'ไอรีน' หญิงสาวผู้ชื่นชอบเรื่องราวเกี่ยวกับปราสาท อยู่ๆ เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็ทำให้เธอข้ามเวลาไปในยุคกลาง กลายเป็นองค์หญิงผู้ซึ่งมีเอกลักษณ์ตรงตำราโบราณซึ่งหายาก และที่สำคัญเธอกำลังต้องอภิเษก! แต่เธอหรือจะยอม เพราะเธอดันตกหลุมรักชายโบราณคนหนึ่งตั้งแต่แรกพบ มาร่วมลุ้นเส้นทางความรักโรแมนติก แสบนิดๆ ซนหน่อยๆ ของเธอกันได้เลย
รัก,ตลก,ชาย-หญิง,ยุคกลาง,ข้ามเวลา,พล็อตสร้างกระแส,แฟนตาซี,นิยายรัก,นิยายรัก ,นิยายรักชายหญิง,รักโรแมนติก,โรแมนติก,โรแมนติก ,โรแมนติกแฟนตาซี,องค์หญิง,องค์ชาย,แต่งงาน,ข้ามเวลา,ย้อนเวลา,ยุคกลาง,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ข้ามเวลา มาเป็นองค์หญิงมาริเอลลา'ไอรีน' หญิงสาวผู้ชื่นชอบเรื่องราวเกี่ยวกับปราสาท อยู่ๆ เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็ทำให้เธอข้ามเวลาไปในยุคกลาง กลายเป็นองค์หญิงผู้ซึ่งมีเอกลักษณ์ตรงตำราโบราณซึ่งหายาก และที่สำคัญเธอกำลังต้องอภิเษก! แต่เธอหรือจะยอม เพราะเธอดันตกหลุมรักชายโบราณคนหนึ่งตั้งแต่แรกพบ มาร่วมลุ้นเส้นทางความรักโรแมนติก แสบนิดๆ ซนหน่อยๆ ของเธอกันได้เลย
'ไอรีน' ผู้หลงใหลในเรื่องราวปราสาทของโบราณ
ต้องข้ามเวลาไปยังยุคกลางเพราะเรื่องราวไม่คาดคิด
เธอพบว่า...
ตนเองกลายเป็นองค์หญิงที่หน้าตาไม่เหมือนตัวเองเลยสักนิด
มิหนำซ้ำยังต้องอภิเษกสมรสกับองค์ชายแปลกหน้า!
แต่ท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย
เธอกลับพบกับองครักษ์หนุ่มผู้ซื่อสัตย์
ที่ทำให้หัวใจของเธอหวั่นไหวตั้งแต่แรกพบ
เรื่องราวสุดลุ้นระทึกและความรักสุดน่ารักเริ่มต้นขึ้น
เมื่อเธอต้องเลือกว่า...
จะยอมรับชะตากรรมในโลกยุคกลางนี้
หรือจะหาทางกลับไปสู่โลกที่จากมา
ร่วมเดินทางข้ามกาลเวลา
ไปกับเธอในนิยายที่จะทำให้คุณอมยิ้ม
และหลงรักทุกตัวละคร!
กายาบริสุทธิ์ดุจเพชรใส
ยลนัยน์ตาเขียวมรกตสะกดฝัน
งดงามพริ้งพราวดุจเดือนจันทร์
ผมสวยสัณฑ์นั้นหนาปานปถวี
..
...
“Do you need my help?” (ผมช่วยอะไรคุณได้ไหม?)
“...Umm, Maybe yes, I do” (เอ่อ...อาจจะค่ะ)
ดวงตาเบิกกว้างของ ‘ไอรีน’ หันมองตามเสียงทุ้มที่ดังขึ้นจากด้านหลัง
ชายแปลกหน้าร่างสูงชาวตะวันตกเอ่ยถามเธอด้วยความสุภาพ คงเพราะเห็นเธอพยายามตั้งค่าการถ่ายรูปอัตโนมัติจากมือถือแล้วรีบเดินไปยืนตั้งท่าถ่ายรูปหลายครั้งหลายหนเพื่อให้ได้ภาพที่เธอต้องการ...แต่ก็ยังไม่ได้ดั่งใจเธอเสียที
แชะ!
เขาเลยอาสาช่วยถ่ายรูปให้ และแล้ว...รอยยิ้มเบ่งบานก็เผยบนใบหน้าด้วยความสุขใจเมื่อได้รูปถ่ายที่เธอต้องการจนได้
แสงแดดสาดส่องจากท้องฟ้าอันสดใส ไอรีนเดินอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพังของปราสาทที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นศูนย์กลางของอำนาจและความยิ่งใหญ่ในยุโรป
ตั้งแต่เด็ก เธอหลงใหลในเรื่องราวของปราสาทเสมอมา แต่ความเป็นจริงชีวิตพนักงานเงินเดือนวัย 29 ทำให้ความฝันนั้นดูไกลเกินเอื้อม เงินเก็บที่หามาได้อย่างยากลำบากก็ยังไม่เพียงพอสำหรับค่าตั๋วเครื่องบินสักใบ
จนกระทั่งวันนี้...ที่ฝันของเธอเป็นจริง ด้วยเงินมรดกจากยายจำนวนสามล้านบาท ทำให้เธอได้มาท่องเที่ยวกับทัวร์กึ่งไพรเวท ที่พาเธอไปยังปราสาทหนึ่งในยุโรป
ปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่บนภูเขาสูง เห็นวิวหมู่บ้านด้านล่างได้ 360 องศา มีพื้นที่สี่หมื่นกว่าตารางเมตร หรือเทียบเท่าได้กับห้าสนามฟุตบอล
มิหนำซ้ำ...ยังเคยมีกษัตริย์ที่ประชาชนเคารพรักอาศัยอยู่ก่อนที่เวลาผ่านไปหลายศตวรรษ ความเป็นเจ้าของจึงถูกส่งต่อให้กับขุนนางระดับสูงและถูกเผาทำลายในเวลาต่อมา
“กรี๊ดดดดด ฮ่าๆๆๆๆ”
ไอรีนขมวดคิ้วมุ่นหันไปมองตามเสียงร้องดังสนุกสนานจากด้านหลัง
เด็กฝรั่งน้อยสามคนที่กำลังวิ่งเล่นผ่านหน้าเธอไป โดยมีแม่ของพวกเขาตะโกนตามมาเป็นภาษาที่เธอไม่คุ้นเคย แต่ดูจากท่าทางเธอก็เดาได้ว่าคงบอกให้เด็กๆวิ่งเล่นอย่างระมัดระวัง
เสียงเด็กวิ่งเล่นเองสินะ...
แล้วเธอก็ละความสนใจนั่นไป
หันกลับมายกมือถือขึ้นเพื่อถ่ายเก็บภาพความประทับใจวิวตรงหน้าอีกครั้ง
ก่อนที่สิ่งไม่คาดคิดจะเกิดขึ้น...
“ฮ่าๆๆๆๆ”
“กรี๊ดดดด ฮ่าๆๆๆๆ”
เสียงหัวเราะของเด็กๆ ดังก้องไปทั่วบริเวณ ก่อนที่พวกเขาจะวิ่งไล่กันกลับมาทางเดิมอย่างรวดเร็ว
พลั่ก!
ทันใดนั้น เด็กน้อยคนหนึ่งก็พลาดท่าชนเข้ากับร่างบางของไอรีนอย่างจัง ทำให้มือถือหลุดลอยจากมือของเธอไป พร้อมกับร่างของเธอก็ไถลลงไปตามความลาดเอียงของซากปรักหักพังนี้
เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วเพียงเสี้ยววิ เธอไม่ทันจะได้ส่งเสียงร้องออกมา
หัวของเธอก็กระแทกกับก้อนหินอย่างแรง ก่อนที่สติจะเลือนลางลงเรื่อยๆ ดวงตาค่อยๆ หลับลง
จนทุกอย่าง...
มืดมิด...
...
..
.
เปลือกตาหนักอึ้งค่อยๆ ลืมขึ้น ไอรีนพยายามปรับโฟกัสสายตาที่เบลอให้ชัดเจน
ภาพที่ปรากฏตรงหน้าทำให้เธอรู้สึกสับสน ห้องกว้างใหญ่ บนกำแพงถูกประดับด้วยโคมไฟสีทองอร่าม หน้าต่างยังตกแต่งด้วยผ้าม่านสีเข้มบดบังแสงแดดภายนอกจนมืดครึ้ม
เธอพยายามลุกขึ้นนั่งบนเตียงสี่เสาที่บุด้วยผ้าเนื้อดี แต่ร่างกายยังคงอ่อนล้า
“หม่อมฉันช่วยประคองเพคะองค์หญิง”
แต่ยังดีที่มีมือของใครบางคนมาประคองเธอไว้ หญิงสาวที่แต่งตัวแปลกประหลาดราวกับหลุดมาจากในนิทานที่ผ่านตาเธอมาสมัยยังเด็ก กำลังช่วยให้เธอลุกขึ้นนั่งได้สะดวกขึ้น
‘องค์หญิงงั้นเหรอ?...อะไรกัน...ไม่เข้าใจ...’ ไอรีนคิดในใจ
ความรู้สึกสับสนปะปนเข้ามาอย่างรวดเร็ว ประกอบกับความเจ็บแปลบที่แค่ขยับตัวนิดเดียวก็รู้สึกปวดร้าวไปทั้งตัว สมองพยายามนึกคิดถึงเหตุการณ์ก่อนหน้า เธอจำได้ว่าเธอลื่นไถลตกลงมาจากด้านบนของปราสาทเพราะเด็กเปรตนั่น
ตอนแรกก็ไม่ได้โมโหหรอก แต่ดันวิ่งเล่นจนนำความเดือดร้อนมาให้เธอ มันน่าเตะนัก!
หรือตอนนี้เธอจะตายแล้วขึ้นมาอยู่บนสวรรค์กันนะ...
แต่ไม่ทันที่จะมีเวลาคิดทบทวนมากนัก อยู่ๆ ท้องไส้ก็ปั่นป่วนราวกับจะดันสิ่งที่อยู่ในภายออกมาให้หมดสิ้น
“อุ่ป...”
ไอรีนรีบยกมือขึ้นปิดปากไว้ รู้สึกอยากอาเจียนกระทันหัน
หญิงสาวข้างกายเธอที่พอจะเดาได้ว่าคงเป็นสาวใช้ สังเกตเห็นอาการของไอรีนก็รีบคว้าภาชนะใบใหญ่ยื่นไว้ตรงหน้าเธอ ราวกับรู้ว่าเหตุการณ์ร้ายแรงกำลังจะเกิดขึ้น
แล้วก็เป็นเช่นนั้น
ไอรีนอาเจียนออกมาอย่างหอบเหนื่อย
โอ้กกก!
‘ทะ..ทำไมรู้สึกอ่อนเพลียอย่างนี้นะ หรือหัวฉันกระแทกตอนตกลงมาจากปราสาทจนเลือดคั่งในสมอง ม่ายย!!!...’
“กระหม่อมเกรงว่าพิษยังคงหลงเหลืออยู่ในพระวรกายของพระองค์พะยะค่ะ ขอพระองค์ทรงดื่มน้ำสะอาดให้มาก เพื่อขับพิษออกจากพระวรกายให้หมดสิ้น”
ความประหลาดใจฉายชัดในดวงตาของไอรีนอีกครั้ง เมื่อเงยหน้าขึ้นมาตามเสียงทุ้มต่ำ สบกับสายตาของชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ที่กล่าวด้วยความนอบน้อม
“ท่านผู้นี้คือท่านหมอเพคะองค์หญิง พระองค์ทรงจำได้หรือไม่?” หญิงสาวที่ยังถือชามอาเจียนข้างๆไอรีนกล่าวขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าแววตาของไอรีนที่ดูสับสนงงงวยตั้งแต่เธอตื่นมา
“ท่านหมอ...?”
“เพคะองค์หญิง”
‘สรุปคือฉันมาเข้าร่างผู้หญิงที่เป็นองค์หญิงงั้นเหรอ?’
ห้องนี้ราวกับฉากในภาพยนตร์ยุคกลางที่ถูกเนรมิตขึ้นมา ผนังหินโบราณประดับด้วยภาพวาดอย่างสวยงาม ข้าวของเครื่องใช้ทุกชิ้นล้วนออกแบบอย่างประณีตในสไตล์กอธิก ความรู้สึกไม่ต่างกับหลุดเข้าไปอยู่ในโลกแห่งความฝัน
‘หรือว่าฉันจะตายแล้ว...เอ้ะ! หรือย้อนเวลามา...บ้าน่า...ไร้สาระสิ้นดี...ฝันแน่นอน! ใช่แล้วนี่คือความฝัน!!’
เพียะ!
“องค์หญิง! อย่าเพคะ!”
เธอก็แค่อยากพิสูจน์ว่านี่คือความฝัน
มือเรียวเล็กตบเบาๆ บนแก้มนวลของตนเอง ความเจ็บปวดวาบขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อยืนยันว่านี่ไม่ใช่ฝัน แต่การกระทำของไอรีนกลับทำให้สาวใช้และแพทย์ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ตกตะลึงอย่างมาก ขอร้องให้เธอหยุดทำร้ายร่างกายตนเอง
หากองค์หญิงเป็นอะไรไป มีหรือพวกบ่าวจะไม่ถูกลงโทษตามไปด้วย
‘ไม่ค่อยเจ็บเท่าไหร่ หรือว่าเราฝันจริงๆ’
เพียะ! เพียะ!
“องค์หญิงลงโทษหม่อมฉันแทนเถอะเพคะ”
สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่ไอรีนที่ยังคงตบหน้าตัวเอง ราวกับไม่รับรู้ถึงความตื่นตระหนกของผู้คนรอบข้าง
‘สงสัยต้องตบแรงๆสักที ให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลยว่าเจ็บหรือไม่เจ็บ’
มือเล็กง้างขึ้นสูงกว่าครั้งก่อนๆ เพื่อเตรียมแรงปะทะเข้าที่ใบหน้าตนเองให้แรงกว่าเดิม
พลึบ!
“อย่าทำแบบนี้เลยพะยะค่ะองค์หญิง”
เสียงทุ้มนุ่มเปล่งดังห้าม พร้อมหยุดข้อมือของเธอไว้กลางอากาศ
ไอรีนเงยหน้ามองสบตาผู้ที่ขัดขวางเธอโดยอัตโนมัติ
‘นี่ใครกัน?...ทำไมหล่อจัง...’
แววตาของไอรีนจับจ้องไปยังร่างสูงที่อยู่ใกล้ๆเธอ ราวกับถูกมนสะกด ฝ่ามือหนาของเขาที่ถูกสวมทับด้วยถุงมือหนังสีน้ำตาลยังคงรั้งข้อมือเล็กของเธอไว้ เขาปล่อยมือเธอออกอย่างช้าๆ พร้อมกับก้มศีรษะลงเล็กน้อย
“ขออภัยพะยะค่ะ”
เพียะ!
“โอ๊ย!”
แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรหยุดการกระทำของไอรีนได้ เธอตบแก้มตนเองแรงๆ อีกครั้ง และเธอก็ได้พบกับความจริงว่า...มันเจ็บ
"องค์หญิงเพคะ หม่อมฉันสมควรตาย!"
น้ำเสียงสั่นเครือของหญิงสาวและแพทย์สะท้อนให้เห็นถึงความกดดันที่ถาโถมเข้ามา
"หากพระองค์ทรงกระทำเช่นนี้ ท่านหมอและสาวใช้จะต้องได้รับโทษไปด้วยพะยะค่ะ"
ชายผู้ซึ่งดูเหมือนทหาร ก้มศีรษะลงต่ำราวกับขอร้องอ้อนวอนให้ไอรีนยุติการกระทำที่ทำร้ายตนเองเช่นนี้โดนพลัน
“เดี๋ยวๆ” ไอรีนโพล่งออกมาด้วยความงุนงงราวกับชีวิตของทุกคนขึ้นอยู่กับการกระทำของเธอ “ขอโทษนะคะ ฉันไม่เข้าใจว่าพวกคุณหมายถึงอะไรกัน?”
ความเงียบแผ่ปกคลุมห้อง ไอรีนเฝ้ามองปฏิกิริยาของทุกคนด้วยสายตาที่สับสน ราวกับกำลังไขปริศนาที่หาคำตอบไม่ได้
เธอถอนหายใจยาวด้วยความเหนื่อยใจ สายตาคู่สวยกวาดมองไปรอบๆห้อง ถ้านี่ไม่ใช่ความฝัน หรือเธอจะย้อนเวลามาในยุคกลางงั้นหรือ
แม้ว่าเธอจะชอบเรื่องราวเกี่ยวกับปราสาทมากแค่ไหน และฝันว่าอยากมาเห็นปราสาทจริงกับตาตนเองสักครั้งในชีวิต ส่วนความรู้ประวัติศาสตร์เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้...เป็นศูนย์
แต่แล้วก็มีบางอย่างดึงดูดชวนให้ไอรีนหันไปมอง วิวด้านนอกที่เห็นท้องฟ้ากว้างและก้อนเมฆอันสดใสจากระเบียงห้องนอนนี้
ด้วยความอยากรู้อยากเห็นและต้องการสำรวจที่แปลกๆ เธอขยับตัวลุกขึ้นจากเตียงนุ่มๆ และก้าวเท้าเดินไปยังระเบียงเล็กนั้น แต่ทว่า...
“องค์หญิงอย่าเพคะ!!/พะยะค่ะ!!”
พลึบ!
ร่างสูงของชายทหารที่เคยรั้งมือเธอไม่ให้ตบหน้าตนเองเมื่อครู่เข้าขัดขวางไอรีนโดนพลัน เขายืนประจันหน้าบดบังเส้นทางที่เธอตั้งใจจะไป ใบหน้าหวานเงยหน้าขึ้นมองบุคคลตรงหน้า สายตาเผลอมองลึกเข้าไปในดวงตาสีเทาคู่นั้น อยู่ๆ หัวใจของเธอก็พลันเต้นระรัวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
‘ทะ..ทำไม...หล่อล่ะ! ♬ ก็เธอน่ะน่ารักเกิ๊น เกินจะทน ♪ ’
“ฉันแค่...ขอไปสูดอากาศบริสุทธิ์หน่อยค่ะ” เธอเอ่ยเสียงเบา ก้มหน้าหลบสายตาเขาด้วยความเขินอาย ในขณะนั้นเองสายตาของไอรีนก็เหลือบไปเห็นกระจกที่ตั้งอยู่ข้างๆ ด้วยความบังเอิญ
ภาพสะท้อนในกระจกทำให้เธอต้องลืมหายใจไปชั่วขณะ
หญิงสาวในชุดเดรสสีขาวบริสุทธิ์ผู้นี้มีดวงตาสีเขียวมรกตประกายระยิบระยับราวกับทะเลลึก และเส้นผมสีน้ำตาลเข้มลอนสลวยถึงเอว รูปโฉมที่งดงามราวกับเทพธิดาในเทพนิยาย
‘นั่น...ฉันเหรอ? ทำไมฉัน...มีหน้าตาเหมือนฝรั่งแบบนี้ล่ะ!?’
ไอรีนชะงักฝีเท้าเมื่อเงาในกระจกสะท้อนภาพที่แปลกตา เธอค่อยๆ เดินเข้าใกล้กระจกพลางเลื่อนสายตาสำรวจใบหน้าของตัวเองอย่างตั้งใจ
‘ผีเข้าสิงห์ฉันรึเปล่านะ? ไม่สิ...หรือฉันไปเข้าสิงห์ร่างใคร?’
หัวคิ้วย่นยกขึ้นสูงด้วยความสงสัย มองดูเงาตัวเองในกระจกด้วยแววตาฉงนสนเท่ห์
นี่มันบ้าชัดๆ ย้อนเวลา ข้ามมิติอะไร ไร้สาระสิ้นดี ไอรีนแค่ไม่อยากจะเชื่อว่าจะเกิดเรื่องประหลาดนี้กับตนเอง
“ตาฉันสีอะไร?” ใบหน้าสวยหันมองทหารชายหนุ่มข้างๆ ที่ทำให้เธอใจสั่นเมื่อครู่
“พระเนตรของพระองค์หรือพะยะค่ะ?” เสียงทุ้มนอบน้อมย้อนถามกลับ ไม่เข้าใจว่าองค์หญิงของเขาต้องการสื่ออะไร
“ใช่”
“สีเขียวมรกตพะยะค่ะ”
“แล้วผมฉันล่ะสีอะไร?”
“พระเกศาของพระองค์งามดุจผืนดินอันอุดมสมบูรณ์พะยะค่ะ”
“แล้วฉัน...คือใคร?”
“พระองค์คือ..”
ปัง!
“มาริเอลลา ฟื้นแล้วเหรอลูก!”
ไม่ทันที่เขาจะได้ตอบคำถาม ประตูห้องก็ถูกเปิดพรวดขึ้นมา
หญิงวัยกลางคนในชุดกระโปรงบานสีน้ำเงินสวยสง่าพร้อมเครื่องประดับหรูหรามากมายราวกับเป็นราชินีเดินเข้ามาหาไอรีนพร้อมลูบศีรษะเธอเบาๆอย่างอ่อนโยน
แต่ความอบอุ่นนั้นกลับทำให้ไอรีนยิ่งสับสน...นางคนนี้เป็นใครกัน?
‘เมื่อกี้เรียกฉัน...มา..อะไรล่าล่านะ?’
ยังไม่ทันที่ไอรีนจะได้เอ่ยถามคำใด บุคคลปริศนาอีกร่างก็ปรากฏอยู่ที่หน้าประตูห้องของเธอพร้อมส่งเสียงก้องกังวานทำให้ทุกคนต้องหันไปมองพร้อมกัน
"องค์หญิง ลูกพ่อ!"
ด้วยท่าทางสง่างามราวกับเป็นกษัตริย์ เขาผู้สวมมงกุฎทองคำปรากฏกายขึ้นตรงหน้าไอรีน พร้อมแววตาของเขาเต็มไปด้วยความห่วงใย
แต่กลับกัน...ยิ่งมีคนเข้ามาหาไอรีนมากเท่าไร ความสับสนในใจของเธอก็ยิ่งทวีคูณมากเท่านั้น
‘ไม่ไหวแล้ว...อาการนี้มาอีกแล้ว...’
ความรู้สึกคลื่นไส้ประทุขึ้นมาอีกครั้ง ความเครียดและความสับสนทำให้ร่างกายของเธอประท้วง เธอยกมือขึ้นเล็กน้อยส่งสัญญาณไปทางสาวใช้ที่ยังนั่งคุกเข่าอยู่ไม่ไกลนัก ให้นำภาชนะใบใหญ่มาให้เธอโดยพลัน
โอ้กกกกก!
‘เกิดอะไรขึ้นกับฉันกันเนี่ยยยย!!!’