หิมะปรากฏขึ้นในประเทศไทยและเหตุฆาตกรรมเยาวชนอย่างเป็นปริศนา เหล่าประชาชนต่างตั้งคำถามให้กับปรากฎการณ์ธรรมชาติแสนประหลาดโดยไม่รู้ว่ามีปีศาจตนนึงจ้องมาด้วยสายตาเยือกเย็นเพื่อเป้าหมายบางอย่าง
ระทึกขวัญ,ชาย-หญิง,เลือดสาด,ไทย,เรื่องสั้น,นักเขียนรถแห่มาเยือนพล็อตเทลเลอร์,พล็อตสร้างกระแส,ดราม่า,สยองขวัญ,ผี,ผจญภัย,สืบสวนสอบสวน,รถแห่ชวนเขียน8,รถแห่ชวนเขียน7,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
คริสต์มาสข้างแรมหิมะปรากฏขึ้นในประเทศไทยและเหตุฆาตกรรมเยาวชนอย่างเป็นปริศนา เหล่าประชาชนต่างตั้งคำถามให้กับปรากฎการณ์ธรรมชาติแสนประหลาดโดยไม่รู้ว่ามีปีศาจตนนึงจ้องมาด้วยสายตาเยือกเย็นเพื่อเป้าหมายบางอย่าง
หลังจากที่ 'เนย' สก๊อยสาวเห็นภาพฆาตกรรมแสนเยือกเย็นสยดสยองในคืนหิมะตกอย่างเป็นปริศนาและกำลังถูกไล่ล่า เธอจึงไปขอร้อง 'พันธ์' เด็กแว้นแฟนเก่าให้คอยช่วยรวบรวมกลุ่มสมาคมเด็กแว้นปกป้องเธอโดยไม่รู้ว่าฆาตกรผู้มากับเหมันต์สีทมิฬในคืนเดือนดับนั้นจ้องฆ่าล้างเหล่าเด็กชั่วให้หมดแผ่นดิน
เหตุการณ์คืนนั้นยังติดตาเนยจนถึงเช้า ร่างกายของเธอสั่นคลอนไปด้วยความหนาวเย็นจากอากาศผิดเพี้ยน เป็นไปไม่ได้ที่ประเทศไทยจะมีหิมะ เกร็ดน้ำแข็งสีขาวตกลงมาไม่ต่างสายฝนตลอดคืน เธอขดตัวอยู่ใต้ต้นไม้ใช้ใบกล้วยจำนวนมากร่มแก้หนาว ยามหายใจมักมีไอเย็นขาวผ่องลอยจากปาก เคยเป็นภาพที่เห็นแต่ในภาพยนตร์เท่านั้น ดวงตาของเธอมีน้ำตาเอ่อเบ้าแต่ต้องรีบปาดออกเพราะกลัวมันแข็งติดตา เธอเปิดหน้าจอมือถือแทนแสงสว่างไล่ความมืดพลางไล่ปราดมองซ้ายทีขวาทีอย่างหวาดกลัวว่าเจ้าปีศาจนั่นจะไล่เธอมา จนแล้วจนรอดมันกลับไม่ปรากฎตัวแต่อย่างใด
เมื่อท้องฟ้าเริ่มสว่าง เนยรีบตรงดิ่งไปบ้านอดีตแฟนหนุ่มก่อนรัวกำปั้นเคาะประตูอย่างเร่งรีบโดยไม่ลืมหันไปมองด้านหลังด้วยความหวาดระแวง โชคดีที่บ้านของเขาไม่ได้อยู่ในโซนสลัม ไม่อย่างนั้นคงได้เป็นขี้ปากชาวบ้านเรื่องที่ทะเลาะกับแม่เมื่อคืนอย่างแน่นอน
"เปิดประตูให้หน่อยพี่พันธ์!! ช่วยด้วย!!" เธอตะโกนเสียงแหลมหัวใจเต้นแรงอย่างร้อนรน ผิวหนังของเด็กสาวแดงระเรื่อเพราะถูกหิมะกัดและเย็นเฉียบจนเลือดใกล้แข็งตัว "เปิดประตูเร็วสิโว้ย!! จะแข็งตายอยู่แล้ว!!"
พันธ์ในชุดกันหนาวกางเกงขายาวเปิดประตูออกมาพร้อมกอดอกตัวสั่นอย่างกับลูกแมวตกน้ำ กระนั้นร่างกายดันร้อนผ่าวขึ้นเมื่อพบกับแฟนสาวจึงอกเข้าสวมกอดแล้วร่ำให้ไม่ได้ แต่สำหรับเนยตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมานั่งร้องให้อยู่แบบนี้จึงลากเขาเข้าบ้าน เธอรู้ว่าในตอนเช้าพ่อกับแม่ของพันธ์จะออกไปทำงานโรงงานกะเช้า ซึ่งกว่าจะกลับก็มืดค่ำจึงไม่ต้องกลัวหากเธอต้องการเข้าออกบ้านแฟนหนุ่มเหมือนกับบ้านตัวเอง
ในบ้านไม่มีฮีตเตอร์จึงยังคงมีไอเย็นแต่อุ่นกว่าข้างนอกหลายเท่า
"ยุทธมันฟันแล้วทิ้งสินะ" พันธ์กล่าวด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ คิ้วดกดำขมวดจนผิวหนังบริเวณหน้าผากบิดเบี้ยว "พอฟันแล้วทิ้งสุดท้ายเธอก็คลานเข่ากลับมาหา..."
"โอ๊ย!! หยุดคิดเรื่องแบบนั้นสักทีพี่พันธ์!" เนยสวนกลับเสียงดังอย่างอดไม่ได้พลางกระทึบเท้าด้วยความหงุดหงิดขีดสุด "พี่ยุทธตายแล้ว! มีบางอย่างฆ่าเขา! แม่งโคตรน่ากลัวเลยว่ะพี่!"
"แต่งเรื่องเก่งดีนี่ แต่รู้อะไรไหม เธอไม่ใช่ผู้หญิงของฉันอีกต่อไปแล้ว มันจบไปตั้งแต่ไอ้พี่ยุทธมันเข้าเส้นชัยก่อนแล้วล่ะ" เด็กหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงตัดพ้อเศร้าสร้อยก่อนหันหลังกลับเข้าห้อง "กลับไปหายุทธเถอะ แล้วเจอกันที่โรงเรียน" ฐานะของเขาค่อนข้างสูงกว่าชนชั้นสลัมเล็กน้อยเพราะสมบัติที่สืบทอดกันมาสมัยบรรพบุรุษ จึงมีเงินพอสร้างบ้านสองชั้นและมีห้องส่วนตัว
นี่คือสิ่งที่เนยรักและหลงในตัวเด็กหนุ่มอย่างมาก เธอไม่พร้อมจะปล่อยมืออีกฝ่ายไปจึงพุ่งเข้าไปกอดจากด้านหลัง
"อย่าไปไหนเลยนะ...ยุทธมันไม่ได้ทำอะไรเค้าจริง ๆ...เขาตาย...เขาตายแล้ว..." เนยกอดแฟนหนุ่มแน่นราวกับไม่อยากให้หายไปไหน แม้ว่ากายจะต้องสลาย เธอจะพากลับมาประกอบใหม่จนกว่าชีวิตจะหาไม่ "เค้าไม่อยากไปเริ่มต้นรักใครใหม่แล้ว เค้ารักเธอคนเดียว...คนเดียวจริง ๆ"
มารยาออดอ้อนแบบนี้ใช้ได้ผลเสมอ เด็กหนุ่มหันหลังกลับมาแล้วประกบริมฝีปากกับเด็กสาวหนึ่งทีก่อนจูงมือเข้าห้องล็อกกลอน
.............................................
ทั้งสองอิงแอบแนบชิดพลางหอบหายใจเปลือยกายเหงื่อไหลใต้ผ้าห่มแสนอบอุ่น สองนิ้วคีบบุหรี่สูบควันมะเร็งเข้าแล้วเป่าออกก่อนแบบให้อีกฝ่ายสูบต่อสร้างความผ่อนคลายหลังเรื่องบนเตียง ภายในห้องไม่ได้เปิดเครื่องปรับอากาศแต่เปิดหน้าต่างให้ลมหนาวธรรมชาติพัดเข้าแทนช่วยให้หายใจสะดวกกว่า จอมือถือของเด็กหนุ่มเปิดข่าวถ่ายทอดสดเกี่ยวกับปรากฎการณ์ธรรมชาติแสนผิดเพี้ยน
"เป็นไปไม่ได้เลยที่ประเทศไทยนั้นตั้งอยู่ในเขตร้อนชื้น ใกล้เส้นศูนย์สูตรและอยู่ในพื้นที่ที่ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุม ทำให้อากาศส่วนใหญ่ร้อนชื้นตลอดทั้งปี และมีฤดูกาลเพียงสามฤดูคือ ฤดูร้อน ฤดูฝน และฤดูหนาว แต่โดยทั่วไปแล้วประเทศไทยไม่ได้อยู่ในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิต่ำพอที่จะทำให้เกิดหิมะตกได้ แต่กระนั้นมันเป็นไปแล้วค่ะ ประเทศไทยมีหิมะตกครั้งแรก ซึ่งตอนนี้อากาศติดลบไปเรียบร้อยค่ะ ประชาชนที่กำลังสนุกกับวันหยุดออกมาเล่นหิมะอันแสนหนาวเย็นและนุ่มเป็นครั้งแรกอย่างมีความสุข" ผู้ประกาศข่าวสาวในชุดเสื้อคลุมหนังสัตว์ราคาแพงที่อุตส่าห์ซื้อไว้เพื่อไปเที่ยวต่างประเทศประกาศกล่าวด้วยน้ำเสียงฉะฉานโดยกล่องแพนไปยังเหล่าเด็ก ๆ ที่กำลังเล่นปาหิมะและวิ่งไปมาอย่างสนุกสนาน "มันอาจเป็นสวรรค์ของพวกเขา แต่กลับเป็นนรกของผู้ใหญ่วัยทำงานที่ต้องใช้ถนนเดินทางไปทำงาน มีรับแจ้งมาว่าหลายบริษัททั้งภาครัฐและเอกชนต้องประกาศหยุดงานชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้นนี่อาจเป็นวิกฤติภายใต้ความสวยงามราวกับสรวงสวรรค์..."
ไม่ว่าจะเป็นข่าวช่องไหนต่างนำเสนอข่าวรูปแบบเดียวกันเสมอเพื่อแย่งชิงยอดวิวและเรตติ้ง
ถัดมาไม่กี่คลิปมีข่าวประกาศเรื่องการตายอย่างปริศนาของเด็กแว้น ซึ่งเนยรู้ดีว่านั่นเป็นศพของยุทธแน่นอน ต่อให้ถูกเซ็นเตอร์ตามมาตรการสื่อก็มิอาจบดบังความคาดเดาของคนเคยรู้จัก พันธ์ยิ้มมุมปากเมื่อเห็นภาพศพไร้ศีรษะเบี้ยวแวบหนึ่งก่อนถูกคลุมด้วยฟ้าสีขาว จากนั้นภาพตัดไปยังผู้ประกาศข่าว ณ สถานที่เกิดเหตุใบหน้าเคร่งเครียด เธอแต่งตัวด้วยเสื้อโค้ดหนา หมวกไหมพรม ถุงมือและที่ผิดหูเหมือนอยู่ต่างประเทศ ยามออกเสียงมักมีควันสีขาวลอยออกจากปาก
"เช้าวันนี้พบศพวัยรุ่นชายศีรษะขาดออกจากลำตัวไม่ทราบชื่อพร้อมรถจักรยานยนต์ในสภาพเละเทะบิดเบี้ยว บริเวณป่ากล้วยที่มักเป็นแหล่งซ่องสุมของเหล่าเด็กแว้นมาทำอนาจาร คาดว่าเกิดจากประมาทบนท้องถนน ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุค่ะ ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่เริ่มทำการสืบสวนเพื่อหาหลักฐานยืนยันเพิ่มเติมและทลายแหล่งซ่องสุมเป็นที่เรียบร้อย หากได้รับข้อมูลคืบหน้าจะกลับมาอัพเดตให้ท่านผู้ชมได้รับทราบค่ะ"
"เนยอยู่กับยุทธเป็นคนสุดท้าย แต่ทำไมถึงไม่เป็นอะไรเลยล่ะ?" แฟนหนุ่มตั้งข้อสังเกตพลางขมวดคิ้วเข้ม
"อยากจะให้หนูตายหัวขาดอย่างพี่ยุทธเนี่ยนะ!?" เนยฉุนขึ้นต่อเมื่อตีความคำพูดของอีกฝ่ายเพียงผิวเผิน "หนูงอนละ!!"
"อย่าเพิ่งงอนกันสิ แล้วไอ้ตัวที่ฆ่าพี่ยุทธมันเป็นแบบที่เนยวาดจริง ๆ น่ะเหรอ?" เด็กหนุ่มหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งที่แฟนสาววาดปีศาจแครมปัสออกมาด้วยหมึกสีดำชวนให้ดูน่าสยองดิบเถื่อน "มันจะไม่แฟนตาซีไปหน่อยหรือไง?"
"แล้วการที่ประเทศเมืองร้อนของเรา จู่ ๆ มีหิมะตกแบบนี้มันปกติมากมั้ง!!" เด็กสาวพูดกระชากเสียงก่อนบิดร่างหนีพร้อมกอดอกพองลมในปากจนแก้มตุ่ย "พูดอะไรก็รู้จักคิดหน่อยสิ!"
"จะทำยังไงได้ล่ะ ตอนนี้ไม่มีตำรวจก็มืดแปดด้านหมด เราเองก็รอให้เรื่องมันเงียบก่อนแล้วค่อย..."
"ค่อยอะไร?" เธอหันกลับมามองแววตาเป็นประกายของอีกฝ่ายจึงพอเดาได้ไม่ยาก เนยลุกพรวดเผชิญหน้ากับแฟนหนุ่ม เขาผงะดันตัวเองเอนหลังแนบผนัง พออีกฝ่ายไม่ได้คำตอบจึงถามย้ำด้วยน้ำเสียงเนิบนาบ "ค่อย-อะ-ไร-คะ? อยากบอกนะว่าจะไปล่ามัน?"
"..." เป็นแบบนี้ทุกที ไม่ว่าจะเจอเรื่องลี้ลับอะไรจะต้องไปพิสูจน์หาหลักฐานให้ได้ ช่วงปิดเทอมก่อนหน้านี้ยังเข้าไปค้างคืนป่าไปกับลุงปืนบนห้างผูกติดกับต้นไม้เพื่อล่าเสือสมิงไม่ก็ผีปอบ ต่อให้มีรูปถ่ายจากกล้องฟิล์มเป็นหลักฐานชั้นดีแล้วก็ตาม ยังไงเสียยังรู้สึกว่าเป็นภาพตัดต่อ ลุงปืนเป็นพรานผู้มีวิชามนตร์ดำกล้าแข็ง สามารถปลุกเสกคำสาปแช่งทำนายดวงชะตา มักเข้าป่าเป็นประจำเพื่อจับเหล่าสัมภเวสีมาเป็นบริวาร
พันธ์ผงะศีรษะก่อนเบือนหน้าหนี ทำเอาเนยหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก
"ก็ได้ ถ้าอย่างนั้นหนูก็จะช่วยอีกแรง เพราะตั้งแต่มีไอ้ผีบ้านั่นก็ไม่อยากออกไปไหนมาไหนกลางดึกแล้ว" เธอวาดขาขึ้นคร่อมแฟนหนุ่มก่อนเลื่อยลงมาจนใบหน้าขนานกับหว่างขาแนบกับแก่นกายที่เริ่มแข็งตัว "อีกอย่าง...หนูหนาวอ่ะ ช่วยมอบความอุ่นให้หนูที"
.............................
ตำหนักของลุงปืนอยู่นอกเขตอำเภอไปเล็กน้อย ภายนอกดูเหมือนบ้านสองชั้นทั่วไป แต่ภายในกลับเต็มไปด้วยเครื่องลางของขลังราวกับหลุดเข้าไปในหนังสยองขวัญสักเรื่อง ควันและกลิ่นธูปคละคลุ้งไปทั่วบ้านมีหวังสูดเข้าทุกวันคงหนีไม่พ้นมะเร็งปอดถามหา เหล่าลูกศิษย์ลูกหาจำนวนหลายสิบต่างนั่งขัดสมาธิแต่งตัวนุ่งขาวห่มขาวหลับตาเรียงรายร่างกายสั่นเทิ้มเพราะความหนาวเหน็บตามทางเดินทอดยาวไปถึงเจ้าสำนักที่กำลังนอนเอกขเนกสวมเสื้อโค้ดสีดำขนสัตว์ราคาแพงกระดกขวดแอลกอฮอล์สีเขียวกลืนน้ำเมาลงคออย่างบ้าคลั่งจนใบหน้าแดงเป็นลูกตำลึง เขาเห็นว่าหลานชายปรากฎตัวจึงลุกพรวดก่อนเดินลงมาด้วยท่าทางโซซัดโซเซ
"ว่าไงไอ้หลานชาย ลมอะไรหอบมาถึงนี่ล่ะ...ไม่ต้องบอก ๆ ข้ารู้ ไอ้ลมหนาวบ้านี่ยังไงล่ะ" เขากล่าววาจาเสียงดังจนบางคำแทบฟังไม่รู้ภาษา "ข้าเห็นข่าวนั่นแล้ว รุ่นพี่ของเอ็งมันตายอย่างปริศนา แถมถูกกัดคอด้วยฝีมือของสิ่งเหนือธรรมชาติอย่างแน่นอน"
"ใช่ครับลุง แฟนผมอยู่ในเหตุการณ์และเห็นมันจนวาดรูปออกมาแบบนี้ครับ" เขาหยิบกระดาษขึ้นมาให้ลุงปืนมอง ชายชรามองพร้อมยกมือเกาศีรษะล้านเตียนด้วยเล็บเขรอะไปด้วยสีเหลืองขุ่นสกปรกอย่างใช้ความคิด แต่แล้วดวงตาของอีกฝ่ายเบิกโต ลูดลมหายใจเข้าปอดอย่างแรงราวกับได้เบาะแสบางอย่าง
"เป็นไปไม่ได้ที่ไอ้ตัวนี้จะมาอยู่ที่นี่ได้..." คำพูดของชายชราเสียงต่ำชวนให้บรรยากาศรอบข้างตึงเครียดไปด้วย ดวงตาแข็งกร้าวจับจ้องไปที่รูปวาด "แต่มันก็เป็นไปแล้ว เพราะสภาพอากาศบ้า ๆ แบบนี้นี่แหละมันถึงโผล่หัวออกมา ข้าแทบไม่มีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับมันมาก แต่เจ้านี่คือปีศาจแครมปัสที่คอยสังหารเหยื่อเด็กแล้วจับกินเป็นอาหาร เพราะอะไรข้าก็ไม่รู้ เดาได้อาจจะเป็นความสนุกส่วนตัวของมัน...แต่พอสันนิฐานจากความเป็นไปได้แล้ว มันน่าจะกำลังตามหาตัวแม่หนูอยู่ก็เป็นได้"
---------------------------
To Be Continue Part 3 (พาร์ทจบ)