รวมเรื่องสั้น สยองขวัญ หลอน หักมุม เหนือธรรมชาติ แปลก แหก แหวกแนว ที่จะทำให้คุณต้องร้องว่า "อิหยังวะ!?"

Shot Story : สั้น หัก สยอง - 5 ตู้เย็น โดย Chocolate Mlz @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

พารานอมอล,ผู้ใหญ่,ดาร์ค,เลือดสาด,เรื่องสั้น,อ่านเพลิน,แปลก,หลอน,หักมุม,พล็อตสร้างกระแส,ผี,สยองขวัญ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Shot Story : สั้น หัก สยอง

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

พารานอมอล,ผู้ใหญ่,ดาร์ค,เลือดสาด,เรื่องสั้น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

อ่านเพลิน,แปลก,หลอน,หักมุม,พล็อตสร้างกระแส,ผี,สยองขวัญ

รายละเอียด

Shot Story : สั้น หัก สยอง โดย Chocolate Mlz @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รวมเรื่องสั้น สยองขวัญ หลอน หักมุม เหนือธรรมชาติ แปลก แหก แหวกแนว ที่จะทำให้คุณต้องร้องว่า "อิหยังวะ!?"

ผู้แต่ง

Chocolate Mlz

เรื่องย่อ

สารบัญ

Shot Story : สั้น หัก สยอง-1 นอนไม่หลับ,Shot Story : สั้น หัก สยอง-2 ตัวแทน,Shot Story : สั้น หัก สยอง-3 ผู้มาเยือน,Shot Story : สั้น หัก สยอง-4 หนังรอบดึก,Shot Story : สั้น หัก สยอง-5 ตู้เย็น,Shot Story : สั้น หัก สยอง-6 เลขที่ออก,Shot Story : สั้น หัก สยอง-7 เสียงกระซิบ,Shot Story : สั้น หัก สยอง-8 เพื่อนบ้าน,Shot Story : สั้น หัก สยอง-9 วิ่งไล่จับ,Shot Story : สั้น หัก สยอง-10 "ผมอยากกลับบ้าน"

เนื้อหา

5 ตู้เย็น

~ไม่ว่าบ้านใครก็คงมีตู้เย็นสักหลังในบ้าน ~




...




หนูได้ตู้เย็นมาใหม่จากการส่งคูปองไปชิงรางวัลในบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าแห่งหนึ่ง แม้มันจะไม่ใช่รางวัลใหญ่ที่สุดในแคมเปญ แต่หนูก็โคตรจะดีใจเลยที่เขาจับสลากได้ชื่อหนู




หนูเป็นนักศึกษาปีสอง ที่พ่อแม่ส่งมาเรียนจากต่างจังหวัด ไม่ได้มีเงินทองมากมายพอจะซื้อของสิ้นเปลืองแบบนี้ใช้หรอกนะ แค่เงินจะใช้จะจ่ายค่ากินค่าหอพักก็ยังไม่พอ หนูก็ยังต้องไปรับจ๊อบตามห้างหรือร้านอาหาร เพื่อหารายได้เสริมมาประทังให้รอดในแต่ละเดือนก็ยังเหนื่อยจนรากเลือด




การมีตู้เย็นใหม่จึงเป็นเหมือนของขวัญ เป็นเหมือนกำลังใจให้หนู เพราะหนูก็ยังไม่มีตู้เย็นใช้กับใครเขาเลย ตั้งแต่ย้ายมาอยู่หอพักนี้...นี่หนูก็ยังไม่ได้โทรไปบอกพ่อกับแม่เลย เอาไว้ว่างเมื่อไร ค่อยวิดีโอคอลไปโม้ให้ฟัง น่าจะตกใจกันไม่น้อย




"เสียบปลั๊ก...อ๋อ แบบนี้" หนูพยายามกางคู่มือการใช้งานที่แนบมาด้วยในกล่องอ่าน




"อืม...หมุนสวิชต์แบบนี้ ถ้าต้องการความเย็นมากให้ปรับไปเลขมาก ถ้าต้องการความเย็นน้อยให้ปรับไปเลขน้อย" ก็เข้าใจไม่ยากนี่ หมุนตรงนี้ใช่ไหม?




"แกร้กๆๆ" ปรับเป็นเบอร์ 1 ก็แล้วกัน เดี๋ยวจะเปลืองค่าไฟ ไม่มีตังค์จ่าย...คิคิ 




ตอนนั้นมือหนูมันก็ซนไปหน่อย ไปกดนั่นกดนี่แบบคนไม่เคยมี ก็เลยเผลอไปกดปุ่มมั่วซั่วโดยอัตโนมัติ




"แล้วนี่ปุ่มอะไร? ไม่เห็นมีบอกในคู่มือเลย!?" หนูกดปุ่มสีเขียวที่ซ่อนอยู่ใต้แป้นปุ่มปรับอุณหภูมิ พอมันดัง ปุ้ก! เครื่องมันก็สั่นอยู่ครั้งหนึ่ง แล้วก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น




"อย่าบอกนะว่าเสียแล้ว" หนูกดมันซ้ำๆ เผื่อว่าปุ่มที่มันค้างจะเด้งกลับมาคืน แต่มันก็ค้างจมอยู่อย่างนั้น




"กดแค่นี้คงไม่เสียหรอกมั้งนะ" หนูยักไหล่ "ช่างเถอะ เอาน้ำแช่ดีกว่า พรุ่งนี้จะได้มีน้ำเย็นๆ กิน" หนูคุยกับตัวเอง ปกติหนูก็คุยกับตัวเองแบบนี้แหล่ะ ไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นเหมือนกันไหมนะ...




หลังจาก ชื่นชมตู้เย็นใหม่จนเปรมใจแล้ว หนูก็ได้เวลาไปจัดการตัวเองเพื่อเตรียมตัวสำหรับวันใหม่ หนูอาบน้ำอาบท่า ทำการบ้าน พอดึกพอสมควรก็ขึ้นเตียง เป็นกิจวัตรประจำวัน มีบ้างที่เอาตุ๊กตาหมีขึ้นมาขย้ำหัว หากวันไหนที่รู้สึกเครียดๆ กับชีวิต เว้นแต่วันนี้...




"วันนี้โชคดี~ วันนี้โชคดี~ ขอให้ฉันโชคดีแบบนี้ไปเรื่อยๆ นะ เจ้าหมีมู่ทู่!" อย่าว่าหนูเลยนะ ที่หนูติ๊งต๊องแบบนี้ ชีวิตหนูปกติก็เครียดอยู่แล้ว ให้หนูได้ขย้ำหัวหมีคลายเครียดบ้างเถอะ เอิ้กๆ




ลัดดาล้มตัวนอน ก่อนนอนเธอคิดใคร่ครวญ "ถ้าพรุ่งนี้ไปเล่าให้ปุยฝ้ายกับน้ำใสฟัง พวกนั้นจะต้องกรี๊ดแตกแน่ๆ เลย อิอิ"




คืนนั้นหนูฝันดีมาก ฝันว่าตัวเองร่ำรวยเป็นเศรษฐีนี มีของกินเต็มโต๊ะ มีคนรับใช้ให้หนูคอยชี้นิ้วสั่ง หนูคิดว่า พรุ่งนี้ต้องตื่นมาเป็นวันที่ดีอีกวันหนึ่งแน่ๆ เลย เพราะหนูรู้สึกว่า ดวงหนูกำลังมา...






...




ZZzz...




"โอ๊ย...แล้วมันจะหายไปได้ยังไง!? ปลาแซลมอนตั้งกล้องใหญ่ มันจะหายไปได้ยังไง!?" เสียงผู้หญิงโวยวายเสียงดังอยู่นอกห้อง




ฝ่ายผู้ชายตอบรับอย่างร้อนรน "กูจะไปรู้เหรอวะ? ของๆ มึงอยู่ในตู้เย็นอ่ะ มึงแดกเองจนหมดหรือเปล่า มึงอย่ามาโทษกูนะ!" 




เสียงปึงปังข้างห้องมักทำให้หนูตื่นแบบนี้แหล่ะ หนูก็ไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมต้องมาทะเลาะกันทุกเช้าๆ แบบนี้ไม่เบื่อกันบ้างเหรอ อีกอย่างก็ชอบมาทะเลาะกันหน้าห้อง ในห้องก็มีทำไมไม่คุยกันดีๆ มันหนวกหู รบกวนความเป็นส่วนตัวของคนอื่น หนูล่ะไม่ชอบเลยจริงๆ




แต่ถึงจะไม่ชอบยังไงก็ต้องอดทน เพราะจ่ายค่ามัดจำไปแล้วตั้งหลายบาท ออกก่อนสัญญาก็ไม่ได้ ย้ายก่อนก็ไม่ได้ หนูจึงจำเป็นต้องทนอยู่ที่หอพักแห่งนี้จนกว่าจะหมดเทอม ถึงจะไปจากที่นี่ได้




หอพักก็คือหอพัก มันก็เหมือนๆ กันกับทุกที่แหล่ะ อาคารเก่าๆ มอๆ บางที่อาจทางสีใหม่กลบเกลื่อนสภาพเก่าผุไม่ให้คนเห็น มีห้องต่อๆ กัน ชั้นละ 10-12 ห้อง มีเจ้าของหอปากจัด มีเพื่อนบ้านประสาทแดก หนูไม่ค่อยสนใจหรอกนะว่าใครจะเข้า ใครจะออก ใครจะอยู่ห้องไหน ทำงานอะไร เพราะว่าวันๆ ธุระของหนูก็วุ่นวายจะตายอยู่แล้ว จะให้ไปใส่ใจทุกคนก็ไม่ไหว หนูเลยคิดว่า อยู่ใครอยู่มันไปเลยแบบนี้ น่าจะดีกว่า...




"หาว...ววว" ยังง่วงอยู่เลย แต่ให้ทำไง มันนอนต่อไม่ไหวจริงๆ "คอแห้งจัง สงสัยเมื่อคืนนอนกรนหนักแน่ๆ เลย ลัดดาเอ๋ย!"




หนูเปิดตู้เย็นโดยที่ยังงัวเงียอยู่ แต่พอเปิดประตูออกมา สิ่งที่อยู่ในนั้นก็ทำให้หนูตกใจ




"เห้ย! กล่องอะไร?" หนูผงะจนล้มก้นจ้ำเบ้าเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ไอเย็นจากด้านในค่อยๆ ไหลออกมาสัมผัสปลายขา มันทำให้หนูรู้สึกตัวจากการตกใจ หนะ...หนูอาจจะเบลอเพราะเพิ่งตื่นนอนก็จริง แต่หนูว่า หนะ...หนูไม่ได้ฝันไปนะ เอาดีๆ




"มาจากไหนวะเนี่ย?" หนูค่อยๆ ขยับมือเข้าไปจับมัน "เห้ย!" มันจับได้จริง ไม่ใช่ภาพลวงตา หนูหยิบกล่องปริศนาขึ้นมาแกะออกดู ก็พบว่า ข้างในมีเนื้อปลาแซลมอนสีแสดสดใหม่ พร้อมอุปกรณ์การกินครบครัน ปริมาณก็น่าจะเกือบหนึ่งกิโลกรัมได้ หนูอึ้งจนทำอะไรไม่ถูก เพราะจำได้ว่า ไม่เคยซื้อของพวกนี้มากิน...




...ถึงอยากซื้อก็ไม่มีปัญญาที่จะซื้อของแบบนี้มากินได้




หนูนั่งมองมันอยู่ครู่หนึ่ง ในหัวก็พยายามคิดว่ามันมาได้ยังไง แต่พอคิดไปคิดมา...




"เห้ย! หรือว่า มีขโมย!" หนูสะดุ้งยิ่งกว่าเก่า รีบเอามือกุมหน้าอก กระโจนไปดูกลอนประตูหน้าต่างว่ายังล็อคสนิทอยู่หรือเปล่า หนูเป็นผู้หญิงนะ ถึงจะไม่ได้สวยหยาดเยิ้มอะไร แต่ความปลอดภัยต้องมาก่อน แต่ว่า พอหนูลุกไปเช็คตามประตูหน้าต่างมันก็ยังคงล็อคหนาแน่น และไม่มีสภาพถูกงัดแงะใดๆ นั่นยิ่งทำให้หนูงงขึ้นไปอีก




"เอายังไงล่ะทีนี้? มายังไงก็ไม่รู้ ของๆ ใครก็ยิ่งไม่รู้ แต่ว่า ถ้าเราเอาไปคืนจะโดนหาว่าเป็นขโมยหรือเปล่า? เอาไปแจ้งป้าเจ้าของหอดีไหม...ไม่ดีๆ ได้ทะเลาะกันอีกแน่ แล้วจะเอายังไงดี เห้อ...คิดไม่ออกแล้ว ยัยลัดดาเอ๋ย" หนูนั่งจ้องมันอย่างจนใจ ตัดสินใจไม่ถูก ทว่า...




"โครก...กกก" แหม ท้องก็ดันร้องได้ถูกเวลาเสียจริงๆ...เอาแบบนี้แล้วกัน ถือซะว่า เป็นลาภลอย ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเห็น แถม...เจ้าปลาส้มอวบอ้วนมันก็ยังดูน่ากินมาก (แอบน้ำลายไหล) ถ้าเรากินจนหมด ก็คงไม่เหลือหลักฐานอะไรให้ใครมาเอาผิดเราได้...หนูคิดถูกแล้วใช่ไหม?




...




หลังจากกลับจากมหาลัยก็ไปต่อที่ทำงานพาร์ทไทม์เลย กว่าหอบร่างกลับมาที่ห้องก็ปาเข้าไปสี่ทุ่มแล้ว การบ้านก็ยังไม่ได้ทำ หนังสือก็ยังไม่ได้อ่าน น้ำก็ยังไม่ได้อาบ ข้าวก็ยังไม่ได้กิน




"โอ้ย...โอ๊ยๆๆๆ โคตรจะเหนื่อยเลย" หนูดีดดิ้นอยู่บนเตียงทั้งที่ก็ยังใส่ชุดเดิม ก็คนมันเหนื่อยนี่นาให้ทำยังไง เมื่อไรจะรวย เมื่อไรจะเลิกลำบากสักที "อยากมีผัวรวยโว๊ยยย" นี้หนูกำลังเป็นบ้าอะไรของหนูเนี่ยะ




หลังจากกลายร่างเป็นอีลัดดาหัวฟูอยู่สักพัก หนูก็เหมือนปลั๊กหลุด หนูนั่งนิ่งๆ จ้องมองดูตู้เย็นที่ได้มาใหม่แล้วพาลนึกถึงเหตุการณ์เมื่อเช้า หนูจดๆ จ้องๆ คิดไปต่างๆ นานาเกี่ยวตู้เย็น หนูกลัวว่ามันจะเกิดขึ้นอีกไหม จะมีอะไรออกมาอีกไหม...แต่ไม่หรอก ใจหนึ่งหนูก็อยากให้มันเกิดขึ้นอีกด้วยซ้ำ เพราะมันช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย แถมมีของอร่อยที่ฝันว่าอยากจะกินสักวันโผล่มา หนูตัดสินใจลองเปิดประตูตู้เย็นอีกครั้ง ด้วยหวังว่า เหตุการณ์เมื่อเช้ามันจะเกิดขึ้นอีก




"พึ่บ!" หนูหลับตาเปิดตู้เย็นด้วยความตื่นเต้น ทว่า...




"เฮือก! ห้ะ!" มันเกิดขึ้นอีกแล้ว มันโผล่มาแล้ว จริงๆ




ในตู้เย็นเมื่อเช้า หนูจำได้ว่ากินแซลมอนเหลือไว้สักครึ่งหนึ่ง แต่ตอนนี้แซลมอนหายไป แต่มีผลไม้ ขนมถุง น้ำอัดลม แถมมีขนมเค้กก้อนใหญ่ อัดเอียดเบียดกันในตู้เย็นเล็กๆ ของหนู ราวกับขุมสมบัติกินได้ที่ฟ้าประทานมาให้ หนูทิ้งตัวลงกับพื้นห้องด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก มันทั้งดีใจ ตกใจ กลัว ผสมปนเปกันมั่วในหัวหนู




"กรี้ด..." หนูเผลอแหกปากอีกแล้ว ของกินพวกนี้มาจากไหนอีกแล้วก็ไม่รู้ เริ่มรู้สึกไม่ค่อยดีแล้วนะ มันเข้ามาอยู่ในตู้เย็นหนูได้ยังไง แล้วมันมีเจ้าของหรือเปล่า หรือหนูต้องทำยังไงดี โอ๊ย...หนูเพลีย หนู...หนู...กินก่อนแล้วกัน




...




เมื่อเช้าตอนออกมาจากหอพักจะไปเรียน หนูเดินลงบันได้มาตรงชั้นสองก็เผลอไปได้ยินบทสนทนาที่ทำให้หนูใจคอไม่ค่อยดีสักเท่าไร




"เดี๋ยวแม่ซื้อให้ใหม่นะลูกนะ แม่ขอโทษจริงๆ ที่ทำเค้กของหนูหาย" คุณป้ากอดคอเศร้าพูดกับลูกสาวตัวน้อยที่ร้องไห้งอแง เพราะไม่มีเค้กเอาไว้เป่าฉลองวันเกิด มันทำให้หนูนึกถึงเค้กก้อนที่กินไปเมื่อคืน




"หรือว่า เค้กก้อนนั้นจะเป็นของน้องคนนี้?" หนูปะติดปะต่อเบาะแสเอาด้วยการเดา




"แปลว่า ตู้เย็นมันขโมยของกินมาให้เรา...ไม่สิ มันน่าจะวาร์ปเอาของในตู้เย็นห้องอื่น สลับกับของกินในตู้เย็นของเรา...ตอนนั้น ขวดน้ำเราหายไปแล้วได้แซลมอนมา เมื่อคืนแซลมอนหายไปแล้วได้เค้กกับขนมมา ถ้าเป็นไปตามที่สันนิษฐานนี้ล่ะก็..." ถึงหนูจะไม่ใช่โคนัน แต่หนูก็เคยสอบ GAT-PAT เชื่อมโยงได้เกือบเต็มล่ะนะ แต่..."มันจะเป็นไปได้เหรอ?" ลัดดากลั่นทุกอนูความคิดกับไอเดียนี้




ลัดดาแอบยกมือไหว้ปะหลกปะหลกตรงหน้าบันได 'เอาเป็นว่า พี่ขอโทษน้า เอาไว้พี่เงินเดือนออกพี่จะซื้อมาใช้ให้น้า...พี่สัญญา~"




"พลั่ก! โอ๊ย!" จู่ๆ ตอนหันกลับไปจะลงบันได ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินมาชนหนู




"นี่! เดินไม่ดูตามม้าตาเรือเลยหรือไง มาเดินชนกันได้ ทางเดินก็มีตั้งเยอะตั้งแยะ ทำไม่ไม่ดู คนนะเว้ย ไม่ใช่มดตัวเล็กๆ จะได้มองไม่เห็น...ไอ้..." หนูจัดชุดใหญ่ไฟกระพริบให้เลย อยู่ๆ มาเดินชนได้ไง...ขอโทษสักคำก็ไม่มี




แต่ว่า ผู้ชายคนนั้นแค่มองกลับมา ไม่ตอบโต้อะไร หน้าตาเขาดูน่ากลัว มีแววตาอาฆาต ตัวผอมๆ ตัดผมสกินเฮด มีรอยสักเล็กๆ ตรงปลายคิ้ว แต่งตัวธรรมดาด้วยเสื้อยืดและกางเกงขาสั้นเหมือนวัยรุ่นบ้านๆ ทั่วไป หนูมองหน้ามันมันก็มองหน้าหนู จากนั้น มันก็ละสายตาจากหนูแล้วก้มหน้าก้มตาเดินขึ้นไปอีกชั้น ที่จริงถ้าหนูจะเอาเรื่องมันก็ไม่คณามือหนูหร้อก...พอดีหนูจะรีบไปมหาลัย เลยไม่อยากให้ชุดมอมแมม แหม ขะได้รู้ไปเลยว่า อีลัดดานี้ก็สู้คนนะเว้ย




...




วันนี้เรียนเสร็จเร็ว แถมไม่ต้องไปทำงานพิเศษอีกด้วย หนูเลยชวนสองสาว ปุยฝ้ายกับน้ำใส เพื่อนสนิท มาเล่นที่ห้อง ทีแรกก็กะว่าจะอวดแค่ตู้เย็นใหม่ แต่ว่า คนมีของดีจะเก็บความลับไว้คนเดียวได้ไง เรื่องใหญ่ขนาดนี้ งานนี้ถ้าทั้งสองรู้ล่ะก็...คิคิ อยากเห็นหน้าตอนที่เซอร์ไพรส์จริงๆ อิอิ




ปุยฝ้ายสาวอวบออกปากถาม เธอดูตื่นเต้นเหมือนว่าตนได้เป็นเจ้าของสิ่งที่เธอเห็นตรงหน้า "นี่น่ะเหรอ? ตู้เย็นใหม่ ที่เธอจับสลากได้มาน่ะ ลัดดา"




"ใช่จ้ะ!" ลัดดากล่าว "แต่มันไม่ใช่ตู้เย็นธรรมดานะ..." น้ำเสียงเธอสูงราวกับอยากจะนฝยั่วความใคร่รู้ของเพื่อนทั้งสอง




"ไม่ธรรมดา...ยังไงวะ?" น้ำใสสาวเนิร์ดขยับแว่น ตีหน้าสงสัย ลัดดายิ้ม




"ก็ตู้เย็นของฉัน มันสามารถวาร์ปของในตู้คนอื่น สลับกับของในตู้ของฉันได้น่ะสิ!" ลัดดาเฉลยอย่างมั่นใจ ทว่า รอยยิ้มกว้างของเธอค่อยๆ หุบลงเมื่อเห็นสีหน้าของเพื่อนดูจะไม่ยินดีกับคำตอบ




"เธอไม่สบายหรือเปล่าลัดดา?" น้ำใสพูด ปุยฝ้ายเสริม




"หรือเรียนมากไป?"




"หรือติดผู้ชายจนอกหัก?" น้ำใสเล่นพูดสลับกับปุยฝ้าย




"หรือ..." ปุยฝ้ายจะพูดแต่ถูกขัดไว้เสียก่อน




"โอ๊ย...ไม่ใช่ ตู้เย็นมันสลับที่ได้จริงๆ" ลัดดายืนยันคำตอบของเธอผ่านสีหน้าและแววตา ปุยฝ้ายไม่เชื่อ


"ตู้เย็นที่ไหนมันจะไปทำแบบนั้นได้วะ...ต่อให้เป็นองค์การนาซ่า ที่ว่าฉลาดกว่าแกร้อยเท่า เขายังทำไม่ได้เลย...ฉันว่า แกทำงานมากไปจริงๆ นั่นแหล่ะ ถ้ามีเวลา พักผ่อนบ้างนะเพื่อน" ปุยฝ้ายแตะบ่าเบาๆ สองที ด้วยความเป็นห่วง ทว่า ลัดดากลับรู้สึกเสียหน้าไม่ได้ เธอจึงต้องการพิสูจน์




"ได้!" เธอเดินไปหยิบขนมที่ซื้อมาจากมินิมาร์ท มากองไว้หน้าตู้เย็นใหม่สีแดงเงาวับจับใจ "งั้นฉันจะพิสูจน์ให้พวกเธอดู" เธอเปิดตู้เย็นนั้นแล้วยัดขนมทั้งหมดที่เตรียมไว้ ใส่ในชั้นวางของในตู้เย็น "คอยดูนะ ถ้าฉันปิดตู้เย็นปุ้บ ของที่เพิ่งใส่ไปมันก็จะหายไป แล้วพอฉันนับ หนึ่ง สอง สาม (อันที่จริงก็ไม่เคยนับล่ะนะ แต่คิดว่า น่าจะสักสองสามวินาที มันน่าจะสลับที่กัน) แล้วของข้างในนี้ จะถูกแทนด้วยของในตู้เย็นของห้องอื่น" ลัดดาปิดประตูตู้เย็น




ทั้งปุยฝ้ายและน้ำใสแทบจะพูดออกมาเป็นเสียงเดียวกัน "โม้ป่ะเนี่ย!?"




"คอยดูก็แล้วกัน" ลัดดาเริ่มนับ "หนึ่ง สอง" เธอชักเริ่มไม่มั่นใจ




"พ่อจ๋าแม่จ๋า อย่าทำให้หนูหน้าแหกเลยนะ เทพธิดานำโชคจ๋า ช่วยให้สำเร็จด้วยเถิด..." ลัดดาภาวนาในใจ




"สาม...!!!" ลัดดาเปิดประตูตู้เย็นพลัน




ทว่า




สิ่งที่ปรากฏอยู่ข้างในนั้น กลับทำให้สองสาวตกใจช็อคจะสุดตัว




"กรี๊ด...ดดดดดดด!!!" เสียงกรีดร้องของสองเพื่อนดังทะลุกำแพงห้อง สองสาวเบิกตาโพลงแล้วรีบหลับตาปี๋




"อะไร! เธอเป็นอะไร!? ฝ้าย! น้ำใส!" ลัดดาพยายามเขย่าตัวเรียกเพื่อนของเธอ แต่เหมือนจะสติหลุดไปแล้ว ตัวที่สั่นเทิ้มกับปฏิกิริยากลัวที่น่าแปลกใจทำให้ลัดดาหันไปมองว่า ทั้งสองตกใจกับสิ่งใจ




"หะ กะ กรี้ด...ดดดดดดด!!!" ลัดดาร้องลั่นกว่าทั้งสองคนนั้นอีก




การพิสูจน์ทฤษฎีการวาร์ไปของลัดดานั้นได้ผล ทว่า สิ่งที่สลับกับของของพวกเธอนั้นเป็นศรีษะมนุษย์ พร้อมทั้งชิ้นส่วนที่ถูกหั่นแยกเป็นชิ้นกัน มันยังดูสดใหม่ราวกับเพิ่งถูกชำแหล่ะเมื่อไม่นานมานี้ ทั้งหมดถูกอัดรวมอยู่ในตู้เย็นใหม่ของลัดดาอย่างอื้ออึง ของเหลวสีแดงคาวไหลชุ่มออกมานองหน้าประตูตู้ และค่อยๆ เจิงนองเข้าหาเจ้าของห้องที่กอดกันกลม ส่งกลิ่นชวนขนลุก สะกิดประสาทสัมผัสให้รับรู้




"ศพ...ห๊ะ!" เหมือนว่าลัดดาจะรู้ว่ามันเป็นชิ้นส่วนของใคร เธอจำรอยสักที่ปลายคิ้วได้