า~




เราผูกคอตายในห้องนอนชั้นสอง ในบ้านเช่าหลังนี้ก็เพราะพ่อกับแม่เราบังคับเรื่องการเรียน มันก็ไม่ได้รู้สึกดีหรอกนะ แต่ตอนนั้นคิดไม่ได้ไง กว่าจะรู้ตัวก็มีสายเชือกพันคอ กระดูกข้อต่อกระดูกสันหลังหลุดออกจากเบ้าเรียบร้อยแล้ว




T-T




อันที่จริงนะ พ่อแม่เราอยากให้เราเป็นหมอ แต่เราไม่ชอบ เราอยากเรียนดาราศาสตร์ เราชอบมองท้องฟ้า ชอบกลางคืนที่มีดาว ชอบพระจันทร์ ชอบนิทานทางช้างเผือก เราฝันไว้ว่าอยากไปทำงานที่นาซ่า แต่พ่อเราบอกว่า อย่าเพ้อฝัน อย่าเพ้อเจ้อ...เราว่ามันไม่แฟร์กับตัวเราเลย เราไม่เข้าใจว่าทำไมคนเป็นพ่อเป็นแม่ต้องยัดเยียดความฝันของตัวเองให้กับลูกด้วย ถ้าตัวเองอยากเป็นหมอซะขนาดนั้น ก็ไปสมัครเรียนเองซะเลยสิ จะได้สมแก่ใจตัวเองสักที...




<~<




ขออภัยค่ะ ที่บ่นเยอะไปหน่อยค่ะ แหะๆ พอดีอยู่ตนเดียวมานาน ไม่มีใครคุยด้วย...




...




เราอยู่บ้านเช่านี้ตั้งกะปีพ.ศ. 2540 ตอนนั้นเราอยู่มัธยมหก กำลังจะไปสอบเอ็นทรานซ์ ส่วนตอนนี้ผ่านมากี่ปี เป็นปีอะไรแล้วก็ไม่รู้ เราไม่เคยนับเลย...เรารู้แค่ว่า เราต้องฆ่าตัวตายแบบนี้ไปเรื่อยๆ ทุกคืน ทุกคืน จนกว่าจะถึงอายุขัยที่เราจะไปสู่ภพภูมิอื่นได้ ถึงจะหลุดพ้นไปจากตรงนี้ ตามความเชื่อในศาสนาเรา มันเป็นบ่วงกรรมที่เราต้องทำซ้ำๆ เดิมๆ ไม่มีที่สิ้นสุด เราบอกตรงๆ เราเบื่อ เบื่อมากที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้...เนี่ยคอยดูนะ พอสองทุ่ม เราก็ต้องมายืนอยู่บนเก้าอี้ตัวเดิม เอาเชือกคล้องคอเหมือนเดิม ทุกวี่ทุกวัน มันทรมานหัวใจรู้ไหม คิดดูนะ ถ้าเป็นเธอ เธอจะไม่รู้สึกเบื่อเลยหรือไง จริงไหมล่ะ?




>3<




แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเรื่องตื่นเต้นเลยตั้งแต่เรากลายเป็นผี นานทีปีหนก็จะมีพวกใจกล้า เข้ามาล่าท้าผี เข้ามาลองดี หาความตื่นเต้นให้กับชีวิตตัวเอง...เราชอบนะ แก้เบื่อดี บางทีก็จะมีพวกไก่อ่อนเข้ามาลอง คนพวกนี้ชอบก็ทำเป็นปากกล้า แต่ขานั้นสั่นพั่บๆ อารมณ์แบบศักดิ์ศรีมันค้ำคออะไรแบบนี้ เราเห็นแล้วก็อดขำไม่ไหว บาครั้งเลยแกล้งหยอกเบาๆ ไป เช่น ขยับของหล่น ปิดหน้าต่าง บางทีก็ไปจับขา พวกนั้นนะพากันวิ่งหางจุกตูด หนีออกจากบ้านแบบไม่คิดชีวิต คิคิ แค่นี้ก็สนุกเป็นบ้าแล้ว




แต่ถึงอย่างนั้นก็มีเรื่องไม่ค่อยจอยสักเท่าไรอยู่เรื่องหนึ่ง คือ มักจะมีคนแปลกๆ แวะเวียนเข้ามาเช่าบ้านหลังนี้อยู่เรื่อยๆ บางที่ก็เจอคนดี้ดี ดูแลบ้านสะอาดสะอ้าน จัดของเป็นระเบียบเป้ะๆ ถ้าหากว่าพลิกบ้านล้างคราบสกปรกออกได้คงทำไปแล้ว กับคนอีกจำพวกคือ ปล่อยบ้านสกปรกรกรุงรัง หยากใย่เงี้ยเต็มหลังคา ชอบเอาอะไรแปลกๆเข้าบ้าน แถมบางคนยังชอบกินเหล้าเมามาย ส่งเสียงดังน่ารำคาญ คนพวกนี้นะ ต้องหลอกให้เข็ด ให้พวกมันเลิกกินเหล้าไปเลยได้ยิ่งดี




@_@




วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เหมือนเดิม เราเฝ้ามองท้องฟ้าจากหน้าต่างห้องชั้นสองอีกเหมือนเคย สิ่งเดียวที่คอยเยียวยาความเหงา ในวันที่ตัวคนเดียว ก็คือความสวยงามของทะเลดวงดาวยามค่ำคืน เรามองมันได้ไม่เบื่อเลย เราคิดว่าหากวันไหนเราหลุดพ้นไปจากตรงนี้ได้นะ เราอยากขึ้นไปบนท้องฟ้าดูสักครั้ง อยากรู้ว่าบนนั้นมันมีอะไรอยู่บ้าง จะมีทุ่งสะเก็ดดาวเหมือนในนิทาน หรือถนนดาวตก เราก็ได้แต่เฝ้าฝันถึงมันอยู่ร่ำไป...




"ตึง ตึ่งๆๆ" จู่ๆก็มีเสียงดังขึ้น จากหน้าบ้าน




'เสียงอะไรน่ะ?' เรารีบไปชะเง้อดูตรงหน้าต่างแต่ก็ไม่ทัน เห็นแต่เงาไหวๆ ไวไวตรงรั้วหน้าบ้าน อาจจะเป็นขโมยหรือพวกท้าผีก็ได้ แต่ก็ช่างเถอะ มันไปแล้ว




!!!




วันต่อมา มีคนเข้ามาดูบ้านในตอนใกล้ค่ำ ตอนที่ท้องฟ้าถูกย้อมเป็นสีชมพู ไม่มีป้าเจ้าของบ้านเข้ามาด้วยอย่างที่เคยมา คนพวกนั้นมากันประมาณห้าคน มีคนหนึ่งเป็นเด็กด้วย อายุน่าจะเท่ากับเด็กประถมห้า หรือประถมหก เราสัมผัสถึงพลังงานบางอย่างที่ไม่ปกติได้จากคนกลุ่มนั้น มันรู้สึกตึงๆ แปลกๆ ราวกับมีกระแสไฟฟ้าวิ่งวนในตัว เธอเคยสัมผัสกับความรู้สึกนี้เมื่อก่อน แต่เหมือนจะนานแล้ว เนวาไม่ชอบแบบนี้เลย มันเหมือนคนพวกนั้นกำลังบุกเข้ามาคุกคามเรา แล้วเราจะทำยังไงดี




"คนพวกนั้นเป็นใครกัน? แล้วมาทำอะไรกันตอนนี้?" เราสงสัย




ในขณะที่เราแอบมองพวกนั้นจากในห้องชั้นสองอยู่นั้น จู่ๆ ไอ้เด็กคนที่เราพูดถึงมันก็หันมามองเราเว้ย ทีแรกเราก็คิดว่าคงบังเอิญหันมาทางเดียวกับที่เราอยู่ แต่ไม่ใช่ เด็กคนนั้นมันชี้นิ้วมาทางเรา แล้วคุยมุ้บมิ้บกับพ่อแม่ของมันราวกับจะบอกให้รู้ว่า มันเห็นเราอยู่บนนี้...ตั้งแต่เป็นผี เราก็เพิ่งเคยรู้สึกตกใจแบบนี้เป็นครั้งแรก คนพวกนั้นมันจะทำอะไร ป้าเจ้าของบ้านจ้างพวกนี้มาจัดการปราบเราเพราะเราเฮี้ยนแน่ๆ เลย แล้วเราจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย?!




"ตึ่ง! ปัง!" คนตัวสูงพังประตูเข้ามาในบ้านได้แล้ว เราสังเกตเห็นว่า คนพวกนั้นมีสีหน้าเรียบเฉยกันทุกคนราวกับไม่สะทกสะท้านต่อสิ่งใดในโลกอีกแล้ว พวกนั้นแยกย้ายกันไปสำรวจรอบๆ บ้าน มีสองคนชายหญิงเดินไปทางหลังบ้าน ส่วนชายตัวสูงกับเด็กเดินขึ้นมาที่ชั้นสองที่เราอยู่ เราแอบเห็นอีกคนยืนเฝ้าอยู่ตรงลานดินหน้าบ้าน สรุปแล้วพวกมันต้องอะไร จะมาทำพิธีขับไล่เราใช่ไหม? แล้วเราจะยอมแต่โดยดีหรือจะจะหาวิธีสู้ เอายังไง เนวา คิดสิ คิด!




ci _ i "




...ถ้าเราหนี เราจะหนีไปไหน บ้านก็มีแค่นี้ เราเป็นวิญญาณติดที่นะ จะหนีไปข้างนอกก็ไม่ได้ จะหายตัวไปโผล่ข้างบ้านก็ไม่ได้ เพราะเรามีสัญญาที่ผูกติดกับที่นี่ เลยหนีไปไม่ได้ แต่ถ้าเราสู้ล่ะ จะไปสู้ยังไง? คนพวกนั้นต้องมีวิชาอาคมเข้มขลังแน่ๆเลย ต้องมีสารพัดของวิเศษที่อยู่ในย่าม เนวาเคยอ่านเจอในนิยายสยองขวัญ อาจต้องเจอข้าวสารเสกเจ็ดวัด น้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์จากเจ็ดสำนัก หรืออุปกรณ์อะไร ที่เอาไว้ปราบผีเฮี้ยนโดยเฉพาะ โถ่...แล้วผีสาวตัวน้อยๆอย่างเรา จะเอาอิทธิฤทธิ์แบบไหนไปสู้กับหมอผีแบบนั้นไหวกันเล่า แค่คิดก็ไม่มีทางจะชนะได้เลย




@_@




"ตึง แคร่กๆ" ว้าย! มาถึงหน้าห้องแล้ว~ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยผีด้วยเจ้าค่า~




"แกร่ก!"




ประตูเปิดแล้ว 'ทำไงดี~ ทำไงดี~ ทำไงดี~ซ่อนตัว ซ่อนตัว ต้องซ่อนตัว' ฉลาดมากอีผีน้อย แอบใต้โต๊ะ หรือแอบใต้เตียงดี โอ๊ยๆ เลือกสักที่เถอะ ใต้เตียงก็แล้วกัน จะไม่ทันแล้ว ฮึ้บ!




...




"แอด...ดดด" ประตูห้องนอนถูกเปิดในรอบหลายสิบปี ละอองฝุ่นฟุ้งขึ้นกระจายไปทั่วทั้งห้อง เด็กผู้ชายตัวดีเดินอาดเข้ามาข้างในอย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใด เขาค่อยๆ หันมองสำรวจทั่วทั้งห้องที่รกและสกปรกอย่างใจเย็น ราวกับกำลังมองหาอะไรที่สำคัญมากอยู่ เนวาผีสาวได้แต่นอนคุดคู้ เอามือปิดปากปิดจมูกอยู่ใต้เตียง แล้วรอเวลาให้เด็กคนนั้นเดินจากไปอย่างเงียบๆ




'ไปยัง ไปยัง' เราก็ได้แต่ภาวนาเงียบๆ




เด็กน้อยหน้าตึงชักเท้าถอยกลับไปเงียบๆ ไปรวมกลุ่มกับคนที่เหลือ เนวามุดตัวออกมาจากใต้เตียง เธอค่อยๆ เลือนเอาตาออกไปจากขอบประตูห้องนอนเพื่อคอยสังเกตความเคลื่อนไหวข้างล่าง แต่เธอก็ต้องต๊กกะใจ เมื่อจู่ๆ เด็กผู้ชายคนนั้นก็มายืนอยู่ตรงหน้าเธอโดยไม่ให้ซุ่มให้เสียง




"ว๊ายยย!!" เธอตกใจจนเผลอร้องเสียงดัง รีบเอามือปิดปากอย่างไม่รู้ตัว




'ไอ้เด็กนี่มันเห็นเราไหม? เมื่อกี้เราร้อง มันจะได้ยินเสียงของเราไหม?' เธอกลัว ถ้าเธอมีหัวใจ ปานนี้คงจะเต้นดังโครมครามเพราะความตกใจนี้




เด็กผู้ชายเพียงยืนมองเธอด้วยดวงตากลมโตอย่างเงียบๆ ไม่พูด ไม่แสดงปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ ราวกับว่าเห็นเธอแต่ก็ไม่ได้สนใจเธอ เนวาปล่อยให้ช่วงเวลาอึดอัดนี้ผ่านไปโดยไม่ทำอะไร




"เฮ้! เจอแล้ว" มีเสียงเรียกดังมาจากข้างล่าง เด็กชายหันหลังควับเดินลงบันไดออกไปตามเสียงเรียกอย่างไว เนวาถอนหายใจ (ทั้งที่ก็ไม่มีลมหายใจ) โล่งอกที่ไม่เกิดอะไรขึ้นกับเธอ




'ฟู่ว รอดไปที' คนพวกนี้มันอะไรกันนะ ท่าทางแปลกๆ เห็นเรา? แต่ก็ไม่มีท่าที่ว่าจะตกใจ เนวาไม่เข้าใจ เนวาปวดหมอง งือๆๆ




c(+o+)




"แกร๊ง! แกร๊ง!"




เสียงนาฬิกาโบราณดังติดต่อกันแปดครั้ง ได้เวลาอัตวินิบาตที่ต้องชดใช้กรรมตามวาระของเธอแล้ว เนวาผีสาวหายวับมายืนบนเก้าอี้ตัวเดิมของเธอ อยู่ริมหน้าต่าง เฉกเช่นทุกวัน ทว่า วันนี้สายตาของเธอกลับได้เห็น สิ่งที่แตกต่างไปกว่าทุกวัน




"ห๊ะ!" เธออุทาน "ทำบ้าอะไรกันอีก?" เธอคิ้วขมวดในขณะสวมเชือกใส่คอของเธอ




กลุ่มคนที่บุกเข้ามาทั้งห้าคน ไปยืนจับมือเป็นวงกลมอยู่ตรงลานดินหน้าบ้าน คนตัวสูงเหมือนถืออะไรบางอย่างที่มีแสงเรืองออกมาเป็นสีแดงไว้ สักพักเจ้าสิ่งนั้นก็เริ่มทำงาน มันกางออกเป็นแป้นแบนๆ แล้วลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า ในขณะที่ลอย มันก็ขยายใหญ่ขึ้นไป ขึ้นไป จนบดบังท้องฟ้ามิด จากนั้น เจ้าวัตถุประหลาดก็สาดแสงสว่างสีขาวลงมา โอบรับร่างของบุคคลทั้งห้าแล้วดึงร่างทั้งหมดให้ลอยเข้าไปในแสงนั้น เนวาได้แต่มองดูยานลำนั้นด้วยความสุขใจ เพราะไม่คิดไม่ฝันว่า เธอจะได้มาเห็นอะไรแปลกประหลาดอย่างนี้มาก่อน




"ว้าว...ววว" เราอยากไปด้วยจัง "ให้เนวาไปด้วย...ตึ่ง!" เก้าอี้เก่าถูกถีบให้ล้มลง




"อ่อก...กกก อ่อก...กกก" เราได้แต่เหยียดมือไขว่คว้าภาพตรงหน้าอย่างเสียดาย สุดท้ายแล้ว เราก็ยังไปไหนไม่ได้...อยู่เหมือนเดิม




O.O Y