ความฝันของข้าคือได้แต่งงานกับหญิงงาม แต่ไหงความจริงกลับตาลปัตรถึงเพียงนี้—ทั้งสัตว์ประหลาด แผนลับ และคำทำนายทายาทผู้ยิ่งใหญ่! ใครมันเขียนโชคชะตาข้ากันเนี่ย?”

ยุทธภพนี้! นี่ใครครอง - ตอนที่ 2 เทพแห่งโชคชะตา โดย ปริมะ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แอคชั่น,ผจญภัย,จีน,สงคราม,เลือดสาด,จีนโบราณ,แฟนตาซี,เทพเซียน,กำลังภายใน,ผจญภัย,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ยุทธภพนี้! นี่ใครครอง

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แอคชั่น,ผจญภัย,จีน,สงคราม,เลือดสาด

แท็คที่เกี่ยวข้อง

จีนโบราณ,แฟนตาซี,เทพเซียน,กำลังภายใน,ผจญภัย,พล็อตสร้างกระแส

รายละเอียด

ยุทธภพนี้! นี่ใครครอง โดย ปริมะ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ความฝันของข้าคือได้แต่งงานกับหญิงงาม แต่ไหงความจริงกลับตาลปัตรถึงเพียงนี้—ทั้งสัตว์ประหลาด แผนลับ และคำทำนายทายาทผู้ยิ่งใหญ่! ใครมันเขียนโชคชะตาข้ากันเนี่ย?”

ผู้แต่ง

ปริมะ

เรื่องย่อ

ยุทธภพนี้! นี่ใครครอง


"The Edge of Dragon Spirit"


ผู้เขียน : ปริมะ , 2024


 ฮวงฟาง—เด็กหนุ่มผู้ (อยาก) มีชีวิตเรียบง่ายและความฝันเล็กๆ (แต่ยิ่งใหญ่) : ทำงาน หาเงิน แต่งหญิงงามสักคน แล้วหนีให้ไกลจากเงื้อมมือของ ท่านตาจอมเผด็จการ ที่ยืนกรานว่า


“วิทยายุทธ์คือคำตอบของทุกปัญหา!”


สำหรับข้า?


“การฝึกมันคือปัญหาของทุกคำตอบ!"




ชีวิตดีๆ ที่ลงตัว ทำไมต้องมานั่งทรมานตัวเองให้เมื่อยด้วย?




เพื่อไล่ตามอิสรภาพ ฮวงฟางรับจ้างทำงานทุกอย่าง ตั้งแต่ ซ่อมหลังคา เฝ้ายาม ดูแลเป็ดไก่ ยันทวงหนี้นอกระบบ ความตั้งใจของเขาดูเหมือนง่ายดาย แต่กลับเต็มไปด้วยความวุ่นวายที่ไม่คาดฝัน!




ไม่ว่าจะเป็น แผนลับของท่านตา ที่เขาไม่อยากยุ่งเกี่ยว (เดินผ่านบ้านนิดเดียวก็ซวยได้) คิงคองยักษ์ ที่โผล่มาท้าตีโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย(ก็เข้าใจคำว่าหน้าไม่เกี่ยว ใส่เดี่ยวได้หมดอยู่หรอก!) หรือแม้กระทั่งมีคนมาเรียกเขาว่า “ทายาทผู้ยิ่งใหญ่” (อะไรอีกล่ะเนี่ย?)




ฮวงฟางมีทางเลือกเดียว : “ถ้าความสงบสุขไม่มาหา ข้าก็จะหาทางวิ่งไปหามันเอง! ฮ่าฮ่าฮ่า!” (หัวเราะแบบตัวร้ายที่ซ่อนแววตาวิบวับ)




งานนี้ ฮวงฟางจะใช้ไหวพริบ (หรือความเจ้าเล่ห์?) ฝ่าฟันอุปสรรคทั้งหลาย หรือจะกลายเป็น จอมยุทธ์แบบไม่ทันตั้งตัว กันแน่? 

สารบัญ

ยุทธภพนี้! นี่ใครครอง-ปฐมบท ลำนำ : จิตวิญญานแห่งมังกร,ยุทธภพนี้! นี่ใครครอง-ตอนที่ 1 เมืองที่แสนสงบสุข,ยุทธภพนี้! นี่ใครครอง-ตอนที่ 2 เทพแห่งโชคชะตา,ยุทธภพนี้! นี่ใครครอง-ตอนที่ 3 เคล็ดลับ! สูตรผมสวย

เนื้อหา

ตอนที่ 2 เทพแห่งโชคชะตา

“แทงเสีย! แทงเสีย! เอ้า! ใครอยากเปลี่ยนเหรียญในกระเป๋าให้กลายเป็นภูเขาทอง ก็เข้ามา!”


“วันนี้ข้า ฮวงฟาง… ไม่ได้มาเล่น ๆ!” ฮวงฟางประกาศลั่น ก่อนจะกระโดดขึ้นไปยืนบนโต๊ะอย่างคล่องแคล่ว เสียงฝีเท้ากระทบไม้ดัง ปึง! สะท้อนไปทั่วทั้งโรงเตี๊ยม ดึงสายตาทุกคู่ให้หันมาจับจ้องเขาโดยพร้อมเพรียง


“เจ้าถุงเงินนี่มันไม่ใช่ของธรรมดา แต่มันคือ ‘ถุงรีดทรัพย์’!” ฮวงฟางตบถุงเงินในมือดัง ปั้ก! ก่อนจะยกมันขึ้นสูงเหนือหัว ราวกับกำลังอวดสมบัติวิเศษล้ำค่า ใบหน้าของเขาฉายรอยยิ้มกว้างและกวนประสาทไม่เปลี่ยนแปลง “ใครกล้าท้าดวงก็เข้ามา! ข้าไม่ถือ—หากพวกเจ้าจะมาขนทรัพย์ข้าไป!”


เสียงหัวเราะครืนดังขึ้น บรรยากาศรอบวงพลันคึกคัก คำพูดของฮวงฟางเหมือนจุดไฟความโลภแก่พวกเขา เงินที่หมุนเวียนและเสียงหัวเราะเริงรื่นได้ลบเลือนความวุ่นวายเมื่อครู่จนสิ้น


“ข้าเอาเสือ! ใครจะตามก็รีบมา!” ชายคนหนึ่งโพล่งขึ้นพร้อมเทเงินลงบนโต๊ะดัง กราว! เสียงเหรียญกระทบไม้ปลุกความคึกคักให้ลุกฮือทันที


“ข้าด้วย!” อีกเสียงหนึ่งตะโกนตามราวกับไม่ยอมแพ้


“วันนี้ข้าจะรวย! ฮ่า ๆ ๆ!”




ท่ามกลางความวุ่นวาย เสียงเล็ก ๆ ของเด็กชายดังขึ้นแทรก “แทงปลา! ข้าจะแทงปลา!” เขายื่นเหรียญหนึ่งสลึงออกไปอย่างมั่นใจ ท่ามกลางเสียงหัวเราะและรอยยิ้มขบขันจากคนรอบวง ดวงตาเล็ก ๆ เปล่งประกายสดใส ราวกับกำลังจับต้องโชคชะตาด้วยมือเล็ก ๆ ของตัวเอง


ฮวงฟางยิ้มกริ่ม ก่อนกระโจนลงจากโต๊ะ ก้าวเข้าไปใกล้เด็กชายเนื้อตัวเลอะฝุ่น ใบหน้าเปรอะคราบน้ำมูก เขาก้มหน้ามองเด็กน้อยพลางหัวเราะขบขันเกินจริง “ปลางั้นรึ? เจ้ารู้ใช่ไหม… ถ้าพลาดขึ้นมา เหรียญสลึงนี้จะกลายเป็นของว่างคำโตให้ข้าเคี้ยวเล่น! ฮ่า ๆ ๆ!”


เขาพูดพลางทำท่าเคี้ยวลมประกอบ มือข้างหนึ่งจับท้องหัวเราะเบา ๆ แต่สายตาที่มองเด็กน้อยยังคงแฝงไว้ด้วยแววเจ้าเล่ห์ ราวกับจงใจจะล้อเล่นและทดสอบเด็กคนนี้ไปพร้อมกัน


เด็กชายเชิดหน้า ดวงตาเป็นประกายวาววับ สบตาฮวงฟางอย่างไม่เกรงกลัว “ข้าจะชนะ! ข้าจะเอาคืนที่ท่านโกงเงินพ่อข้าไปเมื่อวันก่อน!”


คำพูดนั้นเรียกเสียงหัวเราะลั่นรอบวงทันที ชายคนหนึ่งถึงกับสำลักสุราออกมา บางคนหัวเราะจนท้องคัดท้องแข็ง ขณะที่อีกคนยกมือขึ้นปาดน้ำตาพลางพูดขำ ๆ “โอ้โห! ฟังคำโวเจ้าสิ เอ้า! ข้าลงปลาตามเจ้า”


ฮวงฟางหัวเราะในลำคอ พลางยกยิ้มมุมปากขึ้น “หึ! เจ้ากล่าวดีนัก เจ้าก้อนขี้มูก เอาล่ะ! มาดูซิว่าดวงของเจ้า จะดีเช่นฝีปากเจ้าไหม!”


ชายหนุ่มกล่าวพลางเขย่าถ้วยหวาย กริ๊ก กริ๊ก ก่อนวางลงตรงหน้าเด็กชายอย่างเชื่องช้า ทุกสายตาจับจ้องมาที่ถ้วยนั้น


ทันทีที่เปิดฝาออก เขาประกาศลั่น:


“ปลา! ปลา! ปลา!”


เสียงเฮดังสนั่นลั่นโรงเตี๊ยม ชาวบ้านรอบวงต่างโห่ร้องด้วยความสะใจ ราวกับชัยชนะนั้นเป็นของตัวเอง หลายคนที่ลงพนันตามเด็กชายรีบคว้าเงินเดิมพันกลับไปพร้อมเสียงหัวเราะอย่างเริงรื่น


ฮวงฟางหัวเราะในลำคอ ก่อนจะหยิบเหรียญสามเหรียญขึ้นมาด้วยท่าทางอ้อยอิ่ง แล้วดีดมันลงบนฝ่ามือของเด็กชายดัง กราว! “หึ! เป็นแค่ก้อนขี้มูกแท้ ๆ! เอ้า เอาไป! เห็นทีคราวนี้เจ้าคงมีเรื่องไปอวดพ่อเจ้าแล้ว!”


“เห็นไหมล่ะ! ข้าชนะแล้ว!” เด็กชายตะโกนลั่นด้วยความภูมิใจ รอยยิ้มแห่งชัยชนะแต่งแต้มบนใบหน้าที่มอมแมมของเขา


แต่ก่อนที่เด็กหนุ่มจะได้ถอยจากโต๊ะ ฮวงฟางก็โน้มตัวลง กระซิบเสียงยั่วเย้าเบา ๆ แต่ดังพอให้คนรอบวงได้ยิน


“แต่ถ้าเจ้าทายถูกอีกครั้ง… ข้าจะให้เป็นสองเท่า!” ฮวงฟางโน้มตัวลงมากระซิบเสียงเจ้าเล่ห์ แต่ดังพอให้คนรอบวงได้ยิน เขาถอยตัวกลับ ยกมือขึ้นฟ้า ทำท่าคล้ายบูชาเทพเจ้า “ใครจะไปรู้? เจ้าอาจจะเป็นเทพแห่งโชคชะตาตัวจริงก็ได้!”


เขาหันกลับมาเท้าเอว เอียงคอมองเด็กชาย “หรือเจ้าจะหยุดแค่นี้ แล้วเอาเงินไปซื้อลูกอมมาดมเล่น ข้าก็ไม่ว่าอะไร!” ฮวงฟางหัวเราะลั่น ฮ่า ๆ ๆ! ก่อนจะยื่นมือไปหยีหัวเด็กชายเบา ๆ


เสียงรอบวงดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เป็นเสียงยุแยงที่เต็มไปด้วยความสนุก


“เล่นอีกสิ! เจ้าหนูวันนี้เจ้าโชคดีนัก!”


“เจ้าคือเทพแห่งโชคชะตาของข้า ฮ่า ๆ ๆ!”


คำพูดเหล่านั้นเหมือนเขย่าความลังเลในใจเด็กชายจนหมดสิ้น เขากำเหรียญในมือแน่น ดวงตาเล็ก ๆ ที่ยังคงเปี่ยมความหวังเงยขึ้นสบตาฮวงฟางอย่างมุ่งมั่น ก่อนจะวางมันลงบนโต๊ะ


“ข้าจะเล่นอีก!”


ฮวงฟางหัวเราะลั่น ยกมุมปากขึ้นอย่างพึงใจ “ฮ่า ๆ! แบบนี้สิ ถึงจะสนุก!” เขากล่าว ก่อนจะเริ่มเขย่าถ้วยหวายอีกครั้ง เสียงลูกเต๋ากระทบกันดังก้อง กริ๊ก กริ๊ก แทรกเข้าไปในความเงียบ ความตื่นเต้นเหมือนถูกฉีดเข้าไปในทุกสายตาที่จับจ้อง


ชาวบ้านหลายคนมองหน้ากันอย่างฮึกเหิม “ข้าขอแทงปูอีกคน!”


“ข้าด้วย! ข้าจะวางตามเจ้าหนูนี่!”


เสียงเหรียญกระทบโต๊ะดังเป็นระลอก ฮวงฟางเอนหลังพิงเก้าอี้ ยิ้มกว้างพลางกวาดตามองความคึกคักตรงหน้าอย่างพึงใจ


เขายิ้มกริ่มมองรอบวง ก่อนดีดขอบถ้วยหวายเบา ๆ ป๊อก! ทำทีคล้ายร่ายมนต์


“เอาล่ะ! มาดูกันให้ชัด ๆ ว่าเจ้าจะเป็นเทพแห่งโชคชะตาดังคำกล่าวอ้างหรือไม่!”


หัวเราะหึ ๆ ในลำคอ ราวกับกำลังเพลิดเพลินกับบรรยากาศตรงหน้าอย่างถึงที่สุด ก่อนจะค่อย ๆ เปิดถ้วยหวาย


“เสือ! น้ำเต้า! ไก่!”


ทันใดความเงียบงันพลันเข้าปกคลุม สายตาของเด็กชายเบิกกว้าง จ้องมองลูกเต๋าอย่างไม่เชื่อสายตา รอยยิ้มแห่งความหวังพลันหายวับ น้ำตาเริ่มคลอขึ้นในดวงตาเล็ก ๆ


“ไม่… ไม่จริง…” เขาพึมพำแผ่วเบา น้ำตาหยดแรกไหลพรากลงบนแก้มสกปรกที่เต็มไปด้วยคราบน้ำมูก


เสียงรอบวงคราวนี้ไม่ใช่เสียงหัวเราะอีกต่อไป กลับกลายเป็นเสียงฮือฮาอย่างโกรธเคือง


“ไอ้เด็กเวรนี่!” ชายคนหนึ่งตบโต๊ะลั่นจนจอกสุราสั่นสะเทือน น้ำเสียงเต็มไปด้วยความโกรธจัด “เจ้าทำให้ข้าเสียพนันหมดตัวเลย!”


“เจ้าเด็กพาซวย! ข้าหมดต้องหมดตูดก็เพราะตามเจ้า!” อีกเสียงหนึ่งตะโกนเสริมอย่างเหลืออด ชาวบ้านหลายคนเริ่มหันขวับมองเด็กชายด้วยสายตาเกรี้ยวกราด บ้างตบเข่าด้วยความโมโห บ้างตะโกนด่าทอ


เด็กชายยืนนิ่ง น้ำตาคลอเบ้า พลางเอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบา “ฮึก… ข้าจะชนะอีก…” เขากวาดมือลงไปในกระเป๋าของตัวเอง ทว่าในนั้นกลับว่างเปล่า


ฮวงฟางหัวเราะลั่นราวกับเรื่องนี้เป็นเรื่องตลกที่สุดในโลก เขาชี้นิ้วไปยังเด็กชาย กล่าวด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันอย่างสะใจ


“ฮ่า ๆ ๆ! ถ้าไม่มีเงินก็กลับไปหาพ่อเจ้าซะเถอะ!”


เด็กชายสะอื้นฮัก น้ำตาไหลพรากลงบนแก้มเปื้อนฝุ่นที่ปนเปไปกับคราบน้ำมูก เขาก้มหน้าก่อนจะหันหลังแหวกฝ่าฝูงชนออก พร้อมเสียงโห่ไล่และคำด่าทอที่ไล่หลังมา


ฮวงฟางเอนตัวพิงเก้าอี้ มือยกถ้วยสุราขึ้นจิบอย่างสบายอารมณ์ ท่ามกลางเสียงบ่นพึมพำและการถอนหายใจอย่างหงุดหงิดจากคนรอบวงที่เสียเงินถ้วนหน้า


“เทพแห่งโชคชะตารึ? หึ! ของพรรค์นั้นมันมีซะที่ไหนกันเล่า” ฮวงฟางพึมพำพร้อมรอยยิ้มเย็นชา ราวกับสั่งสอนบทเรียนให้ทุกคนอย่างไร้ความปรานี


เขายืดแขนบิดขี้เกียจ ก่อนจะหาววอดราวกับเรื่องตรงหน้านั้นชวนให้ง่วงนอนเสียเหลือเกิน พร้อมตะโกนลั่นโต๊ะพนัน


“เอาล่ะ ๆ! ไม่ต้องเถียงกันให้วุ่นวาย วันนี้ข้าเบื่อแล้ว—ข้าขอเลิกล่ะ!”


เสียงนั้นปานฟ้าผ่าทำเอาชาวบ้านที่กำลังโวกเวกเงียบกริบ ทุกคนมองหน้ากันเลิ่กลั่ก มีเสียงพึมพำดังขึ้นจากมุมโต๊ะ


“หา? เจ้าว่าอะไรนะ?”


ชายคนหนึ่งทุบโต๊ะ ปัง! ใบหน้าแดงก่ำเหมือนหม้อข้าวกำลังเดือดปุด


“ข้าลงเงินไปเยอะแล้ว! เจ้าจะเลิกเล่นเอาดื้อ ๆ แบบนี้ได้ยังไงกันฟะ!”


ชายอีกคนถึงกับลุกพรวดพร้อมชี้นิ้วด่าลั่น


“เจ้านี่มันโจรชัด ๆ! เอาเงินข้ามาคืนเดี๋ยวนี้!”


ฮวงฟางส่ายหน้าเวทนา ก่อนถอนหายใจยาวใหญ่


“โถ่ ๆ ๆ ดูพวกเจ้าสิ! ตอนเล่นก็หัวเราะกันอย่างกับได้กินเป็ดปักกิ่งในงานเลี้ยง แต่พอเสียขึ้นมา กลับทำหน้าเหมือนข้าขโมยข้าวสารไปจากบ้านเจ้า!”


เสียงหัวเราะ “ฮ่า ๆ ๆ!” ของฮวงฟางดังลั่น แต่ไม่ช่วยให้บรรยากาศดีขึ้น กลายเป็นเสียงโวยวายที่ดังขึ้นเรื่อย ๆ แทน


“แบบนี้มันขี้โกงนี่!”


“เจ้าหัวขโมย!”


“ถูกแล้ว! เจ้านี่มันนักต้มตุ๋น!”


เสียงชุลมุนดังขึ้นทั่วโรงเตี๊ยม โต๊ะเก้าอี้ถูกชนกระจัดกระจาย ท่ามกลางความโกลาหลนั้น ฮวงฟางยังคงนั่งเอกเขนก มือประคองถุงเงินแนบอก รอยยิ้มกวนประสาทประดับบนใบหน้าอย่างไม่สะทกสะท้าน




ความชุลมุนยังดังระงมอยู่ทั่วโรงเตี๊ยม แต่โต๊ะของเฉียงเทียนกลับเป็นจุดเดียวที่ยังคงความสงบเอาไว้ได้ ผู้ติดตามทั้งสองที่นั่งร่วมโต๊ะด้วยต่างส่ายหัวอย่างไม่สบอารมณ์


“เฮอะ! ช่างน่าละอายเสียจริง!” ผู้ติดตามสองเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงขุ่นมัว “เจ้าหนุ่มผู้นี่รังแกได้แม้กระทั่งเด็ก ไม่รู้จักละอายบ้างเลย!”


ผู้ติดตามหนึ่งยกจอกสุราขึ้น ก่อนจะวางลงแรงจนเกิดเสียงดัง แก๊ก! “เจ้าหมอนี่มันช่างกวนเมืองดีแท้! ดูนั่น! ขนาดชาวบ้านจะกินหัวอยู่แล้ว มันยังนั่งกระดิกเท้าเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น” เขาหันไปมองวงพนันที่ยังมีเสียงด่าทอดังไม่ขาดสาย “ข้าล่ะสงสารก็แต่เจ้าเด็กนั่น…”


ผู้ติดตามหนึ่งถอนหายใจเฮือกใหญ่ พลางกวาดตามองเด็กชายตัวเล็กที่เดินคอตก ร้องไห้สะอื้นขณะเดินผ่านมาอย่างน่าเวทนา


เฉียงเทียน วางจอกสุราลงเบา ๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืนอย่างเชื่องช้า ท่ามกลางสายตางุนงงของผู้ติดตามทั้งสอง


“นายน้อย?” พวกเขาเอ่ยพร้อมกันอย่างไม่เข้าใจ แต่เฉียงเทียนไม่สนใจ เขาเดินออกไป หยุดยืนตรงที่เด็กชายกำลังเดินผ่าน


เด็กชายชะงักเท้า เงยหน้าขึ้นมองเฉียงเทียนด้วยดวงตาแดงก่ำ เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตาและคราบน้ำมูก เขารีบก้มหน้างุดลงไปทันที ราวกับกลัวว่าจะถูกต่อว่า


เฉียงเทียนไม่ได้พูดอะไร เพียงค่อย ๆ ทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นอย่างเรียบง่ายและไม่ถือตัว เขาล้วงถุงเงินจากแขนเสื้อ หยิบเหรียญสองสามเหรียญ ก่อนจะยื่นไปตรงหน้าเด็กชาย การกระทำอันแสนสงบนี้จับสายตาชาวบ้านที่เผอิญเห็นเข้าอย่างไม่อาจละไปได้


“เอาไปเถอะ…” น้ำเสียงของเฉียงเทียนเรียบนิ่ง ทว่านุ่มนวลชวนหลงใหลไม่น้อย “ถือว่าเจ้าดวงไม่ดี แต่ครั้งหน้า อย่าเอาโชคชะตาไปทิ้งไว้บนโต๊ะพนันอีก”


เด็กชายเงยหน้าขึ้นมองเฉียงเทียน ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจและลังเล แต่สุดท้ายเขาก็ยื่นมืออันสั่นเทารับเหรียญไป ก่อนจะพูดเสียงเบา “ขะ… ขอบคุณขอรับ”


เฉียงเทียนยิ้มบาง ๆ ให้เด็กชายเล็กน้อย ก่อนที่เด็กคนนั่นจะวิ่งหายลับตาไป




ฮวงฟางที่นั่งมองเหตุการณ์อยู่ตั้งแต่ต้น ยกจอกสุราขึ้นกระดกอึกใหญ่ ก่อนจะขยับคอเสื้อพลางเบ้ปากออกมา ราวกับสุรานั้นบาดคอเสียเต็มประดา “อ๊า!”


สายตาของเขาหยุดอยู่ที่เฉียงเทียน ชายหนุ่มผู้แสนใจบุญที่นั่งอยู่ริมหน้าต่าง ภาพตรงหน้าทำให้เขารู้สึกร้อนรนขึ้นมาอย่างประหลาด


ฮวงฟางสะบัดมือ โยนจอกสุราเปล่าไปข้างหลัง—โพละ! เสียงแตกกระจายดังลั่น ก้องไปทั่วโรงเตี๊ยม โดยไม่แยแสต่อความวุ่นวายที่โหมอยู่เบื้องหลัง


ในตอนนี้มีเพียงชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขาเท่านั้นที่ดึงดูดสายตาเขาไปจนหมดสิ้น ราวกับพบสิ่งที่น่าค้นหาในตัวอีกฝ่าย


“ช่างน่าดูชมยิ่งนัก!”


ฮวงฟางกล่าวลั่น น้ำเสียงเปี่ยมไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับกำลังชมการแสดงที่ถูกใจเกินคาด