คดีที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่คดีธรรมดา ยิ่งสืบยิ่งเข้าใกล้ความจริงกลับค้นพบ ความดำมืดในจิตใจมนุษย์มากขึ้น และคนร้ายกับใกล้ตัวมากกว่าที่ คุณคิด!!

[มี E-Book] The Murder ผมว่านี่คือคดีฆาตกรรม SS.1 - กักขังหน่วงเหนี่ยว ตอนที่ 3 โดย Glutamate @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

อาชญากรรม,ดราม่า,สืบสวนสอบสวน,ชาย-ชาย,จิตวิทยา,พล็อตสร้างกระแส,ดราม่า,สืบสวนสอบสวน,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

[มี E-Book] The Murder ผมว่านี่คือคดีฆาตกรรม SS.1

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

อาชญากรรม,ดราม่า,สืบสวนสอบสวน,ชาย-ชาย,จิตวิทยา

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พล็อตสร้างกระแส,ดราม่า,สืบสวนสอบสวน

รายละเอียด

[มี E-Book] The Murder ผมว่านี่คือคดีฆาตกรรม SS.1 โดย Glutamate  @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

คดีที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่คดีธรรมดา ยิ่งสืบยิ่งเข้าใกล้ความจริงกลับค้นพบ ความดำมืดในจิตใจมนุษย์มากขึ้น และคนร้ายกับใกล้ตัวมากกว่าที่ คุณคิด!!

ผู้แต่ง

Glutamate

เรื่องย่อ

มี E-Book นะคะ

สารบัญ

[มี E-Book] The Murder ผมว่านี่คือคดีฆาตกรรม SS.1-บทนำ บทนำ,[มี E-Book] The Murder ผมว่านี่คือคดีฆาตกรรม SS.1-อัตฆาตกรรม ตอนที่ 1,[มี E-Book] The Murder ผมว่านี่คือคดีฆาตกรรม SS.1-อัตฆาตกรรม ตอนที่ 2,[มี E-Book] The Murder ผมว่านี่คือคดีฆาตกรรม SS.1-อัตฆาตกรรม ตอนที่ 3,[มี E-Book] The Murder ผมว่านี่คือคดีฆาตกรรม SS.1-อัตฆาตกรรม ตอนที่ 4,[มี E-Book] The Murder ผมว่านี่คือคดีฆาตกรรม SS.1-กักขังหน่วงเหนี่ยว ตอนที่ 1,[มี E-Book] The Murder ผมว่านี่คือคดีฆาตกรรม SS.1-กักขังหน่วงเหนี่ยว ตอนที่ 2,[มี E-Book] The Murder ผมว่านี่คือคดีฆาตกรรม SS.1-กักขังหน่วงเหนี่ยว ตอนที่ 3,[มี E-Book] The Murder ผมว่านี่คือคดีฆาตกรรม SS.1-กักขังหน่วงเหนี่ยว ตอนที่ 4,[มี E-Book] The Murder ผมว่านี่คือคดีฆาตกรรม SS.1-นายนกต่อ ตอนที่ 1,[มี E-Book] The Murder ผมว่านี่คือคดีฆาตกรรม SS.1-นายนกต่อ ตอนที่ 2,[มี E-Book] The Murder ผมว่านี่คือคดีฆาตกรรม SS.1-นายนกต่อ ตอนที่ 3,[มี E-Book] The Murder ผมว่านี่คือคดีฆาตกรรม SS.1-นายนกต่อ ตอนที่ 4,[มี E-Book] The Murder ผมว่านี่คือคดีฆาตกรรม SS.1-ปริศนากับหลวงพี่ใจบุญ ตอนที่ 1,[มี E-Book] The Murder ผมว่านี่คือคดีฆาตกรรม SS.1-ปริศนากับหลวงพี่ใจบุญ ตอนที่ 2,[มี E-Book] The Murder ผมว่านี่คือคดีฆาตกรรม SS.1-ปริศนากับหลวงพี่ใจบุญ ตอนที่ 3,[มี E-Book] The Murder ผมว่านี่คือคดีฆาตกรรม SS.1-ปริศนากับหลวงพี่ใจบุญ ตอนที่ 4,[มี E-Book] The Murder ผมว่านี่คือคดีฆาตกรรม SS.1-ความจริงสุดสะพรึง ตอนที่ 1,[มี E-Book] The Murder ผมว่านี่คือคดีฆาตกรรม SS.1-ความจริงสุดสะพรึง ตอนที่ 2,[มี E-Book] The Murder ผมว่านี่คือคดีฆาตกรรม SS.1-ความจริงสุดสะพรึง ตอนที่ 3,[มี E-Book] The Murder ผมว่านี่คือคดีฆาตกรรม SS.1-ความจริงสุดสะพรึง ตอนที่ 4

เนื้อหา

กักขังหน่วงเหนี่ยว ตอนที่ 3

บทที่ 7

ผมอ่านไดอารี่ของหมอเมื่อ 4 ปีก่อน ไดอารี่แต่ละวันมีความยาวไม่มากนัก ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับการรักษาอาการไบโพล่าห์ช่างน่าแปลกที่หมอไม่ได้ระบุโรงพยาบาลที่ไปรักษา หากแต่ละหน้าผมไม่สามารถอ่านข้ามไปได้สักบรรทัด เพราะหมอวันดีบ่นเรื่องเส้นทางรถติดบ้าง โรงพยาบาลคนเยอะบ้างทำให้ผมต้องมานั่งอ่านทุกหน้าอย่างละเอียดเพื่อหาว่าหมอไปรักษาตัวที่ไหน และนายพอลหายไปไหนตอนที่หมอวันดีลำบาก

“ฮัลโหล ไอ้แทน กูได้ข้อมูลอาจารย์ภทรแล้วนะ”

“อยู่ที่ไหน”

“มึงจำคดีอาจารย์รมควันตายในรถได้ป่ะเมื่อ 3 ที่แล้ว ตอนนั้นเป็นข่าวดังมากเลยอาจารย์หมอศัลยกรรมตกแต่งไทยรมควันฆ่าตัวตายในรถที่เกาหลี”

“เกาหลี!! มึงอย่าบอกนะว่าคนนั้นคือ อาจารย์ภทร”

“ก็เอ่อดิวะ แม่งขนลุกสัตว์ มึงกำลังจะบอกว่าอาจารย์ภทรฆ่าหมอวันดีใช่ป่ะ เชี้ย!! หลอนชิบหาย”

“เพ้อเจ้อ!!”

“คุณผมหิวข้าว” เสียงใสๆ ของคนเพิ่งตื่นทำผมสะดุ้งโหยงเหมือนคนทำความผิด

“ครับๆ รอแป๊บนะ”

“เชี้ยยยย สุภาพสัตว์ จะมีผู้ชายกี่คนวะที่มึงพูดจาดีด้วยขนาดนี้ กูชักอยากเห็นน้องชายคนหมอวันดีซะแล้วสิ”

“แค่นี้แหละ กูจะไปแดกข้าว”

“อ้าวแล้วค่าจ้างกูล่ะ”

“ไว้ก่อน” ผมรีบตัดสายทันทีก่อนไอ้เพื่อนของผมมันจะจับพิรุธผมได้

“วันนี้มีอะไรให้ผมทานบ้าง” ทูดีเอามือท้าวคางมองอาหารบนโต๊ะตาเป็นประกายทำผมอดเอ็นดูไม่ได้ ครั้งจะลูบหัวกลมทุยเหมือนเดิมกลับรู้สึกขัดเขินขึ้นมาอย่างประหลาด ได้แต่แอบอมยิ้มแล้วเลื่อนจานข้าวให้กับชายหนุ่มตรงหน้าแทน

“ก็กับข้าวง่ายๆ ไข่พะโล้ ผัดผัก”

“น่ากินนะครับ” ผมจัดการตักไข่พะโล้ฟองใหญ่ วางบนจานข้าวของทูดีอย่างระวัง แต่อีกฝ่ายกลับทำหน้างุ้ย มองผมแบบไม่พอใจนักจนผมถึงกับทำตัวไม่ถูก

“ผมไม่ใช่ผู้หญิง ผมตักเองได้”

“คร้าบบบ เจ้านาย” นั่นสิทำไปโดยความเคยชิน กะเอาใจเขากลายเป็นไปดูถูกเขาซะได้ อีกอย่างเขาอาจไม่ได้ชอบผู้ชายเพียงเพราะเขาหน้าหวานอย่างที่ผมตัดสินเขาไปเอง

“ไม่ใช่ผมไม่ชอบหรอกนะ แต่ว่าผมดูแลตัวเองได้”

“กลัวจะชินเหรอที่มีผมคอยดูแล” คราวนี้เขาไม่ตอบก้มหน้ากินข้าวเหมือนไม่สนใจ แต่นั่นเป็นสัญญาณบ่งบอกชัดเจนว่าผมพูดถูก

“เมื่อกี้ผมได้ยินคุณคุยเรื่องอาจารย์ภทร”

“ใช่…ทานข้าวก่อนเถอะ”

“ฟังเลยไม่ได้เหรอครับ” ให้ตายเถอะทำไมต้องอ้อนกันขนาดนั้นด้วย นี่ถ้าเป็นเรื่องอื่นไม่ใช่เรื่องคดีฆ่าตัวตายมันจะดีแค่ไหนนะ

“ว่าไงครับ เล่าเลยไม่ได้เลยเหรอ”

“ทานข้าวๆ” รู้ไหมผมต้องใจแข็งแค่ไหนกับสายตากลมโต จ้องผมแบบนั้นคุณนึกภาพไม่ออกแน่ งั้นลองนึกภาพตามลูกแมวตัวขาวขนปุกปุยมองผมด้วยสายตาขวางเอาเรื่อง ราวกับพร้อมจะขย้ำ ยิ่งผมขัดใจ อีกฝ่ายก้มหน้ากินข้าวแก้มพองลม งอนผมเสียอย่างนั้น น่ารักมากกกกก

หลังจากกินข้าวทูดีที่นั่งรอผมอยู่บนโซฟา ตาแป๋วไม่มีอาการง่วงให้เห็นสักนิดจากการอดนอนเมื่อคืน กลับตั้งใจฟังอย่างใจจดจ่อซะเรื่องที่ผมจะเล่าจุกอยู่ในลำคอ

“ทูดี…อาจารย์ภทรเขาเสียแล้ว”

“คะ ครับ”

“เขาฆ่าตัวตายเมื่อปีก่อน หลังจากกลับมาจากดูงานที่ต่างประเทศ”

“เขามีปัญหาอะไรเหรอครับ”

“ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ตั้งแต่ที่เขาก่อเรื่องไว้ดูเหมือนเขาไม่กลับมาประเทศไทยไทย อาจารย์ไปได้เกือบปีก็ฆ่าตัวตายซะก่อน”

“เขาคงรู้สึกผิดที่ทำกับพี่ก็ได้”

“ถ้าหากไอดารี่พวกนี้ไปตกอยู่ที่มือตำรวจ มูลเหตุฆ่าตัวตายของหมอวันดีก็จะชัดเจนยิ่งขึ้น”

“ผมรู้ แต่ไดอารี่พวกนี้เป็นสมบัติที่มีค่าสำหรับผม ผมไม่คิดจะทำลายมัน”

“นั่นสินะ”

“ผมจะเข้าห้องแล้ว คุณจะออกไปไหนอย่าลืมโน๊ตให้ผมด้วยล่ะ”

“ครับ…ทูดี คุณไม่เป็นไรแน่นะ”

“ไม่ครับ..ไม่เป็นไร อย่างน้อยผมก็ดีใจที่คนทำร้ายพี่ไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้แล้ว มันอาจเป็นความคิดที่แย่แต่ว่า ผมไม่อยากเจอ ไม่อยากเห็นหน้าผู้ชายคนนั้นอีก ถ้าเขาไม่มีผลกับคดีผมก็อยากให้เรื่องนี้ผ่านไป”

“คุณเด็ดเดี่ยวกว่าที่ผมคิดเยอะเลย”

“ก็ผมเป็นผู้ชาย ไม่ได้อ่อนแออย่างที่คุณคิดซะหน่อย”

“นั่นสิ” ผมมองคนตรงหน้ายิ้มมุมปากให้คนที่มีความคิดหนักแน่น และตรงไปตรงมา หากแต่สายตาเด็ดเดี่ยวเมื่อครู่กลับค่อยๆ อ่อนลง ใบหน้าขึ้นสีแดงริมฝีปากเม้มเข้าหากันอย่างประหม่า ผมเผลอสำรวจใบหน้าของทูดีอย่างเปิดเผย ในที่สุดอีกฝ่ายก็รู้ตัวเปิดประตูหนีเข้าไปในห้องทิ้งให้ผมยืนยิ้มราวกับคนเสียสติอยู่ตรงนั้นตามลำพัง

“น่ารักจังวะ”