รัก,ดราม่า,แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ย้อนยุค,เกิดใหม่ ,ข้ามภพ,รัก,ดราม่า,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ทันทีที่รู้สึกตัวในร่างของเหมยหลินเขาก็สัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่ไหลทะลักเข้ามา ความทรงจำของร่างนี้พร้อมกับวิญญาณของเขาจนหมดสิ้น ความเจ็บปวด อาฆาตแค้น ไม่เข้าใจ เศร้า ความรู้สึกมันปนกันจนจะแยกไม่ออกอยู่แล้ว เหมยหลินไม่มีบ่าวรับใช้ส่วนตัวเพราะว่าสาวใช้คนสนิทของเหมยหลินนั้นถูกคนของฮองเฮาฆ่าตายอย่างทรมาน
"ฮองเฮาและพวกเจ้าทุกคนต้องได้รับผลกรรมอย่างสาสม" ข้าเหมยหลินคนใหม่ ได้กลับมาแล้ว กลับมาทวงแค้นที่พวกเจ้าทุกคนได้กระทำไว้กับข้า แต่ตอนนี้นางต้องทักเรื่องแก้แค้นไว้ก่อน นางต้องหาทางฟื้นฟูร่างกายของตัวเอง
เหมยหลินก้มดูร่างกายของตัวเองก็พบว่าร่างของนางนั้นเป็นสีน้ำเงิน นั่นทำให้เหมยหลินหรือว่าเรื่องที่นางไปพบเทพแห่งโชคชะตาเป็นความจริง ข้างกายของนางมีสร้อยใบโหระพาปรากฏอยู่ เหมยหลินจึงหยิบสร้อยเส้นนั้นขึ้นมาสวมแล้วสีผิวของนางก็ค่อยๆ กลับมาเป็นปกติ
"เจ้ายังไม่ตายอีกหรือ อดีตฮองเฮา" เสียงเย้ยหยันดังออกมาตรงประตู แม่นมที่คอยเป็นผู้เสี้ยมสอนฮองเฮาคนใหม่ให้ทำเรื่องเลวร้ายต่างๆ นี่เอง
"เจียงกุ้ยเหมย สั่งเจ้าให้มาทำร้ายข้าอีกแล้วหรือ"
เพี๊ยะ!! อันหยางตาวาวโรจน์ก่อนที่จะเดินเข้ามาตบหน้าของเหมยหลินจนเลือดซิบ
"ช่างรนหาที่ตาย ฮองเฮาเป็นใคร แล้วเจ้าเป็นใคร ถึงได้มาเรียกชื่อมารดาของแผ่นดินเช่นนี้" เหมยหลินยิ้มเย้ยหยัน
"มารดาของแผ่นดิน ฮ่าๆๆๆๆๆๆ นางน่ะเหรอ แม้แต่ลูกในไส้ของตัวเองนางยังฆ่าได้ ยังกล้าตั้งตัวขึ้นมาเป็นมารดาของแผ่นดินอีกหรือ ช่างน่าขันยิ่งนัก" อันหยางตัวสั่นเทิ้มด้วยความโกรธปนความหวาดกลัว นางรู้ได้อย่างไร
"อันหยางเอ๋ยอันหยาง เจ้าแก่จนจะโลงอยู่แล้ว ยังกล้าทำเรื่องเลวร้ายขนาดนี้อีก เจ้าฆ่าฟางลี่ สาวใช้ของข้า" ด้วยความแค้นที่ท่วมท้นอยู่เต็มอกทำให้เหมยหลินไม่สามารถควบคุมมันได้อีกต่อไป ภาพของฟางลี่ยังปรากฏอยู่ในหัวไม่เคยลบเลือนไปไหน นางต้องตายอย่างทรมาน
"หากเจ้าหายไปสักคน เจียงกุ้ยเหมยจะทำอย่างไรนะ เมื่อไม่มีคนที่จะคอยฆ่าผู้อื่นแทนนาง" เหมยหลินยิ้มออกมาอย่างเย็นชาแล้วสืบเท้าเข้าไปหาอันหยางที่ตอนนี้กำลังตัวสั่นอย่างหวาดกลัว
อันหยางกำลังคิดว่าอะไรที่ทำให้นางสวะนี่เปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้ แววตาเย็นชา ความเจ็บปวดได้แสดงออกมาจากมือข้างที่นางใช้ตบเหมยหลิน
"จ...เจ้าทำอะไรข้า" อันหยางกุมมือของนางที่กลายเป็นสีม่วงคล้ำไปหมดแล้ว แต่เหมยหลินทำหน้าไร้เดียงสาก่อนที่จะหัวเราะออกมาอย่างสำราญใจ
"ข้ายังไม่ได้ทำอะไรเจ้าเลยนะ มีเจ้านั่นแหละ ที่เข้ามาตบข้า" ท่าทางยียวนกวนประสาทของเหมยหลินทำให้อันหยางโกรธเป็นอย่างมากและตรงเข้ามาทำร้ายเหมยหลิน
แต่เหมยหลินหลบทันถึงแม้ร่างกายของนางจะอ่อนแอ แต่จะให้หลบนังแก่หนังเหี่ยวอย่างอันหยางก็ไม่ใช่เรื่องยาก และเหมยหลินก็ข่วนใบหน้าของอันหยางจนเป็นแผล
"กริ๊ด!!! ใบหน้าของข้า"
"จะกรีดร้องอย่างคนเสียขวัญไปไยเล่า ในเมื่อใบหน้าของเจ้ามันก็อัปลักษณ์เกินทนอยู่แล้ว" ฉับพลันใบหน้าที่เป็นปกติของอันหยางก็บวมขึ้นยังดูไม่ได้ นางมั่นใจแล้วว่าจะต้องโดนพิษอย่างแน่นอน
"นังเหมยหลิน เจ้าทำอะไรข้ากันแน่" เหมยหลินมองอันหยางด้วยความเวทนา แต่อันหยางรู้ว่าคนตรงหน้าเสแสร้งสิ้นดี
"ข้าสงสารเจ้าหรอกนะ เห็นว่าใกล้ตายแล้ว ข้าจะช่วยสงเคราะห์บอกให้ก็แล้วกัน อันหยางเจ้ารู้จักหญิงมีพิษหรือไม่" อันหยางส่ายหน้า
"หญิงมีพิษ คือผู้หญิงที่ร่างกายอาบไปด้วยพิษร้ายแรง ทุกส่วนในร่างกายของนางก็คือพิษ เลือดเพียงหยดเดียวของนางก็สามารถฆ่าคนให้ตายได้อย่างทรมาน" อันหยางเบิกตาขึ้นกว้าง หรือว่า....
"ใช่ อย่างที่เจ้าคิดนั่นแหละ อันหยาง" ทันใดนั้นร่างกายของนางก็มีปฏิกิริยารุนแรงต่อเหมยหลิน อันหยางพยายามตะเกียกตะกายหนี แต่มันก็ช่างยากเย็นเหลือเกินในเมื่อความเจ็บปวดยังเล่นงานร่างกายของนางซ้ำๆ จนแทบทนไม่ไหว
"ครานั้นเจ้าฆ่าฟางลี่ จับนางแขวนคอต่อหน้าข้าทั้งๆ ที่นางไม่ได้ทำความผิดอะไร มาได้วันนี้เจ้ากลับหนีความตายของตัวเองหรือ แต่น่าเสียดายที่เจ้าจะไม่มีโอกาสรอดกลับไปหาฮองเฮาผู้เป็นที่รักของเจ้าแน่" เหมยหลินเข้าไปจับขาของอันหยางแล้วกระชากออกมาอย่างรุนแรง
"อ้วยอ้วย (ช่วยด้วย!!!) " ปากของนางไม่สามารถพูดได้อีกต่อไปแล้ว นางหวาดกลัวจับใจแล้วร้องไห้อย่างเวทนา แต่เหมยหลินก็ไม่มีความสงสารให้แม้แต่นิดเดียว
ตอนที่ฟางลี่ขอร้องนางแทบเป็นแทบตายแต่ก็ไม่สำเร็จซ้ำยังแขวนคอนางต่อหน้าเหมยหลิน ที่ตอนนั้นก็ถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัสไม่มีแรงที่จะเข้าไปช่วยสาวใช้ที่เป็นดั่งเพื่อนสนิทของตนเอง
"เจ้าจะร้องขอความช่วยเหลือไปไย ลืมไปแล้วหรือว่าฮองเฮาของเจ้าสั่งให้ทหารออกไปจากตำหนักเย็นแห่งนี้จนไม่เหลือใครที่จะช่วยเจ้าอีกต่อไปแล้ว" ยิ่งได้ฟังอันหยางก็ยิ่งหวาดกลัวมากขึ้นไปอีก
"เอาล่ะ ข้าหมดสนุกแล้ว" เหมยหลินเข้าไปกระชากผมของอันยางอย่างรุนแรง
"มองตาข้า แล้วบอกข้ามาสิเจ้าเห็นอะไร" ทันทีที่ได้เห็นหน้าของเหมยหลินอันหยางก็กรีดร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว สิ่งที่นางเห็นก็คือใบหน้าและดวงตาที่เป็นสีน้ำเงินของเหมยหลิน
อันหยางโดนบังคับให้กินเลือดของเหมยหลินแล้วก็โดนบังคับให้กลืนลงไปในท้อง
"อื้อ!! อื้อ!!! " กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งอยู่เต็มปากอันหยางพยายามจะอาเจียนออกมาแต่ก็ไม่ทันแล้ว ร่างท้วมของอันหยางสั่นกระตุกอย่างรุนแรง ตามร่างกายของนางมีเลือดออกมาเยอะมาก เมื่อใกล้ความตายเข้ามาอันหยางก็ยิ่งเห็นเหตุการณ์ที่นางฆ่าคนมากมายเพื่อฮองเฮา รวมถึงสาวใช้ของอดีตฮองเฮาด้วย นางกำลังคิดว่าที่นางโดนอยู่ตอนนี้มันคือผลกรรมที่ได้นางทำไว้หรือเปล่า ความทรมานปรากฏเด่นชัดอยู่ตามร่างกายไม่มีท่าทีว่าจะหายไปเลยสักนิด อันหยางเริ่มคิดได้แล้วว่าการทำลายชีวิตผู้อื่นมันมีผลต่อตนเองอย่างไร แต่มันสายเกินกว่าจะแก้แล้วในความคิดสุดท้ายของนางเช่นนี้อีกแล้วถ้านางย้อนเวลากลับไปได้นางจะไม่สอนให้ฮองเฮาของนางมีจิตใจที่โหดเหี้ยมเช่นนี้ สุดท้ายนางก็ตายอย่างทรมานสาสมกับกรรมที่นางได้ก่อไว้
เหมยหลินมองดูอันหยางค่อยๆ ตายอย่างทรมานด้วยสายตาที่เย็นชา แต่ในเวลานั้นกลับมีน้ำตาไหลออกมาเป็นทางยาว ตัวของนางสั่นเทิ้มแต่นางก็พยายามสะกดเอาไว้
เหมยหลินร้องไห้ออกมาอย่างสุดจะกลั้น ชาติก่อนนางเป็นแค่คนธรรมดาไม่เคยฆ่าสัตว์ตัดชีวิต มาชาตินี้ความแค้นที่ท่วมท้นเต็มอยู่ในหัวใจสั่งให้นางต้องเข้มแข็ง และไร้หัวใจเข้าไว้ รักครั้งนี้สอนให้นางรู้ว่าจะต้องสูญเสียอะไรไปบ้างเพื่อรักครั้งแรกที่นางทุ่มเทให้ไป
เมื่อนางสงบสติอารมณ์แล้วก็ลุกขึ้นแล้วตรงไปยังส่งของแม่นมอัน เหมยหลินสวมสร้อยคอ กลับไปเหมือนเดิมแล้วลากศพของอันหยางออกไปนอกตำหนักเย็น
เหมยหลินเดินอย่างยากลำบากเพราะลากศพอยู่นางเดินตรงไปตามความทรงจำมุ่งหน้าไปทางอุทยานหลวง แล้วทิ้งศพของแม่นมอันไว้ที่นั่น และเดินกลับตำหนักเย็นอย่างใจเย็นระหว่างทางเหมยหลินก็ทำลายหลักฐานต่างๆ ที่จะสาวไปถึงตัวนางได้อย่างเงียบเชียบ
วันต่อมาก็มีข่าวในวังว่าแม่นมอันของฮองเฮาได้เสียชีวิตอย่างน่าสยดสยองและไม่มีใครหาสาเหตุการตายได้ คนที่ได้รับรู้ข่าวก็ต่างพากันสงสารฮองเฮาเป็นอย่างมากนอกจากนางจะเสียลูกไปแล้วก็ยังเสียแม่นมที่เลี้ยงดูนางมาตั้งแต่ยังเล็ก แต่คนบางกลุ่มที่แม่นมอันกลั่นแกล้งก็ต่างสะใจกันถ้วนหน้าซ้ำยังกล่าวอีกว่านางสมควรโดนแล้ว ใครๆ ก็รู้ว่าแม่นมอันมีนิสัยโหดร้ายแค่ไหน รังแกนางกำนัลเล็กๆ อยู่ร่ำไป ข่าวการตายของแม่นมอันในครั้งนี้สร้างความสะใจให้แก่หมู่นางกำนัลเล็กๆเป็นอย่างมาก
และไม่มีใครสงสัยว่าแม่นมอันไปทำอะไรที่อุทยานหลวงถึงได้ตายอย่างน่าสยดสยองอย่างนั้น