รวมเรื่องสั้น สยองขวัญ หลอน หักมุม เหนือธรรมชาติ แปลก แหก แหวกแนว ที่จะทำให้คุณต้องร้องว่า "อิหยังวะ!?"
พารานอมอล,ผู้ใหญ่,ดาร์ค,เลือดสาด,เรื่องสั้น,อ่านเพลิน,แปลก,หลอน,หักมุม,พล็อตสร้างกระแส,ผี,สยองขวัญ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Shot Story : สั้น หัก สยองรวมเรื่องสั้น สยองขวัญ หลอน หักมุม เหนือธรรมชาติ แปลก แหก แหวกแนว ที่จะทำให้คุณต้องร้องว่า "อิหยังวะ!?"
"กูจะให้มึงรวย" เสียงแว่วลอยตามลมมาเข้าหูฉัน
อะไรนะ? ฉันเงี่ยหูฟัง
"กูจะให้มึงรวย...ยย" เสียงนั้นดังราวกับขยับมาใกล้ขึ้น
ห๊ะ อะไรนะ!?
"กูบอกว่า กูจะให้มึงรวย!"
"ว้าก...กกก" ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมาทันที มันแทบจะเหมือนจริงมาก ภาพของชายหน้าดุคนนั้นที่ตะคอกใส่ฉัน ทำเอาหัวใจฉันเกือบจะวาย ฉันไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ต้องการอะไร แต่ฉันไม่มีทางลืมใบหน้านั้นแน่นอน...ฉันว่า เอ่อ...ฉันจำได้ดีเลยมั้ง
อย่างที่คุณก็รู้ ฝันแบบนี้มันจะเป็นอะไรไปได้นอกเสียจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรืออะไรก็ตามมาบอกเลข ให้หวย ให้โชค โดยปกติแล้ว ถ้ามาในรูปแบบความฝันก็มักจะไม่บอกตรงๆ มักจะให้ตีความจากภาพที่เห็น สงสัยท่านชอบรายการเวทีทองมั้ง ไอ้เรา พวกมนุษย์ขี้เหม็นก็พากันไปตีความต่างๆ นานา เช่น ฝันว่าแมวต้องตีเลขสี่เพราะมีสี่ขา ฝันเห็นปลาให้ตีว่าแปด ปอ ปลา...ปอ แปด ตีความออกมาเป็นตัวเลขได้อย่างกับสายลับถอดรหัส ใครจะแม่นหรือใครจะมั่ว อันนี้ไม่รู้หรอกนะ มันต้องวัดผลกันอีกทีตอน วันที่ 1 ต้นเดือน ไม่ก็วันที่ 16 กลางเดือน ทีนี้แหล่ะจะได้รู้กันไปเลยว่าใครของจริงใครร่ำรวย ใครถูกหวยใครนั่งเซ็ง...
...
"ป้า! เอาข้าวผัดหมูสองจาน เอาซาสี่มาสองขวด เร็วๆ นะ" ไอ้จ้อดนั่งลงที่โต๊ะตรงข้ามฉัน มันกับฉันแวะมากินข้าวเที่ยงกันก่อนจะกลับไปทำงานขับวินมอเตอร์ไซด์ที่อู่ศาลไทรร่มทอง
ผมเริ่มเล่า "เห้ย! จ้อด เมื่อคืนกูฝันว่ะ ตัวแดงแป๊ด ครบเจ็ดหลักเลยนะเว้ย!" ฉันเอามือดันโต๊ะแล้วโน้มตัวไปบอกมันใกล้ๆ
"อีกล่ะ มึงนี่เล่นได้ทุกงวดเลยนะ ไม่รู้จักเข็ด งวดที่แล้วมึงจ่ายเจ๊ณีหรือยัง ห้าบาทคูณห้าบาท...ไอ้ห่าโชค แค่นี้มึงก็ยังกล้าเบี้ยวอีกเหรอวะ เดี๋ยวมึงกินข้าวเสร็จ มึงรีบไปจ่ายเขาซะนะ คราวนี้กูไม่จ่ายให้มึงแล้ว กูรำคาญ" เหมือนเพื่อนจ้อดจะอารมณ์เสียจากที่ไหนมาก็ไม่รู้นะ แต่ก็ช่างเถอะ ไม่เป็นไร
"เออๆ เดี๋ยวเรื่องเจ๊ณี กูจัดการให้" ฉันแอบไขว้นิ้ว "แต่เมื่อคืน เจ้าพ่อไทรทองมาบอกเลขกูจริงๆ นะ" ฉันบอก
"มึงมันงมงายว่ะ ไอ้โชค" มันเถียงคอแข็ง "ทำไมเจ้าพ่อต้องมาให้โชคมึงด้วย" ที่มันพูดก็ถูก แต่ผมไม่เชื่อมันหรอก "มึงไม่เคยได้ยินเรื่องเล่าเหรอวะ ที่ผีมาเข้าฝันบอกให้ซื้อ 44 แต่หวยออก 55 นี่ไงที่เขาเรียกว่า ผีหลอก...ผีหลอกควายให้ผิดหวยไง ฮ่ะฮ่าๆ" ดูมันหัวเราะ เหอะๆ
"แต่คราวนี้ไม่เหมือนกันนะ" ฉันมั่นใจ "เจ้าพ่อบอกมาเจ็ดตัวตรงเป้ะ ตัวแดงๆ เขียนใส่มือกูมาเลย กูว่า งวดนี้กูรวยแน่ กูจะซื้อล็อตเตอรี่ มึงช่วยกูตามหาเลขนี้หน่อยได้ไหม นะกูขอร้อง" ฉันทำตาละห้อย ทำหน้าขอร้องมัน ฉันรู้ว่าไอ้จ้อดมันก็ไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำอะไรหรอก มันต้องช่วยฉันแน่ๆ
แต่ว่า ไอ้จ้อดมันด่ากลับมา "ถุย! จะหลอกให้กูออกค่าหวยให้ก่อนอีกล่ะสิ กูไม่เอาหรอก จะปีใหม่แล้ว กูจะเก็บตังค์ไปฉลองที่บ้าน"
"โหย...แค่ใบเดียวเอง มึงช่วยกูหน่อยเถอะวะ แค่ 40 บาท คู่เดียว นะๆๆ เดี๋ยวถูกรางวัลที่หนึ่ง กูแบ่งให้มึงเลย 2 ล้าน" ฉันพูดจริงนะ ดูสิไม่ได้ไขว้นิ้วด้วย
จ้อดมองตาฉัน มันเหมือนคนรุ่นคิดอยู่สักพักแล้วถอนหายใจและกลอกตาขึ้นบนราวกับเบื่อหน่าย "เอางี้ มึงจดเลขมา เดี๋ยวกูดูให้ ถ้าเจอกูจะเพจมาบอก แต่ถ้าไม่เจอก็ไม่ต้องซื้อ ถือว่าไม่มีโชค เข้าใจไหม?"
"เยส!" ฉันดีใจ สำหรับจ้อด มันใจดีกับฉันเสมอ แม้มันจะขี้บ่นไปสักหน่อย ขี้โมโหไปสักนิด แต่มันก็สนิทกับฉันที่สุดในวินแห่งนี้แล้ว
"ได้ๆ เพื่อน ขอบใจมาก...โอเค ซิกกาแรต" ฉันจับมือมันเขย่าด้วยความดีใจ แต่จ้อดก็เหมือนไม่ค่อยเต็มใจรับภารกิจนี้สักเท่าไร
"เออ กูไม่ได้อยากได้เงินอะไรหรอก กูรำคาญ" มันหันมาค้อนพร้อมดูดน้ำหวานในแก้วไปพลาง
"มึงน่ะชื่อโชคแต่โชคไม่เข้าข้างมึงเลย มึงควรเลิกเล่นได้แล้วไอ้หวยเหยอะไรนี่ กูว่า ถ้ามันจะถูก มันถูกไปนานแล้ว" มันสำทับความคิดกับฉัน แต่ฉันไม่เชื่อมันหรอก ฉันเชื่อว่ายังไง งวดนี้ก็ต้องถูก เพราะว่าฝันตรงๆ แม่นๆ ขนาดนี้ ไม่มีทางพลาด
"6284096" ฉันจดเลขให้มัน
...
วันต่อมา หลังจากแวะส่งผู้โดยสารแล้ว ฉันตระเวนไปทั่วจังหวัด แวะตามแผงล็อตเตอรี่ตรงนั้นตรงนี้ เพื่อมองหาเลขที่ต้องการ แต่มันก็ไม่ได้เจอง่ายๆ หรอก ในท้องมหาสมุทรสลากกินแบ่งรัฐบาลนับล้านๆ ใบ ฉันต้องแหวกว่าย ค้นหา ควานหา ติดต่อสอบถามความเป็นไปได้ ที่ก็ไม่รู้ว่าจะได้เจอเลขตัวนั้น ที่ต้องการหรือไม่ มันเหมือนมืดแปดด้านทั้งที่ฟ้าสว่าง แต่ฉันก็คาดหวังว่า ดวงหรืออะไรก็ตามที่คอยช่วยเหลือฉัน จะทำให้ฉันพบมันได้ก่อนที่มันจะกลายไปเป็นของคนอื่นเสียก่อน
...ฉันไม่เข้าใจอย่างหนึ่งว่า ทำไมเลขล็อตเตอรี่มันต้องมีเจ็ดหลักด้วยวะ จำยากชิบ แถมโอกาสที่จะถูกรางวัลที่หนึ่งก็น้อยตามไปด้วย ลองคิดดูนะ 1 ใน 10 ล้านตัวเลขของความเป็นไปได้ ที่จะถูกต้อง ลงล็อคแบบไม่คลาดไปสักตัวเลขเดียวจะไปอยู่ในมือใคร
ใครจะเป็นผู้โชคดีนั้น คนที่โชคดีมันต้องถูกที่ถูกเวลาจริงๆ ต้องอยู่ในละแวกที่ถูกต้อง เวลาที่ถูกต้อง ไปซื้อกับแผงที่มีเลขนั้น ไม่ใช่แค่รู้ว่าต้องซื้อตัวเลขอะไรเพียงอย่างเดียว เพราะต่อให้รู้เลข แต่ไม่มีเลขนั้น ก็เท่ากับว่าคุณไม่ได้ครอบครองสลากที่ถูกรางวัล การซื้อหวยมันจึงเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ ทั้งดวงและสถิติ นับว่าเป็นกิจกรรมที่ท้าทายความสามารถคนอย่างฉันยิ่งนัก ฉันหลงไหลมัน
"วันนี้รวยๆ วันนี้รวยๆ" เสียงเพรียกแห่งโชคลาภดังระงมทั่วทั้งซอย ฉันเดินอย่างสบายๆ ไปตามแผงล็อตเตอรี่ที่ตั้งเรียงราย ที่ต้อนรับนักเสี่ยงโชคให้ได้เข้ามาวัดดวง วัดใจ ในช่วงใกล้หวยจะออกแบบนี้
"ป้ามีเลขท้าย 96 ไหม" ฉันพยายามถามๆ ดูหลายๆ ร้าน เผื่อว่าจะเจอ
"ดูเอาไอ้หนุ่ม มีก็คือมี ไม่มีก็คือไม่มี เลือกเอาเลย" อ้าวอีป้านี่ ตอบกวนๆ แบบนี้ เดี๋ยวก็เอา M79 ถวายให้เสียนี่
ฉันไล่นิ้วดูบนแผงที่เรียงรายไปด้วยกระดาษล็อตเตอรี่ที่เรียงตัวเลขไว้อย่างเป็นระเบียบ
"1490294...4554795...6284096"
'เจอแล้วนี่ไง ตัวเลขที่ตามหา!' ฉันแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง
"ป้า เอาใบนี้" ฉันรีบชี้นิ้วปักเข้าไปตรงสลากใบนั้นอย่างไว ป้าคนขายละจากชามขนมจีนแล้วลุกมาดึงสลากให้อย่างอืดอาด ราวกับไม่อยากขายให้ฉันยังไงยังงั้น
"อ่ะ 40 บาท" ฉันรีบควักเงินให้ไป "ขอให้รวยๆ นะพ่อหนุ่มน้า" ป้าอวยพร รอบปากป้ายังเปื้อนน้ำยาขนมจีนอยู่เลย แต่ก็ช่างเถอะ ฉันจะรวยแล้ว...ฉัน จะ รวย แล้ว
ทว่า จู่ๆ ก็มีโจรขโมยทองที่ไหนไม่รู้ วิ่งหนีตรงมาทางที่ฉันยืนอยู่อย่างไว ชาวบ้านต่างแตกฮือแหวกเป็นทาง ไม่มีใครกล้าเข้าไปขวางทางวิ่งของมัน แต่ด้วยสัญชาตญาณความเป็นพลเมืองดีของฉัน ฉันกระโดดเข้าไปจับตัวเจ้าโจรวิ่งราวไว้ได้ แต่ว่า ในจังหวะชุลมุนอยู่นั้น สลากกินแบ่งใบที่เพิ่งซื้อมาก็ดันปลิวไปตกตรงถนน
"เห้ย! หกล้านของฉัน...นนน" ฉันรีบละจากเจ้าโจรชั่วแล้วพุ่งไปตะครุบสลากที่ปลิวไปปลิวมา โดยไม่สนใจรถที่กำลังขับอยู่บนท้องถนนนั้น
"ปี๊นๆๆ" รถบีบแตรไล่อย่างตกใจ "หลบไป หลบไป" เสียงตะโกนเตือนบอกให้ฉันหลบ แต่ฉันหูอื้อหมดแล้ว
"ย้าก...กกก" ฉันเอื้อมไปจนสุดแขนแต่ก็คว้าไม่ได้สักที มันโดดหนีฉันราวกับกระรอกที่หนีนายพราน
"เอี๊ยด...ดด" รถเป็นสิบคันต่างพร้อมใจกันหยุดเพราะฉันคนเดียว จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงด่าระงม สาปแช่งฉันที่ทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลังแบบนี้ แต่ฉันไม่มีเวลาฟังหรอกนะ
ฉันไล่ตามล็อตเตอรี่ข้ามไปอีกฝั่งของถนน รางวัลที่ฉันตามหามันกำลังหนีฉันไป ฉันรู้ดีว่า มันอาจไม่มีโอกาสแบบนี้อีกแล้วในชีวิตของฉัน เพราะฉะนั้น ฉันไม่มีทางปล่อยมันไปแน่นอน หกล้านต้องเป็นของฉาน...นนน
"ฟิ้ว...ววว" สลากกินแบ่งใบเบาปลิวตามลมไปอย่างไร้ทิศทาง มันปลิวข้ามหัวคนเดินผ่านไปผ่านมาอย่างกับใบไม้ที่ปลิดปลิว ฉันมองดูมันลอยห่างออกไป ห่างออกไป ทีละนิด ทีละนิด ด้วยใจที่หวาดหวั่น กลัวว่า ทุกสิ่งที่วาดฝันไว้จะจบลง กลัวจะกลายเป็น ไอ้โชคคนเดิม ที่ไม่มีโชค เหมือนดังที่ผ่านมา...
ใช่ ฉันคือไอ้โชคคนเดิม
"ฟิ้ว...พรึ่บ!" แต่แล้ว สลากใบเล็กใบนั้นก็ปลิวไปตกในเตาขายกล้วยทอดที่ตั้งอยู่ริมถนนอีกฝั่งอย่างเงียบๆ ฉันได้แต่ยืนมองดูมันค่อยๆ ถูกเผาไปอย่างช้าๆ ขาที่มันเคยมีกำลังวังชาวิ่งตามทีแรกมันหนัก ตัวที่เคยรู้สึกมีเลือดเนื้อกลับแข็งทื่อ ท่ามกลางถนนที่ร้อนอบอ้าว แต่ตัวฉันกลับไม่รู้สึกรู้สาอะไรอีกแล้ว เมื่อทุกอย่างหายลับไป
"หะ ฮือ...อออ โฮ...อออ" ฉันร้องไห้ ฉันปล่อยให้ตัวเองจมกับน้ำตาอยู่อย่างนั้นอยู่สักพัก ชาวบ้านชาวช่องที่ยืนดูเหตุการณ์ค่อยๆ เดินมาพาตัวฉันออกจากตรงนั้น ฉันจำไม่ได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้น จนกระทั่ง ได้ยินเสียงเพจเจอร์ที่ติดอยู่ที่เอวดังขึ้นมา
"ปี๊บๆ ปี๊บๆ ปี๊บๆ" ฉันหยิบมันขึ้นมากดดูข้อความ มันเป็นข้อความของไอ้จ้อดที่ส่งมา
"มีแต่ 6284069 ซื้อแล้วนะ" ข้อความสั้นๆ แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไร เมื่อตัวเลขที่ฉันต้องการมันไม่ใช่ตัวนี้ ฉันตัดใจ
"ช่างเถอะ คนจะถูก ใบไหนก็ถูกเหมือนกัน" ฉันปาดน้ำตา "ถูกสักเลขท้ายสองตัวก็ยังดีวะ พอได้ค่ากับข้าว" ฉันหันไปมองนาฬิกาที่แขวนในร้านขายกล้วยทอด
"บ่ายสามโมง สามสิบห้า ใกล้เวลาหวยออกแล้วสินะ" ฉันลุกขึ้นปัดแข้งขา ลุกไปลุ้นเลขรางวัลสุดท้ายที่กำลังจะประกาศในวิทยุ
"ตื้ด...ดดด ตื้ดๆ" เสียงสัญญาณอันเป็นเอกลักษณ์ดังเร้าหัวใจนักเสี่ยงโชคทุกท่าน
"รางวัลเลขที่หนึ่ง งวดประจำวันที่ 30 ธันวาคม พุทธศักราช 2537 เลขที่ออก..."
"ตื้ดๆ"
...
@@@@ คุยกันท้ายตอนคับ @@@@
เด็กๆ สมัยนี้อาจจะนึกภาพปี 2537 ไม่ออก มันเป็นยุคที่บ้านเมืองเจริญในระดับหนึ่ง ค่าเงินยังไม่ค่อยสูงเท่าปัจจุบัน สมัยนั้นข้าวแกงจานละ 20 บาทยังว่าแพงเลย การแต่งตัวตามสไตล์ตะวันตกมากขึ้น ผู้คนยังไม่ค่อยอยู่กับเทคโนโลยีมากนัก ถือว่า เป็นยุคที่ไม่ดีแต่ก็ไม่แย่เสียทีเดียว
กิมมิคเล็กที่ใส่มาในตอนนี้ มีดังนี้
1.ซาสี่ เป็นเครื่องดื่มยี่ห้อหนึ่ง ที่มีรสโคล่า รสส้ม อร่อยดีคับ
2.ราคาล็อตเตอรี่สมัยนั้นคู่ละ 40 บาท แต่ก่อนสลากกินแบ่งรัฐบาลจะออกสลากเป็นกระดาษชนิดพิเศษ โดยพิมพ์ลายน้ำแล้วข้อความไว้ โดยในหนึ่งใบจะเท่ากับ สลากสองชุด สมมติ เวลาถูกสลากเลขท้ายสองตัว 1 ชุด จะได้เงิน 2000 บาท เท่ากับว่า เราจะได้เงิน 4000 บาทต่อสลากที่ซื้อมา 1 ใบ
3.เลข 7 หลัก หลายคนอาจสังเกตว่า ทำไมมันมี 7 หลัก นั่นเพราะ แต่ก่อนกองสลากกำหนดไว้ แต่ภายหลังมาเปลี่ยนเป็นเลข 6 หลักแทน เพื่อปัจจัยหลายอย่าง อาทิ เช่น ง่ายต่อการออกรางวัล ป้องกันความสับสน หรือสร้างแรงจูงใจให้คนซื้อสลากมากขึ้น
4.เพจเจอร์ เป็นอุปกรณ์สื่อสารชนิดหนึ่ง ที่ใช้รับข้อความไดอย่างเดียว ผู้ส่งจะต้องโทรไปยังศูนย์กลางเพจเจอร์ เพื่อบอกให้เจ้าหน้าที่ พิมพ์ข้อความให้ แล้วจึงส่งไปยังเลขหมายเพจเจอร์ปลายทาง และมีการจำกัดตัวอักษร สมัยนั้นเป็นที่นิยมกันมาก โดยเฉพาะนักธุรกิจและกลุ่มวัยทำงาน
5.งวดประจำวันที่ 30 ธันวาคม 2537 เป็นงวดสุดท้ายที่กองสลาก เปลี่ยนจากเลข 7 หลัก ไปใช้เลข 6 หลักในการออกสลาก