ผมได้พบกับปิศาจแห่งเทศกาล
แฟนตาซี,ตลก,ยุคปัจจุบัน,ไทย,เรื่องสั้น,นักเขียนรถแห่มาเยือนพล็อตเทลเลอร์,นักเขียนรถแห่,เรื่องสั้น,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
K12AMPU5เดือนธันวาคม เดือนสุดท้ายของปี อากาศดูจะลดความร้อนลงมาได้หน่อย แต่ใครที่ตื่นเช้าไม่พอก็คงจะไม่ได้สัมผัสกับความเย็นเล็กน้อยนี้ ผมคิดถึงสมัยเด็ก มันหนาวจนแสบผิว ยืนเข้าแถวหน้าเสาธงแทบจะไม่ได้ ผิวแตกจนต้องทาโลชั่น จะว่าไปผมก็ไม่ได้ผิวแตกขนาดนั้นมาสองสามปีแล้ว
เดือนธันวามาพร้อมกับเทศกาลคริสต์มาส ที่จริงบ้านเราก็ไม่มีใครถือคริสต์ แต่เจ้าลูกชายมันถือโอกาสที่ผมจะซื้อของเล่นให้ มิไยที่ผมจะพยายามบอกว่าอายุเกินที่ซานต้าจะให้ของขวัญแล้ว แต่เจ้าตัวยังยืนยันว่าซานต้าจะให้จนถึงอายุ 13 ปี ผมก็ตามใจเพราะเขาเฝ้ารอวันที่ 25 อย่างใจจดใจจ่อทุกปี ถึงจะรู้ว่าคนที่ซื้อของให้ก็ผมนี่แหละ แต่ถ้าเราไม่รู้แล้วได้ของ กับรู้แล้วไม่ได้อะไร เป็นผมก็เลือกเหมือนลูก คือไม่รู้ซะดีกว่า ปีนี้เขาชอบตัวต่อที่เป็นโถส้วมมีหัวลอยได้ ผมไม่เห็นว่ามันจะสวยตรงไหน แต่คนที่เล่นก็ไม่ใช่เราอยู่แล้ว ผมกดโทรศัพท์ดูแอปซื้อของชื่อดัง จีนทำตัวต่อโถส้วมมาหลายแบบ เดี๋ยวต้องไปถามว่าลูกชายชอบแบบไหน แต่ตอนนี้ก็ดึกแล้ว เขาคงจะหลับไปแล้ว เอาไว้พรุ่งนี้ก็แล้วกัน
คืนนี้เป็นคืนที่แปลก คืนไหนที่ผมไม่ได้เล่นเกมติดพัน ผมก็มักจะนอนแต่หัวค่ำ แต่คืนนี้ผมยังไม่รู้สึกง่วง เลยเดินไปเปิดตู้เย็นดูว่ามีอะไรให้กินบ้าง วันนี้เป็นวันศุกร์ด้วย พรุ่งนี้หยุด หรือว่าเราจะดื่มสักหน่อย โซจูที่ซื้อมาวันนั้นยังเหลืออยู่ครึ่งขวด…
ประตูห้องนอนเปิดออก แฟนของผมเดินออกมา ท่าทางอ่อนเพลียเพราะช่วงนี้โหมงานแทบไม่ได้หยุด เธอเป็นนักเขียนชื่อดัง รีบเขียนต้นฉบับให้ทันเทศกาลนิยายวายในแพลตฟอร์มอีบุ๊ค พอเขียนจบอัปโหลดสำเร็จ ผมก็ไล่ให้เธอไปพักผ่อน แต่ที่เห็นเธอออกมานี่ คงนอนไม่หลับสินะ
“นอนไม่หลับ” เธอว่า ท่าทางน่ารักในชุดนอนสีฟ้าลายทาง ผมชูขวดโซจูให้ดู “หน่อยไหม”
“ไม่เอาอะ อยากดื่มอะไรร้อนๆ มากกว่า”
“อะไรร้อนๆ เหรอ” กาแฟตอนนี้ไม่เหมาะแน่นอน เห็นในหนังเขาชอบดื่มโกโก้ร้อนใส่มาร์ชแมลโล โกโก้น่ะมีแน่ซื้อมากระป๋องใหญ่ มาร์ชแมลโลล่ะ จะมีไหมนะ ผมรื้อตู้เย็นกุกกักอยู่สักพักก็ได้มาร์ชแมลโลที่ใครก็ไม่รู้ซื้อมาตอนไหนก็ไม่รู้ พลิกดูวันหมดอายุ ยังไม่หมดแฮะ
“โกโก้ไหมล่ะ เดี๋ยวใส่มาร์ชแมลโลให้ด้วย”
“ยังไม่หมดอายุเหรอ ถุงนั้นเหมือนซื้อมานานแล้วนี่”
“ยังอะ แต่จะหมดสิ้นเดือนนี้แล้ว กินเลยก็แล้วกันเสียดาย”
“อือ” เธอไปนั่งรอที่โซฟา เปิดโทรศัพท์ดูยอดโหลดอย่างอดไม่ได้ “เพิ่งได้สองร้อยโหลดเอง แย่กว่าเรื่องที่แล้วตั้งเยอะ”
“เพิ่งอัปวันแรกน่าอย่าคิดมาก” ผมปลอบใจ กลิ่นโกโก้อย่างดีพวยพุ่งออกมาเมื่อผมใส่น้ำร้อน จัดแจงคนแล้วโปรยมาร์ชแมลโลด้วยท่าเชฟโรยเกลือ “กินนี่ก่อนสิ”
เธอรับไปดื่มเงียบๆ กลิ่นโกโก้ใส่มาร์ชแมลโลชักชวนให้ผมทำให้ตัวเองอีกแก้ว แต่ไม่ล่ะ คืนนี้ผมอยากได้โซจูมากกว่า
“คริสต์มาสปีนี้ยังไม่รู้จะซื้ออะไรให้ลูกเลย เขาบอกอยากได้ตัวต่อโถส้วม แต่แบบมันเยอะมากเลือกไม่ถูกเลย”
“เรื่องซื้อของวันคริสต์มาสนี่มันเริ่มมายังไงนะ” แฟนผมยิ้ม เธอคงจะนึกถึงคริสต์มาสครั้งแรกที่มีการซื้อของเล่น ตอนนั้นเจ้าลูกชายยังเป็นเด็กไร้เดียงสาที่ฉายแววเจ้าเล่ห์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“ก็ตอนนั้นเขาอยากได้ของเล่นไดโนเสาร์ ดูแล้ววันเกิดยังอีกนาน เราเลยบอกว่าให้ทำตัวเป็นเด็กดีแล้วซานต้าจะเอาของเล่นมาให้” ผมพูด นึกถึงเจ้าลูกชายตอนยังเล็ก น่าเอ็นดูกว่าตอนนี้เยอะ “ตั้งแต่นั้นเลยต้องซื้อของเล่นให้ทุกปีเลย”
“เธอว่าเขารู้ไหมว่าเธอเป็นคนซื้อให้” แฟนผมเอาช้อนตักมาร์ชแมลโลขึ้นมากิน ผมก็จิบโซจู มืออีกข้างหยิบถั่วที่เอามาใส่จานไว้ด้วย จะว่าไปคืนนี้ก็เป็นคืนที่ดีแฮะ
“เราว่าเขารู้แหละ แค่ว่าถ้าบอกว่ารู้ซานต้าก็จะไม่ให้ของอีก ก็เลยทำเป็นไม่รู้ดีกว่า”
“เออจริง” เธอหัวเราะ ดูจะอารมณ์ดีขึ้นจากที่เศร้าสร้อยเรื่องยอดขาย
“เด็กดีซานต้าให้ของ แล้วเด็กไม่ดีล่ะ เธอว่าจะโดนอะไร” แอลกอฮอล์ลงท้อง ผมก็ชักจะคึกคักขึ้นมา ยิ้มกรุ้มกริ่ม
“ไม่เอาน่า วันนี้เราเหนื่อย” เธอปฏิเสธง่ายๆ แบบที่มักจะทำบ่อยๆ หลังจากเป็นนักเขียน งานนี้มันคงจะหนักหนาเอาการสินะ ผมอยากจะทำหน้ามุ่ย อยากจะงอน แต่ก็ต้องยอมเข้าใจ ดื่มโซจูจนหมดแก้ว
“งั้นเราเสิร์ชดูดีกว่าว่าเด็กไม่ดีจะเจออะไรในวันคริสต์มาส” ดูเป็นหัวข้อที่น่าสนใจดี “อะไรเนี่ย ปิศาจแครมปัส ด้านตรงข้ามของซานตาคลอส”
“แคมปัส ขนมถุงรสช็อกโกแลตน่ะเหรอ”
“ไม่ใช่ดิ” ผมเอารูปที่เสิร์ชได้ให้เธอดู เป็นปิศาจร่างใหญ่สีดำ มีเขาและขาเหมือนแพะ แต่มีลำตัวท่อนบนเป็นมนุษย์ “แครมปัสจะถือไม้มาตีเด็กไม่ดี หรือไม่ก็ลักพาตัวเด็กไป”
“ไม่ได้ชวนให้ซื้อของ ก็เลยไม่ดังสินะ” เธอว่าก่อนจะจิบโกโก้อีกครั้งแล้ววางแก้วที่ยังมีโกโก้อยู่ครึ่งหนึ่งลง “ฮ้าว… ง่วงแล้วล่ะ เราว่าเราไปนอนละ”
“อือ” ผมรับคำก่อนจะเทโซจูลงในแก้ว
“เธอก็อย่านอนดึกมากนะ มันไม่ดีต่อสุขภาพ”
“ครับๆ” ผมรับคำด้วยเสียงล้อเลียนนิดๆ
โซจูหยดสุดท้ายหมดไปจากแก้ว ผมวางมันลงบนโต๊ะ รู้สึกกรึ่มๆ นิดๆ คงได้เวลานอนแล้ว แต่เดี๋ยว… ผมเห็นอะไร ดูคล้ายกับเงาคน
“ใครน่ะ” ผมตะโกน ดึกป่านนี้คงไม่ประสงค์ดีแน่ ต้องโทรหาตำรวจ โทรศัพท์ เราเอาโทรศัพท์ไปวางไว้ไหนนะ เมื่อกี้ยังเสิร์ชหาข้อมูลอยู่เลย
“หานี่อยู่เหรอ” มันว่า ถือโทรศัพท์ที่ยังฉายรูปปิศาจแครมปัสอยู่ในมือ ตอนนี้ผมได้เห็นมันชัดถนัดตา
“แครมปัส!” ผมร้อง รูปร่างหน้าตาของมันไม่ได้ผิดจากในเว็บไซต์เลยสักนิด
“มนุษย์วาดข้าหล่อน้อยกว่าตัวจริงไปหน่อยนะ” ปิศาจหัวเราะอยู่ในลำคอ ในมือของมันถือไม้ มันจะเอามาตีลูกผมเหรอ
“มาทำไม ลูกผมเป็นเด็กดีนะ” โดยเฉลี่ยน่ะ
“คิดว่างั้นเหรอ” มันแสยะยิ้ม “เจ้าน่ะอยู่กับลูกวันละกี่ชั่วโมง เด็กคนนั้นไปโรงเรียน อยู่ที่โรงเรียนนานกว่าอยู่กับเจ้าซะอีก แน่ใจนะว่าเจ้ารู้ทุกสิ่งที่ลูกทำ” ปิศาจร่างสีดำเอื้อมมือที่มีเล็บดำยาวมาแตะที่บ่า ผมรู้สึกกลัวจับใจ “ข้าก็แค่มาทำหน้าที่ เหมือนตาลุงในชุดสีแดงนั่นแหละ คิดซะว่าพนักงานคนละแผนกก็แล้วกัน ตีไม่กี่ทีลูกเจ้าไม่เจ็บหรอก”
“ไม่ได้!” แม้จะกลัวแทบขาดใจ แต่ผมก็ไม่ยอมให้ใครหน้าไหน แม้มันจะไม่ใช่มนุษย์ เข้ามาทำร้ายคนในครอบครัวของผมโดยที่ยังไม่ได้แม้จะแก้ต่าง “ถึงผมจะไม่ได้อยู่กับลูกตลอดเวลา แต่คนเป็นพ่อแม่ก็ต้องเชื่อในตัวลูก ถึงจะเป็นคนสุดท้ายบนโลกนี้ ผมก็จะเชื่อในตัวลูกของผม!”
“ฮ่าๆๆ” มันหัวเราะลั่น เอามือกุมท้อง “เล่นใหญ่รัชดาลัยเชียวนะ แต่ข้าก็ต้องทำตามหน้าที่อยู่ดี โลกนี้มันมีกฎเกณฑ์ของมัน” ผมจนคำพูดที่จะเถียงมัน ได้แต่ยืนกั้นระหว่างปิศาจร้ายกับห้องของลูกชายอย่างใจกล้าขาสั่น แขนทั้งสองข้างกางออก ถึงจะไม่รู้ว่าจะช่วยอะไรได้แค่ไหน แต่จะให้ไม่ทำอะไรเลยคงไม่ได้
“เฮ้อ” อยู่ๆ มันก็ถอนหายใจ “ปกติเจ้าน่ะหลับไปแล้วตอนนี้ ไม่รู้อะไรดลใจให้ตื่นอยู่ตอนข้ามา บอกตรงๆ ถ้าข้าทำร้ายเจ้ามันก็ยุ่งยาก แต่ถ้าข้าไม่ได้ตีลูกเจ้าก็จะผิดกฎของพระเจ้าอีก”
“ปิศาจต้องฟังพระเจ้าด้วยเหรอ”
“เออสิ!” มันว่า “พระเจ้าก็คือ CEO ไง ถ้าเปรียบแบบมนุษย์ ทั้งทูตสวรรค์ ทั้งปิศาจ ใครต่อใครก็คือพนักงานในบริษัทแค่นั้น”
“แล้วมันมีกฎเกณฑ์อะไรแบ่งแยกว่าเด็กคนนี้ซานต้ามา เด็กคนนี้แครมปัสมา คงไม่มีเด็กคนไหนที่ทำดีอยู่ตลอดเวลาหรอกนะ” ผมถามเพื่อถ่วงเวลา แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่ผมเริ่มอยากรู้ขึ้นมาจริงๆ
“ข้าก็ได้รับรายชื่อมาจากลูกน้องอีกที มันมีเกณฑ์ของมันเหมือนกันแต่ยุ่งยาก ดีหน่อยที่สตีฟเข้ามาทำระบบคอมพิวเตอร์ให้แล้ว เมื่อก่อนไม่มียิ่งแย่กว่านี้้” คงไม่ใช่สตีฟนั้นหรอกนะ
“ขอดูชื่อลูกผมหน่อย”
“เออๆ ให้ดูก็ได้” มันยื่นให้ดูอย่างเบื่อหน่าย “แล้วก็รีบๆ หลีกทางให้ข้าไปตีลูกเจ้าได้แล้ว”
ผมเอากระดาษแผ่นยาวนั่นมาดู “อยู่ตรงไหนเนี่ย”
มันชี้อย่างรำคาญ “นี่ไง เด็กชาย N…”
“ไม่ใช่นะ นี่ไม่ใช่ชื่อลูกผม ชื่อลูกผมต้องมีตัว H ต่อท้ายด้วย”
“หา ไหนเอามาดูซิ” แครมปัสรีบกระชากกระดาษแผ่นนั้นออกไปดู “จริงด้วยว่ะ ยืมโทรศัพท์หน่อยข้าลืมเอามา” ผมยื่นให้อย่างเซ็งๆ จะมีสักกี่คนที่ต้องเอาโทรศัพท์ให้ปิศาจยืม
“ฮัลโหล นี่แครมปัสนะ จะถามเรื่องเด็กที่บ้านอยู่แถวพิกัด X หน่อย อ๋อ เออๆ โอเค เข้าใจละ แค่นี้นะ” มันหันมาทางผม ทำหน้าแหยๆ ซึ่งเอาเข้าจริงแล้วดูประหลาดกว่าหน้าตาแบบน่ากลัวซะอีก “ผิดจริงว่ะ ต้องไปอีกบ้านนึง”
“เฮ้อ เสียเวลาจริงๆ” มันสะบัดไม้ในมือทีหนึ่งแล้วก็หายตัวไป
ประตูห้องนอนเปิดออกอีกครั้ง แฟนผมงัวเงียโผล่หน้าออกมาจากประตูที่แง้มอยู่
“เมื่อกี้ตะโกนอะไรเสียงดังน่ะ ฝันร้ายเหรอ ถ้าจะนอนก็เข้ามานอนในห้องสิ” เธอพูดได้เท่านั้นก็ปิดประตู
“ไม่ใช่นะ ก็ปิ…” คงฝันร้ายจริงแฮะ ปิศาจแครมปัสมันจะมีจริงได้ไง
ผมเอาแก้วโกโก้กับแก้วโซจูไปไว้ที่ซิงค์ล้างจาน ก่อนจะแปรงฟันแล้วเข้าห้องนอน
โทรศัพท์ที่ลืมวางไว้บนโต๊ะ แสดงภาพหมายเลขที่เคยโทร
“K12AMPU5”