หิมะปรากฏขึ้นในประเทศไทยและเหตุฆาตกรรมเยาวชนอย่างเป็นปริศนา เหล่าประชาชนต่างตั้งคำถามให้กับปรากฎการณ์ธรรมชาติแสนประหลาดโดยไม่รู้ว่ามีปีศาจตนนึงจ้องมาด้วยสายตาเยือกเย็นเพื่อเป้าหมายบางอย่าง
ระทึกขวัญ,ชาย-หญิง,เลือดสาด,ไทย,เรื่องสั้น,นักเขียนรถแห่มาเยือนพล็อตเทลเลอร์,พล็อตสร้างกระแส,ดราม่า,สยองขวัญ,ผี,ผจญภัย,สืบสวนสอบสวน,รถแห่ชวนเขียน8,รถแห่ชวนเขียน7,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
คริสต์มาสข้างแรมหิมะปรากฏขึ้นในประเทศไทยและเหตุฆาตกรรมเยาวชนอย่างเป็นปริศนา เหล่าประชาชนต่างตั้งคำถามให้กับปรากฎการณ์ธรรมชาติแสนประหลาดโดยไม่รู้ว่ามีปีศาจตนนึงจ้องมาด้วยสายตาเยือกเย็นเพื่อเป้าหมายบางอย่าง
หลังจากที่ 'เนย' สก๊อยสาวเห็นภาพฆาตกรรมแสนเยือกเย็นสยดสยองในคืนหิมะตกอย่างเป็นปริศนาและกำลังถูกไล่ล่า เธอจึงไปขอร้อง 'พันธ์' เด็กแว้นแฟนเก่าให้คอยช่วยรวบรวมกลุ่มสมาคมเด็กแว้นปกป้องเธอโดยไม่รู้ว่าฆาตกรผู้มากับเหมันต์สีทมิฬในคืนเดือนดับนั้นจ้องฆ่าล้างเหล่าเด็กชั่วให้หมดแผ่นดิน
“นังสก๊อยที่วัน ๆ เอาแต่ซ้อนมอไซค์ผู้ชายเที่ยวไปวัน ๆ อย่างแกไม่มีอนาคตหรอก!!” เสียงผู้เป็นแม่ตะคอกเสียงดังด้วยความโกรธที่ลูกสาวคนเล็กตัวดีแต่งตัวนุ่งสั้นพร้อมเสื้อสายเดี่ยว
สีดำเผยเรียวไหล่ขาวเปิดแผ่นหลังขาวนวลเนียนมีรอยสักรูปหัวใจสีดำขนาดเท่าหัวแม่มือ ซึ่งแอบบุพพารีไปประทับมาเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน แน่นอนว่าหล่อนเก็บเงินทุกบาททุกสตางค์จนแทบไม่เหลือให้ตัวเองได้ซื้ออาหารประทังชีวิตกระทั่งผ่ายผอมเห็นกระดูกไหปลาร้าเด่นเป็นสง่า ยิ่งทำให้ดูเซ็กซี่ขยี้ใจเหล่าเด็กแว้นผู้ต้องการครอบครองในทุกการแข่งขัน
ในคืนนี้ก็เช่นกัน เหล่ากลุ่มสมาคมเด็กแว้นเจ้าความเร็วจักรยานยนต์ต่างประชุมจัดการแข่งขันขึ้นเวลาห้าทุ่มบริเวณถนนใหญ่ทอดยาวกว่าสิบกิโลเมตร แต่พวกเขากลับตัดสินใจแข่งระยะทางอยู่ที่สองจุดห้ากิโลเมตรเท่านั้นนับว่าเป็นระยะทางมาตรฐาน แน่นอนว่าตำรวจช่วงนี้ชุกชุมยิ่งกว่ายุงจึงจำเป็นต้องมีหน่วยลาดตระเวนหรือไม่ก็หน่วย ‘เรียกหมอ’ เพื่อถ่วงเวลาให้หนีได้ทัน หากพวกเขาถูกจับได้ มันคนนั้นห้ามเอ่ยปากเรื่องสมาคมต่อให้ถูกซื้อด้วยเงินมากเท่าไหร่ก็ตาม
หน่วยเรียกหมอนั้นให้เด็กรับใช้แต่งตัวเป็นคนจรแกล้งเจ็บป่วยไม่สบายพุ่งตรงไปขวางรถตำรวจเพื่อให้พวกเขาพาส่งโรงพยาบาล ซึ่งแผนการนี้สุ่มเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต แต่นั่นถือว่าเป็นความเสี่ยงอันคุ้มค่าเพื่อให้สมาคมเด็กแว้นยั่งยืนอยู่ต่อไปได้
ทุกอย่างล้วนกำลังเป็นได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นสมาคมเด็กแว้นแข่นรถกันเพื่อกินผู้หญิงของกันและกันหรือความเป็นเพื่อนที่แม้ว่าแต่ละวันแทบจะยกมีดดาบขึ้นมาฟาดฟันให้ตายกันไปข้างแล้วก็ตาม สำหรับ ‘เนย’ เด็กสาววัยมัธยมปลายตัดผมสั้นประบ่าเพิ่งเริ่มเข้าสู่วัยคะนองพร้อมลองทุกอย่างที่อยากลอง แน่นอนว่าแม้แต่เรื่องอย่างว่าเธอเองก็ผ่านมานับครั้งไม่ถ้วนแล้วเหมือนกัน ยกเว้น ‘ยาเสพติด’ เท่านั้นที่ยังไม่มีโอกาสได้ลอง
เธอมักหงุดหงิดทุกครั้งที่ผู้เป็นแม่ซึ่งมีอาชีพขายข้าวต้มในตลาดตอนเช้ามืดตะคอกเสียงดังลั่นบ้านเพราะความคะนองของตัวเอง แต่กระนั้นเนยไม่ได้คิดจะใส่ใจในความเป็นห่วงเป็นใยแบบฮาร์ดคอร์แบบนี้ด้วยซ้ำ อีกทั้งเธอไม่ต้องการให้ใครมาจ้ำจี้จ้ำไชเธอทุกเรื่อง เพียงแค่อยากใช้ชีวิตเป็นของตัวเองไปวัน ๆ กับแฟนหนุ่มก็เพียงพอ เพื่อที่จะออกไปจากชุมชนสลัมแสนอัปยศ
ไม่ว่าจะต้องทำอะไรก็ทำได้หมด
ไม่เว้นแม้แต่ขายร่างกายตัวเอง
“จะยุ่งเรื่องของหนูทำไม? โต ๆ กันแล้วป่ะ ไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วสักหน่อย ทำไมต้องคอยบ่งการตลอดด้วยไม่เห็นเข้าใจเลย!!” เนยตะคอกเสียงแหลมกลับอย่างไม่กลัวบาปกรรมพร้อมส่งสายตาแข็งกร้าวใส่จนอีกฝ่ายชะงักไปวูบหนึ่งแต่ยังคงกลั้นสติให้พูดต่อด้วยอารมณ์พลุ่งพล่าน
“ถ้าแกโตแล้วจริง ๆ ก็ควรจะคิดให้ได้มากกว่านี้สักหน่อยสิวะว่าเป็นพ่อเป็นแม่มันยากขนาดไหนกว่าจะเลี้ยงมึงตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอยจนหอยใหญ่กว่าตีนเนี่ย!!”
“เออ!! ผัวหนูทำเองแหละ ถ้าออกไปจากที่นี่ได้เมื่อไหร่จะไม่มีวันกลับมาเลยคอยดู!!” เด็กสาวประกาศกร้าวด้วยโทสะปะทุกลายเป็นเปลวเพลิงโหมกระหน่ำราวกับพายุ สายตาอันแข็งกร้าวจ้องกลับไปพร้อมใบหน้าแดงก่ำกำมือแน่นจนเล็บปลอมจิกอุ้งนิ้วเป็นแผล
“เออ!! ถ้ามึงออกไปก็ดี บ้านมันจะได้อยู่สบายขึ้น ไม่มีมึงอยู่โคตรสบายเลยโว้ย!!” แม่ของเนยตะโกนเสียงดังแหลมด้วยวามเดือดดาล ใบหน้าแดงก่ำไม่ต่างกัน “ถ้าท้องกลับมาบ้านนี้จะไม่รับเลี้ยงเอาไว้ด้วย จำใส่กะโหลกหนา ๆ ของมึงให้ดี ต่อให้เป็นเทวดาทูตสวรรค์หรือเปรตซาตานยมบาลนรกห่าเหวอะไรมาเกิดในท้องมึงกูก็ไม่เลี้ยงทั้งนั้น!! จำเอาไว้!!! แกไม่ใช่ลูกของบ้านนี้อีกต่อไปแล้วด้วย!! อยากจะออกไปแรดไปร่านที่ไหนก็ไป!!”
เนยกัดฟันแน่นอดทนในสิ่งที่ผู้เป็นแม่หลุดปากออกมา เธอจึงหันหลังวิ่งมุ่งหน้าไปยังสนามแข่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานที่ที่เธอเรียกมันว่าบ้าน
เพียงออกจากเขตสลัมอีกประมาณหนึ่งกิโลเมตรก็ถึง โดยต้องวิ่งผ่านถนนปูนซีเมนต์อันเปล่าเปลี่ยวแต่เธอกลับคุ้นเคยกับมันอย่างดี ผ่านไปกว่ายี่สิบนาทีจึงไปถึงจุดนัดพบซึ่งมีการชุมนุมเหล่าเด็กแว้นนับหลายสิบชีวิตต่างยืนพูดคุยเรื่องราวต่าง ๆ บางคนโอบไหล่แฟนสาวตัวเองถึงขั้นหลาบล้วงเข้าไปในเสื้อสายเดี่ยวด้วยความซุกซนเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ
“มากันหมดแล้วเหรอคะพี่ยุทธ?” เนยเอ่ยถาม ‘ยุทธ’ เด็กแว้นรุ่นพี่ซึ่งเป็นหนึ่งในคนที่พาเด็กสาวเข้าวงการ เขาเป็นชายร่างใหญ่แขนขาเปี่ยมไปด้วยมัดกล้ามสวนทางกับวันแพ็คบริเวณหน้าท้องอย่างเห็นได้ชัด เขาแสยะยิ้มทันทีที่ได้เห็นอีกฝ่าย
“เห็นว่ามานานแล้วไม่ใช่เหรอ?” ชายอายุมากกว่าท้าวคางพร้อมส่งสายตาหวานฉ่ำให้ แต่เนยกลับไม่ได้สนใจในการกระทำของอีกฝ่ายแม้แต่น้อย เพราะผู้ชายคนเดียวที่เธอรักมีเพียง ‘พันธ์’ เพียงผู้เดียว
“พอเถอะพี่ บอกมาเถอะว่าพี่พันธ์อยู่ไหน?” สาวเจ้าทำเสียงออดอ้อนชวนให้หัวใจของยุทธเต้นแรงอ่อนยวบจึงยอมบอกด้วยความเต็มใจ
“เห็นนั่งกินมาร์ชเมลโลผสมเหล้าอยู่ทางนั้น” เขาชี้ไปยังกลุ่มที่กำลังล้อมวงทำอะไรบางอย่างซึ่งเนยตรงดิ่งเข้าไปหาในทันที พบแฟนหนุ่มกำลังป้อนขนมมาร์ชเมลโลของโปรดให้กับนังสก๊อยผมทองแต่งหน้าหนาอย่างกับจะไปเล่นลิเกทำเอาเนยเดือดดาลจากเหตุการณ์ก่อนหน้ามาไม่น้อย
“ไอ้พี่พันธ์! มึงเป็นเหี้ยอะไรมาป้อนขนมต่อหน้าเมียตัวเองเนี่ยหา!!?” เด็กสาวไม่ได้เข้าไปเล่นงานทางกายกับแฟนหนุ่มแต่เป็นสาวสก๊อยอันไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้านี่ต่างหาก ดวงตาแข็งกร้าวเบิกโตไปยังเจ้าหล่อนก่อนพุ่งเข้าไปคว้าคอเสื้อง้างมือตบฉาดใหญ่ ท่ามกลางความชุลมุนต้องให้เหล่าเด็กแว้นเข้ามาห้ามมวย ไม่อย่างนั้นหากตำรวจได้ยินคงแห่กันมาทลายอย่างแน่นอน
“อย่าให้รู้ว่ามึงมาอ่อยผัวคนอื่นอีกนะโว้ย!! ผัวตัวเองมีไม่เอา ชอบมาเอากับผัวคนอื่นมันมีความสุขมากนักหรือไงวะหะ!!?” เนยตะคอกสุดเสียงโดยพันธ์จำเป็นต้องทำหน้าที่แฟนที่ดีด้วยการอุ้มเธอแยกออกจากสก๊อยสาวคนนั้นซึ่งหน้าตาจิ้มลิ้มกว่า
“หยุดเลยเนย พี่บอกแล้วใช่ไหมว่าระหว่างพี่กับมายเป็นแค่พี่น้องกัน ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้นจริง ๆ” พันธ์พยายามแก้ตัวอย่างสุดชีวิต แน่นอนว่าเนยไม่ติดกับอีกฝ่ายง่าย ๆ
“อ๋อเหรอ? แค่เพื่อน แค่พี่น้องก็เอากันได้? เดี๋ยวก็เหมือนกับคนอื่น ๆ ที่ผ่านมาอีก” เธอกอดอกน้ำตาคลอเบ้า
แฟนหนุ่มเห็นดังนั้นจึงใช้นิ้วหัวแม่มือปาดน้ำตาที่เริ่มทะลักอาบแก้มในเวลาต่อมาให้แห้ง
“อย่าคิดอย่างนั้นสิ ครั้งนี้เป็นแค่พี่น้องจริง ๆ เชื่อพี่นะครับ” เด็กหนุ่มพยายามโน้มน้าวแฟนสาวสุดชีวิต
เนยใช้ความคิดหลักเหตุและผลมากกว่าอารมณ์จึงสามารถระงับความโกรธลงได้ระดับหนึ่ง
“ช่างมันเถอะ เดี๋ยวจะเริ่มแข่งกันแล้ว วันนี้ต้องแข่งกับใครคะ?” เธอตัดสินใจเปลี่ยนเรื่อง แต่ดวงตาอันเต็มไปด้วยพายุเพลิงบ่งบอกได้ว่าภาพอันเจ็บปวดเมื่อกี้ไม่มีทางลบเลือนไปจากความทรงจำได้ตลอดกาล วันใดวันหนึ่งที่เขาเกิดทำพลาดอะไร เธอสามารถยกเรื่องนี้ขึ้นมาตอกย้ำถึงความหน้าไม่อายได้มาทำร้ายจิตใจส่งผลให้ความสัมพันธ์สั่นคลอนได้ทุกเมื่อ
“พี่เอง” ยุทธ์ยกมือขึ้นเหนือศีรษะ สายตาจับจ้องไปยังเด็กสาวอย่างโลมเลีย แน่นอนว่าเขาเล็งที่จะชิงเธอมาทุกการแข่งขัน คืนนี้เป็นใจอากาศเริ่มหนาวลงเนื่องด้วยเข้าสู่ฤดูหนาว
ไม่พอ ยังสร้างบรรยากาศให้พวกเขาได้มีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งหลังจากเอาชนะพันธ์
เนยเห็นดังนั้นจึงเม้มกัดริมผีปากจนลิปแดงที่ทาก่อนออกจากบ้านหลุดร่วงด้วยความตึงเครียดสั่งสมก่อนหน้ารวมถึง
ค่อย ๆ เพิ่มขึ้น เธอรู้จักชายหนุ่มเปรียบเสมือนพี่ชายขี้เล่นมาตั้งแต่เด็กจนกระทั่งตอนนี้ แม้จะถูกมองด้วยสายตาโลมเลียมาตลอดก็ตาม อีกทั้งเขาไม่ใช่ว่าจะแพ้ใครในการแข่งประลองความเร็วง่าย ๆ ด้วยรอยยิ้มแสยะเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจทำให้เนยยิ่งขนลุกหนักเข้าไปใหญ่เพราะรู้ดีว่าหากแฟนหนุ่มพ่ายแพ้จะต้องเจอกับความสูญเสียอันแสนทำใจได้ยากยิ่ง
สุดท้ายกำหนดการคือสิ่งที่พวกเรายึดถือกันมา ไม่ว่าจะกำหนดให้แข่งกับใครห้ามมีการเปลี่ยนแปลงหากไม่มีเหตุผลฟังขึ้นเพียงพอ
ในครั้งนี้เนยไม่มีเหตุผลเหล่านั้นเพื่อร้องขอให้พวกเขาเปลี่ยนให้แฟนหนุ่มแข่งกับคนอื่นเลย ต่อให้คิดจนหัวแทบแตกตายยังไงก็ไม่มีหนทางเลย
.
.
ใช่...เธอไม่อยากให้พันธ์พ่ายแพ้เพื่อตัวเองจะตกเป็นรางวัลของฝ่ายกำชัย
สุดท้ายเวลานั้นมาถึง จักรยานยนต์สองคันถูกเสริมเติมแต่งไปด้วยอุปกรณ์หลากหลายชนิดจนแทบจำเคล้าโคลงเดิมไม่ได้จอดข้างกันโดยยุทธกำแฮนด์แน่นพร้อมชำเลืองมองเด็กสาวด้วยดวงตาหวานฉ่ำชวนสำรอกเหมือนกำลังจะบอกว่า 'หลังจากแข่งจบไปหาที่สงบ ๆ พลอดรักกันเถอะ!!'
ถุย!! ไม่มีทาง!!
"พี่พันธ์ต้องเอาชนะพี่ยุทธให้ได้เลยนะ ไม่อย่างนั้นหนูจะไม่ให้อภัยพี่แน่!"
"จะพยายาม..." เขาตอบพร้อมกำแฮนด์รถทั้งสองข้างแน่นใบหน้าเคร่งเครียด
กรรมการสาวผมทองผัดแป้งหนายิ่งกว่าลิเกเดินเข้ามายืนต่อหน้าพร้อมให้สัญญาณโยนแผ่รกระดาษทิชชู่ขึ้นบนอากาศ สถานการณ์ระหว่างนั้นฉันภาวนาก่อนกระซิบกดดันให้แฟนหนุ่มเอาชนะบุคคลผู้ไม่สามารถเอาชนะได้
ทันทีที่กระดาษทิชชู่แตะพื้น รถจักรยานยนต์สองคันพุ่งทยานปะทะลมหนาวออกไปในทันที ในระยะทางสองจุดห้ากิโลเมตรต้องมีช่วงที่แต่ละฝ่ายต่างเล่นแง่กันไปมา ต่อให้เป็นทางตรงก็ตาม ยิ่งอีกฝ่ายมีเงินมากมายถึงขั้นติดเทอร์โบไนตรัสไว้ยิ่งตอกย้ำความพ่ายแพ้ ในทางกลับกัน ไอดอลของพวกเราได้กล่าวไว้ว่า 'ในการแข่งรถ อะไรอยู่ในห้องเครื่องนั้นไม่สำคัญเท่าใครอยู่หลังพวงมาลัย' แต่ในกรณีของพวกเราให้เปลี่ยนคำจากพวงมาลัยเป็นแฮนด์แทนเพื่อความสอดคล้อง
เสียงเครื่องยนต์คำรามเสียงดังแสบแก้วหู ลมแรงปะทะใบหน้าผลส่งให้เส้นผมปล่อยสลวยสยายปลิวตามแรง ช่วงออกตัวพันธ์เร่งความเร็วสุดแรงบิดทำให้นำคู่แข่งไปไกลโข การตัดสินแพ้ชนะไม่ได้อยู่ที่ว่าใครออกก่อนหลัง แต่เป็นใครที่เข้าเส้นชัยก่อนกัน แม้ระยะทางจะไกล ด้วยความเร็วยิ่งกว่าลมกรด
การแข่งคาดว่าจะจบในเวลาไม่ถึงนาที มือใหญ่กำแฮนด์บิดสุดจนไม่เหลือให้บิดต่อพลางมองกระจกหลังเห็นว่าทิ้งห่างมาไกลแล้วจึงค่อยวางใจได้หน่อย ส่วนเนยรู้ดีว่ายุทธมักปล่อยให้คู่ต่อสู้นำหน้าเสมอก่อนจะเปิดใช้ท่าไม้ตายเผด็จศึกอย่างขี้โกง
"ทิ้งห่างให้ไม่เห็นฝุ่นเลยพี่!!" เนยตะโกนใส่หูแฟนหนุ่ม แน่นอนว่าเขาไม่ต้องการสูญเสียคนรักให้ใครอีกแล้วจึงโน้มตัวก้มต่ำเพื่อเพิ่มความเร็ว (ในจินตนาการ) ให้รถเครื่องทะยานโดยไม่หันหลังกลับไปมอง
ชัยชนะอยู่เพียงแค่เอื้อม เด็กสาวยิ้มออกมาด้วยความดีใจเมื่อล้อจักรยานยนต์กำลังจะแตะเส้นขาวและชนกับริบบิ้นสีแดง แต่จู่ ๆ มีลมวูบหนึ่งพัดโชคพร้อมกลิ่นอันไม่พึงประสงค์โชคมาเตะจมูก สายตาของเด็กสาวแทบหลุดออกจากเบ้าเมื่อรถจักรยานยนต์ของคู่แข่งพุ่งแรงแซงเข้าเส้นชัยในที่สุดตัดสินแพ้ชนะเฉียบขาด
เนยอ้าปากค้างรวมถึงสัมผัสได้ถึงความสิ้นหวังราวกับตกนรกขุมแรก ร่างกายอ่อนยวบไร้เรี่ยวแรงเมื่อกรรมการตัดสิน พันธ์กัดฟันพร้อมกำมือแน่นเมื่อเห็นว่าแฟนสาวลงจากรถเดินไปหายุทธด้วยความจำใจ น้ำตาลูกผู้ชายไหลรินอาบแก้ม ร่างกายของเขาอ่อนยวบจนเผลอเป็นลมรถล้มกระแทกพื้นพลางร่ำให้ราวกับฟ้าถล่มยามเห็นนางฟ้าของใจวาดขาซ้อนท้ายชายอีกคนก่อนทะยานออกไปดั่งของรางวัลสำหรับผู้ชนะด้วยความจำใจ
ส่วนผู้แพ้กลับถูกทิ้งให้เจ็บปวดทั้งกายใจโดยไม่มีใครหันมาช่วยเหลือแม้แต่คนเดียว
......................................
ป่ากล้วยซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากสนามแข่ง มักเป็นที่ผู้แข่งขันชนะมักนำของรางวัลมาสำเร็จความใคร่ ที่นี่แบ่งเป็นโซนของใครของมันซึ่งมีเสื่อเก่าปูอยู่หลายจุด แต่ละมักจะมีซองและเศษถุงยางใช้แล้วเกลื่อนกลาดส่งกลิ่นคาวไปทั่วบริเวณ แต่ด้วยความอารมณ์พลุ่งพล่านของยุทธจนเขาต้องดึงมือเรียวคู่งามนุ่มนิ่มล้วงเข้าในกางเกงจับท่อนเอ็นยาวกว่าไม้บรรทัดแข็งโด่แทบทุกกางเกงใน
แม้ว่าเนยจะเคยเข้ามาทำกิจกรรมอย่างว่ากันในป่ากล้วยนับครั้งไม่ถ้วนแล้วก็ตาม แต่นั่นคือการยินยอม สำหรับยุทธ์เธอจำใจ
"พี่ได้แค่กายหนู แต่จะไม่มีวันได้ใจหนูอย่างเด็ดขาด" เนยขมวดคิ้วจ้องอีกฝ่ายที่แก้ผ้าจนเปลือยล่อนจ้อนพลางนอนหงายบนเสื่อ
"พี่ไม่สนใจหรอก แค่ได้เอาเด็กที่พี่หวังถือว่าตายตาหลับแล้ว" เขาขึ้นคล่อมร่างเด็กสาวพลางค่อย ๆ ถอดเสื้อผ้าทีละชิ้นเผยเนินอกอวบอิ่มเกินวัยทำให้แก่นกายยิ่งแข็งกว่าเหล็กกล้าพร้อมด้วยกามอารมณ์พุ่งพรวดทะลุปรอท มือหยาบหนาเคล้าครึงเต้าอวบจนเชาแทบไม่อยากเชื่อว่าเป็นของแท้ "นุ่มเหลือเกิน ไอ้พันธ์มันเก็บของดีไว้อย่างนี้ได้ยังไงวะ"
อากาศเริ่มเย็นลงเรื่อย ๆ ชวนให้บรรยากาศพาไปมากที่สุด ชายหนุ่มค่อย ๆ ถอดกระโปรงสั้นเหลือเพียงกางเกงในสีดำตัวเดียว เธอยกแขนขึ้นบังเต้าสองข้างพลางเบือนหน้าไปทางอื่นอย่างเขินอายมิปรารถนาให้อีกฝ่ายจ้องมองพลางภาวนาให้เรื่องนี้จบโดยไว แต่กระนั้นดวงตาเด็กสาวมองขึ้นไปบนฟ้าเห็นเกล็ดสีขาวบางอย่างค่อย ๆ โปรยลงมา อุณหภูมิเย็นลงเรื่อย ๆ จนเธอต้องรีบคว้าเสื้อมาใส่ซึ่งนั่นทำให้ยุทธเลือดขึ้นหน้า
"เป็นอะไรไปวะ!? ทำหน้าที่ของรางวัลให้ดี ๆ หน่อยสิ แบบนี้มีหวังหมดอารมณ์กันพอดี!" อีกฝ่ายตวาดเมื่อเอาของแข็งถูกับช่องหว่างขาแล้วกำลังโน้มตัวเข้าจุมพิต แต่กลับถูกเด็กสาวยื่นมือยันศีรษะโยกทำให้แก่นกายอ่อนยวบ นั่นทำให้อีกฝ่ายเริ่มไม่พอใจในการกระทำจึงโดนตบไปหนึ่งฉาด "จะเอาไงกันแน่วะ!? จะให้หรือไม่ให้ก็บอกกันดี ๆ สิวะ ไม่เห็นหรือไงว่ามันไม่แข็งแล้ว...เชี่ย...ไหงมันหนาวขนาดนี้ได้วะเนี่ย...? ฑูตสวรรค์บนฟ้าไปเตะปลั้กเครื่องทำความร้อนหรือยังไงฮึ!?"
สวบ...สวบ...สวบ....
เสียงฝีเท้ายวบยาบในป่ากล้วยจนพวกเขาสะดุ้งสุดตัว ตามมาด้วยเสียงบางอย่างกระทำกับรถจักรยานยนต์ด้วยความรุนแรง ชายหนุ่มผละออกจากร่างเด็กสาวตรงไปยังรถสุดหวงปรากฎว่าสภาพของมันไม่ต่างจากเศษเหล็กบิดเบี้ยวไม่เหลือโครงเดิมสร้างความเดือดดาลอย่างมาก เขาชักปืนออกมาจากกระเป๋ารถชี้ไปในความว่างเปล่าเหมือนคนบ้า
"มึงเป็นใครถึงมาพังรถชาวบ้านวะ!!?" เขาตะคอกเสียงดังซึ่งเนยพอได้สติจึงรีบสวมเสื้อผ้าอย่างเดิมก่อนผละออกจากเสื่อซ่อนอยู่บริเวณกลุ่มเหยือกกล้วยพลางสังเกตการณ์ชายหนุ่มที่ยื่นปืนกระบอกโตหมุนตัวไปมาไร้ทิศทาง ดวงตากรอกล่อกแล่กไปมา
ปัง!!
"กริ๊ด!!"
เด็กสาวสะดุ้งโหยงยกมือขึ้นปิดหูป้องเสียงปืนพลางก้มตัวลงต่ำกว่าเดิมด้วยความหวาดกลัว เกล็ดขาวเย็นหล่นแตะหน้าผากทำเอาเย็นวาบไปทั่วร่าง เธอคิดถึงเพียงอย่างเดียว
'หิมะ'
"เฮ้ย!! มึงใช่ไหมที่พังรถกู!?" ยุทธตะคอกเสียงแข็งพร้อมเดินเข้าไปใกล้ใครคนหนึ่งซึ่งเด็กสาวมองเห็นไม่ชัด มันยืนอยู่ในเงามืนสะพายกระสอบสีเขียวเก่าคร่ำครึ่สกปรกมีรอยเย็บซึ่งเกิดจากการซ่อมแซมมากมายนับไม่ถ้วน แต่นั่นไม่ทำให้ชายหนุ่มผู้ถูกโทสะครอบงำเกรงกลัว "เป็นเหี้ยอะไรวะหะ!? พูดสิวะ ปากมีไม่พูดเหรอ!? งั้นมึงก็แดกตะกั่วกูหน่อยสิวะ!!"
ใบหน้าอันบิดเบี้ยวสยดสยองโผล่พ้นเงาดำ ผิวหนังซีดเทาพร้อมเขาทมิฬแหลมยาวโน้มมาด้านหน้าตัดกับสีผมน้ำตาลยาวพาดแผ่นหลัง ดวงตาสีแดงฉานยิ่งกว่าเลือด สิ่งที่หน้าพวกกว่าคือฟันยาวแหลมดั่งใบมีดแสยะกว้าง สร้างความตะหนกหวาดกลัวแก่ชายหนุ่มได้ไม่ยาก
"เด็กเหี้ยพ่อแม่สั่งสอนไม่ได้ สมควรตาย" มันกล่าวเสียงต่ำยิ่งกว่าขุมนรก ดวงตาสีชาดเรืองแสงขึ้นแล้วคว้าคอยุทธยกขึ้นด้วยพละกำลังมหาศาล ชายหนุ่มกัดฟันแน่นอดทนต่อความเจ็บปวดพร้อมอึดอัดเพราะหลอดลมถึงบีบปิดสนิทกระทั่งใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีม่วง เขารวบรวมกำลังประคองปืนคู่ใจอัดกระสุนใส่ระยะประชิดจนหมดแม็ค ถึงกระนั้นปีศาจแครมปัสไม่สะทกสะท้านต่อการโจมตีนี้ มันจึงอ้าขากรรไกรกว้างขย้ำศีรษะเพียงครั้งเดียวหลุดจากบ่าเลือดพุ่งกระฉูดกระเด็นเซ็นซ่านไปทั่วบริเวณ
เนยเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดด้วยดวงตาสองข้างเบิกกว้าง ยามเมื่อเธอหลุดจากพันธนาการแห่งจิตจึงพุ่งหนีเข้าไปในความมืดสุดชีวิตโดยไม่หันกลับมามอง
-----------------------
To Be Continue Part 2