ร่วมกันปิดคดี ในนิยายสืบสวนเกินจะคาดคิด เมื่อการตายที่ดูเหมือนจะธรรมดาของหมอวันดี นำไปสู่ความลับอันดำมืด ที่ไม่อาจคาดเดา จงอย่าไว้ใจใคร! จงอย่าเชื่อใจใคร! เพราะแม้แต่เงาในกระจกอาจจะไม่ใช่ของจริง!!
ชาย-ชาย,สืบสวนสอบสวน,อาชญากรรม,ดราม่า,จิตวิทยา,yaoi,ดราม่า,สืบสวนสอบสวน,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
[มี E-Book] The Murder ผมว่านี่คือคดีฆาตรกรรม SS.2ร่วมกันปิดคดี ในนิยายสืบสวนเกินจะคาดคิด เมื่อการตายที่ดูเหมือนจะธรรมดาของหมอวันดี นำไปสู่ความลับอันดำมืด ที่ไม่อาจคาดเดา จงอย่าไว้ใจใคร! จงอย่าเชื่อใจใคร! เพราะแม้แต่เงาในกระจกอาจจะไม่ใช่ของจริง!!
บทที่ 6
เหมือนตอนนี้ความน่าสงสัยทั้งหมด จะอยู่ที่หมอจี แพทย์หญิงจีรนันท์ ลูกสาวคนเดียวของพันตำรวจโทจำลอง ทั้งหน้าที่การงาน ทั้งอำนาจในการเก็บหลักฐานหมอจี มีโอกาสทำลายได้ทั้งหมดในเมื่อญาติเซ็นต์ยอมรับการเสียชีวิตโดยการฆ่าตัวตาย ร่างของหมอวันก็ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์อย่างละเอียด นั่นจะกลายเป็นโอกาสให้หมอคนนั้นทำลายหลักฐานอย่างที่สารวัตรอานนท์พูดหรือเปล่า
“อย่าเพิ่งรีบปักใจเชื่อ” พี่นนท์เหมือนจะเข้าใจสิ่งที่ผมคิด
“ครับ”
“อย่างแรกคงต้องเอาร่างของหมอวันดีออกมาซะก่อน พี่จะส่งไปชันสูตรซ้ำถ้าหากพบความผิดปกติเราจะรื้อคดี ช่วงนี้ทูดีรอข้อความของพี่แล้วกันนะ”
“ครับ”
รอ…คำนี้เป็นคำที่สั้นมากแต่กินเวลานานเท่าไหร่ไม่มีใครบอกได้ ถึงจะเป็นแค่คำสั้นๆ แต่คนบางคนใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อคำแค่คำเดียว ‘รอ’
พี่พอลบอกให้ผมทำพิธีทางศาสนาให้พี่วัน จากนั้นก็รอ พี่พอลจะหาคนมาสืบเรื่องของพี่วันเอง
[พี่ให้บริษัทรับจ้างจัดงานให้เรียบร้อยแล้ว ทูดีไม่ต้องเป็นห่วงนะ] พี่นนท์ส่งข้อความมาหาผมจากนั้นผมก็แค่นั่งอยู่ที่หน้าโลงศพไม่ต้องพูดอะไร ในงานมีแค่พนักงานของพี่มาแค่ไม่กี่คน คนจัดงานทำหน้าที่ต้อนรับแขกไม่มีใครเข้ามายุ่งกับผม เพื่อนที่เรียนหมอมาด้วยกันก็ไม่มีใครมา อาจเป็นเพราะผมไม่ได้บอกใครก็เป็นไปได้
‘พี่ได้คนที่จะมาสืบเรื่องของวันแล้วนะ’
“ครับ?”
‘พี่รู้จักคนคนหนึ่งเป็นนักข่าวอิสระ ไม่ถูกกับตำรวจ นักการเมือง และหมอชันสูตร’
“หมอชันสูตร…”
‘คนรักเก่าหมอจีรนันท์ เขาชื่อว่าแทนไท พี่จะส่งข้อมูลไปให้ถ้าทูดี อีกอย่างเรื่องที่เราสืบมันเสี่ยงมาก เพราะงั้นเราต้องมั่นใจว่าหมอนั่นจะร่วมมือกับเราจริงๆ’
“ครับ” ดูเหมือนตอนนี้ทุกคนต่างสงสัยเหมือนกันหมดว่าคนที่ฆ่าพี่วันคือหมอจี การดึงคนรักเก่าของหมอจีมาสืบคดีมันจะโอเคจริงๆ เหรอหากเขายังรู้สึกดีต่อกันล่ะ คำถามนี้เข้ามาในหัวของผมในขณะที่กำลังค้นหาข้อมูลตามที่พี่พอลส่งมาให้
ในตอนนั้นเองที่ผมได้พบกับความจริงอีกเรื่อง และมันก็ทำให้ผมมองพี่ไม่เหมือนเดิมตลอดกาล!!
เกือบหนึ่งอาทิตย์ที่ผมจมดิ่งไม่รู้จะไปในทิศทางไหนเพียงแต่ทั้งพี่พอล และสารวัตรนนท์ต่างก็ปักใจเชื่อว่าพี่วันถูกหมอจีรนันท์ผู้หญิงที่เคยไปอาละวาดที่คลินิกฆ่าตาย แต่จะให้หาเหตุผลมาโต้แย้ง ว่าอาจเป็นเพราะโรคที่พี่กำลังเผชิญอยู่ก็ได้ถึงทำให้พี่ตัดสินใจแบบนั้น หึ..แน่นอนในส่วนลึกของผมมันรู้ดีว่า ‘ไม่มีทาง!’
ตอนนี้ห้องของพี่เริ่มมีข้าวของระเกะระกะ ผมเริ่มหาบางอย่างที่พอจะหาได้ แม้ไม่รู้จะหาอะไรแต่ก็หาไปเรื่อยๆ ก่อนที่สายตาผมจะเจอลังเก็บของเก่าใบหนึ่งวางไว้อยู่ใต้เตียง และเมื่อผมเปิดมันออกก็พบว่ามันคือโทรศัพท์รุ่นเก่าที่พี่ไม่ใช้แล้ว
“อยู่ที่นี่เอง” ผมหาโทรศัพท์เครื่องนั้นที่พี่ใช้มันสมัยมัธยมตอนที่ผมอยู่ ม.5 รุ่นที่ใช้ก็พอจะจำได้เพราะพี่ใช้เครื่องนั้นอยู่นานมาก และมันก็เป็นความทรงจำสุดท้ายที่ผมจำได้ก่อนจะแยกกับพี่
โทรศัพท์รุ่นสุดฮิตที่ไม่ว่าใครก็ต้องออกตาม ใครไม่มีถือว่าเชยและรู้สึกไม่เข้าพวก แน่นอนผมก็เป็นหนึ่งคนในนั้นแต่ไม่ใช่กับพี่
เมื่อผมพยายามเปิดเครื่องก็พบว่ามันเปิดไม่ขึ้นเป็นเพราะผ่านมานานหลายปี ก่อนที่ผมลองเปิดมือถือเครื่องอื่นแน่นอนทุกเครื่องเป็นเหมือนกันหมดผมเอาโทรศัพท์มือถือรุ่นเก่าๆ หากระเป๋าใส่ตั้งใจจะไปหาสายชาร์จจากร้านค้าใกล้ๆ ยกเว้นเครื่องล่าสุดที่พี่เพิ่งเปลี่ยนเมื่อปีที่แล้ว ทำไมน่ะเหรอเพราะมันใช้สายชาร์จเดียวกับรุ่นล่าสุด และสายชาร์จก็อยู่ที่ห้องนอนของพี่พอดี!!
จะเรียกเทคโนโลยีนี้ว่าอย่างไรดี ทันทีที่ผมเสียบสายชาร์จเครื่องก็เปิดขึ้นมาเองอัตโนมัติ มันให้ผมใส่รหัส แต่ยังไม่ทันที่ผมจะลองใส่ตัวเลขที่ผมรู้ สายเรียกเข้าเครื่องของผมก็กระหน่ำเข้ามาไม่หยุด
‘ทูดี อย่าเปิดเครื่องปิดเครื่องเดี๋ยวนี้!!’
เสียงพี่นนท์สั่งอย่างเด็ดขาดผมรีบปิดตามที่พี่นนท์สั่ง พี่เขารู้ได้ยังไง! ผมรีบปิดเครื่องอย่างลนลาน มือของผมยังสั่นไม่หาย! ผมทำอะไรผิด!
“ปิดแล้วครับ ปิดแล้ว!” ผมบอกปลายสายด้วยความตกใจ
‘รีบออกมาจากห้องเดี๋ยวนี้!!’
“ครับ” ผมรีบวิ่งลงไปข้างล่างตามที่พี่นนท์บอก ผมรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วใบหน้า เหงื่อในมือชุ่มจนผมต้องถูกับกางเกง หัวใจของผมเต้นระรัวก่อนจะรู้ว่าตัวเองทำอะไรพลาดไป ‘ระบบติดตามเครื่อง’
“ไอ้ระบบนี้มัน” แต่แล้วผมก็รู้สาเหตุที่พี่นนท์ตกใจขนาดนั้นผมสบถออกมาด้วยความโง่เขลาของตัวเอง ในเมื่อพี่นนท์รู้ตำรวจคนอื่นก็ต้องรู้เหมือนกัน!!
‘…ทูดี ตอนนี้นายอยู่ที่ไหน’ ไม่นานพี่พอลก็โทรเข้ามา เสียงของพี่พอลพูดอย่างแผ่วเบาเหมือนกับกำลังกระซิบอยู่ ตอนที่ผมเดินลงมาข้างล่างได้ครู่เดียว
“ผมเพิ่งลงมาธุระข้างล่างครับ”
‘เปิดไฟในห้องไว้หรือเปล่า’ เอ๊ะ! ผมจำได้ว่าผมปิดไฟเอาไว้และตอนนี้ไฟในห้องเปิดอยู่!
“พี่พอล…พี่อยู่ข้างบนเหรอครับ” น้ำเสียงของผมสั่นจนตัวผมเองก็ยังรู้สึก ใจหนึ่งก็ไม่อยากเชื่อว่าพี่พอลจะคือคนร้าย
‘พี่อยู่หน้าห้อง คนในห้อง…คือพวกมัน!’ ในตอนนั้นเองที่ผมได้ยินเสียงพี่พอลเคาะประตูรัวๆ แล้วตามมาด้วยเสียงสัญญาณไฟไหม้ ‘โทรศัพท์!!’ ผมสะดุ้งจนสุดตัว หากแต่ขาของผมที่ตั้งใจวิ่งกลับไปที่ห้องมีมือของใครบางคน คว้าแขนผมเอาไว้!!
“ปล่อยผม!!”
“พี่เอง นี่พี่เอง ทูดี”
“พี่นนท์”
“ทางนั้นให้หมวดพอลจัดการอีกครู่เดียวก็น่าจะเรียบร้อย”
“นี่มันเรื่องอะไรกันครับ”
“พวกมันคงกลัวว่าทูดีจะเห็นหลักฐานที่อยู่ในโทรศัพท์เครื่องเก่าของหมอวันดี”
“โทรศัพท์ชาร์จอยู่ข้างบนครับ”
“ตอนนี้คงไม่อยู่แล้ว”
“ถ้าอย่างนั้น ผม…เพิ่งทำลายหลักฐานชิ้นสุดท้ายไปใช่ไหมครับ”
“ความจริง…มันถูกทำลายตั้งแต่วันแรกที่พวกมันได้มือถือที่หมอใช้อยู่ไปแล้ว เพียงแต่พวกมันอยากทำให้แน่ใจว่าจะไม่มีข้อมูลอื่นหลุดรอด ไม่แน่ตอนนี้มันอาจกำลังหันมาเล่นงานทูดีอยู่ก็ได้”
“ถ้าอย่างนั้นผม…”
“ไปอยู่กับพี่ไหม อย่างน้อยพี่จะได้ดูแลทูดีได้ไง”
“…ไม่ครับ…ถ้าผมไปพวกมันคงรู้ว่าผมไหวตัวทัน ที่พวกมันเลือกตอนที่ผมไม่อยู่อาจเป็นเพราะพวกมันอยากให้ผมเอาหลักฐานที่พี่อาจซ่อนไว้ออกมาอีกก็ได้”
“นั่นสิทั้งพี่ ทั้งหมวดพอลตอนนี้ยังเปิดเผยตัวไม่ได้ ให้ทูดีอยู่คนเดียวพี่ก็ไม่วางใจ พี่…เป็นห่วง”
“ไม่เป็นไรครับ…ผม พอจะมีทางออก” ผมบอกพี่นนท์ถึงเรื่องนายตำรวจเก่าที่ผันตัวเองไปเป็นนักข่าวอิสระ ถึงแม้จะเป็นพี่พอลที่แนะนำให้แต่ในเวลานี้ผมไม่กล้าไว้ใจใครเลย แม้แต่พี่พอลเอง
“โอเค พี่จะตรวจสอบนายแทนไทให้เร็วที่สุด และก็ใครเคาะอย่าเปิดมีอะไรให้รีบโทรหาพี่ให้ไวที่สุด เข้าใจใช่ไหม”
“ครับ พี่นนท์ครับ ขอบคุณนะครับ”
ไม่นานนักพี่พอล และนิติบุคคลก็ส่งข้อความว่าคอนโดอยู่ในสถานการณ์ปกติ ผมเลยแยกจากพี่นนท์ แต่แล้วผมก็นึกขึ้นได้ว่าผมตกใจจนถือกระเป๋าที่ใส่โทรศัพท์เครื่องเก่า ของพี่มาด้วยเลยแวะซื้อสายชาร์จในร้านขายมือถือที่ยังเปิดอยู่ใกล้ๆ คอนโด
ทันทีที่ผมถึงห้อง ผมรีบเข้าไปชาร์จโทรศัพท์มือถือทุกเครื่องที่ไม่ใช้ระบบเดียวกับเครื่องรุ่นใหม่ ยังไม่ทันที่ผมจะลองเปิดเครื่องเสียงกริ๊งหน้าห้องก็ดังขึ้น
“พี่พอล” ผมลังเลครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจเปิดให้พี่พอลเข้ามา สิ่งที่ผมเห็นสภาพของพี่พอลสะบักสะบอมจนผมตกใจรีบวิ่งเข้าไปรับร่างที่จะล้มไปกองที่พื้น
“ทูดี ปลอดภัยใช่ไหม…กลับมาที่ห้องอีกทำไม”
“ผมไม่รู้จะไปที่ไหน พี่พอลไปโดนอะไรมาครับ”
“โดนพวกเดียวกันเล่นน่ะ”
“หรือว่า…”
“ใช่ พวกมันรู้แล้วว่าพี่คบกับวันคอยช่วยเหลือวันแบบลับๆ อีกไม่นานพวกมันคงจะบอกนักข่าว”
“เรื่องอะไรครับ พี่กับพี่วันทำอะไรกันแน่!!”
“ทูดี พี่ขอใช้ห้องวันสักพักแล้วกัน ไว้พี่จะบอกทูดีทุกอย่างเอง”
คืนนั้นทั้งคืนผมได้ยินเสียงพี่พอลร้องไห้ ตัดพ้อตัวเองที่ไม่ได้อยู่ข้างๆ พี่ในตอนที่พี่ต้องการ
‘ถ้าพอลอยู่ข้างวัน เรื่องทุกอย่างคงไม่เป็นแบบนี้’
และเมื่อเสียงของพี่พอลเงียบลง ผมถึงนึกขึ้นมาได้ ‘มือถือเครื่องเก่า’ ผมเลือกที่จะเปิดเครื่องที่ผมจำได้ก่อน อยากจะทำให้แน่ใจว่าความทรงจำที่ผุดขึ้นมา มันไม่ได้บิดเบี้ยวผิดเพี้ยนไปตามกาลเวลาและเมื่อผมเปิดมันขึ้นมา [ภาพพักหน้าจอ เป็นรูปของผมเอง]
“….” ในหัวของผมว่างเปล่ารูปที่ถูกซ่อนเอาไว้เป็นรูปของผมที่นอนเปลือยเปล่าอยู่บนเตียง ถูกมัดด้วยเข็มขัดสีดำ
‘มันคือความจริงที่ไม่อาจหนีพ้น’ นั่นคือสิ่งที่ผมเตรียมใจเอาไว้อยู่แล้ว แต่เมื่อผมเลื่อนไปที่ภาพอื่นในมือถือของพี่มีแต่ภาพแอบถ่าย และตั้งใจถ่ายส่วนใหญ่เป็นรูปของผม!!
“พี่…” หากผมเป็นเพียงเด็กยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ผมคงคิดว่าพี่แค่รักผมมากๆ เหมือนพี่ชายคนอื่นทั่วไป แต่ตอนนี้ผมโตพอจะรู้แล้วว่ามันไม่ใช่ ผมรีบปิดเครื่องและซ่อนมันเอาไว้ ‘ไม่จำเป็นที่คนอื่นต้องรู้ในเมื่อพี่ก็จากไปแล้ว’
ผมมองโทรศัพท์เครื่องอื่น ก่อนจะสุ่มเปิดเครื่องที่คิดว่าน่าจะเป็นรุ่นใหม่กว่า รุ่นที่ผมเพิ่งเปิดไปคงไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้อีกแล้ว และนั่นคือสิ่งที่ผมคิด แต่ผมคิดผิด!!