ในโลกที่เต็มไปด้วยเวทมนตร์และตำนานมังกร อาเรน เด็กหนุ่มจากหมู่บ้านเล็กๆ ต้องเผชิญกับโชคชะตาที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง เมื่อเขาค้นพบว่าตัวเองคือผู้ครอบครองพันธสัญญาแห่งไฟ และมังกรแห่งไฟผู้ยิ่งใหญ่กำลังจะเป็นคู่หูในภารกิจที่ต้องพิสูจน์ความสามารถ
แต่ภายใต้แสงไฟที่ทอแสงในท้องฟ้า กลับซ่อนเงามืดของศัตรูที่ทรงพลัง และการตัดสินใจครั้งสำคัญของเขาอาจนำไปสู่การทำลายล้างทั้งอาณาจักร... การผจญภัยครั้งนี้จะทดสอบหัวใจและจิตวิญญาณของเขาในทุกย่างก้าว
จะสามารถควบคุมพลังที่ยิ่งใหญ่หรือจะตกเป็นทาสของมัน?
แฟนตาซี,ไซไฟ,ยุคกลาง,สงคราม,เลือดสาด,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
บทเริ่มต้นของการเดินทางใหม่
หลังจากการพบเจอกับเอลดรัส ชายผู้เคยเป็นผู้พิทักษ์มังกร อาเรน ไลอา และมังกรตัวน้อยที่พวกเขาตั้งชื่อว่า "ฟีลาร์" ก็เริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่ เส้นทางที่พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปคือ "เทือกเขาอาซูเรล" ดินแดนที่ว่ากันว่าเป็นถิ่นกำเนิดของเผ่ามังกร
เอลดรัสอธิบายว่า ในอดีต เทือกเขาอาซูเรลเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของมังกร แต่เมื่อสงครามครั้งใหญ่เกิดขึ้น เผ่าพันธุ์มังกรต้องล่าถอยออกจากที่นั่น และไม่มีใครรู้ว่ามังกรที่เหลืออยู่หลบซ่อนตัวที่ไหน
"ถ้าหากฟีลาร์เป็นมังกรตัวสุดท้ายในโลกนี้ เทือกเขาอาซูเรลอาจมีคำตอบให้เรา" เอลดรัสกล่าว
---
ความขัดแย้งในกลุ่ม
การเดินทางผ่านป่าทึบและภูเขาสูงไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คาดหวัง เส้นทางเต็มไปด้วยอันตราย ทั้งสัตว์ป่าที่ดุร้ายกับดักที่เหล่าศัตรูตั้งไว้ ไลอาเริ่มแสดงความกังวลเกี่ยวกับเอลดรัส
"เจ้ามั่นใจได้อย่างไรว่าเขาจะไม่ทรยศเรา?" ไลอากระซิบกับอาเรนในคืนหนึ่ง ขณะพวกเขาตั้งแคมป์
"ข้ารู้ว่าเขาอาจมีอดีตที่เรายังไม่รู้ แต่ข้าเชื่อว่าเขาไม่ได้มีเจตนาร้าย" อาเรนตอบ
"แต่อาเรน เจ้าต้องระวัง เขารู้เรื่องเกี่ยวกับมังกรมากเกินไป และนั่นอาจเป็นทั้งข้อดีและข้อเสีย"
อาเรนไม่ได้ตอบ แต่คำพูดของไลอาก็ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสัยในตัวเอลดรัส
---
ความจริงเบื้องหลังเอลดรัส
ในระหว่างการเดินทาง เอลดรัสเริ่มเล่าเรื่องราวของเขา เขาเล่าว่าในอดีต เขาเคยเป็นผู้พิทักษ์ของมังกรตัวหนึ่งที่ชื่อว่า "ไครอน" ไครอนเป็นมังกรที่ทรงพลังที่สุดในยุคของมัน แต่ถูกฆ่าในสงครามโดยมนุษย์ที่ต้องการพลังจากเกล็ดของมัน
"ข้าไม่สามารถปกป้องมันได้ ข้าเฝ้าดูมันตายต่อหน้าต่อตา ข้าสูญเสียทุกอย่างในวันนั้น" เอลดรัสพูดด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด
"แล้วเหตุใดเจ้าถึงช่วยข้าและฟีลาร์?" อาเรนถาม
"เพราะข้าไม่ต้องการให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ข้าอาจช่วยไครอนไม่ได้ แต่ข้าจะไม่ยอมให้ฟีลาร์ต้องพบจุดจบเช่นเดียวกัน"
---
เงาแห่งความชั่วร้ายปรากฏ
ในคืนหนึ่ง เมื่อพวกเขาเข้าใกล้เทือกเขาอาซูเรล ฟ้ากลางคืนที่เงียบสงบกลับเต็มไปด้วยเสียงคำรามของสัตว์ประหลาด ฝูงมังกรเงาที่ถูกสร้างขึ้นจากเวทมนตร์ดำโผล่ออกมาจากท้องฟ้า พวกมันพุ่งเข้าโจมตีโดยไม่ให้เวลาตั้งตัว
"มันมาอีกแล้ว!" ไลอาตะโกน ขณะคว้าดาบขึ้นมาต่อสู้
เอลดรัสปลดปล่อยเวทมนตร์ป้องกัน แต่ดูเหมือนว่าฝูงมังกรเงาจะเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ ฟีลาร์ส่งเสียงร้องด้วยความกลัว มันพยายามใช้พลังของตัวเอง แต่ยังไม่แข็งแกร่งพอ
"เราต้องปกป้องมัน!" อาเรนตะโกน
ระหว่างการต่อสู้ อาเรนเริ่มปลดปล่อยพลังที่ไม่เคยรู้ว่าตัวเองมี เขาสามารถสร้างเกราะไฟรอบตัวฟีลาร์ และเปลวไฟที่เขาปลดปล่อยออกมาก็เผาผลาญมังกรเงาให้กลายเป็นเถ้าถ่าน
---
คำทำนายแห่งไฟและเงา
หลังจากการต่อสู้ พวกเขาหาที่พักพิงในถ้ำที่ซ่อนตัวอยู่ในภูเขา เอลดรัสสังเกตเห็นบางอย่างในตัวอาเรน
"เจ้ารู้ตัวหรือไม่ ว่าพลังที่เจ้าใช้ไม่ใช่เวทมนตร์ธรรมดา?" เอลดรัสถาม
"ข้าไม่รู้ ข้าเพียงแค่รู้สึกว่าข้าต้องปกป้องฟีลาร์ และพลังนั้นก็ไหลออกมาเอง"
เอลดรัสนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวว่า "เจ้าอาจมีสายเลือดของผู้พิทักษ์มังกรในตัว และนั่นอาจเป็นสาเหตุที่ฟีลาร์เลือกเจ้า"
"สายเลือดของผู้พิทักษ์มังกร?" อาเรนทวนคำด้วยความสับสน
"ใช่ แต่มันก็เป็นดาบสองคม เพราะผู้ที่มีสายเลือดเช่นเจ้า จะดึงดูดทั้งมังกรที่แท้จริงและเงามืดที่พยายามทำลายทุกสิ่ง"
---
จุดหมายที่ใกล้เข้ามา
พวกเขาออกเดินทางต่อในเช้าวันรุ่งขึ้น ฟีลาร์เริ่มบินได้ในระยะสั้น ๆ และดูเหมือนจะเริ่มควบคุมพลังของตัวเองได้บ้าง เส้นทางบนภูเขายิ่งสูงยิ่งเต็มไปด้วยอุปสรรค ทั้งพายุหิมะและสัตว์ร้ายที่ดุร้าย
แต่ในที่สุด พวกเขาก็มองเห็นยอดของเทือกเขาอาซูเรล และบางสิ่งที่ดูเหมือนซากปรักหักพังโบราณ
"นั่นคือที่แห่งหนึ่งในอดีต ที่มังกรเคยปกครอง" เอลดรัสกล่าว
"และอาจเป็นที่ที่เราจะพบคำตอบของทุกสิ่ง" อาเรนเสริม
แต่ไม่มีใครรู้ว่า สิ่งที่รอพวกเขาอยู่ที่นั่นคืออะไร และเส้นทางนี้จะนำพาพวกเขาไปสู่ความหวัง หรือหายนะ
ประตูแห่งอดีต
เมื่อกลุ่มของอาเรนมาถึงซากปรักหักพังโบราณที่ยอดเทือกเขาอาซูเรล พวกเขาเห็นซุ้มประตูหินขนาดใหญ่ที่มีลวดลายแกะสลักเป็นรูปมังกร ดวงตาของมังกรในลวดลายเรืองแสงเบา ๆ ราวกับมีชีวิต
"นี่คือประตูแห่งอาราธัส สถานที่ที่เคยเป็นหัวใจของเผ่ามังกร" เอลดรัสเอ่ยขึ้นด้วยความเคารพ
"แล้วเราจะเข้าไปได้อย่างไร?" ไลอาถามพลางมองซุ้มประตูที่ปิดสนิท
เอลดรัสหันไปมองฟีลาร์ "มันต้องเป็นพลังของมังกรเท่านั้นที่จะเปิดประตูนี้ได้"
อาเรนอุ้มฟีลาร์ขึ้นมาและพาไปที่ด้านหน้าซุ้มประตู มังกรตัวน้อยมองไปที่ลวดลายอย่างสงสัย ก่อนจะส่งเสียงคำรามเล็ก ๆ ไฟจากลมหายใจของมันสัมผัสกับดวงตาของมังกรในลวดลาย
ทันใดนั้น ซุ้มประตูก็เริ่มเรืองแสง เสียงกลไกดังกึกก้องก่อนที่ประตูหินจะค่อย ๆ เปิดออก เผยให้เห็นห้องโถงขนาดใหญ่ภายใน
---
ห้องโถงแห่งความทรงจำ
ภายในห้องโถงตกแต่งด้วยภาพวาดฝาผนังที่เล่าเรื่องราวของมังกรตั้งแต่ยุคแรกเริ่มจนถึงสงครามครั้งใหญ่ อาเรนเดินดูด้วยความสนใจ ขณะที่ฟีลาร์กระโดดไปมาระหว่างเสาหิน
"ดูนี่สิ!" ไลอาชี้ไปที่ภาพวาดภาพหนึ่งที่ดูแปลกตากว่าภาพอื่น ๆ
ในภาพนั้นมีชายคนหนึ่งยืนอยู่ท่ามกลางมังกรหลายตัว ชายคนนั้นถือดาบที่ลุกเป็นไฟและมีดวงตาที่เรืองแสงเหมือนเปลวเพลิง
"เขาเป็นใคร?" อาเรนถามเอลดรัส
"เขาคือเซอร์ดาน ผู้พิทักษ์มังกรในตำนาน เขาเป็นคนสุดท้ายที่สามารถสื่อสารกับมังกรทุกตัวและนำพวกมันสู้เพื่อปกป้องโลก"
"แต่ในตำนานบอกว่าเซอร์ดานเสียชีวิตแล้ว และไม่มีใครสืบทอดพลังของเขาอีก" ไลอากล่าว
เอลดรัสนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวว่า "บางที... เจ้าอาจเป็นผู้สืบทอดพลังของเขา อาเรน"
อาเรนส่ายหน้า "ข้าไม่ใช่ใครที่ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น ข้าแค่เป็นคนธรรมดาที่อยากปกป้องฟีลาร์เท่านั้น"
---
ความมืดที่ใกล้เข้ามา
ขณะที่พวกเขาสำรวจห้องโถง เสียงกระซิบแปลก ๆ ดังขึ้นในอากาศ เสียงนั้นราวกับกำลังเรียกหาอาเรน
"เจ้ารู้สึกอะไรไหม?" ไลอาถาม ขณะที่เธอจับดาบของเธอแน่น
"มันเหมือนมีอะไรบางอย่างอยู่ที่นี่" อาเรนตอบ
พวกเขาเดินไปจนถึงกลางห้องโถง ซึ่งมีแท่นหินตั้งอยู่ บนแท่นมีลูกแก้วใสที่ดูเหมือนจะเรืองแสงเบา ๆ
"นี่คืออะไร?" อาเรนถามขณะที่เขามองลูกแก้ว
"นี่อาจเป็นหัวใจแห่งมังกร พลังที่สามารถเรียกคืนอาณาจักรของพวกมันได้" เอลดรัสกล่าวด้วยเสียงเบา
แต่ในขณะเดียวกัน ความมืดจากเงามืดในป่าก็พุ่งเข้ามาในห้องโถง เสียงคำรามของศัตรูที่พวกเขาเคยพบดังก้อง
"พวกมันมาแล้ว!" ไลอาตะโกน
---
การต่อสู้ในห้องโถงศักดิ์สิทธิ์
ฝูงมังกรเงาโผล่ออกมาจากเงามืดที่มุมห้องโถง พวกมันพุ่งเข้ามาโจมตี อาเรน ไลอา และเอลดรัสเตรียมตัวสู้ แต่ครั้งนี้ศัตรูแข็งแกร่งกว่าที่เคย
"เราต้องปกป้องฟีลาร์!" อาเรนตะโกน
ฟีลาร์พยายามใช้พลังของตัวเอง แต่ยังไม่แข็งแกร่งพอ อาเรนรู้ว่ามันต้องการความช่วยเหลือ เขาจึงยืนอยู่ข้างหน้ามันและเรียกพลังจากลูกแก้วบนแท่น
พลังจากลูกแก้วไหลเข้าสู่ร่างของอาเรน เปลวไฟลุกโชติช่วงรอบตัวเขา ทำให้มังกรเงาถอยหลังด้วยความหวาดกลัว
"เจ้ากำลังทำอะไร!" ไลอาร้องเตือน "พลังนั้นอาจเป็นอันตรายต่อเจ้า!"
"ข้าไม่มีทางเลือก!" อาเรนตอบ
---
บทสรุปของการต่อสู้
ด้วยพลังใหม่ อาเรนสามารถขับไล่มังกรเงาออกจากห้องโถงได้ แต่ร่างกายของเขาก็เริ่มอ่อนล้า เปลวไฟที่ลุกโชนรอบตัวเขาเริ่มดับลง
เอลดรัสเข้ามาประคองเขา "เจ้าต้องเรียนรู้ที่จะควบคุมพลังนี้ ถ้าไม่เช่นนั้น มันอาจเผาผลาญเจ้าแทน"
"ข้าจะเรียนรู้ ข้าต้องทำเพื่อฟีลาร์ และเพื่อทุกคน" อาเรนตอบด้วยเสียงหนักแน่น
---
สัญญาณแห่งความหวัง
หลังจากการต่อสู้ ห้องโถงกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง ฟีลาร์เดินเข้ามาใกล้อาเรนและใช้หัวของมันดันเขาเบา ๆ ราวกับปลอบโยน
"บางทีเจ้ากับมันอาจเป็นความหวังสุดท้ายของเผ่าพันธุ์มังกร" เอลดรัสกล่าว
"และเราจะไม่ปล่อยให้มันสูญสลายอีก" ไลอาเสริม
กลุ่มของพวกเขาออกเดินทางต่อจากห้องโถง พร้อมด้วยความหวังใหม่และภาระที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม แต่ไม่มีใครรู้ว่าเส้นทางข้างหน้าจะเต็มไปด้วยอุปสรรคเพียงใด
