ร่วมกันปิดคดี ในนิยายสืบสวนเกินจะคาดคิด เมื่อการตายที่ดูเหมือนจะธรรมดาของหมอวันดี นำไปสู่ความลับอันดำมืด ที่ไม่อาจคาดเดา จงอย่าไว้ใจใคร! จงอย่าเชื่อใจใคร! เพราะแม้แต่เงาในกระจกอาจจะไม่ใช่ของจริง!!
ชาย-ชาย,สืบสวนสอบสวน,อาชญากรรม,ดราม่า,จิตวิทยา,yaoi,ดราม่า,สืบสวนสอบสวน,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
[มี E-Book] The Murder ผมว่านี่คือคดีฆาตรกรรม SS.2ร่วมกันปิดคดี ในนิยายสืบสวนเกินจะคาดคิด เมื่อการตายที่ดูเหมือนจะธรรมดาของหมอวันดี นำไปสู่ความลับอันดำมืด ที่ไม่อาจคาดเดา จงอย่าไว้ใจใคร! จงอย่าเชื่อใจใคร! เพราะแม้แต่เงาในกระจกอาจจะไม่ใช่ของจริง!!
บทที่ 5
ในตอนนั้นผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่ามาถึงที่คลินิกของพี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ พี่พอลพาผมไปด้านบนทันที เมื่อผมเดินขึ้นมาด้านบนสุดขาของผมอยู่ๆ ก็สั่นจนไร้เรี่ยวแรง มีตำรวจหลายคนที่นี่ทุกคนพากันมองผม
“ไม่ต้องกลัวนะ พี่จะอยู่ข้างๆ” พี่พอลพาผมมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องห้องหนึ่ง เมื่อเปิดประตูเข้าไปสิ่งที่ผมเห็นทำผมหายใจไม่ออก ทุกอย่างเหมือนกับดิ่งลงก้นเหว ร่างของพี่ถูกห้อยอยู่ตรงระเบียง ไม่มีสีสันใดบนใบหน้า มีเพียงสีเขียวช้ำพี่ทำแบบนั้นทำไม ทำไปทำไม
“พี่..”
“ผมจะพาญาติผู้เสียชีวิตออกไป” พี่พอลพยุงผมลงไปด้านล่าง
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น! ทำไมพี่ถึง!”
“ทูดี เรื่องนี้สำคัญมาก ห้ามพูดอะไรฟังพี่อย่างเดียว วันเขาถูกฆ่า ไม่ได้ฆ่าตัวตาย ใครถามอะไรให้บอกไม่รู้ ห้ามไว้ใจใคร ห้ามบอกว่าเรารู้จักกัน ฟังพี่เข้าใจหรือเปล่า” ผมพยักหน้าน้ำตาของผมไหลลงมาอย่างพรั่งพรู มีคำถามมากมายอยู่ในหัว แต่มีสิ่งหนึ่งที่ชัดเจนยิ่งกว่า พี่วันไม่อยู่แล้ว เขาไม่อยู่แล้ว มีคนฆ่าพี่วัน ตอนนี้เหลือผมเพียงคนเดียว ผมไม่มีใครอีกแล้ว
ในวันนั้นตำรวจถามผมแค่ไม่กี่คำ ถามว่าผมไปไหนมาผมบอกแค่ว่าไปเที่ยวกับเพื่อน นั่งรถเล่นแล้วกลับมาตอนตีสี่กว่าๆ เวลานั้นผมอยู่ในห้องคนเดียวในเวลาที่พี่เสียชีวิต เรื่องที่สารวัตรอานนท์กำลังสืบอยู่ รวมทั้งเรื่องที่ผมเพิ่งจำได้ในอดีตผมไม่ได้พูดมันออกมา จากนั้นตำรวจก็ถามถึงอาการป่วยของพี่ ถามย้ำแต่เรื่องนั้นมากกว่าเรื่องที่พี่ผิดใจกับใครไหม มีคนรักหรือเปล่า ราวกับต้องการสรุปเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด แน่นอนในเช้าวันต่อมาเรื่องของพี่ก็ออกข่าวเพียงสั้นๆ ‘หมอศัลยกรรมความงามอันดับต้นๆ ของประเทศจบชีวิตตนเองจากโรคซึมเศร้า’
‘ทูดี กินอะไรหรือยัง’
‘กินข้าวด้วยนะ พี่คงไปหาเราไม่ได้ช่วงนี้ มีบางอย่างที่พี่ต้องจัดการ’
พี่พอลส่งข้อความมาหาผมเป็นระยะ ในขณะที่ผมกำลังจมดิ่งอยู่ในก้นของหุบเหว ใครฆ่าพี่วัน คำถามนี้ผุดขึ้นมาในห้วงความคิด ผมเริ่มตระหนักก่อนที่จะเข้าไปในห้องนอนของพี่ ลองหาอะไรที่ดูน่าสงสัย
“ไม่มีเลย” ผมพึมพำเบาๆ กับตัวเอง แล้วนั่งลงที่โต๊ะทำงานของพี่มองรูปที่วางอยู่คู่กัน
“ไม่เหลือใครอีกแล้วล่ะ จะอยู่ต่อดีไหมนะ” ผมนั่งห่อตัวอยู่แบบนั้นไม่รู้ว่านานเท่าไหร่
‘มีอะไรให้พี่ช่วยไหม’ สารวัตรนนท์ส่งข้อความมาหาผม ผมถึงตัดสินใจลงไปจุดนัดพบครั้งก่อน
“ได้กินข้าวบ้างหรือเปล่า” ผมไม่ตอบ ได้แต่มองแม่น้ำที่อยู่ตรงหน้า หากไม่มีเรือแล่นอยู่ผมคงไม่รู้ว่าตรงนั้นเป็นแม่น้ำ เพราะมันมืดมากจริงๆ พวกเรานั่งอยู่ตรงนี้มานานแค่ไหนไม่รู้ แต่แล้วเหมือนพี่นนท์จะตัดสินใจเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้
“ทูดี หมอวันดีถูกฆาตกรรม” ผมหันไปมองด้วยความตกใจ เพราะผมไม่ได้พูดเรื่องน้ีกับใครอย่างที่พี่พอลสั่ง
“พี่นนท์ รู้ได้ยังไงครับ”
“อย่างที่พี่บอก พี่ตามสืบเรื่องของหมอวันดีมาเกือบสามปี แต่ตอนนี้ข้อมูลสืบสวนของหมอสิปปากร ถูกแก้หลายส่วน ส่วนสำคัญถูกลบไปจนหมด หมอวันดีเคยติดต่อกับใครบ้างถูกลบออกเหมือนกัน รวมทั้งกล้องวงจรปิดถูกทำลาย”
“พี่ไม่ได้มีเรื่องกับใคร ทำไมถึงมีคนอยากฆ่าพี่ล่ะครับ”
“ทูดี…พี่วันของทูดี ไม่ได้ขาวสะอาดอย่างที่ทูดีรู้หรอกนะ”
“ผมไม่อยากฟังเรื่องนี้”
“ทูดี นายต้องตัดสินใจว่าจะเดินหน้าต่อ หรือจะปล่อยทุกเรื่องให้เป็นแบบนี้ ท้ายที่สุดนายเองอาจจะจมดิ่งจนหาตัวเองไม่เจอก็ได้นะ”
“ผมไม่เหลือใครแล้วนี่ครับ จะอยู่ยังไง จะเป็นยังไง ก็ช่างผมเถอะ”
“ทูดี ลองคิดดูอีกทีนะ” ผมเดินกลับขึ้นห้องด้วยความสับสน ‘ตัวตนจริงๆ ของผมงั้นเหรอ’ ก็แค่คนขี้ขลาดมากๆ คนหนึ่งเท่านั้นเอง
สองวันมานี้ผมยังคงจมปลักกับสิ่งที่เกิดขึ้นจนกระทั่งทางโรงพยาบาลโทรมาให้ผมไปรับศพพี่เพื่อบำเพ็ญกุศลทางศาสนา
“ผมจะไปที่คลินิกของพี่” ผมส่งข้อความหาพี่พอล แต่ดูเหมือนพี่พอลจะไม่ได้อ่านข้อความของผมมาหลายวันแล้ว ตั้งแต่ที่พี่พอลสั่งให้ผมเซ็นต์ชื่อรับเรื่องคดีของพี่วันว่าเป็นการฆ่าตัวตาย
ความทรงจำที่ดีงั้นเหรอ ผมมองคลินิกของพี่ที่ตอนนี้ถูกล้อมด้วยสายสีเหลือง ครั้งเดียวที่ผมมาที่นี่คือเมื่อ 7 เดือนก่อน ครั้งที่พี่บอกกับผมว่าอยากสร้างความทรงจำที่นี่ในวันเกิดของผม
“ของถูกย้ายไปจนหมด” พี่นนท์พูดขึ้นหลังจากที่เราเงียบมานาน
“พี่คิดว่ายังไงครับ”
“แม้จะสรุปว่าเป็นการฆ่าตัวตายกลับเก็บหลักฐานไว้จนไม่เหลือเลย”
“ตอนนี้ทั้งมือถือ คอม โน๊ตบุ๊ค ไอแพด แม้แต่นาฬิกาของพี่ถูกยึดไปจนหมด”
“คนที่ฆ่าคุณหมอต้องเป็นมืออาชีพ หรือไม่ก็ต้องเป็น…ตำรวจ”
“คุณสงสัย…”
“พี่บอกแล้วว่าพี่สืบเรื่องของหมอมาสามปี ถึงนายไม่พูดพี่ก็รู้ว่าคุณหมอวันดีคบใคร ร้อยตำรวจเอกพอควร”
“พี่พอลไม่มีทางฆ่าพี่วันได้หรอก พี่พอลรักพี่มาก”
“ทูดีรู้หรือเปล่าว่าพี่ชายของคุณไม่ได้คบแค่คนเดียว”
“ผู้หญิงคนนั้น”
“มีแค่สองคนที่น่าสงสัยมากที่สุดจากเหตุหึงหวง และทั้งสองคนเกี่ยวข้องกับวงการตำรวจทั้งคู่”
“พี่นนท์รู้จักผู้หญิงคนนั้นเหรอครับ”
“แพทย์ชันสูตรศพ แพทย์หญิงจีรนันท์ ลูกสาวของพันตำรวจโทจำลอง หัวหน้าโดยตรงของหมวดพอควร” พอได้ยินแบบนี้ในวันที่พี่วันกับพี่พอลทะเลาะกันก็เป็นรูปเป็นร่าง ขนาดจะกีดกันทั้งคู่พี่พอลยังทำไม่ได้เลย เรื่องที่ฆ่าพี่วันยิ่งทำไม่ได้
“ทุกคนเลยตกเป็นผู้ต้องสงสัยใช่ไหมครับ”
“ใช่”
“แล้วผมล่ะครับ”
“ถ้าหากเป็นคนอื่นที่รับทำคดีนี้ แน่นอนทูดีคือผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่ง คนที่จะได้รับผลประโยชน์มหาศาลจากการเสียชีวิตของพี่ชาย รวมทั้งสมบัติที่พ่อกับแม่ของนายทิ้งเอาไว้ให้ ถ้าแยกเป็นสองคดีเรื่องการตายของพ่อแม่นายยังไงก็ถูกปัดตก เพราะตอนนั้นนายอยู่ต่างประเทศบันทึกการเข้าออกในพาสปอร์ตระบุชัดเจน ส่วนเรื่องของพี่ชายนายยังไงคงหนีไม่พ้นหากมีการเปิดคดีขึ้นมาใหม่ ไม่แน่คนร้ายตัวจริงอาจโยนความผิดมาให้คุณ การสรุปว่าพี่ชายนายฆ่าตัวตายจึงเป็นเรื่องดีกับนายไปด้วย”
“แต่ว่าคนร้ายตัวจริงก็จะลอยนวล”
“เพราะแบบนี้ เราเลยต้องสืบเรื่องนี้ให้แน่ใจก่อน ส่วนเรื่องวันนั้นพี่กับทูดีอยู่ด้วยกัน หากเรื่องนี้พาดพิงมาถึงนายจริงๆ พี่ก็พร้อมจะเป็นพยานให้ อยู่ที่ทูดีแล้ว จะเลือกว่านายต้องการให้เรื่องเป็นแบบไหน”
“ผม…” หากเรื่องนี้ถูกขุดให้ลึกลงไปจริงๆ เรื่องในอดีตที่เคยเกิดขึ้น รอยด่างที่พี่เคยสร้างไว้ให้ในวัยเด็กมันต้องหวนกลับมา และมันคงกัดกินอยู่อย่างนั้นจนผมหมดลมหายใจลงไปเอง
“ผมอยากสืบเรื่องนี้เงียบๆ ก่อน”
“ถ้าอย่างนั้น ตอนนี้สิ่งที่เราทำได้คือรวบรวมหลักฐานทุกอย่างที่เราพอมี”
“ครับ”
“ส่วนเรื่องที่ทูดีเซ็นต์เอกสารไม่ติดใจการตาย คงพอซื้อเวลาได้ อย่างน้อยพวกมันก็จะไม่มายุ่งกับเรา”
“ครับ”
“ถ้าเป็นอย่างนั้น ต่อไปทูดีต้องกินข้าว พักผ่อนเยอะๆ ยังมีหลายเรื่องที่ทูดีต้องจัดการ”
“ตอนนี้ผมอยากได้ทนายที่ไว้ใจได้ เดินเรื่องเอกสารต่างๆ ให้ผม ผมคงไม่สะดวก”
“ทนายเหรอ…ได้สิ พี่จะให้คนที่หน่วยหาทนายที่ไว้ใจได้มา” ผมมองคนที่รับอาสา ในเวลานี้ผมก็ไม่ได้ไว้ใจใครมากนักแม้แต่สารวัตรอานนท์เองก็เถอะ
“ผม…”
“ไม่ไว้พี่เหรอ แล้วถ้าพี่บอกว่าความจริงแล้วพี่เป็นเด็กกำพร้าที่โตมาในมูลนิธิของหิรัญรักล่ะ”
“ครับ!?”
“ที่พี่เพิ่งมาสืบคดีพ่อกับแม่ของทูดี เป็นเพราะพี่เพิ่งได้ย้ายมาที่กองสืบสวนพิเศษสากลหน่วย 3 เมื่อ 3 ปีก่อนคดีแรกที่พี่ตั้งใจสืบก็คือคดีนี้”
“ทำไมพี่นนท์ไม่บอกผมตั้งแต่แรกล่ะครับ”
“ตอนที่พวกท่านเสียพี่ก็เข้าเพิ่งเข้ารับราชการตำรวจ พี่นึกขอบคุณพวกท่านเสมอ หากไม่มีมูลนิธิหิรัญรักก็ไม่รู้ว่าตอนนี้พี่จะกลายเป็นแบบไหน”
“ผมไปที่นั่นทุกปี”
“เด็กขี้อายวันนั้นโตเป็นหนุ่มแล้วจริงๆ”
“แต่ก็ใช่ว่าผมต้องไว้ใจพี่นนท์นี่ครับ”
“อ้าว ยังไม่ไว้ใจอีกเหรอ”
“ครับ ไม่ไว้ใจครับ” พี่นนท์ถอนหายใจ พลางยิ้มอ่อน
“ก็ดี อย่าไว้ใจใครง่ายๆ ถูกแล้วครับ”
“เรื่องเอกสารต่างๆ คงต้องฝากพี่นนท์แล้วนะครับ”
“ตอนนี้ศพคุณหมออยู่ที่ไหน”
“น่าจะอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”
“โรงพยาบาลอะไร”
“โรงพยาบาลในเขตคลินิกครับ”
“ถ้าอย่างนั้นหมอจีรนันท์ก็เป็นหมอพิสูจน์ศพสิ!!”