คดีที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่คดีธรรมดา ยิ่งสืบยิ่งเข้าใกล้ความจริงกลับค้นพบ ความดำมืดในจิตใจมนุษย์มากขึ้น และคนร้ายกับใกล้ตัวมากกว่าที่ คุณคิด!!
อาชญากรรม,ดราม่า,สืบสวนสอบสวน,ชาย-ชาย,จิตวิทยา,พล็อตสร้างกระแส,ดราม่า,สืบสวนสอบสวน,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
[มี E-Book] The Murder ผมว่านี่คือคดีฆาตกรรม SS.1คดีที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่คดีธรรมดา ยิ่งสืบยิ่งเข้าใกล้ความจริงกลับค้นพบ ความดำมืดในจิตใจมนุษย์มากขึ้น และคนร้ายกับใกล้ตัวมากกว่าที่ คุณคิด!!
มี E-Book นะคะ
บทที่ 1
04:45 นาที ผมยกกล้องตัวโปรดขึ้นเสมอดวงตา เงยใบหน้าที่เต็มไปด้วยหนวดเคราครึ้มเขียวพร้อมกับกลั้นหายใจนิ่ง เล็งปลายกระบอกเลนส์ไปที่ชั้น 3 ของระเบียงบ้านเดี่ยวสไตล์สตูดิโอขนาด 3 ชั้น หากมองด้วยตาเปล่า จะเห็นเป็นเพียงเงาคนยืนนิ่งไม่ไหวติง แต่ในความเป็นจริงเมื่อซูมเข้าไปใกล้ๆ สิ่งที่เห็นนั่นคือร่างของหมอศัลยกรรมตกแต่งความงามที่กำลังมีชื่อเสียง แขวนคอตัวเองกับราวผ้าม่าน!!
ผมลั่นชัตเตอร์รัวๆ เก็บรายละเอียดจากด้านนอก จนกระทั่งเจ้าหน้าที่นำร่างที่ไร้วิญญาณออกจากริมระเบียง แม้จะเป็นช่วงเวลาใกล้เช้า หากแต่เสียงอื้ออึงก็ดังเซ็งแซ่เป็นกลุ่มใหญ่ ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์กันตามประสาไทยมุง ที่ต่างสนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใกล้ๆ เคหะสถานณ์ของตน ดังเข้าหูมาไม่ได้ขาดสาย ในที่สุดผมก็ลดกล้องลงแล้วเดินไปหาข้อมูลจากคนที่ยืนจับกลุ่มคุยกัน แหล่งข่าวที่ดีที่สุดคงหนีไม่พ้นบรรดาป้าข้างบ้านนี่แหละ
“หมอแกเป็นคนอัธยาศัยดี ยิ้มเก่ง ไม่น่าคิดสั้นเลย”
“ไม่เคยได้ยินว่าหมอทะเลาะกับใครนะ”
“เรื่องเงินหรือเปล่า เห็นว่าแกเพิ่งย้ายมาสาขานี้ได้ปีกว่าๆ ไม่ใช่ว่าแกหมุนเงินไม่ทันเหรอ”
“เป็นไปได้ๆ” เสียงอื้ออึงหลายเสียงเหมือนยืนยันสิ่งที่พวกเขาเข้าใจ ผมทำได้แต่เพียงพยักหน้า จดรายละเอียดที่ได้มา
“กว่ารปภ.จะมาเกือบ 15 นาทีตามแล้วตามอีก ไม่รู้ไปแอบหลับที่ไหน”
“คนนั้นเหรอครับ” ผมหันหน้าไปมองคนที่กำลังยืนให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เสื้อผ้าที่ใส่ไม่ได้เรียบร้อยนัก เสื้อเครื่องแบบสีฟ้าอยู่นอกกางเกง ผมเผ้ายุ่งเหยิงจนออกมานอกหมวก ผมถ่ายรูปเก็บไว้ด้วยความรู้สึกสงสัยเล็กๆ เหตุใดร.ป.ภ หมู่บ้านใหญ่โตถึงละทิ้งหน้าที่ในวันที่มีลูกบ้านฆ่าตัวตายพอดี!! แต่ก็นะ…นี่ไม่ใช่คดีแรกที่พนักงานรักษาความปลอดภัยละทิ้งหน้าที่สักหน่อย ยิ่งเมื่อคืนบรรยากาศน่าซดน้ำเมาซะขนาดนั้น!!
“ใช่ๆ ไม่รู้มันแอบกินเหล้าหรือเปล่า ว่าแล้วสักวันต้องเกิดเรื่อง ฝากผีฝากไข้กับมันไม่ได้เลยจริง ดีที่ว่ามันพูดง่าย ใช้อะไรก็ทำ แต่เข้าเวรดึกทีไรหายหัวทุกที”
“แล้วใครเป็นคนพบศพล่ะครับ”
“บ้านฝั่งตรงข้าม คนนั้นค่ะ เขาบอกลุกไปเข้าห้องน้ำแล้วรู้สึกผิดปกติ”
“ผู้ชายคนนั้นเหรอ”
“ใช่ๆ” ผมมองคนที่แต่งตัวเตรียมไปทำงาน ผู้ชายท่าทางสะอาดสะอ้านยืนคุยกับตำรวจอีกคนไม่ไกลกันนัก แต่ไม่ว่ายังไงเรื่องนี้ที่แปลกที่สุดคงไม่ใช่เรื่องนี้ บางสิ่งที่ติดอยู่ในใจผมตั้งแต่มาถึงที่เกิดเหตุ คงเป็นเรื่องที่มีผมเป็นนักข่าวเพียงคนเดียวที่ทำข่าว!!
แม้ผมจะได้ข้อมูลจากชาวบ้านให้พอเขียนข่าว สุดท้ายเรื่องสืบสวนคงต้องเป็นหน้าที่ของตำรวจอยู่ดี วันนี้หน้าที่ของผมทำได้เพียงถ่ายรูปหาข้อมูลนิดๆ หน่อยๆ ส่งให้เพื่อนรักที่ยังหลับไม่ตื่น คดีนี้มันเกิดขึ้นช่วงใกล้เช้า คนอย่างไอ้ดุล ไม่มีทางลุกขึ้นมาจากเตียงง่ายๆ ถ้าไม่ใช่คดีดังระดับประเทศ!! ยิ่งหลังจากผมส่งงานให้ไอ้บ้าในผับได้เงินมาก้อนใหญ่ ผมกับมันนั่งฉลองด้วยกันตามประสาเพื่อนรักที่คบกันมานานหลายปี เพิ่งจะแยกย้ายกันไม่ถึงชั่วโมง มันไม่มีทางลากสังขารมาทำงานที่ไกลจากบ้านมันหลายสิบกิโลแน่นอน ไอ้ดุลส่งเพียงข้อความสั้นๆ มาให้ผมทำงานแทนไม่เน้นเนื้อ!! เป็นอันรู้กัน โชคดีที่บ้านของผมใกล้กับที่เกิดเหตุไม่อย่างนั้น ผมเองคงเทงานมันทิ้งเหมือนกัน!!
“ขอทางหน่อยครับ” เจ้าหน้าที่กู้ภัยสองคนพากันยกเปลหาม ออกมาจากบ้าน ผมกดชัตเตอร์รัวๆ เมื่อเห็นคนที่นอนอยู่บนนั้นอย่างเต็มตา แม้จะมีผ้าห่อร่างแต่ก็ไม่ได้มิดชิดซะจนไม่เห็นใบหน้าที่ซีดเผือก ดวงตาปิดสนิท และรอยรัดที่คอ!!
“อย่าถ่ายครับ!! อย่าถ่าย!!” เจ้าหน้าที่กู้ภัยบอกคนที่ยกกล้องสมาร์ทโฟนขึ้นมารวมทั้งผมด้วย แน่นอนภาพที่ผมได้ก็มากพอให้ไอ้ดุลเอาไปทำข่าววันพรุ่งนี้
“นึกว่าใคร ที่แท้ก็ตำรวจเก่านี่เอง” เสียงนกเสียงกาดังขึ้นข้างหูผมช่างน่ารำคาญจนกลายเป็นความเคยชินซะอย่างนั้น ก็นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมได้ยินประโยคแบบนี้นี่ครับ
“รู้จักผมเหรอ”
“รู้จักสิครับ อดีตร้อยตำรวจเอกแทนไท ผมชอบผลงานคุณมากเลยนะ แต่ผมว่าถ้าคุณยังอยู่ต้องจับคนร้ายได้มากกว่านี้แน่ๆ ขนาดส.ส คนดังคุณยังงัดข้อมาแล้วเลย”
“ผมน่ะคงไม่มีโอกาสจับผู้ร้ายแล้ว คงต้องฝากความหวังไว้ที่ตำรวจอย่างคุณ หวังว่าจะทำงานคุ้มเงินประชาชนนะครับ” ผมเดินออกมาจากจุดที่ตำรวจนายนั้นพยายามปั่นประสาทผม 3 ปีแล้วที่ผมเจอกับคนประเภทนี้ ไม่มีสักครั้งที่ผมหัวเสียเลย ทำไมน่ะเหรอครับ…ก็เพราะในเวลานั้นผมทำหน้าที่ของผมอย่างดีที่สุดแล้ว ไม่ได้ตกเป็นทาสทุนนิยมจนละเลยกฎหมาย แม้จะต้องแลกกับหน้าที่การงาน และคนรัก แต่สำหรับผมนั่นคือเกียรติและศักดิ์ศรีที่ผมจะเชิดหน้าสบตาคนอื่นได้อย่างเต็มตาได้ทั้งชีวิต!!
ช่วงสายวันต่อมา คดีที่ผมขายข่าวให้ไอ้บ้าเมื่อคืนโด่งดังอย่างที่คิดเอาไว้ไม่ว่าเปิดข่าวช่องไหนก็เจอเนื้อหาคล้ายกันหมด ไฮโซหนุ่มชื่อดังมอมเหล้าพริตตี้สาวแล้วพาไปข่มขืนที่โรงแรม ถ้ามองเผินๆ เหมือนกับข่าวคนดังล่อลวงทั่วไป ทุกคนต่างพากันเข้าข้างเหยื่ออย่างชัดเจน เหอะ! เบื้องหลังน่ะเหรอไอ้คนที่จ้างผมทำข่าว ต้องการงานประมูลที่ไฮโซคนนั้นเพิ่งประมูลได้ และคนที่จ้างผมก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นเพื่อนสนิทของไฮโซหนุ่มนั่นแหละ ที่ส่งพริตตี้สาวไปเป็นเหยื่อล่อส่วนเธอได้เยอะแค่ไหนน่ะเหรอ เรียกว่าจบงานนี้สบายไปอีกหลายเดือน!! วงการธุรกิจก็แบบนี้ถ้าคุณไม่ระวังตัว คุณจะโดนแทงข้างหลังอย่างง่ายดายและตกเป็นจำเลยสังคมโดยใช้ประเด็นเปราะบางเป็นสื่อนำ กว่าจะพิสูจน์ตัวเองได้คงอีกสักพัก แม้คุณจะบริสุทธิ์ราวกับผ้าขาวแต่ถ้าไม่มีทนายเก่งกาจจะไม่รอด!! ผมว่าไฮโซนั่นคงหาได้ไม่ยากหรอกจริงไหมครับ
ส่วนคดีเมื่อคืนกลับไม่ได้รับความสนใจอะไรมากมายนัก ซึ่งก็ตรงกับที่ผมคาดเอาไว้ สื่อนำเสนอข่าวไฮโซแทบไม่เหลือเวลาให้ข่าวอื่น สรุปตัดเนื้อหาเพียงสั้นๆ คดีฆ่าตัวตายกรอบหน้าสื่อเล็กๆ และรวดเร็ว ราวกับไม่ได้สำคัญอะไร เป็นรูปแบบการฆ่าตัวตายที่มักพบได้ทั่วไปกับคดีแบบนี้ ไม่สามารถเรียกความสนใจจากผู้ชมได้ เหมือนกับที่นักข่าวชอบพูดกันว่า เขาไม่เล่นข่าวนี้!! หมอวันดี นายแพทย์สิปปากร หิรัญรักษ์ มีหนี้สินรุมเร้า บวกกับมีโรคประจำตัวเป็นโรคซึมเศร้า ทำให้ก่อเหตุขึ้นในช่วงกลางดึก เบื้องต้นญาติมาของรับศพ ไม่ติดใจสาเหตุการตาย ส่วนพิธีศพจะจัดขึ้นตามพิธีทางศาสนาต่อไป เรื่องมันก็ควรจะจบเพียงแค่นั้น…จนผมเกือบลืมคดีนี้ไปแล้ว ถ้าเพียงแต่ผมไม่ได้รับข้อความที่ส่งมาที่อีเมลส่วนตัวหลังจากนั้น 2 อาทิตย์ต่อมา….
คดีหมอวันดี คดีนี้ไม่ใช่คดีฆ่าตัวตาย!!
Flower blood
ผมเปิดอ่านอย่างอดเสียไม่ได้ เมื่ออีกฝ่ายแนบไฟล์รูปภาพพร้อมคลิปวีดีโอความยาวไม่มากส่งมาให้ดูครบถ้วนซะขนาดนั้น ภาพที่ปรากฏเป็นภาพถ่ายของหมอวันดีในสภาพที่ชัดเจน คนที่ถ่ายรูปนี้ถ้าไม่ใช่ญาติก็เป็นเจ้าของคดีไม่อย่างนั้นภาพที่ได้คงถ่ายไม่ใกล้ได้ขนาดนี้แน่
หมอวันดี หรือนาย สิปปากร หิรัญรัก อายุ 26 ปี ผู้เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตาย เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2565 เวลาพบศพ 04:20 จากสภาพศพคาดว่าผู้ตายเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง ผู้พบศพคือ ผู้ที่พักอาศัยอยู่ฝั่งตรงข้ามของบ้านโดยเห็นความผิดปกติจากทางหน้าต่างชั้นสองของห้องนอนตัวเอง พบว่าคุณหมอนั่งอยู่ที่ระเบียงนิ่งเป็นเวลานาน ตั้งแต่ประมาณเที่ยงคืนกว่าๆ พยานที่พบเห็นให้การว่า ตนออกมาเข้าห้องน้ำถ่ายหนักใช้เวลาพอสมควร แต่ก็พบว่าคุณหมอยังนั่งอยู่ตอนกลับเข้าห้องนอน และประมาณ 04:00 ตนตื่นนอนจะไปทำงานช่วงเช้า พบว่าคุณหมอยืนอยู่ในความสูงแบบผิดปกติ ตนจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาตรวจสอบ ก่อนพบว่าคุณหมอแขวนคอตนด้วยสายไฟกับราวเหล็กผ้าม่านแล้ว
ผมเปิดคลิปจากกล้องวงจรปิดของบ้านฝั่งตรงข้ามที่บุคคลปริศนาส่งมาให้ เห็นเพียงชั้น 1 และชั้น 2 เท่านั้น จากคลิปที่เห็นไม่มีใครเข้าออกคลีนิกคุณหมอเลยตั้งแต่ 17:00 น. มีแต่พนักงานที่กลับบ้านตามปกติ แถมเห็นได้ชัดว่ามีรถของคุณหมอจอดอยู่เพียงคันเดียว!!
จากการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุไม่พบสิ่งผิดปกติ หรือการต่อสู้ใดๆ มีเพียงยาที่ใช้การรักษาโรคไบโพล่า และโรคซึมเศร้า เพียงเท่านั้น
หากแต่รูปที่ผมได้รับมันทำให้ผมรู้สึกประหลาดใจ จนต้องขยายดูให้ชัดเพื่อความชัวร์นั่นคือ บริเวณคอของหมอมีรอยรัดด้วยเชือกถึง 2 ชนิด รอยที่ 1 เป็นรอยม่วงเข้มเล็กๆ รอบคอยาวรั้งไปถึงบริเวณสันกราม ผิวหนังขึ้นสีช้ำตรงกับวัตถุหลักฐานที่ใช้ในการก่อเหตุคือสายไฟ รอยที่ 2 เป็นรอยจางกดผิวหนังบริเวณคอ รั้งไปถึงท้ายทอยด้านหลัง รอยมีขนาดกว้างกว่ารอยที่ 1 ประมาณ 1 นิ้วได้ จุดสังเกตอีกอย่างดวงตาปิดสนิทผิดวิสัยคนฆ่าตัวตายด้วยการแขวนคอ ไม่มีอาการลิ้นจุกปากแต่อย่างใด ที่แขนศพมีจุดเล็กบริเวณแขนคล้ายรอยเข็มฉีดยา น่าแปลกที่ศพของคุณหมอวันดีมีพิรุธมากมายแต่ได้รับการยืนยันว่าฆ่าตัวตายด้วยเวลาอันรวดเร็ว ทั้งที่การหาสาเหตุการตายต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ ก่อนจะนำมาสรุปสำนวน นั่นทำให้ผมอยากรู้คนที่รับผิดชอบคดีทั้งหมด!!
แพทย์ที่ลงความเห็นสาเหตุการตาย แพทย์หญิงจีรนันท์ สารทอเพ็ชร “หึ” ช่างน่าขันที่เรื่องบังเอิญเกิดขึ้นกับผมอีกครั้ง เธอคือคนรักเก่าที่เลิกรากันไปแบบไม่ดีนัก ในช่วงชีวิตของผมที่ขาลงสุดๆ กับคดีที่ทำให้ผมรู้ซึ้งถึงด้านมืดจิตใจมนุษย์แม้แต่กับคนรักที่เคยคิดว่าเธอคือคนที่ฟ้าประทานมาให้ กลับกลายเป็นคนที่ผมไม่เคยรู้จักมาก่อน
3 ปีที่แล้ว…
“ไม่พบสารโซลีนในเลือด!! เป็นไปได้ยังไงมันเป็นการวางเพลิงชัดๆ จีทำอะไรกับผลการตรวจ แทนคิดว่าจีจะอยู่ข้างแทนซะอีก”
“ก็ผลตรวจออกมาเป็นแบบนี้นี่คะ!! แทนมั่นใจเกินไปหรือเปล่าว่ามันเป็นการวางเพลิง”
“แทนมีหลักฐาน เจอทั้งคราบน้ำมันในที่เกิดเหตุ ไหนจะถังน้ำมันที่ตกอยู่ รอยนิ้วมือที่ไม่ตรงกับใครเลย กล้องวงจรปิดอีก แล้วจีจะให้แทนบอกพวกเขาได้ยังไงว่าไม่ใช่การวางเพลิง”
“แทน แทนก็ไม่ได้โง่นี่คะ หลักฐานทางนิติถ้าเอาไปแย้งในชั้นศาล ศาลท่านก็ต้องระบุว่าเป็นการตายจากอุบัติเหตุอยู่แล้ว ยังไงแทนก็แพ้”
“ถ้าอย่างนั้น แทนจะเอาศพไปตรวจหลักฐานที่อื่น”
“เชิญเลยค่ะ ถ้าญาติๆ เขาอยากให้แทนช่วยนะคะ”
“จีหมายความว่ายังไง”
“จีก็หมายความตามที่บอก การใช้นิติเวชจากที่อื่นมีค่าใช้จ่ายสูง อีกอย่างเงินเยียวยาที่ท่านช่วยก็น่าจะมากพอให้คนพวกนั้นไม่ติดใจเอาความ”
“แต่พวกเขาตายเพราะนายทุนนะ พวกเขาจะอยากได้เงินสกปรกพวกนั้นทำไม ถ้าเป็นครอบครัวจี จีจะรู้สึกยังไง”
“แทน!! แทนอย่าโลกสวยได้ไหม ที่ดินเป็นของท่าน ท่านจะทำอะไรกับมันก็ได้ คนพวกนั้นต่างหากที่พยายามยึดของๆ ที่ไม่ใช่ของตัวเอง จีก็แค่ทำทุกอย่างตามหน้าที่ แทนอย่าพาลจะดีกว่า”
คดีวางเพลิงเมื่อ 3 ปีก่อนทำคนตายไปถึง 6 คน มีชาวบ้านไร้ที่อยู่ถึง 17 ครัวเรือน หากแต่อดีตคนรักของผมกลับช่วยเหลือคนทำผิดลงความเห็นว่าทุกคนเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจและโดนไฟครอกตาย จุดวางเพลิงอยู่ในบ้านร้างไม่มีไฟฟ้า ตีวงกว้างราวกับล้อมสถานที่เกิดเหตุไม่ให้คนในครอบครัวนั้นเหลือรอด เธอกลายเป็นคนเลือดเย็นแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมกับหมอนิติเวชที่คบกันมานานอย่างหมอจี เริ่มสะบั้นความสัมพันธ์ ผมหมดศัทธาในตัวของเธอโดยสิ้นเชิง…
“ถ้าผลการพิสูจน์นี้เป็นเท็จบางทีคดีนี้อาจไม่ใช่คดีฆ่าตัวตายทั่วไป!!”
ควันสีเทาถูกปล่อยออกมาจากริมฝีปากหยาบหนาของผม ถ้าผมจะรื้อคดีนี้ คนแรกที่ผมต้องไปหาคงเป็นญาติเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ของหมอวันดี นายทักษกร หิรัญรัก หรือไม่ก็ตอบกลับคนที่ส่งข้อความ! คนที่ส่งเรื่องนี้มาให้เหมือนจะรู้เรื่องในอดีตของผมดีในระดับหนึ่ง รวมถึงอดีตคนรักที่เลิกรากันไป เพราะทุกอย่างดูจงใจให้ผมเห็นรายละเอียดทุกอย่าง ราวกับต้องการเปิดทางให้ผมแก้แค้นกับเรื่องเมื่อ 3 ปีก่อน!!
“ผมจะติดต่อคุณได้ยังไง”
ตึ๊ง!! ข้อความที่ผมส่งไปถูกตอบกลับมาในเวลาอันรวดเร็ว
[ผมจะติดต่อคุณไปอีกครั้งเอง]
“คุณต้องการให้ผมช่วยอะไรกันแน่ ผมเป็นแค่นักข่าวอิสระ”
[แค่นั้นก็พอแล้ว]
“คุณจะให้ผมเท่าไหร่ ถ้าผมจะช่วยคุณเปิดโปงคดีนี้”
[แล้วแต่คุณจะเรียกเลย]“เจ็ดหลัก” นั่นคือตัวเลขที่ผมแกล้งเสนอไป ผมอยากรู้คนที่ให้ผมสืบอยู่ในระดับไหน ถ้าเป็นนักการเมืองกับคดีแบบนี้ ที่ไร้ซึ่งผลประโยชน์เขาจะไม่มีทางจ่าย แน่นอนผมไม่ค่อยถูกชะตากับคนพวกนี้เท่าไหร่นัก ถ้าเป็นแบบนั้นผมไม่คิดจะเข้าไปยุ่ง แม้คดีนี้จะน่าสนใจมากแค่ไหนก็ตาม
[ตกลง]
ถ้าย้อนเวลากลับไปเมื่อหลายปีก่อน ข้อความพวกนี้คงจะถูกผมโยนไว้ในเมลขยะแล้วหลงลืมมันไป แต่เมื่อเวลาผ่านไปได้รู้จิตใจดำมืดของมนุษย์มากขึ้น ข้อความเล็กๆ นี้อาจเป็นสัญญาณขอความช่วยเหลือจากใครสักคน ที่กำลังสิ้นหวัง คนที่เคยโดนหักหลัง โดนสิ่งที่เคยยึดมั่นทิ้งให้ต่อสู้จนหมดหนทาง กลายเป็นหมาจนตรอกอย่างผม คงทำอะไรที่มีประโยชน์มากกว่าปล่อยชีวิตให้ซังกะตายไปวันๆ ถ้าหากได้เจอเจ้าตัวแล้วถูกคอ เงินเจ็ดหลักสำหรับผมก็ไม่มีความหมาย…และผมไม่ได้ต้องการอะไรจากคนที่กำลังยากไร้แม้แต่สตางค์แดงเดียว!
“เริ่มจากญาติที่เหลือเพียงคนเดียว” ผมปักหมุดนายทักษกรคนแรก ส่งข้อความไปหาเพื่อนที่พอช่วยผมสืบหาที่อยู่ของน้องชายหมอได้ จากนั้นก็ทิ้งตัวลงนอนท่ามกลางกองเสื้อผ้าที่ยังไม่ได้ซัก กระป๋องเบียร์ ถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่วางระเกะระกะเต็มพื้นห้องอย่างไม่แยแสอะไรนัก ก่อนจะหลับตาลง
[ผมคือคนที่คุณกำลังตามหา]
——————————————————————
ศัพท์เฉพาะ
1.แก๊สโซลีน หรือน้ำมันเชื้อเพลิง ที่อยู่ในน้ำมันเบนซิน
2.อัตฆาตกรรม หมายถึง การกระทำให้ตนเองถึงแก่ความตาย