คดีที่ไม่มีที่สิ้นสุดเหยื่อทุกรายล้วนมีบุปผาแปลกตาระดับข้างกายา ร่องรอยคนร้ายที่เป็นปริศนายังไม่แม้แต่จะเจอเลย ครานี้พวกเราจะทำยังไง

สืบดอกไม้แปลก - กลางวันยามมืดมนที่สดใส สองสายตาที่คุ้นชิน โดย pehy blue film @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,อาชญากรรม,สืบสวนสอบสวน,เรื่องสั้น,นักเขียนวัยจิ๋วมาป่วนพล็อตเทลเลอร์,สืบสวนสอบสวน,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

สืบดอกไม้แปลก

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,อาชญากรรม,สืบสวนสอบสวน,เรื่องสั้น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

นักเขียนวัยจิ๋วมาป่วนพล็อตเทลเลอร์,สืบสวนสอบสวน,แฟนตาซี

รายละเอียด

สืบดอกไม้แปลก โดย pehy blue film  @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

คดีที่ไม่มีที่สิ้นสุดเหยื่อทุกรายล้วนมีบุปผาแปลกตาระดับข้างกายา ร่องรอยคนร้ายที่เป็นปริศนายังไม่แม้แต่จะเจอเลย ครานี้พวกเราจะทำยังไง

ผู้แต่ง

pehy blue film

เรื่องย่อ

จะกล่าวว่ากะไรเสียดี 

ยามใดกันที่เราจะได้ร่องลอยคนร้ายเสียที 

ต้องมีผู้คนล้มตายเสียกี่คน เราถึงจะรู้ตัวคนร้ายได้เสียที

นักสืบสวนวัยกลางคนเป็นผู้ริเริ่มในการเปิดบทสนทนาการประชุมในครานี้ เหตุเพราะหล่อนมิสามารถอยู่ใต้อำนาจพวกเบื้องบนนั้นอีกแล


“มันต้องถึงคราวที่เราต้องเล่นเกมนำหน้ามันได้แล้วเสีย”


ความเจ็บปวดในอดีต และ กการหายไปที่น่าสงสัย

มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?



ข้อความระวังภายในเรื่อง

มีการพูดถึงการตายแบบไม่ละเอียด สภาพจิตใจที่ไม่คงที่ของตัวละคร

สารบัญ

สืบดอกไม้แปลก-ค่ำคืนแรก เริ่มต้นเสียสักที,สืบดอกไม้แปลก-กลางวันของวันที่2 สืบหลักฐานประหลาด,สืบดอกไม้แปลก-รุ่งสางที่พบเจอ ชวนให้นึกถึงใครคนนั้น,สืบดอกไม้แปลก-กลางวันยามมืดมนที่สดใส สองสายตาที่คุ้นชิน,สืบดอกไม้แปลก-สัญญากันแล้วนะ แล้วทำไมทำกันเช่นนี้

เนื้อหา

กลางวันยามมืดมนที่สดใส สองสายตาที่คุ้นชิน

เราสองวิ่งประคบจบคู่เคียงข้างกัน
สองมือผสานเหมือนคนรักที่วิ่งเล่น
ในยามกลางวันแสงอบอุ่น
แต่เราสองกับไม่ใช่เช่นนั้น


นักสืบและผู้หมวดได้มาสิ้นสุดทางที่เจ้าดอกไม้นั้นรีบวิ่งมายังที่ปริศนา บ้านขนาดกลางที่พออยู่ได้กันแค่สี่คน ผนังบ้านด้านนอกสีซีดจางจนไม่รู้ถึงสีของมัน ประตูที่ดูหรูหรา รอบด้านของบ้านไม่มีหน้าต่างสักบาน มีเพียงช่องลอดให้พอแค่หนูลอดเข้าไปได้ 


เราทั้งคู่หันหน้ามอบมองกัน

“คุณนักสืบครับ” เขาเป็นคนแรกที่พูด หล่อนเพียงพยักหน้าเป็นเชิง ราวกับทั้งคู่สื่อสารกันได้โดยไม่ต้องพูดคุย หล่อนละใบหน้าจากผู้หมวดเข้าประชันกับบ้านตรงหน้า ผู้หมวดทำตามหล่อน 


มือเรียวยาวที่ซีดขาวจับกลอนที่ออกแบบมาจากดอกไม้ หล่อนหมุนตามเข็มนาฬิกาเพื่อปลดล็อกกลอน ดูจากเจ้าสัตว์ประหลาดนั้นและกลอนนี้แล้วคงจะชอบบุปผามากเลยสินะ


ประตูผกาบานนั้นเปิดออกเผยเห็นด้านในที่เต็มไปด้วยกลิ่นของสารเคมีตลบอบอวนทั่วเต็มพื้นที่ ด้านในที่สะอาดสะอ้านทำให้ชวนแปลกใจแตกต่างจากที่ใจเราคิดไว้มากมาย แต่สิ่งหนึ่งยังคงคุ้นตา เหล่าโกสุมมากมายหลากหลายพันธ์ุทั่วทั้งบ้าน กระจัดกระจายเติบโตกันอย่างเป็นระเบียบแบบแผนดอกไม้สีสดไม่มีความรอยช้ำดั่งกับเจ้าของเลี้ยงดูพวกมันดีเป็นอย่างดี พวกเราสองคนย่างก้าวเดินทั่วถึงทุกพื้นที่ภายในบ้าน 


“คุณนักสืบครับ ผมว่ามันก็เหมือนบ้านทั่วไปนะครับ” ผู้หมวดรายงานหลังจากที่ตนตรวจสอบทุกที่แล้ว แต่กลับไม่พบอะไรที่แปลกตาหรือผิดปกติเลย นักสืบสาวหันใบหน้าไปมอบมองอีกฝ่าย กลับกันสายตาตนดันไปสนใจที่เจ้าดอกไม้ประหลาดที่ตอนนี้เกาะติดกับมือของผู้หมวด ชายผู้นั้นเองก็ประคับประคองเจ้านั้นมิวายเล่นกับมันให้หล่อนได้เห็นอีก


“สนิทกันแล้วรึไง” เธอถามอย่างยียวนกวนอีกฝ่าย แต่เขาเพียงแค่ยิ้มตอบให้เธอ แล้วหันไปสนใจเจ้าบุปผาบนมือตน เจ้านั้นเองก็ดูจะชอบใจที่ชายหนุ่มเล่นกับตน


“เจ้าเด็กนี้ น่ารักนะครับแม้ภาพลักษณ์และสถานที่ที่เราเจอจะให้คิดเป็นแบบอื่นก็ตาม” ว่าพลางตนก็ยกเจ้าหนูนั้นมาอยู่ในระดับเดียวกับสายตาของหล่อน นักสืบละสายตาจากเจ้านั้นไปมองคนที่ถือมันแทน 


สองสายตาประสานกัน แลมีเพียงหล่อนเท่านั้นและ

ที่รับรู้ได้ถึงอัตราการเต้นภายในตัวที่มากเกินความจำเป็น

อีกฝ่ายหันหนีไปอีกทิศทาง

และเขาก็พบเจอความผิดปกติ


“คุณนักสืบครับ ตรงกระถางยาวๆนั้นเหมือนจะมีประตูลับนะครับ” เมื่อสิ้นวาจาของเขา หล่อนหันไปตามที่ชายผู้นั้นมองไปตามทิศทางดังกล่าว หล่อนสงสัยขึ้นในใจเดินตรงไปที่กระถางดอกไม้ รวบสองมือยกกระถางขึ้นแต่แรงของหล่อนดันน้อยกว่าน้ำหนักของกระถางนั้นมาก ต่อให้หล่อนออกแรงมากแค่ไหนมันก็แทบจะไม่มีความเปลี่ยนแปลง 


“เจ้าหนู ช่วยคุณนักสือบได้ไหมครับ?” หล่อนหันไปมามองชายที่พูดกับเจ้าดอกประหลาดนั้น ภายในใจของหล่อนล้วนสับสนและงงงวยถึงอีกฝ่าย คนบ้าอะไรคุยกับดอกไม้ เพี้ยนไปแล้วรึไง เจ้าดอกไม้นั้นจะไปช่วยอะไรได้รึไง แต่เมื่อสิ้นคำพล่ำบ่นเจ้าดอกไม้นั้นก็กระโดดออกจากมือสีขาวเรียวสวยนั้น เจ้านั้นงอกกิ่งก้านแข็งแรงยกเจ้ากระถางนั้นขึ้นอย่างง่ายดาย หล่อนเบิกตากว้างขณะดูความสามารถของเจ้านั้นพลันหันไปมองผู้หมวด เขาเพียงแค่ยิ้มบางเบาให้กับหล่อนและเชิดหน้าหันไปมองเจ้าหนูต่อ 


หล่อนกลับมามองอีกทีก็ปรากฏให้เห็นกระตูลับที่อาจจะนำพวกเราไปเจอกับความจริงของคดีนี้สักที เจ้าหนูนั้นเมื่อสิ้นภาระกิจแล้วก็กระโดดขึ้นไปบนมือที่เดิมของมัน เจ้าของมอนั้นก็ลูบเจ้าหนูอย่างถนุถนอม


หล่อนไม่สนใจ เพราะตอนนี้หล่อนสนใจแค่กรอบไม้สีน้ำตาลที่ปะเปื้อนไปด้วยดิน หล่อนยกประตูนั้นขึ้น ด้านหลังประตูนั้นมีบันไดที่นำพาไปข้างล่าง หลอ่นไม่ลังเลใจ นำตัวดำดิ่งลงสู่ด้านล่างห้องมืดมิด คุณผู้หมวดลงตามมาหลังหล่อน


เมื่อลงมาถึงด้านล่าง แหล่งกำเนิดแสงเพียงจุดเดียวที่เข้าตาเราสองและเจ้าหนูติดแม่ที่ตอนนี้ยังเกาะแกะไม่เลิกเสียที ที่ตรงนั้นคือขวดยาเรืองแสงที่มีเครื่องทดลองวิทยาศาสตร์มากมาย ผงละอองมากมายเต็มไปด้วยบริเวณด้านล่างนี้ พวกเราเดินเข้าไปยังแหล่งกำเนิดแสงนั้น และเมื่อเข้าใกล้เรายิ่งเห็นอะไรมากขึ้น สมุดโน้ต ผลการวิจัยที่ทั้งสำเร็จและล้มเหลว สายพันธ์ุดอกไม้คุณสมบัติข้อดีและข้อเสีย และการฟื้นคืนชีพของบุคคลหนึ่งที่ทำให้นักสืบนิ่งค้าง


“ อนาสตาเซีย ลูซินดา? ”


“ นามสกุลคุณนักสืบนิครับ ” ผู้หมวดพูดขึ้นพลันหันไปมองหญิงสาว น้ำสีใสเล็ดรอดจากตัวตาสีน้ำเงินครามเปรอะเปื้อนเต็มใบหน้าของหล่อน 


หล่อนมิได้สนใจชายหนุ่มแต่สิ่งที่หล่อนสนคือร่างของคนที่กำลังสลบอยู่บนแผ่นกรอบสีขาวหนานุ่มนั้น ร่างกายซีดขาวดั่งขนตาย สีผมน้ำเงินเข้มเสมือนหล่อน ริมฝีปากที่ปิดสนิทนั้นเคยเต็มไปด้วยรอยยิ้มให้กับหล่อน เสื้อผ้าแบบที่เธอชอบใส่แต่ไม่เคยได้รับการยอมรับจากหล่อน เพราะเธอเป็นหญิงมิใช่ชาย


“ ในที่สุดก็ได้เจอ ไอฆาตกร ” เสียงปริศนาดังขึ้น

เสียงฝีเท้าก้าวเข้ามาใกล้


ส้นสูง

เสื้อกาว

แว่นตา

ดอกไม้

และกลิ่นของน้องสาว

ครอบครัวเพียงคนเดียว


ที่เธอแกล้งทำหายไปเมื่อหลายปีก่อน


แล้วพบกันเมื่อความจริงถูกเปิดเผย